วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อ่านละครเรื่อง มารยาริษยา ตอน 1 วันที่ 12 มิ.ย. 55



อ่านละครเรื่อง มารยาริษยา ตอน 1 วันที่ 12 มิ.ย. 55

เพียงดาวเข้าหลังเวทีไป แล้วเดินมาหาบุ๋มที่รออยู่ตรงทางออกแคทวอล์ค “พี่บุ๋มคะ ดาวว่า....” บุ๋มรู้ตัวรีบตัดบท “ไม่มีอะไรหรอกดาว ชุดฟินาเล่ย์แล้ว ไปเปลี่ยนเถอะ ถ้ามีอะไรเดี๋ยวพี่รับผิดชอบ” เพียงดาวรีบไปเปลี่ยนชุด ไฟบนเวทีดับลง ฟอลโล่ค่อยๆ
จับมาที่เพียงดาวในชุดเกาะอกราตรียาวปักขนนกหรูหรา เพียงดาวยืนอยู่บนฉากสูง คนดูปรบมือฮือฮา นักข่าวถ่ายรูปกันรัว หนึ่งอยู่ในงาน มองเพียงดาวแล้วยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ดีนี่มองเพียงดาวตื่นตะลึงภาพเพียงดาวช่างดูยิ่งใหญ่งดงามสะกดใจดีนี่ ครู่หนึ่งเพียงดาวค่อยๆ โรยตัวลงมาบนพื้นเวทีด้วยสลิงอย่างงามสง่าราวนางพญา เพียงดาวออกเดินแล้วหยุดโพสหมุนตัว ทันใดนั้นเกาะอกที่หลวมอยู่ก็หลุดลงมา ทุกคนต่างตกตะลึง แสงแฟลชวูบวาบถี่ยิบ หนึ่งกับแต้วตกใจหน้าซีดรู้ว่าดาวจะต้องเอาเรื่องแน่ เช่นเดียวกับอู๋ที่ดูมอนิเตอร์ช็อคตาค้าง ป้ากบยิ้มสะใจ เพียงดาวชะงักไปเพียงนิด ก่อนตั้งสติได้ ดึงเกาะอกขึ้น เดินต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่นยิ่งทำให้ผู้คนบับถือสปิริตสมกับเป็นซูเปอร์โมเดลปรบมือชื่นชมเพียงดาวไม่ขาดตอน ดีนี่อึ้งปรบมือชื่นชมเพียงดาว เพียงดาวเดินไปโพสก่อนจะเข้าเวที บุ๋มดีไซเนอร์วิ่งออกมาโค้ง เพียงดาวแอบส่งสายตาเป็นเชิงตำหนิ บุ๋มแอบหนักใจ บุ๋มเดินนำเพียงดาวที่ทั้งอายทั้งโกรธเข้ามา อู๋รีบวิ่งไปหา ป้ากบยืนสอดรู้สอดเห็นอยู่ใกล้ๆ “ดาวบอกพี่แล้วว่าชุดมันไม่พอดี ถ้าพี่ให้ดาวลองชุดก่อนคงไม่เป็นอย่างนี้” บุ๋มพูดไม่ออก “ดาวทำงานไม่เคยขาดไม่เคยสาย ไม่เคยทำให้ใครต้องเสียงาน แล้วทำไมทุกคนไม่รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองให้ดี ทำให้ดาวต้องเสียไปด้วย” “ดาว..พี่ก็ไม่อยากให้มันเกิดเรื่องหรอก พี่เองก็เสียเหมือนกันนะดาว” บุ๋มยังแถต่อ “ยังไงพี่ก็เสียไม่เท่าดาวหรอกค่ะ คนที่ขายหน้าอยู่บนเวทีคือดาว” ป้ากบพูดลอยๆ “ขายหน้าหรือขายนมกันแน่” เพียวดาวกับอู๋หันขวับ “ไม่ใช่ว่าตั้งใจทำหลุดเองเหรอ คงรู้ตัวว่าแก่แล้วสู้เด็กสาวๆ มันไม่ได้เลยลงทุนเปลื้องผ้าเพื่อสร้างกระแส” “ชั้นไม่เคยคิดจะสร้างกระแสอย่างนี้ คนที่คิดได้อย่างนี้ ใจเสื่อม!” เพียงดาวด่า “เสี่อมเหมือนสังขารคนบางคนน่ะแหละ ความผิดพลาดคนอื่นน่ะ ด่าฉอดๆ สังขารตัวเองเสื่อมไม่เคยพูดถึง เหี่ยวจนเกาะอกมันเกาะไม่อยู่น่ะสิ” เพียงดาวประกาศ “ถ้าพูดอีกทีฉันจะไม่ทนแล้ว!” “โอ๊ย โกรธหรือเพคะองค์หญิง แต่บ่าวก็พูดจริงนะคะ เดี๋ยวนี้มีแต่เด็กๆ 18 19 กันทั้งนั้น สักวันนึงนางแบบอายุ 30 กว่าๆ ก็ต้องโดนสอย เอ๊ะ หรือว่าอีกไม่นานขั้วมันก็แก่ แล้วก็เน่าลงมาจากต้นเอง” กบหัวเราะอย่างสะใจ อู๋สุดจะทนตวาดใส่ “หุบปากเดี๋ยวนี้นังกบ!” กบยังลอยหน้าลอยตา อู๋บอกหน้าเสียงจริงจัง “จะเอาใช่ไหม” คราวนี้กบชะงักรู้ว่าอู๋เอาจริง หนึ่งปราดเข้ามาหาเพียงดาว “ดาว” “พี่หนึ่งคะ ถ้ามีรูปดาวหลุดไป ดาวไม่ยอมนะคะ” “โอเค พี่เข้าใจ เดี๋ยวพี่จะคุยกับทางนักข่าวให้ ดาวใจเย็นๆ ก่อนนะ ยังไงพี่ก็ขอโทษด้วยนะดาว” “ยังไม่หมดค่ะ ต่อไปถ้าจะให้ดาวเดินให้พี่บุ๋ม ดาวขอคิดดูก่อน” เพียงดาวมองด้วยสายตาตำหนิบุ๋ม บุ๋มเจื่อนๆ พยักหน้า เพียงดาวไปเปลี่ยนเสื้อผ้า กบรีบปรี่ไปหาบุ๋ม “ดูนังดาวสิคะ ทั้งวีนทั้งเหวี่ยงอย่างนี้ ทำไมถึงทนกันอยู่ได้” “ทำยังไงได้ เขาเป็นเบอร์หนึ่งของวงการนี่” บุ๋มคราง คืนนั้นอู๋นั่งที่เก้าอี้ทรงสูงบริเวณเคาน์เตอร์ ในบ้านเพียงดาว ซึ่งเจ้าของบ้านกับแต้วช่วยกันทำอาหารอยู่ “ดาวไม่เข้าใจ นี่ชื่อเสียงของแบรนด์เค้าเองแท้ๆ ทำไมให้ดาวออกไปเดินทั้งๆ ที่ไม่ได้ลองชุดได้” เพียงดาวบ่น “ดาวใจเย็นๆ นะ พี่จะพูดให้อีกทางนึง รับรองจะไม่มีรูปดาวหลุดแน่ๆ” “มันไม่ใช่หลุดหรือไม่หลุดพี่ แต่มันเป็นเรื่องของความรับผิดชอบ เวลาดาวทำงานดาวให้ทุกคนเต็มร้อย แต่ทำไมทุกคนไม่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด มันจะได้ไม่เกิดเรื่องผิดพลาดอย่างนี้” อู๋แทรกขึ้น “มีพรายกระซิบมาบอกชั้นนะดาว ว่าหลังเราออกจากงาน นังกบมันเม้าท์ดาวใหญ่เลย มันอยากจะยุแยงให้คนอื่นเกลียดเธอ ไฟแค้นของกะเทยนี่นะร้อนกว่าไฟนรกอีก มันคงโกรธน่ะที่เมื่อก่อนมันปั้นเด็กกี่คนๆ ก็สู้เธอไม่ได้” “ช่างเค้าเถอะ ยังไงเค้าก็อยู่แค่นั้น ทำอะไรดาวไม่ได้อยู่ดี” สามคนช่วยกันยกจานกับข้าวมาวางที่โต๊ะกินข้าว “เออ ส้มเค้าท้องแล้วนะ เธอถ่ายแบบครั้งแรกของโมเดลคู่กับส้มไม่ใช่เหรอเผลอแป๊บๆ มีลูกมีผัวกันหมดแล้ว” อู๋ว่า แต้วท้วง “แป๊บที่ไหน ชั้นจำได้ว่าเล่มนั้นชั้นเพิ่งเลื่อนเป็นผู้ช่วย บก. 12 ปีแล้วนะ” อู๋ใส่จริตร้องโวยวาย “นี่ชั้นแก่ขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย ไม่เอาๆ ชั้นกลัวความแก่” เพียงดาวกำลังวางจานอยู่ ชะงัก แต้วสะกิดอู๋ อู๋นึกได้รีบแถ “อุ๊ยดาว อย่างเธอยังไกลจากคำว่าแก่ โปรเฟสชั่นนอลอย่างเธออยู่ได้อีกนาน” “ไม่รู้สิคะพี่ นางแบบรุ่นใหม่ก็เกิดขึ้นทุกวัน ถ้าเลือกได้ ดาวก็อยากทำงานที่ดาวรักให้นานที่สุดน่ะค่ะ” “ดาวรักและทุ่มเทกับงานแบบนี้ ดาวต้องอยู่ขึ้นปกโมเดลของพี่อีกนานแหละ” งานเลี้ยงปาร์ตี้ประสาเพื่อนเลิกแล้ว เพียงดาวออกมายืนส่งแต้วกับอู๋ขึ้นรถ “บ๊าย บายไปแล้วนะ แล้วเจอกัน” อู๋บอกลา เดินออกไปพร้อมแต้ว เพียงดาวรู้สึกเหงาที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว มองบ้านหลังใหญ่ที่มีเธออาศัยอยู่คนเดียว ยิ่งรู้สึกสะท้อนใจ ครู่ต่อมาเพียงดาวก็พาตัวเองมานั่งอยู่ที่นอกระเบียง กิริยาเหงาและเดียวดาย เพียงลำพัง ตอนสายของอีกวันหนึ่ง ทีมงานกองถ่ายโฆษณา เตรียมงานกันอยู่ มีนักแสดงนั่งแต่งหน้าอยู่ โดยมีป้ากบแต่งหน้าให้ เอกเดินเข้ามา มองซ้ายมองขวา เห็นป้ากบนั่งอยู่รีบดิ่งเข้าไปหา “กบ” เอกร้องทัก จริตเยอะประสาเกย์ ป้ากบหันมานึกได้ “อ้าว นังเอก โทษทีนะยะเมื่อวานไม่รับสาย ยู้งยุ่ง...นี่ ไหน บอกจะไปกับกองถ่ายที่ไต้หวันไม่ใช่เหรอ?” “ก็กำลังจะไปวันนี้แหละจ้า แต่แวะมาหาหล่อนก่อน” ป้ากบฉงน แปลกใจว่าเอกแวะมาหาทำไม “นี่กบ เม้าท์ให้ฟังหน่อยสิ เมื่อคืนที่งานแฟชั่นวีคน่ะ ดาวเค้าทำเกาะอกหลุดกลางเวทีขนาดนั้น ทำไมไม่เห็นมีรูปหลุดเลยล่ะ” ป้ากบของขึ้น “ก็คงให้ยัยแต้วอุดปากนักข่าวน่ะสิ มันยังขู่พี่หนึ่งด้วยนะ ว่าถ้ามีรูปหลุดออกมามันจะฟ้อง ดูมัน” หันไปหาเด็กที่แต่งหน้าให้อยู่ “ทั้งวีนทั้งเหวี่ยงแบบนี้อย่าเอาไปเป็นเยี่ยงอย่างนะ” แล้วหันไปหยิบเครื่องสำอาง “นังดาวก็นะ ไม่รู้จะดันทุรังอยู่ในวงการไปถึงไหน อายุก็ตั้งสามสิบ เกษียณไปได้แล้ว รุ่นเดียวกันก็มีลูกมีผัวไปหมดแล้ว เมื่อไหร่จะมีเด็กใหม่ๆ มาแทนที่มันซะที” ช่างแต่งหน้าขาเม้าท์พูดไปแต่งหน้าไป “จะรอทำไมล่ะกบ เธอก็ปั้นเองสิ เธอก็เคยปั้นเด็กมาแล้วนี่ อย่างนิคกับแต๊กก็ฝีมือเธอปั้น” เอกฉอเลาะ ป้ากบรู้ทัน “ที่มาหาชั้น จะเอาเด็กมาฝากใช่ไหม เอกทำทีเป็นเขินที่โดนจับได้ “แต่เด็กคนนี้เป็นหลานชั้นเอง น่ารัก เรียบร้อย ไม่เนรคุณเหมือนเด็กที่แกปั้นหรอก” เสียงมือถือดังพอดิบพอดี เอกรับสาย “ฮัลโหล มาถึงหน้าสตูแล้วเหรอลูก เข้ามาเลย” กดวางสายแล้วว่าตาเป็นประกาย “รับรองว่าเด็กคนนี้แกต้องชอบ” ดีนี่ยืนมองสตูดิโอด้วยความตื่นตาตื่นใจ ดีนี่ก้าวเข้าไปในสตู ป้ากบกับเอกนั่งอยู่ เอกชะเง้อมองหา หันไปเจอดีนี่ “ดีนี่ทางนี้จ้า” ดีนี่เดินเข้ามา ดีนี่ไหว้เอก “สวัสดีค่ะป้าเอก” เอกพยักหน้าไปทางกบเป็นเชิงบอกให้ไหว้ ดีนี่ไหว้ป้ากบ “สวัสดีค่ะป้ากบ” เอกแนะนำเป็นทางการ “นี่ดีนี่ เค้าเป็นญาติห่างๆ ของชั้น เพิ่งกลับจากอเมริกา เค้าอยากเป็นนางแบบ” ป้ากบมองดีนี่ “เด็กมันซื่อ นิสัยดี ว่าง่าย ใช้ง่าย ขยัน ฉันเอาหัวเป็นประกันรับรองหล่อนไม่ผิดหวัง ....นะกบนะ พ่อแม่ดีนี่ก็เสียหมดแล้ว ไม่มีใคร น่าสงส๊าร น่าสงสาร หล่อนช่วยเอาไปปั้นหน่อยเถอะ นึกว่าเอาบุญนะ” มือถือเอกดังขึ้น เอกกดรับ “ฮัลโหล ค่า ไปแล้วค่า”วางสายทันควัน “ทีมงานโทร.ตามแล้ว เดี๋ยวฉันตกเครื่อง” พูดกับดีนี่ “ป้าไปนะจ๊ะ” เอกยังหันมาฝากฝังกับป้ากบ “ฉันฝากด้วยนะกบ เด็กมันน่าสงสาร แล้วก็เป็นเด็กดีจริงๆ” ดีนี่ไหว้เอกอย่างนอบน้อม เอกออกไปเร็วรี่ ป้ากบบอก “นั่งรอก่อนนะ ขอป้าทำงานก่อน” ดีนี่พยักหน้า “ค่ะ” ป้ากบหันแต่งหน้า ดีนี่ไปนั่งรอ มองป้ากบที่กำลังแต่งหน้า แล้วมองผ่านกระจกห้องแต่งตัวเข้าไปที่กองถ่ายที่กำลังเซ็ตฉากถ่ายทำ เห็นตากล้องกำลังถ่ายแบบนางแบบโฆษณาอยู่ ดีนี่มองอย่างตื่นตาตื่นใจ ความฝันที่จะเข้าวงการแฟชั่นพวยพุ่งในใจ แทบล้นทะลักออกมานอกอก ป้ากบแต่งหน้าเสร็จ เก็บกระเป๋าเครื่องสำอาง แล้วเดินมาหาดีนี่ที่นั่งรออยู่ “ชื่ออะไรนะเรา?” “ดีนี่ค่ะ” “เพิ่งกลับมาจากอเมริกาเหรอจ๊ะ แล้วอยู่ที่โน่นทำอะไร” “ก็เสิร์ฟอาหาร ล้างจานค่ะ” “แล้วกลับมาทำไมจ๊ะ” “คือร้านอาหารที่นั่นปิด แล้วดีนี่ก็ไม่อยากทำงานร้านอาหารอีกแล้วค่ะ ดีนี่อยากเป็นนางแบบ” ป้ากบบอก “ไหนยืนสิ” มองสำรวจหน้าตาและหน่วยก้าน เห็นว่าดีนี่ก็หุ่นดี “หน้าก็เก๋ รูปร่างก็ใช้ได้” ดีนี่เขินๆ ที่ถูกชม “เดี๋ยวป้าจะลองฝากคนอื่นให้แล้วกัน” ดีนี่จ๋อย รู้สึกผิดหวัง “คือนี่หนู ป้าพูดตรงๆ นะ ป้าไม่อยากรับผิดชอบใครอีกแล้ว ป้าเจ็บมาเยอะ ก่อนดังให้ทำอะไรก็ทำ ไหว้ป้าประหลกๆ พอคนรู้จักหน่อยก็แอบรับงานเอง หาว่าป้ากินเปอร์เซ็นต์เยอะ มันไม่คิดบ้างว่าก่อนดัง ป้าต้องวิ่งเต้นหางานให้เหนื่อยขนาดไหน” ดีนี่ยิ้มบอก “ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะป้ากบ” ดีนี่ไหว้ป้ากบแล้วเดินคอตก เลี่ยงออกไป โปรดิวเซอร์ถือซองเงินค่าตัวมาให้ป้ากบ “นี่ค่ะป้ากบ อันนี้รวมของเดือนที่แล้วด้วยนะคะป้า” “ขอบใจจ้ะ” โปรดิวเซอร์ออกไป ผู้ช่วยก็เข้ามา “ป้ากบซับหน้าหน่อยครับ” ป้ากบรีบวิ่งออกไป ดีนี่มองซองเงินที่อยู่ในกระเป๋าป้ากบแล้วนิ่งคิด งานถ่ายโฆษณาเสร็จแล้ว โปรดิวเซอร์เดินมาส่งป้ากบที่รถ “อย่าลืมมาเม้าท์เรื่องดาวต่อนะคะ เจอกันค่ะป้า” ป้ากบเปิดกระเป๋าจะหยิบกุญแจรถ แล้วไม่เจอซองเงิน ป้ากบโวยลั่น “ว๊ายๆๆๆๆ!” โปรดิวเซอร์งง “มีอะไรในกระเป๋าเหรอคะป้า?” “ไม่มีน่ะสิถึงร้อง ซองเงินที่เธอให้มาหายไปไหนไม่รู้” โปรดิวเซอร์ตกใจตาค้าง “เดี๋ยวหนูวิ่งเข้าไปหาในสตูให้” โปรดิวเซอร์วิ่งตาเหลือกเข้าไปในสตู ป้ากบค้นในกระเป๋าต่อ ระหว่างนั้นดีนี่รีบวิ่งสวนออกมา “ป้ากบคะ ซองเงินของป้ารึเปล่าคะ ดีนี่เห็นมันตกอยู่” ป้ากบรีบรับซองเงินมาเปิดนับ “อยู่ครบ เกือบอดตายแล้วไหมล่ะอีตุ๊ด!” เงยหน้าถามดีนี่ “นี่หนูเจอแล้วเก็บมาคืนป้าเหรอ” “ค่ะ” ป้ากบตื้นตัน ซาบซึ้งใจ “ตายแล้ว ขอบใจมากนะลูก ป้าตกใจหมดเลย กำลังจะไปจ่ายค่าคอนโดพอดี ถ้าหายไปแย่แน่เลย หนูนี่เป็นคนดีอย่างที่นังเอกคุยไว้จริงๆ” “ขอบคุณค่ะ” สองคนอยู่ด้วยกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง บนโต๊ะมีอาหารวางเต็มโต๊ะ ดีนี่มองอาหารท่าทางเกรงใจ “ความจริงป้าไม่ต้องเลี้ยงดีนี่ก็ได้นะคะ เรื่องแค่นี้เอง” ดีนี่ว่า ป้ากบยิ้มเยื้อน “แค่นี้ที่ไหนหนู เงินตั้งห้าหมื่น เป็นคนอื่นมันเชิดหนีไปแล้ว” “ของคนอื่นดีนี่ไม่มีวันเอามาเป็นของตัวเองหรอกค่ะ ดีนี่รู้ว่ามันไม่ดี แม่สอนไว้” ป้ากบซึ้งใหญ่ “โถๆๆ คนอย่างหนูหายากจริงๆ นะ แล้วนี่เสร็จจากนี่จะไปไหนต่อล่ะจ๊ะ ป้าจะไปส่ง” “ก็คงไปขอแคสต์ตามโมเดลลิ่งที่ป้าเอกทิ้งเบอร์ไว้ให้น่ะค่ะ ถ้าได้งานอะไรก็คงต้องเอา เพราะเงินเก็บจากอเมริกาใกล้หมดแล้ว” ป้ากบสะท้อนใจมองดีนี่ที่น่าสงสารแล้วใจอ่อน “ไม่ต้องไปแคสต์ที่ไหนแล้วล่ะ” “ทำไมละคะ?” ดีนี่ตะลึง