วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2555

อ่านละครเรื่อง ดอกโศก ตอนที่ 10 วันที่ 24 เม.ย. 55

อ่านละครเรื่อง ดอกโศก ตอนที่ 10 วันที่ 24 เม.ย. 55
“ไม่แล้วค่ะคุณตา” ดอกโศกบอกเสียงหนักแน่น “คุณตาไม่ต้องห่วงหนูค่ะ หนูไม่เป็นไร” บอกย้ำด้วยสายตามุ่งมั่นมาก
สุดเขตเห็นแล้วสะท้อนใจเล็กน้อย แต่ข่มลงด้วยเป็นผู้ใหญ่ ตบหัวหลานอีกที...แล้วเดินออกไป

เพ็ญพักตร์นัดน้องชาย พจน์กับพฤกษ์ มาหารือเรื่องพินัยกรรม
“ชั้นว่าคุณพ่อต้องเรียกปกรณ์มาให้แก้พินัยกรรม”
สองคนหน้าไม่ได้โวยวาย แต่มองพี่สาวแบบเป็นคำถาม
“ปกรณ์มาสองวันแล้ว พฤกษ์...ว่าไง”
“เหตุผล...ทำไมต้องแก้” พฤกษ์ยังงงๆ
“เดาไม่ออกเหรอ...เดาสิ เรามีใครมาเพิ่มมั่ง”
สองคนร้อง “อ๋อ” พร้อมกัน
“เอ...อย่างนี้ไม่เข้าท่าแล้วนะ” พฤกษ์ว่า
“ผมว่าจะเดือดร้อนทำไมในเมื่อพินัยกรรมเก่าเราก็ไม่รู้ว่าคุณพ่อเขียนว่าไง บางคนอาจจะได้มากกว่าก็ได้ ถ้าเปลี่ยนใหม่เนี่ย...” พจน์พูดไม่ทันจบประโยค


เพ็ญพักตร์สวนออกมา “ก็ในเมื่อบางส่วนถูก share ไป จะมีใครได้มากกว่า”
“ก็ไม่แน่” พจน์ลุกขึ้นเหมือนจะขอตัว “ตัวผมไม่ติดใจอะไร”
พฤกษ์กับเพ็ญพักตร์ สีหน้าไม่พอใจ
“ถ้าเราไม่กำหนดความอยากไว้ล่วงหน้า อะไรก็ตามที่จะมาก็ถือเป็นโชคดีทั้งนั้น...ระงับความอยากไว้นะครับพี่ทั้งสอง” พจน์เดินออกไปทันที
“ไอ้บ้า พูดจากวนประสาท....พฤกษ์ เราต้องช่วยกันนะ”
“เต็มที่ครับพี่เพ็ญ เอาไงเอากัน” พฤกษ์เห็นงาม

มีหรือเพ็ญพักตร์จะยอมให้ความสงสัยค้างคา จึงนัดน้องชายอีกสองคนมาถามไถ่กับผู้เป็นพ่อ ในอีกวันถัดมา
เพ็ญพักตร์ กับพฤกษ์ มาถึงก่อน
“ทำไมล่ะ เดือดร้อนอะไรกันนักหนาเรื่องพินัยกรรม” สุดเขตจ้องหน้าลูกสองคนสลับกัน ถามด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย
“เราแค่อยากรู้ค่ะถึงเรียนถามคุณพ่อเพราะเท่าที่ทราบคุณพ่อทำไว้เรียบร้อยแล้วทำไมถึงเปลี่ยนแปลง” เพ็ญพักตร์รีบออกตัว
“รู้กันได้ไงว่าฉันเปลี่ยนล่ะ” สุดเขตย้อนถาม
“เราคิดว่าใช่ครับเห็นคุณปกรณ์มา” พฤกษ์ว่า
“ก็เลยคิดกันว่าฉันควรจะตายเสียที” สุดเขตแดกดันลูกๆ
“คุณพ่อไม่น่าพูดกับเราอย่างนั้นเลยค่ะ”
“ก็ฉันสงสัย ฉันก็ถามเหมือนเธอสองคนสงสัยก็ถาม เอ้า พจน์” สุดเขตหันไปเห็นพจน์เดินเข้ามา “สงสัยกะเค้ารึเปล่าล่ะ”
“ไม่สงสัยครับคุณพ่อ เรื่องพินัยกรรมใช่มั้ยครับ”
เพ็ญพักตร์ นั่งหน้าเฉย พฤกษ์เสมองไปทางอื่น
“เอาล่ะ...ถึงฉันจะสงสัยว่าทำไมมีบางคนสงสัย บางคนไม่สงสัย ทั้งๆ ที่เป็นลูกเหมือนกันแต่ฉันก็ไม่ถามล่ะ จะตอบให้แล้วกันว่า ใช่...ฉันจะเปลี่ยนพินัยกรรมบางส่วน และก็จะบอกไว้ตรงนี้ว่า เป็นส่วนเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับที่พวกเธอจะได้”
เพ็ญพักตร์ถามสวนออกมาทันที ในความหมายเจาะจงถึงดอกโศกชัดเจน “และถ้าเทียบกับชั้นหลานด้วยกันล่ะคะ”
“ลูก 4 คน จะได้เท่าๆ กัน” สุดเขตตอบลอยๆ “ฉันตอบแค่นี้”

