วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2555

อ่านละคร ขุนศึก ตอนที่ 3 วันที่ 27 เม.ย. 55

อ่านละคร ขุนศึก ตอนที่ 3
การประลองกำลังจะเริ่ม เสมายืนถือดาบสองมืออยู่กลางลานกว้าง ขันยืนอยู่ข้างพุฒที่ถือกระบี่เตรียมพร้อม ชาวบ้านเข้ามามุงดู เรไรเพิ่งมาถึง เธอมองเสมาด้วยความห่วงใย ไม่คิดว่าการหึงหวงของตนจะเป็นชนวนให้เกิดเรื่อง

ขันกระซิบบอกพุฒว่า เพลงดาบสองมือของเสมาร้ายนัก ให้ท้าประลองด้วยเพลงกระบี่ดีกว่า เพราะเสมาคงไม่ชำนาญ พุฒยิ้มรับมั่นใจว่า เสมาต้องตายคากระบี่ตนก่อนถึงมือขันแน่ คิดพลางหันไปท้าเสมาให้สู้กันด้วยเพลงกระบี่สมาว่าตนไม่ได้พกกระบี่มา ขอใช้ดาบมือเดียวแทน พลันขว้างดาบอีกเล่มไปปักต้นไม้ เหลือเพียงดาบเล่มเดียวตั้งท่าเพลงกระบี่

พุฒจู่โจมเข้าหา ขณะเสมาตั้งรับหมายหยั่งท่าทีก่อน ทำให้พุฒย่ามใจรุกเข้าใส่ แต่สุดท้ายก็พลาดถูกเสมาแทงสวนออก ปลายดาบจ่อคอหอยคู่ต่อสู้ พุฒตกใจทำอะไรไม่ถูก เสมาขอให้พุฒยอมแพ้ จะได้คิดบัญชีกับขัน ขณะหันหลังเดินออก พุฒฉวยฟันกระบี่ใส่ทางด้านหลัง


เรไรร้องเตือนให้ระวัง เสมาเบี่ยงตัวหลบได้หวุดหวิด แต่ปลายกระบี่ก็บาดท้ายทอยได้เลือดพอสมควร

“แผลหนึ่งของกู ต้องแลกสักสี่ห้าแผลของมึง” เสมาโถมเข้าใส่พุฒ

พุฒสู้ไม่ได้ถูกเสมาฟันด้วยสันดาบเข้าที่หน้าและลำตัวจนเลือดซึม ขันเห็นดังนั้นก็ใช้ดาบสองมือ โถมฟันใส่เสมาเพื่อช่วยเพื่อน เสมาไม่ทันตั้งตัวถูกฟันที่แขน แต่เมื่อตั้งหลักได้ก็ตรงไปดึงดาบที่ปักอยู่ที่ต้นไม้ออกมา แล้วลุยใส่ขันแบบไม่ยั้ง แม้ขันจะได้ท่าไม้ตายใหม่มา แต่ก็ถูกเสมาซ้อมสะบักสะบอม สภาพหนักกว่าสมบุญด้วยซ้ำ

ทันใดนั้นเอง ขุนรามเดชะก็คุมทหารแหวกชาวบ้านเข้ามาล้อมเสมาไว้หมายจะเอาผิด เสมาวางดาบเข้ามาคุกเข่าตรงหน้าขุนรามเดชะแต่ไม่ยอมให้จับไปลงโทษเช่นคราวก่อน

“การนี้ถึงจะแสนผิดร้าย ข้าพระเจ้าก็จำเป็นนัก ต้องกราบลาพระคุณไปตามเรื่องอ้ายเสมาขอคืนแล ถอดถอนตำแหน่งต่อหน้าท่าน แต่นี้อ้ายเสมาไม่ใช่ทหารแล้ว ขอกราบลาพระคุณท่านประเดี๋ยวนี้” เสมาก้มลงกราบ

ขุนรามเดชะมองเสมาด้วยสายตาโกรธเคือง แต่เสมาลาออกแล้วจะจับอีกก็เกินไป ส่วนเรไรน้ำตาคลอเบ้า ทั้งสงสารและรู้สึกผิดที่ตนเป็นต้นเหตุทั้งหมด เธอยืนมองเสมาเดินแหวกทหารและชาวบ้านจากไป

ooooooo

ฝ่ายบุญเรือน เมื่อรู้เรื่องเสมาก็อาละวาดเสียงลั่น หวั่นจะมีความผิดไปด้วย ขณะที่จำเรียงก็เอาแต่ฟูมฟายเป็นห่วงขันที่โดนเสมาทำร้าย มั่นทนไม่ไหวตวาดใส่ลูกเมียที่ห่วงคนอื่นมากกว่าลูกและพี่ชาย เพราะไม่รู้ว่าเสมาไปอยู่ที่ไหน

“ฉันเป็นแม่ มีรึจะไม่ห่วงใย แต่หากเราต้องรับโทษเพราะความหุนหันพลันแล่นของมันจริง พี่ตอบฉันทีรึ ว่าเราสามคนจะทำเยี่ยงไร” บุญเรือนทิ้งค้อน มั่นนั่งเครียดเพราะถ้าต้องรับโทษจริงก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน

ในตอนค่ำ ดวงแขมาทำแผลให้ขัน แต่พอได้ยินพี่ชายกล่าวอาฆาตจะเอาผิดเสมาให้ถึงที่สุด ก็รีบปรามว่า ท้าประลองกันเอง จะฟ้องร้องเอาผิดกระไรได้

“ไม่ต้องมาย้อนพี่ คดีเก่าของน้องกับอ้ายเสมา ยังมิได้ชำระกัน อย่านึกว่าพี่จะลืม แต่นี้ต่อไป น้องอย่าข้องเกี่ยวกับอ้ายศัตรูของพี่คนนี้อีก ไม่เช่นนั้น ก็อย่ามานับถือเป็นพี่เป็นน้องกันอีกเลย” ขันเสียงเข้ม

ดวงแขฟังแล้วหนักใจกับเส้นทางรักของตน

ooooooo

เช้าวันใหม่ ขุนรามเดชะ พันอิน และพระ-พิชัยสงครามกำลังคุยกันด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเรื่องเสมาอยู่ที่ชานบ้าน ด้วยพระพิชัยสงครามตำหนิขุน-รามเดชะที่จัดการปัญหาไม่เด็ดขาดทำให้เสมาต้องหนีไป ขุนรามเดชะหน้าเสียนึกโกรธเสมาที่ทำให้ตนโดนว่า ฝ่ายพันอินรีบถาม ว่าทำไมพระยาพิชัยถึงอยากได้ตัวเสมานัก

“อีกไม่นานจะมีศึกใหญ่ แล้วฝีมืออ้ายเสมา ก็ประจักษ์แล้วครั้งศึกบางเกี่ยวหญ้า ฉันจึงเสียดายนัก หากต้องขาดคนดีมีฝีมือเยี่ยงมันไป” พระยาพิชัยถอนใจ

ขุนรามเดชะตกใจร้องถามว่า จะมีศึกอีกหรือเพราะพวกข้าศึกเพิ่งแตกพ่ายกลับไปไม่นาน พระพิชัยพยักหน้ารับ

“มีแน่ๆ ออกขุนหงสานั้นยิ่งใหญ่นัก แตกพ่ายไปเพียงครั้ง หาทำให้กำลังลดน้อยถอยลงไปไม่ มีแต่จะบุกกลับมาด้วยกำลังที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม”

เวลาเดียวกัน ที่ท้องพระโรงหงสาวดี พระเจ้านันทบุเรงทรงตำหนิพระเจ้าเชียงใหม่ที่พ่ายศึกกลับ พระเจ้าเชียงใหม่ขอโอกาสแก้ตัวอีกครั้ง

“มันก็ควรจักเป็นเช่นนั้นอยู่แล้วมิใช่รึ หากเจ้าไม่เฉื่อยช้า ยกทัพไปตามกำหนดให้ทันทัพสมเด็จอา พระยาพสิมรุมตีกระหนาบทั้งสองด้าน มีหรือจะพ่ายแพ้แก่สมเด็จพระนเรศได้” พระเจ้านันทบุเรงเสียงกร้าว

“ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้าขอพลห้าหมื่น ไปตั้งทัพ ณ เมืองกำแพงเพชร เพื่อสะสมเสบียงอาหารเกลือ ถ้าสมเด็จอามังนรธาช่อเสียทีอีก จะได้มีกำลังไว้ทำศึกครั้งต่อไปพระพุทธเจ้าข้า” พระมหาอุปราชาขออาสาด้วย

“ชอบแล้ว สมกับที่เจ้าเป็นบุตรเรามังกะยอชวา” พระเจ้านันทบุเรงยิ้มพอใจแล้วหันไปตรัสกับพระเจ้าเชียงใหม่


“เจ้าจงยกพลเชียงใหม่ หนึ่งแสนไปทำศึก หากพ่ายแพ้ก็ไม่ต้องมาให้เราเห็นหน้า อีกต่อไป”

ooooooo

หลายวันต่อมา เรไร จำเรียง และชบา นางข้าหลวง ช่วยกันแกะสลักขิงดองอยู่ในวัง จำเรียงใจลอยจึงโดนมีดบาดนิ้ว เรไรเข้ามาดูพลางเรียกให้ชบาเอายามาใส่แผล จำเรียงน้ำตาคลอสารภาพกับเรไร ว่าตนคิดถึงพันฤทธิ์ เพราะตั้งแต่ถูกเสมาทำร้ายก็ไม่เคยพบเลย

