วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อ่านละครมณีแดนสรวง ตอนที่ 1 เริ่ม จันทร์ที่ 16 ก.ค. นี้

เรื่องย่อ จบบริบูรณ์ คาแร็คเตอร์ตัวละคร
      
       “มณีแดนสรวง”
      
       บทประพันธ์ : พงศกร
       บทโทรทัศน์ : ณัชภีม
       กำกับการแสดง : คมกฤษ ตรีวิมล
       ผลิต : บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
       แนวละคร : โรแมนติก - แฟนตาซี
       ออกอากาศ : จันทร์ - ศุกร์ เวลา 18.30 น. - 20.00 น. ทางช่อง 3
       ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่มศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม -
       จำนวนตอนออกอากาศ : - 20+ ตอน
      
       รัศมิชโลธร หรือ ชิโล เป็นนางฟ้าอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เธอเป็นนางฟ้ารุ่นเด็กที่ยังต้องเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ในโลกมนุษย์และสวรรค์อีกมาก แม้จะเป็นธิดาหัวแก้วหัวแหวนของ เทพบิดา หนึ่งในสามสิบสองเทพผู้เป็นใหญ่แห่งดาวดึงส์ แต่รัศมิชโลธรก็ต้องไปเรียนหนังสือเหมือนกับเทพบุตรและเทพนารีองค์อื่นๆ เธอมีเพื่อนสนิทเป็นเทพบุตรหนุ่มรูปงามชื่อว่า อุ้มสม
       ทั้งคู่ชอบชวนกันเล่นสนุก แกล้งเทพนารี เทพบุตรองค์อื่นๆ อยู่เป็นอาจิณ จนพระอาจารย์ต่างพากันเบื่อหน่าย แต่ไม่มีใครกล้าทำอะไรรัศมิชโลธร เพราะพ่อของเธอเป็นเทพที่มีอำนาจสูง วันหนึ่งหลังจากเรียนวิชาพรหมลิขิตเสร็จเรียบร้อย รัศมิชโลธรนึกสนุก ชวนอุ้มสม-เทพบุตรผู้เป็นเพื่อนสนิท แอบเข้าไปในห้องของพระอาจารย์เพื่อดูสมุดพรหมลิขิต แอบดูเนื้อคู่ของพวกมนุษย์ด้วยความซุกซน
       “อยากรู้นักว่าทำไมอาจารย์ถึงรู้ ว่าใครเป็นคู่กับใคร” รัศมิชโลธรบอกเพื่อน “ต้องมีบอกไว้ในสมุดปกหนังเล่มนั้นแน่ๆ”
       สมุดเล่มนั้นวางอยู่บนโต๊ะกลางห้อง รัศมิชโลธรและอุ้มสมเหลียวซ้ายแลขวาเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีผู้ใดเห็น จากนั้นเทพทั้งสองก็ไปเปิดสมุดดูด้วยความตื่นเต้น ในสมุดเล่มนั้นจารึกชื่อผู้คนไว้มากมาย หลายๆ ชื่อมีเส้นใยบางๆ โยงเข้าหากัน นั่นคือสมุดที่บอกให้รู้ว่าใครเป็นคู่แท้กับใครนั่นเอง รัศมิชโลธรพบด้วยความบังเอิญว่า มีหญิงชายคู่หนึ่งกำลังจะแต่งงานกัน โดยที่จริงแล้วเขาทั้งสองไม่ใช่คู่แท้กัน นางฟ้าจอมซนเลยคิดว่าไม่ควรปล่อยให้คนทั้งสองได้แต่งงานกันไป เพราะอีกไม่นานก็จะต้องหย่ากันอยู่ดี
       ดังนั้นเธอเลยชวนอุ้มสมให้ลงไปล่มงานวิวาห์ของชายหญิงคู่นี้ด้วยกัน โดยรัศมิชโลธรจำแลงกายเป็นหญิงสาวสวย เข้าไปตะโกนในงานวิวาห์คัดค้านการแต่งงานระหว่างของ ร.ต.อ. ดรัณ และ สิริสุดา จนทำให้งานล่มไปในที่สุด
       “แต่งไม่ได้ ฉันขอคัดค้านการแต่งงานในครั้งนี้” รัศมิชโลธรในร่างจำแลงตะโกนกลางโบสถ์ ท่ามกลางความตกตะลึงของแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน “เพราะฉันกับเจ้าบ่าวเป็นกิ๊กกัน”
       อันที่จริงดรัณและสิริสุดาไม่ควรจะได้แต่งงานกันแต่แรกแล้ว เพราะดรัณเป็นนายตำรวจแห่งกองปราบปรามคดีพิเศษ ส่วนสิริสุดานอกจากเป็นนางแบบชื่อดังแล้ว เธอยังเป็นลูกสาวของ เจ้าพ่อทองทิว อีกด้วย พ่อของสิริสุดาเป็นเศรษฐีใหญ่ มีธุรกิจบ้านจัดสรรบังหน้า แต่เบื้องหลังมีธุรกิจที่ผิดกฎหมายมากมาย
       การที่ดรัณและสิริสุดาได้มาพบกัน เป็นเพราะ ผู้การดำเกิง หัวหน้าหน่วยสืบสวนพิเศษของกรมตำรวจ ต้องการล้วงความลับของนายทองทิว เพราะมีข่าวว่าเขากำลังจะส่งหญิงสาวจำนวนมากไปขายให้กับเศรษฐีทางตะวันออก กลาง ผู้การดำเกิงเลยส่งให้ชายหนุ่มมาตีสนิทกับสิริสุดา เพื่อสืบความเคลื่อนไหวของเจ้าพ่อทองทิว สืบไปสืบมากลายเป็นว่าดรัณเกิดหลงรักสิริสุดาขึ้นมาจริงๆ ถึงขั้นขอแต่งงาน
       หลังจากทดสอบดรัณอยู่นานจนแน่ใจแล้วว่า ดรัณไม่ได้เปลี่ยนใจไปเข้าข้างกับนายทองทิว ผู้การดำเกิงจึงอนุญาตให้เขาแต่งงานได้ เพราะมั่นใจว่าดรัณเป็นผู้ใหญ่พอที่จะแยกแยะงานและเรื่องส่วนตัวออกจากกัน ได้ ส่วนเจ้าพ่อทองทิวอนุญาตให้สิริสุดาแต่งงานกับตำรวจ ทั้งๆ ที่ไม่ชอบเลยสักนิด เป็นเพราะเขาอยากให้ทุกอย่างดูแนบเนียน เขาคิดว่าถ้ามีลูกเขยเป็นตำรวจ เรื่องที่สังคมครหานินทาเรื่องผิดกฎหมายของเขาคงจะหมดไปเสียที เพราะถ้าเขาทำธุรกิจผิดกฎหมายจริงๆ ล่ะก็ คงไม่ยอมให้ลูกสาวคนเดียวแต่งงานกับตำรวจแน่ๆ
       เป็นอันว่างานวิวาห์ของดรัณและสิริสุดาก็ล่มไปตามแผนของรัศมิชโลธร ท่ามกลางความสงสัยของ ร.ต.อ. สการ หรือแซมมี่ เพื่อนสนิทของเจ้าบ่าว และ เอิงเอย เพื่อนเจ้าสาว ในวันงานหลังจากรัศมิชโลธรตะโกนคำว่า “แต่งไม่ได้” เสร็จ ก็วิ่งหนีออกจากโบสถ์ไป โดยมีสการวิ่งไล่ตามไปติดๆ แต่แล้วเธอก็กลับหายตัววับไปต่อหน้าต่อตาของชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว ไร้ร่องรอย สร้างความประหลาดใจให้กับสการยิ่งนัก
