วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อ่านละครเล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 7 วันที่ 6 ก.ค. 55

บริเวณระเบียงบ้าน เอนกนั่งดื่มเหล้าอยู่ อนุทินเดินเข้ามาพอดีแล้วถามขึ้น
       
       “พ่อยังไม่นอนอีกหรือครับ”
       “อืมม์ แกไปไหนมากลับซะดึก”
       “สังสรรค์กับเพื่อนน่ะครับ ผมขอตัวนะครับ”
       อนุทินเดินเข้าบ้านไป เอนกกดโทรศัพท์หาลูกน้อง ปลายสายไม่มีใครรับ เอนกวางสาย
       อย่างหงุดหงิด ญาดาเดินเลี้ยวผ่านมาทางบ้านเอนกก็ต้องรีบหลบทันที
       “ คุณอาเอนกนี่หว่า”
       เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เอนกกดรับแล้วลุกขึ้นยืนพูด
       “ฮัลโหล เออชั้นเอง มีเรื่องจะให้แกช่วยหน่อย”
       ญาดาก้มตัวลงมุดต่ำเพื่อจะคลานผ่านไป
       “ชั้นต้องการให้แกอุ้มหลานชายชั้นให้หายไปจากเมืองไทย”
       ญาดาที่กำลังคลานอยู่ชะงักทันที
       “ใช่ ชื่อภูบดี”
       ญาดาสะดุ้งแล้วหยุดมองไปที่เอนก
       “อย่าให้พลาดนะ เออ เออ”
       เอนกวางสายแล้วยกเหล้าขึ้นสาดลงลำคอจนหมด แล้วเดินเข้าบ้านไป ญาดาสีหน้าตกใจเพราะคิดไม่ถึง
       “หมายความว่าไง”
       โทรศัพท์มือถือญาดาสั่นเข้ามา ตาลกดรับ
       “ฮัลโหล”
       “อยู่ไหนเนี่ย แม่รอนานแล้วนะ”
       “เอ่อ แม่ สงสัยหนูจะไปกับแม่ไม่ได้แล้ว”
       “ทำไม” เจ๊อ้อยถาม
       “คุณภูกำลังมีอันตราย หนูต้องอยู่กับเค้าก่อน”
       “นี่เอ็งจะบ้าหรือ”
       “แต่หนูทิ้งเค้าไปตอนนี้ไม่ได้ แม่ไปก่อนนะ ถ้าหนูจัดการทางนี้เรียบร้อยหนูจะตามไป”
       “ไอ้ตาล”
       “แค่นี้นะแม่”
       ญาดาวางสายแล้วสะพายเป้เดินกลับไปที่บ้านของพิพัฒน์
       ภายในรถ เจ๊อ้อยบ่นฮุบ
       “ตาล ฮึ่ย ไอ้ตาลนี่มันจะบ้าใหญ่แล้ว”
       “เอาไงครับ” คนขับถาม
       “กลับ”
       รถตู้ขับออกไป
      