“ไปเยี่ยมที่เรือน พี่พันฤทธิ์ก็ไม่ยอมให้ขึ้นเรือน คงจะโกรธ เพราะเหตุที่จำเรียงเป็นน้องพี่เสมาเป็นแน่เจ้าค่ะแม่หญิง” จำเรียงปล่อยโฮ

เรไรเห็นใจช่วยปลอบโยนและอาสาจะถามข่าวจากดวงแขให้ จำเรียงสะอึกสะอื้นโทษ ว่าเป็นเพราะเสมาคนเดียวและหากพี่ชายกลับมาตนจะไม่พูดด้วย เรไรตกใจถาม ว่าเสมายังไม่กลับบ้านอีกหรือ แต่พอรู้ตัวก็รีบประชด ว่าคงอยู่ที่บ้านคู่รักชื่อเอื้อยแตง

“เอื้อยแตงไม่ใช่คู่รักของพี่เสมาดอกจ้ะ ถึงคนอื่นจะนินทาอย่างไร ข้อนี้จำเรียงก็หาเชื่อไม่ เพราะเอื้อยแตงเกิดปีเดียวกับจำเรียง เราโตด้วยกันมาแต่เล็กแต่น้อย หากพี่เสมาชอบพอเอื้อยแตงจริง คงผูกข้อไม้ข้อมือไปเสียนานแล้วจ้ะ”

เรไรฟังแล้วอึ้งเกิดคำถามในใจว่า ตนเข้าใจเสมาผิดไปหรือ

เย็นวันนั้นเอง เรไรแสร้งมาหาซื้อของที่ร้านเอื้อยแตง แล้วหลอกถามเรื่องเสมาจึงได้รู้ความจริงว่า คนที่ลวนลามเอื้อยแตงกลางตลาดคือพุฒ

“มีเรื่องเช่นนี้รึ พันจบรณรงค์ถึงกับกล้าลวนลามกลางตลาดเชียวรึ” เรไรตีหน้าขรึมแต่ในใจแอบโล่งอก

“จ้ะ ชาวตลาดละแวกนี้เห็นกันแทบทุกคน อ้ายสมบุญศิษย์พี่เสมาก็เป็นพยานได้จ้ะ” เอื้อยแตงยืนกราน

เรไรไม่รอช้ารีบกลับไปที่เรือน เรียกให้พิณไปตามสมบุญมาสอบถามและได้ความตรงกับเอื้อยแตง แถมสมบุญยังตัดพ้อแทนลูกพี่ว่า ตนได้กราบเรียนให้ขุนรามเดชะทราบความจริงแล้ว แต่ท่านทำเฉยคงเป็นเพราะพันฤทธิ์เป็นบุตรของเกลอเก่า แลมั่งมีกว่าช่างตีเหล็กอย่างเสมา ทำให้น้อยใจถึงกับออกจากทหารไป

“ฉันผิดเอง” เรไรพึมพำ นึกโทษตัวเองที่หูเบา เธอซักสมบุญต่อ เพลานี้เสมาอยู่ไหน

สมบุญมองไปรอบๆแล้วกระซิบบอกเรไรว่า เสมาหลบไปอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในวิเศษไชยชาญ

ooooooo

เมืองวิเศษไชยชาญ เสมาร่ายรำเพลงดาบอย่างพลิ้วไหว แต่ก็แฝงไปด้วยความเข้มแข็งดุดันอยู่ต่อหน้าพระพุทธรูปองค์ใหญ่ จนกระทั่งจบกระบวนท่าก็หันไปเห็นพระครูขุนกับหลวงน้ายืนมองด้วยสายตาชื่นชม

เสมาเข้าไปกราบพระภิกษุทั้งสอง พระครูขุนเอ่ยชมฝีมือดาบของเสมา ว่าไม่ผิดกับตนในวัยฉกรรจ์ หลวงน้าบ่นว่าเสียดายฝีมือของเสมานักเพราะน่าจะได้อยู่ฉลองคุณชาติ มิใช่หลบอยู่ในวัดดั่งคนขลาดเช่นนี้

อ่านละคร ขุนศึก ตอนที่ 3 วันที่ 27 เม.ย. 55
ละคร ขุนศึก บทประพันธ์โดย :ไม้เมืองเดิม/สุมทุม บุญเกื้อ
ละคร ขุนศึก กำกับการแสดงโดย: อดุลย์ บุญบุตร
ละคร ขุนศึก บทโทรทัศน์ละครโดย: เอกลิขิต
ละคร ขุนศึก ผลิตโดย: บริษัท ที.วี.ซีน จำกัด
ละคร ขุนศึก แนวละคร : ดราม่า - อิงประวัติศาสตร์
ละคร ขุนศึก ออกอากาศทุกวัน : จันทร์ -อังคาร เวลา 20.30 ทาง ไทยทีวีสีช่อง 3
ละคร ขุนศึก ออกอากาศออกอากาศตอนแรก จันทร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ 2555
ที่มา ไทยรัฐ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น