วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 1 วันที่ 18 มิ.ย. 55


 อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 1 วันที่ 18 มิ.ย. 55

“ อ๊าก!” “คุณลุงเกิดอะไรขึ้นครับ คุณลุง!” ภาคินล้มลงจมกองเลือดพยายามพูดโทรศัพท์ “ระ..วัง ตัว...ปกป้อง..ปู่ด้วย...” “คุณลุง ใครทำอะไรคุณลุง บอกผมสิครับ คุณลุง” คนร้ายคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาพูด “ถ้าไม่อยากตาย อย่ากลับมาเมืองไทย” “แกเป็นใคร!
แกทำอะไรลุงฉัน” คนร้ายปิดโทรศัพท์ทันที “ฮัลโหล ๆ ๆ” บุญทันพยายามต่อโทรศัพท์อีกแต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ เช้าวันใหม่ ที่ร้านอาหารไทยในอเมริกา ข่าวจากเว็บไซด์ ลงภาพนิ่งของภาคิน วริทธิวรนันท์ พร้อมข่าวพาดหัวว่า “CEO บริษัทในเครือวรารมย์ โดดตึกตายหนีเครียด” บุญทันกับธาวินนั่งคุยกันอยู่ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น “ไม่จริง ลุงฉันไม่ได้ฆ่าตัวตาย ลุงฉันถูกฆาตกรรม ฉันจะกลับไปบอกทุกคนที่เมืองไทย” บุญทัน บอก “ตำรวจเค้าคงเชื่อแกหรอกนะ ที่อยู่ๆก็มีพยานจากอีกซีกโลกนึงโผล่ขึ้นมา และที่สำคัญแกไม่มี หลักฐานอะไรเลย” ธาวินพูดขึ้น “โทรศัพท์ไง ลุงภาคินโทรหาฉันเป็นคนสุดท้าย” “แกคิดว่าคนร้ายมันจะเก็บโทรศัพท์ลุงแกไว้หรือ ป่านนี้มันโยนให้ฉลามกินแล้ว” “แต่ถึงยังไงฉันก็ต้องกลับไปเมืองไทยนะวิน ปู่ฉันอยู่ในอันตราย” “ชั้นรู้ แต่ถ้าแกกลับไป แกก็มีอันตรายเหมือนกันนะ” “ชั้นไม่กลัว ชั้นจะต้องลากคอไอ้คนที่มันฆ่าลุงภาคินมาให้ได้” “แล้วแกสงสัยใคร” “ชั้นเชื่อว่ามันต้องเป็นคนที่ลุงภาคินรู้จักดี” “แต่มันจะฆ่าลุงแกเพื่ออะไร” “นั่นคือเรื่องที่ชั้นต้องไปสืบ แล้วหาให้เจอว่าไอ้ฆาตกรนั่นมันคือใคร” “เอาอย่างนี้ ถ้าแกคิดจะกลับไปจริงๆ เราก็ต้องมีแผนนะ ไม่ใช่เดินดุ่มๆเข้าไปให้มันฆ่า” “แผนอะไร” บุญทันสนใจขึ้นมาทันที “ในเมื่อแกบอกว่าไม่มีใครในครอบครัวแก เคยเจอแกตั้งแต่เกิด ฉะนั้น ชั้นจะปลอมตัวเป็นแก ส่วนแกก็ปลอมตัวเข้าไปเป็นคนงานในบ้านเพื่อสืบหาคนร้ายที่ฆ่าลุงภาคิน” “แต่ชั้นไม่อยากลากให้แกมาเดือดร้อนด้วย” “ไอ้ภู เราสองคนเป็นเพื่อนรักกันนะ เรื่องของแกก็เหมือนเรื่องของชั้น ถ้าแกมีทุกข์ชั้นคงไม่มีความสุขหรอก” บุญทันโผเข้ากอดธาวิน “ขอบใจแกมากวิน แกคือเพื่อนที่ดีที่สุดของชั้น” ทั้งบุญทันและธาวินยิ้มให้กัน บุญทันถอนหายใจหลังจากวางสายจากธาวินไปแล้ว ขณะนั้น...