วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2555

อ่านละครเรื่อง ดอกโศก ตอนที่ 10/5 วันที่ 26 เม.ย. 55

อ่านละครเรื่อง ดอกโศก ตอนที่ 10/5 วันที่ 26 เม.ย. 55
ทุกคนในห้องหันขวับไปมองทางสมใจที่เดินเข้ามาเร็วรี่ แล้วมานั่งเก้าอี้ตัวใหญ่ที่เพ็ญพักตร์นั่งอยู่ จนเพ็ญพักตร์ต้องถอยกรูดไป

“ได้ไง....ไม่ มีได้ไง ก็ไอ้โศกมันเล่าว่าท่านจะให้นี่นา” สมใจพูดเสียงดัง
ดอกโศกก้มหน้างุด รู้สึกอับอายมาก
เพ็ญพักตร์เยาะ “แกได้ยินแล้วนี่ว่าไม่มีชื่ออหลานแก”
“ไม่มีเพราะปลอมหรือเปล่าล่ะ” สมใจสวนออกมา
ดอกโศกรีบห้าม เพราะอายเหลือเกิน “ยายจ๋า...พอเถอะจ้ะ” ก่อนจะลุกขึ้น ทำท่าจะเดินออกไป
สมใจเรียกไว้ “ไอ้โศก...ยายกำลังเรียกร้องสิทธิ์ให้เอ็....เอ็งมีสิทธิ์” เปิดฉากทะเลาะกับเพ็ญพักตร์
“นี่แม่สมใจไปทวงสิทธิ์ที่อื่น ที่นี่ไม่มี”
“ทำไมไม่มีมันเป็นหลาน....”
“หลานเรอะ....ทำไมท่านไม่ให้ล่ะ” น้ำเสียงเพ็ยพักตร์ทั้งเยาะทั้งหยัน
สมใจจ๋อยมาก จนน่าสงสาร
“ให้...คุณพ่อให้ คุณพ่อบอกว่าให้ดอกโศกอยู่บ้านนี้ไปจนตาย” สุดสวยขัดขึ้น
“สุดสวย อย่าเพิ่งพูดอะไรดีกว่า เราต้องเชื่อหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร” เพ็ญพักตร์จ้องหน้าน้องสาว


