วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2555

อ่านละคร บ่วง วันที่ 26 เมษายน 2555

อ่านละคร บ่วง วันที่ 26 เมษายน 2555
ทุกคนแยกย้ายกันหมดตามคำสั่ง แพงนั่งร้องไห้กอดเข่า ไม่กล้าขยับ ต้องอยู่ตามคำสั่ง พึ่งนั่งร้องไห้สงสารลูก “โธ่อีแพง...ลูกแม่”

บ่วง ตอนที่ 12
“คุณทวดอบเชยเกลียดนางแพงขนาดนี้เลยหรือคะ” รัมภาถามขึ้นเมื่อฟังเรื่องที่ลุงช่วงเล่าถึงอดีต

“เปล่า...ท่านเหมือนแม่ทุกคน ถ้ามียุงจะมากัดลูก มีทางเดียว ตียุงตัวนั้นให้ตาย! ท่านรู้นิสัยคนอย่างนางแพง และรู้ด้วยว่าลูกสาวของท่านอ่อนแอเกินกว่าจะรู้ทันนางแพง” ลุงช่วงบอก

“น่าจะไล่นางแพงออกไปเสีย” พัชนีพูดออกความเห็น

“ท่านก็กลัวอีก นางแพงจะไปพูดเรื่องมันเป็นลูกท่านเจ้าคุณ ท่านไม่อยากให้ชื่อเสียงตัวเอง ชื่อเสียงลูก และวงศ์ตระกูลด่างพร้อยเพราะบ่าวอย่างอีแพง...ใกล้เพลแล้ว จะขอตัวไปจัดการเรื่องอาหารถวายพระสักหน่อย”

ลุงช่วงจะเดินไป รัมภาและพัชนีถามต่อเพราะอยากรู้ว่าแพงได้กับคุณหลวงหรือไม่ และอยากรู้ว่าแพงเป็นลูกคุณหลวงเหมือนชื่นกลิ่นหรือไม่ ลุงช่วงบอกให้มาเจอกันตอนบ่าย


ยิ่งฟังเรื่องอดีตรัมภายิ่งคิดถึงศามนจึงโทรฯหา ศามนดีใจมากรีบรับสายโดยบอกว่าเขากำลังขับรถกลับบ้านและจะไปรับรัมภาเพราะคิดถึงเมียและลูกมาก รัมภาบอกว่าเธอจะพาลูกกลับบ้านเย็นพรุ่งนี้

“ผมขอโทษอีกครั้ง...เรื่องที่ผ่านมา” ศามน อ่อนลง

“ที่นี่ เหมือนชะตาชีวิตส่งฉันมา ฉันได้คิดอะไรหลายอย่าง บางทีภาก็ใจร้อนไปหน่อย” รัมภาก็อ่อนลงเช่นกัน

“ตกลงกลับมานี่ เราทั้งสองจะใจเย็นลงให้มากกว่านี้ ผมจะรอคุณนะ! เอ้อ เดี๋ยว...ผมรักคุณนะภา คุณเป็นรักแรกและเป็นรักเดียวในชีวิตผม” รัมภาได้คิดว่า ทั้งสองคนเคยรักข้ามภพชาติมาอย่างไร ก็ซาบซึ้งจนน้ำตาคลอ “ค่ะคุณก็เป็นรักแรกและรักเดียวในชีวิตของภาเหมือนกัน” ศามนยิ้ม โล่งใจ ที่ดีกันได้เสียที ทั้งสองรู้สึกสบายใจขึ้น ทองดีขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมาเห็นศามนก็ยิ้มและรีบเอาเรื่องไปบอกเจ้านาย เดือนแรมยิ้มร้าย ๆ เมื่อรู้เรื่องศามนจากทองดี

“โดนไปขนาดนั้น นางแพง ยอมรามือแล้วใช่ไหมคะ” รัมภารีบถาม หลังจากลุงช่วงกลับมานั่งคุยในช่วงบ่าย

ลุงช่วงส่ายหน้า “ไม่มีความรุนแรงใด จบลงด้วยความรุนแรง จุดจบของความรุนแรงทุกชนิด คือความรุนแรงที่มากกว่าเดิม!”

