วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555

อ่านละครหงส์สะบัดลาย ตอนที่3 วันที่15 ส.ค. 55

“เว่อร์น่า ไม่ขนาดนั้นซะหน่อย”

“จริงๆนะคุณ คู่รักต้องการเวลาอยู่ด้วยกันสองคนบ้าง เรื่องบางอย่างในหัวใจ มันก็ไม่เหมาะที่จะมีไส้ติ่งไปนั่งรับรู้รับฟังนะ”

“กลาย เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องความรักขึ้นมาอีกแล้ว” เนติมามองระบิลอย่างขำๆที่รู้ไปซะทุกเรื่อง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังเรื่องศิวัชจะให้เป็นเลขาส่วนตัว นั่นเท่ากับว่าระบิลต้องมีงานมากขึ้น เพราะชื่อกับนามสกุลของเธอจะเป็นแม่เหล็กดูดงานมาให้

“ก็ผมมาทำงาน นี่ครับ แล้วงานผมก็สั้นๆง่ายๆไม่เห็นมีอะไร แค่คุณปลอดภัยไงครับ เห็นไหมง่ายๆแค่นี้เอง” ระบิลตอบอย่างสบายๆไม่มีทีท่ากังวลใจอะไร ก่อนเลี้ยวรถเข้าไปจอดในบ้านกันต์

ooooooo

เนติมาก้าวลงจากรถ ระบิลมองเข้าไปในบ้านเห็นความผิดปกติเพราะปิดไฟมืด เขาหยิบปืนพกขึ้นมาเตรียมพร้อมพลางกระซิบบอกเจ้านายให้อยู่ใกล้ๆไว้เพื่อ ความปลอดภัย แล้วเดินนำเข้าไปด้านใน

“ทำไมมืดอย่างนี้” ระบิลหันไปเปิดสวิตช์ไฟ

ไฟในห้องสว่างขึ้น ทั้งสองคนต้องตกใจเมื่อเห็นข้าวของในบ้านกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น ระบิลรีบกระชากลูกเลื่อนปืนพร้อมใช้

“ไม่...ไม่” เสียงเจือจันทร์ดังออกมาจากห้องหนังสือ ระบิลดึงเนติมาเข้าไปดู พบกันต์นั่งกุมมือภรรยาที่ร้องไห้อยู่อย่างปลอบโยน

เนติ มาถามทั้งสองว่าเกิดอะไรขึ้น เจือจันทร์เงยหน้าขึ้นมาต่อว่าชุดใหญ่ เธอโทษว่าเนติมาคือต้นเหตุของความเดือดร้อน กันต์ปรามภรรยาแล้วช่วยอธิบายแทนว่า ปกติลูกน้องของอิทธิหาญจะมาที่บ้านของเขาอยู่เรื่อยๆ บางครั้งก็เข้ามาขู่ บางครั้งก็เข้ามาสั่งให้ทำอาหารไปส่ง แต่วันนี้พวกมันมาเห็นบ้านสะอาดผิดสังเกตก็เลยพังซะเละ ทั้งๆที่เขาบอกแล้วว่ามีญาติมาขอพักด้วย

“พวกมันต้องเข้ามาอีกแน่ แล้วคราวนี้จะทำกันยังไง ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าเธอจะนำความเดือดร้อนมาให้เรา ออกไป ฉันไม่อยากฟัง ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอสองคน ออกไป” เจือจันทร์ตวาด

กันต์ กระชับมือภรรยาไว้แน่นเป็นการปลอบโยน ก่อนจะหันไปขอร้องระบิลให้พาเนติมาออกไปก่อน เขารับปากจะคุยกับเจือจันทร์ให้เอง ระบิลรับคำหันไปพยักหน้าให้เนติมา หญิงสาวเดินคอตกตามระบิลออกไป

ooooooo

ระบิลปลอบใจนายสาวไม่ ให้คิดมาก พลางขอให้ขึ้นไปอาบนํ้าก่อน เนติมารับฟังจะเดินขึ้นชั้นบน พลันชะงักเมื่อเห็นขวัญชนกนั่งกอดเข่าซบหน้าร้องไห้อยู่บนบันได

ส่วน ขวัญชนก เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นระบิลกับเนติมา ก็รีบลุกวิ่งเข้าห้องด้วยความกลัว เนติมากับระบิลตามไป และพยายามจะรั้งบานประตูไว้เพื่อจะเข้าไปข้างใน เป็นเหตุให้ระบิลถูกประตูหนีบมืออย่างจัง

“โอ๊ย” บอดี้การ์ดกุมมือด้วยความเจ็บ

เนติมาตกใจรีบเข้าไปดูอาการ  แต่ไม่ทันขวัญชนกที่ปรี่เข้าไปจับมือระบิลอย่างลืมตัว

“ฉันขอโทษ เจ็บมากไหมคะ”

“เออ...ไม่เท่าไหร่ครับ” ระบิลหันมาสบตากับเนติมาอย่างงงๆ

ขวัญชนกได้ยินเสียงระบิลก็นึกได้รีบปล่อยมือเขา แล้วจะกลับเข้าห้อง แต่เนติมาดึงตัวไว้

“ขวัญ...เธอยังกลัวฉันกับคุณระบิลอยู่อีกเหรอ”

“ฉัน...ฉันไม่ได้กลัวเธอ แต่...แต่ฉันกลัว...” ขวัญ–ชนกพูดได้เท่านั้นก็ร้องไห้โฮ

ระบิลกับเนติมามองหญิงสาวอย่างเข้าใจและเห็นใจ เนติมาดึงเพื่อนรักมากอดแล้วพาเข้าห้องไป

หลังจากขวัญชนกหลับ เนติมาเดินลงมาช่วย

ระบิลทำความสะอาดบ้านพลางชวนคุยเรื่องเพื่อนรัก

ระบิลพยัก หน้าช้าๆ เอ่ยว่า ชีวิตขวัญชนกน่าสงสาร เธอควรจะพบแต่ความสดใส ไม่ใช่อับเฉาอย่างที่เป็นอยู่ เนติมาหน้าสลดรู้สึกผิดที่ครอบครัวของเธอมีส่วนทำให้ครอบครัวของขวัญชนกพบ เรื่องเลวร้าย

“ผมขอโทษ” ระบิลมองนายสาวอย่างเข้าใจความรู้สึก
“ที่นายพูดมันเป็นเรื่องจริงนี่นา ใครจะเชื่อ ครอบ– ครัวอดีตอัยการมือดีจะต้องมีสภาพอย่างนี้ ครอบครัวฉันเป็นต้นเหตุ ฉันถึงต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น เออ...

