วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อ่านละครภูผาแพรไหม ตอน 9 วันที่ 28 มิ.ย. 55

งานศพชัยจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย มีญาติสนิทมาแสดงความเสียใจกับบุญศรีและภูผาไม่มากนัก แพรไหมก็มาแต่ถูกภูผาตราหน้าว่าเธอคือฆาตกรเลือดเย็น  แถมเขายังจะไล่เธอออกจากงานถ้าบุญศรีไม่เข้ามาห้ามไว้

“ใจเย็นๆนะลูก หนูแพรไม่ได้ฆ่าชัยนะ”

“ถ้าเขาไม่ใช้เสน่ห์เล่ห์กลหลอกให้พี่ชัยหลงรัก พี่ชัยก็คงไม่ทำร้ายตัวเองจนตายหรอก...ไม่ได้ฆ่าก็เหมือนฆ่านั่นแหละ”

ภูผา เลี่ยงไปอย่างหัวเสีย แพรไหมไหว้บุญศรีก่อนเดินเข้าไปจุดธูปหน้าโลงศพขอโทษชัยแทนพันทิญา แล้วกลับมานั่งเพื่อฟังพระสวด สักครู่ปรางแก้วเข้ามาคุยกับเธอด้วยความเห็นใจ ไม่ได้คิดว่าเธอทำให้ชัยตายแต่ตนเชื่อในเรื่องกรรม คิดว่าพี่ชัยคงทำบุญมาแค่นี้

“ขอบคุณมากนะคะคุณปรางแก้ว คุณทำให้แพรรู้สึกดีขึ้นจริงๆ อย่างน้อยก็ยังมีคนเข้าใจบ้าง ดีกว่าถูกมองอย่างรังเกียจเหมือนแพรเป็นฆาตกร”

“พี่ภูผาคงเสียใจมาก เขามีพี่ชายคนเดียว แล้วก็รักกันมากด้วยค่ะ”

แพร ไหมมองไปที่ภูผาด้วยความเข้าใจและเห็นใจ ส่วนทวีปที่อยู่กับภูผาก็ปลอบใจเขาว่าแพรไหมคงไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันเลว ร้ายแบบนี้ และบางทีพี่ชัยอาจจะรักเขาข้างเดียวก็ได้

“แต่ถ้าเขาไม่ให้ความหวัง พี่ชัยก็คงไม่รักเขามากจนยอมทำร้ายตัวเองเพื่อประชดเขา”

“เออ ฉันเข้าใจ แต่แกก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปทำร้ายเขา ในทางกฎหมายเขาไม่ได้ฆ่าพี่ชัยนะ”

“ใช่...กฎหมาย เอาผิดเขาไม่ได้ แต่พี่ชัยตายเพราะเขา เขาต้องรับผิดชอบ” ภูผาสีหน้าโกรธแค้น ทวีปหนักใจแทนเพื่อน มองเห็นความยุ่งยากรออยู่ข้างหน้า...

เช่นเดียวกับพันทิญาที่เมื่อ รู้ว่าแพรไหมไปงานศพชัย เธอกลัวเรื่องจะโยงมาถึงตัวถ้าแพรไหมเผลอพูดความจริงขึ้นมาว่าที่แท้คนที่คบ กับชัยคือเธอ แต่วนิดาปลอบหลานรักว่าไม่ต้องกลัว พันไม่ได้ฆ่ามัน ขอให้จำไว้ว่ามันฆ่าตัวตายเอง

ไม่ทันที่แพรไหมจะกลับจากงานศพ พันทิญาก็หน้าระรื่นออกไปเที่ยวกับพิพัฒน์ โดยได้รับการสนับสนุน จากวนิดาอีกเหมือนเคย ส่วนศุภลักษณ์ ถึงแม้จะไม่ขัดขวาง แต่เธอก็เตือนผ่านวนิดาว่า ถ้าเห็นพิพัฒน์ดีจริง พันทิญาก็ควรจะจริงจัง เลิกทำตัวเป็นแม่พวงมาลัยลอยไปลอยมาสักที เพราะผู้หญิงเจ้าชู้ไม่มีใครเขาว่าดีนักหรอก

วนิดาไม่พอใจเถียงแทนหลานสาวว่า “ใครจะดีเลิศประเสริฐศรีเหมือนยัยแพรลูกสาวคุณพี่ล่ะคะ”

“พี่ก็ไม่เคยคิดว่ายัยพันเป็นคนอื่น แต่ที่ต้องพูดเพราะพี่รู้จักยัยพันดีน่ะสิ” ศุภลักษณ์พูดจบก็ผละไป วนิดามองตามอย่างแค้นเคือง...