รัมภาตกใจ แปลกใจ ลุงช่วงเล่าเรื่องราวในอดีตต่อ

แพงเศร้า ๆ ไปหลังจากเจออบเชยจัดการ พึ่งบอกให้แพงไปเที่ยวกับนวลดูลิเกที่ตลาด แพงทำท่าไม่อยากไป แต่พอนวลบอกว่าพระเอกลิเกรักเมียซึ่งเป็นเจ้าของคณะ
จับใจ ทั้งที่เมียทั้งอ้วนทั้งดำ ไม่รู้ว่ามีดีอะไรแพงครุ่นคิดก่อนจะเผ่นแผล่วตามนวลออกไปโรงลิเกทันที

นวลและแพงมาที่โรงลิเก แพงมองไปที่แสวงพระเอกลิเกที่หน้าตาหล่อเหลาซึ่งมีแม่ยกเอาของมาให้มากมาย แพงเดินไปดูหลังเวทีหลังจากแสวงเข้าไปหลังเวที แสวงเอาเงินยื่นส่งให้สมัยก่อนจะเข้ามากอดหอม และหยอกล้อตามประสาผัวเมีย

“คืนนี้ ไปนอนโรงแรมในเมืองกัน อย่านอนมันเลยแถวนี้...นะนะ” แสวงอ้อน

“เออ ตามใจ ตั้งใจทำงานแล้วกัน”

แสวงยิ้มกริ่ม “ตามใจแบบนี้ คืนนี้จะได้นอนหรือเปล่า ผัวไม่รับประกันนะเมียจ๋า”

ทั้งสองหยอกล้อกันอีก จนหันมาเห็นแพงซึ่งแอบดูอยู่ก็ดุ แพงได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ

หลังลิเกเลิกแพงกลับไปบ้านแต่นอนไม่หลับ เพราะคิดถึงแต่ความสัมพันธ์ของแสวงและสมัย เช้าวันรุ่งขึ้นแพงมานั่งรอที่หน้าโรงลิเก สมัยเดินออกมาเจอก็จำแพงได้และเหวี่ยงใส่เพราะคิดว่าแพงมาติดพระเอกลิเกเหมือนสาวแก่แม่ม่ายคนอื่น ๆ แต่แพงรีบบอกเพราะกลัวเข้าใจผิด

“พูดตรง ๆ เลยนะ ผัวฉันมันไปมีเมียน้อย ฉันกินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวันแล้ว ฉันเห็นพี่กับผัวรักกันดี ก็เลยจะมาถามว่า พี่ทำยังไง ผัวถึงรักถึงหลงขนาดนั้น”

สมัยโมโห โวย “ทำไม คนอย่างข้า ผัวจะรักจะหลงไม่ได้หรือ มันผิดตรงไหนหา!”

สมัยลุกเดินหนีเข้าไปในโรงลิเกและจัดแจงเก็บโน่นทำนี่ แพงปรี่เข้าไปช่วย สมัยมองหน้าแต่ก็ยอมปล่อยให้แพงทำ เวลาผ่านไปหลายวัน แพงก็มาช่วยทำงานในโรงลิเก และสิ่งที่แพงเห็นก็คือ แสวงซึ่งหน้าตาดีเอาอกเอาใจสมัยที่รูปร่างหน้าตาเหมือนผีเสื้อสมุทร

วันต่อมา มีแม่ยกมาให้ท่าแสวง สมัยมองอย่างหึงหวง แพงได้ทีเข้าไปตะลุมบอนแม่ยกเพื่อปกป้องแสวงแทนสมัย ทำให้สมัยเห็นใจ

“ผัวเอ็งหายไปจากบ้านกี่วันแล้วล่ะ” สมัยถาม

“ผัวไหน...” แพงงง ก่อนจะนึกออก

“เอ้อ ก็หลายวันแล้วจ้ะ เขาไม่สนใจฉันเลย” แพงแกล้งทำเศร้า

“ถ้าข้าพูดอะไร เอ็งต้องสัญญานะว่าจะไม่บอกคนอื่น ไม่งั้น ข้าเอาเอ็งตายแน่” สมัยมองซ้ายมองขวา “พ่อแสวงเนี่ย ตอนได้กันใหม่ ๆ มันก็แค่คิดจะปอกลอกฉัน เมื่อก่อนมันเจ้าชู้ คลำไม่มีหาง มันก็เอาทั้งนั้น แต่อย่างว่านะ ของพรรค์นี้ คนเป็นเมีย มันต้องมีวิธีมัดใจ”

“เห็นไหม ฉันนึกอยู่แล้ว คนฉลาดอย่างพี่น่ะ ต้องมีของดี!” แพงยิ้ม สมัยพยักหน้าให้ว่ามี จะพาไป

