วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556

อ่านละคร นางร้ายสายลับ ตอนที่ 10-11 วันที่ 23 ส.ค. 56

 ทั้งสองปฏิบัติการอย่างรวดเร็ว นฤเบศพาสุรีกานต์ที่ขโมยกุญแจรถตู้ได้แล้ว ขึ้นรถกระบะขับพุ่งไปทันที บอดี้การ์ดตะโกนบอกกันให้รีบตามไป แต่พอไปถึงรถตู้ปรากฏว่าไม่มีกุญแจรถ เลยได้แต่มองตามท้ายรถกระบะไปอย่างเจ็บใจ

นฤเบศขับไปได้ระยะหนึ่ง บอกสุรีกานต์ว่าเราคงต้องหนีไปหาที่ตั้งหลักใหม่ เพราะริชาร์ดต้องส่งคนมาตามล่าเราแบบกัดไม่ปล่อยแน่ สุรีกานต์ถามว่าแล้วเราจะหนีไปไหน เขาบอกว่ายังไม่รู้คงต้องขับไปเรื่อยๆก่อน


“หึ...รอคุณนึกออก พวกมันได้ตามมาทันก่อน” อึดใจเดียวเธอร้องอย่างดีใจ “นึกออกแล้ว จอดรถเดี๋ยวนี้ฉันจะขับเอง ฉันจะพาคุณไปในที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเราในตอนนี้”

แม้จะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งแต่นฤเบศก็เปลี่ยนให้เธอมาขับแทนจ่ายมกับประเสริฐ ได้รับรายงานว่าเซฟเฮาส์กลางสวนถูกถล่มและยังไม่ได้ข่าวนฤเบศกับสุรีกานต์ว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่ก็มั่นใจว่าคนเก่งอย่างสารวัตรและฉลาดอย่างสุรีกานต์ต้องเอาตัวรอดได้ เชื่อว่าอีกไม่นานทั้งสองก็คงติดต่อกลับมา

ooooooo
ที่ปลอดภัยที่สุดที่สุรีกานต์พานฤเบศไปคือบ้านริมทะเล ซึ่งเป็นบ้านหลังเก่าก่อนที่ครอบครัวของเธอจะย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ ตอนนี้ไม่มีใครอยู่แล้วขอให้สบายใจได้

แต่พอสุรีกานต์พาเดินมาที่บ้าน ก็ถูกเจ้าเจมส์บอนด์สุนัขแสนรู้เห่าต้อนรับ อึดใจเดียวซันหลานชายวัยกำลังซนก็วิ่งออกมากอดอาโซ่ด้วยความดีใจ พลันประตูบ้านเปิดออก คราวนี้ ทั้งกสิณ สายทิพย์ ผู้เป็นพ่อกับแม่และดิ่งพี่ชายกับคะนึงนิจพี่สะใภ้ก็ออกมากันด้วยความดีใจ แกมประหลาดใจ

“พ่อ แม่ พี่ดิ่ง พี่นิจ ทำไมมาอยู่นี่กันครบเลยล่ะคะ” สุรีกานต์มองทุกคนอย่างคาดไม่ถึง ต่อมาจึงรู้ว่าเพราะกำลังต่อเติมบ้านที่กรุงเทพฯเลยพากันมาพักที่นี่ชั่ว คราว

สุรีกานต์แนะนำนฤเบศแก่ทุกคนว่า “นี่พี่เบ็ตตี้ผู้จัดการส่วนตัวของโซ่ค่ะ” นฤเบศสะดุ้งนึกในใจว่าเบ็ตต้ีอีกแล้วหรือ?? สายทิพย์ถามว่าคนที่เป็นข่าวกันใช่ไหม
สุรีกานต์เลยแสร้งทำเป็นซี้กับนฤเบศรับว่า

“ตามข่าวเลยค่ะแม่ พี่เบ็ตตี้เป็นพี่สาวสุดเลิฟของโซ่ค่ะ”

ทั้งสายทิพย์และคะนึงนิจยิ้มให้นฤเบศ แต่ผู้ชายด้วยกันอย่างกสิณกับดิ่งดูออกว่านฤเบศเป็นผู้ชายทั้งแท่ง แกล้งถาม

“แล้วนี่ไปไงมาไงถึงพากันมาที่นี่ได้”

