วันศุกร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2555

อ่านละครเรื่อง ดอกโศก ตอนที่ 7/2 วันที่ 18 เม.ย. 55

อ่านละครเรื่อง ดอกโศก ตอนที่ 7/2 วันที่ 18 เม.ย. 55
เวลาต่อมาตระกูลผู้เชื่อฟังและอยู่ในโอวาทของเพ็ญพักตร์ พาตัวเองมาอยู่ที่บริเวณหน้าห้องนั้นในคอนโดแห่งหนึ่ง ตระกูลกำลังเคาะประตูอย่างแรงๆ เมียน้อยตระกูลเปิดประตู นุ่งกระโจมอก อาบน้ำเพิ่งเสร็จ เมียน้อยตระกูลคนนี้ ไม่สวยจัด อายุประมาณ 23-24 ปี ท่าทางยอมอ่อนข้อ ไม่แต่งหน้ามาก ดูค่อนข้างเรียบร้อย

“ช้าจริง”
“อาบน้ำอยู่ค่ะ”
“เสร็จรึยัง”
“แล้วค่ะ”
“ดี” ลูบไหล่ไปมา แล้วรุนหลังเข้าห้องทันที
แต่แล้วโทรศัพท์ดังขึ้น ในจังหวะที่ประตูปิดลงนั้น ตระกูลกดรับ ด้วยแววตาและน้ำเสียงลิงโลด
“ฮัลโหล....ปรียากมล คุณหรือครับนั่น”
ไม่นานต่อมา ภายในคลับแห่งนั้น ปรียากมล เต้นระบำเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ ตระกูล สีหน้าระรื่น ชื่นบานมาก วาดลวดลายสุดเหวี่ยง
สองคนลงนั่ง ตระกูลเบียดสนิทแนบส่งแก้วเหล้าให้กับมือปรียากมล
“พอ...ฉันดื่มไม่เกิน 3 แก้ว” ปรียากมลหอบเหนื่อย
“นี่ไงแก้วที่สาม” กระกูลบอก
“สี่” ปรียากมลว่า
“สาม”
“งั้นฉันก็จะดื่มไม่เกินสองแก้ว ดีมั้ย” ปรียากมลเปลี่ยนข้ออ้างใหม่
ตระกูลนั้นเพลินเพริดไปแล้ว หัวเราะอย่างชอบใจ จับจมูกปรียากมลสั่นเบาๆ “คุณน่ารักมาก”
ปรียากมลปัดมือ “อย่าทำอย่างนี้อีก”
“ผมขอโทษ แต่คุณน่ารักจริงๆ น่ารักที่สุดที่ผมเคยพบผู้หญิงมา”
“คุณเพ็ญพักตร์?”
“ไม่พูดถึง”
ปรียากมลหัวเราะกิ๊กชอบอกชอบใจ “โอเค น่ารักก็น่ารัก แต่คุณรักไม่ได้นะ”
“ใครห้าม”
“คนที่คุณไม่ให้พูดถึงไง” ปรียากมลถนัดนักเรื่องยอกย้อน

ในเวลาเดียวกัน เพ็ญตระการ กำลังตั้งข้อสังเกตเรื่องที่ผู้เป็นพ่อออกไปข้างนอกยามค่ำคืน อยู่กับแม่

“ทำไมคุณพ่อต้องทำงานกลางคืนด้วยคุณแม่” อุ๊ถาม สีหน้าฉงน
“นัดลูกค้าคุยธุรกิจนอกเวลาน่ะดีที่สุด”
“ดียังไงคะ”
“เอ้า...คุยไป กินไป ดื่มไป ตกลงกันง่ายน่ะสิ”
“อ๋อ...อ้อ คุณแม่....ตกลงคุณแม่จะทำโทษมันยังไงคะ ตอนเนี้ยมันกำลังจะแย่งเหลยไปจากเราด้วยค่ะ” วกเข้าเรื่องดอกโศกจนได้
“อุ๊ว่าไงล่ะลูก… .ทำโทษมันยังไงดี”

เช้าวันรุ่งขึ้น ดอกโศกแต่งตัวเสร็จแล้วอยู่ในห้อง คุยโทรศัพท์กับอัศนัย เสียงเฉลยเคาะประตู
“มีคนมาค่ะคุณนัย...ดอกโศกจะไปโรงเรียนนะคะ” ดอกโศกกดปิดเครื่อง แล้วซุกไว้ในกองเสื้อผ้าอย่างเคย
เฉลยเปิดประตูเข้ามา ดอกโศกหันไปมอง
“คุณเพ็ญพักตร์ให้คุณไปหา”
“ขอบใจ”
เฉลยจะออกไปอยู่แล้ว หันกลับมา “เขาสั่งให้ทำอะไร ทำได้ก็ควรทำๆ ไป อย่าดื้อกับเขา”
ดอกโศกจ้องเฉลย แปลกใจในคำพูดและท่าที
“ไม่มีใครตายเพราะทำงานหรอก” เฉลยออกไปทันที

