อ่านละคร บ่วง วันที่ 26 เมษายน 2555
ทุกคนแยกย้ายกันหมดตามคำสั่ง แพงนั่งร้องไห้กอดเข่า ไม่กล้าขยับ ต้องอยู่ตามคำสั่ง พึ่งนั่งร้องไห้สงสารลูก “โธ่อีแพง...ลูกแม่”
บ่วง ตอนที่ 12
“คุณทวดอบเชยเกลียดนางแพงขนาดนี้เลยหรือคะ” รัมภาถามขึ้นเมื่อฟังเรื่องที่ลุงช่วงเล่าถึงอดีตทุกคนแยกย้ายกันหมดตามคำสั่ง แพงนั่งร้องไห้กอดเข่า ไม่กล้าขยับ ต้องอยู่ตามคำสั่ง พึ่งนั่งร้องไห้สงสารลูก “โธ่อีแพง...ลูกแม่”
บ่วง ตอนที่ 12
“เปล่า...ท่านเหมือนแม่ทุกคน ถ้ามียุงจะมากัดลูก มีทางเดียว ตียุงตัวนั้นให้ตาย! ท่านรู้นิสัยคนอย่างนางแพง และรู้ด้วยว่าลูกสาวของท่านอ่อนแอเกินกว่าจะรู้ทันนางแพง” ลุงช่วงบอก
“น่าจะไล่นางแพงออกไปเสีย” พัชนีพูดออกความเห็น
“ท่านก็กลัวอีก นางแพงจะไปพูดเรื่องมันเป็นลูกท่านเจ้าคุณ ท่านไม่อยากให้ชื่อเสียงตัวเอง ชื่อเสียงลูก และวงศ์ตระกูลด่างพร้อยเพราะบ่าวอย่างอีแพง...ใกล้เพลแล้ว จะขอตัวไปจัดการเรื่องอาหารถวายพระสักหน่อย”
ลุงช่วงจะเดินไป รัมภาและพัชนีถามต่อเพราะอยากรู้ว่าแพงได้กับคุณหลวงหรือไม่ และอยากรู้ว่าแพงเป็นลูกคุณหลวงเหมือนชื่นกลิ่นหรือไม่ ลุงช่วงบอกให้มาเจอกันตอนบ่าย
ยิ่งฟังเรื่องอดีตรัมภายิ่งคิดถึงศามนจึงโทรฯหา ศามนดีใจมากรีบรับสายโดยบอกว่าเขากำลังขับรถกลับบ้านและจะไปรับรัมภาเพราะคิดถึงเมียและลูกมาก รัมภาบอกว่าเธอจะพาลูกกลับบ้านเย็นพรุ่งนี้
“ผมขอโทษอีกครั้ง...เรื่องที่ผ่านมา” ศามน อ่อนลง
“ที่นี่ เหมือนชะตาชีวิตส่งฉันมา ฉันได้คิดอะไรหลายอย่าง บางทีภาก็ใจร้อนไปหน่อย” รัมภาก็อ่อนลงเช่นกัน
“ตกลงกลับมานี่ เราทั้งสองจะใจเย็นลงให้มากกว่านี้ ผมจะรอคุณนะ! เอ้อ เดี๋ยว...ผมรักคุณนะภา คุณเป็นรักแรกและเป็นรักเดียวในชีวิตผม” รัมภาได้คิดว่า ทั้งสองคนเคยรักข้ามภพชาติมาอย่างไร ก็ซาบซึ้งจนน้ำตาคลอ “ค่ะคุณก็เป็นรักแรกและรักเดียวในชีวิตของภาเหมือนกัน” ศามนยิ้ม โล่งใจ ที่ดีกันได้เสียที ทั้งสองรู้สึกสบายใจขึ้น ทองดีขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมาเห็นศามนก็ยิ้มและรีบเอาเรื่องไปบอกเจ้านาย เดือนแรมยิ้มร้าย ๆ เมื่อรู้เรื่องศามนจากทองดี
“โดนไปขนาดนั้น นางแพง ยอมรามือแล้วใช่ไหมคะ” รัมภารีบถาม หลังจากลุงช่วงกลับมานั่งคุยในช่วงบ่าย
ลุงช่วงส่ายหน้า “ไม่มีความรุนแรงใด จบลงด้วยความรุนแรง จุดจบของความรุนแรงทุกชนิด คือความรุนแรงที่มากกว่าเดิม!”
