วันศุกร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2555

อ่านละคร แววมยุรา ตอนที่ 3 วันที่ 20 เม.ย. 55

อ่านละคร แววมยุรา ตอนที่ 3 วันที่ 20 เม.ย. 55
แววกลับถึงห้องก็อดคิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปไม่ได้ ขณะคิดเพลินๆก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น มาลตีเข้ามาถึงก็ถามทันทีว่าคนข้างบ้านเราชื่ออะไรนะ พอแววบอกว่าชื่อจักร ก็บ่นว่าคนอะไรหน้าตาออกหล่อแต่ชื่อย้อนยุคไปไกลเลย

แววรู้ว่าแม่มีเรื่องอื่นจะพูด พอถามก็จริงอย่างที่คาด มาลตีบอกว่าตนสั่งซื้อครีมทาหน้ามาสองชุด เผื่อเธอกับวัณณรีจะได้ใช้ด้วย ราคาชุดละ 6 พันบาท สองชุด 12,000 บาท แววบอกว่าแล้วจะหามาให้ หนักใจแต่ไม่แสดงออก

รุ่งขึ้น เมื่อจักรกับแจ็คไปจัดสวน เจอแววที่นั่น ทั้งสองคุยกันถึงเหตุการณ์เมื่อคืนอีก แววคิดว่าเขาปากรรไกรใส่งูพลาด แต่เขาบอกว่าตนตั้งใจปาไม่ให้ถูกเพราะงูก็รักชีวิตเหมือนเรา ทำให้แววรู้สึกดีแต่ไม่วายปรามาสว่าเขาปาพลาดมากกว่า

ชลธิชากับเริงใจเห็นทั้งสองคุยกันดีๆ ก็แปลกใจว่าเป็นภาพลวงตาหรือเปล่า แจ็คมาอยู่ข้างหลังสาระแนแทรกขึ้นว่า
“นั่นสิครับ ผมเองก็ยังงงอยู่เลย วันนี้ดูเจ๊แกจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ”

ชลธิชากับเริงใจหันมองด้วยหางตาแล้วเดินเลี่ยงไป ทำเอาแจ็คที่ยิ้มแป้นหน้าบาน ยืนเก้อไปเลย


ooooooo

สวนหย่อมจัดได้อย่างสวยงาม น่ารัก จนแจ็ค

บอกว่าเห็นแล้วหายเหนื่อยเลย บอกจักรให้ถ่ายรูปไปอวดน้าเพิ่มกัน แต่เพื่อยืนยันว่าเป็นฝีมือพวกตนจริงๆ แจ็คขอให้แววกับจักรเข้ากล้องด้วย จัดให้ยืนใกล้ๆกันเพื่อโชว์สวน

เริงใจเห็นเข้ามองตาโต ร้องแซว “นั่นแน่...มีแอบถ่ายรูปคู่กันด้วยเหรอจ๊ะ”

แววรีบผละออก บอกว่าตนแค่ถ่ายรูปกับคนจัดสวน จักรร้องอ้าว ถามว่าคนจัดสวนคนนี้มันก็คนเดียวกับคนข้างบ้านเธอไม่ใช่หรือ แววก็ตะแบงไปว่า แค่คนข้างบ้านไม่ได้นับเป็นเพื่อนบ้าน

ทั้งคู่ทำท่าจะตีฝีปากกันอีก ชลธิชากับเริงใจรีบหย่าศึก ชวนกันเดินดูสวนชมว่าสวย ชอบมาก

กลับถึงบ้าน จักรดักพบแววบอกว่าพรุ่งนี้จะมาจัดสวนให้ แววบอกว่าพรุ่งนี้ตนไม่ว่างต้องไปเป็นนางแบบในงานประมูลเครื่องเพชร แล้วจะเข้าบ้าน แต่ก็ยังมีแก่ใจบอกเขาว่า

“ยังไงก็ขอบใจนะ ที่อุตส่าห์จะช่วยจัดสวนให้ งั้นฉันเข้าบ้านก่อนล่ะ ต้องรีบนอน พรุ่งนี้หน้าจะได้ไม่โทรม”

จักรยิ้มกริ่มพูดเบาๆว่าโทรมยังไงก็ยังสวย แต่พอหันมาก็เจอเพิ่มพงษ์ยืนอยู่แล้ว เขาบ่นว่ามาไม่ให้สุ้มให้เสียงเลย นึกได้บอกเพิ่มพงษ์ว่า มาก็ดีแล้ว พรุ่งนี้เราหาอะไรสนุกๆทำกันดีกว่า อย่างเช่น...ประมูลเครื่องเพชร

เพิ่มพงษ์ฟังแล้วอึ้งๆ งงๆ ไม่รู้ว่าเขาจะเล่นอะไร?

