วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อ่านละคร เล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 3 (ต่อ) วันที่ 22 มิ.ย. 55

 

เอนกกับอนุทินเดินหน้าเครียดเข้าบ้านในเวลาต่อมา
        
       “ตอนแรกนึกว่ายัยเมย์จะได้เป็นสะใภ้คุณปู่ หวังจะพึ่งใบบุญมันบ้าง สุดท้ายก็แห้ว ตอนนี้ผมว่าเราไม่เหลืออะไรแล้วนะพ่อ”
       “อย่าคิดมากน่ะ ถึงยังไงเราก็ยังมีที่อยู่ที่กิน”
       “ต้องคิดสิพ่อ ไอ้ภูกับเมียมันไม่ได้ทำอะไรเลยนะอยู่ๆมันก็เข้ามาฮุบเอามรดกไปหน้าตาเฉย”
       “ทำไงได้ ก็เค้าเป็นทายาทโดยตรง”
       “แต่ผมไม่ยอมหรอก อย่างน้อยมรดกส่วนนึงก็ต้องเป็นของเรา”
       อนุทินเดินออกไปด้วยความหงุดหงิด เอนกได้แต่ถอนหายใจ
     
       ภายในห้องนอนของภูบดี ญาดาสวมใส่เสื้อวอร์มแขนยาวกางเกงวอร์มดูรัดกุม นั่งกอดหมอนกับผ้าห่มรอธาวินอยู่ปลายเตียง ธาวินเดินออกจากห้องน้ำก็ชะงักไปทันที
       “ตาลใส่เสื้อผ้าหนาขนาดนั้นไม่ร้อนหรือ”
       “ไม่ค่ะ ตาลเป็นคนขี้หนาว”
       ญาดายื่นหมอนและผ้าห่มให้
       “นี่ค่ะ”
       “ตาลจะให้ผมนอนที่โซฟาจริงๆเหรอ”
       “ก็จริงสิคะ ตาลไม่ได้พูดเล่น”
       “ทำไมล่ะ เราแต่งงานกันแล้วก็ต้องนอนเตียงเดียวกันสิ”
       “ถ้าคุณภูยืนยันว่าจะนอนบนเตียง งั้นตาลไปนอนโซฟาเองก็ได้”
       “ไม่ เราต้องนอนบนเตียงด้วยกัน”
       ธาวินฉวยโอกาสทีเผลอ อุ้มญาดาไปบนเตียง ญาดาไม่ยอมแพ้ถีบเข้าที่ห้องเครื่องจนธาวินจุก
       “ถ้าคุณภูทำแบบนี้ ตาลก็จะหนีไปนอนในห้องน้ำ”
       ญาดาหอบหมอนรีบเดินไปที่ห้องน้ำ ธาวินรีบขวางไว้แล้วถาม
       “ตาลมีอะไรปิดบังผมอยู่รึเปล่า”
       ญาดาตกใจ นึกว่า ธาวินจำความได้แล้วจึงต้องทำใจดีสู้เสือ
       “ไม่มีค่ะ ตาลไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบังคุณภู”
       “ไม่จริง ตาลมีท่าทีประหลาดทุกครั้งที่ผมพยายามจะใกล้ชิดเหมือนกับว่า เราสองคน
       เป็นคนแปลกหน้าต่อกัน ไม่ได้เป็นผัวเมียกันจริงๆ”
       “เอ่อ...” ญาดาได้แต่อ้ำอึ้ง
       “บอกผมมาเถอะว่ามีเรื่องอะไรกันแน่”
       ญาดามองหน้าธาวินแล้วคิดหาเรื่องแก้ไขสถาการณ์
       “ก็ได้คะ ถ้าตาลบอกไปแล้ว คุณอย่าเสียใจทีหลังนะ”
       “อืมม์ เรื่องอะไร”
       ญาดาตีหน้าเศร้าแล้วจ้องตาธาวิน
       “ที่ตาลเป็นอย่างนี้เพราะ ... หลังจากเราสองคนแต่งงานกันได้ไม่นาน ตาลก็จับได้คา
       หนังคาเขาว่าคุณนอกใจตาล”
       “ผมนอกใจตาล?”
       ญาดาพยักหน้าแล้วบีบน้ำตาสะอื้น
       “ใช่ค่ะ”
     
       ญาดาตัดสินใจตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จให้ธาวินฟัง...
       คืนนั้น... ญาดาถือถุงช้อปปิ้งเดินเลี้ยวมาตามทางเดินหน้าของโรงแรม
       “วันนั้นตาลออกไปช้อปปิ้งคนเดียวเพราะคุณภูอ้างว่าติดธุระ แต่ตาลไปคนเดียวไม่สนุก
       ก็เลยรีบกลับมาหาคุณ แต่ปรากฏว่า..”
       ญาดาเสียบการ์ดเพื่อเปิดประตูเข้ามา และเดินไปที่ห้องนอน ญาดาแง้มประตูเข้าไป
       เห็นธาวินกำลังนอนก่ายกอดอยู่กับชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่บนเตียง ทั้งสองคน ช่วงบนเปลือยเปล่า ท่อนล่างมีเพียงบอกเซอร์เท่านั้น
       ธาวินบรรจงจูบชายหนุ่มคนนั้น
       ญาดาร้องกรี๊ดเสียงดังลั่น ธาวินตกใจที่ญาดามาเห็นภาพบาดตา ญาดาทิ้งข้าวของวิ่งหนีออกไป ธาวินรีบใส่เสื้อผ้าแล้ววิ่งตาม
     
       ภายในห้องนอนของภูบดี ญาดาบีบน้ำตา
       “ตาลโกรธมากวิ่งหนีออกไปจากโรงแรมอย่างไม่มีสติ คุณภูก็วิ่งตามมาขอโทษ แล้วเราทั้งสองคนก็ถูกคนร้ายดักจี้จนคุณต้องเข้าโรงพยาบาล”
       ธาวินได้ยินเรื่องที่ญาดาเล่าก็ช็อกไป
       “นี่ผมเป็นเกย์เหรอ”
       “ค่ะ คุณเป็นเกย์ ชอบไม้ป่าเดียวกัน”
       “ไม่ ไม่จริง”
       “จริงค่ะ ไม่งั้นตาลจะรังเกียจคุณทำไมล่ะคะ ทุกครั้งที่คุณสัมผัสตาล ตาลก็จะเห็นภาพที่คุณจูบกับผู้ชาย ตาลบอกตรงๆนะคะ ตาลรับไม่ได้”
       “แต่ถ้าผมเป็นเกย์ทำไมทุกครั้งที่ผมอยู่ใกล้ตาล ผมถึงอยากกอด อยากหอม อยากจูบตาลล่ะ”
       “ก็ตอนนี้คุณสมองเสื่อมนี่คะ คุณเลยจำไม่ได้ว่าคุณชอบผู้ชายมากกว่าผู้หญิง หรือบางทีคุณอาจจะเป็นพวกเสือไบก็ได้ คุณไม่เห็นสายตาที่นายบุญทันมองคุณหรือคะ เค้าต้องเป็นพวก
       เดียวกับคุณแน่ เค้าถึงมองคุณแปลก ๆ”
       ธาวินนึกถึงแววตาที่บุญทันจ้องมองมาแล้วสะบัดหน้า
       “นี่ผมไม่อยากเชื่อเลยนะว่าผมจะเป็นเกย์”
       “เชื่อเถอะค่ะ เพราะคุณเป็นเกย์ คุณถึงขอตาลแต่งงานเพื่อบังหน้า ไม่ให้คุณปู่รู้ว่าคุณเป็นพวกเบี่ยงเบน”
       ธาวินมองหน้าญาดาอย่างคาดคั้น
       “ตาลไม่ได้หลอกผมใช่มั้ย”
       “ตาลจะหลอกทำไมล่ะคะ คนที่เจ็บปวดคือตาลนะคะที่ได้สามีเป็นเกย์”
       ธาวินกุมมือญาดาไว้
       “ผมขอโทษนะ ผมไม่น่าทำร้ายตาลเลย”
       “คราวนี้คุณภูคงเข้าใจตาลแล้วนะคะ”
       ธาวินพยักหน้าแทนคำตอบ
       “ผมเข้าใจแล้ว แต่ผมขอถามอย่างได้มั้ย”
       “อะไรคะ”
       “ในเมื่อผมเป็นเกย์ แล้วทำไมตาลถึงไม่เลิกกับผม”
       ญาดาอึ้งคิดคำตอบไม่ทัน
       “เอ่อ .. ก็ .. จะตอบยังไงดีล่ะคะคือตาล ตาลรักคุณภูค่ะ ตาลก็อยากจะเลิกกับคุณภูแต่ตาลก็ทำใจให้เลิกรักคุณไม่ได้”
       ญาดามองจ้องทำหน้าซึ้งใส่ ธาวินมองหน้าตญาดาอย่างซึ้งใจเหมือนจะร้องไห้
       “ขอบคุณนะตาล ผมก็รักคุณ”
       ธาวินดึงญาดาเข้ามากอด อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว
       “เราจะเริ่มต้นกันใหม่นะ”
       ตาลผละตัวออก
       “มันก็อยู่ที่ว่าคุณจะเลิกชอบผู้ชายได้รึเปล่า”
       “ได้สิผมต้องทำได้”
       “แต่ยังไงคืนนี้เราก็ต้องแยกกันนอนนะคะ จนกว่าสภาพจิตใจของตาลจะดีขึ้น นี่ค่ะหมอน”
       ญาดาส่งหมอนให้ ธาวินเดินคอตกไปนอนที่โซฟา ญาดายิ้มสะใจแล้วพึมพำกับตัวเอง
       “ช่วยไม่ได้ นายอยากบังคับชั้นเอง”
     