ส่วน ที่วัด แขกกลับกันหมดแล้ว ทวีปอาสาไปส่งบุญศรีที่บ้านโดยมีปรางแก้วตามมานอนเป็นเพื่อนด้วย เพราะภูผาขออยู่เป็นเพื่อนศพที่วัด ส่วนแพรไหมกลับไปถึงบ้านด้วยความไม่สบายใจ แล้วบังเอิญเห็นพิพัฒน์มาส่งพันทิญาและแสดงความรักกันหวานแหวว โดยฝ่ายชายมอบสร้อยคอให้ฝ่ายหญิงแล้วได้รางวัลตอบแทนเป็นการหอมแก้มหนึ่งฟอด นั่นยิ่งทำให้แพรไหมรู้สึกสลดหดหู่ถึงกับตำหนิพี่สาวหลังจากฝ่ายชายกลับไป แล้ว

“คนตายทั้งคน...พี่พันยังมีแก่ใจไปเที่ยวกับคนอื่น”

“ช่วยไม่ได้มันอยากโง่เอง...หลีกไป พี่ง่วง”
“พี่พันคะ พี่พันไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอคะ คุณชัยตายเพราะพี่พันนะคะ”

“ฉันไม่ได้ทำอะไรมันนะ มันฆ่าตัวตายเอง แล้วแกจะให้ฉันไปรับผิดชอบอะไรมัน”

“แต่ พี่พันคงปฏิเสธไม่ได้ว่าพี่พันทำให้เขารัก... เหมือนที่พี่พันทำให้คุณพิพัฒน์หลงรัก แต่คุณชัยโชคร้ายที่เขาอ่อนแอเกินกว่าจะทนรับความผิดหวังได้ พี่พันจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้นะคะ พี่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าทำอะไรกับเขาไว้”

“แกเป็นน้องไม่มีสิทธิ์มาสอนฉัน”

“แล้ว พี่พันมีสิทธิ์เอาชื่อแพรไปหลอกเขาเหรอคะ พอเขาตายพี่พันจะผลักภาระมาให้แพรรับผิดชอบ มันถูกแล้วเหรอ” แพรไหมระบายด้วยความคับแค้นใจ เพราะเธอต้องแบกรับความแค้นของภูผา แต่พันทิญาไม่สนแถมจ้องน้องสาวอย่างไม่พอใจ ก่อนจะสะบัดหน้าเดินเลี่ยงเข้าบ้านไป ทิ้งแพรไหมยืนน้ำตาคลอ จะทำอย่างไรดีกับสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ooooooo

แสง มณีแสดงน้ำใจต่อภูผาที่เคยช่วยชีวิตตนไว้ด้วยการชวนแสงฉายมางานศพชัยในคืน นี้ ซึ่งการมาของสองพี่น้องแน่นอนว่าต้องมีคนตามอารักขาอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกัน แพรไหมก็พยายามคะยั้นคะยอขอร้องพันทิญาให้มาร่วมงาน แต่ผลก็คือเธอถูกพี่สาวด่าอีกตามเคย

แพรไหมเดินทางมาคนเดียวแล้วมา เจอพวกแสงฉายที่วัด แสงฉายแสดงความไม่พอใจเนื่องจากระแวงในความสัมพันธ์ของแพรไหมกับภูผา แต่แสงมณีก็คลี่คลายบรรยากาศ ไปได้ก่อนพากันเข้าไปเคารพศพและฟังพระสวด

ขณะ จุดสนใจของทุกคนอยู่ที่พระ พวกนักฆ่าจากเชียงทวายที่นำโดยอโณทัยกับเพื่อนอีกสี่คนก็ลอบเข้ามาวางระเบิด ใต้ท้องรถแสงฉายหมายเอาชีวิตให้จงได้ แต่ระหว่างทางภูผากับทวีปตามมาช่วย หลังพบพิรุธจากชายสองคนที่ลานจอดรถในวัด