นึกได้ “นี่หมายความว่า....” ป้ากบยิ้มพยักหน้า ดีนี่ดีใจรีบยกมือไหว้ปลกๆ “ขอบคุณค่ะป้ากบ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ” “แต่บอกไว้ก่อนนะว่าอยู่กับป้าต้องเชื่อฟังป้า งานหนักก็ห้ามบ่น ทนไหวไหม” ดีนี่ดีใจจนน้ำตาไหลหริน ยิ้มทั้งน้ำตา “ไหวค่ะ ดีนี่จะเชื่อฟังป้ากบทุกอย่าง” ป้ากบมองด้วยความเอ็นดูดีนี่พูดสัพยอก“อ่ะๆ จะร้องไห้จะยิ้มเลือกเอาสักอย่าง นี่ ว่าแต่เราไม่ใช่ดังแล้วเนรคุณชั้นอีกคนนะ” “ไม่หรอกค่ะ ดีนี่จะทำอย่างนั้นได้ยังไง แม่สอนไว้ว่าคนที่ไม่สำนึกบุญคุณคน ไม่เจริญหรอกค่ะ” ป้ากบท่าทางพอใจดีนี่มากๆ บรรยากาศเช้าวันนี้ในออฟฟิศโมเดลแมกกาซีนไม่ต่างจากวันทำงานวันอื่นๆ พนักงานกองบรรณาธิการแต่ละส่วนต่างทำงานของตัวเองไป แหนม ฝ่ายโฆษณา กะปลาหวานเลขากองฯเดินมาเม้าท์มอยเรื่องเพียงดาว ที่โต๊ะทำงานของคิว ฝ่ายศิลปกรรม ขณะที่คิวนั่งจัดเลย์เอาท์อยู่หน้าคอมพ์ “กล้าวีนกระทั่งดีไซเนอร์ ถ้าไม่ใช่นางแบบอันดับหนึ่งจริงทำไม่ได้นะ” แหนมเปิดประเด็น “จะโทษคุณดาวก็ไม่ได้นะ ก็รู้อยู่ ทำงานกับคุณดาวต้องเป๊ะทุกอย่าง ต้องตรงเวลาเป๊ะ เสื้อผ้าหน้าผมเป๊ะ รายละเอียดทุกอย่างเป๊ะ ถ้าใครไม่เป๊ะ ก็ต้องเละตุ้มเป๊ะ” ปลาหวานว่า “งานออกมาเป๊ะ แต่คนร่วมงานปั่นป่วนกันหมด ใครๆ ก็อึดอัดกันทั้งนั้น แหละ อย่าหาว่าชั้นเม้าท์เรื่องส่วนตัวเค้าเลยนะ ก็เพราะนิสัยอย่างนี้ถึงไม่มีแฟนสักที อีกหน่อยก็ต้องไปอยู่หมู่บ้านคานทองนิเวศน์” “พี่ก็คงอยู่หลังข้างๆเค้าแหละครับ” คิวเหน็บเอา แหนมเลยเซ็ง “พี่แหนมเมาท์เก่งอย่างนี้น่าจะลาออกไปเป็นผู้สื่อข่าวนะครับ ไม่น่าจะมาทำงานฝ่ายขายเลย” “แหม ก็เรื่องคุณดาวมันน่าเมาท์นี่ยะ” แหนมบอก “อยากได้ข่าวเมาท์อะไรอีก ก็ลงไปหาเค้าสิครับ คุณดาวเค้าถ่ายแบบอยู่สตูข้างล่าง” แหนมเซ็งจัด “คิว! ถ้าชั้นกล้าไปหาคุณดาว ชั้นจะมาเม้าท์กับพวกแกไหม” คิวกับปลาหวานเซ็งพอกัน “โว้วว!” โทรศัพท์ปลาหวานดัง ปลาหวานดูหน้าจอแล้วชู่ว์ปาก “ชู่ว์!” กดรับ “ค่ะคุณแต้ว ไม่ได้มาเมาท์ค่ะ ปลาหวานรอน้ำเดือดอยู่ค่ะ จริงค่ะ เดี๋ยวน้ำเดือดแล้วจะรีบเอากาแฟลงไปให้เลยค่ะ” ในห้องแต่งตัวของสตูดิโอโมเดล ทีมงานเตรียมงานแข่งเวลา ฝ่ายคอสตูมเตรียมเสื้อผ้าอยู่ อู๋แต่งหน้าให้เพียงดาว ในชุดธรรมดาอยู่ แต้ววางโทรศัพท์แล้วหันมากำกับอยู่ทำหน้าที่สไตลิสต์ส่วนตัวอีก “อู๋ คราวนี้เบามือหน่อยนะ ชั้นอยากให้ดาวออกมาดูใสๆ แบบธรรมชาติๆ” “อยากได้ธรรมชาติ ไม่ต้องห่วง ดูชั้นซะก่อน” อู๋ลุกขึ้นโพสท่าสวย “ชั้นน่ะสวยแบบธรรมชาติ” เพียงดาวกัด “ธรรมชาติลงโทษรึเปล่าคะ” อู๋แกล้งงอน “เดี๊ยะ! เดี๋ยวเขียนหน้าให้เป็นแมวเลย” เพียงดาวเล่นด้วยทำท่าแมวขู่ “เมี๊ยว” แต้วอู๋และเพียงดาวหัวเราะขำๆ กัน “นี่พี่พงษ์ช่างภาพมารึถึงยังคะ” เพียงดาวถาม แต้วหน้าตื่น “ตายแล้ว พี่ลืมบอกดาว” เพียงดาวฉงน “มีอะไรเหรอคะ?” “ถ้าพี่บอกแล้ว สัญญาก่อนนะว่าดาวจะไม่โมโห” “ค่ะ” “คือ..ลูกคุณพงษ์เค้าไม่สบาย วันนี้เลยมาถ่ายไม่ได้ พี่ก็เลยให้ช่างภาพใหม่มาถ่ายดาว” เพียงดาวของขึ้น “ได้ยังไงคะพี่!” อู๋เหน็บ “ไหนสัญญาแล้วไงว่าจะไม่โมโห” แต้วเสริม “ถึงเค้าจะเป็นเด็กใหม่ แต่พี่ดูพอร์ทเค้าแล้วเค้าเก่งมาก จบมาจากอเมริกาด้วยนะ” “จบจากไหนไม่รู้ค่ะ แต่ถ้าถ่ายดาวออกมาไม่ดี ดาวไม่ยอมนะคะ” เพียงดาวหน้าคว่ำ เวลาเดียวกันบนถนนสายหนึ่ง โอมใส่หมวกกันน็อคขี่มอเตอร์ไซค์Ducatiอยู่บนถนนมาดอย่างเท่ ในห้องแต่งตัวสตูดิโอ เพียงดาวแต่งตัวเตรียมถ่ายแบบเรียบร้อยแล้ว อู๋จัดเครื่องสำอางที่จะถ่ายเซ็ทต่อไปอยู่ เพียงดาวเริ่มหงุดหงิดหยิบแขนอู๋มาดูเวลา นาฬิกาอู๋ เห็นเวลา 9 โมงครึ่ง “มีอะไรเหรอดาว” เพียงดาวส่ายหน้าไม่ตอบ อู๋เดินไปหยิบน้ำดื่มกิน ปลาหวานถือแฟ้มเดินผ่านมา “ปลาหวาน นัดไว้เก้าโมงไม่ใช่เหรอ ทำไมช่างภาพใหม่ยังไม่มาอีก” เพียงดาวถาม “มาแล้วค่ะ เห็นจอดรถอยู่ด้านนอกค่ะ” เพียงดาวรีบเดินออกไปหน้าสตูดิโอทันที อ่านละครเรื่อง มารยาริษยา ตอน 1 วันที่ 12 มิ.ย. 55 ละครเรื่อง มารยาริษยา เค้าโครงเรื่องโดย : ผอูน - พรดี จันทรศิริ ละครเรื่อง มารยาริษยา บทโทรทัศน์ : ชวนนท์ สารพัฒน์ ภิศรา วงศร กรณิกา ดวงมุสิทธิ์ พัณณิฎานันท์ ศิริเลิศ ละครเรื่อง มารยาริษยา กำกับการแสดง : รัญญา ศิยานนท์ ละครเรื่อง มารยาริษยา แนวละคร : ดราม่า ละครเรื่อง มารยาริษยา ออกอากาศ ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางททบ.5 ละครเรื่อง มารยาริษยา เริ่มออกอากาศตอนแรกอังคารที่ 12 มิถุนายน 2555 แทนเรื่องดอกโศก ที่มา manager.co.th

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น