       เช้าวันใหม่ ภายในห้องนอนของภูบดี ธาวินยังหลับอยู่ที่โซฟา บุญทันเปิดประตูเดินเข้ามาหยุดมองธาวิน
       “คุณภูตื่นได้แล้วครับ เช้าแล้ว”
       ธาวินงัวเงียลืมตาขึ้นเห็นบุญทันชะโงกหน้าเข้ามามองแล้วยิ้มหวานให้
       “เช้าแล้วคร้าบคุณภู”
       ธาวินสะดุ้งตกใจร้อง “เฮ้ย!” ทันที
       “มอร์นิ่งค่ะ”
       บุญทันเคลื่อนหน้าเข้ามาทำท่าจะจ๊วบ ธาวินรีบพลิกตัวหลบจนตกโซฟา
       ญาดาเดินออกจากห้องน้ำในชุดใหม่เห็นธาวินตกโซฟาแล้วร้องโวยวาย
       “อย่าเข้ามานะ”
       “คุณภู เป็นอะไรรึเปล่าคะ”
       ธาวินขยับลุกขึ้นนั่งแล้วมองรอบตัวไม่เห็นบุญทัน
       “นี่ผมฝันไปหรือ”
       “ฝันอะไรหรือคะ”
       “เอ่อ ฝันร้ายน่ะจ้ะ”
       “ถ้าคุณภูจะนอนต่อก็ไปนอนบนเตียงนะคะ เดี๋ยวมีใครมาเห็นเค้าจะสงสัย”
       “แล้วนี่ตาลจะไปไหน”
       “ตาลจะลงไปเดินเล่นสูดอากาศหน่อยค่ะ”
       ญาดาเดินออกจากห้องไป ธาวินถอนใจเฮือก
       “เฮ้อ หลอนเลยเรา”
     
