วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อ่านละคร ภูผาแพรไหม ตอนที่ 7 วันที่ 21 มิ.ย. 55


ที่แผนกเครื่องเขียนภายในห้างฯ แสงมณีเลือกซื้ออุปกรณ์วาดรูปโดยมีภูผากับทวีปคอยอารักขาตามหน้าที่ แสงมณีหันมาถามภูผาว่าชอบวาดรูปหรือเปล่า ชายหนุ่ม ตอบปฏิเสธอย่างสุภาพว่าตนไม่มีหัวทางศิลปะ
“ศิลปะอยู่ที่การฝึกฝนค่ะ ถ้าคุณอยากวาดก็บอกนะคะ ฉันพอจะแนะนำได้”
“ผมอยากวาด” ทวีปโพล่งขึ้น
แสง มณีเหลือบตามองเขาแวบเดียวก่อนเอ่ยว่า “คนที่จะวาดรูปได้ต้องเป็นคนจิตใจดี ภาพที่ออกมาจะได้ สะท้อนความคิดดีๆ อย่างคุณฝึกไปก็วาดไม่สวย อย่าเสียเวลาเลย”
“เจ้าว่าผมจิตใจไม่ดีเหรอ” ทวีปเสียงขุ่นไม่พอใจ

แสงมณีไม่ตอบ ยักไหล่ใส่แล้วหันหนี ทวีปยิ่งฮึดฮัดหมั่นไส้เหมือนจะไม่ยอม ภูผาเลยต้องเตือนสติเพื่อนโดยเร็วว่า

“อยู่ใกล้พยานปากเอกแล้วก็หยุดปากหมาซะบ้าง จะได้ไม่เสียโอกาสหาเบาะแสตามจับคนร้าย”

ทวีปรับ ฟังอย่างเซ็งๆ จำต้องเปลี่ยนท่าทีนอบน้อมเข้าไปหาแสงมณี ถามเธอว่าซื้อของเสร็จแล้วจะกลับบ้านหรือไปที่อื่นต่อ แต่คำตอบของเธอกลับทำให้เขาชักสีหน้าตั้งท่าจะเอาเรื่อง จนภูผาต้องกระแอมเตือน

“ถามทำไม” นั่นคือคำตอบแสนห้วนของเธอ ทวีปสะกดใจ เหลือบมองภูผาแวบหนึ่งก่อนพูดอย่างใจเย็นกับเธอ

“ก็เจ้าบอกว่าเวลาจะไปไหนให้ผมถาม ผมเลยถาม จะได้ขับรถพาเจ้าไปถูกไงครับ”

“ดีมาก” แสงมณียิ้มอย่างผู้ชนะ

“แล้วตกลงเจ้าจะไปไหนต่อครับ”

“แถวนี้แหละ...ทางนี้ค่ะคุณภูผา” แสงมณีเดินเลี้ยวไปทางหนึ่ง ภูผาหันมองทวีปอย่างขำๆ

เมื่อ เดินตามกันไปถึงหน้าร้านกาแฟ แสงมณีก็เล่นแง่กับทวีปอีก เธอชวนภูผาดื่มกาแฟแต่ไม่ชวนทวีป จึงโดนทวีปหาว่าลำเอียง เพราะตนกับภูผาต่างก็เป็นองครักษ์เหมือนกัน

“ก็มีแต่คุณภูผาที่พูดจาดีกับฉัน ฉันก็เลี้ยงเขาคนเดียวน่ะสิ เชิญค่ะคุณภูผา”

“ขอบคุณครับ”

แสงมณีเดินนำเข้าไป ทวีปโวยกับภูผาทันทีว่าตนพูดดีกับเธอแล้วนะ เธอนั่นแหละที่ไม่ยอมพูดดีกับตน

“ปากหมาใส่ตั้งหลายครั้ง พูดดีแค่สองประโยคจะให้เขาพูดดีด้วย แกนี่มันเอาแต่ใจจริงๆ เฝ้าหน้าร้านนะ ฉันจะระวังคนในร้านให้เอง”

ภูผา เดินตามแสงมณีไป ทวีปถอนหายใจอย่างหงุดหงิด แล้วครู่ต่อมายิ่งหน้าบึ้งไปกันใหญ่ที่เห็นพิพิธซึ่งอยู่ภายในร้านลุกไปร่วม โต๊ะกับแสงมณี โดยที่ภูผาลุกออกมาอย่างมีมารยาท แต่มันทำให้แสงมณีเสียโอกาสที่จะได้พูดคุยกับภูผาตามลำพัง

สมควรแก่เวลา แสงมณีกับพิพิธจึงแยกย้าย พิพิธกลับมาที่ร้านเพชรของตนและบอกเล่าให้พี่ชายฟังว่าเจอแสงมณีที่ร้านกาแฟ

“โดนคนตามฆ่ายังออกจากบ้านอีก ใจกล้าจริงๆ”

“เจ้าบอกว่าไม่อยากใช้ชีวิตบนความกลัวน่ะครับ”
“บอกตรงๆนะว่าเฮียไม่อยากให้แกอยู่ใกล้เจ้าแสงมณีเลย เฮียกลัวว่าเกิดอะไรขึ้นแกจะพลอยฟ้าพลอยฝนถูกลูกหลงไปกับเขาด้วย”

“ผมน่ะมีวิชา ดูแลตัวเองได้ แล้วก็มั่นใจว่าดูแลเจ้าแสงมณีได้ด้วย”

“เออ...เย็นนี้กินอะไรกันดี”

“เฮียอยากกินอะไรก็ตามสบายเลยครับ เพราะผมไม่อยู่ ผมนัดกินข้าวกับเพื่อนน่ะครับ” ว่าแล้วพิพิธหันไปเตรียมตัว...