       สการเป็นนายตำรวจหนุ่มหล่อ ปีที่ผ่านมาเขาเคยช่วยเหลือผู้หญิงที่ถูกพ่อเลี้ยงจับไปขาย ปกป้องจนหญิงสาวผู้นั้นปลอดภัย เขาจึงได้รับการโหวตจากสภาสตรีให้เป็นแมนออฟเดอะเยียร์ ตอกย้ำความฮ็อตของเขาให้มากขึ้นไปอีก สการมีแฟนเป็นนักข่าวสาวชื่อ มัดหมี่ มัดหมี่เป็นคนจุ้นจ้าน ขี้หึง ชอบเข้ามาวุ่นวายกับสการบ่อยๆ จนทำให้หลายครั้งสการเสียงานเพราะความวุ่นวายของมัดหมี่ เมื่อเกิดเหตุการณ์กิ๊กมาถล่มงานวิวาห์ของดรัณ สามสาวคือสิริสุดา เอิงเอย และมัดหมี่ จึงรวมตัวกันเพื่อสืบหาหญิงสาวลึกลับคนนั้นให้จงได้
       สการกับดรัณเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน เขารู้ว่าก่อนมาคบกับสิริสุดา ดรัณเป็นหนุ่มหล่อจอมเจ้าชู้ มีกิ๊กเล็กกิ๊กน้อยมากมาย แต่สการไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนี้มาก่อน เลยสงสัยว่าเธอเป็นใครมาจากไหนกันแน่ เมื่อไปดูภาพในกล้องวงจรปิด ก็พบว่าภาพงานวิวาห์ปกติมาตลอดจนกระทั่งรัศมิชโลธรมาปรากฏตัว กล้องก็สว่างวาบจนจับภาพอะไรไม่ได้ ภาพที่บรรดาแขกเหรื่อถ่ายเอาไว้ก็ไม่มีใครจับภาพของรัศมิชโลธรได้สักคนเดียว
       เจ้าพ่อทองทิวโกรธมากที่ลูกสาวถูกหักหน้า จึงใช้สมุนไปจับดรัณมาซ้อมอย่างเหี้ยมโหด สิริสุดาใจแข็งไม่ยอมไปเยี่ยม เพราะเธอยังไม่หายโกรธเขาที่ฉีกหน้าหล่อนกลางงานวิวาห์
       รัศมิชโลธรและอุ้มสมกลับไปยังดาวดึงส์ด้วยความรื่นเริง เพราะทำสำเร็จตามแผนการ แต่สิ่งที่เธอทำลงไปนั้นผิดกฎสวรรค์อย่างร้ายแรง เทพบิดาโกรธมากที่ลูกสาวใช้อำนาจทิพย์ไปเปลี่ยนชะตากรรมของมนุษย์ รัศมิชโลธรจึงถูกเทพบิดาลงโทษด้วยการส่งตัวลงมาเป็นมนุษย์เดินดินที่ไม่มี อำนาจวิเศษใดๆ ส่วนอุ้มสมถูกสาปลงมาเป็นนกแก้วพูดได้
       เทพบิดาจะคืนความเป็นทิพย์ให้รัศมิชโลธรและอุ้มสมก็ต่อเมื่อ เทพบุตรและเทพธิดาทั้งสองหาทางทำให้ดรัณและสิริสุดากลับมาแต่งงานกันได้ เหมือนเดิม จึงจะได้รับอภัยและสามารถกลับไปอยู่สวรรค์ได้อีกครั้งหนึ่ง
       เทพมารดา และ รัศมิพรรณราย สงสารน้องสาวมาก จึงพยายามอ้อนวอนเทพบิดาให้ยกโทษให้รัศมิชโลธร แต่เทพบิดาไม่ตกลง เพราะสิ่งที่รัศมิชโลธรทำลงไปในครั้งนี้รุนแรงเกินกว่าจะให้อภัยได้ เธอต้องถูกลงโทษเพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างแก่เทพนารีและเทพบุตรองค์อื่นๆ แต่ด้วยความที่เป็นลูกรัก ไม่เคยถูกลงโทษสถานหนักเช่นนี้มาก่อน เทพบิดาเลยใจอ่อน ยอมมอบพรวิเศษสามประการให้รัศมิชโลธรสำหรับไว้ใช้ในยามคับขัน แต่มีข้อจำกัดว่าพรทั้งสามข้อ ห้ามใช้เพื่อทำให้ดรัณกลับมาคืนดีกับสิริสุดา ชายหญิงสองคนนั้นต้องกลับมาคืนดีกันด้วยความยินยอมพร้อมใจของตัวเองเท่านั้น
       รัศมิชโลธรและอุ้มสมถูกส่งมายังโลกมนุษย์พร้อมกับดาวหาง ทุกอย่างอยู่ในสายตาของ อสุเรศ อสูรร้าย พร้อมด้วย อัคราสูร และ จิตราสูร ผู้เป็นบริวาร
       อสุเรศกับรัศมิชโลธรเคยเป็นคู่กรณีกันมาก่อน สมัยที่รัศมิชโลธรเป็นนางฟ้า เธอเคยแอบจำแลงกายเป็นมนุษย์ลงมาเที่ยวเล่นในโลก และถูกอสุเรศซึ่งแปลงกายเป็นมนุษย์ขึ้นมาเที่ยวเล่นบนโลกลวนลามเอา เธอโกรธอสูรร้ายมากที่ไม่เจียมตัว บังอาจมายุ่งวุ่นวายกับเทพนารีไฮโซอย่างเธอ ก็เลยสำแดงอิทธิฤทธิ์กล้อนผมอสุเรศเสียจนศีรษะล้าน เป็นที่อับอายแก่อสูรทั้งหลาย อสุเรศจึงผูกใจเจ็บตั้งแต่นั้นมา เขาตั้งใจว่าจะหาโอกาสแก้แค้นรัศมิชโลธรให้ได้ในวันหนึ่ง
       โอกาสนั้นมาถึงอสุเรศเร็วเกินคาด อสูรหนุ่มเห็นรัศมิชโลธรถูกสาปเป็นมนุษย์ หมดสิ้นสภาพความเป็นทิพย์ จึงวางแผนกับลูกสมุนจะจับตัวเธอไปเป็นเมียและกักขังไว้ที่พิภพอสูรให้จงได้ อสุเรศเป็นลูกชายของจอมอสูร มีนางอสูรสาวๆ เป็นเมียมากมายอยู่แล้ว เมียเอกของอสุเรศก็คือ นางราคะ นางโทสะ และ นางโมหะ สามพี่น้องผู้ร้ายกาจ
       รัศมิชโลธรได้มาอยู่คอนโดหรูที่เทพบิดาเตรียมไว้ให้ เธอต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตอย่างมนุษย์ ต้องทำกับข้าว ซักผ้า หุงหาอาหารด้วยตนเอง ไม่มีภาวะอิ่มทิพย์เหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป อุ้มสมเองก็ต้องเรียนรู้การเป็นนกแก้วพูดได้ พร้อมกันนั้นทั้งสองก็ต้องช่วยกันหาวิธีการให้ดรัณและสิริสุดากลับมาคืนดี กันให้ได้ ช่างบังเอิญอย่างมากมาย ที่ห้องพักของรัศมิชโลธรอยู่ชั้นเดียวกับห้องพักของสการโดยที่ต่างฝ่ายต่าง ก็ไม่เคยรู้มาก่อน
       ชโลธร หรือรัศมิชโลธร เริ่มสนิทกับ คุณนารี มารดาของสการ เพราะมีห้องอยู่ตรงข้ามกัน คุณนารีอยากมีลูกสาว พอเห็นรัศมิชโลธรก็ชอบใจ เพราะหน้าตาเหมือนกับ หนูสโรชา ลูกสาวคนแรกของเธอที่เสียขีวิตไปเพราะจมน้ำตั้งแต่ยังเป็นเด็กๆ