อาศัยประสบการณ์ที่อยู่ในวงการมานาน แสดงบทนางร้ายมาอย่างโชกโชน สุรีกานต์อ้างว่าตนหนีนักข่าวมา เพราะนักข่าวไปที่กองถ่ายเพื่อขอสัมภาษณ์เรื่องพลอยนิล ได้ยินพวกนักข่าวพูดกันว่าวันนี้ถ้าไม่ได้ข่าวจะไปเฝ้าที่คอนโดฯ ตนเลยจำต้องหนีมา ส่วนที่นุ่งกระโจมอกมานั้นเพราะเป็นชุดที่เข้าฉากสุดท้ายพอดีเลยหนีมาทั้ง ชุดนี้

กว่าจะแก้สถานการณ์เอาตัวรอดได้ก็เล่นเอาเหนื่อย จนเมื่อสายทิพย์บอกว่ามากันเหนื่อยๆให้พานฤเบศไปหาที่พักจะได้พักผ่อนกัน สุรีกานต์รีบขอตัว เลี่ยงไปจากสถานการณ์บีบคั้นนั้นทันที

อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว สุรีกานต์กับนฤเบศไปเดินคุยกันที่ชายหาด เธอบอกว่าท่าทางพ่อกับพี่ชายไม่เชื่อว่าเขาเป็นเกย์ บอกว่าพ่อกับพี่ชายหวงตนมาก และตั้งแต่เล็กจนโตตนก็ไม่เคยพาผู้ชายคนไหนเข้าบ้านมาก่อนเลย

นฤเบศหลอกถามว่า แม้แต่แฟนหรือ สุรีกานต์เผลอบอกว่าตนไม่เคยมีแฟน

“โตจนป่านนี้แล้วเนี่ยนะ” นฤเบศแกล้งแซว

“เท่าที่รู้ คุณก็ยังไม่เคยมีเหมือนกันนี่ ชิ อายุก็ตั้งปูนนี้แล้ว” สุรีกานต์เอาคืนอย่างเจ็บใจ

เลยกลายเป็นคนที่ไม่มีแฟนสองคนมาเจอกัน นฤเบศพูดขำๆว่าสงสัยเพราะโลกกลมกระมัง สุรีกานต์หมั่นไส้บอกว่ามาช่วยกันคิดดีกว่าว่าจะเอายังไงต่อไป

นฤเบศเสนอว่าเธออยู่ที่นี่กับครอบครัวปลอดภัย ดีแล้ว ตนก็จะกลับกรุงเทพฯพรุ่งนี้เลย สุรีกานต์ไม่เห็น ด้วยเพราะเชื่อว่าริชาร์ดต้องตามล่าเขาอยู่แน่ๆ กลับไป ตอนนี้จะอันตรายมาก

“ลืมไปแล้วรึไงว่าผมเป็นตำรวจ การที่เราหนีมาแบบนี้ มันเป็นแค่การหนีมาตั้งหลักเพื่อกลับไปสู้ใหม่ ไม่ใช่การหนีตลอดไปสักหน่อย”

“ฉันรู้...แต่ฉันเป็นห่วงคุณนี่ เหตุผลแค่นี้ พอจะฟังขึ้นไหมล่ะ”

ได้รับรู้ถึงความเป็นห่วงอย่างจริงใจของเธอ ทั้งจากคำพูดและสายตา ทำให้นฤเบศอึ้ง...พูดไม่ออก

ระหว่างพักอยู่ที่บ้านริมทะเล สุรีกานต์ต้องแก้ปัญหา คาใจของกสิณกับดิ่งที่ระแวงว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับนฤเบศไม่ใช่แค่ผู้ จัดการส่วนตัวอย่างที่บอกเป็นเรื่องตึงเครียดจนต้องเปิดใจคุยกัน เมื่อสุรีกานต์ เกิดอาเจียนขณะกินข้าวที่โต๊ะ ทั้งพ่อและแม่เรียกเธอไปถามว่า ท้องใช่ไหม เธอชี้แจงว่าไม่ได้ท้อง ที่อาเจียนเพราะ กินเร็วไปหน่อยเลยจุกเท่านั้นเอง นฤเบศเองก็รับรองว่า ตนกับสุรีกานต์ไม่เคยมีสัมพันธ์เกินเลยกัน ทุกคนจึงค่อยสบายใจขึ้น

ooooooo

ฝ่ายริชาร์ด เมื่อยังกำจัดนฤเบศกับสุรีกานต์ไม่ได้ เขาบอกพ่อเลี้ยงที่แสดงความเป็นห่วงว่า จะย้ายโกดังใหญ่ด้วยการส่งสินค้าไปที่บริษัทของกวินตามออเดอร์ เชื่อว่าที่นั่นเป็นที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับสินค้าของเราในเวลานี้

เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยของกวิน จึงอาศัยมงคลให้เอาเอกสารยอดจำนวนสินค้าที่จะส่งไปให้กวินเซ็น กวินสงสัยว่ามียอดเกินมาและวันรับมอบสินค้าก็ไม่ตรงกับตัวสัญญาฉบับเดิม ข้อทักท้วงของกวิน ทำให้มงคลไม่พอใจ ท่าทีเปลี่ยนจากอ่อนโยนเป็นแข็งกร้าว ถามว่าไม่ไว้ใจ ไม่เชื่อใจตนแล้วใช่ไหม

“เปล่าครับ ผมเชื่อมั่นในตัวคุณอาเสมอ”

“งั้นก็เซ็นเลยสิ นี่ก็ดึกมากแล้ว วินจะได้กลับไปพักผ่อน”

ในที่สุด กวินก็ต้องเซ็นเอกสารที่มงคลเอามา มงคลพอใจเดินยิ้มร้ายกลับไป

ส่วนริชาร์ดก็นัดพบอุษณะที่ไนท์คลับหรู เสนอแกมขู่ให้อุษณะเซ็นชื่อเป็นผู้ถือหุ้นรายใหม่ของเขา อุษณะรู้ทันว่าริชาร์ดหวังอาศัยความมีชื่อเสียงของตนเป็นเกราะกำบังความผิด จากธุรกิจผิดกฎหมายของเขา

“ฉลาดนี่...ถ้าโรงงานผลิตแห่งนี้มีชื่อของคุณเป็นหนึ่งในเจ้าของ...งานของผม ก็จะเดินหน้าต่อไปได้อย่างราบรื่น แล้วคุณก็จะได้รับผลประโยชน์จากมันอย่างคุ้มค่าแน่นอน โอเคไหมล่ะ” อุษณะถามว่าถ้าตนไม่ตกลงล่ะ? ริชาร์ดยิ้มเหี้ยมก่อนตอบว่า “คุณคงไม่ตัดสินใจแบบนั้นหรอกอุษณะ เชื่อผมสิ”

พูดแล้วริชาร์ดมอบกล่องของขวัญให้อุษณะก่อนลุกเดินไป อุษณะเปิดกล่องดู มันคือลูกกอล์ฟของชำร่วยที่มีรหัส 015422 นั่นเอง!

แก้วดาราที่พยายามจะถีบตัวเองขึ้นแข่งกับ พลอยนิล เห็นพลอยนิลใช้กระเป๋าแบรนด์เนมราคาแพงหูดับก็จะซื้อ แต่เพราะเงินไม่พอ บังคับเกี๊ยวกุ้งให้หาเงินให้เกี๊ยวกุ้งหางานให้ โดยให้เธอไปกินข้าวกับเสี่ยคนหนึ่ง แม้จะได้เงินมาซื้อกระเป๋าได้สมใจ แต่เธอก็ยังไม่พอใจหาว่าเกี๊ยวกุ้งหางานกับเสี่ยกระจอกๆให้ตน ด่าเกี๊ยวกุ้งว่า

“ต่อไปถ้าไม่ใช่เศรษฐีใหญ่หรือเจ้าของธุรกิจ พันล้าน พี่เกี๊ยวไม่ต้องหางานแบบนี้ให้แก้วอีกนะคะ เสียเวลา!”

ขณะเดินออกมา แก้วดาราเห็นริชาร์ดกำลังเดินออกมาเช่นกัน จำได้ว่าเคยเห็นเขาพาสุรีกานต์ไปที่คอนโดฯ จึงคิดจะจับริชาร์ด เธอมองริชาร์ดตาเป็นประกาย จนเกี๊ยวกุ้งถามว่าใครหรือ?

