วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

อ่านละครมือปราบพ่อลูกอ่อน ตอนที่ 10 วันที่ 2 ก.พ.55

อ่านละครมือปราบพ่อลูกอ่อน ตอนที่ 10
แล้วกริสน์ก็ขับรถไล่ตามไปปาดหน้ารถตู้คันนั้นจนมันเบรกเสียงสนั่น จากนั้นกริสน์ อธิป และเดชก็ลงจากรถทำทีปล้น กริสน์กับเดชสั่งให้คนบนรถลงมา

เสี่ยอธิปสั่งเด็กๆลงมาแล้วให้ไปขึ้นรถของพวกตน ขณะโอปอเดินผ่าน เสี่ยทนไม่ได้บอกลูก “โอ...ไปขึ้นรถนะคะ”

ความลับแตกทันที! โอปอกระโดดกอดเสี่ยอธิปและชี้ไปที่อีกคนบอกว่านั่นพี่เดช จีจ้ามองกริสน์ตาแป๋วร้องอย่างดีใจว่า

“งั้นนี่ก็ต้องเป็นน้ากริสน์สิ ใช่ไหม”

พิมมาดาฮึดขึ้นมาทันที สั่งกริสน์ให้ปล่อยเด็กๆเดี๋ยวนี้ กริสน์ไม่ยอมปล่อยทั้งยังลากพิมมาดาไปขึ้นรถด้วย พิมมาดาไม่ยอม ดิ้นพลางสั่งเด็กๆให้ลงจากรถเดี๋ยวนี้อย่าเชื่อนายกริสน์เพราะเขาเป็นโจร

ขณะนั้นข้างหลังกริสน์ ฉัตรชัยกับฮิมกำลังยกปืนเล็งใส่เขาอยู่ จู่ๆมาวินก็ขับรถเข้ามาใช้โทรโข่ง

ประกาศกร่างลงมาว่าในที่สุดก็ตามตัวแก๊งค้ายาเจอ สั่งให้วางอาวุธยอมให้จับเสียดีๆประกาศอย่างผยองว่า ออกมาให้จับเสียดีๆจะได้ออกทีวี เพราะตนจะแถลงข่าวความสามารถของตน งานนี้ดังระเบิดแน่ แล้วหัวเราะอย่างเย้ยฟ้าท้าดิน

สุขสันต์ฉวยโอกาสแสดงตัวเป็นพลเมืองดีร้องขอตำรวจให้ช่วยผู้บริสุทธิ์อย่าง ตนด้วย อธิปมึนกับความเจ้าเล่ห์ของสุขสันต์ บอกกริสน์ว่าให้พาเด็กๆหนี ไม่ต้องห่วง ทางนี้ตนจัดการเอง เดี๋ยวจะโชว์ลายเสือเก่าให้ดู ว่าแล้วก็เปิดฉากยิงใส่ตำรวจทันทีพลางไล่ให้กริสน์รีบหนีไป โอปอจะอยู่กับป๊า โจ๊กดึงไปและกริสน์ก็คว้าพิมมาดาลากไปที่รถ พร้อมกับสั่งเด็กๆให้รีบขึ้นรถ

ขณะกริสน์กำลังวุ่นวายกับการพาเด็กๆและพิมมาดาขึ้นรถนั่นเอง ถูกสุขสันต์ถือก้อนอิฐย่องมาข้างหลังทุบหัวเขาเต็มแรงจนกริสน์คว่ำไป

พอเห็นกริสน์ถูกทำร้าย พิมมาดาก็หันมาช่วยเขา ตวาดถามสุขสันต์ว่าทำกริสน์ทำไม สุขสันต์บอกว่าตนเป็นห่วงเธออยากปกป้องเธอ เลยทำไปโดยไม่รู้ตัว

พวกเด็กๆกรูกันขึ้นรถ พิมมาดาถลาเข้าไปดูกริสน์ เขาเร่งให้รีบขึ้นรถ เธอไม่ยอมไป แจ๊สถามว่าน้ากริสน์ เจ็บขนาดนี้น้าพิมยังจะทิ้งไปอีกหรือ พอกริสน์ดึงมือ เธอจึงยอมไปกับเขาแต่โดยดี

ในที่สุดทั้งพิมมาดาและเด็กๆไปกับกริสน์หมด สุขสันต์ยืนสบถอย่างหัวเสีย แต่แล้วก็ต้องรีบหลบกระสุนที่อธิปกับเดชยิงสู้กับตำรวจ