       ญาดาเดินออกมาจากตึกใหญ่ และสวนกับนภาที่เดินสวนเข้ามาในบริเวณนั้น
       “สวัสดีค่ะคุณป้านภา”
       นภามองญาดาด้วยสายตาเหยียดแล้วสะบัดหน้าไม่พูดด้วยเดินสวนทางเข้าบ้านไป ญาดามองตามอย่างงงๆ
       “เอ้า ทำไมมาเหวี่ยงใส่เรา”
       ญาดาส่ายหน้าแล้วเดินต่อไป เห็นเอนกกำลังเดินจ๊อกกิ้งอยู่จึงยกมือไหว้
       “สวัสดีค่ะคุณอาเอนก”
       เอนกพยักหน้ารับไหว้อย่างเสียไม่ได้แล้วเดินผ่านไปทันที ญาดามองตามอย่างเซ็งๆ
       “คนบ้านนี้เป็นอะไรวะ หน้าไม่รับแขกเลย”
     
       ญาดายังเดินมาตามทางแต่รู้สึกเหมือนมีคนตามอยู่จึงชะงักหันกลับไปมอง ที่ด้านหลัง แต่ไม่มีใคร ใครคนหนึ่งถือกรรไกรตัดกิ่งไม้เดินเข้าไปหาญาดาทางด้านหลังเหมือนจะแทง
       ญาดาสะดุ้งหวีดร้องขึ้น
       “ว้าย”
       ที่แท้ปารมีกำลังยิ้มให้ญาดาแต่ในมือถือกรรไกรตัดกิ่งไม้อยู่ข้างตัว
       “ขอโทษค่ะพี่ตาลที่ทำให้ตกใจ”
       “ไม่เป็นไรค่ะ พอดีตาลกำลังเหม่อ”
       “ตื่นเช้าจังเลยนะคะ”
       “ค่ะ เห็นอากาศดีก็เลยลงมาเดินเล่น คุณปาทำอะไรคะ”
       “ตัดดอกไม้ไปไหว้พระน่ะค่ะ เมื่อวานเย็นขอโทษด้วยนะคะที่ปากับคุณแม่ไม่ได้ไปทานข้าวด้วย พอดีคุณแม่ไม่ค่อยสบายน่ะค่ะ ปาก็เลยต้องอยู่ดูแล”
       “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
       “แล้วเมื่อคืนหลับสบายมั้ยคะ”
       “สนิทเลยค่ะ”
       อนุทินเดินเข้ามาพอดีแล้วชะงักไปที่เห็นญาดายืนอยู่ด้วย
       “ปา ขอโทษ ผมไม่รู้ว่ามีคนอื่นอยู่ด้วย”
       “คนอื่นที่ไหนล่ะคะ พี่เอ นี่พี่ตาลไงคะ”
       “เราเจอกันแล้วค่ะเมื่อคืน งั้นตาลขอตัวก่อนนะคะ”
       อนุทินมองตามญาดาที่เดินออกไป
       “คุยอะไรกัน”
       “ทักทายกันทั่วไปน่ะค่ะ พี่เอมีอะไรหรือ”
       ญาดาเดินเลี้ยวออกมาแล้วหันกลับไปมอง เห็นเอพูดอะไรกับปารมี ปารมีพยักหน้า ญาดาไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร
       “เที่ยงนี้เจอกันนะ” อนุทินบอกปารมี
       “ค่ะ”
       ปารมียิ้มรับ อนุทินจุ๊บปากให้ก่อนจะเดินไป ปารมีมองตามแล้วยิ้มเยาะที่รู้ว่า อนุทินกำลังหลงเสน่ห์ในตัวเธออีกคนเช่นเดียวกับสารวัตรสมยศ
 ภายในห้องน้ำในห้องภูบดี ธาวินนุ่งผ้าขนหนูยืนพิจารณาใบหน้าแล้วเอียงซ้ายเอียงขวาอยู่ที่หน้ากระจก ราวกับจะค้นหาตัวเอง เพราะยังติดใจสงสัยที่ญาดาบอกว่า เขาเป็นเกย์
     