       วันหนึ่งรัศมิชโลธรและคุณนารีไปเดินซื้อของด้วยกันที่ซูเปอร์มาเก็ต ใกล้บ้าน จิตราสูรซึ่งเฝ้าแอบมองรัศมิชโลธรอยู่ตลอดเวลา สบโอกาสเหมาะจึงแปลงร่างเป็นคนมาฉุดตัวรัศมิชโลธร เพื่อพาเธอไปให้เจ้านาย แต่เรื่องราวกลับโกลาหลเพราะสิริสุดาและเอิงเอยบังเอิญผ่านมาพอดี เธอจำได้ว่ารัศมิชโลธรก็คือผู้หญิงที่บุกไปล่มงานวิวาห์ของเธอ สิริสุดาและเอิงเอยจึงพยายามจะเข้าไปพูดกับรัศมิชโลธรให้รู้เรื่องว่าเธอคือ ใคร เป็นกิ๊กกับดรัณตั้งแต่เมื่อไหร่ และมาล่มงานวิวาห์ของสิริสุดาทำไม
       จิตราสูรกำลังกระชากแขนรัศมิชโลธร พยายามจะพาตัวไปก็พอดีกับที่สิริสุดาและเอิงเอยวิ่งเข้ามาขัดจังหวะโดยไม่ ได้ตั้งใจ ทั้งหมดยืนยื้อยุดฉุดกระชากกันที่กลางถนนนั่นเอง คุณนารีเห็นเหตุการณ์ไม่เข้าที ก็พยายามจะเข้ามาช่วยรัศมิชโลธร คุณนารีถูกจิตราสูรผลักจนเสียหลักล้มลงไปบนถนนที่มีรถบรรทุกวิ่งมาด้วยความ เร็ว แต่แล้วก่อนที่รถบรรทุกจะวิ่งมาทับร่างของคุณนารีจนแหลกเหลวนั้น รัศมิชโลธรตัดสินใจใช้พรข้อแรกช่วยเหลือคุณนารีจนปลอดภัย
       จิตราสูรบาดเจ็บกลับไปพิภพอสูร ทำให้อสุเรศแค้นรัศมิชโลธรกว่าเก่า เขาสั่งให้สมุนทุกคนลงมือด้วยความรอบคอบ เพราะรัศมิชโลธรยังมีของดีคุ้มครองกายอยู่ ส่วนสิริสุดาและเอิงเอยกลับไปด้วยความงงๆ เพราะอำนาจของเวทมนตร์ทำให้สองสาวลืมว่าเกิดอะไรขึ้น และพวกเธอมายืนอยู่กลางถนนได้อย่างไร
       รัศมิพรรณรายรู้เรื่องที่อสูรร้ายจะมาจับตัวน้องสาวก็เลยร้อนใจ แอบเทพบิดาลงมาหาน้องที่คอนโด เธอนำสร้อยที่ทำมาจากแก้วสัตตพิธรัตนะจากดาวดึงส์ลงมาให้รัศมิชโลธรสวมติด กายเอาไว้ อำนาจของแก้วมณีจะทำให้อสูรร้ายไม่กล้าเข้าใกล้รัศมิชโลธร ก่อนจะกลับสวรรค์รัศมิพรรณรายยังขีดเส้นทิพย์ล้อมรอบห้องพักของน้องสาวเอา ไว้ เส้นทิพย์นี้มีอำนาจสูง อสูรร้ายไม่สามารถก้าวข้ามเข้ามาได้ ตราบใดที่รัศมิชโลธรอยู่ภายในห้อง อสูรร้ายจะไม่สามารถทำอันตรายเธอได้เลย
       หลังจากคุณนารีบาดเจ็บ สการและดรัณจึงได้รู้ความจริงว่า เพื่อนบ้านคนสวย ใจดี แสนน่ารักที่คุณนารีพูดถึงบ่อยๆ ที่จริงแล้วก็คือสาวน้อยสิบแปดมงกุฎ คนเดียวกับที่ไปล่มงานวิวาห์ของ ดรัณนั่นเอง สการคิดว่าถ้าไม่ใช่พวกสิบแปดมงกุฎชอบหลอกเงินผู้ชาย รัศมิชโลธรก็อาจจะเป็นเพียงเด็กสาวใจแตก เป็นเมียน้อยเสี่ย ไม่อย่างงั้นเธอไม่น่ามีเงินซื้อคอนโดหรูหราอยู่ได้แน่ๆ เขาพยายามสอบถาม หากรัศมิชโลธรไม่รู้จะสารภาพว่าอย่างไร สการไปที่สำนักงานคอนโดก็พบว่าบัตรประชาชนของรัศมิชโลธรเป็นบัตรประชาชนปลอม ในบัตรประชาชนเธอใช้ชื่อว่า “น.ส. ชโลธร ณ แดนสรวง”
       “ณ แดนสรวง” สการทำหน้าเหรอหรา เพราะไม่เคยได้ยินนามสกุลนี้มาก่อน เธอให้ ตรีชฎา เลขาร่างอ้วนลองค้นหาในฐานข้อมูลประชากรก็ไม่พบชื่อและนามสกุลนี้
       “คนเถื่อนแน่ๆ” ตรีชฎาจีบปากจีบคอ
       “อาจจะเป็นเจ้ามาจากทางเหนือ พวกเชียงตุง ไทใหญ่ หนีเข้าเมืองมาก็ได้นะ นามสกุลถึงไม่มีในระบบประชากรของบ้านเรา แถมฟังดูแปลกแบบนี้” สการว่า
       “เป็นไปได้ว่ะแซมมี่” ดรัณเห็นด้วยกับเพื่อน “มิน่าล่ะ ผิวของเธอถึงขาวผ่อง สวยยังกับทองทา”
       สการพยายามคาดคั้นเอาความจริงกับรัศมิชโลธรว่าเธอคือใครกันแน่ รัศมิชโลธรจึงตัดสินใจสารภาพความจริงให้สการฟังว่า เธอไม่ใช่สิบแปดมงกุฎ ไม่ใช่เจ้าไทใหญ่หนีเข้าเมืองมา แต่เป็นนางฟ้ามาจากดาวดึงส์ต่างหาก และที่เธอลงมาล่มวิวาห์ของดรัณ เพราะเห็นจากสมุดเนื้อคู่ว่าเขากับสิริสุดาไม่ใช่เนื้อคู่กัน เธอหวังว่าสการจะยอมเชื่อแล้วยอมช่วยเธอ ทำให้ดรัณกับสิริสุดากลับมาคืนดีกัน เธอและอุ้มสมจะได้กลับสวรรค์เสียที แต่รัศมิชโลธรคิดผิด เพราะนอกจากสการไม่เชื่อแล้ว เขายังคิดว่าเธอเพี้ยนไปอีกต่างหาก ตั้งแต่นั้นมาสการและรัศมิชโลธรก็ทำตัวเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาโดยตลอด
       มีเพียงคุณนารีเท่านั้นที่เชื่อรัศมิชโลธร วันหนึ่งที่สการออกไปทำงาน เธอกับรัศมิชโลธรตัดสินใจไปหาสิริสุดา เพื่อพูดให้เธอผู้นั้นเข้าใจ รัศมิชโลธรเชื่อว่า หากสิริสุดาเข้าใจว่าเธอกับดรัณไม่มีอะไรกัน สิริสุดาก็จะยอมกลับไปแต่งงานกับดรัณ และเธอกับอุ้มสมก็จะได้กลับสวรรค์เสียที แต่แล้วเรื่องราวก็กลับยุ่งเหยิงเกินคาด เพราะอัคราสูรสมุนของอสุเรศเฝ้าสะกดรอยตามรัศมิชโลธรมาโดยตลอด มันปลอมตัวเป็นลุงคนขับแท็กซี่รับคุณนารี อุ้มสม และรัศมิชโลธรขึ้นรถไป
       แต่แทนที่จะขับตรงไปตามทางที่คุณนารีบอก มันกลับพุ่งพารัศมิชโลธรลงไปยังพิภพอสูรที่อยู่ต่ำจากโลกมนุษย์ลงไป รัศมิชโลธรเห็นผิดท่า จึงพยายามต่อสู้กับอัคราสูร อัคราสูรไม่สามารถแตะต้องตัวรัศมิชโลธรได้ เพราะเธอมีสร้อยสัตตพิธรัตนะคุ้มครองกายอยู่ มันจึงจับตัวอุ้มสมไปแทน อัคราสูรสั่งให้รัศมิชโลธรถอดสร้อย ไม่เช่นนั้นมันจะฆ่าอุ้มสมเสีย แต่อุ้มสมยอมตาย ไม่ยอมให้รัศมิชโลธรถอดสร้อย แล้วในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานนั่นเอง รัศมิชโลธรก็ตัดสินใจใช้พรวิเศษข้อที่สองช่วยชีวิตของอุ้มสมเอาไว้ได้ อัคราสูรบาดเจ็บกลับไปยังพิภพอสูร ขณะที่คุณนารีได้เห็นกับตาว่ารัศมิชโลธรคือเทพนารีจริงๆ