       ภายในบ้านพิพัฒน์ในเวลาต่อมา ญาดาย่องกลับเข้าบ้าน มองซ้ายขวาเห็นไม่มีใคร สายตาใครคนหนึ่งมองลงมาห็นญาดากำลังย่องขึ้นบันได และแล้วญาดาก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อเห็นธาวินยืนรออยู่
       “คุณภู”
       “ไปไหนมา”
       “เอ่อ ตาล ตาลออกไปเดินเล่นน่ะค่ะ”
       “เดินเล่นในชุดนี้น่ะหรือ” ธาวินถาม
       ญาดาสะดุ้งเหลือบมองตัวเองแล้วยิ้มกลบเกลื่อน
       “คือ ตาลบอกความจริงก็ได้ค่ะ เพื่อนตาลเค้าชวนไปเต้นระบำน่ะค่ะ แต่ตาลเปลี่ยนใจไม่ไปแล้ว”
       “แล้วทำไมไม่บอกผมตรงๆ ต้องแอบหนีมาตอนผมหลับ”
       “ก็ .ตาลกลัวว่าคุณภูจะไม่ให้ไปนี่คะ”
       “แล้วนั่นอะไร”
       ธาวินชี้ไปที่เป้
       “อ๋อ เมื่อกลางวันตาลซื้อของมาน่ะค่ะ เลยฝากไว้ที่ห้องต้นหอม”
       ธาวินจ้องหน้าด้วยสายตาคาดคั้นแล้วถามตรงๆ
       “นี่ตาลไม่ได้คิดจะหนีผมใช่มั้ย”
       “เปล่าค่ะ ตาลจะหนีคุณภูไปไหนล่ะคะ ตาลเป็นเมียคุณภูนะ ไปนอนต่อเถอะค่ะ”
       ญาดาเข้ามาเกาะแขน ธาวินมองอย่างไม่เชื่อใจ ญาดาหอมแก้มเอาใจ
       “ไปค่ะ”
       ญาดายิ้มแล้วดึงแขนของธาวินเข้าไปในห้องนอน
       บนเตียงนอน ธาวินและญาดานอนหันหลังให้กัน ธาวินนอนลืมตาคิดถึงเรื่องเมื่อครู่
       “ไปไหนมา”
       “เอ่อตาล ตาลออกไปเดินเล่นน่ะค่ะ”
       ธาวินเหลือบมองญาดาอย่างไม่ไว้ใจ
       ญาดานอนลืมตาคิดเรื่องเอนก
       “ชั้นอยากให้แกอุ้มหลานชั้นให้หายไปจากเมืองไทย ใช่ ชื่อภูบดี”
       ญาดาถอนหายใจเบาๆก่อนจะขยับตัวหันมาเล่าเรื่องให้ธาวินฟัง
       “คุณภูคะ คุณภูหลับรึยัง”
       ธาวินชะงักแกล้งหลับตาไม่ตอบ ญาดาชะโงกมอง เห็นธาวินหลับก็ถอนหายใจเบาๆแล้วล้มตัวลงนอนลืมตาสีหน้าเครียด
      