“แก้วก็อยากรู้เหมือนกันค่ะว่าเขาเป็นใคร แล้วแก้วก็จะต้องรู้จักเขาให้ได้ด้วย ยังไงเราแยกกันตรงนี้เลยแล้วกันนะคะพี่เกี๊ยว” แล้วเธอก็แกล้งเดินไปชนริชาร์ดจนตัวเองเสียหลักเกือบล้ม หาเหตุสานสัมพันธ์กันต่อ

เมื่อพากันไปนั่งดื่ม แก้วดาราแสดงตัวเป็นดารา

ริชาร์ดถามว่าถ้าอย่างนั้นเธอคงรู้จักสุรีกานต์ เธอคุยโวว่าตนกับโซ่สนิทกันมาก แต่หลังจากมีข่าวกับเนธานไม่รู้ว่าโซ่หายไปไหน ใครก็ติดต่อไม่ได้ ริชาร์ดทำทีเป็นห่วงสุรีกานต์มาก พอแก้วดาราบอกว่าถ้าได้ข่าวสุรีกานต์เมื่อไหร่จะรีบบอก ริชาร์ดก็รีบตอบทันที...

“ดีเลยครับคุณแก้ว แบบนี้เห็นทีเราสองคนคงต้องเจอกันบ่อยๆแล้วสิครับ”

ทั้งสองสบตายิ้มให้กันอย่างมีความหมาย...

แม้ว่าพลอยนิลจะเป็นดาราดัง แต่เธอมักทิ้งงานจนเจ้าของสินค้าเบื่อหน่าย แก้วดาราฉวยโอกาสนี้ เสียบแทน ทำให้พลอยนิลแค้นใจมาก ในวันที่แก้วดาราไปเปิดตัวเป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ ที่พลอยนิลทำมาหลายปี พลอยนิลจึงไปอาละวาด แต่ความเป็นคนอารมณ์ร้ายก็ต้องพ่ายความเจ้าเล่ห์แอ๊บแบ๊วของแก้วดารา ในที่สุดเธอก็ต้องออกจากงานไปอย่างเจ็บใจ อับอายในขณะที่แก้วดาราหวือหวาอยู่บนเวที

ooooooo

ที่สำนักงานตำรวจ...จ่ายมกับปรีติปรารภกันถึงนฤเบศและสุรีกานต์ว่าหายเงียบ ไปนาน จ่ายมเริ่มใจคอไม่ดี อัศวินบอกว่าเรารอไปอีกสักวันสองวัน ถ้าทั้งสองยังไม่ติดต่อมา เราคงต้องทำอะไรจริงจังสักอย่างแล้ว

“จะทำอะไรก็รีบๆทำหน่อยนะ ก่อนที่หัวหน้าทีมเดอะซันคนเก่งจะถูกพวกแก๊งค้ายาเก็บตายไปเสียก่อน” มังกรที่เดินสวนมาพูดเย้ย ปรีติถามประเสริฐเบาๆว่า
“แปลก ทำไมสารวัตรมังกรถึงรู้เรื่องที่สารวัตรนฤเบศหายตัวไป แถมยังรู้อีกว่าพวกที่ตามเราอยู่เป็นแก๊งค้ายา”

“หรือว่าเรื่องที่เราสงสัยกันอยู่จะเป็นความจริง” ประเสริฐฉุกคิด ทั้งสองมองหน้ากันอย่างระแวง

เวลาเดียวกัน นฤเบศใช้คอมฯของซันเปิดดูอีเมล์จากทีมเดอะซันที่ส่งเข้าในอีเมล์ของตน พบข้อความ...

“แกะรอยหลักฐานบางอย่างจากข้อมูลที่สายลับเนปจูนโหลดมาจากโน้ตบุ๊กพลูโตคราวก่อนได้แล้ว”

นฤเบศบอกสุรีกานต์ว่าตนต้องไปแล้ว เธอถามว่าแล้วตนล่ะ เขาให้หลบอยู่ที่นี่ก่อนเพื่อความปลอดภัย

“แต่ฉันก็เป็นหนึ่งในสมาชิกทีมเดอะซันเหมือนกันนะ ให้ฉันไปเถอะ...” นฤเบศบอกว่าคราวนี้มันอันตรายมากขอให้เชื่อตนสักครั้งเถอะ เธอตื๊อต่อว่า “ไหนๆคุณก็ยอมฉัน มาตลอด คราวนี้คุณก็ยอมฉันอีกสักครั้งไม่ได้เหรอ ถือว่าฉันขอร้องเหมือนกัน ให้ฉันไปด้วยเถอะนะ...นะ...”