       “เราก็ไม่ได้ดูสำอางตรงไหน”
       ธาวินยกแขนขึ้นดูกล้ามแล้วพึมพำต่อ
       “รูปร่างก็ธรรมดา ผู้ชายหุ่นแบบนี้ก็เยอะแยะ”
       ธาวินหลับตาแล้วลองเอามือลูบไล้หน้าอกของตัวเองดู ก็สะดุ้งลืมตาขนลุกด้วยความสยอง ยิ่งนึกถึงคำบอกเล่าของญาดาที่เห็นธาวินกอดจูบกับผู้ชาย
       “ฮึ่ย! นึกแล้วจะอ้วก”
     
       เมื่อธาวินเปิดประตูเดินออกจากห้องน้ำก็สะดุ้งที่เห็นบุญทันยืนรออยู่ในห้อง
       “มอร์นิ่งครับคุณภู”
       “มีอะไร”
       “ผมทราบว่าคุณภูเพิ่งออกจากโรงพยาบาล”
       “ใช่ แล้วทำไม”
       “เมื่อเช้าผมไปหาหมอ ก็เลยขอยาบำรุงมาเผื่อคุณภูด้วย”
       บุญทันหยิบซองยาขึ้นมาให้ดู วินมองสงสัย
     
       ย้อนกลับไปเมื่อเช้านี้ บุญทันคุยอยู่กับหมอในวัยไล่เลี่ยกันที่โรงพยาบาล
       “ยากล่อมประสาทเหรอ?” หมอพูดขึ้น
       “ใช่ แกพอจะมียาอะไรไปล้างฤทธิ์ยากล่อมประสาทได้บ้างวะ” บุญทันถาม
       “ก็พอจะมีนะ แต่ทางที่ดีควรจะพาคนไข้มารักษากับหมอมันถึงจะหาย ว่าแต่แกจะเอาไปให้ใครกิน
       วะ”
     