       สิริสุดากลุ้มใจมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะใจจริงแล้วเธอยังรักดรัณอยู่ เอิงเอยเห็นเพื่อนเป็นทุกข์ เลยพาเพื่อนไปหาเทพธิดาตาทิพย์เพื่อดูดวง
       “แม่นมากนะยะหล่อน” เอิงเอยคอนเฟิร์ม “ยังกะตาเห็น ใครๆ เลยเรียกว่าเทพธิดาตาทิพย์ไง”
       ปกติแล้วสิริสุดาไม่ค่อยเชื่อเรื่องหมอดู แต่ก็ยอมตามเอิงเอยไป เพราะดีกว่าอยู่เปล่าๆ เทพธิดาตาทิพย์เพ่งดูสิริสุดาแล้วถึงกับอึ้งกิมกี่ เธอเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นในงานแต่งงานของสิริสุดา พยายามองก็เห็นรัศมิชโลธรแว๊บๆ แต่เมื่อพยายามเพ่งมองให้ละเอียดก็กลับไม่เห็นอะไร นอกจากรัศมีกระจ่างสว่างตา
       “นังผู้หญิงคนนั้นต้องเล่นของแน่ๆ ชั้นถึงมองหน้ามันไม่เห็น หน็อยแน่ะ”
       เทพธิดาตาทิพย์คิดว่ารัศมิชโลธรมีของดีคุ้มครอง ทำให้ตาทิพย์ของเธอมองอะไรไม่เห็น และของดีที่ว่านั่นก็คือสร้อยที่รัศมิชโลธรสวมอยู่นั่นเอง เทพธิดาจึงแนะนำให้สิริสุดาทำลายสร้อยของรัศมิชโลธรทิ้งไปเสียถ้าหากว่ามี โอกาส
       “สร้อยนั่นมีเวทมนตร์ทำให้ผู้ชายลุ่มหลง จงหาโอกาสทำลายมันทิ้งไป แล้วผู้ชายของเธอก็จะกลับมาหา”
       ดรัณเริ่มสนใจว่ารัศมิชโลธรเป็นคนแปลก เขาพยายามแวะมาหาเธออีกหลายครั้ง แต่ทุกครั้งสการจะคอยขัดขวางเสมอ จนมัดหมี่แฟนสาวเข้าใจผิด คิดว่าสการตกหลุมรักรัศมิชโลธร เธอไม่พอใจรัศมิชโลธรมาก พยายามหาทางกลั่นแกล้งทุกวิถีทาง
       ในวันลอยกระทง ผู้การดำเกิงรู้มาว่านายทองทิวกำลังจะขนย้ายผู้หญิงจำนวนมาก โดยเอาผู้หญิงขังในตู้คอนเทนเนอร์ แล้วเอาขึ้นเรือไป ผู้การต้องการส่งสายลับผู้หญิงเข้าไปเพื่อช่วยเหลือผู้หญิงพวกนั้น แต่บังเอิญสายลับที่ทำงานให้กับหน่วยคดีพิเศษมานานถูกนายทองทิวจับได้และฆ่า ทิ้งไป ผู้การดำเกิงจำเป็นต้องหาผู้หญิงสักหนึ่งมาทำงานนี้แทน
       “แต่เธอคนนั้นจะต้องเก่งพอจะหนีเอาตัวรอดได้” ผู้การบอกกับสการและดรัณ
       สการนึกถึงรัศมิชโลธรขึ้นมาทันที เพราะเธอคนนั้นเก่งฉกาจ สามารถหายตัวไปได้ต่อหน้าต่อตาของเขา เธอต้องเอาตัวรอดได้แน่ เขาจึงเสนอรัศมิชโลธร และผู้การดำเกิงก็ตกลงทันที
       สการกลับมาบอกรัศมิชโลธร อธิบายให้เธอฟังว่าเขาทำงานอะไรอยู่ เขามีข้อแลกเปลี่ยนว่า ถ้ารัศมิชโลธรทำงานสำเร็จ เขาจะทำบัตรประชาชนที่ถูกต้องให้กับเธอ ยอมเชื่อว่าเธอมาจากดาวดึงส์ และจะช่วยให้ดรัณและสิริสุดามาคืนดีกัน รัศมิชโลธรรู้สึกทึ่งในงานที่สการทำ เธอตัดสินใจจะช่วยเขา ไม่ใช่เพราะต้องการจะให้เขาเชื่อว่าเธอเป็นนางฟ้า แต่เป็นเพราะเธออยากช่วยชีวิตผู้หญิงมากมายที่ถูกหลอกไปขายต่างประเทศ มากกว่า
       ขณะที่ทางโลกกำลังเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น ดอกแคฝอยในดินแดนอสูรก็เริ่มเบ่งบาน บอกให้รู้ว่าถึงวาระของเทวาสุรสงคราม ที่เทวดาและอสูรกำลังจะสู้รบกันอีกครั้ง อสุเรศเห็นว่าเป็นโอกาสดีที่จะจับตัวรัศมิชโลธรในตอนนี้ เพราะเทพบิดาของเธอจะต้องไม่มีเวลามาช่วยได้แน่ๆ แต่ปัญหาใหญ่คือ สร้อยสัตตพิธรัตนะที่รัศมิชโลธรสวมอยู่ เมื่อเธอมีสร้อยนั้น อสุเรศและบรรดาอสูรจะไม่สามารถเข้าใกล้ได้เลย นางราคะ โทสะ และโมหะสามพี่น้องจึงอาสาช่วยอสุเรศ โดยการเข้าสิงมัดหมี่ สิริสุดา และเอิงเอย ใช้มนุษย์ทั้งสามต่อกรกับรัศมิชลธรแทนพวกตน
       ถึงวันที่นายทองทิวส่งผู้หญิงไปขาย รัศมิชโลธรไปที่ท่าเรือตามแผนของสการและดรัณ สร้างความปั่นป่วนจนกระทั่งคนร้ายเกิดความสับสน ตำรวจที่ซ่อนตัวอยู่เปิดฉากยิงต่อสู้ ขณะเดียวกันสิริสุดา เอิงเอย และมัดหมี่ก็โผล่มาพอดี ทำให้เกิดผิดแผน เรื่องราววุ่นวายหนักกว่าเก่า สิริสุดาที่ถูกนางโทสะครอบงำ โกรธจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ ตบตีกับรัศมิชโลธร กระชากสร้อยสัตตพิธรัตนะขาด และโยนทิ้งไปในทะเล
       สมุนของเจ้าพ่อทองทิวต่อสู้จนแพ้สการและดรัณ พวกมันตัดสินใจจุดชนวนระเบิดเพื่อสังหารให้ทุกคนตายไปพร้อมๆ กัน เป็นจังหวะเดียวกับที่อสุเรศปรากฏตัวขึ้น และกำลังจะฉุดตัวรัศมิชโลธรไป รัศมิชโลธรเห็นสิริสุดา ดรัณ และสการตกอยู่ในอันตราย จึงตัดสินใจใช้พรวิเศษข้อสุดท้ายช่วยเหลือสการ ดรัณ และสิริสุดา แทนที่จะใช้ให้ตัวเองปลอดภัยจากอสุเรศ ผลก็คือ สการ สิริสุดา และดรัณปลอดภัย แต่รัศมิชโลธรถูกอสูรร้ายจับตัวไปในที่สุด...
       คราวนี้ไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายใดๆ อีกแล้ว เพราะทั้งสการ สิริสุดา และดรัณ ต่างเห็นอำนาจทิพย์ของรัศมิชโลธรกับตาของตนเอง พวกเขาเชื่อแล้วว่าเธอเป็นนางฟ้ามาจากแดนสรวงจริงๆ แต่ทุกอย่างสายไปเสียแล้ว