ภูผาช่วยชีวิตทุกคนในรถคันนั้นได้อย่างฉิวเฉียด เพราะเหลือเวลาอีกไม่ถึงห้านาที ระเบิดก็จะทำงาน

แพร ไหมซึ่งโดนแสงฉายบังคับให้นั่งรถมาด้วยตกใจมาก และพอรู้ว่าภูผาบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ก็เป็นห่วงรีบเข้าไปดู แต่ภูผากลับด่ากระทบจิตใจจนเธอยืนอึ้ง แทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่

จากนั้น ทวีปพาภูผาที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่แขนไปบ้านของตนเพื่อให้ปรางแก้วทำแผล เสร็จแล้วสองพี่น้องก็ช่วยกันเกลี้ยกล่อมภูผาให้เลิกอาฆาตแพรไหมเพราะเธอไม่ ได้ตั้งใจทำให้ชัยตาย แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล เพราะถึงแม้ภูผาจะไม่พูดอะไร แต่สีหน้าและแววตาของเขานั้นบ่งบอกว่าโกรธแค้น

ส่วนเรื่องที่เจ้าแสง ฉายถูกตามฆ่า ทวีปยังคิดไม่ตกว่าศัตรูของเจ้าคือใคร ขณะที่ภูผามั่นใจว่าเจ้าต้องรู้ ไม่งั้นคงไม่กล้าจ้างพวกเราแพงขนาดนี้

ด้าน แพรไหมเมื่อกลับไปถึงบ้านก็รีบเล่าเรื่องเฉียดตายที่เกิดขึ้นให้แม่ฟัง ก่อนจะวิงวอนขอร้องให้แม่ยกเลิกงานแต่งของตนกับเจ้าแสงฉายเพราะตนไม่อยาก เสี่ยงอันตรายอีกต่อไป ศุภลักษณ์คิดหนักเพราะรักและห่วงลูก แต่ด้วยเหตุผลบางประการทำให้เธอต้องฝืนใจตอบลูกสาวว่า

“แม่เชื่อว่า เจ้าดูแลลูกได้ เจ้ารักแพรนะลูก เขาคงไม่ปล่อยให้ลูกของแม่เป็นอันตรายหรอก...ที่สำคัญ ทุกอย่างมันเตรียมการไว้หมดแล้ว แม่จะบอกเขาว่ายังไงล่ะลูก”
“แค่แพรไม่ได้รักเขาก็พอแล้วมั้งคะ...คุณแม่ขา... เลิกล้มการแต่งงานเถอะนะคะ ชีวิตแพรทั้งชีวิตนะคะ อย่าให้แพรต้องทนอยู่กับคนที่แพรไม่รักเลย”

แพรไหมอ้อนวอนทั้งน้ำตา ศุภลักษณ์เมินหน้าซ่อนน้ำตาที่กำลังจะไหล แล้วยื่นคำขาดว่าลูกต้องแต่ง!

“แม่คิดดีแล้ว ผู้หญิงสักกี่คนที่จะโชคดีได้รับโอกาสที่ดีที่สุด แต่เจ้าอยากได้ลูกเป็นเจ้าหญิงของเขา”

“ไม่ใช่แค่นั้นใช่ไหมคะคุณแม่ มีเหตุอะไรที่มากกว่านั้นเหรอคะ ทำไมคุณแม่ต้องเกรงใจเขาด้วย”

ศุภ ลักษณ์นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจบอกเหตุผลที่แท้จริง “เขากำลังจะเปิดโรงงานผ้าไหมส่งออกที่เมืองไทย ด้วยเงินลงทุนกว่าพันล้านบาทเชียวนะลูก ถ้าแพรได้แต่งงานกับเขา โรงงานนี้เขาจะยกให้แพร”

“แต่แพรไม่ต้องการ แพรไม่อยากเป็นเจ้าหญิง ไม่อยากเป็นเจ้าของโรงงาน แพรอยากจะเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่สามารถใช้ชีวิตอย่างที่ใจต้องการ”