มือนายเป็นไงบ้าง” เนติมานึกขึ้นได้

“อ๋อ...สบายมาก โอ๊ย” ระบิลร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อขยับมือข้างที่โดนประตูหนีบ

เนติ มาคว้ามือชายหนุ่มมาดู เมื่อเห็นมีรอยชํ้าก็ตกใจกลัวว่ากระดูกจะแตก จึงบังคับให้ไปหาหมอด้วยกัน หมอตรวจแล้วพบว่าแค่ฟกชํ้า ไม่มีอะไรบุบสลาย

“ไงล่ะก็แค่ชํ้า เสียเวลาขับรถมาเปล่าๆ” ระบิลถอนใจเซ็ง

“อย่างน้อยก็ได้เอกซเรย์ จะได้สบายใจ”

“ผมเพิ่งทายาที่มือคุณให้หยกๆ เผลอแวบเดียวคุณต้องพาผมมารักษามือ ขอบคุณมากนะครับ”

“เปลี่ยนจากคำขอบคุณ เป็นทำแกงจืดลูกรอกให้ฉันทานหน่อยได้ไหม ฉันไม่ได้ทานมานานมากแล้ว”

“แหม...เล่นแกงโบราณเลยนะคุณ”

“ก็ฉันชอบ เมื่อก่อนคุณแม่ทำให้ฉันทานบ่อยๆ” เนติมาพูดแล้วสลดลง

ระบิลหันมาเห็นรีบเปลี่ยนบรรยากาศชวนเจ้านายแวะกินก๋วยเตี๋ยวข้างทาง เพราะอาหารฝรั่งเมื่อตอนค่ำย่อยหมดแล้ว

ระหว่าง นั่งทานก๋วยเตี๋ยว ชายหนุ่มคุยเรื่องบ้านสวนที่เพชรบุรี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาให้ฟัง นาทีนั้น เนติมาได้ยินหนุ่มสาวโต๊ะข้างหลังคุยกันเรื่องตามหาพี่สาว เธอรู้สึกคุ้นน้ำเสียงของเด็กหนุ่มจึงหันไปมอง แต่น่าเสียดาย ดลกับอ้อเดินไปขึ้นสามล้อออกไปเสียแล้ว

ระหว่างทางกลับบ้าน เนติมายังคงข้องใจเรื่องเด็กหนุ่มที่ร้านก๋วยเตี๋ยว เธอเอ่ยถามระบิลที่กำลังขับรถว่า เชื่อเรื่องสายใยพี่น้องไหม

“เชื่อ แล้วก็เชื่อด้วยว่า สายใยที่คุณว่า จะชักพาให้คุณกับน้องชายมาพบกัน โดยที่คุณไม่ต้องมานั่งทำหน้านิ่วคิ้วผูกโบให้หน้าเป็นรอยพับยับถาวรอยู่ เนี่ย เชื่อผมสิ  ถ้าคิดแล้วมันหาคำตอบไม่ได้ก็อย่าเพิ่งคิด ผมมั่นใจอะไรอย่างหนึ่งรู้ไหม อย่างน้อยความรู้สึกที่คุณมีต่อน้องชายในตอนนี้ เขาเองก็รู้สึกไม่แพ้คุณหรอกนะ แล้วไอ้ความรู้สึกนี้จะช่วยพาคุณสองคนมาพบกัน แต่อย่าถามว่าเมื่อไหร่ เพราะผมไม่ใช่หมอดู แต่ถ้าอยากรู้ ผมจะไปเรียนหมอดูมาดูให้คุณเอง สนมะๆ” ระบิลลอยหน้าลอยตา

“ไม่ต้องเลย ขืนนายมาดูดวงให้ฉัน ชีวิตฉันคงปั่นป่วนมากกว่านี้แน่ๆ ขับรถไปเลย ฉันง่วงนอนแล้ว” เนติมาทำเข้มใส่ แต่ในใจนึกขอบคุณเพราะคำพูดของชายหนุ่มทำให้เธอมีกำลังใจ

ooooooo

บ่ายวันต่อมา เนติมาเข้าช่วยงานศิวัชกับธำรงที่พรรค ทุกคนต่างพอใจ เมื่อผลโพลจากสถาบันต่างๆ ระบุว่าคะแนนนิยมของพรรคสยามพัฒนาสูงลิ่ว

“เรื่อง นี้กลุ่มของนายพงษ์เลิศจะโทษใครไม่ได้เลย นอกจากต้องโทษตัวเอง ตอนบริหารบ้านเมืองก็คิดแต่จะทำเพื่อพวกพ้อง เขาคงคิดว่าประชาชนโง่ ไม่รู้ว่าอะไรคืออด อะไรคืออิ่ม” เนติมาพูดท่าทางจริงจัง ขณะที่ธำรงครุ่นคิดอะไรอยู่นิดหนึ่ง ก่อนพูดอย่างสุขุม

“คะแนนนิยมเราสูงขนาดนี้ ไม่รู้ว่าพวกมันจะเล่นสกปรกอะไรบ้าง”

จังหวะ นั้นเอง ระบิลยืนคุยโทรศัพท์อยู่มุมหนึ่ง เขากดวางสายแล้วหันมารายงานทุกคน “เป็นไปตามคาดครับ เพื่อนผมที่ประจำอยู่ชายแดนบอกว่า สายสืบแจ้งว่าจะมีอาวุธสงครามลอตใหญ่ ส่งข้ามชายแดนเข้ามาในประเทศ ทุกคนต้องระวังตัวให้มากขึ้นนะครับ”