       ภายในห้องของภูบดี ธาวินมองยาในมือบุญทันด้วยสายตาหวาดระแวง
       “ขอบใจนายมาก แต่ว่าชั้นต้องกินยาของหมอคงกินยาของนายไม่ได้หรอก”
       “แต่ยานี่ไม่อันตรายนะครับเป็นยาบำรุง”
       “เอ่อ” ธาวินอ้ำอึ้ง
       “อย่าให้ผมเสียน้ำใจเลยนะครับ ผมเป็นห่วงคุณภูจริงๆ”
       วินมองบุญทันอย่างไม่ไว้ใจนึกถึงคำพูดที่ญาดากรอกหูไว้ทันที
       “คุณไม่เห็นสายตาที่นายบุญทันมองคุณหรือคะ เค้าต้องเป็นพวกเดียวกับคุณแน่ เค้าถึงมองคุณแปลก ๆ”
       บุญทันยิ้มพยักหน้าให้เสียงอ้อนวอน
       “นะครับ”
       “เออ เอาวางไว้นั่นแหละเดี๋ยวฉันกินเอง”
       ธาวินเดินเลี่ยงหนี แต่บุญทันเดินตามทันทีแล้วบอกย้ำ
       “แต่ยานี้ต้องทานก่อนอาหารครับ ผมว่าคุณภูควรจะทานเลยนะครับ แล้วค่อยลงไปทานอาหารเช้า”
       บุญทันแกะยาส่งให้แล้วเปิดขวดน้ำโพลาลิสส่งให้ ธาวินเริ่มกลัวทันที
       “ฉันบอกแล้วไงว่าเดี๋ยวกินเอง นายไปทำงานของนายเถอะ”
       “แต่การดูแลคุณภูก็เป็นงานของผมครับ”
       บุญทันขยับเข้าใกล้ในระยะประชิด ธาวินถอยหนี
       “อย่าเข้ามานะบุญทัน ฉันไม่รู้นะว่านายคิดยังไงกับฉัน แต่ฉันไม่ใช่พวกรสนิยมเดียวกับนายแน่”
       บุญทันเริ่มหมดความอดทน ธาวินถอยหลังไปชนผนัง บุญทันตามเข้ามายืนอยู่ใกล้ๆ
       “ผมว่าคุณภูทานยาก่อนเถอะครับ แล้วเราจะได้คุยกันผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง”
       “ทำไมฉันต้องเชื่อนายด้วย”
       “ทานเถอะครับ”
       “ไม่”
       บุญทันบีบปากธาวินเพื่อจะเอายายัดเข้าไป ธาวินปิดปากพยายามบิดตัว เอียงหน้าหนี
       ญาดาเปิดประตูเข้ามาพอดีแล้วพูดขึ้น
       “นั่นทำอะไรกันน่ะ”
       บุญทันชะงักไปทันที ธาวินสะบัดตัวหลุดจากบุญทันแล้ววิ่งเข้ามาหาญาดา
       “ตาลช่วยผมด้วย”
       “นายทำอะไรคุณภู บุญทัน”
       “เปล่าครับ ไม่มีอะไรผมขอตัวก่อนนะครับ”
       บุญทันมองหน้าธาวินก่อนเดินออกจากห้องไป ธาวินมองตามอย่างกลัว ๆ
       “มีอะไรกันคะ”
       “มันจะให้ผมกินยาอะไรก็ไม่รู้แต่ผมไม่กิน มันต้องคิดว่าผมเป็นสาวแล้วจะมอมยาผมแน่เลย”
       ญาดาแอบอมยิ้มในคำตอบแล้วรีบพูดย้ำลงไปในสมองของธาวินอีก
       “คราวนี้เชื่อรึยังล่ะคะว่าคุณภูน่ะเป็นเกย์”
       ธาวินพยักหน้าแล้วบอก
       “นี่ดีนะที่ตาลมาทันเวลา ไม่งั้นมันต้องขืนใจผมแน่”
       “ถ้างั้นเราควรจะบอกคุณปู่ให้ไล่เค้าออกมั้ยคะ”
       “ไม่ได้หรอกขืนบอกอย่างงั้นคุณปู่ก็รู้สิว่าผมเป็นเกย์”
       “แต่ถ้าเค้ามายุ่งกับคุณภูอีกล่ะ”
       “ผมจะพยายามอยู่ห่างๆ มันไว้”
       “ดีแล้วค่ะ”
       ธาวินจับมือญาดามากุมไว้
       “ผมสัญญานะว่าผมจะไม่กลับไปชอบผู้ชายด้วยกันอีก”
       “ค่ะ”
       ญาดายิ้มให้แล้วบอก
       “คุณภูไปแต่งตัวเถอะค่ะจะได้ลงไปทานข้าว”
       ธาวินเดินเข้าห้องน้ำไป ญาดานึกสงสัยในตัวบุญทันทันที
       “เอ๊ะ หรือนายบุญทันมันจะเป็นเกย์จริง ๆ”
     