       เนื่องจากตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เทวดากับอสูรกำลังจะรบกัน อสุเรศจึงไม่สามารถพารัศมิชโลธรกลับไปยังพิภพอสูรได้ เพราะจอมอสูรจะต้องโกรธมาก เพราะเขามีหน้าที่ต้องช่วยทัพอสูรรบกับเทวดา แต่กลับมามัวห่วงเรื่องผู้หญิง อสุเรศเลยตัดสินใจพารัศมิชโลธรไปซ่อนตัวอยู่ที่ป่าหิมพานต์ก่อน รอจนกว่าเทวาสุรสงครามจะสิ้นสุด จึงค่อยพารัศมิชโลธรกลับไปยังพิภพอสูรอีกครั้ง
       ในที่สุดสการก็รู้ว่ารัศมิชโลธรเป็นนางฟ้าจริงๆ เขาเสียใจและกลุ้มใจมากไม่รู้ว่าเธอหายตัวไปไหน สการ ดรัณ เอิงเอย และสิริสุดา บากหน้ากลับไปหาเทพธิดาตาทิพย์ขอให้เธอช่วย เทพธิดาใช้พลังตาทิพย์เพ่งมองจนรู้ว่ารัศมิชโลธรอยู่ที่ป่าหิมพานต์ สการไม่รู่ว่ามนุษย์จะเดินทางไปหิมพานต์ได้อย่างไร รัศมิพรรณรายรู้ข่าวน้องสาวถูกอสุเรศจับตัวไปก็ร้อนใจลงมายังโลกมนุษย์ ช่วงเกิดสงครามระหว่างเทวดาและอสูร เทพทั้งหลายไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปไหนมาไหนได้โดยอิสระ รัศมิพรรณรายจึงไม่สามารถไปช่วยน้องได้ สการอาสาขอไปช่วยรัศมิชโลธรด้วยตัวเอง รัศมิพรรณรายตกลงใจส่งสการไปที่หิมพานต์ในที่สุด
       หิมพานต์เป็นดินแดนกว้างใหญ่ สการไม่รู้เลยว่าจะตามหารัศมิชโลธรได้ที่ไหน เขาคิดว่าเขาจะใช้หัวใจรักของเขาตามหาเธอให้พบ โชคดีตอนที่สการมาถึงหิมพานต์ เขาช่วยลูกครุฑตนหนึ่งไว้โดยบังเอิญ ลูกครุฑชื่อ ตรัสวิน กำลังจะถูกนาคจับกิน เมื่อสการช่วยเหลือเอาไว้ ลูกครุฑเลยสัญญาว่าจะช่วยสการเป็นการตอบแทน เขาพาสการออกตามหารัศมิชโลธรไปยังดินแดนต่างๆ สการช่วยเหลือวิทยาธรตนหนึ่งเอาไว้โดยบังเอิญ วิทยาธรตนนั้นเลยให้อาวุธสการมาสำหรับต่อสู้ป้องกันตัว พร้อมกับบอกว่ามีแมงมุมประหลาดมาปรากฏกายอยู่ในดินแดนของพวกกินรี ขอให้สการไปช่วยหน่อย
       ตอนแรกสการก็อิดออด เพราะเขาใจจดจ่อกับการช่วยเหลือรัศมิชโลธรเท่านั้น แต่ด้วยความที่ใจอ่อน เขาเลยตัดสินใจไปช่วยพวกกินรีจากแมงมุมปีศาจที่ชักใยอยู่หน้าถ้ำแห่งหนึ่ง สการต่อสู้กับแมงมุมร้ายโดยใช้พระขรรค์ที่ได้จากวิทยาธรจนเอาชนะแมงมุมร้าย ได้ในที่สุด ขณะจะเดินกลับออกไป สการได้ยินเหมือนเสียงของใครร้องไห้ดังมาจากถ้ำ เมื่อเข้าไปดูก็ไม่พบอะไรนอกจากลูกหว้าขนาดใหญ่บนต้น เขามั่นใจว่าเสียงคนร้องไห้ดังมาจากในนั้น จึงปีนขึ้นไปใช้พระขรรค์ตัดลูกหว้าตกลงมา เมื่อลูกหว้าแตกออก ก็ปรากฏว่ารัศมิชโลธรถูกจับขังอยู่ในนั้นนั่นเอง และแมงมุมร้ายที่ชักใยอยู่หน้าถ้ำก็คือสมุนอสูรของอสุเรศ
       อสุเรศและบริวารอสูรถูกจอมอสูรกักบริเวณ เพราะเที่ยวไปก่อความเดือดร้อนจนเกือบจะเกิดเรื่องใหญ่ อสุเรศหมดโอกาสที่จะมารังควานรัศมิชโลธรอีกต่อไป และตรัสวินก็ช่วยให้รัศมิชโลธรและสการเดินทางกลับโลกมนุษย์ได้ในที่สุด
       ระหว่างเกิดเหตุร้ายกับเจ้าพ่อทองทิว สิริสุดาถึงกับช็อค ไม่คิดว่าเบื้องหลังของพ่อจะมีอาชีพค้ามนุษย์ เธอรู้สึกเสียใจที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น นายทองทิวหนีออกนอกประเทศ ทิ้งให้สิริสุดาต้องตอบคำถามสื่อและหนังสือพิมพ์ สิริสุดาเฟดตัวหายไปจากวงสังคม บรรดาเพื่อนฝูงที่เคยคบหารวมทั้งมัดหมี่ต่างพากันตีตัวออกห่าง สิริสุดาได้เห็นธาตุแท้ของมนุษย์ ในขณะเดียวกันดรัณก็ดูแลเธอเป็นอย่างดี จนทั้งสองเข้าใจกัน และกลับมาแต่งงานกันในที่สุด โดยความยินยอมพร้อมใจของทั้งสองคน ไม่มีใครบังคับ
       เทพบิดาทราบเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ได้เห็นจิตใจอันงดงามของรัศมิชโลธรที่ใช้พรวิเศษไปในการช่วยเหลือผู้อื่นทุก ครั้ง แทนที่จะเป็นตนเอง อีกทั้งดรัณและสิริสุดาได้กลับมาคืนดีกันเรียบร้อยแล้ว ท่านจึงถอนคำสาปให้กับรัศมิชโลธร และอนุญาตให้เธอและอุ้มสมกลับสวรรค์ได้ แต่มาถึงตอนนี้เธอกลับไม่อยากกลับสวรรค์เสียแล้ว รัศมิชโลธรเพิ่งรู้ตัวว่า ที่จริงแล้วเธอรักสการ และสการก็รักเธอมาก รัศมิชโลธรตัดสินใจไม่กลับดาวดึงส์ แต่ขออนุญาตเทพบิดาใช้ชีวิตเหมือนมนุษย์อยู่กับสการ ดูแลกันและกัน ต่างชวนกันทำความดีและช่วยเหลือสังคมจนสุดความสามารถ
       ตอนแรกเทพบิดาไม่เห็นด้วย หากรัศมิพรรณรายและเทพมารดาช่วยกันขอร้องจนเทพบิดาใจอ่อนและเห็นใจรัศมิชโล ธรในที่สุด อุ้มสมกลับไปที่ดาวดึงส์เพียงผู้เดียว เขามีโอกาสได้เห็นสมุดพรหมลิขิตแล้วก็ต้องประหลาดใจ ที่ได้เห็นว่าสการและรัศมิชโลธรเป็นคู่แท้กันมาหลายชาติภพแล้ว
       เวลาในโลกมนุษย์ ๑๐๐ ปี เท่ากับเวลาสวรรค์ไม่กี่นาที รัศมิชโลธรหวังว่าเมื่อเธอและสการหมดอายุขัยในโลกมนุษย์แล้ว ทั้งสองก็จะได้กลับไปที่ดาวดึงส์ด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง
      
