วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อ่านละคร ปิ่นอนงค์ ตอนที่ 2 วันที่ 13 มิ.ย. 55


อ่านละคร ปิ่นอนงค์

อ่านละคร ปิ่นอนงค์ ตอนที่ 2 วันที่ 13 มิ.ย. 55

“สมบัติพวกนั้น ไม่มีค่าสำหรับฉันเท่าไหร่หรอก” ใหญ่บอกท่าทีจริงจัง ปานเทพอึ้ง “แล้วอะไรวะที่มีค่าสำหรับแก” ใหญ่มองแผลที่มือ คิดถึงคนที่ทำให้เกิดแผลนี้ ตอนนั้นใหญ่เท้าแขนมองปิ่นอนงค์ที่นอนหลับสนิท บนแก้มสวยอิ่มยังมีคราบน้ำตาเปื้อนอยู่ ปิ่นอนงค์ร้องละเมอ “คุณนะ ช่วยปิ่นด้วย ปิ่นกลัว” ใหญ่แค้นนัก ลุกขึ้นนั่ง มองปฎิทินที่โต๊ะข้างเตียง เห็นที่ปิ่นอนงค์ขีดวงวันที่ไว้ เป็นวันที่ถัดจากวันนี้ไปอีกอาทิตย์หนึ่ง และวงเป็นรูปหัวใจ พร้อมเขียนกำกับไว้อีกด้วยว่า
“คุณนะกลับบ้าน” และมีดอกจัน 4-5 ตัว เป็นเชิงบอกตัวเองว่า...ห้ามลืม เย็นวันนั้นใหญ่แต่งตัวทะมัดทะแมง แบกเป้พาดหลัง เปิดประตูผัวะออกมา ปานเทพตามติด สองหนุ่มคุยกันที่หน้าห้องพักในโรงแรม “เฮ้ย ไอ้ใหญ่ เดี๋ยว นี่แกจะไปไหน ไปทำอะไรอีกวะบอกกันบ้างดิ” “แกอยากให้ชั้นไปจัดการอะไรให้มันเสร็จๆ ไปไม่ใช่เหรอ ฉันเพิ่งนึกออกว่าจะจัดการยังไง” ใหญ่เดินออกไปทันควัน “ใหญ่ ไอ้คุณใหญ่” ปานเทพพุ่งตัวเดินตาม ทางด้านปิ่นอนงค์เดินหิ้วถุงขนม ผลไม้เข้ามาในห้องผู้ป่วย อุ่นเรือนนอนหลับอยู่ จินตนาเอานิ้วจุ๊ปาก ฉุดมือมาคุยกันอีกมุม “เรื่องค่าผ่าตัดว่าไง” “ไม่มีปัญหาหรอก เราไปคุยกับการเงินแล้วว่าขอจ่ายตอนแม่ออกจากโรงพยาบาลเลย แต่จินอย่าให้แม่รู้เรื่องนี้เด็ดขาดนะ” ปิ่นอนงค์มีสีหน้ากังวล กำชับเพื่อนเลิฟ “เราไม่พูดอยู่แล้ว แต่เงินตั้งเป็นแสนๆ คุณนายจอมโหดของปิ่นจะยอมจ่ายเหรอ” เห็นปิ่นหน้าสลด จินตนานึกรู้ทันที “ไม่ยอมใช่มั้ย ว่าแล้ว...” อุ่นเรือนตื่นขึ้นมาสองสาวรีบเข้าไปดู จินตนาถามขึ้นก่อน “เป็นไงบ้างจ๊ะแม่” “หมอให้แม่ออกจากโรงพยาบาลได้วันไหน” อุ่นเรือนถามทันที “คงจะสองสามวันนี้แหละจ้ะ เดี๋ยวปิ่นไปถามหมอให้” ปิ่นอนงค์บอกยิ้มๆ อุ่นเรือนดุ “นี่แม่ให้ถามตั้งนานแล้ว ทำไมยังใจเย็นอยู่ได้ ค่าผ่าตัด ค่าโรงพยาบาลจะเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เราจะมีปัญญาจ่ายเค้าเหรอ” ปิ่นอนงค์หันไปมองสบตากับจินตนา “แม่ไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ คุณนายท่านบอกว่าจะรับผิดชอบทุกอย่าง” อุ่นเรือนยังวลไม่หาย “แต่แม่ไม่อยากรบกวนคุณนาย ตอนนี้ท่านก็ปวดหัวมากพอแล้ว” “แม่อย่ากังวลเลยจ้ะ ที่ปิ่นรู้มาค่าผ่าตัดไม่แพงเท่าไหร่หรอก ที่นี่เห็นว่าเราเป็นคนของไร่ไพศาลก็เลยลดให้ แม่พักผ่อนให้มากๆ จะได้กลับไปไร่เร็วๆไงจ๊ะ” ปิ่นอนงค์ปลอบแม่แล้วขยับผ้าห่มให้ยิ้มแย้มแจ่มใส อุ่นเรือนค่อยวางใจหลับตาลง จินตนามองปิ่นอนงค์อย่างเห็นใจ เหตุการณ์ที่ไร่ไพศาลเวลานั้น เปี๊ยกชี้ชวนถวิลเข้ามากับหวาน คนงานคนหนึ่งกำลัง ผสมด่างทับทิมในกะละมัง คนไปมา ขณะที่คนงานอีกคน ใช้ผ้าชุบด่างทับทิม เช็ดเท้าวัวกิริยาทุลักทุเล ถวิลทำหน้างง กวาดตามองวัวในคอกแล้วมองกะละมัง “ท่าทางไม่ดีซะแล้ว แล้วยาล่ะ ทำไมมีด่างทับทิมแค่นี้เองเหรอ” เปี๊ยกพยักหน้า ถวิลอึ้ง “เฮ้ย...อย่างนี้ไม่ได้ ต้องไปบอกคุณธีระ เดี๋ยวชั้นไปเอง” เปี๊ยกดึงมือถวิลรั้งเอาไว้ แล้วทำท่าทำทางหวานมองแล้วพยายามแปล “พี่เปี๊ยกกับจอมไปบอกแล้ว แต่คุณธีระเค้าเฉยๆ ไม่ว่าอะไร” หวานแปล ถวิลโวย “เฉยได้ยังไงวะ เป็นผู้จัดการ” ว่าพลางถวิลขยับจะไป แต่แล้วรถสิบล้อติดกรง วิ่งเข้ามาหยุดตรงหน้าพอดี เจิด ก้าน ลูกน้องธีระ ก้าวลงจากรถ กวาดตามองพวกถวิล เจิดสั่ง “เฮ้ย พวกเอ็งคัดวัวขึ้นรถให้เต็มเร็วๆ ด้วย ต้องขนหลายเที่ยว” ถวิลไม่ยอม “พวกเอ็งเป็นใคร มาจากไหน อยู่ๆ จะมาเอาวัวไปได้ยังไง” “พวกข้าเป็นลูกน้องคุณธีระ หางแถวอย่างแกอย่าหือ” เจิดบอกวางก้าม ก้านเสริม “คุณธีระให้พวกข้าเอาวัวไปขาย มีปัญหาอะไรหรือเปล่าไอ้แก่” ถวิลโวยวาย ไม่ยอมท่าเดียว “บ้าแล้ว ข้าไม่เชื่อ อยู่ๆมาอ้างชื่อคุณธีระ ข้าไม่ยอมหรอก” เจิดร้องสั่งเสียงดัง “เสียเวลา.....ไอ้ก้าน เปิดคอก” ก้านตรงไปถอดไม้ประตูคอก เปี๊ยกโดดเข้าขวาง ก้านชกเปี๊ยกสุดแรงจนร่างกระเด็น คนงานตกใจ ก้านตามมาเตะท้องเปี๊ยกซ้ำ ถวิลโมโหกระโดดถีบก้านกระเด็น เจิดตรงเข้าต่อยถวิลจนถวิลเซไป เจิดจะซ้ำ หวานเข้าจับแขนเจิด เจิดตบหวานกระเด็นไปหาเปี๊ยก ก้านเข้ากอดล็อกแขนถวิล เจิดต่อยถวิลไปมา ถวิลทรุดลงไปกองกับพื้นหน้าคอกวัว เจิดชักปืนออกมาขู่ “มีใครจะซ่าอีกมั๊ย เปิดคอก ต้อนวัวขึ้นรถ” คนงานรอบๆ ออกอาการเลิ่กลั่ก ถวิลนั่งกุมท้อง เช็ดเลือดที่ปาก เวลานั้นปานเทพขับรถเข้ามากับใหญ่ “จอดให้ฉันลงตรงนี้ละ” ใหญ่สั่ง “อ้าว ลงทำไมตรงนี้วะ ขับไปให้ถึงหน้าบ้านเลย เปิดตัวแบบอลังการอย่างแกว่าไง