“คุณพ่อบอก...ถามเหลย ถามเหลยสิ” สุดสวยไม่ยอม
“ไม่ต้อง” เพ็ญพักตร์พูดเสียงเฉียบขาด “ไม่ถามใคร”
เฉลยขัดขึ้น “แต่...คุณเพ็ญคะ ท่านบอก”
เพ็ญพักตร์วาดใส่ “หุบปากเฉลย ไม่ใช่เรื่องของแก”
“พี่เพ็ญครับ ถามคุณปกรณ์ดีกว่า” พจน์บอก
“ไม่ต้องถาม” เพ็ญพักตร์ไม่ยอม
“ถาม...ถามปกรณ์ ปกรณ์พูด...พูดเร็วๆ” สุดสวยบอกเร่งเร้า
“ทนายความใช่มั้ยพูดเลยคุณท่านบอกไว้นี่ พูดเลย...” สมใจผสมโรง
ทนายปกรณ์ทำมือห้ามสมใจ “เป็นความจริงครับ ท่านมอบหมายให้ผมแก้ไขพินัยกรรมบางส่วน คือให้คุณอภิรมย์ฤดีได้ทุกอย่างเท่าหลานคนอื่น ยกเว้นที่ดินและเครื่องเพชร เพราะเป็นของคุณหญิงท่านให้แต่ลูกหลานคุณหญิง”
ทั้งห้องเงียบกริบ
“พี่เพ็ญครับในเมื่อคุณพ่อประสงค์เช่นนั้น และท่านก็แจ้งความจำนงกับหลายคน รวมทั้งดอกโศกด้วย...จริงมั้ยดอกโศก” พจน์ว่า
ดอกโศกมองทุกคน นัยน์ตาหมองไม่สบายใจเลย
“คุณตาท่านบอกเธอไว้หรือ” พจน์สนใจ
“แต่หนูไม่....ไม่อยากได้ค่ะ ไม่ต้องให้หนู...” ดอกโศกบอก
สมใจขัดใจนัก “นังโศกแกจะบ้าเรอะ แกต้องเอา”
“หยุด แม่สมใจ อย่าสอดไม่ใช่เรื่องของแก” เพ็ญพักตร์ของขึ้น
“ฉันจะพูดเรื่องอะไรมาห้าม แกต้องเอานะดอกโศก ของของแก”
เพ็ญพักตร์หัวเราะเย้ยหยัน “แกจะเอาจากที่ไหน ฮะ แม่สมใจ จะเอาจากไหน”
“เอาจากคุณนั่นแหละคุณผู้ดี คุณก็รู้แก่ใจทุกอย่างจะใจร้ายใจดำไปถึงไหน” สมใจหยันกลับ
“แกกลับไปซะดีกว่า อย่าฝันถึงสิทธิ์ลมๆแล้งๆ แกอาจจะเคยมีนะ....แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ เดี๋ยวนี้สิทธิ์มันเป็นลายลักษณ์อักษรไม่ใช่สิทธิ์ที่เกิดจากการยั่วยวนคุณพ่อฉันแบบต่ำๆ ของแก” เพ็ญพักตร์ของขึ้น จัดหนัก
สมใจฟังแล้วสะอึก เถียงไม่ออก หน้าตาน่าสงสารมาก เบ้หน้า มองจ้องหน้าเพ็ญพักตร์
“คุณเพ็ญ ผมว่าเราเป็นผู้ใหญ่ เป็นป้าแล้วนี่ก็หลาน” ตระกูลเอ่ยขึ้น อยากคลี่คลายเรื่องราว
“ฉันไม่เชื่อว่าคุณพูดจริง เงินคุณไม่เคยไม่อยากได้” เพ็ญพักตร์พูดเสียงอยู่ในคอ ก่อนจะหันมาพูดใส่หน้าตระกูล “อย่าสร้างภาพเลย”
ตระกูลคอแข็ง
“พี่เพ็ญ เราคิดใหม่ดีมั้ยครับ” พจน์ออกความเห็น
อ้นพูขึ้น “ครับป้าเพ็ญ เงิน 5 ล้าน ที่ให้ดอกโศกเอามาให้เรา 3 คน มันก็แค่คนละล้านกว่า”
เพ็ญพักตร์ตวาดสวน “แกหยุดนะอ้น เป็นเด็กอย่าสอด”
“พี่เพ็ญ....ครับ ผมว่าอ้นเขาจะทำก็ได้นะครับ” พจน์บอก
“ก็ด้าย เพราะฉันเชื่อว่าคุณพ่อท่านต้องการให้เป็นอย่างนั้น แต่ในเมื่อไม่มีในพินัยกรรมฉันไม่เห็นเหตุผล ถ้าใครจะให้ก็ให้ส่วนของตัวเอง แต่ถ้าจะแบ่งไปจากลูกฉัน...ฉันจะฟ้อง” เพ็ญพักตร์เสียงกร้าว