       เช้าวันรุ่งขึ้น ธาวินเดินจ๊อกกิ้งผ่านมาทางบ้านพักคนงาน ธาวินมองซ้ายขวาไม่เห็นใครก็เปิดประตูเข้าไปในห้องบุญทันทันที ธาวินนั่งตรงข้ามกับบุญทัน
       “แกคิดว่าเธอจะหนีหรือ” บุญทันถามขึ้น
       “ตอนแรกชั้นก็คิดอย่างงั้น แต่ทำไมอยู่ๆเธอถึงเปลี่ยนใจกลับมาก็ไม่รู้”
       “ชั้นว่าเค้าคงตัดใจจากแกไม่ได้มากกว่า ถ้าเป็นแบบนี้แกยิ่งต้องระวังตัว”
       “ทำไม”
       “อ้าว ก็แสดงว่าเค้าตั้งใจจะจับแกจริงจังน่ะสิ”
       “ชั้นว่าแกมองตาลเค้าแง่ร้ายเกินไป”
       “แล้วแกว่าเค้ามีมุมไหนที่เรามองแง่ดีได้บ้าง ชั้นบอกตามตรงเลยนะ แกควรจะหาทางเลิกกับเค้าซะ”
       เสียงเคาะประตูดังพร้อมๆกับสียงของมณทกานต์
       “บุญทัน”
       บุญทันกับธาวินสะดุ้ง
       “น้องเมย์ แกไปแอบในห้องน้ำก่อน” บุญทันบอก
       ธาวินรีบวิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำ บุญทันเปิดประตู เห็นเมย์ยืนอยู่หน้าห้อง
       “ชั้นได้ยินเสียงเหมือนนายคุยกับใคร”
       “อ๋อ ผมฟังวิทยุน่ะครับ คุณเมย์มีอะไรหรือครับ”
       “ชั้นมีเรื่องจะคุยด้วย”
       มณทกานต์เดินเข้ามาในห้อง บุญทันเดินตามเข้ามา
       “มีอะไรครับ”
       “ชั้นจะแต่งงานกับนาย” มณทกานต์บอก
       บุญทันสีหน้าอึ้งไปทันที
       “ชั้นมาคิดดูแล้วเรื่องมันจะได้จบซะที”
       ธาวินซึ่งหลบแอบอยู่ในห้องน้ำชะเง้อฟังจนเผลอก้าวเท้าเตะกระป๋องดังโครม !
       มณทกานต์กับบุญทันชะงักกึกไปทันที
       “ใครอยู่ในห้องน้ำ” มณทกานต์ถาม
       “ไม่มีหรอกครับ สงสัยจะเป็นแมว”
       มณทกานต์จะเดินไปดู แต่บุญทันขวางไว้แล้วบอก
       “ไม่มีอะไรจริง ๆ ครับ”
       “ถอยไป”
       ในห้องน้ำ ธาวินมองซ้ายขวาหาทางหนีแต่ไม่มี
       “เชื่อผมสิครับว่าไม่มีอะไร”
       มณทกานต์ไม่เชื่อจะเดินไปที่ห้องน้ำ บุญทันรีบแก้สถานการณ์ดึงตัวมณทกานต์เข้ามาจูบ ธาวินแง้มประตูออกมาแอบดูก็เห็นบุญทันจูบมณทกานต์อยู่ ธาวินอมยิ้ม
       มณทกานต์ได้สติผลักบุญทันออกแล้วต่อว่าทันที
       “ไอ้บ้า ไอ้คนฉวยโอกาสนายนี่มันเลวจริง ๆ”
       มณทกานต์เดินสะบัดหน้าออกจากห้องบุญทันไป บุญทันมองตามแล้วถอนหายใจ ธาวินเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วบอก
       “แกนี่มันร้ายไม่เบานะ ไอ้ภู เห็นทำขรึมๆ”
       “นี่ ไอ้วินที่ชั้นต้องทำแบบนี้เพราะชั้นไม่อยากให้น้องเมย์เค้าเจอแกหรอกนะ”
       “จริงอ้ะ”
       “ก็จริงสิ”
       “แต่ชั้นว่าเมื่อกี้ถ้าไม่มีชั้นอยู่ด้วย แกคงจะ...” ธาวินพูดค้างไว้
       “ชัทอัพ ชั้นไม่เหมือนแกที่บ้าผู้หญิง เอาล่ะ แกไปได้แล้ว”
       บุญทันเดินออกไปที่หน้าประตูเพื่อมองลู่ทาง...ฉลุย ไม่เห็นใครในบริเวณนั้น
       “ไม่มีใครแล้ว”
       ธาวินเดินออกทำจ๊วบปากจุ๊บล้อเลียนใส่บุญทัน บุญทันผงะ
       “ไอ้บ้านี่”
       ธาวินเดินหัวเราะออกไป บุญทันมองตามแล้วส่ายหน้า
       “ไอ้วินนะไอ้วิน น้องเมย์เลยโกรธเราไปอีก”
      
       มณทกานต์เดินเข้ามาในบ้านมด้วยสีหน้าบึ้งตึง เจอกับอนุทินที่กำลังดื่มกาแฟ อนุทินมองน้องสาวแล้วถาม
       “ไปไหนมาแต่เช้า”
       “เดินเล่น”
       “แล้วตกลงแกกับไอ้บุญทันจะแต่งกันเมื่อไหร่”
       “พี่เอจะสนใจทำไม”
       “ถ้าแกไม่ได้ใช้นามสกุลเดียวกับชั้น ชั้นคงไม่สน”
       “งั้นพี่ก็คิดว่าชั้นเป็นคนอื่นแล้วกัน เพราะชั้นยังไม่ยุ่งเรื่องของพี่กับนังปารมีเลย”
       “แกพูดเรื่องอะไร”
       “ชั้นรู้นะว่าพี่แอบมีอะไรกับมัน”
       “แล้วทำไม ชั้นไม่ได้เอาคนใช้มาเป็นเมียซะหน่อย อย่างน้อยปารมีเค้าก็ไม่ใฝ่ต่ำเหมือนแก”
       มณทกานต์มองด้วยสายตาโกรธแล้วพูดประชด
       “ใช่ ชั้นใฝ่ต่ำ ชั้นก็จะคอยดูว่านังปารมีมันจะดีกับพี่แค่ไหน”
       มณทกานต์เดินสะบัดหน้าขึ้นชั้นบนไป
       “หือ นังนี่”
       อนุทินมองตามมณทกานต์ คิดว่า ถ้าไม่ใช่น้องสาวจะตบสักฉาด
      