เพ็ญพักตร์เดินนำทุกคนออกมา พฤกษ์สีหน้าไม่พอใจไปด้วย ส่วนพจน์เฉยๆ สามพี่น้องยืนคุยกันที่ประตูห้องนั่นเอง
“จะให้เข้าใจว่าไงเนี่ย พูดแค่นี้แล้วบอกจบให้ไปคิดต่อว่าไง” เพ็ญพักตร์โวยวาย
“เราน่าจะอยู่ถามให้คุณพ่อตอบให้เคลียร์” พฤกษ์ว่า
“ถามเซ้าซี้ทำไม พี่สองคนเข้าใจแล้วล่ะผมว่า ลูกได้เท่ากันหลานก็ได้เท่ากัน..จบ ยุติธรรมแล้วล่ะ” พจน์บอก
เพ็ญพักตร์ตวาดพจน์ “แกจะบ้าเหรอพจน์ ชั้นไม่เห็นว่ายุติธรรมตรงไหน เท่ากันได้ไงหลานที่เห็นมาแต่อ้อนแต่ออกกับหลานที่อยู่ๆ โผล่มาจากที่ไหนก็ไม่รู้...จะว่าไปหลานจริงรึเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“ครับ พี่เพ็ญ และเราก็ไม่มีทางรู้ด้วยครับ” พจน์ว่าแล้วก้มหัวให้ ก่อนจะเดินไปเลย
“ทำอะไรไม่ได้หรอกพี่เพ็ญ...ทำใจอย่างเดียว แล้วก็รู้” พฤกษ์ก้มหัวให้พี่สาวแล้วเดินออกไป
เพ็ญพักตร์คำรามอยู่ในลำคอ “นังดอกโศก ฉันเกลียดแกที่สุด”
พฤกษ์ยังเดินไม่พ้นหันมาได้ยิน

พฤกษ์เดินลงมาเจอพจน์ที่คอยอยู่แล้วที่หน้าตึก
“พี่เพ็ญเกลียดเด็กคนนั้นจริงจัง” พฤกษ์ว่า
“พี่พฤกษ์ห่วงว่าโอ๋จะได้น้อยลงเหรอครับ” พจน์แซว
พฤกษ์นิ่งตรึกตรอง “ก็ไม่เชิง แต่...” ค้างคำพูดไว้แค่นั้น
สองคนออกเดินมาพร้อมๆ กัน
“ไม่ต้องคิดถึงดอกโศก คิดแค่สมบัติท่าน มันเป็นสิทธิ์ของท่าน ถ้าอยากให้ลูกเราได้อะไรเป็นพ่อแม่มีหน้าที่หาให้ อย่าหวังจากคนอื่น” พจน์เตือนสติ
“ก็เนี่ยไง...พี่เพ็ญเขากำลังหาให้ยายอุ๊ไง” พฤกษ์ว่า

วันต่อมาขณะที่เพ็ญพักตร์ลงบันไดมา เห็นพ่อกับทนายปกรณ์ คุยกันอยู่ในห้องโถงท่าทางเคร่งเครียด เพ็ญพักตร์ชะงักเพ่งดู
ครู่ต่อมาสองคนหายเข้าไปในห้องทำงาน และสุดเขตส่งกระดาษยื่นให้ปกรณ์ พร้อมกับพูดสำทับ
“รายการทรัพย์สินของคุณหญิง เครื่องเพชร เครื่องทองทั้งหมดที่ฉันยังเก็บอยู่ มีเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยทำเครื่องหมายไว้ว่าให้ใครให้ใคร”

ไม่นานหลังจากนั้น นายพลสุดเขตเดินไปอย่างช้าๆ โดยมีทนายปกรณ์เดินตาม
“รายการที่ให้ลูก 4 คนเหมือนเดิมทุกอย่าง ส่วนของหลานฉันไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก ข้อที่จะให้คุณเพิ่มในพินัยกรรมก็คือ ให้อภิรมย์ฤดี อยู่ในบ้านหลังนี้ได้ตลอดไปจนกว่าเขาจะแสดงเจตจำนงว่าจะไม่อยู่ด้วยตัวเขาเอง เงินสดให้เท่าๆ กับหลานคนอื่น...5 ล้านใช้มั้ย” สุดเขตทบทวน
“ครับ”
“เงินค่าเล่าเรียนสูงที่สุดที่เขาต้องการ กับเงินค่ารักษาพยาบาลจนกว่าจะเรียนจบ เบิกจากกองกลางเหมือนหลานคนอื่น เว้นแต่ที่ดินที่ให้หลานแต่ละแปลงก็...” พูดถึงตรงนี้นายพลอึ้งไปหน่อย “ไม่มีให้อภิรมย์ฤดีไม่เป็นไร” พูดเบาๆ กับตัวเอง
“ในรายการทรัพย์สินไม่มีชื่อคุณอภิรมย์ฤดีเหมือนกัน” ปกรณ์ทบทวน
“ไม่มี....ของๆ คุณหญิงต้องให้เฉพาะลูกหลานของคุณหญิง” สุดเขตย้ำ
“ครับ...ผมเข้าใจ”
“คุณไปร่างมา....งานวันเกิดฉันที่จะถึงนี้ฉันจะเซ็นชื่อ”
“ครับ” ทนายปกรณ์รับคำ

แล้วจากนั้นสองคนก็เดินไปด้วยกัน
เช้าวันเกิดพลเอกสุดเขต ลูกหลานทุกคนแต่งตัวสวยในชุดไทยรวมตัวกันอยู่พร้อมหน้าอยู่ที่ที่บริเวณหน้าบ้าน บริวารร่วมชายคา เฉลย จิ๋ว นายสม รวมทั้งจวนแม่ครัวมาดูแลเรื่องอาหารคาวหวาน เครื่องใส่บาตร ให้พระหลายรูป

สุดเขตตั้งใจใส่บาตรไปเรื่อยๆ เพ็ญพักตร์ กับสุดสวยร่วมใส่ด้วย หลายจังหวะสุดสวยพยายามแย่งเพ็ญพักตร์หยิบของให้สุดเขต
เพ็ญพักตร์เรียกอุ๊มาช่วยหยิบ อุ๊กับโอ๋ช่วยกัน
ครั้นพอถึงพระรูปสุดท้าย สุดเขตหันไปเรียกดอกโศกที่ยืนอยู่ห่างออกไปให้มาช่วย ดอกโศกเข้ามาช่วยหยิบของให้คุณตา เพ็ญพักตร์ อุ๊ และโอ๋ ยืนหน้าเฉย อ้นเข้ามาช่วยหยิบดอกไม้ส่งให้ดอกโศกส่งให้คุณตา