ทุกคนนิ่ง
“เอาสิว่ะ ฟ้องก็ฟ้อง” สมใจลุกขึ้นอย่างไม่เกรงกลัว
“หยุด...ถ้าไม่หยุดจะให้คนมาจับโยนออกไป”
สมใจจะพูด
เพ็ญพักตร์ตวาดลั่นน้ำเสียงทรงอำนาจ “ฉันบอกให้หยุด”
สมใจชักกลัวหยุด แต่กิริยายังโอหัง
“เคลียร์มั้ย”
“ไม่เคลียร์...ไม่ยอม” สุดสวยว่า
“ฟ้องศาล...สุดสวยไปฟ้องศาล ศาลจะเอาเธอไปอยู่ในคอกแล้วซัก...ซัก...เธอตายแน่”
เจอไม้นี้ สุดสวยกลัวขึ้นมา ไม่กล้าพูดต่อ
“ผมแบ่งให้ดอกโศกสองล้าน”
อุ๊เยาะ “โห...ใจดีจริง...โอ๋ล่ะ”
“โอ๋ไม่รู้ ให้ก็ได้ค่ะ” โอ๋สะอื้นออกมา “โอ๋ไม่อยากได้อะไรอีกแล้ว”
ทนายปกรณ์เอ่ยขึ้น “คุณมนัสสุขจะได้ส่วนแบ่งของคุณพฤกษ์ด้วยครับ”
อุ๊ตาโต “จริงเหรอคุณแม่ โอ้โฮ...ได้เยอะน่ะสิ”
สีหน้าเพ็ญพักตร์บึ้งตึงมาก มองโอ๋หน้าเครียดๆ ตอนนี้ทุกคนพูดอะไรไม่ออกแล้ว
“เฮ้อ...คนรวยเนี่ยมันไม่พอจริงๆเว้ย..กูก็อยากจะดูเหมือนกันว่าจะกินกันจนท้องแตกตายมั้ย เอ้า โศก เอ๊ย ยายกลับก่อนนะ พระคุ้มครองเอ็งด้วย”
เพ็ญพักตร์สวนทันควัน “เดี๋ยว...แกเอาหลานแกกลับไปด้วย”
“เอ๊ะ..คุณเพ็ญพักตร์ ยังไงกันเนี่ย พูดอย่างนั้นถูกเรอะ แค่อยู่บ้านก็ไม่ให้อยู่เหรอเนี้ย จะใจคอโหดเหี้ยมมากไปหน่อยมั้งคุณ”
“เราจะทำทุกอย่างตามพินัยกรรมคุณพ่อ รู้กันไว้ด้วย”
“ทำไมล่ะ ให้มันแค่อาศัยอยู่ไม่ได้ ตอบมา คุณก็ไปอ้อนวอน”
“ใครอ้อนวอนพูดให้ดีๆ”
“ก็คุณนั่นแหละ เค้าเห็นกันทั้งซอย ใส่ชุดสีแดงแปร๊ด หมูหมาเห่ากันเกรียว เอาเงินไปล่อมันด้วย” สมใจหยามหยัน
“ฉันไม่เคยเอาเงินล่อแก”
สมใจสวนอย่างรวดเร็ว “งั้นก็พ่อคุณ”
“แกพาหลานไปจากบ้านชั้นเดี๋ยวนี้” เพ็ญพักตร์ตวาด วางอำนาจเต็มขั้น
“ไม่ต้องไป อยู่ได้อยู่กับน้า...ดอกโศก” สุดสวยพูดพลางหันไปมองดอกโศก
ดอกโศกเวลานั้น น้ำตาฉ่ำตา มองสบตาสุดสวย สุดสวยพยักหน้าให้อยู่ร้องไห้ไปด้วย พอดอกโศกไหว้สุดสวย สุดสวยยิ่งร้องเสียงดังขึ้น
ดอกโศกคลานไปหายาย “ยายจ๋า...กลับบ้านเราเถอะจ้ะ”
“เอ็งอยู่ ใครเอาเอ็งมาต้องเลี้ยง ไม่งั้นข้าจะฟ้องหมดทุกศาลเลยเว๊ย” สมใจปรี๊ดสุดขีดแล้ว
“ปกรณ์ อธิบายให้เขาฟังด้วย ตระกูล อุ๊...ไป” เพ็ญพักตร์เอ่ยขึ้น
สามคนพ่อแม่ลูกเดินออกไป
โอ๋ขยับจะไปด้วย “พี่อ้น โอ๋ให้เค้าเท่าพี่อ้นนะ”
“โอ๋” อุ๊ขัดเคืองใจ
โอ๋เดินหนีไปอย่างรวดเร็ว
ดอกโศกไหว้ทุกคน “หนูลาค่ะ” แล้วเดินออกอย่างรวดเร็ว ไม่รีรอ ไม่มองหน้าใครอีกเลย
ไดนามิกทันที
เพ็ญพักตร์ไม่ตวาด ไม่เสียงดังมากนัก ในช่วงแรกเพราะเป็นต่ออยู่เต็มร้อย แต่พอสมใจกวนมาก
ขึ้นค่อยของขึ้นไปตามบท
2) ขอเล่นเร็วๆ บทคล่องๆ กลัวอืด