“ไอ้พวกนี้เลวจริงๆ กลัวสูญเสียอำนาจ จนไม่รู้อะไรนรกอะไรสวรรค์แล้ว” ธำรงพูดด้วยความหงุดหงิด ขณะที่ศิวัชเอื้อมมือไปกุมมือเนติมาด้วยความเป็นห่วงพลางเอ่ยถาม “กลัวไหมจ๊ะเนติ์”

“ไม่มีอะไรที่เนติ์ต้องกลัวค่ะพี่ศิวัช พวกเรากลับมาที่นี่ เพื่อเอาคนชั่วลงจากอำนาจไม่ใช่เหรอะ” เนติมากระชับมือคนรัก

เสียง เคาะประตูดังขึ้น เจ้าหน้าที่เข้ามารายงานธำรงว่า พงษ์เลิศมาขอพบ ทุกคนอึ้งเมื่อได้ยินชื่อนี้ เพราะคิดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าบุกมาถึงถิ่น

“กล้ามา เราก็กล้าต้อนรับ ไป ออกไปเล่นละครการเมืองกัน” ธำรงเดินออกไป

ศิ วัชห่วงเนติมา เขาขอร้องให้เธออยู่ในห้อง แต่สาวเจ้าไม่ยอม ยืนกรานจะออกไปสบตาคนที่สั่งฆ่าพ่อแม่ด้วยตาตัวเอง เธออยากให้พงษ์เลิศรู้ว่า กรรมเดินทางมาใกล้ตัวแล้ว

ศิวัชมองคนรักอย่างหนักใจ แต่ระบิลกลับขอร้องให้ศิวัชเชื่อมั่นใจตัวคนรัก

ธำรง เดินนำระบิล เนติมา และศิวัชมาพบพงษ์เลิศกับชลกร พร้อมกองทัพนักข่าวที่หน้าห้องโถง เจ้าถิ่นเชื้อเชิญผู้มาเยือนให้เข้าไปคุยกันในห้องรับรอง แต่พงษ์เลิศว่า วันนี้เขาแค่มาแสดงความยินดี ที่จะได้ร่วมมือกันช่วยพัฒนาประเทศ แล้วพยักหน้าให้ชลกรนำกระเช้าดอกไม้ให้ธำรงพลางแนะนำ

“นี่คุณชลกร”

“คุณชลกร ผมได้ยินชื่อเสียงคุณมาบ้าง” ธำรงยิ้มรับ

ชล กรรีบโปรยเสน่ห์ ขณะที่พงษ์เลิศหันไปทักทายศิวัช ก่อนจะมองไปที่ระบิลกับเนติมา เขาจำเธอได้ แต่ทำฟอร์มว่าไม่เคยรู้จัก แสร้งถามธำรงว่า สองคนนี้คือใคร

“นั่นคุณระบิล อดีตหน่วยคอมมานโดมือหนึ่งของประเทศ เพิ่งจบหลักสูตรรักษาความปลอดภัยบุคคลมาจากฝรั่งเศสครับ เขามาดูแลความปลอดภัยให้หลานสาวผม”

ระบิลยกมือไหว้พงษ์เลิศตามมารยาท พงษ์เลิศอมยิ้มเปรยว่า ถ้ารู้มาก่อนจะจ้างระบิลมาทำงานด้วย ระบิล สวนทันควันว่า เขาเลือกเหมือนกันว่าจะทำงานให้ใคร ทำเอาพงษ์เลิศหน้าเจื่อนไปนิดหนึ่ง แล้วหันไปทักเนติมา

“งั้นหลานสาวคนนี้ก็...”

“เนติ มา อิสราวัชร ลูกสาวคุณวิเชียร คุณพรรณศรี อิสราวัชร คุณพ่อฉันนักธุรกิจมือสะอาดที่ทุ่มเททั้งชีวิต เพื่อกำจัดนักการเมืองฉ้อฉลปล้นแผ่นดิน” เนติมาแนะนำตัวเอง

“อืม...คุณวิเชียรเป็นคนดี เสียดายไม่น่า...”

“สิบปีที่ผ่านมา ฉันมีลมหายใจอยู่ก็เพื่อวันนี้ วันที่ฉันจะกลับมาทวงคืนความชอบธรรมให้กับชีวิตคุณพ่อ

คุณ แม่ของฉัน บางคนอาจคิดว่าเวรกรรมเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ฉันว่ามันเป็นเรื่องจริง ที่คนก่อไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ” เนติมาพูดยิ้มๆ แต่เต็มไปด้วยความมั่นใจ

ระบิลอมยิ้มมองนายสาวอย่างชื่นชมในความกล้า ผิดกับศิวัชที่นึกห่วงคนรักจับใจ

ooooooo

พงษ์ เลิศมั่นใจว่าเนติมาต้องการกลับมาประกาศสงครามกับตนแน่ ทันทีที่มาถึงบ้าน เขาเรียกลูกชายกับปานมาพบและเล่าเรื่องเนติมาให้ฟัง อิทธิหาญทำฮึดฮัดจะออกไปตามหาทายาทอีกคนของอิสรา-วัชรให้พบ เพื่อจัดการให้หมดเสี้ยนหนาม

“ก็ไม่เห็นต้องตามหาให้เหนื่อย อีกหน่อยแรงแค้น ก็จะพามันมาหาเราเองนั่นแหละลูกรัก เราแค่เตรียมเขียงเตรียมมีดไว้เชือดมันก็พอ ฮ่าๆ” พงษ์เลิศหัวเราะอย่าง อารมณ์ดี ขณะที่อิทธิหาญแววตาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม

คํ่าวันเดียว กัน ศิวัชนัดเนติมาไปดูหนังรอบดึกหวังเพิ่มความหวาน แต่เป็นเพราะกรำงานหนัก จึงทำให้เขาเผลอหลับไป เนติมาถอนใจหันมาเรียกระบิลที่นั่งอยู่แถวหลังให้ชะโงกมาดูศิวัชนั่งหลับ อย่างหมดสภาพ