เย็น วันเดียวกัน ปรางแก้วซื้อข้าวของมามากมายเพื่อฉลองที่ชัยคืนดีกับคนรัก แต่บุญศรีบอกตรงๆว่ากลุ้มใจ เพราะวันก่อนที่วนิดามาหา เธอพูดเองว่าแพรไหมเจ้าชู้ ตนเลยกลัวว่าแพรไหมจะทำให้ชัยเสียใจอีก

“คุณแพรทั้งสวยทั้งรวยน่าจะมีผู้ชายเข้ามาให้เลือกเยอะ แต่เขาเลือกคืนดีกับพี่ชัย แก้วว่าเขาต้องรักพี่ชัยจริงค่ะ”

“ป้าก็ภาวนาให้เป็นอย่างนั้น  ชัยจะได้มีความสุขซะที”

ooooooo

ส่ง แสงมณีถึงบ้านด้วยความปลอดภัยแล้วสองหนุ่มองครักษ์จึงลากลับ ฝ่ายแสงมณีทำท่าจะโดนดวงใจคาดคั้น เพราะไม่พอใจที่เธอไม่รีบกลับบ้าน ทั้งๆที่อยู่ในช่วงต้องระมัดระวังตัว แต่แสงมณีก็มีวิธีหลีกเลี่ยงด้วยของฝากสวยๆงามๆ ทำให้ดวงใจลืมเรื่องอื่นไปชั่วขณะหนึ่ง

ใกล้ค่ำแล้ว พันทิญายังอ้อยอิ่งไม่เตรียมตัวทั้งที่มีนัดกับชัย เธอคุยโทรศัพท์กับพิพัฒน์อย่างไม่มีทีท่าว่าจะเลิก กระทั่งแพรไหมต้องเดินมาส่งสัญญาณเตือนว่าเลยเวลานัดแล้ว พันทิญาจึงวางสายอย่างหงุดหงิด

เมื่อไปถึงร้านอาหารที่เป็นแหล่งนัด หมาย ชัยรอรับพันทิญาอยู่แล้ว แต่ไม่นึกว่าพิพิธจะนัดเพื่อนมาที่นี่ด้วย พิพิธเห็นเต็มตาว่าพันทิญาเดินไปกับผู้ชาย แล้วก็เห็นว่าทั้งคู่พากันออกจากร้านทั้งๆที่ยังไม่ได้ลงนั่งเลยด้วยซ้ำ

พัน ทิญามาเพื่อบอกเลิกชัย เธอจึงไม่อยากอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนเยอะๆ ขณะเดินไปถึงลานจอดรถชั้นสี่ภายในตึก พันทิญาตัดสินใจคืนแหวนให้ชัยด้วยหวังจะจบเรื่องให้เร็วที่สุด แต่ชัยตกตะลึง สีหน้าเต็มไปด้วยความงุนงง

“คืนแหวน...คุณหมายความว่าไง”

“แก นี่มันโง่เกินควายจริงๆ ผู้หญิงเอาแหวนมาคืน ยังไม่รู้อีกว่าหมายความว่ายังไง ไม่รู้ก็ยืนคิดให้ตายอยู่ตรงนี้แหละ” พันทิญาปาแหวนใส่ชัยแล้วเดินออกไปทันที

ชัยเก็บแหวนก่อนวิ่งตามมารั้งเธอไว้อย่างเว้าวอน “คุณจะเลิกกับผมเหรอ”

“อย่าใช้คำว่าเลิก เพราะเราไม่เคยคืนดีกัน”

“แต่คุณบอกว่าจะคืนดีกับผม”

“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว”

“คุณโดนแม่คุณบังคับให้เลิกกับผมอีกแล้วใช่ไหมครับ พาผมไปหาคุณแม่คุณเดี๋ยวนี้เลยนะครับ ผมจะคุยกับคุณแม่คุณเอง”

“ฉัน จะพูดเป็นครั้งสุดท้ายนะว่าแม่ฉันไม่เกี่ยว ฉันอยากเลิกกับแกเพราะฉันไม่ได้รักแก”  พันทิญามองชัยอย่างรำคาญ สะบัดแขนแล้วเดินต่อ ชัยวิ่งไปดักหน้าน้ำตาคลอ

“คุณแพร...บอกมาว่าผมต้องทำยังไงคุณถึงจะรักผม...ผมยอมทำทุกอย่าง”
“รวยให้ล้นฟ้า มีพ่อแม่เป็นไฮโซ...ถ้าแกทำได้ในชั่วข้ามคืน ฉันจะรักแก”