ใส่บาตรรับพรพระเสร็จ นายพลสุดเขตเดินนำหน้าเข้าบ้าน ลูกหลานทุกคนเดินตามเป็นพรวน
สุดสวยเดินข้างๆ คุณตาพูดไปหัวเราะไปหันไปทางเพ็ญพักตร์ กับเพ็ญตระการ “พี่เพ็ญ...นี่ไงคุณพ่อซื้อชุดให้ใส่วันนี้ตั้งสองชุด ชุดเนี้ย...สวยมั้ย อุ๊ ชุดน้าสวยมั้ย คุณพ่อเลือกนะเนี้ย....ชุดตอนเย็นน้าสวยกว่าชุดนี้อีก”
อุ๊เมินไปไม่ตอบ เพ็ญพักตร์ชักหน้ารำคาญเดินหนีไปอีกทาง
สุดเขตเห็นปฏิกิริยาเข้า สีหน้าเป็นห่วงลูกสาวคนนี้มาก

ลูกๆ หลานๆ นั่งระเกะระกะอยู่เต็มห้องโถงใหญ่ของบ้าน ดอกโศกนั่งแอบๆ อยู่อีกทาง สุดสวยนั่งแอบอิงอยู่กับพ่อ อุ๊มานั่งข้างคุณตาอีกข้าง
สุดสวยดึงคุณตามาทางตัวเอง
สุดเขตรู้ดีอารมณ์ลูกสาวดี โอบเข้ามากอดไว้ ตบไหล่เบาๆ ปลอบโยน
“ปีนี้เจ็ดสิบ...จะอยู่อีกนานแค่ไหน”
ลูกๆ หลานๆ ต่างก็ตอบกันไปมา ทำนองว่า ยังหรอก คุณพ่อ คุณตายังไม่แก่
“ใครแสดงอะไรมั่งล่ะวันนี้” สุดเขตถามถึงการแสดงตอนค่ำ
หลานๆ ตอบทำนองว่า เป็นความลับบอกก่อนไม่ตื่นเต้น
“อุ๊ มีเพื่อนๆ มาแสดงด้วยใช่มั้ยลูก” เพ็ญพักตร์รีบนำเสนอ
“ค่ะ ของอุ๊แสดงสุดๆ ค่ะคุณตา” เพ็ญตระการยิ้มระรื่น
“โอ๋ เต้นกับพี่อุ๊ค่ะ สุดๆ เหมือนกันค่ะ”
“ไอ้เด็กสมัยนี้พูดอะไรฟังไม่รู้เรื่อง สุดๆไม่รู้สุดอะไรหรืออะไรสุด”
เสียงหัวเราะกันเบาๆ
“อ้นล่ะลูก แสดงอะไรให้ตา”
อ้นตอบการแสดงของตนออกมา
“เออ...น่าดู ตาจะคอยดู”
ผู้พันพฤกษ์เอ่ยขึ้น “เสียดายวันนี้ผมไม่อยู่งานวันเกิดคุณพ่อ”
สุดเขตประหลาดใจ “อ้าว...ทำไม เธอจะไปไหนล่ะพฤกษ์”
“ผบ.ทบ.จะไปตรวจหมู่บ้านชุนชนสีขาวที่....คุณพ่อทราบโครงการนี้ใช่มั้ยครับ”
“ก็รู้อยู่ หมู่บ้านปลอดยาเสพติด”
“ครับ....ผมทำอยู่ด้านการประเมินผลครับ” พฤกษ์บอก
”ดี....ช่วงหลังนี้ทหารร่วมมือกับชาวบ้านมากขึ้น พ่อว่าดี...ไปจังหวัดไหนบ้าง” คุณตาว่า
“ไล่ตั้งแต่ภาคเหนือตอนล่างขึ้นไปครับ”
“ดี...ดี” มองไปยังหลานๆ “นี่จะปิดเทอมแล้วใช่มั้ย สอบเสร็จแล้วรู้ผลรึยัง”
อ้น อุ๊ ยกมือ หน้าบาน ตอบว่า “ทราบแล้วครับ” / “ทราบแล้วค่ะ” พร้อมกัน ขาดโอ๋ ที่เงียบกริบ
“โอ๋ล่ะลูก”
โอ๋หน้าซีดเผือด พฤกษ์เห็นเพ่งมอง