       ในเวลาเดียวกัน ญาดากำลังรินกาแฟให้พิพัฒน์
       “ขอบใจ แล้วเอาเงินไปไถ่ตัวแม่รึยัง” พิพัฒน์ถาม
       “เรียบร้อยแล้วค่ะคุณปู่ ตาลกราบขอบพระคุณคุณปู่อีกครั้งนะคะ”
       “หนูเป็นเมียเจ้าภูก็เหมือนเป็นหลานสาวปู่”
       “คุณปู่ดีกับหนูมาก จนหนูไม่รู้จะตอบแทนพระคุณยังไง”
       “ก็ปู่บอกแล้วไงว่าให้รีบมีเหลนมาให้ปู่เลี้ยงเร็ว ๆ”
       ญาดาฝืนยิ้มแล้วบอก
       “ค่ะ”
       ธาวินเดินลงมานั่งที่โต๊ะแล้วทักทายพิพัฒน์
       “สวัสดีครับคุณปู่”
       “เป็นไงบ้าง เมื่อวานทำงานวันแรก ไหวมั้ย” พิพัฒน์บอก
       “ต้องไหวสิครับ คุณปู่ไม่ต้องห่วง”
       ญาดารินกาแฟให้ธาวิน
       “มีอะไรหนักใจตรงไหนรึเปล่า”
       “ตอนนี้ยังไม่มีครับ”
       เอนกเดินเข้ามาพอดี
       “สวัสดีครับคุณพ่อ”
       ญาดาชะงักมองหน้าเอนก
       “อ้าว เอนก กินข้าว”
       “ผมทานมาแล้วครับ” เอนกบอก
       ธาวินเหลือบมองเอนกทำเหมือนไม่มีอะไรติดใจ
       “สวัสดีครับคุณอา”
       “อามีเรื่องจะมาปรึกษาหลานหน่อย”
       “เรื่องอะไรครับ”
       ญาดาเหลือบมองเอนกอย่างไม่ไว้ใจ
       “ฝ่ายเอ็มแอลเค้าเสนอขอปรับปรุงสนามกอล์ฟที่รังสิต อาก็เลยอยากให้หลานแวะไปดูหน่อยว่าหลานมีความเห็นยังไง”
       “ได้ครับ วันนี้วันหยุดผมว่างพอดี เดี๋ยวผมจะเข้าไปดูบ่ายๆ” ธาวินบอก
       “ดี งั้นเดี๋ยวอาจะโทรบอกทางนู้นให้เค้าต้อนรับ”
       “ครับ”
       “ขอตัวนะครับคุณพ่อ”
       เอนกเดินออกไป ญาดามองตามอย่างรู้สึกถึงลางไม่ดี
       “มีอะไรไม่เข้าใจก็ปรึกษาเอนกเค้าได้ทุกเรื่อง เค้าอยู่กับปู่มานานจนเหมือนเป็นลูกชายปู่คนนึง”
       ธาวินฝืนยิ้มแล้วรับคำ
       “ครับ”
       ธาวินยกกาแฟขึ้นจิบไม่พูดอะไร ญาดามีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด
      