รัมภาตกใจ แปลกใจ ลุงช่วงเล่าเรื่องราวในอดีตต่อ
แพงเศร้า ๆ ไปหลังจากเจออบเชยจัดการ พึ่งบอกให้แพงไปเที่ยวกับนวลดูลิเกที่ตลาด แพงทำท่าไม่อยากไป แต่พอนวลบอกว่าพระเอกลิเกรักเมียซึ่งเป็นเจ้าของคณะ
จับใจ ทั้งที่เมียทั้งอ้วนทั้งดำ ไม่รู้ว่ามีดีอะไรแพงครุ่นคิดก่อนจะเผ่นแผล่วตามนวลออกไปโรงลิเกทันที
นวลและแพงมาที่โรงลิเก แพงมองไปที่แสวงพระเอกลิเกที่หน้าตาหล่อเหลาซึ่งมีแม่ยกเอาของมาให้มากมาย แพงเดินไปดูหลังเวทีหลังจากแสวงเข้าไปหลังเวที แสวงเอาเงินยื่นส่งให้สมัยก่อนจะเข้ามากอดหอม และหยอกล้อตามประสาผัวเมีย
“คืนนี้ ไปนอนโรงแรมในเมืองกัน อย่านอนมันเลยแถวนี้...นะนะ” แสวงอ้อน
“เออ ตามใจ ตั้งใจทำงานแล้วกัน”
แสวงยิ้มกริ่ม “ตามใจแบบนี้ คืนนี้จะได้นอนหรือเปล่า ผัวไม่รับประกันนะเมียจ๋า”
ทั้งสองหยอกล้อกันอีก จนหันมาเห็นแพงซึ่งแอบดูอยู่ก็ดุ แพงได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ
หลังลิเกเลิกแพงกลับไปบ้านแต่นอนไม่หลับ เพราะคิดถึงแต่ความสัมพันธ์ของแสวงและสมัย เช้าวันรุ่งขึ้นแพงมานั่งรอที่หน้าโรงลิเก สมัยเดินออกมาเจอก็จำแพงได้และเหวี่ยงใส่เพราะคิดว่าแพงมาติดพระเอกลิเกเหมือนสาวแก่แม่ม่ายคนอื่น ๆ แต่แพงรีบบอกเพราะกลัวเข้าใจผิด
“พูดตรง ๆ เลยนะ ผัวฉันมันไปมีเมียน้อย ฉันกินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวันแล้ว ฉันเห็นพี่กับผัวรักกันดี ก็เลยจะมาถามว่า พี่ทำยังไง ผัวถึงรักถึงหลงขนาดนั้น”
สมัยโมโห โวย “ทำไม คนอย่างข้า ผัวจะรักจะหลงไม่ได้หรือ มันผิดตรงไหนหา!”
สมัยลุกเดินหนีเข้าไปในโรงลิเกและจัดแจงเก็บโน่นทำนี่ แพงปรี่เข้าไปช่วย สมัยมองหน้าแต่ก็ยอมปล่อยให้แพงทำ เวลาผ่านไปหลายวัน แพงก็มาช่วยทำงานในโรงลิเก และสิ่งที่แพงเห็นก็คือ แสวงซึ่งหน้าตาดีเอาอกเอาใจสมัยที่รูปร่างหน้าตาเหมือนผีเสื้อสมุทร
วันต่อมา มีแม่ยกมาให้ท่าแสวง สมัยมองอย่างหึงหวง แพงได้ทีเข้าไปตะลุมบอนแม่ยกเพื่อปกป้องแสวงแทนสมัย ทำให้สมัยเห็นใจ
“ผัวเอ็งหายไปจากบ้านกี่วันแล้วล่ะ” สมัยถาม
“ผัวไหน...” แพงงง ก่อนจะนึกออก
“เอ้อ ก็หลายวันแล้วจ้ะ เขาไม่สนใจฉันเลย” แพงแกล้งทำเศร้า
“ถ้าข้าพูดอะไร เอ็งต้องสัญญานะว่าจะไม่บอกคนอื่น ไม่งั้น ข้าเอาเอ็งตายแน่” สมัยมองซ้ายมองขวา “พ่อแสวงเนี่ย ตอนได้กันใหม่ ๆ มันก็แค่คิดจะปอกลอกฉัน เมื่อก่อนมันเจ้าชู้ คลำไม่มีหาง มันก็เอาทั้งนั้น แต่อย่างว่านะ ของพรรค์นี้ คนเป็นเมีย มันต้องมีวิธีมัดใจ”
“เห็นไหม ฉันนึกอยู่แล้ว คนฉลาดอย่างพี่น่ะ ต้องมีของดี!” แพงยิ้ม สมัยพยักหน้าให้ว่ามี จะพาไป