ดอกโศกก้าวขึ้นรถตุ๊ก ตุ๊ก สีหน้าเศร้า
“ยายล่ะโศก”
“โน่น”
สมใจวิ่งตุ๊บตั๊บมา
“แล้วไงเนี่ย”
“กลับบ้าน” ดอกโสกบอก
“โศกเอ๊ย ทำไมเอ็งยอมเขา...อย่ายอมเราต้อง...” สมใจจะพูดต่อ
“ยาย” ดอกโศกสวนออกมา เสียงแข็ง “เขาเกลียดเราขนาดนี้ยายจะให้หนูอยู่อีกเหรอ”
อ้นวิ่งตามมา “อภิรมย์ ฉันให้นะสองล้าน คนละครึ่งก็ได้สองล้านห้า”
ดอกโศกมองตอบด้วยสายตาอ่อนโยน ยิ้มให้ทั้งน้ำตา “แล้วพบกันนะอ้น”

สมปองขับรถโครมครามออกไป สีหน้าดอกโศก ทั้งโศก ทั้งสลดใจ เหลียวไปดู ป้ายบ้านรัตนชาติพัลลภ มีแพรดำที่ป้ายนั้น
ดอกโศกหันขวับกลับมา คิดในใจอย่างเด็ดเดี่ยว ลาทีบ้านที่มีแต่ความทุกข์ใจ

ไม่นานต่อมา สมใจ สมปอง และดอกโศกเดินเข้ามาในบ้าน สมหวังรีบเดินออกมารับ ถามทันที
“เป็นไงมั่ง” แต่ไม่มีใครตอบ
“พักนะโศก น้าไปทำงานต่อล่ะ” สมปองปลอบ
“จ้ะ...” ดอกโสกไหว้สมปอง “หนูขอบคุณ”
“ไม่ต้องเศร้าเว้ย อยู่คนเดียวซะเมื่อไหร่”
ปองหันหลังกลับจะเดินไป แต่ชะงักเมื่อเห็นอัศนัยตรงหน้า
“ปอง”
สมปองส่ายหน้า “นกปีกหักกันทุกคนเล๊ย คุณนัย”
อัศนัยไม่ฟัง เดินเข้าไปหาดอกโศก “ดอกโศก”
ดอกโศกทนไม่ได้อีกแล้ว สะอื้นฮักๆ แม้จะข่มเต็มที่เนื้อตัวเด็กสาวก็ไหวสั่นสะท้าน อัศนัยอยากกอดเหลือเกิน แต่ไม่กล้า ได้แต่ขยับตัว และส่งสายตาสงสารสุดใจ
ดอกโศกสะอื้น ความรู้สึกขมขื่นพุ่งประดังขึ้นมา จนต้องปิดหน้า ซวนเซลงนั่ง ก้มหน้ากับเข่าตน
อัศนัยคุกเข่าลงข้างๆ “ดอกโศก...เล่าให้คุณนัยฟังนะจ๊ะ” พลางแตะมือเบาๆ
ดอกโศกมองนัยน์ตาโศกเศร้า อัศนัยพูดเบาๆ “ไปริมน้ำโน่น”