หลักฐานอะไรก็มีครบ ฉันสาธยายเอง รับรองว่าไสหัวทุกคนออกจากไร่ได้วันนี้เลย” ปานเทพโวยวายตามประสา ใหญ่บอก “มันง่ายไป” ปานเทพเกาหัว “อะไรอีกวะ ตกลงแกจะเอาไงเนี่ย” “ฉันยังไม่อยากไล่ใครออกไป ไร่ตั้งกว้างใหญ่ อยู่คนเดียวเหงาตาย แกไปรอที่เดิม มีอะไรจะส่งข่าวไป” ว่าแล้วใหญ่สะพายเป้กระโดดลงมาดอย่างเท่ ปานเทพบ่นงึมงำ “เอาอีกแล้ว ไอ้คุณใหญ่ เดี๋ยวซิวะ แล้วแกจะให้ฉันบอกพ่อว่าไง” ใหญ่ไม่ตอบมุดรั้วเข้าไร่ไปลิบแล้ว ปานเทพเซ็งสุดๆ “ไอ้บ้าเอ๊ย จะทำพิเรนทร์อะไรอีกวะ” ใหญ่เดินแบกเป้มาตามทาง เห็นรถบรรทุก 6 ล้อ ของเจิดและพวกวิ่งตะลุยฝุ่นตลบมาแต่ไกล ก้านเป็นคนขับรถ เจิดนั่งข้างๆ วัวเต็มกรงหลังรถ ก้านเห็นใหญ่ก็บีบแตรยาวไล่ให้หลบ ใหญ่มองๆ ไม่หลบ ตั้งใจเริ่มกวนตีนคนในไร่ รถเบรกเอี๊ยด ก้านโผล่มาด่า “หูหนวกหรือไงวะ หลบไป” นอกจากใหญ่ไม่หลบ ยังมองเฉย เจิดโมโหกระโดดลงจากรถ “เอ็งเป็นใคร ใหญ่มาจากไหนมายืนเกะกะขวางถนน” “แล้วพี่ชายล่ะเป็นใคร ใหญ่มาจากไหน ถึงต้องให้ผมหลีก” ใหญ่กวน “ข้าเป็นลูกน้องผู้จัดการ ถ้าไม่อยากเดือดร้อนก็หลีกไป” พอรู้ว่าเป็นพวกลูกน้องครองสุข ใหญ่ยิ่งกวนสนุก “แต่ฉันเมื่อยว่ะ อยากนั่งพักตรงนี้” ว่าแล้วใหญ่เอาเป้วางแล้วนั่งแหมะบนเป้ เจิดคำราม “เอ็งตั้งใจกวนส้นใช่มั้ยเนี่ย อยากโดนใช่มั้ย” ก้านมองอยู่ในรถ เห็นเจิด เข้าอัดใหญ่แต่ใหญ่หลบ แล้วซัดเจิดจนหมอบคาบาทา ก้านหยิบปืนจากเก๊ะกระโดดลง “เฮ้ย หยุด” ก้านเล็งปืนไปที่ใหญ่ ครองสุขกดเครื่องคิดเลขอย่างมีความสุขวาดวิมานอยู่กับธีระในห้องทำงาน “แค่ขายสัตว์ทุกคอกออกไปก็ได้หลายแสนแล้ว ดีเลย ฉันไม่อยากเลี้ยงหรอก เหม็นสาบ สกปรก” “รื้อคอกสัตว์ออกแล้ว เราตั้งบ่อนเองยังได้ ในไร่ ในสวนแบบนี้ ไม่มีใครมาตรวจหรอก ลูกค้าที่รีสอร์ตก็วีไอพีทั้งนั้นรับรอง รวยไม่รู้เรื่อง” ครองสุขโอบธีระหน้าระรื่น “โอ๊ย พี่มีความสุขที่สุด ปีนี้ปีทองจริงๆ ได้ครอบครองไร่ไพศาล ตานะก็เรียนจบ แถมยังจะได้แต่งงานกับลูกปลัดกระทรวง มีแต่ยัยนีย์เท่านั้น” ครองสุขว่า ธีระอวยอีก “มีเงินซะอย่างเราจับคุณนีย์ใส่ตะกร้าล้างน้ำ ขี้คร้านจะหาหลานเขยรวยๆ ให้พี่ได้อีก” สองคนหัวเราะคิกคักกัน “ฉลาดๆ จริงนะผู้จัดการใหญ่” เสียงเจิดตะโกนเรียกดังลั่น “นายๆ” เจิดอยู่ในสภาพสะบักสะบอมโผล่พรวดเข้ามา ครองสุขกับ ธีระผละจากกัน “แกเป็นใคร พรวดพราดเข้ามาทำไม” “คนของผมเอง แล้วนี่ไปโดนอะไรมาวะ” ธีระหน้าตาตระหนก เจิดรีบบอก “มีคนมาขวางรถ ไม่ให้ขนวัวออกจากไร่ครับ” ธีระลุกพรวด “ใครวะ มากันกี่คน” “คนเดียวครับ มันอ้างว่าเป็นเจ้าของไร่ไพศาล มันยึดรถไป จับไอ้ก้านไปด้วย” เจิดรายงาน ครองสุขลุกตาม “จะบ้าเหรอ ชั้นนี่แหละเป็นเจ้าของที่นี่ มัน...มันไอ้โจร “ห้าร้อยที่ไหนกันแน่ กล้าดียังไง มาบุกไร่ของเรา” น้อยอยู่หน้าห้องถือไม้กวาดในมือชะงักกึก แอบฟัง ธีระยิ้มเหี้ยมประคองคุณนายลงนั่ง “ไม่ต้องห่วงครับ มาเดี่ยวๆ อย่างนี้ เดี๋ยวผมไปกระทืบมันเอง” ธีระหันไปต่อลูกกระจ๊อก “ใช้ไม่ได้ เดี๋ยวชั้นแสดงเอง” ธีระกับเจิดออกไปอย่างมั่นใจ ครองสุขเครียดจัด ผิดกับเมื่อครู่ลิบลับ ปิ่นอนงค์มืดแปดด้าน ตัดสินใจมากู้เงินกู้นอกระบบ ที่สำนักงานของเสี่ยตง แต่เดินออกมา สีหน้าผิดหวัง พร้อมกับหันกลับไปมอง ยินเสียงพนักงานชายลูกน้องเสี่ยดังก้องในหัว “จะกู้เงินตั้งสามแสนมันต้องมีอะไรมาค้ำ แค่เป็นคนงานไร่ไพศาล เครดิตมันไม่พอหรอก ปิ่นถอนใจ เดินต่อ สวนกับเสี่ยตงและลูกน้อง เสี่ยตงมองอย่างพึงใจ “สวยว่ะ เมียใครวะ” ลูกน้องคนที่เคยไปตามใหญ่ มองตาม นึกได้ “หน้าคุ้นๆ อ๋อ เป็นลูกสาวแม่บ้านไร่ไพศาลน่ะเสี่ย” เสี่ยตง “แล้วมาทำอะไรที่สำนักงานอั๊ววะ” ครู่ต่อมาปิ่นอนงค์ยืนรอจะข้ามถนนกลับไปโรงพยาบาล ลูกน้องเสี่ยงตงเข้ามาหา “น้องๆ” ปิ่นอนงค์มอง จำได้ “คะ” ลูกน้องเสี่ยถาม “น้องจะกู้เงินมั้ย” ปิ่นอนงค์อึ้ง “คุณรู้ได้ไง” “ก็สำนักงานที่น้องไปติดต่อมันของเสี่ยตงนายพี่ นายอยากคุยกับน้อง” “ฉันแค่ถามเฉยๆ ยังไม่กู้หรอกค่ะ” ปิ่นอนงค์จะเดินหนี ลูกน้องเสี่ยจับมือรั้งไว้ “ไปคุยหน่อยเผื่อเสี่ยใจดีไม่คิดดอก ไป” ปิ่นอนงค์ไม่พอใจสลัด “ไม่ค่ะ ฉันไม่ไป” ระหว่างนั้นจอมขับมอเตอร์ไซค์เข้ามาพอดี “เฮ้ย ทำอะไรวะ” ปิ่นอนงค์สลัดจนหลุด วิ่งไปซ้อนท้ายจอม “มันเป็นใคร” จอมสงสัย “ไม่มีอะไรรีบไปเถอะจอม” จอมออกรถไป ลูกน้องเสี่ยมองตามอย่างขัดใจ จอมแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มแถวนั้น ไม่เชื่อที่ปิ่นบอก “ทักคนผิดเหรอ จอมว่ามันจะลวนลามมากกว่าถึงมาฉุดไม้ฉุดมือ ดีนะที่จอมออกมาซื้อน้ำมัน แล้วปิ่นไปทำอะไรแถวนั้น” “ปิ่นไปกดเงินน่ะ” “พูดถึงเงิน ไร่ไพศาลคงจะแย่จริงๆ ขนาดค่าน้ำมัน พวกเรายังต้องเรี่ยไรเงินมาซื้อกันเลย ปิ่นรู้มั้ยคุณนายเอาเงินไปทำอะไรหมด” จอมบ่นอุบ “คงแค่หมุนเงินไม่ทันนะ ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอก” จอมเหน็บ “ไม่ใช่ไปเสียในบ่อนหมดเหรอ” “อะไรนะ” ปิ่นตาค้าง ไม่รู้เรื่องนี้ โทรศัพท์ปิ่นอนงค์ดังขัดจังหวะ ปิ่นอนงค์กดรับ “ฮัลโหล...