รุ่งขึ้น เอกรินทร์เตรียมไปงานประมูลเพชร แวะไปที่ห้องไลลาจะชวนไปพร้อมกัน ไลลาอยู่กับแป้งร่ำ สองสาวบอกว่าเดี๋ยวค่อยตามไป พอเอกรินทร์ไป ไลลาเห็นแป้งร่ำหน้าระรื่นกับเอกรินทร์ก็พูดอย่างหมั่นไส้ว่า

“จะบอกให้นะ นายนี่ไม่ใช่สเปกเธอหรอก ชอบทำตัวเป็นหนุ่มเรียบร้อย อบอุ่น ดูน่าเบื่อจะตาย ไม่มีความเร้าใจสไตล์แบดบอยเอาซะเลย”

“แล้วใครบอกเธอว่าฉันชอบผู้ชายแบบแบดบอยล่ะ” แป้งร่ำยิ้มกริ่มอย่างอิ่มใจ จนไลลาหันมองหน้า นึกรู้ว่าดูท่าแป้งร่ำจะชอบเอกรินทร์จริงจัง

ooooooo

เอกรินทร์ไปถึงหน้าโรงแรมหรูที่จัดประมูลเพชร เจอชลธิชาเขาเอ่ยปากรบกวนขอถามข้อมูลและสัมภาษณ์ในสกู๊ปข่าวด้วย ชลธิชาไม่มั่นใจ เอกรินทร์ยืนยันขอรบกวน แล้วขอตัวไปที่จอดรถก่อนเพราะตากล้องรออยู่ที่นั่น

ไม่นาน ไลลากับแป้งร่ำก็มาถึง สองสาวไม่พอใจที่ได้เป็นนางแบบพรีเซนต์ต่างหู แหวน กำไล ไม่ได้โชว์สร้อยเพชรที่เป็นไฮไลต์ของงาน ถามกันว่าแล้วเป็นใคร ไลลาระแวงว่าจะเป็นแวว

พูดกันไม่ทันขาดคำ แววก็มาถึง ต่างทักทายกันอย่างไว้เชิง แววเสียความรู้สึกเพราะไม่คิดว่าไลลากับแป้งร่ำจะมางานนี้ ไม่อยากมีเรื่องกวนใจเลยเลี่ยงจะเข้าห้องแต่งตัว เจอชลธิชาเข้าพอดี บ่นเพื่อนว่าทำไมไม่บอกว่าไลลากับเพื่อนมาด้วย

“ก็คุณเอกเขาแนะนำมา ฉันก็เลยไม่กล้าปฏิเสธ” ชลธิชาบอกเบาๆ แล้วขอแววว่าให้ถือว่าทำเพื่อเพื่อนก็แล้วกัน นึกได้บอกแววว่า “เดี๋ยวฉันต้องรีบออกไปแล้ว คุณเอกเขาจะสัมภาษณ์ฉันออกข่าวทีวีด้วยนะ”

“คำก็คุณเอก สองคำก็คุณเอก เป็นเอามากนะ...” แววหยอก แต่พอหันมองอีกที ชลธิชาก็หายไปแล้ว

เมื่อได้เวลาสัมภาษณ์ ชลธิชาประหม่าจนพูดไม่ได้ เอกรินทร์แนะนำให้เธอหายใจลึกๆ ตนจะเป็นกำลังใจให้ ทำให้เธอมั่นใจจนการสัมภาษณ์ผ่านไปด้วยดี น่าพอใจ

ooooooo

ที่ห้องทำงานลับร้านขายต้นไม้ เพิ่มพงษ์ให้จักรมาเตรียมประมูลเพชรจากห้องนี้ จัดแจงให้เขาใส่สูทบอกว่าตอนนี้เขาไม่ใช่นายจักรแล้ว แต่คือคุณสยุมภูว์ เจ้าของและประธานกรรมการเครือทศพลกรุ๊ป