ระหว่างทางกริสน์ขับรถด้วยมือเดียว เลือดที่หัวก็ไหลย้อยลงมาเป็นทาง พิมมาดาถามว่าไหวไหม อาสาขับรถให้ สัญญาว่า

“ฉันขอร้อง จอดรถเถอะ ให้ฉันขับเอง ฉันรับปากว่าจะไม่หนี และจะขับรถพานายไปที่ที่นายจะพาฉันไปด้วยนะ...นะ”

เสี่ยอธิปกับเดชหันหลังพิงกันสู้กับตำรวจด้วยลีลาเสือเก่า จนเมื่อเดชกระสุนหมดและเสี่ยเหลือนัดเดียว เสี่ยชี้ให้เดชดู สุขสันต์ที่ยืนแอบอยู่หลังรถเก๋ง แล้วเสี่ยก็เอาปืนตัวเองที่เหลือกระสุนนัดเดียวให้เดช ตัวเองวิ่งไปเปิดฝาเติมน้ำมัน เดชตัดสินใจยิงไปตรงนั้นทันที รถเก๋งระเบิดตูม ไฟลุกฝุ่นตลบ

เมื่อทุกอย่างสงบลงแล้ว มาวินวิ่งเข้ามา ทั้งเสี่ยอธิปและเดชหายไปแล้ว ในรถก็ไม่มีศพของทั้งสอง หันมองอีกทีก็เห็นแต่ลูกน้องตัวเองฟุบกันไปหมด

“โธ่เว้ย! พวกแกทำงานแถลงข่าวของฉันพัง ฉันจะตามล่าพวกแกให้ได้!!”

ooooooo

สุขสันต์ถูกเชิญตัวไปที่ห้องทำงานของมาวินที่สำนักงานตำรวจ เขายืนกรานเสียงแข็งว่าตนมาตามจับพิมมาดากับพวกที่ค้ายาเสพติด ซ้ำยังตำหนิมาวินว่ามาทำไม ทำให้แผนตนพังหมด

มาวินไม่เชื่อ ทั้งยังหาว่าเขาแอบติดต่อลับๆกับพวกค้ายา เมื่อต่างก็กร่างเข้าหากัน สุขสันต์ปรามมาวินว่า

“ผู้กองมาวิน ผมขอเตือน ถ้าอยากให้คดีนี้จบ อย่ามายุ่งกับการทำงานของผมอีก ไม่อย่างนั้น ไม่ไว้หน้าผู้กองแน่”

คนอย่างมาวิน ไม่ใช่กล้วย ยียวนหลอกล่อกวนโทสะ จนสุขสันต์ทั้งแค้นทั้งระอา แต่แล้วก็ดีใจเมื่อแพรวพิลาศเปิดประตูเข้ามา เธอใช้ฐานะลูกหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่มาขู่มาวิน แต่กลับถูกมาวินเรียกไปสอบสวน เลยยิ่งแค้น

ระหว่างเดินทางกลับนั่นเอง สุขสันต์ทั้งหลอกล่อและหว่านล้อมเธอว่า

“แพรว...เราต้องให้การตรงกัน...แพรวต้องบอกไปว่า แผนการทั้งหมดที่เกี่ยวกับพิมมาดาและยาเสพติด คุณพ่อของแพรวเป็นคนวางแผนและสั่งการทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว”

“ไม่ได้ค่ะ ถ้าพูดไปอย่างนั้น คุณพ่อก็จะลำบากน่ะสิ”

“คุณพ่อคุณเป็นถึงระดับไหนแล้ว ไม่มีใครกล้ามีเรื่องด้วยหรอก อีกอย่างเราก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกะการค้ายาจริงๆ เราก็แค่คิดแผนอันแสนฉลาด วางกับดัก จับพวกค้ายา มันคือแผนขุดบ่อล่อปลาแบบเนียนๆ แต่ถ้าผมออกหน้า คนอาจเข้าใจผิด ผมไม่มีอำนาจบารมีเท่าพ่อของแพรว...ผมพลาดเมื่อไหร่ ไอ้หมาล่าเนื้อพวกนั้นต้องกระชากกินตับผมหมดแน่”