สองคนนั่งอยู่ริมน้ำในสวนแห่งนั้น ดอกโศกเล่าเรื่องจบแล้ว หยุดร้องไห้แล้ว แต่นัยน์ตาและจมูกยังแดงก่ำ
ระหว่างนั้นมีใครคนหนึ่งวิ่งไปมา อีกคนขี่รถจักรยาน คู่นั้นวิ่งไล่จับกัน ทุกสิ่งข้างๆ เคลื่อนไหวในขณะที่สองคนไม่เคลื่อนไหวเลย
“ไม่ต้องรู้สึกอะไรมาก เรื่องของผู้ใหญ่”
“ดอกโศกอายค่ะ เหมือนอยากได้แต่ไม่มีสิทธิ์”
“ดอกโศก...ดอกโศกมีสิทธิ์ทุกอย่างถ้าจะฟ้องก็ฟ้องได้ ยายพูดถูก มีพยานหลักฐานว่าคุณตาพยายามไป...เอ้อ ซื้อดอกโศกไปอยู่กับท่าน ความเป็นหลาน ความที่ท่านไปพาตัวมา เจตจำนงของท่านที่จะให้ดอกโศก ศาลเขาสืบพยานได้”
“ไม่” ดอกโศกแทบจะสวนออกมาทันควัน พูดเสียงแข็ง “ดอกโศกจะหยุด ไม่เอาอะไรอีกเลย ไม่กลับไปบ้านนั้นด้วย”
อัศนัยแสนสงสารเป็นที่สุด “ดอกโศกไปอยู่บ้านคุณนัยนะ”
ดอกโศกนิ่งอึ้ง
“คุณนัยขอ...ดอกโศกอย่าดื้อเลยนะ”
ดอกโศกไหว้ขอโทษ
อัศนัยถอนหายใจมีอาการผิดหวังรู้ดีว่านั่นคือคำปฏิเสธ
“ดอกโศกขอพูดอะไรบางอย่าง คุณนัยฟังให้จบนะคะ อย่าเพิ่งคิดว่าดอกโศกจองหอง”
“พูดสิ...”
ดอกโศกพูดเสียงมั่นคง สีหน้าตรึกตรอง แต่คำพูดที่บอกออกมาคือมั่นใจในทุกคำ
“ตอนเป็นเด็กดอกโศกอยู่กับยาย เท่ากับยายเป็นเจ้าของชีวิตดอกโศก พอโตขึ้นอีกหน่อย คุณตารับไปเลี้ยง ดอกโศกก็กลายเป็นอภิรมย์ฤดีของคุณตา แต่เวลานี้คุณตาไม่อยู่แล้ว อภิรมย์ฤดีก็ไม่มีใครเป็นเจ้าของอีกต่อไป”
อัศนัยถามลองใจ “ไม่มีใครเลยหรือ”
“คุณนัยเป็นผู้มีพระคุณ ดอกโศกเชื่อว่าในโลกนี้ไม่มีใครหวังดีกับดอกโศกเท่ากับคุณนัย”
“แล้วทำไม...”
ดอกโศกพูดขัดขึ้น “ดอกโศกอยากเป็นอิสระ”
“อยากเป็นอิสระ หมายความว่ายังไง” อัศนัยถามเสียงแข็ง “จะทำอะไรจะไปไหน...ยังเด็กอายุเท่านี้”
“ทำเท่าที่จะทำได้...ดอกโศกจะไปอยู่กับยาย จะทำงาน...”
“ทำงาน” อัศนัยพูดเสียงดัง “จะบ้าเหรอดอกโศก ยังเรียนหนังสือไม่จบจะไปทำงาน”
“ทำได้ค่ะ ทำงานด้วยเรียนหนังสือไปด้วย”
“ไม่ได้...คุณนัยไม่ให้ทำ เรียนหนังสืออย่างเดียวจะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้วนะ”
“ได้ค่ะ มีเยอะแยะที่เขาทำงานส่งตัวเองเรียน ดอกโศกทำได้ คุณนัยลืมแล้วหรือคะ ดอกโศกเคยทำมาแล้ว”
“นั่นตอนเป็นเด็ก”
ดอกโศกแย้ง “คุณนัยดูถูกเด็กจัง”
อัศนัยฟังแล้วนิ่งงัน อึ้งไปนิด “ดอกโศก...คุณนัยเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีศักยภาพในตัวเอง...ทุกคนถ้าใช้เต็มที่ก็ทำอะไรก็ได้”