ระบิลหลุดขำ ทำให้เนติมายิ่งโมโห นึกอยากจะลุกไปขยํ้าคอชายหนุ่มนัก

เมื่อหนังจบระบิลขับรถมาส่งศิวัชหน้าคฤหาสน์หรู เนติมาหันมาให้กำลังใจคนรัก

“วันหลังเหนื่อยก็บอกเนติ์นะคะ จะได้กลับไปพักผ่อน แค่เรื่องดูหนังเอาไว้วันหลังก็ได้”

“ก็ พี่อยากอยู่ใกล้ๆเนติ์นี่จ๊ะ” ศิวัชพูดอย่างจริงใจ พลางเอื้อมมือไปจับมือเนติมากุมไว้ด้วยความรัก แล้วเปิดประตูให้เธอลงมานั่งคู่กับระบิลด้านหน้าก่อนจะเอ่ยว่า “ฝันดีนะจ๊ะเนติ์”

“พี่ศิวัชก็พักผ่อนเยอะๆนะคะ อย่าลืมฝันถึงเนติ์นะ”

ศิวัชเอื้อมมือไปลูบผมคนรักอย่างอ่อนโยน แล้วหันไปถามบอดี้การ์ด “คุณระบิล คุณรู้ใช่ไหมครับว่าผมจะพูดอะไร”

“ไม่ต้องห่วงครับคุณศิวัช ผมจะดูแลคุณเนติ์อย่างดี ที่สุดครับ” ระบิลพูดยิ้มๆ แต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น

ศิวัชยิ้มอย่างขอบคุณก่อนจะเดินเข้าไปในรั้วบ้านที่มีการ์ดเปิดประตูรอไว้แล้ว

เนติ มามองตามด้วยความเป็นห่วง แล้วหันมาปรับทุกข์กับระบิล “เมื่อก่อนพี่ศิวัชไปไหนก็ขับรถไปเองได้สบายๆ แต่แค่ลงสนามการเมืองไม่กี่วันไปไหนมาไหนก็ต้องมีบอดี้การ์ด นายไม่เห็นเหรอ”
“คุณเองยังต้องมีผมตามประกบแจเลยไม่เห็นเหรอ”

“แต่ นายกับการ์ดของพี่ศิวัชไม่เหมือนกันนี่ เพราะนายตลก ไม่เห็นเข้มเหมือนบอดี้การ์ดของพี่ศิวัชเลย ฮ่าๆ” เนติมาหัวเราะท่าทางกวนๆของระบิล

ชายหนุ่มทำเข้มขอร้องนายสาวอย่าพูดเรื่องนี้ให้ใครฟัง เพราะกลัวเสียลุค แล้วรีบออกรถ

ไม่ นานนักทั้งสองก็ถึงบ้านกันต์ เนติมาจะลงไปเปิดประตูบ้านแต่ระบิลรั้งไว้ เพราะเห็นประตูรั้วเปิดค้างไว้ เนติมาว่าบางทีอาเจือจันทร์อาจลืมปิดก็ได้

“ไม่ได้ลืมหรอกคุณ กุญแจมันถูกตัดน่ะ” ระบิลพูดเรียบๆ

เนติมาเห็นกุญแจคล้องประตูถูกตัดหล่นอยู่บนพื้นหน้าประตูก็นึกหวั่น

ooooooo

ใน บ้านกันต์ ลูกน้องอิทธิหาญทำกร่างเข้ามาสั่งเจือจันทร์ทำอาหารรอบดึกให้ลูกพี่ แต่เจือจันทร์กลัวลนลานทำอะไรไม่ถูก พวกมันไม่พอใจจะหันไปทำลายข้าวของในบ้านเพื่อข่มขวัญ

กันต์พยายามจะ เจรจาแต่ไม่เป็นผล และหวิดโดนพวกมันทำร้าย ระบิลมาถึงพอดี เขาตรงเข้าสั่งสอนเหล่าวายร้ายด้วยด้ามปืนและฝ่าเท้าลงไปนอนกอง ก่อนฝากข้อความไปถึงลูกพี่

“ที่นี่บ้านส่วนบุคคลไม่ใช่ร้านอาหารตาม สั่ง ถ้าหิวโน่นร้านอาหาร หรือถ้าไม่มีเงินไปซื้อ ให้มาขอเดี๋ยวฉันให้” บอดี้การ์ดส่งยิ้มกวนๆมองเหล่าสมุนซมซานออกไป

สามวายร้ายกลับมาฟ้องอิทธิหาญ มาเฟียน้อยโกรธมากจะยิงลูกน้องทิ้ง แต่ปานห้ามไว้ แล้วชวนเจ้านายไปบ้านกันต์เพื่อดูหน้าญาติตัวแสบ

ไม่ กี่นาทีต่อมา อิทธิหาญเดินนำปานและลูกน้องหน้าเดิมๆมาถึงหน้าบ้านกันต์ ซึ่งตอนนี้มืดสนิท เขาสั่งให้สมุนยิงปืนเรียกคนในบ้าน แต่ต้องชะงัก เมื่อแสงไฟจากสปอตไลต์ริมระเบียงชั้นสองสาดลงมา

“เสี่ยระวัง” ปานปราดเข้าคุ้มกัน

“ขอโทษทีแค่อยากติดไฟให้สว่าง” กันต์เลื่อนรถเข็นออกมาจากในบ้านอย่างใจเย็น

อิทธิหาญเจ็บใจถามหาหลานของกันต์หมายจะคิดบัญชี

“มีธุระอะไรกับฉันเหรอ” เนติมากับระบิลออกมายืนข้างกันต์

หญิง สาวนิ่งมองอิทธิหาญอย่างไม่กลัวเกรง พลางเหลือบมองปานด้วยความแค้น ในขณะที่อิทธิหาญกับปานก็ตะลึงเมื่อเห็นเนติมา ปานเองก็คาดไม่ถึงว่าจะพบระบิลน้องชายของเพื่อนรักเช่นกัน ภาพความผูกพันในอดีตผุดขึ้นมา ทำให้ปานไม่กล้าทำอะไรระบิล