แพรวพิลาศยังไม่สบายใจ สุขสันต์รีบอ้อนเธออีกว่า

“เชื่อผมนะแพรว ผมมีแผนที่จะทำให้เรื่องทุกอย่างคลี่คลาย ผมมั่นใจ...พ่อของแพรวก็เหมือนพ่อผม พวกเราจะต้องชนะปราบปรามคนเลว ได้รับความดีความชอบ ทุกอย่างจะต้องแฮปปี้เอนดิ้ง และเราสองคนจะได้อยู่เป็นครอบครัวเดียวกัน”

“เราสองคนอยู่เป็นครอบครัวเดียวกัน” แพรว–พิลาศเคลิ้ม

“ทันทีที่เรื่องนี้จบ ผมจะขอคุณแต่งงานทันที ผมรักคุณ ขอตอนนี้เลยก็ได้ แต่งงานกับผมนะ...นะ...แพรว”

สุขสันต์กอดและหอมแพรวพิลาศอย่างแสนรัก แสนเสน่หา เธอเคลิ้ม เชื่อ และฝันหวานตามคำอ้อนของเขา...

ooooooo

พิมมาดาขับรถเห็นกริสน์หน้าซีดซึม ถามว่าไปหาหมอก่อนดีไหม กริสน์ปฏิเสธเด็ดเดี่ยวว่าไม่ ขืนไปหาหมอก็มีหวังโดนซิวกันทั้งหมด ยืนยันว่าตนยังไหว

พิมมาดาจึงขับรถไปตามที่เครื่อง จีพีเอส. บอกเส้นทาง จีจ้ากับแจ๊สช่วยด้วยการพูดซ้ำที่จีพีเอส.บอก จนพิมมาดาต้องสั่งให้เงียบ ตนต้องการสมาธิในการขับรถ

จนพลบคํ่า รถจึงมาถึงเป้าหมายที่หมู่บ้านริมทะเลแห่งหนึ่ง พอมาถึงก็พบกับบรรยากาศที่ตึงเครียด ชาวบ้านพากันมองอย่างระแวง จนเมื่อพิมมาดาจอดรถลงมา ถูกชาวบ้านถือไม้ ถือมีด มาห้อมล้อมถามอย่างไม่เป็นมิตรว่า “มาหาใคร”

พิมมาดาลงไปเป็นคนแรกเห็นบรรยากาศและคำถามที่ไม่เป็นมิตรเช่นนั้นก็อึกอัก กริสน์ตื่นพอดี เขารีบลงมายกมือไหว้รอบๆทักทายชาวบ้านอย่างแสนสุภาพและนอบน้อม แนะนำตัวเองว่าชื่อกริสน์ แนะนำพิมมาดาว่าเป็นผู้ปกครองของเด็กๆ แล้วแจ้งวัตถุประสงค์ว่า

“ผมจะมาขอพักที่นี่ เสี่ยอธิปแนะนำมา พวกเรากำลังโดนศัตรูของเสี่ยไล่ล่าครับ”

ชวด ที่เป็นผู้ใหญ่บ้านซักถามอย่างระแวงอีกครั้งว่า ใครส่งพวกเขามา กริสน์ตอบเต็มปากเต็มคำว่า

“เสี่ยอธิป”

สิ้นเสียงกริสน์ก็มีเปลือกหอยพุ่งตรงมาที่กริสน์ ดีที่เขาหลบทัน เปลือกหอยยังคงพุ่งมาไม่หยุด พร้อมกับที่ชวดก็ทำถมึงทึงใส่กริสน์ว่าโกหก ถามว่าจะตามมารังควานไปถึงไหน ขออยู่อย่างสงบๆ ไม่ได้หรือ พลางยกอาวุธขึ้นมา

สถานการณ์ตึงเครียด เพราะชวดกับชาวบ้านไม่เชื่อที่กริสน์อ้าง เพราะเคยมีประสบการณ์แบบนี้มาแล้ว พวกตนหลงเชื่อปรากฏว่าเป็นพวกตำรวจมารื้อค้นจับยาเสพติด

กริสน์บาดเจ็บและเสียเลือดมาก เขาทรุดฮวบลงจนพิมมาดากับพวกเด็กๆ ตกใจ โอปอตัดสินใจยืนขึ้นพูดกับชวดและชาวบ้านว่า

“ถ้าพวกคุณไม่เชื่อน้ากริสน์ ก็ต้องเชื่อโอปอ

โอปอเป็นลูกป๊า...กล้าทำอะไรลูกสาวเสี่ยอธิปเหรอ”