แพร ไหมไม่ต้องการ แต่พันทิญาที่แอบฟังอยู่กับวนิดาต้องการอย่างที่สุด...สองน้าหลานรีบกลับไป คุยกันในห้อง พันทิญาอยากเป็นเจ้าหญิงจนเนื้อเต้น และคิดจะเขี่ยพิพัฒน์ให้เร็วที่สุด โดยวนิดาสนับสนุนเต็มที่ แนะให้หลานรักหาโอกาสหว่านเสน่ห์เจ้าแสงฉาย อย่าปล่อยให้เขาหลุดมือ ที่สำคัญอย่าให้แพรไหมได้ดีกว่าเป็นอันขาด

เพียงวันรุ่งขึ้น พันทิญาก็รุกหนักด้วยการเดินทางไปพบแสงฉายถึงบ้าน และแสดงความเป็นห่วงสอบถามเหตุการณ์เมื่อคืนที่รถโดนวางระเบิด

“พวกมันทำอะไรผมไม่ได้หรอก ฝีมือมันกระจอกเกินไป...ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง”

“พันห่วงเจ้าอยู่แล้วล่ะค่ะ ห่วงมานานแล้วด้วย แต่เจ้าไม่สนใจเอง”

ทั้งคำพูดและสายตาของเธอเปิดเผยความรู้สึกชัดเจน แถมยังพยายามทำให้แสงฉายรู้สึกไม่ดีต่อแพรไหมยิ่งขึ้นด้วยการใส่ไฟว่า

“เมื่อคืนยัยแพรก็ทะเลาะกับคุณแม่อีกแล้ว จะยกเลิกงานแต่งงานให้ได้ ไม่รู้ว่าแอบไปมีใจให้ใคร”

“หมดธุระของคุณแล้วใช่ไหม”

พัน ทิญาหน้าเจื่อนที่ถูกไล่ แต่ยังพยายามใจเย็นต่อไป “พันกลับก็ได้ค่ะ พันก็แค่ไม่อยากให้เจ้าไว้ใจยัยแพรนัก เจ้าลองคิดดูนะคะว่าทำไมยัยแพรถึงไม่อยากแต่งงานกับเจ้า ทั้งที่เจ้าออกจะหล่อ รวย แล้วก็มีเสน่ห์... บางทียัยแพรอาจจะแอบมีใจให้คนอื่นอยู่ก็ได้นะคะ ไม่อย่างงั้นคงไม่หาทางล้มเลิกงานแต่งงานกับเจ้าหรอกค่ะ”

พล่ามจนจบ แล้วหญิงสาวหันหลังจะกลับออกไปแต่แกล้งทำเท้าพลิกเซจะล้ม ซึ่งได้ผลสมใจหวัง เขารีบรับร่างเธอไว้ในอ้อมแขน แต่พอเธอกอดรัดเขาแน่นอย่างยวนยั่ว เขากลับไม่เล่นด้วย ดึงตัวเองออกแล้วบอกว่าจะไปส่งเธอที่รถ

พันทิญาหน้าตึง จำต้องเดินตามเขาไป พลางคิดในใจว่า...ยิ่งยากยิ่งท้าทายให้อยากเอาชนะ

ooooooo

เย็น วันเผาศพชัย บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศก แพรไหมมาร่วมอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย แต่ไม่คิดว่าเธอจะโดนภูผาที่เสียใจอย่างหนักฉุดกระชากลากตัวขึ้นรถแล้วพาออก ไปจากวัดโดยไม่มีใครรู้เห็น

ภูผาพาแพรไหมไปยังจุดที่ชัยกระโดดตึก เขาต้องการให้เธอรับผิดชอบชีวิตพี่ชายของเขาด้วยชีวิตของเธอ

“คุณจะทำอะไรฉัน...ปล่อยฉันเถอะ ฉันรู้ว่าคุณเสียใจที่พี่ชายคุณตาย แต่ฉันไม่ได้ฆ่าเขา”

“คุณ นั่นแหละทำ บอกมา...คุณพูดอะไรให้เขากระโดดลงไป ไม่อย่างงั้น ผมจะโยนคุณลงไปเอง ให้ตายตกไปตามพี่ชัย พี่ชัยจะได้ไม่ต้องตายอย่างโดดเดี่ยว...เขารักคุณมากนี่ คุณน่าจะไปอยู่กับเขา”
ขอขอบคุณจาก thairath.co.th 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น