เพิ่มพงษ์จัดการทุกอย่างให้พร้อม ส่งพงศกรเลขาของเขาไปที่ห้องประมูล ให้ติดกล้องกระดุมอันจิ๋วไว้ที่ปมเนกไทเพื่อถ่ายทอดภาพและเสียงในห้องประมูลให้เราชมจากในห้องนี้

จัดเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว เพิ่มพงษ์เตือนว่า

“เพื่อความไม่ประมาท จะให้ใครเห็นหน้าคุณ

สยุมภูว์ไม่ได้ ดังนั้น ผมจะให้นายวงศกรได้เห็นปากและคางลงมาเท่านั้น ไม่ให้เห็นใบหน้าเต็มๆของคุณสยุมภูว์” จากนั้นจัดสูทให้เรียบร้อยใส่แว่นและเตรียมตัวสู่การประมูลเครื่องเพชร

จักรนั่งหลังตรง ท่าทางภูมิฐาน กลายเป็นสยุมภูว์เต็มรูปแบบ แต่หารู้ไม่ว่า ท่อนล่างของเขาก็ยังสวมกางเกงขาสั้นสบายๆ แบบนายจักรคนขายต้นไม้อยู่

การประมูลรายการที่หนึ่งเป็นต่างหูเพชร นางแบบคือไลลา รายการนี้เริ่มต้นราคาประมูลที่ 4 แสนบาท มีผู้เสนอเพิ่มขึ้นเรื่อย จนสุดท้าย มีผู้ประมูลได้ในราคา หนึ่งล้านเจ็ดแสนบาท

รายการที่สองคือ แหวนเพชร เริ่มต้นประมูลราคา สองแสนห้าหมื่นบาท มีผู้เสนอสามแสน ห้าแสน และเจ็ดแสนตามลำดับ

ooooooo

เมื่อไลลากลับเข้าไปที่ห้องแต่งตัวแล้ว แบ็กสเตจ บอกให้ถอดต่างหูคืนเจ้าหน้าที่ตรงนี้ด้วย ไลลารับคำพลางถอดต่างหู ขณะนั้น ได้ยินแบ็กสเตจเอาสร้อยเพชรมาใส่ให้แวว ไลลามองอย่างอิจฉาตาร้อน

พอแววเดินออกไปโดยทิ้งกระเป๋าถือไว้ในห้องแต่งตัว ไลลาจิกตามองอย่างร้ายลึก แล้วเอาต่างหูคืนในกล่องข้างเดียว อีกข้างแอบใส่ไว้ในกระเป๋าถือของแวว!

การประมูลสร้อยเพชรเริ่มต้นราคาที่สี่ล้านห้าแสนบาท มีผู้เสนอราคาขึ้นทันทีเป็นห้าล้านห้าแสนบาท...แล้วก็หกล้าน สยุมภูว์บอกเพิ่มพงษ์ว่าต้องประมูลสร้อยเพชรเส้นนี้ให้ได้ เมื่อมีผู้เสนอหกล้านสอง สยุมภูว์เสนอทันทีเป็นหกล้านห้า

ระหว่างนั้น แจ็คโทร.เข้ามือถือของเพิ่มพงษ์ ถามว่า ลูกค้าขอต่อต้นแก้วสองต้นเป็นแปดสิบบาทได้ไหม เขาตอบไปอย่างหงุดหงิดว่า ไม่ได้! สองต้นร้อยนี่ก็สุดๆแล้ว พูดแล้วกดปุ่มวางสายบ่นอย่างหงุดหงิด

“ไอ้นี่! โทร.มาไม่รู้จักเวล่ำเวลา คนเขากำลังประมูลสร้อยเพชรกัน 6-7 ล้าน ดันโทร.มาเรื่องสองต้นแปดสิบ” เพิ่มพงษ์บ่น แล้วหันถามสยุมภูว์ว่าถึงไหนแล้ว

“ท่าทางเราจะมีคู่แข่งรายใหม่เพิ่มขึ้นอีกแล้วล่ะสิ” สยุมภูว์บอก ต่างเพ่งที่จอภาพไม่วางตา

คู่แข่งคนนั้นคือคำรพนั่นเอง! เขาพยายามที่จะประมูลสร้อยเพชรให้ได้เพราะแววเป็นนางแบบ ซึ่งสยุมภูว์ก็ปักใจแน่วแน่แล้วว่า ต้องประมูลสร้อยเพชรเส้นนี้ให้ได้เช่นกัน

การแข่งขันดำเนินไปอย่างดุเดือด เมื่อคำรพเสนอหกล้านเจ็ด วงศกรเลขาของสยุมภูว์ก็เสนอหกล้านเก้าแสน

ทั้งสองแข่งกันอย่างดุเดือด วงศกรเสนอแปดล้าน สุดท้ายวงศกรประมูลได้ในราคาแปดล้านสอง!