“โอปอ...เฮ้ย...ใช่...ใช่คุณหนูโอปอจริงๆด้วย” ชวดจำได้ร้องออกมาอย่างดีใจ

โฉมหน้าของชาวบ้านเปลี่ยนเป็นยินดีทันที ทุกคนยิ้มแย้มต้อนรับโอปอและคณะอย่างเร่าร้อนกระตือรือร้น ชวดโผเข้ากอดกริสน์ บอกว่า “สหายของสหายก็คือสหาย” กริสน์ที่อ่อนเพลียมากหมดสติในอ้อมแขนชวด ชาวบ้านช่วยกันพาเข้าบ้าน

เมื่อกริสน์รู้สึกตัว เขาลุกขึ้น ชวดรีบประคองเตือนให้ระวัง บอกว่าโชคดีที่แค่หัวแตกเฉยๆ ไม่ได้เป็นอะไรมาก แล้วแนะนำตัวเองเมื่อกริสน์มองงงๆว่า

“ข้าชื่อชวด เป็นผู้ใหญ่บ้านที่นี่ แล้วก็เป็นอดีตมือขวาคนสนิทของเสี่ยอธิปด้วย พวกเราทุกคนที่นี่เคยเป็นคนของเสี่ยอธิปทั้งนั้น ตั้งแต่เสี่ยอธิปหันเข้าหาธุรกิจสุจริต เสี่ยก็แบ่งสันปันส่วนเงินทองให้พวกเราแยกย้ายกันไปตั้งตัว เราเลยมาตั้งหมู่บ้านเพื่ออยู่กันอย่างสงบที่นี่”

กริสน์จึงเข้าใจว่าทำไมเสี่ยถึงให้เขาพาเด็กๆมาที่นี่ ชวดแสดงความนอบน้อมขอโทษที่ต้อนรับไม่ค่อยดี เพราะต้องระวังตัว กริสน์บอกว่าไม่เป็นไรแล้วถามถึงพิมมาดา ชวดหยอกว่าอะไรจะติดเมียถึงขนาดนั้น มีลูกกันตั้งโขยงแล้ว พลางชี้ให้ดูพิมมาดาที่อยู่กับพวกเด็กๆข้างนอก

ooooooo

มีเรื่องวุ่นวายขึ้นอีกจนได้ เมื่อชาวบ้านพากันทำพิธีไว้อาลัยเสี่ยอธิป โอปอก็ร้องไห้คร่ำครวญถึงป๊านํ้าตานองหน้า เมื่อกริสน์ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ชวดบอกว่าเสี่ยอธิปตายแล้ว กริสน์งง ถามว่ารู้ได้ไงเสี่ยตายแล้ว ชวดเล่าไปร้องไห้ไปว่า

“เสี่ยอธิปเคยบอกไว้ว่า ถ้าเมื่อไหร่ที่เสี่ยรู้ตัวว่าไม่รอดแน่ เสี่ยจะส่งคนพาคุณหนูโอปอมาที่นี่และให้คนคนนั้นขึ้นเป็นเจ้าพ่อแทนที่เสี่ย คนคนนั้นก็คือเอ็ง เจ้าพ่อกริสน์” ชวดคุกเข่าคำนับอย่างนอบน้อม

เป็นเรื่องทันที กริสน์ปฏิเสธว่าไม่ใช่ ตนไม่รู้เรื่อง แต่กลายเป็นปัญหาอย่างหนักเมื่อพิมมาดาด่าเขาว่าหลอกพวกตนมา พวกตนมาที่นี่ มาหมู่บ้านโจรเพื่อตัวเองมาขึ้นครองบัลลังก์เป็นเจ้าพ่อมาเฟียต่อจากเสี่ย อธิป

กริสน์พยายามชี้แจง แต่ไม่อาจเปลี่ยนความเชื่อของพิมมาดาได้ เธอบ่นว่าถ้ารู้ว่าเขาเป็นอย่างนี้ปล่อยให้ตายไปเสียดีกว่าที่จะช่วยขับรถพา มาที่นี่

“คุณพิม ขอบคุณนะครับที่ไม่ทิ้งผม ตอนที่ผมบาดเจ็บ คุณจะทิ้งผมไว้ข้างทาง แล้วขับรถหนีไปก็ได้ แต่คุณไม่ทำ คุณเป็นห่วงผมด้วย ผมดีใจและซาบซึ้งใจมาก”