อิทธิหาญ โวยลั่น เมื่อปานยังยืนนิ่ง ระบิลส่งยิ้มกวนๆ พลางท้าทายว่า ทุกการกระทำของอิทธิหาญกับพวกถูกบันทึกไว้เป็นหลักฐานหมดแล้ว ปานกวาดตามองไปรอบๆ แล้วชี้ให้เจ้านายดูกล้องวงจรปิด


“แล้วไม่ต้องห่วงนะ ว่าจะเก็บภาพพวกแกไม่ได้ทุกมุม โน่นๆในบ้านก็มีอีกหลายตัว” ระบิลชี้ไปทั่ว อิทธิหาญกับพวกมองตามด้วยความระแวง

บอดี้ การ์ดยิ้มสะใจ หันไปยัดปืนใส่มือเนติมาให้ถือเล็งไปที่พวกอิทธิหาญ สาวเจ้าตกใจกลัว แต่จำต้องทำเข้มใส่ ขณะที่ระบิลหันไปสาธยายเหมือนขายของทีวีไดเร็คกับพวกอิทธิหาญ “และพิเศษสุดสำหรับวันนี้ กริยาทรามๆของนายทุกช็อตจะถูกถ่ายทอดไปยังสถานีตำรวจ เพียงฉันกดปุ่มนี้” พ่อหนุ่มหยิบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนขึ้นมาแล้วกดเปิดหน้าจอกดปุ่ม ท่ามกลางความตะลึงของทุกคน

อิทธิหาญครุ่นคิดอย่างสับสน ก่อนตวัดปลายปืนมาทางเนติมา ระบิลรีบคว้าปืนจากมือเนติมาขึ้นมาเล็งไปที่อิทธิหาญอย่างรวดเร็วเช่นกัน แต่ทั้งหมดต้องชะงักเมื่อมีรถตำรวจวิ่งเปิดไซเรนเข้ามา

เนติมาหันไปมองระบิลด้วยความสงสัย ชายหนุ่มกระซิบ “อย่าถามผม ผมก็งงเหมือนคุณนั่นแหละ”

ผู้ กำกับวิเชษฐ์กับลูกน้องกรูกันลงมาจากรถ แล้วกระจายกำลังล้อมอิทธิหาญกับพวกอย่างรู้งาน จังหวะหนึ่งผู้กำกับแอบสบตากับระบิลอย่างมีนัย ก่อนจะหันไปถามเนติมาและกันต์ว่าเกิดอะไรขึ้น สองอาหลานว่า คนพวกนี้ บุกรุกบ้านตน รบกวนคุณตำรวจเชิญกลับไปด้วย

ผู้กำกับพยักหน้ารับแล้วหันไปหาอิทธิหาญอย่างเอาจริง มาเฟียทำฮึดฮัดแต่ก็ยอมพาลูกน้องกลับไป
ครั้นเหล่าวายร้ายออกไปหมดแล้ว ระบิลกับวิเชษฐ์จึงโผเข้ากอดกันอย่างสนิทสนม เพราะวิเชษฐ์เป็นรุ่นพี่ของระบิล แถมเคยทำงานร่วมกันมาหลายครั้ง บอดี้การ์ดหนุ่มหันมาแนะนำให้สมาชิกในบ้านรู้จักพันตำรวจเอกวิเชษฐ์อย่าง เป็นทางการ แถมบรรยายสรรพคุณจนเกือบหมดความเชื่อถือ เจ้าตัวต้องร้องห้าม ก่อนจะชี้แจงว่าตนถูกขอตัวให้มาประจำสถานีตำรวจท้องที่นี้ หลังจากโดนเด้งไปอยู่ชายแดน ด้วยข้อหาพาลูกน้องไปปิดบ่อนพงษ์เลิศ

“ต่อ ไปผมจะจัดสายตรวจเวียนมาดูแลความเรียบร้อยแถวนี้ให้บ่อยขึ้น พวกนั้นมันจะได้ไม่กล้าทำอะไรอย่างวันนี้อีก” วิเชษฐ์ให้ความมั่นใจ แต่เจือจันทร์ยังกังวล เธอว่าน่าจะจับอิทธิหาญกับพวกเข้าคุกไปเลย

“ทำอย่างนั้นผมว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ อย่าลืมว่านายพงษ์เลิศพ่อของอิทธิหาญยังมีพาวเวอร์มากอยู่นะคุณ”

“แค่เขารู้ว่าผมย้ายมาประจำที่นี่ ก็คงไม่พอใจมากอยู่ล่ะครับ”

“แหม อยากเห็นสภาพพ่อลูกคู่นี้จริงๆ ป่านนี้ไม่รู้จะเป็นยังไง” ระบิลพูดยิ้มอย่างอารมณ์ดี เมื่อนึกถึงอิทธิหาญกับพงษ์เลิศ

ooooooo

ด้านพงษ์เลิศ  เขาแทบกระอักเมื่อรู้ข่าวว่าคนที่ขอตัววิเชษฐ์กลับมาคือธำรง เขาหันมาบอกเรื่องนี้กับชลกร และอิทธิหาญ

มาเฟีย น้อยร้อนใจ เร่งให้พ่อจัดการ เพราะธำรงกับเนติมาเริ่มลํ้าเส้นเข้ามาทุกทีพลางใส่ไฟ “ผมบอกหลายทีแล้ว ให้มันคุยกับลูกตะกั่วแหละง่ายดี ทำเหมือนที่เราเคยทำไม่กี่เปรี้ยงก็จบ

“ยัง...ฉันยังไม่อยากใช้วิธีของแก จนกว่าจะจำเป็นจริงๆ”

“แล้วอย่าง นี้เมื่อไหร่มันจะจบ พ่อฟังผมนะ นางเนติมานั่นมันต้องการล้างแค้นที่พ่อทำกับครอบครัว อีกหน่อยพวกมันต้องขุดคุ้ยปูมหลังของเรา มันต้องการเอาเราเข้าคุก นี่อย่าบอกนะว่าพ่อจะเจรจากับมัน”