ดอกโศกพยายามทักท้วง “แต่...”
อัศนัยพูดสวนออกมา “แต่...ต้องเป็นไปตามอายุ ตามความจำเป็นอย่างเช่น เป็นเด็ก...ก็ควรจะใช้ศักยภาพให้เต็มที่เรียนหนังสือ”
“ดอกโศกจะเรียนหนังสือเต็มที่...ดอกโศกสัญญากับคุณนัย”
“ไม่มีเวลาไปทำงานแล้วล่ะ ถ้าอย่างนั้น” อัศนัยท้วง
“มีค่ะ...ดอกโศกจะใช้เวลาทุกนาทีให้มีค่า” รู้สึกตื้นตันใจจนน้ำตาไหลรินออกมาจางๆ “ชีวิตดอกโศกมีค่ามากตอนที่ทำงานช่วยยาย ช่วยหาเงินให้ยายตอนดอกโศกยังเด็ก”
อัศนัยตั้งใจฟังมาก มองจ้องหน้าดอกโศกตลอดเวลา
“จำได้ว่าไม่เหนื่อย...ไม่ท้อถอยเลยซักวัน” ดอกโศกบอก
อัศนัยพยักหน้า
“ถ้าไปอยู่กับคุณนัยรู้ค่ะว่าคุณนัยจะดูแลอย่างดี ดอกโศกจะสบายไม่ต้องทำงานมีเงินใช้ เยอะแยะ อยากได้อะไรคุณนัยจะหาให้...จะอยู่สุขสบายเรียนหนังสืออย่างเดียว เหมือนตอนอยู่กับคุณตา อยู่กับคุณนัยดอกโศกจะเป็นคุณหนูมากกว่าเสียอีก เพราะมีป้าหม่อน มีพี่หมื่นทำอะไรให้ทุกอย่าง”
สีหน้าอัศนัยคิดตาม
“ไม่อยากเป็นแบบนั้นค่ะ อยากเป็นอิสระ อยากทำงาน อยากภูมิใจว่าช่วยยายได้ เรียนหนังสือก็จะไม่ให้เสีย คุณนัยคะ ดอกโศกอยากสู้ชีวิตด้วยตัวเองค่ะ”
อัศนัยมองเด็กสาวตรงหน้าด้วยสายตาชื่นชมอยู่ลึกๆ ดอกโศกมองสบตา นัยน์ตาขอร้องให้เชื่อมั่นว่าจะทำได้
“คุณนัยจะกลับล่ะ...วันไหนที่เข้าไปเก็บของที่บ้านคุณตาบอกคุณนัย คุณนัยจะพาไป...ขอร้องนะอย่าบอกว่าไม่...จะไปเอง ขนของนั่งรถตุ๊กตุ๊กออกมามัน เอ่อ...เอาเถอะ อย่าทำอย่างนั้นเลย” อัศนัยร้องขอ
ดอกโศกยิ้มเต็มที่ “ไม่ทำค่ะ จะนั่งรถเบนซ์ออกมาเลย”
อัศนัยลุกขึ้นส่งมือให้ อัศนัยดึงตัวดอกโศกลุกขึ้นยืน
ดอกโศกวางมือในมืออัศนัย สองคนยืนประจันหน้ากัน
อัศนัยมองจ้องหน้าดอกโศกนิ่ง
ภาพความสัมพันธ์ระหว่างดอกโศกกับอัศนัย ซ้อนเข้ามาในความคิดของอัศนัย รวดเร็วราวกับสายน้ำไหล
สายตาอัศนัยดูอ่อนโยน ชวนซาบซึ้ง และน่าประทับใจ
“นอนให้หลับอย่าคิดมาก”
“ค่ะ...คิดเสร็จแล้วนี่คะ”
อัศนัยยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ดอกโศกยิ้มรับ
“ดอกโศกโตเป็นผู้ใหญ่ชั่วข้ามคืนเลยนะ” อัศนัย
ดอกโศกยิ้มน้อยๆ มองจ้องอัศนัย นัตย์ตานั้นมีแววประหลาดบางอย่างที่อัศนัยมองแล้วรู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาชั่ววูบ