กลางดึก สมัยและแพงนั่งเรือจ้างมาที่บ้านอาจารย์ชู ซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่ที่แฝงกายอยู่ในสวนริมน้ำ พระจันทร์ลอยเด่น และสะท้อนลงมาที่ผิวน้ำ หมาหอน ควันลอยดูน่ากลัว
“แถวนี้มันเย็น ๆ นะ” แพงมองซ้ายมองขวาหวั่น ๆ
“อาจารย์ชูท่านเลี้ยงผีไว้เฝ้า มันก็เย็น ๆอย่างนี้แหล่ะ”
“หา!” แพงอุทาน สมัยขึ้นจากเรือและเดินนำไป แพงเดินตามหวาด ๆ
ภายในสำนักอาจารย์ชู อาจารย์ชูกำลังเข้าทรงปู่ฤาษี ทีท่าและเสียงจึงเหมือนคนแก่ ตัวสั่นเป็นจังหวะ ตาปรือ สวดภาษาเขมร รอบข้างมีกะโหลกผี มีกุมารทอง มีของเร้นลับต่างๆ ในบ้านล้อมรอบด้วยคนที่มาขอให้อาจารย์ชูช่วยมากมาย ทุกคนพนมมือกลัว ๆ
“นั่นไง อาจารย์ชูกำลังทำพิธีอยู่เลย” สมัยชี้ไปที่อาจารย์ซึ่งกำลังนั่งทำพิธีอยู่
อาจารย์ชูสวดมนต์ มือก็ผูกหุ่นดินสองตัวไปด้วย พออาจารย์พ่นพรวด หญิงกลางคนที่นั่งอยู่ข้างหน้าตัวสั่นขึ้นมาทันที ถูกมนต์ไปด้วยเพราะคือหุ่นหญิงที่ผูกอยู่นั่นเอง โดนของไปด้วยแล้ว
“ไม่ต้องตกใจเอ็งกับผัวเอ็งจะหนาว ๆร้อน ๆ อยู่อย่างนี้สองสามวัน เอ้า เอาหุ่นนี้ไปซ่อนไว้ใต้เตียง กลับบ้านได้ ไม่เกินพรุ่งนี้เช้า ผัวเอ็งจะต้องซมซานกลับมาหาเอ็ง ฮะฮะฮ่า”
สมัยกระซิบแพง “เมื่อคราวพ่อแสวง ข้ากลับไปถึงบ้าน มันมานั่งตัวสั่นรออยู่แล้ว คืนนั้นข้าเกือบตาย”
“เกือบตาย?” แพงตาโตแปลกใจ
“ไอ้แหวงมันสะกิดเรียกทั้งคืนน่ะสิ” สมัยหัวเราะเขิน
“ของท่านดีขนาดนี้เชียวหรือ”
“ว่าแต่เอ็งจะมาขอให้ท่านช่วย เอ็งมีเงินมาเท่าไหร่”
“ต้องใช้เงินเยอะหรือจ้ะ”
“เอ๊า ได้ผัวคืนมาทั้งคน ต้องลงทุนกันหน่อยสิวะ”
แพงกลุ้ม เพราะไม่มีเงิน
แพงลักผลไม้จากในครัวบ้านอบเชยมาให้อาจารย์ชูเพราะหวังจะให้ช่วย แต่อาจารย์ชูก็ไม่ใจอ่อน แพงไม่ละความพยายามโดยมาปัดกวาดเช็ดถูกสำนักให้แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ วันหนึ่งขณะที่แพงกำลังเข้าไปเก็บกวาดในห้องของอาจารย์ก็เจอกุญแจอันหนึ่งตกอยู่ที่พื้น แพงมองซ้ายมองขวาเห็นไม่มีใคร แพงมองกำปั่นแล้วหยิบกุญแจมาไขดู เปิดได้จริงๆ ในกำปั่นมีกองตำราไสยเวท แพงจึงคิดที่จะเรียนรู้ด้วยตัวเองจึงลักตำราออกมา
อ่านละคร บ่วง วันที่ 26 เมษายน 2555
ละครเรื่อง บ่วง ออกอากาศ ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น.
ละครเรื่อง บ่วง ผลิตโดย : บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่อง บ่วง บทประพันธ์โดย : จุลลดา ภักดีภูมินทร์
ละครเรื่อง บ่วง บทโทรทัศน์โดย : นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์
กำกับการแสดงโดย : ภวัต พนังคศิริ
ที่มา เดลินิวส์
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น