“ถ้านั่นเป็นทางออกที่ดีกว่า ก็ควรทำค่ะ” ชลกรเอาใจพงษ์เลิศ

“เหอะ มันคงยอมหรอก” อิทธิหาญเย้ยหยัน พลางทุบโต๊ะด้วยความโมโห ขณะที่พงษ์เลิศนั่งถอนใจ

เวลา เดียวกัน ระบิลกับเนติมาออกมาส่งวิเชษฐ์ที่รถ หญิงสาวข้องใจถามผู้กำกับว่าทำไมถึงมาเร็วนักเพราะระบิลเพิ่งส่งภาพจากวงจร ปิดไป วิเชษฐ์เป็นงงบอกว่าไม่เคยได้รับภาพอะไรจากระบิล แต่ที่มาวันนี้เพราะออกตรวจพื้นที่

“อ้าว...แล้วที่...” เนติมาหันขวับไปมองระบิล เห็นเขายิ้มลอยหน้าลอยตาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ก็ยิ่งหมั่นไส้

หลัง จากวิเชษฐ์กลับไปแล้ว เนติมาลากระบิลกลับเข้าไปเล่นงานในบ้านโทษฐานหลอกเธอ แถมยังให้ถือปืนยืนขู่พวกอิทธิหาญอยู่นาน ทั้งๆที่กลัวแทบขาดใจ

“ผม รู้ว่าคุณทำได้ แววตาของคุณที่มองนายพงษ์เลิศเมื่อวาน กับมองเจ้าอิทธิหาญเมื่อกี้มันบอกความหมายทุกอย่างแล้ว” ระบิลจ้องตาเนติมานิ่ง หญิงสาวรู้สึกอายอย่างบอกไม่ถูกจนต้องรีบหลบตา แล้วเปลี่ยนเรื่องสั่งให้บอกกันล่วงหน้าก่อน ว่าจะทำอะไร

“ผมจะ พยายาม แต่คุณก็น่าจะรู้ ว่าเรื่องบางเรื่องมันก็เข้ามาหาเราโดยไม่ได้นัดหมายเหมือนกัน” เนติมาครุ่นคิดตามระบิลพูด เธอยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีพลางเอ่ยคำขอบคุณ

“มา แบบคุณศิวัชอีกคนแล้ว ขอบคุณผมซะสามเวลาหลังอาหาร ผมทำตามหน้าที่น่ะคุณ คุณไปพักผ่อนเถอะครับ พรุ่งนี้เรายังมีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะ” ระบิลพูดพลางดันหลังเนติมาให้ขึ้นไปนอน

“อ้าว แล้วนายล่ะ ไม่นอนเหรอ” เนติมาหันมาถาม

ระบิลไม่ตอบ กลับเดินไปนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์และง่วนอยู่ตรงนั้นจนดึก

กระทั่ง ตีสองแล้ว เนติมาลงมาเห็นระบิลยังนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เธอสงสัยว่าบอดี้การ์ดทำอะไรอยู่กันแน่ จึงย่องมาดู ระบิลกำลังจูนคอมพิวเตอร์กับกล้องวงจรปิดเอ่ยทักนายสาวโดยไม่หันหน้ามา แถมคุยว่า ตนเช็กกล้องทุกตัวเรียบร้อยหมดแล้ว คราวนี้ยุงสักตัวก็อย่าได้รอดสายตา

“เว่อร์...ไหนดูสิ” เนติมาขยับเข้ามานั่งข้างๆระบิล แล้วขอเรียนรู้การทำงานของกล้องตามจุดต่างๆด้วย ทำให้ทั้งสองยิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้น

วันรุ่งขึ้น เนติมาลงมาเห็นระบิลนั่งเช็ดปืนอยู่ในห้อง เธอขอร้องให้เขาสอนยิงปืน อ้างว่าจะเอาไว้ป้องกันตัว แต่ระบิลว่ายังไม่ถึงเวลา แล้วรีบตัดบทชวนออกไปที่ทำการพรรค เพราะวันนี้ธำรงนัดคุยตัวแทนพรรคการเมืองที่จะร่วมสัตยาบัน ฟอร์มรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง

ooooooo

ในตอนบ่าย หลังประชุมเสร็จ ศิวัชนำทีมงานออกหาเสียงต่อ โดยมีเนติมากับระบิลติดตามไปด้วย ขณะที่ทุกคนกำลังสนใจอยู่กับศิวัช ดลกับอ้อก็เดินเถียงกันออกมาจากร้านอินเตอร์เน็ตแถวนั้น เพราะอ้ออยากจะไปทำงานพริตตี้เพื่อหาเงินมาช่วยดล

“ไม่ เราคุยเรื่องนี้กันหลายครั้งแล้วนะอ้อ” ดลหันมาดุ

“ก็ได้ๆไม่ช่วยก็ได้ เออ แล้วเมื่อกี้พี่ดลจดข้อมูลเรื่องเรียนมาได้เยอะรึเปล่าจ๊ะ”

“เยอะ แล้วยังได้อย่างอื่นเป็นของแถมมาด้วยนะ ตารางหาเสียงของพรรคสยามพัฒนา” ดลยิ้มพลางหยิบสมุดจดมากาง เด็กสาวสนใจถามพี่ชายว่า จะไปสมัครงานหรือ แล้วพลันนึกขึ้นได้

“อุ๊ย...อย่าบอกนะว่าพี่ดล”

“เนี่ย จะเป็นทางหนึ่งที่จะทำให้พี่เจอ...” ดลส่งยิ้ม แต่ไม่ทันจะพูดต่อ ก็ได้ยินเสียงทีมงานของศิวัชพูดผ่านเครื่องขยายเสียงดังแว่วมา “สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้อง พรรคสยามพัฒนา ขอเสนอตัวเป็นทางเลือกที่ดีกว่าให้ประชาชน วันนี้คุณศิวัช กิตติธร เสนอตัวมารับใช้

พี่น้องประชาชน เพื่อนำพาความสุขกลับมาสู่ทุกชีวิตในประเทศนี้แล้วครับ”

ดล กับอ้อหันไปมอง เห็นรถหกล้อหาเสียงของศิวัชวิ่งสวนมาช้าๆในฝั่งถนนตรงข้าม มีศิวัชและทีมงานยืนโบกไม้โบกมือให้กับประชาชน และหนึ่งในนั้นมี

เนติมาอยู่ด้วย ดลจำพี่สาวได้รีบวิ่งไปหาและตะโกนเรียก

“พี่เนติ์...พี่เนติ์”

เนติมาได้ยินเสียงน้องแว่วๆ เธอหันไปมองด้านนอกรถ แต่ไม่สะดวกนักเพราะทีมงานยืนบังอยู่

“อะไรคุณ” ระบิลร้องถาม

“เหมือนมีใครเรียกฉันก็ไม่รู้”

ระบิลพยายามมองตามเนติมาออกไปข้างถนน เห็นมีแต่ประชาชนออกมาให้กำลังใจ

อ้อ เห็นรถหาเสียงเคลื่อนตัวออกไปแล้ว คิดว่าดลคงตามไม่ทันแน่ จึงวิ่งไปหาเขาพร้อมแนะนำให้ไปหาที่ที่ทำการพรรค ดลคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนพาอ้อไปยังพรรคสยามพัฒนา เขาทำทีเป็นขอสมัครงาน แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าเต็มหมดแล้ว หนุ่มน้อยพยักหน้าเข้าใจ พลางถามหาศิวัชกับเนติมา

“โอ๊ย เข้ามาแล้ว แล้วก็ออกไปตั้งนานแล้วน้อง ไปหาเสียงต่อที่นครนายก น้องมีอะไรจะร้องเรียนเหรอ”

“เออ...คือว่าพี่ดลเนี่ย”  อ้อกำลังจะพูดว่าดลเป็นน้องชายของเนติมา แต่เขารีบคว้ามือเธอไว้ก่อนเป็นการเตือนแล้วพาเดินออกไป

“คือ พี่ยังไม่อยากให้เรื่องของพี่กับพี่เนติ์เป็นที่จับตาตอนนี้ มันจะเป็นอันตราย” ดลหันมาชี้แจง

“ว้า...เสียดาย อุตส่าห์ไปถึงพรรคแล้วเชียว แต่พี่เนติ์สวยเนอะ ดูเป็นผู้หญิงเก่งด้วย”

เรื่องราวที่เกิดขึ้น คงหล่อหลอมให้พี่เนติ์เป็นอย่างนี้ เหมือนกับที่หล่อหลอมให้พี่เป็นอย่างที่อ้อเห็นไง

“ให้พี่ดลเป็นฮีโร่ของอ้อ สู้ๆ” อ้อส่งยิ้มสดใสพลางเอื้อมมือไปกุมมือดล เพื่อให้กำลังใจ

ooooooo

วัน ต่อมา ศิวัชลงพื้นที่หาเสียงในต่างจังหวัด โชคไม่ดีเอาเสียเลย ฝนเทลงมาอย่างหนัก ทีมงานทำท่าจะถอย ศิวัชไม่ยอม สังให้ลุยเข้าไปพบชาวบ้านที่ยืนตากฝนรออยู่ เขาหันมาสั่งเนติมาให้รออยู่บนรถ แต่สาวเจ้าไม่ยอม เธอเดินลงไปเคียงข้างศิวัช ตามด้วยระบิลบอดี้การ์ดคู่ใจ

ศิวัชตากฝน ไหว้ชาวบ้านที่มายืนรวมกลุ่มต้อนรับอยู่ที่เพิงทางเข้าหมู่บ้าน โดยมีเนติมากับระบิลยืนอยู่ข้างๆ สาวเจ้าส่งยิ้มทักทายชาวบ้านอย่างเป็นกันเอง ขณะที่ระบิลถูกชาวบ้านสาวๆหลายคนดึงเข้าไปหอมแก้ม

ระหว่างรอศิวัช เข้าไปฟังเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน เนติมานั่งกอดอกสั่นด้วยความหนาว แต่เมื่อคนรักหันมามอง เธอก็ฝืนทำตัวให้เป็นปกติพลางยิ้มกลบเกลื่อน ระบิลลอบมองนายสาวด้วยความเป็นห่วงและคอยตามประกบไม่ห่าง

ภารกิจ เสร็จสิ้น ทุกคนมารวมตัวกันที่หน้าที่ทำการพรรค ระบิลคุยว่า งานนี้สายฝนกลายเป็นตัวเสริมให้ศิวัชซื้อใจชาวบ้านได้เต็มๆ ศิวัชยิ้มรับพลางแซวว่า ระบิลก็ใช่ย่อยเพราะมีแววทางการเมืองเหมือนกัน และถ้าสนใจตนจะบอกพ่อให้

“โอ๊ยๆ รักกันจริงไม่ต้องชงเรื่องให้เลยนะครับ ขอผมอยู่ของผมอย่างนี้เถอะ เชื่อสิ ผมไม่เหมาะกับการเมืองหรอกครับ”

“โอ เคๆได้ งั้นเดี๋ยวเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแห้งๆ กันก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะไม่สบาย เดี๋ยวพี่ให้แม่บ้านหาเสื้อยืดของพรรคให้เนติ์ใส่นะ” ศิวัชหันมาบอกคนรักแล้วขยับจะเดินต่อ แต่ปฏิพรเดินยิ้มร่าเข้ามา  ในมือมีผ้าขนหนูและเสื้อผ้าของศิวัชที่รีดเรียบร้อยถือออกมาด้วย

“พี่ ศิวัช ตายจริง ผมยังไม่แห้งอีกเหรอคะเนี่ย มาค่ะเดี๋ยวตี้จะเช็ดให้” ปฏิพรเช็ดผมให้ศิวัชอย่างไม่แคร์สายตาใครๆ ศิวัชพยายามหลบเลี่ยงพลางร้องห้าม

“เออ...ไม่ต้อง...ไม่ต้อง”