เพียงไม่นานต่อมานายพันพฤกษ์เดินหน้าตั้งเข้าบ้าน โอ๋เดินตามมา กลัวจนสะท้านไปทั้งตัว
พฤกษ์หันหลังกลับเผชิญหน้า โอ๋หลบเกือบไม่ทัน “บอกฉันมา”
“คะ”
“แกอย่าทำไขสือไอ้โอ๋ แกสอบตกใช่มั้ย”
โอ๋ตัวสั่น ใจยิ่งสั่นกว่า “เอ่อ...”
“ได้เท่าไหร่...ฮะ เกรดอะไร” พฤกษ์คาดคั้นหนัก
“เอ้อ...”
เสียงพฤกษ์ตวาดก้อง “เท่าไหร่ บอกมา”
“หนึ...หนึ่งจุดห้าค่ะ” โอ๋บอกไม่เต็มเสียง
พฤกษ์ฟาดโต๊ะเต็มแรง
อ้นตามมาแอบดูอยู่ที่ประตูตกใจมาก ส่วนโอ๋นั้นสะดุ้งสุดตัวเลยทีเดียว
“แกเรียนหนังสือภาษาอะไร ฮะ ไอ้โอ๋ เรียนรึเปล่า ไปโรงเรียนหนีไปเที่ยว...แกรู้มั้ยต่อให้คนเรียนเลวที่สุดมันต้องได้มากกว่าหนึ่งจุดห้า”
“โอ๋ขอคุณพ่อเรียนพิเศษ คุณพ่อไม่ให้” โอ๋ท้วงเสียงค่อย
“หยุด....ไม่ต้องพูดเรื่องเรียนพิเศษ ฉันจะไม่เสียเงินให้แกเรียนเป็นอันขาด แกต้องเรียนในชั้นเรียนให้ได้ ขนาดไม่เรียนพิเศษแกยังเรียนเลวขนาดนี้ ถ้าเรียนพิเศษแกก็ไม่สนใจเรียนในห้องเรียนเลย แล้วครูเขาจะคิดยังไง...ฮะ ไหนบอกซิ”
โอ๋เงียบ ก้มหน้านิ่ง แต่สีหน้ากดดันสุดขีดแล้ว
“ฉันเลี้ยงแกดีทุกอย่างเป็นตัวอย่างให้แกอย่างดีฉันตั้งใจเรียนแค่ไหนเล่าให้แกฟังแล้ว เป็นคนมันต้องทำหน้าที่ของตัวเอง แกเป็นนักเรียนแกต้องเรียน....นี่มัวทำอะไร คบผู้ชายเหรอ”
“คุณพ่อ ! ...โอ๋เปล่า ทำไมคุณพ่อว่าโอ๋....” โอ๋สะอื้นขึ้นมา
“งั้นเพราะอะไร แกไม่เรียนเพราะอะไร ฮะ....ทำไมไม่ตั้งใจเรียน” พฤกษ์ตวาดเสียงดังก้อง
โอ๋เสียงดังตอบกลับ “ก็โอ๋ตั้งใจแล้ว” แล้วสะอื้นแรงขึ้น
“โกหก! ตั้งใจแล้วทำไมเป็นอย่างนี้....แกไม่น่าเป็นลูกชั้นเลยไอ้โอ๋...ไปให้พ้นหน้าฉัน”
โอ๋ช้ำเกินช้ำ ลุกพรวด “โอ๋ก็ไม่อยากเป็นลูกคุณพ่อเหมือนกัน” วิ่งพรวดออกมา “ไม่อยากเป็น....ไม่อยากเป็น” เสียงแว่วมาตามร่างที่ห่างออกไป
พฤกษ์ตะโกนเรียก “ไอ้โอ๋”

อ่านละครเรื่อง ดอกโศก ตอนที่ 10 วันที่ 24 เม.ย. 55
ละครเรื่อง ดอกโศก บทประพันธ์ : ศรีทอง ลดาวัลย์
ละครเรื่อง ดอกโศก บทโทรทัศน์ : ศัลยา
ละครเรื่อง ดอกโศก กำกับการแสดง : สันต์ ศรีแก้วหล่อ
ละครเรื่อง ดอกโศก ผลิต : บ. เอ็กแซ็กท์ - ซีเนริโอ
ละครเรื่อง ดอกโศก แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง ดอกโศก ออกอากาศทุกวัน จันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทาง ททบ. 5
ละครเรื่อง ดอกโศก ออกอากาศตอนแรก เริ่มวันจันทร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2555
ที่มา manager.co.th

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น