เจอนางร้ายมืออาชีพจอมตื๊อเข้าแบบนี้ นฤเบศก็พูดไม่ออก

ซันที่พานฤเบศมาใช้คอมฯของตน มองทั้งสองอย่างสังเกต...

รุ่งขึ้น ทุกคนในครอบครัวจึงได้มายืนส่งสุรีกานต์กับนฤเบศเดินทางกลับกรุงเทพฯ เธออ้างว่าต้องรีบกลับไปถ่ายละครต่อ เธอสัญญากับพ่อแม่ว่าว่างๆจะมาอีก คราวหลังจะอยู่นานๆ ย้ำว่าตนจะไม่ทำให้พ่อเสียใจเด็ดขาด กสิณขอโทษท่ีเข้าใจลูกผิด หันไปทางนฤเบศพูดด้วยความเชื่อมั่นว่า

“ฝากคุณดูแลลูกสาวผมด้วยนะ ผมรู้ว่าคุณเป็นคนดี สามารถปกป้องยัยโซ่ได้”

“ครับ...ผมจะคอยดูแลคุณโซ่เป็นอย่างดี” นฤเบศรับปาก แล้วทั้งสองก็ไหว้ลาพ่อแม่พี่ๆไปขึ้นรถ แต่จู่ๆซันก็วิ่งมาเคาะกระจกรถ ทำกระซิบกระซาบอะไรกับนฤเบศได้ยินกันแค่สองคน สุรีกานต์ได้แต่มองอย่างสงสัย จนเมื่อออกรถไปแล้วเธอถามว่า เมื่อกี๊เขาซุบซิบอะไรกับซัน

“ก็บอกแล้วไงว่ามันเป็นเรื่องระหว่างผมกับซันไม่เกี่ยวกับคุณ” แต่พอถูกคาดคั้น นฤเบศก็บอกว่า ซันมากระซิบว่า “อาครับ...ก่อนอาจะไป อาบอกผมได้ไหมว่าอาเป็นแฟนกับอาโซ่รึเปล่า” เธอตกใจถามว่าแล้วเขาตอบไปอย่างไร “ก็ตอบไปว่า ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นแฟนกัน”

“เดี๋ยวนะ ไอ้ที่บอกว่าตอนนี้เรายังไม่ได้เป็นแฟนกัน หมายความว่าไง พูดแบบนี้เหมือนตอนนี้ยัง แต่อนาคตยังไม่แน่นอนอย่างนั้นแหละ”

“ไม่รู้...คุณก็คิดเอาเองสิ” นฤเบศพูดยิ้ม แล้วทำเป็นมีสมาธิในการขับรถมาก แต่แอบยิ้มในใจ...

สุรีกานต์นั่งหน้าเหวอๆ แล้วค่อยๆกลายเป็นยิ้มเขินออกมาไม่รู้ตัว...

ooooooo
อ่านละคร นางร้ายสายลับ ตอนที่ 11

นฤเบศ พาสุรีกานต์มาพักที่บ้านสวนของตน ป้ามลดีใจที่เขากลับมาแต่ก็แปลกใจที่พาสุรีกานต์มาด้วย ติติงประสาผู้ใหญ่ว่าเป็นผู้หญิงมาอยู่กับผู้ชายแบบนี้ไม่งามเลย

สุรีกานต์อ้างว่าตนกำลังถ่ายละครเกี่ยวกับสายลับจึงมาขอเรียนรู้ชีวิตสายลับ จากสารวัตรชั่วคราว ป้ามลถามอย่างไม่อยากเชื่อว่าที่พูดขึ้นมานั่นเป็นความจริงหรือ

“โอเคครับ ผมบอกความจริงก็ได้” นฤเบศตัดบทบอกป้ามลว่า “คือว่าผมกับคุณสุรีกานต์ เราเป็นแฟนกันครับ ตอนนี้คุณสุรีกานต์กำลังมีข่าวไม่ค่อยดีนัก ซึ่งผมยืนยันได้ว่าข่าวทั้งหมดที่ออกมามันไม่ใช่ความจริงเลย เพราะฉะนั้น ในฐานะที่ผมเป็นแฟนเธอ ผมก็ต้องทำหน้าที่ปกป้องเธอไม่ใช่หรือครับ”