“เราประมูลสำเร็จแล้วครับคุณสยุมภูว์” เพิ่มพงษ์บอกแล้วบ่นเบาๆ “เฮ่อ...ไม่รู้จะดีใจหรือเสียดายเงินดี...” แต่พอหันดูอีกที เห็นสยุมภูว์ถอดสูทออกทำท่าจะออกไป “อ้าว...แล้วนั่นจะรีบไปไหนเหรอครับ”

“ก็...จะรีบกลับออกไปเป็นไอ้จักร แล้วก็ว่าจะขับรถไปรับแววเขาหน่อยน่ะสิ” ว่าแล้วออกไปเลย

“เป็นเอามากแฮะ เจ้านายเรา” เพิ่มพงษ์ส่ายหน้าอ่อนใจ...

ooooooo

นุกูลกับชลธิชาตกใจเมื่อแบ็กสเตจมาบอกว่า ต่างหูเพชรหายไปข้างหนึ่ง

การสอบถามตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องเริ่มขึ้นอย่างตึงเครียด ไลลากับแป้งร่ำอยู่ในห้องแต่งตัวคอยยุคอยลุ้นให้จับได้ว่าของอยู่ในกระเป๋าถือของแวว จนกระทั่งเสนอให้ค้นกระเป๋าทุกคนดู พบต่างหูเพชรในกระเป๋าถือของแวว เธอตกใจมากพยายามชี้แจงปฏิเสธ แต่หลักฐานชัดเจนและไลลาก็คอยยุคอยป้ายสีตลอดเวลา

นุกูลพูดอย่างผิดหวังว่าตนหวังดีเห็นว่าแววกำลังตกงานจึงให้มาเดินแบบให้ ไม่คิดว่าจะเป็นคนแบบนี้ ชลธิชาพยายามบอกพ่อว่าแววไม่ใช่คนแบบนั้น นุกูล บอกให้แววชี้แจงมาว่าทำไมต่างหูจึงอยู่ในกระเป๋าเธอได้

“ทางเดียวที่เป็นไปได้คือ ต้องมีคนแอบเอามาใส่ไว้น่ะสิคะ” แววพูดแล้วมองไลลาอย่างจับผิด ฝ่ายนั้นหลบตาอย่างมีพิรุธ แววชี้ว่าไลลาเป็นตัวตั้งตัวตีที่เสนอให้ค้นกระเป๋า ถามว่า “เธอแกล้งเอาต่างหูเพชรมาใส่กระเป๋าฉัน แล้วก็ยุให้ค้น ฉันจะได้กลายเป็นผู้ร้าย”

ไลลาเถียงฉอดๆ หาว่าแววแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ถามแป้งร่ำแบบหาพวกว่าเชื่อไหม แป้งร่ำตอบทันทีว่าเชื่อ ถูกชลธิชาสวนทันควันว่า “แต่ฉันไม่เชื่อ” ชลธิชาบอกว่าตนไม่สนใจว่ามันเข้ามาอยู่ในกระเป๋าแววได้ยังไง แต่ตนเชื่อว่าเพื่อนไม่มีวันเป็นขโมยแน่ๆ จากนั้นสั่งว่าเมื่อเรียบร้อยแล้วทุกคนแยกย้ายกันกลับได้


ไลลารีบออกไป แป้งร่ำยุว่าไปยอมง่ายๆ แบบนั้นได้ยังไง ไลลากระซิบว่าดีแล้วขืนสืบไปสืบมาตนจะซวยเสียเอง

ส่วนแววขอบคุณชลธิชาที่ช่วยพูดไม่อย่างนั้นตนตายแน่ๆเลย ชลธิชายิ้มอย่างให้กำลังใจเพื่อน

ooooooo

พอแววออกมาถึงประตูทางออกโรงแรม เจอคำรพดักรออยู่ เขามาตื้อขอคำตอบจากแววเรื่องจะรับส่งเสียเลี้ยงดูครอบครัวเธอเพียงแต่เธอยอมไปอยู่กับเขา เมื่อแววปฏิเสธและพยายามเดินหนี คำรพใช้กำลังกระชากแววจะลากไปที่รถ