       บุญทันเดินลงมาจากชั้นบน เจอมณทกานต์เดินเข้าบ้านมาพอดี
       “นี่นายมาทำอะไรบนตึกใหญ่เนี่ย”
       “ผมมาหาคุณภูบดีครับ”
       “มีธุระอะไรกับเค้า”
       “ผมคงไม่จำเป็นต้องบอกคุณเมย์มั้งครับ”
       “นายคงลืมไปนะว่านายเป็นคนงานในบ้าน ส่วนชั้นเป็นเจ้านาย ชั้นมีสิทธิ์รู้ทุกเรื่องของนาย”
       บุญทันมองมณทกานต์ด้วยสายตาเอือมระอา
       “ก็ได้ครับ ถ้าคุณเมย์อยากรู้ก็เอียงหูมาสิครับ ผมจะบอกให้”
       “ทำไมต้องกระซิบด้วย”
       “ก็มันเป็นเรื่องของผู้ชายที่ไม่ควรให้ใครได้ยินน่ะครับ เอียงหูมาสิครับ”
       บุญทันยิ้มเจ้าเล่ห์ มณทกานต์มองอย่างไม่ไว้ใจ
       “งั้นชั้นไม่อยากรู้แล้ว”
       เป็นจังหวะที่พิพัฒน์เดินเข้ามาพอดี
       “อ้าว ยัยเมย์ ทำไมวันนี้ตื่นเช้า”
       “เมย์จะมาบอกคุณปู่ว่า เมย์ตัดสินใจแล้วค่ะ เมย์จะไปฝึกงานที่บริษัท”
       “จริงหรือ”
       “จริงค่ะ เมย์จะตั้งใจทำงานให้เก่งเพื่อลบคำสบประมาทของทุกคน”
       “มันต้องอย่างนี้สิ ปู่ดีใจจริงๆ”
       พิพัฒน์ดึงมณทกานต์เข้ามากอด บุญทันมองตาม มณทกานต์โพล่งขึ้น
       “อ้าว ยังไม่ไปอีกหรือมายืนฟังอะไร”
       “อ๋อ เปล่าครับ ผมจะถามคุณท่านว่าวันนี้จะออกไปไหนรึเปล่า”
       “คิดว่าไม่ไปนะ วันนี้แกจะทำอะไรก็ไปทำเถอะ” พิพัฒน์บอก
       “ครับ”
       บุญทันเดินออกไป มณทกานต์พูดกับพิพัฒน์ต่อทันที
       “เมย์ว่าคนขับรถของคุณปู่ท่าทางแปลกๆนะคะ”
       “แปลกยังไง”
       “ไม่รู้สิคะ ดูไม่เหมือนคนขับรถทั่วๆไป บอกไม่ถูก”
       “ปู่ไม่ยักรู้ว่าแกก็ช่างสังเกตคนเหมือนกัน”
       “นี่คุณปู่ก็รู้สึกเหมือนเมย์ใช่มั้ยคะว่านายคนนี้ดูไม่ปกติ”
       “เปล่า ปู่ว่าบุญทันมันก็ปกติดี ไป กินข้าวกันเถอะ”
       พิพัฒน์เดินกอดมณทกานต์เข้าไปในห้องอาหารของบ้าน
     
       บนโต๊ะอาหารเช้า พิพัฒน์นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ ธาวินกับญาดานั่งคู่ติดพิพัฒน์ ปารมีกับนภานั่งถัดมา ส่วนมณทกานต์นั่งอีกฝั่งติดพิพัฒน์ ส่วนเอนกและอนุทินนั่งลำดับถัดไป
       “บ้านวริทธิวรนันท์ขอต้อนรับพี่ภูกับพี่ตาลค่ะ” มณทกานต์พูดขึ้น
       “ขอบใจจ้ะ” ธาวินบอก
       “ดีใจด้วยนะคะพี่ตาลที่มีสามีหล่อๆอย่างพี่ภู”
       “ที่พูดเนี่ยออกมาจากใจจริงรึเปล่ายัยเมย์” นภาถามขึ้น
       “ทำไมคะ”
       “อ้าว ป้าคิดว่าเธอควรจะเสียใจมากกว่านะที่คุณภูแต่งงานแล้ว”
       ญาดากับธาวินมองหน้ากันอย่างงงๆ
       “ชั้นว่าเธออย่าพูดแทนลูกสาวเลยนภา คนที่เสียใจน่าจะเป็นยัยปามากกว่าเพราะยัยเมย์ก็บอกแล้วว่าไม่อยากแต่งกับนายภู” เอนกพูดขัด
       “ทำไมคุณลุงเอนกพูดอย่างนี้ล่ะคะ ปาไม่ได้คิดอะไรนะคะคุณปู่” ปารมีบอก
       “เอาล่ะพอได้แล้ว จะพูดอะไรก็เกรงใจหลานชายกับหลานสะใภ้ชั้นบ้าง” พิพัฒน์พูดตัดบท
       “ขอโทษนะครับคุณปู่พูดเรื่องอะไรกันหรือครับ ขอผมรู้ด้วยคน” ธาวินถามขึ้น
       “ตอนแรกคุณปู่เค้าตั้งใจจะจับให้นายแต่งงานกับยัยเมย์หรือไม่ก็ยัยปา แต่นายดันมีเมียมาด้วย เลยผิดแผน” อนุทินพูดขึ้น
       “จริงหรือคะคุณปู่ ตาลขอโทษด้วยตาลไม่ทราบ” ญาดาบอก
       “จะมาขอโทษทำไม มันเป็นเรื่องที่ปู่คิดเล่น ๆ ขึ้นมา อย่าไปซีเรียส ถ้าเจ้าภูมันรักหนู ปู่จะไปห้ามมันได้ยังไงจริงมั้ยภู” พิพัฒน์บอก
       “ใช่ครับ คุณปู่”
       “พี่ภูกับพี่ตาลนี่น่ารักจังเลย ขอถ่ายรูปไปลงเฟซบุ๊กหน่อยนะคะ”
       มณทกานต์หยิบมือถือขึ้นมากดถ่ายรูปธาวินกับญาดาที่กำลังยิ้มให้กล้อง ปารมีมองอย่างไม่พอใจ
     