“โดยพาเธอหลบข่าวแล้วมาอยู่ที่นี่อย่างนั้น เหรอคะ”

“ใช่ครับ และผมก็อยากให้ป้าช่วยเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับด้วย ผมไม่อยากให้ใครรู้ว่าคุณสุรีกานต์อยู่ที่นี่ โดยเฉพาะนักข่าว ตอนนี้เราต้องการความเป็นส่วนตัวมากจริงๆครับ”

“ตอนนี้ป้างงไปหมดแล้ว บอกป้าได้ไหมคะว่าคุณหนูกับสุรีกานต์ไปรักกันตอนไหน ทำไมป้าไม่เห็นเคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย”

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าตอนไหน...รู้ตัวอีกทีมันก็รักไปแล้ว”

นฤเบศพูดจริงจังจนสุรีกานต์งง เมื่ออยู่กันตาม ลำพังเธอถามฉุนๆว่าผีอะไรเข้าสิงถึงบอกป้ามลไปแบบนั้น เขาตัดบทว่าแค่เป็นแฟนกันหลอกๆ ป้ามลจะได้เลิกซักเสียที แล้วเย้าตาพราวว่า

“แต่ถ้าคุณคิดอยากเป็นแฟนผมขึ้นมาจริงๆก็บอกผมได้นะ”

สุรีกานต์เขิน คว้าหมอนฟาดเขาไม่ยั้ง จนนฤเบศหัวเราะบอกไม่แกล้งแล้ว ให้เธอพักผ่อนให้สบายก็แล้วกัน แล้วเดินยิ้มออกจากห้องไป สุรีกานต์มองตามแล้วอดงงตัวเองไม่ได้ว่า “นี่เราเขินอีตาสารวัตรนั่นเหรอเนี่ย???”

นฤเบศติดต่อไปยังทีมเดอะซันนัดให้มาพบตนที่บ้าน ทุกคนดีใจมากที่ได้ข่าวหัวหน้าทีมแล้ว

องอาจเห็นความดีอกดีใจของทีมเดอะซันก็สงสัยว่าพวกเขาอาจติดต่อนฤเบศได้แล้ว รีบส่งข่าวถึงมังกรถามว่าเราจะเอาอย่างไรต่อไป

“จะเอายังไง ก็ต้องรับจัดการพวกมันสิ ถ้าขืนปล่อยเรื่องนี้ไว้ได้เจ๊งกันหมดแน่ ฉันขอปรึกษาเรื่องนี้กับพ่อเลี้ยงกำธรก่อน ส่วนแก คอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของพวกมันไว้อย่าให้คลาด ถ้ามีข่าวอะไรเพิ่ม รีบมารายงานฉันทันที” มังกรสั่ง

ฝ่ายแก้วดาราก็เร่งสืบข่าวสุรีกานต์โดยให้เกี๊ยวกุ้งช่วยสืบด้วย แต่จนวันนี้ก็ยังไม่มีข่าวออะไรเพิ่มเติม พอดีริชาร์ดโทร.มาเธอจึงเดินเลี่ยงไปรับสาย

“ดินเนอร์คืนพรุ่งนี้เหรอคะ อ๋อ...ได้ค่ะสำหรับคุณ แก้วว่างเสมอ แล้วเจอกันนะคะ” พูดจบก็หันเดินกลับเจอเนธานยืนหน้าตึงอยู่ เธอตกใจถาม “ธาน!! มาตั้งแต่เมื่อไหร่”

“มาทันได้ยินคุณรับนัดผู้ชายอื่นก็แล้วกัน”

“คุณมันก็ไม่ต่างอะไรจากแก้วนักนี่คะ ไม่งั้นจะยอมทิ้งยัยนางเอกค้างปีนั่นมาเดินตามติดแก้วต้อยๆแบบนี้ เหรอ...แล้วอีกอย่าง จำไว้เลยนะคะว่าแก้วไม่ได้เป็นของใคร และคุณก็ไม่มีสิทธิ์มาวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวของแก้วด้วย”

พูดจบแก้วดาราเชิดสะบัดไป เนธานมองตามอย่างแค้นใจ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น