       บุญทันขับรถเข้ามาจอดที่หน้าบ้านพิพัฒน์ ธาวินเดินออกมาจากบ้าน บุญทันเปิดประตูรถให้ ธาวินจะก้าวขึ้นรถ ญาดาวิ่งตามลงมาแล้วเรียก
       “เดี๋ยวค่ะคุณภู”
       บุญทันกับธาวินชะงัก
       “มีอะไรตาล” ธาวินถาม
       “ตาลไปด้วยนะคะ”
       “เอ่อ...”
       ธาวินมองหน้าบุญทันราวกับจะขอความช่วยเหลือ
       “แต่คุณภูไปทำงานนะครับ ไม่ได้ไปเที่ยว” บูญทันว่า
       “ชั้นรู้”
       ญาดาหันมาพูดกับธาวิน
       “ตาลอยู่บ้านคนเดียวมันเบื่อน่ะค่ะ ให้ตาลนั่งรถเล่นไปด้วยคนนะคะ ตาลไม่ยุ่งกับงานคุณภูหรอกค่ะ”
       ธาวินสบสายตากับบุญทัน
       “ว่าไงบุญทัน”
       “ทำไมต้องถามบุญทันด้วยคะ”
       “อ๋อ ผมหมายถึงว่าบุญทันจะมีปัญหาอะไรรึเปล่า”
       “นายมีปัญหาหรือบุญทัน ถ้าชั้นจะไปด้วย” ญาดาถาม
       “ไม่มีครับ เชิญครับ”
       ญาดาเดินนำขึ้นไปนั่งในรถ ธาวินมองหน้าบุญทันก่อนจะขึ้นตามไป บุญทันปิดประตูแล้วเดินไปขึ้นรถ เอนกยืนอยู่มุมหนึ่งมองตามรถที่บุญทันขับออกไปแล้วกดโทรศัพท์
       “ออกไปแล้วนะ”
      
       บุญทันขับรถขณะสายตาเหลือบมองกระจกหลัง เห็นญาดานั่งมองซ้าย มองขวา เดี๋ยวมองหลังอย่างคนระแวง วินเหลือบมองแล้วถาม
       “มีอะไรรึเปล่า”
       “เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร ตาลแค่มองถนนน่ะค่ะว่าแถวนี้มันที่ไหน”
       “ผมไปที่สนามกอล์ฟเลยนะครับ คุณภู” บุญทันว่า
       “อืมม์ นายรู้ที่ใช่มั้ย”
       “รู้ครับ”
       ธาวินหันกลับมามองญาดาที่ยิ้มให้
      
       รถขับไปตามทาง จนมาเลี้ยวเข้ามาจอดด้านหน้าของสนามกอล์ฟ ธาวินและญาดาก้าวลงจากรถ ผู้จัดการสนามกอล์ฟเข้ามาแนะนำตัว
       “สวัสดีครับคุณภูบดี ผมประสิทธิ์เป็นผู้จัดการที่นี่ครับ”
       “หวัดดีครับ นี่คุณตาลภรรยาผม”
       “สวัสดีครับคุณตาล เชิญด้านนี้ครับ”
       ประสิทธิ์เดินนำญาดากับธาวินไปที่ล็อบบี้
      
       เอนกเดินถือโทรศัพท์ในมือแล้วเดินไปมาอย่างกระวนกระวายใจ มณทกานต์ลงมาจากชั้นบนเพื่อเปิดตู้เย็นรินน้ำเย็นดื่ม เหลือบมองเห็นพ่อเดินไปมาคอยดูโทรศัพท์ตลอดเวลา
       “พ่อรอโทรศัพท์ใครหรือคะ”
       “อ๋อ เปล่า ไม่มีอะไร”
       เอนกรีบเดินขึ้นชั้นบนไป มณทกานต์มองตามอย่างแปลกใจ
      