“ปล่อยแววเดี๋ยวนี้!” เสียงจักรตะคอกขึ้นอย่างดุดัน

คำรพกำลังหน้ามืดต่อยเบ้าตาจักรจังๆ ครั้นจักรต่อยคืนปรากฏว่าคำรพไม่สะดุ้งสะเทือนเลย ขณะคำรพกำลังรุกจักรนั่นเอง ไลลาออกมาตะโกนให้หยุด ไม่อย่างนั้นตนจะเรียก รปภ. คำรพขู่จักรว่าทีหน้าทีหลังอย่ามายุ่งเรื่องชาวบ้านอีก หันบอกแววให้ไปคิดใหม่แล้วตนจะติดต่อไปอีกที

แป้งรํ่ามาเห็นจักรก็อุทานว่านี่นายเป็นคนขายต้นไม้หรือ ไลลาถามจักรว่าเป็นอะไรหรือเปล่า พลางเข้า

ไปลูบหน้าลูบตาอย่างเป็นห่วง จนแป้งรํ่าถามว่าเดี๋ยวนี้สเปกของเธอเป็นคนขายต้นไม้ไปแล้วหรือ ไลลาตอบอย่างพอใจมากว่า

“ทำไม เขาก็หล่อดีออก แถมยังแมนสุดๆ เป็นฮีโร่สุดๆ ผู้ชายแบบนี้แหละย่ะที่จะปกป้องดูแลฉันได้”

แป้งรํ่าได้แต่มองเพื่อนเพลียๆว่า...เป็นไปได้ไงเนี่ย?!

จักรพาแววมาขึ้นรถกระบะจะพาไปส่งบ้าน แววเกรงใจจะเรียกแท็กซี่กลับเอง แต่แล้วก็เปลี่ยนใจเมื่อเห็นคำรพจอดรถดักรออยู่

เมื่อมาถึงบ้าน แววเรียกเขาเข้าบ้านเพื่อทำแผลที่หางคิ้วให้ จักรลังเลเธอขอร้องว่าถือเป็นการขอบคุณก็แล้วกัน จักรจึงเดินตามเข้าบ้านไปโดยดี

พอแววเอานํ้ายาล้างแผลให้ จักรก็ร้องลั่นคว้ามือเธอไว้ต่างจ้องตากันชะงักงันหวั่นไหว พอดีวัณณรีลงมาเห็นถามว่า ทำอะไรกันน่ะ ทั้งสองจึงผละจากกัน แววบอกว่าตนทำแผลให้จักร

วัณณรีเข้ามาอาสาทำแทน แววปล่อยให้ทำ วัณณรีทำไปถามไปว่าเจ็บไหม เป็นอย่างไรบ้าง จักรเลยแกล้งพูดประชดแววว่า ให้หัดดูอย่างน้องสาวมั่ง รู้จักทำเบาๆ

รู้จักเป็นห่วงคอยถามว่าเจ็บหรือเปล่า

หลังจากล้างแผลแล้ววัณณรีใส่ยาแดงให้ มองหน้าจักรอย่างถูกใจชมว่าหล่อดี ทำเอาแววรีบจับน้องแยกออกมาแทบไม่ทัน ปรามน้องว่าอย่าแก่แดดให้มากนัก แล้วไล่จักรให้กลับบ้านไปเสีย

“โอเคๆ...ไล่จังนะ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะมาช่วย

จัดสวนให้ตามสัญญานะ” วัณณรีฟังแล้วชมว่าคนอะไรทั้งหล่อทั้งมีนํ้าใจ พอแววปรามว่าตัวเองเป็นผู้หญิงพูดอะไรให้ระวังหน่อย กลับถูกวัณณรีหาว่ากันท่า ทำเอาแววมึนกับท่าทีของน้อง

ooooooo

นุกูลยังติดใจสงสัยว่าใครเป็นคนเอาต่างหูเพชรใส่กระเป๋าของแวว เมื่อขอเช็กทีวีวงจรปิด ภาพก็ไม่ชัด เห็นแต่ไลลาเดินไปที่กระเป๋าของแวว แต่ตัวบัง ทำให้ไม่เห็นว่าไปทำอะไร