เพ็ญพักตร์นั่งคอยกับอุ๊แล้วที่ห้องโถงกลาง สีหน้าเตรียมพร้อมทั้งคู่ เสียงเพ็ญพักตร์กับเพ็ญตระการดังขึ้น เสียงดังพอกัน
“ว่าไงอุ๊ แต่เฆี่ยนตีน่ะไม่ได้แน่นอน”
“ให้มันทำงานหนัก หนักมากๆ แบบคนใช้เลยคุณแม่” อุ๊ปิ๊งไอเดีย
“ไม่ได้หรอกนั่นมันเป็นวิธีโบราณเลยลูก สมัยนี้ไม่มีแล้วแบบซินเดอเรลล่าน่ะ” เพ็ญพักตร์ไม่เห็นงาม
ระหว่างนั้นดอกโศกเดินเข้ามา
“ไม่อย่างนั้นคุณแม่จะลงโทษมันยังไงล่ะคะ” อุ๊ร้อนใจ
“แม่กำลังคิดอยู่”
“โธ่คุณแม่ ตีมันไม่ได้ก็มีอย่างที่อุ๊บอกนี่แหล่ะค่ะ”
ดอกโศกเดินเข้ามา ท่าทางสงบเสงี่ยมเจียมตัว สองคนแม่ลูกจ้องหน้า สายตาเยาะหยัน เหยียดหยามลึกๆ ในสีหน้า ดอกโศกนั่งเก้าอี้ คอยฟัง
“นี่แม่ดอกโศก ก่อนอื่นฉันต้องบอกแกนะว่า ฉันไม่ชอบกิริยาเฉยชาแบบนี้ของแก ฉันเป็นป้านะ เคารพกันมั่ง”
เจอดอกแรก...ดอกโศกลอบถอนใจ
“กิริยาจองหองยายแกไม่อบรมสั่งสอนมั่งรึไง”
ดอกโศกยังนิ่งอยู่
“อุ๊ บอกเขาไปอุ๊จะทำโทษเขายังไง” เพ็ญพักตร์หันไปทางลูกสาว
ดอกโศกทักท้วงทันที “แต่คุณตาให้คุณป้าลงโทษ...”
“แต่ฉันสั่งให้อุ๊ลงโทษแกแทนฉัน” เพ็ญพักตร์สวนตอบทันควัน
“มีปัญหาอะไร....ฮึ....บอกมาสิขัดข้องตรงไหนในเมื่อคุณแม่รับคำสั่งคุณตา ก็เหมือนคำสั่งคุณแม่แล้วเธอจะมีปัญหาอะไร” อุ๊เยาะ
“ไม่มีปัญหาอะไร” ดอกโศกบอกเสียงเบา
“บทลงโทษอย่างแรกเธอไปโรงเรียนเอง ไม่ให้ขึ้นรถไปกับฉันเป็นเวลา 7 วัน”
“ทำไมถึงลงโทษแบบนี้คะคุณป้า” ดอกโศกถามเพ็ญพักตร์
“นี่ พูดกับชั้น คุณแม่ชั้นไม่พูดกับเธอจำไว้ เหตุผลน่ะเหรอ เหตุผลคือ....ท่านรังเกียจเธอ”
ดอกโศกขยับตัว
“เดี๋ยวจะไปไหน” เพ็ญพักตร์เรียกไว้
“ถ้าหนูต้องไปรถเมล์ หนูควรรีบไปค่ะ”
เพ็ญพักตร์พึมพำเบาๆ “จองหอง”
“เดี๋ยว ยังไปไม่ได้ บทลงโทษต่อไปก็คือ....” เสียงอุ๊ร้องบอก

เวลาต่อมาดอกโศกนั่งอยู่บนรถเมล์ สีหน้านิ่งสงบ

นายสมขับรถมาจอดที่หน้าโรงเรียน เพ็ญตระการก้าวลง พร้อมกับโบกมือให้เพื่อนๆ เดินเข้าไปหา
“ดูอะไรกัน”
อุ๊ทอดมองไปตามสายตาเพื่อน เห็นดอกโศกกำลังลงรถเมล์ป้ายหน้าโรงเรียน
“สงสัยอะไร” อุ๊ถามอีก
“ทำไมเค้าไม่มากับเธอฮึอุ๊” เพื่อนถาม
“คุณตาสั่ง” อุ๊ว่า
“จริงเหรอ”
“จริงดิ เพราะมันน่ะโกหกคุณตา โกหกคำโตเลยล่ะ”
ดอกโศกเดินผ่าน สีหน้าเฉยชา อุ๊และกลุ่ม ยืนอยู่
“นี่...วันนี้รีบกลับบ้านนะงานรออยู่” อุ๊หัวเราะชอบใจนัก