       จบบริบูรณ์
      
       บุคลิกตัวละครเรื่อง “มณีแดนสรวง”
      
       ร.ต.อ. สการ
       นายตำรวจหนุ่มหล่อ รูปร่างล่ำสัน ผิวสองสี ชอบตัดผมสั้น แต่งตัวทันสมัย ชอบออกกำลังกาย ได้รับเลือกเป็น Man Of The Year แต่ไม่ค่อยสนใจความหล่อของตัวเองเท่าไหร่นัก เป็นคนหล่อที่ไม่รู้ว่าตัวเองหล่อ มุ่งมั่นและให้ความสนใจกับการทำงานมากกว่าเรื่องอื่น บางครั้งใจร้อน มุทะลุ เป็นคนอยากรู้อะไรต้องสืบจนรู้ให้ได้ เขาคิดตลอดมาว่ารัศมิชโลธรอาจจะเป็นเจ้าของแคว้นไทใหญ่ที่หนีเข้าประเทศมา โดยผิดกฎหมาย เลยไม่กล้าเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง เป็นคนพูดตรง ไม่ค่อยอ่อนหวานเท่าไหร่ แอบรักรัศมิชโลธรตั้งแต่แรกที่ได้พบ แต่สการพยายามเก็บความรู้สึกไว้ในใจ เพราะคิดว่ารัศมิชโลธรเป็นพวกสิบแปดมงกุฎ ตำรวจอย่างเขาไม่ควรไปหลงรัก แต่สุดท้ายเมื่อเห็นรัศมิชโลธรต้องประสบกับความเดือดร้อนเพราะเสียสละตนเอง เพื่อช่วยเหลือเขา สการจึงรู้ว่าที่จริงแล้วรัศมิชโลธรก็รักเขานั่นเอง สการจึงยอมทำทุกอย่างเพื่อช่วยเธอกลับคืนมาจากอสุเรศให้จงได้ เป็นคนจิตใจดีงาม ชอบช่วยเหลือคนอื่น ตอนอยู่หิมพานต์ พวกกินนรมาขอให้ไปช่วยปราบแมงมุมยักษ์ ตอนแรกเขาไม่อยากไป เพราะอยากช่วยรัศมิชโลธรมากกว่า แต่สุดท้ายสงสารที่กินนรถูกแมงมุมฆ่าตายไปหลายตน เลยใจอ่อนยอมไปช่วย และเพราะความที่เขาจิตใจดีชอบช่วยเหลือนี่เอง ทำให้สการพบ รัศมิชโลธรถูกจับขังอยู่ในผลลูกหว้าที่ถ้ำของพวกกินนรในที่สุด
      
       รัศมิชโลธร
       เป็นนางฟ้ารุ่นเด็ก สาว สวย ผิวขาว สูงระหง ผมยาว ดวงตากลมโต เทียบกับมนุษย์แล้วอายุประมาณยี่สิบต้นๆ ช่างพูดช่างเจรจา ร่าเริงแจ่มใส อยากรู้อยากเห็น บางครั้งแก่น ชอบเล่นซุกซนแกล้งเทพบุตรและเทพนารีองค์อื่นๆ จนเกิดเรื่องวุ่นวายเสมอๆ รักษาคำสัตย์ จิตใจอ่อนโยน ยอมเสียสละเพื่อคนอื่นได้เสมอ บุคลิกจะเป็นน้องเล็ก เป็นลูกรักของเทพบิดา เทพมารดา และรัศมิพรรณราย เมื่อถูกสาปลงมาเป็นมนุษย์ รัศมิชโลธรก็ประสบกับความวุ่นวายต่างๆ นานามากมาย เพราะสมัยเป็นนางฟ้าไม่เคยต้องซักผ้าเอง ทำกับข้าวเองมาก่อน เธอต้องปรับตัวกับการเป็นมนุษย์ไปพร้อมๆ กับหนีการตามล่าของอสุเรศ และพยายามทำให้ดรัณและสิริสุดากลับมาคืนดีกันให้ได้ เพื่อที่เธอจะได้กลับสวรรค์อีกครั้งหนึ่ง
      
       ร.ต.อ. ดรัณ
       หล่อ รูปร่างแข็งแรง เป็นตำรวจเหมือนสการ ทั้งสองเป็นเพื่อนรักกัน แต่ต่างกันตรงที่ดรัณเป็นคนหล่อที่รู้ว่าตัวเองหล่อ เลยชอบบริหารเสน่ห์ตัวเองกับสาวๆ มีกิ๊กเล็กกิ๊กน้อยมากมาย จนเมื่อรักกับสิริสุดาจึงเลิกกับกิ๊กทั้งหมด เพื่อเตรียมตัวแต่งงาน ผิวคล้ำ หน้าออกไทยๆ สูง แต่งตัวหล่อเนี้ยบตลอดเวลา รักสิริสุดาจริงๆ เมื่อถูกล่มวิวาห์ก็เลยเสียใจมาก พยายามทำทุกอย่างเพื่อเรียกความมั่นใจของสิริสุดาให้กลับมารักตนเองอีกครั้ง
      