ชลธิชาบอกพ่อว่า ไหนๆเราก็ได้ของคืนแล้วอย่าไปเสียเวลากับมันอีกเลย

ฝ่ายนิติภูมิมารู้ว่าสยุมภูว์ยังไม่ตายก็ตอนที่ดูทีวีเห็นมีตัวแทนของสยุมภูว์มาประมูลเพชรด้วย เขาโทร.หาศักดาทันที เป็นเวลาที่ศักดากำลังเอาปืนไปขายให้เฮียร้านขายของเก่า บอกว่าจะล้างมือแล้ว แต่ไม่ทันขายปืนก็ได้รับโทรศัพท์จากนิติภูมิ ศักดาบอกเฮียว่าเปลี่ยนใจไม่ขายแล้ว เฮียเดาอย่างรู้ทันว่า “ยังมีงานสุดท้ายที่ต้องสะสางอีกสินะ...”

นิติธรเห็นลูกคุยโทรศัพท์หน้าเครียด ถามว่าคุยกับใครหรือ นิติภูมิไม่บอก ผู้เป็นพ่อจึงบอกข่าวดีว่า เห็นช่วงนี้ยังว่างอยู่เลยจะฝากให้ทำงานกับสยุมภูว์

นิติภูมิของขึ้นทันที ปฏิเสธจะไม่ยอมเป็นขี้ข้าสยุมภูว์ นิติธรปรามลูกว่า

“ภูมิ ทำไมแกพูดจาแบบนี้ พ่อเองก็รับใช้ตระกูลทศพลมาตั้งแต่แกยังไม่เกิด ถ้างั้นพ่อก็เป็นแค่ขี้ข้าสิใช่ไหม การได้ทำงานรับใช้ตระกูลนี้ พ่อถือเป็นความภาคภูมิใจ มีคนอีกตั้งเท่าไหร่ที่อยากทำงานให้ทศพลกรุ๊ป แกจำเอาไว้ อย่าได้พูดแบบนี้อีก เพราะตระกูลทศพลมีบุญคุณกับครอบครัวเรา”

นิติภูมิระเบิดความอัดอั้นออกมาอย่างรุนแรง หาว่าพวกทศพลเอาเวลาของพ่อไปจากตนและแม่หมด แม้แต่เวลาที่แม่ป่วยหนักจนสิ้นใจ พ่อยังไม่มีเวลามาดูใจแม่เลย เพราะต้องไปคอยรับใช้พวกนั้น

นิติธรสั่งให้ลูกหยุด แต่นิติภูมิถึงจุดระเบิดเสียแล้ว ระบายความอัดอั้นออกมาอย่างเดือดแค้นว่า

“แล้วนี่พ่อยังจะให้ผมไปรับใช้ไอ้สยุมภูว์ ที่ตั้งแต่จำความได้ พ่อก็ชอบพูดเปรียบเทียบผมกับมัน ว่ามันดีกว่าผมอย่างโน้นอย่างนี้ ใช่สิ! ผมมันไม่ได้เรื่อง ผมมันไม่เอาไหน แต่ถึงยังไงผมจะไม่มีวันยอมไปทำงานรับใช้มัน” นิติภูมิระบายความอัดอั้นแล้วเดินไป ทิ้งให้ผู้เป็นพ่อยืนอึ้งด้วยความรู้สึกผิด เสียใจกับอดีต ที่ตนไม่ได้ดูแลครอบครัวอย่างที่ลูกพูดจริงๆ...

ooooooo

อ่านละคร แววมยุรา ตอนที่ 3 วันที่ 20 เม.ย. 55
ละคร แววมยุรา บทประพันธ์โดย : พนมเทียน
ละคร แววมยุรา บทโทรทัศน์ : ทองเอก และ วิวัฒน์ กฤษณาเวศน์
ละคร แววมยุรา กำกับการแสดง : ชานนท์ สัมฤทธิ์
ละคร แววมยุรา แนวละคร : โรแมนติก
ละคร แววมยุรา ผลิต : บริษัท เวฟมีเดีย เวิลด์ จำกัด โดย ตู่-ปิยวดี มาลีนนท์
ละคร แววมยุรา ออกอากาศทุกวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 20.30 น.ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละคร แววมยุรา ออกอากาศวันแรกเริ่ม อาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2555
ที่มา ไทยรัฐ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น