“ถึงผมจะจนมีพ่อแม่ผมจะเป็นคนธรรมดา แต่ผมก็รักคุณมากนะครับ”

“ความรักมันทำให้ชีวิตสุขสบายไม่ได้...ฉันไม่สนหรอก”

“ผมจะทำงานให้มากกว่านี้ผมจะหาเงินให้ได้มากๆ ผมสาบานว่าจะเลี้ยงดูคุณให้สุขสบาย อย่าเลิกกับผมเลยนะครับ”

“เจ้า ของร้านมือถืออย่างแกต่อให้ทำงานมากกว่านี้ร้อยเท่าก็ไม่มีวันรวยเท่าพ่อค้า เพชรแฟนใหม่ฉัน ฉันคงโง่มากถ้าเลิกกับเขากลับมาคบกับแก”

“แต่ผมอยู่โดยไม่มีคุณไม่ได้”

“อยู่ไม่ได้ก็ไปตายซะ” พันทิญาตะโกนด้วยความหงุดหงิดโมโห

เสียงนั้นทำให้พนักงานโบกรถตกใจวิ่งมาดู แต่ไม่กล้าเข้ามาห้ามเพราะเห็นเป็นเรื่องส่วนตัว

ชัยเริ่มร้องไห้ด้วยความเสียใจ และไม่ว่าเขาจะวิงวอนขอร้องเธอยังไงก็ไม่สำเร็จ ที่สุดชัยตัดสินใจขึ้นไปยืนบนขอบกำแพง

“คุณ แพร...ไม่มีคุณชีวิตผมก็ไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว ผมรักคุณ...ผมรักคุณมาก” พูดขาดคำ ชัยกระโดดหายลงไปเบื้องล่างท่ามกลางเสียงหวีดร้องของพันทิญากับเสียงตะโกน ของพนักงานโบกรถ

พันทิญาไม่คิดไม่ฝันว่าชัยจะโดดตึกฆ่าตัวตาย เธอชะโงกหน้าลงไปเห็นชัยนอนจมกองเลือดแล้วรีบวิ่งขึ้นรถขับออกไปโดยเร็ว

หลัง จากนั้นไม่นาน บุญศรีที่กำลังกินข้าวอยู่กับภูผา ทวีป และปรางแก้ว ก็ได้รับแจ้งข่าวร้ายนี้ บุญศรีถึงกับ เข่าอ่อนจะเป็นลม ส่วนคนอื่นๆพอรู้เรื่องก็ตกใจกันใหญ่

ขณะที่พวกภูผาพากันไปถึงโรงพยาบาล ฝ่ายพันทิญากลับมาถึงบ้านพอดี เธอนั่งหน้าซีดในรถ ท่าทางยังตื่นตระหนกตกใจไม่หาย

“ไอ้ บ้าชัย ไอ้โง่...แกทำแบบนี้ทำไม ถ้ามีคนจำหน้าฉันได้แล้วตำรวจตามตัว ฉันจะทำยังไง ตายตกนรกหมกไหม้ไปเลยนะ จะได้ไม่ต้องมายุ่งกับชีวิตฉันอีก”

พัน ทิญาสาปแช่งชัยด้วยความโมโห...วนิดากับแพรไหมเห็นพันทิญาไม่ลงจากรถเสียที จึงพากันออกมา แล้วซักถามว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม พันทิญาไม่กล้าพูดแต่มองเข้าไปในบ้านอย่างระแวง กลัวแม่จะรู้เห็น แพรไหมกับวนิดาจึงให้ความมั่นใจว่าท่านเพิ่งเข้าห้องทำงาน อีกนานกว่าจะออกมา

“แล้วเรื่องนายชัยเป็นไงบ้าง” วนิดาเร่งเร้า

“พันเอาแหวนคืนมันแล้วก็บอกเลิกมันค่ะ”

“แล้วคุณชัยเข้าใจพี่พันไหมคะ เขาโกรธพี่มากรึเปล่า”

“ไม่โกรธ...แต่มันเสียใจมาก...มากจนเป็นบ้า”

“คลั่งขนาดนั้นแล้วมันทำอะไรพันรึเปล่า”

“มันไม่ได้ทำพันค่ะ แต่มันทำตัวเอง”

วนิดากับแพรไหมสงสัยว่าชัยทำอะไร แล้วต้องตกใจ แทบช็อกเมื่อได้ยินพันทิญาบอกว่าชัยกระโดดตึกฆ่าตัวตาย

“แล้ว...แล้วเขาเป็นยังไงบ้างคะ”

“พี่ไม่รู้ เห็นมันโดดพี่ก็ตกใจเลยรีบขับรถออกมา... ถ้าไอ้ภูผารู้ว่าไอ้ชัยฆ่าตัวตายเพราะพัน มันอาละวาดแน่ๆ”

แพรไหมหน้าเจื่อนกลัวภูผาเอามากๆ  ขณะที่พันทิญากับวนิดาก็ร้อนใจมากเช่นกัน
 ขอขอบคุณจาก: .thairath.co.th

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น