       สิริสุดา
       สาวสวย ผิวขาว สูงโปร่ง มีอาชีพเป็นนางแบบ ไฮโซ ชอบใช้ของแบรนด์เนมราคาแพง เป็นลูกสาวเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ แต่ไม่เคยรู้ว่าพ่อของตนเองมีธุรกิจที่ผิดกฎหมายอยู่เบื้องหลัง ความที่เป็นลูกสาวคนเดียว เลยชอบเอาแต่ใจตัว อยากได้อะไรก็ต้องได้ ใครขัดใจจะต้องกรี๊ดไม่ยอม รักดรัณแต่มาดเยอะ ชอบเล่นตัว หลังเกิดเหตุการณ์ที่รัศมิชโลธรมาล่มงานวิวาห์ เธอประกาศตัวเป็นศัตรูกับรัศมิชโลธรโดยเปิดเผย พยายามสืบว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันแน่ แต่ดูเหมือนยิ่งสืบจะยิ่งมืดมน เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นค่อยๆ สอนให้สิริสุดามีพัฒนาการทางบุคลิก กลายเป็นผู้ใหญ่ที่ใจเย็นขึ้น รับฟังคนอื่นมากขึ้น สุดท้ายความเสียสละของรัศมิชโลธรทำให้ชนะใจสิริสุดา ทำให้เธอมีจิตใจที่อ่อนโยนและคิดช่วยเหลือผู้อื่นมากขึ้น
      
       เอิงเอย
       ไม่ค่อยสวย โก๊ะๆ แก่นๆ สวมแว่นตาหนา แต่งตัวเชยๆ แต่เตะต่อยเก่ง เพราะเป็นลูกสาวกำนัน
       ความที่เป็นเด็กต่างจังหวัด ทำให้เอิงเอยเป็นคนจริงใจ พูดตรง มีน้ำใจ เธอสนิทกับสิริสุดาเพราะเรียนโรงเรียนประจำเดียวกัน และเป็นเพื่อนที่กล้าพูดกับสิริสุดาตรงๆ เวลาเพื่อนทำผิดก็ไม่เคยตามใจ แต่จะตักเตือนและคอยช่วยเหลือ ทำให้สิริสุดาไว้วางใจให้เป็นเพื่อนสนิทที่สามารถปรึกษากันได้ทุกเรื่อง
      
       อุ้มสม
       เป็นเทพบุตรหนุ่มรูปหล่อ ผิวขาวสะอาด ช่างพูดเป็นต่อยหอย เป็นลูกคู่กับรัศมิชโลธรประเภทไปไหนไปกัน รู้ทั้งรู้ว่าหลายหนรัศมิชโลธรทำไม่ถูก แต่ด้วยความที่รักเพื่อนเลยไม่กล้าห้าม จนสุดท้ายเลยถูกเทพบิดาสาปลงมาเป็นนกแก้วพร้อมกับรัศมิชโลธร ตอนเป็นนกแก้วก็ยังช่างพูดเหมือนเดิม
      
       นารี
       มารดาของสการ เป็นคุณครูเก่า ตอนนี้อายุประมาณ ๖๐ ปี เกษียณอายุราชการแล้ว เป็นผู้หญิงร่างเล็ก ผอมบาง ท่าทางใจดี สวมแว่น ธรรมะธัมโม ชอบทำกับข้าว มาอยู่ที่คอนโดเดียวกับสการเพื่อดูแลบุตรชายที่ทำงานหนัก จนได้มาพบกับรัศมิชโลธร เธอชอบรัศมิชโลธรมาก เพราะเคยมีลูกสาวคนหนึ่งชื่อสโรชา แต่จมน้ำตายไปตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อได้รู้จักกับรัศมิชโลธร คุณนารีก็เลยเอ็นดูและรู้สึกผูกพันด้วย เธอเป็นคนแรกที่รู้ว่าแท้จริงแล้วรัศมิชโลธรไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นนางฟ้าที่ถูกสาปลงมา เธอไม่สามารถบอกให้สการเชื่อได้ จึงพยายามหาทางช่วยรัศมิชโลธรทุกวิถีทาง เพื่อให้ดรัณและสิริสุดากลับมาแต่งงานกันอีกครั้ง ท่ามกลางความหงุดหงิดของสการ เพราะเขาไม่อยากให้แม่ไปสนิทกับผู้หญิงที่ไม่มีใครรู้หัวนอนปลายเท้าอย่าง เช่นรัศมิชโลธร เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือ เลยมีความรู้เรื่องป่าหิมพานต์มาก นำความรู้ตรงนั้นมาช่วยสการตามหารัศมิชโลธรพบในที่สุด
      
       ทองทิว
       เป็นผู้ชายวัยกลางคน ท่าทางดูดุดัน แต่เวลาอยู่กับลูกสาวคนเดียวคือสิริสุดานั้น จากเจ้าพ่อจะกลายเป็นคุณพ่อผู้ใจดีขึ้นมาทันที เป็นเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ แต่เบื้องหลังเป็นนายหน้าค้ามนุษย์ ไม่ชอบตำรวจเลย แต่ต้องมาเกี่ยวข้องกับตำรวจเพราะสิริสุดาดันไปรักดรัณที่มาสืบคดีค้ามนุษย์ ด้วยความที่ไม่อยากให้ดรัณและตำรวจอื่นสงสัย เลยต้องปล่อยให้สิริสุดากับดรัณได้แต่งงานกันในที่สุด เขาหวังว่าจะให้สิริสุดาคอยสืบข่าวความเคลื่อนไหวของพวกตำรวจจากดรัณ เมื่อแผนการณ์ร้ายของเขาถูกทำลายลงไป ลูกน้องถูกตำรวจจับ นายทองทิวจำเป็นต้องหนีออกนอกประเทศ ทั้งที่เป็นห่วงสิริสุดาเป็นอย่างมาก
      
       มัดหมี่
       นักข่าวสาวสายอาชญากรรม หน้าตาธรรมดา ไม่สวยมาก ท่าทางลุยๆ พูดจาสตรอเบอรี่มากๆ เธอได้พบกับสการตอนที่เขาไปช่วยเด็กหญิงที่ถูกพ่อจะจับตัวไปขาย มัดหมี่รู้สึกประทับใจจนเอาข่าวของสการไปโปรโมทจนเขาได้เป็นแมนออฟเดอะเยีย ร์ เธอตกหลุมรักสการ ไปมาหาสู่ด้วยเสมอ ด้วยความที่สการเป็นคนสุภาพ ไม่เคยปฏิเสธมัดหมี่เลย เธอจึงคิดว่าเขารักเธอ จนกระทั่งได้มาพบกับรัศมิชโลธร มัดหมี่รู้ได้ในทันใดว่าสการรักรัศมิชโลธร แต่ด้วยความที่มาก่อน เธอเลยไม่ยอมแพ้ พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อเขี่ยรัศมิชโลธรออกไปให้พ้นทางรักของตน
      
       รัศมิพรรณราย
       เทพนารีพี่สาวของรัศมิชโลธร (ที่จริงเธอเคยเกิดเป็นหนูสโรชา ลูกสาวคุณนารี แต่จมน้ำตายก่อนจะไปจุติในสวรรค์) หน้าตาสวย ผมยาว สูงโปร่ง รักน้องสาว รู้ว่ารัศมิชโลธรชอบซุกซน จึงคอยแอบช่วยน้องให้พ้นจากการลงโทษของเทพบิดาอยู่เสมอๆ แต่ครั้งหลังสุดนี้ความผิดของรัศมิชโลธรใหญ่จนช่วยไม่ไหว ต้องยอมให้เทพบิดาลงโทษน้อง โดยสาปลงไปเป็นมนุษย์ แต่กระนั้นก็ยังแอบลงไปช่วยอยู่เสมอๆ ด้วยข้อจำกัดของสวรรค์ เธอเลยไปช่วยน้องเองไม่ได้ รัศมิพรรณรายจึงส่งสการไปช่วยรัศมิชโลธรที่ป่าหิมพานต์ เพราะรู้ว่าสองคนนี้รักกัน
      