“ไม่ ต้องได้ไงคะ เดี๋ยวไม่สบายขึ้นมาว่าไง ดีนะคะที่ตี้ฟังข่าวว่าพื้นที่ที่พี่ศิวัชไปหาเสียงฝนตกหนัก ตี้เลยอาสาคุณอาเอาชุดมาเปลี่ยนให้ แปลกนะคะเราสองคนเจอกันทีไร ต้องมีเรื่องให้เปียกปอนกันทุกทีเลย” ปฏิพรหัวเราะร่วนทำเป็นไร้เดียงสา แล้วแอบสังเกตเนติมาเห็นเธอเบือนหน้าหนีก็ยิ่งได้ใจ ชวนศิวัชไปดินเนอร์กันต่อแถมอ้างว่าธำรงโทร.จองโต๊ะให้แล้ว

ศิวัชหน้าเจื่อนหันมามองเนติมา เพราะไม่กล้าขัดใจพ่อ สาวเจ้าเข้าใจจึงขอตัวกลับ

ครั้นออก รถมาได้สักพัก ระบิลก็หันไปชวนเนติมาคุยเรื่องศิวัชหวังจะให้นายสาวสบายใจ แต่เนติมาตัดบทว่า เธอเหนื่อย พลางปรับเบาะลงนอนด้วยความเหน็ดเหนื่อยทั้งกายและใจ

ระบิลถอนใจมองเจ้านายด้วยเข้าใจความรู้สึก

เขาขับรถไปเงียบๆ จนกระทั่งถึงบ้านกันต์ จึงหันมาเรียกเนติมา เธอยังคงนอนหลับเหมือนไม่ได้ยิน

“คุณ...คุณ ถึงบ้านแล้ว” ระบิลผิดสังเกต เอื้อมมือไปแตะนายสาว พลันตกใจเพราะเธอตัวร้อนจัด

“เป็นเรื่องแล้ว” บอดี้การ์ดรีบถอยรถออกพาเจ้านายส่งโรงพยาบาล

ooooooo

เนติ มานอนหลับอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าซีดเซียว ระบิลมองนายสาวด้วยความเป็นห่วง เขาตัดสินใจ จะโทร.บอกศิวัช แต่เนติมาลืมตาขึ้นมาพอดี เธอร้องห้ามเสียงแผ่ว

“ห้ามโทร.บอกพี่ศิวัชนะ แล้วก็ไม่ต้องบอกใครทั้งนั้น เพราะฉันไม่อยากให้ใครเป็นห่วง แม้กระทั่งนายก็เถอะ”

“เรา เป็นเหมือนคู่บัดดี้กันแล้วนะคุณ จะไม่ให้ผมไม่เป็นห่วงคุณได้ยังไงล่ะครับ เอาล่ะ ผมสัญญาว่าจะไม่บอกใคร แต่คุณต้องนอนนะจะได้หายไข้เร็วๆ แต่ถ้าไม่ผมจะโทร.บอกทุกคนทันที” ระบิลยกมือถือขึ้นมาขู่

“นี่นายสั่งฉันเหรอ”

“อืม...ก็ คนไข้คนนี้ท่าทางดื้อน้อยอยู่เมื่อไหร่ล่ะ ถ้าไม่อยากให้ใครเป็นห่วงก็อย่าดื้อนะครับ จะได้หายเร็วๆ” ระบิลพูดอย่างอบอุ่นพลางกระชับผ้าห่มให้อย่างเอาใจใส่

สักพักศิวัชโทร.เข้ามา เนติมาฝืนทำตัวให้สดชื่นบอกคนรักว่าถึงบ้านแล้วและกำลังจะเข้านอน เธอถาม

ชาย หนุ่มว่าอยู่ไหน ศิวัชอึกอักจำใจโกหกว่าทานข้าวอยู่กับพ่อทั้งที่ความจริงอยู่กับปฏิพร เนติมาไม่ติดใจ เธอบอกคนรักว่าฝันดีแล้วกดวางสาย ก่อนไอออกมาอย่างหนัก

“ไหวไหมคุณ” ระบิลรีบเข้าไปดูอาการพลางต่อว่าที่เธอเล่นละครหลอกศิวัช

“นาย เคยมีความรักใช่ไหม” เนติมามองระบิลเห็นเขาพยักหน้ารับ “ถ้านายรักใครสักคน นายจะยอมทำทุกอย่างรึเปล่า ที่จะทำให้คนรักมีรอยยิ้ม ถึงตัวเองจะเจ็บป่วยแค่ไหนก็ตาม”

“ใช่ ผมทำได้ทุกอย่าง เพื่อคนที่ผมรัก” ระบิลพูดเสียงอ่อน สะท้อนความรักของตัวเอง

“คราวนี้นายเข้าใจฉันแล้วใช่ไหม” เนติมายิ้มอย่างอ่อนแรงก่อนค่อยๆหลับตาลง

ระบิลเอื้อมมือไปกระชับผ้าห่มให้เจ้านายอย่างเอาใจใส่และเข้าใจความรู้สึก

เช้า วันใหม่ ระบิลโทร.มาขอความช่วยเหลือจากวิเชษฐ์ ให้เข้าไปดูแลบ้านกันต์แทน เพราะเนติมายังอยู่โรงพยาบาล รุ่นพี่ใจดีรีบรับปาก แล้วรีบบึ่งไปบ้านกันต์

ผู้ กำกับหนุ่มจอดรถไว้หน้าบ้านเพื่อข่มขวัญพวกอิทธิหาญ ทำให้เหล่าสมุนพากันผวาด้วยกลัวถูกจับ พวกมันวิ่งมาบอกปานและจะเข้าไปรายงานอิทธิหาญที่นอนกกสาวอยู่ในห้อง ปานร้องห้าม เพราะเชื่อว่าไม่มีตำรวจคนไหนกล้าเล่นกับเสี่ย แล้วไล่ลูกน้องออกไปให้พ้นหน้า เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าตำรวจมาบ้านกันต์ทำไม

ooooooo

วิ เชษฐ์เดินตามเจือจันทร์เข้าไปคุยกับกันต์ในบ้าน  เขาเห็นขวัญชนกลอบมองตรงช่องหน้าต่าง กันต์บอกว่าเธอเป็นลูกสาว พลางเล่าเรื่องขวัญชนกให้ฟัง
source: thairath.co.th

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น