จอมอยู่กับพี่ เดี๋ยวพี่จะวานให้ไปส่งที่โรงพยาบาล มีอะไรน้อย” ปิ่นอนงค์มีสีหน้าตกใจ “ฮะ มีโจรบุกมาปล้นวัวงั้นเหรอ” ปิ่นอนงค์มองหน้าจอมสองคนตกใจพอกัน ใหญ่ขับรถ 6 ล้อ กลับเข้ามาจอดหน้าคอกวัว แล้วก้าวลงจากรถมาขยับไม้กั้นประตูคอก อาการงงๆ ท่าทีงกๆ เงิ่นๆ ทำไม้กั้นตกหล่น ใหญ่เกาหัว ยืนเพ่งพินิจ ดูสลักไม้ที่กั้นประตู พยักหน้าเข้าใจ มีแคบไม้หน้าสามตีมาหมายหัวใหญ่ แต่ใหญ่หมุนตัวหลบฉาก จับไม้ได้ ยื้อแย่งกับเปี๊ยก หวานเอาเสียมมาช่วยตีใหญ่ เจอรุมเข้าใหญ่ต้องกระโดดหลบเข้าไปในคอกวัว “เฮ้ย ใจเย็นๆ ชั้นจะมาเอาวัวเข้าคอก” “แกเป็นพวกไหน ลูกน้องไอ้ธีระอีกหรือเปล่า” หวานถาม เปี๊ยกใบ้จอมบึกส่งสัญญาณให้หวานลุย ไม่ต้องคุย ใหญ่จำได้ ทำภาษาใบ้ ชี้เปี๊ยก แล้วชี้หน้าตัวเอง “เดี๋ยวๆ ชั้นไม่ใช่ลูกน้องใคร เราพวกเดียวกัน” หวานตอบแทน “ฉันไม่เคยรู้จักแก” “เดี๋ยวก็รู้จัก มาช่วยกันต้อนวัวเข้าคอกก่อน ชั้นทำไม่เป็น ไม่ถนัด เคยเห็นแต่พวกคนงานทำตอนชั้นเด็กๆ” ใหญ่เดินไปเปิดกระบะท้าย เห็นก้านถูกมัดอยู่ในนั้น ใหญ่กระชากก้านลงมากลิ้งหลุนๆ กับพื้น เปี๊ยกกะหวานมองอึ้งๆ แล้วส่ายหน้า ใหญ่สั่งการ “สามคนคงเอาไม่อยู่ ไปตามคนงานมาช่วยกันหน่อยสิ” สองคนมองกันงงหนัก จังหวะนั้นธีระขับรถเข้ามาจอด มีคนงานตามมาด้วย มองใหญ่ท่าทางกล้าๆ กลัวๆ ธีระลงจากรถ เดินนำลูกน้องเข้ามา ชี้หน้าใหญ่ “แกใช่มั้ย ที่มายึดรถ จะขโมยวัวของเรา” เปี๊ยกจ้องใหญ่รอฟัง “ใช้คำผิดแล้วมั้ง ของของฉัน ทำไมฉันต้องขโมย” ธีระตอกกลับ “แกบ้าหรือเมาวะ วัวพวกนี้มันเป็นของไร่ไพศาลโว้ย” “ก็ฉันเป็นเจ้าของที่นี่ ฉันพูดผิดตรงไหน” ธีระหัวเราะขำกลิ้ง “ฮะๆๆ ถ้าสารรูปอย่างแกเป็นเจ้าของไร่ไพศาล ฉันก็เป็นเจ้าสัวแล้วโว้ย เฮ้ย... พวกเราจับมัน” “เดี๋ยว คิดให้ดี ทำร้ายเจ้าของบ้าน ติดคุกสถานเดียว” คนงานลังเลสบตากันเลิ่กลั่ก กล้าๆ กลัวๆ ธีระสั่งเข้ม “ใครไม่กล้า กูไล่ออก” คราวนี้คนงานต่างหยิบฉวยอาวุธ มีด พร้า จอบ เสียม รายล้อมใหญ่ ใหญ่ส่ายหน้าระอาใจเหลือหลาย คว้าไม้รวกต้อนวัวเป็นอาวุธ คนงานเข้าตี ใหญ่หลบหลีกแคล่วคล่อง เอาไม้ตีก้นบ้าง ปัดขาให้ล้มบ้าง เตะ ถีบ พอให้เจ็บท้วมๆ แต่พอเข้าใกล้ก้าน ใหญ่จัดหนัก ใส่เต็มๆ เลือดกระเด็นจากปากก้าน เปี๊ยกกะหวาน ออกอาการกล้าๆ กลัวๆ ในช่วงชุลมุนนั้น ธีระชักปืนลูกโม่จากเอว เดินก๋าแหวกวงล้อมเข้าหาใหญ่ ทุกคนชะงักถอยกรูดพร้อมหน้า ใหญ่ชะงัก ธีระถือปืนเดินเข้าหา เห็นใหญ่เช็ดเหงื่อ ธีระเยาะ วางกล้ามตามนิสัย “กลัวตายล่ะซิ โดนหลายข้อหาแน่มึง” ใหญ่จับปืนในมือธีระหักออกด้านนอกตัว ธีระงอตัว ทรุดเข่า กระดูกแทบหัก ใหญ่ก้มกระซิบข้างหู “ปืนถ้าชักแล้วต้องยิง จำเอาไว้” ใหญ่ค่อยๆ ปลดปืนจากมือธีระ เตะเข้าที่หน้าอกธีระสามที แล้วปล่อยมือธีระหงายเงิบไป หวานกะเปี๊ยกลืมตัว เชียร์อย่างสะใจ ทางด้านครองสุขยังไม่รู้ชะตายิ้มแย้มคุยโทรศัพท์ทรรศนะที่อยู่ในย่านช้อปปิ้งเมืองนอก “ได้เงินแล้วใช่มั้ยตานะ ยังไงแสนนึงนี่ใช้ให้พอจนกลับนะ ตกลงจะกลับวันไหนแน่ น้าจะได้ไปรับ....อู๊ย ไม่ลำบาก จะได้เจอแฟนแกด้วย เห็นแต่ในรูป” มีเสียงเคาะประตู น้อยเปิดเข้ามาหน้าตื่น ครองสุขเอามือปิดโทรศัพท์ตรงที่พูด “มีอะไรนังน้อย บอกแล้วนะว่าถ้าไม่อนุญาตห้ามเข้ามา” “แต่คุณธีระให้มาเชิญคุณนายลงไปพบข้างล่างค่ะ” น้อยรีบบอก “ฉันคุยทางไกลเมืองนอกอยู่รอก่อน” “คงไม่ได้หรอกค่ะ คุณธีระถูกโจรจับตัวอยู่ข้างล่างค่ะ” คุณนายครองสุขผงะปล่อยมือจากโทรศัพท์ที่เอามือปิดเสียงอยู่ ลุกยืน “หา...ถูกโจรจับ” ทรรศนะได้ยิน ตะโกนอยู่ในสาย “อะไรนะครับแม่ แม่ครับๆ” ครองสุขตกใจมาก ออกอาการเลิ่กลั่ก ยกหูฟังต่อ สับสนไปหมด “ไม่มีอะไรตานะ ไม่มีอะไร มีลูกค้าวีไอพีมาที่รีสอร์ต น้าต้องรีบไปต้อนรับก่อน” ครองสุขวางหู อ่านละคร ปิ่นอนงค์ ตอนที่ 2 วันที่ 13 มิ.ย. 55 ละคร ปิ่นอนงค์ บทประพันธ์โดย : รจเรข ละคร ปิ่นอนงค์ บทโทรทัศน์โดย : ดลกมล คนหลังม่าน ละคร ปิ่นอนงค์ แนวละคร : โรแมนติก ดราม่า ละคร ปิ่นอนงค์ผลิตโดย : บริษัท มุมใหม่ จำกัด โดย อ๊อด ธีรศักดิ์ พรหมเงิน ละคร ปิ่นอนงค์ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ ละคร ปิ่นอนงค์ เริ่มออกอากาศตอนแรก วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายนนี้ ที่มา manager.co.th

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น