ภาพสุดท้ายให้ห้วงความคิดคำนึงของอัศนัย เป็นภาพดอกโศกนัยน์ตาคลอเต็มไปด้วยน้ำตา ในวันที่ปรียากมลจูบเขาต่อหน้าต่อตา เป็นนัยน์ตาที่มีความรักซ่อนเร้นอยู่ในนั้น

อัศนัยตระหนัก ประจักษ์แก่ใจตนเองในวินาทีนั้น เหมือนแสงสว่างวาบเข้ามา
ดอกโศกอ่านสายตานั้นออก ใจสั่นวูบวาบขึ้นมา แล้วตัดสินใจถดตัวถอยห่างออกมา
อัศนัยเหมือนอยากจะตามไป แต่ก็ยั้งตัวเองไว้ทัน ดอกโศกพนมมือไหว้ลา แล้วหันหลังกลับเดินจากไปทันที อัศนัยเดินตามไปสองก้าวแล้วยืนนิ่งงันงัน

ดอกโศกอยู่ที่บ้านยายแล้ว ล้มตัวลงนอน แต่นอนไม่หลับ คิดถึงแต่อัศนัย ข้างๆ กายสมปองนอนหันหลังให้

อัศนัยเองก็นอนไม่หลับเช่นกัน นัยน์ตาของดอกโศกยังคงรบกวนจิตใจเขาเป็นอย่างมาก จังหวะหนึ่งอัศนัยลุกขึ้นนั่งบนเตียง
ครู่ต่อมาอัศนัยยืนมองออกไปข้างนอก ก่อนที่จะกลับมานั่งอีกท่าหนึ่ง หยิบหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่ง
ทว่าอัศนัยอ่านหนังสืออ่านไม่รู้เรื่อง ปิดหนังสืออย่างแรง เดินไปยังห้องวาดรูป
อัศนัยนั่งวาดรูปดอกโศก เป็นภาพที่เขาจดจำในครั้งที่แล้วที่เจอกัน ดอกโศกน้ำตาคลอมองจ้องมา เสียงเพลงจากแผ่นเสียง ‘โอ้ดอกโศกเจ้าโศกใจไฉนกัน’ ดังคลอแผ่วๆ

อ่านละครเรื่อง ดอกโศก ตอนที่ 10/5 วันที่ 26 เม.ย. 55
ละครเรื่อง ดอกโศก บทประพันธ์ : ศรีทอง ลดาวัลย์
ละครเรื่อง ดอกโศก บทโทรทัศน์ : ศัลยา
ละครเรื่อง ดอกโศก กำกับการแสดง : สันต์ ศรีแก้วหล่อ
ละครเรื่อง ดอกโศก ผลิต : บ. เอ็กแซ็กท์ - ซีเนริโอ
ละครเรื่อง ดอกโศก แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง ดอกโศก ออกอากาศทุกวัน จันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทาง ททบ. 5
ละครเรื่อง ดอกโศก ออกอากาศตอนแรก เริ่มวันจันทร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2555
ที่มา manager.co.th

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น