พิพัฒน์เดินเข้ามาเรียกพอดี “บุญทัน” “ครับท่าน” “ไป ชั้นจะกลับบ้านแล้ว” “ครับ” บุญทันเดินนำพิพัฒน์ไปที่หน้าประตูทางเข้าล็อบบี้ “ท่านรออยู่ตรงนี้นะครับ เดี๋ยวผมไปเอารถมารับ” พิพัฒน์พยักหน้ารับ บุญทันเดินออกไปที่ลานจอดรถ พิพัฒน์มองตามแล้วหันกลับอย่างไม่ได้สนใจนัก เมื่อบุญทันเดินมาที่ลานจอดรถ มอเตอร์ไซค์คันหนึ่งขับสวนขึ้นไป บุญทันมองตามและรู้สึกสะดุดใจจึงหันหลังมองตามไปและเห็นคนซ้อนกระชากปืนที่เหน็บหลังออกมา บุญทันตะลึงและร้องขึ้นทันที “ เฮ้ย!” คนซ้อนลุกขึ้นยืนแล้วยกปืนเล็งไปที่พิพัฒน์ทันที “คุณปู่ ... ระวัง” บุญทันตะโกนร้องสุดเสียง พิพัฒน์ได้ยินเสียงบุญทันก็หันมาในจังหวะที่คนร้ายยกปืนขึ้นยิงพอดี พิพัฒน์รีบหลบที่ข้างเสา คนร้ายยิงซ้ำ พิพัฒน์หมุนหลบอีก มอเตอร์ไซค์ขับพุ่งหนีออกไป บุญทันวิ่งเข้ามาหาพิพัฒน์ “คุณปู่ เป็นยังไงบ้างครับ” “ชั้นไม่เป็นไร” พิพัฒน์บอก รปภ.ในสยามกอล์ฟวิ่งเข้ามาดูเหตุการณ์ “มีเรื่องอะไรกันครับ” “มีคนร้ายซ้อนมอเตอร์ไซค์บุกมายิงคุณพิพัฒน์” บุญทันบอก รปภ. ยกวิทยุสื่อสารบอก “สกัดจับคนร้ายขี่มอเตอร์ไซค์” “บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่าครับ” บุญทันถาม “ไม่มี ชั้นปลอดภัย” ในเวลาต่อมา ที่หน้าตึกใหญ่ของบ้านวริทธิวรนันท์ สารวัตรสมยศกับตำรวจติดตามอีกสองนายเดินขึ้นตึกเข้ามาสอบปากคำบุญทัน โดยมีพิพัฒน์นั่งฟังอยู่ด้วย “คนซ้อนเป็นคนยิงครับรูปร่างผอม ส่วนคนขี่มอเตอร์ไซค์ ตัวใหญ่กว่านิดหน่อย ผิวดำแดงทั้งคู่” “แล้วนายเห็นหน้ามั้ย” สารวัตรสมยศถาม “ไม่เห็นครับมันใส่หมวกกันน็อกทั้งคู่” สารวัตรสมยศหันไปถามพิพัฒน์ “แล้วท่านพอจะนึกออกมั้ยครับว่า คนร้ายมีลักษณะยังไง” “ใครจะไปจำได้สารวัตร ตอนนั้นแค่หลบหนีกระสุนก็กลัวจะแย่อยู่แล้ว” พิพัฒน์พูดอย่างไม่พอใจ “ผมหมายถึงว่าท่านอาจจะพอจำอะไรได้บ้างเกี่ยวกับคนร้ายน่ะครับ” “ผมจำไม่ได้หรอก” “แล้วท่านมีปัญหาขัดแย้งอะไรกับใครบ้างมั้ยครับ โดยเฉพาะเรื่องธุรกิจ” “ทำธุรกิจมันก็ต้องมีปัญหาเรื่องความขัดแย้งอยู่แล้ว แต่จะให้ระบุเป็นรายบุคคล ผมระบุไม่ได้ หรอกมันเยอะแยะ แล้วผมเองก็มีธุรกิจอยู่หลายอย่าง ทั้งโรงแรม ตลาด สนามกอล์ฟ บ้านจัดสรร คอนโด” “ถ้าเป็นแบบนี้จะหาตัวคนร้ายยากนะครับ” “อ้าว ถ้าสารวัตรพูดแบบนี้ก็จบกันล่ะสิ ตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชนนะ สารวัตรต้องไปตามหา มาให้เจอว่าใครที่มันคิดจะฆ่าผม” “เรื่องนั้นเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ เอาล่ะครับ ผมไม่รบกวนเวลาท่านแล้ว ผมลานะครับ” พิพัฒน์พยักหน้าสารวัตรสมยศลุกเดินออกไป