       หลังอาหารเช้า ญาดากับธาวินเดินกลับเข้ามาในห้อง ญาดาพูดขึ้น
       “ท่าทางคุณป้านภากับคุณอาเอนกจะไม่ถูกกันนะคะ”
       “นั่นสิ เห็นพูดอะไรก็ไม่ถูกหูกันซักเรื่อง”
       “แล้วเค้าเป็นญาติสายไหนของคุณภูคะ”
       “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ตาลลืมไปแล้วหรือว่าผมสมองเสื่อม”
       “เออ ใช่ ตาลลืมไป แต่น้องเมย์กับคุณปาก็น่ารักดีนะคะ ถ้าคุณปู่ให้เลือกระหว่างสองคนนี้ คุณภูจะเลือกใคร”
       “ไม่เลือกเลย”
       “อ้าว ทำไมล่ะคะ”
       “ผมจะเลือกทำไม ผมมีตาลอยู่แล้วทั้งคน”
       ธาวินเข้ามาโอบหลังญาดาไว้ ญาดาพยายามแกะมือตามเคย
       “ปล่อยค่ะ ตาลบอกแล้วไงว่าห้ามมาแตะต้องตัวตาล”
       “แต่ผมคิดว่าผมรักตาลจริงๆนะ เมื่อคืนผมนอนคิดทั้งคืน ผมว่าผมไม่ได้ชอบผู้ชายแล้วล่ะ” ธาวินจะหอมแก้ม ญาดารีบหลบทันที
       “แต่ตาลยังทำใจไม่ได้ค่ะ”
       ญาดาดันอกธาวินออกไปทันที เป็นจังหวะเดียวกับที่เสียงเคาะประตูดังขึ้น ญาดากับธาวินชะงักไป
       “เข้ามา”
       ต้นหอมเดินเข้ามาแล้วบอกว่า
       “มีตำรวจมาขอพบคุณภูค่ะ”
       “พบชั้น เรื่องอะไร”
       “เค้าบอกว่าจะมาสอบปากคำเรื่องที่คุณภูโดนจี้น่ะค่ะ”
       “อืมม์ เดี๋ยวชั้นลงไป”
       เมื่อต้นหอมเดินออกจากห้องไป ธาวินหันมองหน้าญาดาด้วยแววกังวล
       “บอกเค้าไปเหมือนที่ตาลเล่าให้คุณฟัง”
       ธาวินพยักหน้า
       
       

       โปรดติดตามตอนต่อไป 
ขอขอบคุณจาก manager.co.th

       




0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น