       เทพบิดา
       เป็นเทพผู้ใหญ่ ท่าทางสง่างามน่าเกรงขาม รักรัศมิชโลธรมากเพราะเป็นลูกสาวคนเล็ก แต่ท่านเป็นเทพผู้ทรงความยุติธรรม เมื่อรัศมิชโลธรทำผิดร้ายแรงจึงจำเป็นต้องลงโทษ โดยการสาปให้ลงมาเป็นมนุษย์เดินดินที่ไม่มีอำนาจใดๆ แม้ท่านจะเสียใจแต่ก็จำเป็นต้องทำ เพื่อสั่งสอนบุตรสาว และเพื่อผดุงความยุติธรรมของสวรรค์ หาไม่แล้วท่านจะปกครองเทพองค์อื่นไม่ได้อีกเลย
      
       อสุเรศ
       เป็นอสูรหนุ่ม บุตรของจอมอสูร แต่ศีรษะล้าน เพราะเคยไปเกี้ยวพาราสีรัศมิชโลธร จนถูกลงโทษด้วยการกล้อนศีรษะ ทำให้อสุเรศผูกใจเจ็บเรื่อยมา จนกระทั่งรัศมิชโลธรถูกสาปลงมาเป็นมนุษย์ หมดพลังอำนาจใดๆ เขาก็เลยพยายามจะจับตัวรัศมิชโลธรลงไปเป็นชายาที่พิภพอสูรให้ได้ ปรากฏกายในร่างของมนุษย์ผู้ชาย หน้าตาหล่อเล็กน้อยแต่ศีรษะล้าน บางครั้งใส่วิกเพื่อปิดบังอำพรางความหัวล้านของตนเอง อารมณ์มักจะเกรี้ยวกราดหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลา
      
       จิตราสูร
       สมุนอสูรของอสุเรศ เป็นคนใจร้อน มุทะลุดุดัน ทำอะไรไม่รอบคอบ ทำให้แผนการของอสุเรศผิดพลาดอยู่บ่อยๆ รูปร่างสูงใหญ่ ออกแนวท้วมๆ หน้าตาดูดุๆ
      
       อัคราสูร
       สมุนอสุเรศ ใจเย็นกว่าจิตราสูร ชอบประจบเจ้านายแข่งกับจิตราสูร คอยเอาอกเอาใจเพื่อให้เจ้านายโปรดปราน รูปร่างออกแนวผอมสูง หน้าตาเจ้าเล่ห์
      
       นางราคะ / นางโทสะ / นางโมหะ
       นางอสูร ๓ พี่น้อง เป็นชายาของอสุเรศ ทั้งสามคือกิเลสสามประการ นิสัยของแต่ละนางจะตรงกับชื่อตน นางราคะออกแนวยั่วยวน นางโทสะมักจะหงุดหงิดฉุนเฉียวอยู่ตลอดเวลา นางโมหะชอบหลอกล่อให้คนลุ่มหลง ทั้งสามนางจะสวย แต่งตัวจัด เวลาอยู่ด้วยกันมักจะทะเลาะกัน แย่งชิงว่าอสุเรศจะโปรดปรานใครมากกว่ากัน แต่พอต้องไปจับตัวรัศมิชโลธรมาให้อสุเรศ พวกนางก็จะสามัคคีกันเป็นอย่างดี เวลาพวกนางจะใช้มนุษย์คนใดให้ไปทำสิ่งที่ต้องการ ก็มักจะใช้วิธีสิงร่าง พวกเธอมักจะเข้าสิงเอิงเอย สิริสุดา และมัดหมี่เป็นประจำ เพื่อให้ทั้งสามสาวผนึกกำลังไปจัดการกับรัศมิชโลธร
      
       เทพธิดาตาทิพย์
       ออกแนวเจ้าแม่หมอดู มั่วบ้างจริงบ้าง เป็นคนทำนายทายทักให้สิริสุดาเป็นประจำ และสิริสุดาก็เชื่อฟังมากๆ จนเกิดเรื่องราวต่างๆ นานาตามมามากมาย เธอมีอำนาจต่ำๆ ไม่สามารถมองเห็นพลังทิพย์ที่เหนือกว่าได้ หลายครั้งเลยทำนายมั่วๆ ไป
      
       ตรัสวิน
       ลูกครุฑน้อย เป็นเด็กชายอายุประมาณ ๗ ขวบ ฉลาดเฉลียว ช่างพูดช่างเจรจา มีความรู้เรื่องป่าหิมพานต์มาก จึงเป็นผู้ช่วยของสการ เวลาที่ไปตามหารัศมิชโลธรจนกระทั่งพบในที่สุด
      
       ผู้การดำเกิง
       นายพลตำรวจ หัวหน้าหน่วยสืบคดีพิเศษ เจ้านายของสการและดรัณ เป็นคนส่งลูกน้องทั้งสองเข้าสืบคดีของนายทองทิวอย่างใกล้ชิด จิตใจดี ชอบช่วยเหลือลูกน้อง สุขุมรอบคอบ ฉลาด เป็นเจ้านายที่ลูกน้องรัก
      
       ตรีชฎา
       ตำรวจหญิงเลขาของสการ ช่างเม้าท์ กินเก่ง แต่มีความสามารถด้านสืบประวัติคนได้เป็นอย่างดี เป็นคนแรกที่รู้ว่ารัศมิชโลธรเป็นคนเถื่อน ไม่มีบัตรประชาชน ไม่มีข้อมูลในฐานประชากร ทำให้สการเชื่อว่ารัศมิชโลธรเป็นเจ้าทางเหนือแอบหนีเข้าประเทศมา
      
       รายชื่อนักแสดง
       ใครเป็นใคร ใน มณีแดนสรวง
       ร.ต.อ. สการ รับบทโดย พศุตม์ บานแย้ม
       รัศมิชโลธร รับบทโดย ซาร่า เล็กจ์
       ร.ต.อ. ดรัณ รับบทโดย รณเดช วงศาโรจน์
       สิริสุดา รับบทโดย ภัทราดา ยอดประสิทธิ์
       เอิงเอย รับบทโดย มณีรัตน์ คำอ้วน
       อุ้มสม รับบทโดย บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ
       นารี รับบทโดย อุทุมพร ศิลาพันธ์
       ทองทิว รับบทโดย ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี
       มัดหมี่ รับบทโดย สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย
       อสุเรศ รับบทโดย ธนานน ตั้งไพบูลย์
       จิตราสูร รับบทโดย เฉลิมพร ทิฆัมพรธีรวงศ์
       อัคราสูร รับบทโดย กรกฎ ธนภัทร
       ผู้การดำเกิง รับบทโดย ณพสิทธิ์ เที่ยงธรรม
       ตรีชฎา รับบทโดย ศิรินุช เพ็ชรอุไร
       รัศมิพรรณราย รับบทโดย ศิรประภา สุขดำรงค์
       รุจน์ รับบทโดย กฤศภูดิศ สุริยวงศ์
       เทพบิดา รับบทโดย ทูน หิรัญทรัพย์
       ชี้คอาเหม็ด รับบทโดย โอลิเวอร์ บีเวอร์
       นางราคะ รับบทโดย มินทิรา งามทรัพย์มณี
       นางโทสะ รับบทโดย มนัสวี กฤตานุกูลย์
       นางโมหะ รับบทโดย ลิลลี่ แม็คกร๊าธ
       เทพธิดาตาทิพย์ รับบทโดย ปวันรัตน์ นาคสุริยะ
       ตรัสวิน รับบทโดย ด.ช. ชินพรรธน์ กิติชัยวรางค์กูร

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น