       ประสิทธิ์นำแผนที่ในสนามกอล์ฟมากางให้ธาวินดูโดยมีญาดานั่งอยู่ด้วย ส่วนบุญทันยืนอยู่ห่างออกไป ประสิทธิ์อธิบาย
       “พื้นที่ส่วนสนามกอลฟ์ของเราจะแบ่งเป็นสามโซนครับ ด้านนี้เป็นโซนA ด้านนี้เป็นโซนB ส่วนโซนC ตอนนี้เราปิดไม่ได้ให้บริการครับ”
       “อ้าว ทำไมล่ะครับ”
       “ตอนที่น้ำท่วมส่วนโซน C ได้รับความเสียหายครับ”
       ธาวินมองตามแผนที่ ขณะที่ญาดามองไปรอบบริเวณอย่างสำรวจและไม่ได้สนใจฟังการสนทนาของธาวินกับประ สิทธิ์จนธาวินรู้สึกได้ จึงบอกว่า
       “ถ้าตาลเบื่อจะไปเดินเล่นก็ได้นะ”
       “ไม่เป็นไรค่ะ ตาลไม่เบื่อ ตาลนั่งอยู่กับคุณภูดีกว่า”
       ญาดาส่งยิ้มให้ ธาวินยิ้มตอบเล้วหลือบมองไปที่บุญทัน
       บุญทันมองญาดาอย่างไม่ชอบใจรู้สึกรำคาญที่ญาดาเกาะติดธาวินได้แต่ฝืนยิ้มอย่างเสียไม่ได้
       “แล้วปัจจุบันนี่เรามีลูกค้ามาใช้สนามมากน้อยแค่ไหนครับ” ธาวินถาม
       “จริงๆแล้วถ้าปีที่แล้วไม่มีเหตุการณ์น้ำท่วม ผมคิดว่ายอดลูกค้าจะสูงขึ้นกว่าเดิมเกือบห้าสิบเปอร์เซ็นต์”
       ประสิทธิ์ส่งสมุดบันทึกรายงานให้ ธาวินเปิดดู
       “คุณภูอยากจะดูพื้นที่จริงมั้ยครับ เดี๋ยวผมจะพานั่งรถดูรอบๆ”
       “ดีครับ”
       “งั้นรอซักครู่นะครับ” ประสิทธิ์บอก
       สายตาใครบางคนมองเห็นประสิทธิ์ลุกเดินออกไป ธาวินยกน้ำขึ้นจิบแล้วนั่งเปิดดูเอกสารต่อ
      
       ภายในห้องเอนก เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เอนกซึ่งเดินไปมาอยู่รีบกดรับสายทันที
       “ฮัลโหล เจอตัวแล้วใช่มั้ย อย่าให้พลาดนะชีวิตชั้นขึ้นอยู่กับแก”
       มือปืนในชุดตีกอล์ฟตอบกลับว่า
       “ครับ นายไม่ต้องห่วง”
       มือปืนวางสายแล้วโผล่หน้าออกมามองธาวินอีกครั้ง
       ขณะนั้น ประสิทธิ์ พาญาดา ธาวินและบุญทันขึ้นรถกอล์ฟออกวิ่งไปในสนาม ประสิทธิ์อธิบาย ธาวินซักถาม บุญทันนิ่งฟังอย่างตั้งใจ ส่วนญาดามองไปรอบๆอย่างระแวง
      
       เมื่อเสร็จกิจ รถกอล์ฟขับเข้ามาส่ง ทุกคนก้าวลงจากรถ ธาวินพูดขึ้น
       “เดี๋ยวผมจะคุยสรุปกับคุณเอนกอีกครั้งนะครับ”
       “ครับ ถ้าจะปรับปรุงยังไงต้องบอกล่วงหน้าซักสามเดือนนะครับ เราจะได้ยกเลิกแขกที่จองมาทางอินเตอร์เน็ต”
       “ครับ”
       “งั้นเดี๋ยวเชิญคุณภูกับคุณตาลทานอะไรที่ห้องอาหารก่อนนะครับแล้วค่อยกลับ” ประสิทธิ์บอก
       “ไม่ดีกว่าครับ เดี๋ยวผมไปหาอะไรทานข้างนอก”
       “เอางั้นหรือครับ”
       “ครับ ห้องน้ำอยู่ทางไหนครับ ผมจะขอเข้าห้องน้ำหน่อย” ธาวินถาม
       “ทางนี้เลยครับ”
       ประสิทธิ์จะเดินนำไป แต่ธาวินบอก
       “ไม่เป็นไรครับคุณประสิทธิ์ เดี๋ยวผมไปเอง”
       “งั้นผมไปเอารถนะครับคุณภู” บุญทันบอก
       ธาวินพยักหน้าจะเดินออก
       “ตาลไปด้วยค่ะ”
       ญาดาเดินตามธาวินออกไป บุญทันมองตามแล้วส่ายหน้าอย่างหมั่นไส้
       “ยัยนี่ติดไอ้ภูยังกะหมากฝรั่ง”
ขอขอบคุณจาก manager.co.th  

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น