พิมมาดาทั้งเขินทั้งเคือง บอกเขาว่า “งั้นก็ปล่อยให้ฉันไปสิ” กริสน์บอกว่ามันคนละประเด็นกัน

ooooooo

ปัญหาร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับสวีทโอปอ คือการถูกขโมยสูตรเคมีลับของขนม ทำให้สุขสันต์ จตุพล และน้อมพงษ์ที่เป็นหุ้นส่วนกันเกิดความขัดแย้ง กล่าวหากัน กระทั่งทะเลาะกันรุนแรง

จตุพลและน้อมพงษ์ไม่พอใจการวางอำนาจบาตรใหญ่ของสุขสันต์ ถือว่าทุกคนควรเสมอเท่าเทียมกันในฐานะหุ้นส่วนที่แบ่งหน้าที่กันทำ จตุพลไม่พอใจรุนแรงถึงขั้นบอกสุขสันต์ให้เลิกอวดเบ่งใส่ตน และกลับไปแก้ปัญหาของใครของมันดีกว่า

เรื่องนี้ยังความแค้นแก่สุขสันต์ถึงกับคำรามอาฆาตแค้นว่า “ไอ้จตุพล แกรู้จักฉันน้อยไป!”

ooooooo

จู่ๆที่หมู่บ้านริมทะเลก็มีเสียงเคาะสัญญาณว่ามีผู้บุกรุก ทำให้ชาวบ้านทุกคนพากันเตรียมพร้อม พวกเด็กๆถูกพาไปในที่ปลอดภัย พิมมาดาตามหาหลานๆอย่างร้อนใจ

แต่การณ์กลับกลายเป็นว่า เสี่ยอธิปที่หนีจากการถูกพวกสุขสันต์และมาวินโจมตีมาที่นี่พร้อมเดช โอปอวิ่งไปกอดป๊าไว้ ทั้งหัวเราะทั้งร้องไห้ด้วยความดีใจ

เมื่อชาวบ้านมารวมกันที่ลานหน้าบ้านผู้ใหญ่ต้อนรับเสี่ยอธิป เสี่ยเล่าให้ทุกคนฟังอย่างสนุกสนานว่า

“ป๊าขับรถพุ่งใส่พวกมัน พอเจ้าเดชยิง ป๊าก็กระโดดออกจากรถ แล้วรถก็ระเบิดตู้มมมมม...”

“ช่วงชุลมุน พวกเราก็หลบออกมา กว่าพวกมันจะรู้ตัว เราก็หนีรอดมาแล้ว” เดชเล่าต่อ

ชวดชมว่าลีลาดับเครื่องชนของเสี่ยสุดยอด ระห่ำ บ้าดีเดือดหาใครเทียบไม่ได้จริงๆ โจ๊กชื่นชมว่าอาอธิปเป็นสุดยอดเจ้าพ่อมาเฟียจริงๆทั้งเท่ ทั้งเก่ง อัจฉริยะมาเกิดแท้ๆ แล้วปรบมือให้ร้อง เย้ๆๆ

จีจ้ามองพี่ชายบอกแจ๊สว่าอาการโจ๊กแปลกๆ แจ๊สเบ้ปากบอกว่า “อาการอย่างนี้เรียกว่า เลียแข้งเลียขา ประจบสอพลอ!” จีจ้าร้องอ๋อ...ที่แท้โจ๊กอยากทำคะแนนนี่เอง

เสี่ยอธิปได้ยิน โวยวายว่าโจ๊กจะมาจีบโอปอหรือ หยอกเสียจนโจ๊กอายลุกเดินหนีไป พิมมาดาตำหนิเสี่ยที่ทำร้ายจิตใจหลานตน ชวดเลยเปลี่ยนบรรยากาศชวนฉลองต้อนรับเสี่ยกันดีกว่า อดติงเสี่ยแบบหยอกเอินไม่ได้ว่า คราวหลังไม่ต้องส่งคนมาเซอร์ไพรส์แบบนี้อีก กริสน์รีบออกตัวว่า “ผมบอกแล้วว่า ผมไม่กล้าแทนที่เสี่ยอธิปหรอกครับ”

อ่านละครมือปราบพ่อลูกอ่อน ตอนที่ 10 วันที่ 2 ก.พ.55
โดย บทประพันธ์ สีชาติ จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3 โดย ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอกาส
ละครเรื่องมือปราบพ่อลูกอ่อน ติดตามชมได้ทาง ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น