กลางดึก สมัยและแพงนั่งเรือจ้างมาที่บ้านอาจารย์ชู ซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่ที่แฝงกายอยู่ในสวนริมน้ำ พระจันทร์ลอยเด่น และสะท้อนลงมาที่ผิวน้ำ หมาหอน ควันลอยดูน่ากลัว

“แถวนี้มันเย็น ๆ นะ” แพงมองซ้ายมองขวาหวั่น ๆ

“อาจารย์ชูท่านเลี้ยงผีไว้เฝ้า มันก็เย็น ๆอย่างนี้แหล่ะ”

“หา!” แพงอุทาน สมัยขึ้นจากเรือและเดินนำไป แพงเดินตามหวาด ๆ

ภายในสำนักอาจารย์ชู อาจารย์ชูกำลังเข้าทรงปู่ฤาษี ทีท่าและเสียงจึงเหมือนคนแก่ ตัวสั่นเป็นจังหวะ ตาปรือ สวดภาษาเขมร รอบข้างมีกะโหลกผี มีกุมารทอง มีของเร้นลับต่างๆ ในบ้านล้อมรอบด้วยคนที่มาขอให้อาจารย์ชูช่วยมากมาย ทุกคนพนมมือกลัว ๆ

“นั่นไง อาจารย์ชูกำลังทำพิธีอยู่เลย” สมัยชี้ไปที่อาจารย์ซึ่งกำลังนั่งทำพิธีอยู่

อาจารย์ชูสวดมนต์ มือก็ผูกหุ่นดินสองตัวไปด้วย พออาจารย์พ่นพรวด หญิงกลางคนที่นั่งอยู่ข้างหน้าตัวสั่นขึ้นมาทันที ถูกมนต์ไปด้วยเพราะคือหุ่นหญิงที่ผูกอยู่นั่นเอง โดนของไปด้วยแล้ว

“ไม่ต้องตกใจเอ็งกับผัวเอ็งจะหนาว ๆร้อน ๆ อยู่อย่างนี้สองสามวัน เอ้า เอาหุ่นนี้ไปซ่อนไว้ใต้เตียง กลับบ้านได้ ไม่เกินพรุ่งนี้เช้า ผัวเอ็งจะต้องซมซานกลับมาหาเอ็ง ฮะฮะฮ่า”

สมัยกระซิบแพง “เมื่อคราวพ่อแสวง ข้ากลับไปถึงบ้าน มันมานั่งตัวสั่นรออยู่แล้ว คืนนั้นข้าเกือบตาย”

“เกือบตาย?” แพงตาโตแปลกใจ

“ไอ้แหวงมันสะกิดเรียกทั้งคืนน่ะสิ” สมัยหัวเราะเขิน

“ของท่านดีขนาดนี้เชียวหรือ”

“ว่าแต่เอ็งจะมาขอให้ท่านช่วย เอ็งมีเงินมาเท่าไหร่”

“ต้องใช้เงินเยอะหรือจ้ะ”

“เอ๊า ได้ผัวคืนมาทั้งคน ต้องลงทุนกันหน่อยสิวะ”

แพงกลุ้ม เพราะไม่มีเงิน

แพงลักผลไม้จากในครัวบ้านอบเชยมาให้อาจารย์ชูเพราะหวังจะให้ช่วย แต่อาจารย์ชูก็ไม่ใจอ่อน แพงไม่ละความพยายามโดยมาปัดกวาดเช็ดถูกสำนักให้แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ วันหนึ่งขณะที่แพงกำลังเข้าไปเก็บกวาดในห้องของอาจารย์ก็เจอกุญแจอันหนึ่งตกอยู่ที่พื้น แพงมองซ้ายมองขวาเห็นไม่มีใคร แพงมองกำปั่นแล้วหยิบกุญแจมาไขดู เปิดได้จริงๆ ในกำปั่นมีกองตำราไสยเวท แพงจึงคิดที่จะเรียนรู้ด้วยตัวเองจึงลักตำราออกมา

อ่านละคร บ่วง วันที่ 26 เมษายน 2555
ละครเรื่อง บ่วง ออกอากาศ ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น.
ละครเรื่อง บ่วง ผลิตโดย : บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่อง บ่วง บทประพันธ์โดย : จุลลดา ภักดีภูมินทร์
ละครเรื่อง บ่วง บทโทรทัศน์โดย : นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์
กำกับการแสดงโดย : ภวัต พนังคศิริ
ที่มา เดลินิวส์

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น