บุญทันจะเดินออกตามไป แต่พิพัฒน์เรียกไว้ “เดี๋ยว บุญทัน” “ครับท่าน” “แกใช้ปืนเป็นมั้ย” “พอได้ครับ” “ชั้นจะเอาปืนพกให้แกติดตัว ต่อไปนี้ถ้าชั้นไปไหนแกเอาปืนไปด้วย” “ครับ เอ่อ ท่านครับ” “หืมม์” “มีใครที่ท่านสงสัยบ้างมั้ยครับ” “นึกไม่ออก ชั้นแก่ป่านนี้ไม่น่ามีศัตรูที่ไหนเหลืออยู่แล้ว” บุญทันพยักหน้ารับรู้ “ขอบใจแกอีกครั้งนะ ที่ช่วยชีวิตชั้นไว้ ถ้าไม่ได้แกเรียกเตือนล่ะก็ ป่านนี้ชั้นคงไปนอนวัดแล้ว” “ไม่หรอกครับ ผมจะไม่ยอมให้ท่านเป็นอะไรไปง่ายๆ” “เออ ขอบใจ” - บุญทันเดินออกไป เอนกกับอนุทินเดินสวนเข้ามาพอดี ทั้งสองคนเดินไปหาพิพัฒน์ “คุณพ่อเป็นยังไงบ้างครับ” เอนกถามขึ้น “ตำรวจจับตัวคนร้ายได้มั้ยครับ” อนุทินถามบ้าง “มันหนีไปได้” พิพัฒน์บอก บุญทันเดินออกมาแล้ว หยุดมองเข้าไปในบ้านเห็นเอนกกับอนุทินคุยกับพิพัฒน์อยู่อย่างเคร่งเครียด สีหน้าของเอนก และอนุทินดูเป็นห่วงพิพัฒน์อย่างจริงจัง บุญทันมองอย่างครุ่นคิดแล้วหันหลังเดินออกไป บริเวณมุมตึกใหญ่ของบ้านวริทธิวรนันท์ สมยศเดินเลี้ยวออกมากับหมวดลูกน้อง “สารวัตรว่าเป็นไปได้มั้ยครับ บางทีอาจเป็นเรื่องฆ่าเพื่อชิงมรดก” หมวดลูกน้องถามขึ้น “ทำไมนายคิดอย่างงั้น” “ก็คุณพิพัฒน์แกมีมรดกเป็นพันล้านนะครับ” “คงไม่ใช่หรอก ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องปมขัดแย้งธุรกิจมากกว่า” ปารมีกับนภาเดินเลี้ยวออกมาอย่างร้อนใจ และเจอสารวัตรสมยศเข้าพอดี “สวัสดีครับคุณนภา สวัสดีครับคุณปารมี” สารวัตรสมยศทักทาย “สวัสดีค่ะสารวัตร” ปารมีทักทายตอบ “คุณลุงว่ายังไงบ้าง” นภาตามอย่างร้อนใจ “ท่านไม่เห็นหน้าคนร้ายครับ” “แล้วคุณปู่สงสัยใครมั้ยคะ” ปารมีถามต่อ “ตอนนี้ยังไม่มีครับ เจอคุณปารมีก็ดีแล้วครับ ผมอยากสอบปากคำเพิ่ม ถ้าคุณปารมีว่างรบกวนโทรหาผมด้วยนะครับ” “ค่ะ” “ผมขอตัวก่อนนะครับ” สารวัตรสมยศออกไป “ไปดูคุณปู่ก่อนดีกว่าลูก” นภาว่า นภาเดินออกไป ปารมีหันมองตามสารวัตรสมยศแล้วหันกลับเดินตามนภาไป บุญทันแอบมองนภากับปารมีอย่างครุ่นคิดว่าใครคือคนร้าย ภายในผับแห่งหนึ่งในเวลากลางคืน ธาวินนั่งดื่มอยู่กับบุญทัน “เท่าที่แกเล่ามา ชั้นว่าคุณนภากับปารมีลูกสาวไม่น่าใช่คนร้าย” ธาวินว่า “ชั้นก็คิดเหมือนแก สองคนนั่นเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ไม่น่าคิดทำเรื่องเลวๆแบบนี้” “แล้วคุณเอนกกับลูกชายล่ะ” “เท่าที่ชั้นดู ชั้นว่าลุงเอนกคงไม่กล้าทำหรอก เพราะท่าทางแกก็รักและเคารพคุณปู่มาก ส่วนลูกชายก็ดูเชื่อฟังพ่อ” “แล้วลูกสาวล่ะ เค้ามีลูกสาวอีกคนไม่ใช่หรือ” ธาวินถาม บุญทันนึกถึงมณทกานต์ที่ด่าบุญทัน แต่แทนที่สีหน้าจะบึ้งตึงด้วยความโกรธกลับยิ้มซะอย่างนั้น “ลูกสาวท่าทางเอาแต่ใจตัวเองไม่เบา แต่ก็ไม่น่าคิดฆ่าใคร ส่วนคนงานในบ้านก็เป็นคนเก่าคนแก่กับลูกหลานไม่มีใครน่าสงสัย” “ถึงจะไม่เจอใครน่าสงสัย แต่ชั้นว่าเรายังตัดประเด็นคนในบ้านออกไปไม่ได้นะ” “อืมม์” ธาวินพยักหน้ารับรู้แล้วยกเหล้าขึ้นดื่ม บุญทันหยิบแก้วจะดื่มตามก็ชะงักที่เห็นมณทกานต์เดินเข้ามาในร้านพอดี “มีอะไร” ธาวินถาม ธาวินมองตามสายตาของบุญทัน เห็นมณทกานต์เดินเข้ามากับเพื่อนชายและเลือกนั่งลงที่โต๊ะในมุมหนึ่ง “น้องเมย์ ลูกสาวลุงเอนก” บุญทันบอก “ท่าทางจะมากับแฟน ชั้นว่าเรากลับเหอะ เดี๋ยวเค้าเกิดเห็นเราสองคนอยู่ด้วยกันจะเสียแผน” “แกกลับก่อนเถอะ ชั้นจะนั่งอีกซักเดี๋ยว” บุญทันบอก “ตามใจ แล้วพรุ่งนี้โทรหากันอีกที” “อืมม์” ธาวินเดินออกไปแล้ว บุญทันมองไปที่โต๊ะเห็นมณทกานต์นั่งอยู่ ส่วนเพื่อนชายเดินไปสั่งเครื่องดื่ม มณทกานต์นั่งกดโทรศัพท์หาเพื่อน เมื่อเสียงปลายสายรับ “แกอยู่ไหนแล้วเนี่ย ไหนบอกจะตามมาเจอกันไง ...อะไรนะ ไม่มาแล้วงั้นหรือ ... เออเออ ก็ได้ ถ้าพวกแกไม่มา ชั้นจะได้กลับ ทีหลังจะไม่มาก็บอกก่อนนะ” มณทกานต์ปิดโทรศัพท์อย่างเซ็งเพื่อน ชาคริตเพื่อนชายถือแก้วเครื่องดื่มเข้ามาให้ “ได้แล้วจ้ะเมย์” “พวกไอ้ยุ้ยมันไม่ตามมาแล้วนะคิต” “อ้าว ทำไมล่ะ” “มันบอกขี้เกียจ ไอ้พวกนี้เชื่อไม่ได้จริงๆ งั้นเมย์กลับก่อนนะ” มณทกานต์จะลุกขึ้น แต่ชาคริตคว้าแขนไว้ “เดี๋ยวสิเมย์ ผมมีเรื่องอยากคุยด้วย” “เรื่องอะไร” “เรื่องสำคัญ นั่งก่อนได้มั้ย” มณทกานต์นั่งลงแล้วถาม “มีอะไรหรือ” “ดื่มค็อกเทลเย็นๆก่อนแล้วเดี๋ยวจะบอก” มณทกานต์มองอย่างหมั่นไส้ “เรื่องเยอะจริงๆ” มณทกานต์ยกเครื่องดื่มจิบ ชาคริตมองยิ้มอย่างมีเลศนัย “อีกสองเดือนผมจะไปเรียนต่อที่นิวซีแลนด์” “จริงหรือ ดีใจด้วยนะ” “แต่ผมไม่อยากจากเมย์ไปเลย เมย์ไปกับผมนะ” “คิตเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า เราเป็นเพื่อนกันนะ” “แต่ผมรักเมย์นะ รักมานานแล้วด้วย” “ชั้นว่านายบ้าไปแล้ว ชั้นไม่เคยคิดอะไรกับนายเกินเพื่อน” มณทกานต์ลุกขึ้นยืน ก็รู้สึกมึนหัวอย่างหนักมองทุกอย่างเบื้องหน้าเบลอไปหมด แต่พยายามจะควบคุมสติไว้ แต่แล้วก็ดับวูบ ร่างของมณทกานต์ร่วงลง ชาคริตรีบเข้าไปประคองไว้ “ตอนนี้จะรักหรือไม่รักก็ไม่สำคัญแล้ว” ชาคริตจะประคองมณทกานต์เดินออกไป แต่บุญทันก้าวออกมาขวางไว้ “จะพาผู้หญิงไปไหน” บุญทันถาม “แฟนชั้นเมา ชั้นจะพากลับบ้าน” “ชั้นว่าแกปล่อยผู้หญิงดีกว่า” “แกเป็นใครวะมาสั่งชั้นเนี่ย” “ชั้นเตือนแกเป็นครั้งสุดท้ายนะถ้าไม่อยากเจ็บตัว ปล่อยผู้หญิง” “มึงนี่มัน” ชาคริตปล่อยมณทกานต์แล้วกำหมัดเหวี่ยงเข้าใส่บุญทันทันที บุญทันพลิกตัวหลบ แล้วสวนหมัดกลับเข้าที่หน้าของชาคริตเต็มๆ ชาคริตเซและหันกลับมาอย่างด้วยสีหน้าโกรธ “มึง” ชาคริตเหนี่ยวอีกหมัด บุญทันหลบสวนอีกหมัดเข้าเต็มหน้า ชาคริตหน้าหงายล้มลง บุญทันเข้ามาเรียกเมณทกานต์ “คุณเมย์ครับ คุณเมย์” พนักงานในร้านเห็นความชุลมุนที่เกิดขึ้น จึงเดินเข้ามาถามบุญทัน “มีเรื่องอะไรครับ” “น้องสาวผมโดนวางยาครับ” มณทกานต์พยายามลืมตามองหน้าบุญทัน แต่เห็นไม่ชัดเพราะฤทธิ์ยา “นาย...” มณทกานต์นิ่งหมดสติไปอีก บุญทันอุ้มมณทกานต์เดินออกจากร้านเหล้าในทันที บุญทันเปิดประตูรถแล้ววางเมย์ลงที่เบาะข้างคนขับ แล้วเดินอ้อมไปขึ้นนั่งรถ บุญทันหันมามองเหน้ามณทกานต์แล้วส่ายหน้าเบาๆ “ซ่าส์จนเจอดี” บุญทันสตาร์ทรถขับออกไปทันที รถแล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านของมณทกานต์ บุญทันหันมามองเห็นมณทกานต์ยังหลับอยู่ บุญทันเรียก “คุณเมย์ครับ ... คุณเมย์” บุญทันหันไปหยิบขวดน้ำในรถจับมณทกานต์บีบปากกรอกน้ำใส่จนสำลักน้ำได้สติ มณทกานต์ได้สติมองอย่างตกใจที่เห็นบุญทันอยู่ในรถของตัวเอง “นี่นายทำอะไรชั้นเนี่ย” “ใจเย็นครับ ผมไม่ได้ทำอะไรคุณ แค่ขับรถพาคุณกลับมาบ้าน” มณทกานต์ยังรู้สึกงงๆ “เอ๊ะ .. ชั้นจำได้ว่า...” “ใช่ครับ แฟนคุณมอมยาคุณ โชคดีที่ผมไปเจอคุณก่อน ไม่งั้นป่านนี้คุณ ...” มณทกานต์นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ลางๆก็ตกใจ “นี่นายเป็นคนช่วยชั้นงั้นหรือ” “ใช่ครับ ถ้าคุณคิดจะขอบคุณผมล่ะก็ ...” “ฝันไปเถอะ ชั้นไม่ได้ขอให้นายช่วย” มณทกานต์เปิดประตูลงจากรถ บุญทันเดินตามลงมา “อ้อ แล้วคราวหน้าคราวหลังไม่ต้องมาสะเออะเรื่องของชั้น” มณทกานต์เดินสะบัดเข้าบ้าน บุญทันมองตามแล้วส่ายหน้า “โอ้โห แรงได้อีก” คืนวันเดียวกัน ภายในห้องนอนของบ้านเช่า ญาดาหลับอยู่บนเตียงหันหลังให้กับประตู สักครู่ประตูค่อยๆแง้มเปิดเข้ามา เจ๊อ้อยค่อยๆย่องเข้ามาในห้อง ชะเง้อมองเห็นญาดาที่หลับอยู่ จู่ๆ ญาดาก็ขยับพลิกตัวหันมาทางหน้าประตู เจ๊อ้อยชะงักยืนนิ่งไม่ไหวติง ชะโงกมองชัดๆอีกที จนแน่ใจว่า ญาดายังหลับอยู่ จึงตรงไปที่ตู้เซฟทันที เจ๊อ้อยลงมือเปิดอย่างเบามือก่อนจะหยิบเงินในตู้เซฟแล้วรีบเดินออกไป ญาดายังคงหลับไม่รู้เรื่อง ภายในบ่อน เวลาต่อมา นักพนันวางชิปตามตำแหน่งหมายเลขที่ต้องการเสี่ยงโชค วงล้อหมุนเริ่มทำงาน ลูกบอลขนาดเล็กถูกโยนเข้าไปในวงล้อที่กำลังหมุน เจ๊อ้อยเป็นอีกคนหนึ่งในกลุ่มนักพนันที่ลุ้นอยู่ ลูกบอลค่อยๆหยุดตรงหมายเลขที่เจ๊อ้อยเลือกไว้ “มันต้องอย่างนี้สิวะ เฮงๆๆ” อ้อยลิงโลดด้วยความดีใจ กวาดชิปมาที่ตัวเอง เฮียเสกซึ่งดูแลบ่อนอยู่แวะเข้ามาทักทาย “ไงเจ๊อ้อย หายหน้าหายตาไปนานเลย หนี้เก่าเพิ่งเคลียร์หมดไปหมาดๆคิดจะสร้างหนี้ใหม่อีกแล้ว เหรอ” “เอ็งคอยดูเถอะ วันนี้ข้าพกดวงมาเต็มๆ” เจ๊อ้อยพูดอย่างมั่นใจในดวงของตัวเอง เช้าวันรุ่งขึ้น ภายในห้องนอนของญาดาซึ่งยังหลับสนิท เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ญาดาตื่นด้วยความงัวเงียมารับสาย เสียงปลายสายทำให้ญาดาถึงกับตกใจทันที “ฮัลโหล ... แม่! แม่เป็นไรอ่ะ” “แม่อยู่ที่บ่อน เฮียเสกมันจับตัวแม่ไว้ เอ็งรีบมาช่วยแม่ทีนะ” “แม่ใจเย็นๆนะ หนูจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ” ญาดาลุกขึ้นเปิดเซฟ ภายในตู้ว่างเปล่า เงินและของมีค่าหายไปหมด “แม่นะแม่ ขโมยเงินไปเข้าบ่อนอีกแล้ว” ญาดาล้วงไปที่ใต้หมอนหยิบซองเงินออกมา ภายในซองมีเงินซ่อนอยู่เกือบสองหมื่นบาท “นี่มันก้อนสุดท้ายแล้วนะ” ในเวลาต่อมา บริเวณอพาร์ทเม้นท์เก่าๆแห่งหนึ่ง ซึ่งมีชายฉกรรจ์เฝ้าตรงประตูเข้าออก ญาดาเดินเข้าไปอย่างรีบร้อน คุยด้วยสองสามคำ คนเฝ้าก็เปิดประตูให้ขึ้นไปยังบ่อนทันที อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 1 วันที่ 18 มิ.ย. 55 ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทประพันธ์ : อรพิม ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก บทโทรทัศน์ : วิลักษณา ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก กำกับการแสดง : คฑาเทพ ไทยวานิช ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก แนวละคร : โรแมนติก - คอมเมดี้ ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ผลิตโดย : ยุวดี ไทยหิรัญ บริษัทยูม่า 99 จำกัด ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก นำแสดงโดย : เข็มอัปสร สิริสุขะ,วรินทร ปัญหกาญจน์,วรฤทธิ์ ไวยเจียรนันท์,เซลิน่า เพียซ ฯลฯ ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ออกอากาศ : ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. ช่อง 3 ละครเรื่อง เล่ห์ร้อยรัก ออกอากาศ ต่อจากละคร ขุนศึก ที่มา manager.co.th

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น