เลิกเรียนวันนั้นที่บริเวณหน้าโรงเรียน รถที่นายสมขับมาจอดรออยู่ ประตูเปิดอยู่ เพ็ญตระการ เดินมา แล้วโบกมือบ๋ายบาย กับเพื่อน แต่พอขึ้นรถมาบนรถก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นดอกโศกนั่งอยู่เรียบร้อย
“ลงไป.....ลงไปเดี๋ยวนี้”
ดอกโศกเฉย สีหน้านิ่งสนิท
“ฉันบอกให้ลงไปไม่ได้ยินรึไง”
“ฉันจะนั่งรถคันนี้กลับบ้านเหมือนทุกวัน”
“ไม่ได้”
“ได้” ดอกโศกบอก
“ฉันบอกว่าไม่ได้ จะให้คุณตาสั่ง คุณตาเป็นคนบอกให้ชั้นดูแลลงโทษเธอแทนคุณตา”
“เธอก็ทำแล้วไง”
“งั้นก็ลงไปสิ”
“เมื่อเช้าเธอบอกแค่ไม่ให้ฉันมาโรงเรียนกับเธอ เธอไม่ได้พูดถึงขากลับ ฉันนั่งรถคันนี้กลับบ้านเป็นประจำ ฉันก็นั่งตามปกติ”
อุ๊นิ่งอึ้ง
ดอกโศกมองสีหน้าเป็นคำถาม “มีปัญหาอะไรอีกมั้ย”
“สม” อุ๊กหันไปเอาเรื่องนายสม
“คุณอุ๊ ผมจอดรถเปิดประตูคอยคุณอุ๊ครับ เค้ามาเมื่อไหร่ไม่ทันเห็นเลยครับ”
“ฉันจะให้คุณแม่ไล่แกออก”
“โธ่ คุณอุ๊ เห็นใจหน่อยเถอะครับ”

เมื่อมาถึงบ้านรัตนชาติพัลลภ นายสมจอดรถรีบลงมาเปิดประตูให้ ดอกโศกลงก่อน
“จำได้มั้ยว่าต้องทำงานอะไรมั่ง” อุ๊เอ่ยขึ้น
ดอกโศก มองหน้าอุ๊นิ่งๆ อยู่ชั่วอึดใจ แล้วเดินหนีไป

“อีบ้า” อุ๊ด่าไล่ตามหลัง

ดอกโศกเริ่มทำความสะอาดห้องนอนเพ็ญตระการ กำลังกวาดพื้นอยู่ เจ้าของห้องเดินเข้ามา แล้วเอาขี้ผงโปรยปรายต่อหน้า ก่อนจะทำข้าวของที่วางอยู่บนชั้นบนตู้ให้ล้ม พร้อมกับกระชากที่นอนที่ทำเรียบร้อยแล้วให้ยุ่งเหยิงเข้าไว้

จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ ฉีดน้ำจนเลอะ เอาแป้งโรยห้องน้ำจนเปื้อนเปรอะไปหมด
อุ๊ออกมาสั่ง “ทำห้องน้ำด้วย”
“ไม่”
“ทำ”
“เธอบอกให้ทำความสะอาดห้องเธอเท่านั้น”
“แต่ห้องน้ำเป็นส่วนหนึ่งของห้องชั้น มันสกปรก เธอต้องทำด้วย”
ดอกโศกนิ่งไป
“จะทำหรือไม่ทำ” อุ๊คาดคั้นเอาเรื่อง
ดอกโศกทำงานต่อไม่ยอมตอบ
“ฉันถามว่าจะทำหรือไม่ทำ”
“เธอก็คอยดูสิ”
“ฉันรู้ว่าเธอต้องทำ งานแค่นี้สำหรับเธอมันจิ๊บจ๊อย ง่ายกว่าขายหนังสือพิมพ์ข้างถนนตั้งเยอะ...ใช่มั้ย”
ดอกโศกไม่ตอบใช้ม็อบถูพื้นก้มหน้าก้มตาถูห้องอุ๊ต่อ
“ฉันทำโทษเธอแบบนี้ไม่ชอบเหรอ มันก็เหมาะสมดีแล้วนี่ เธอเกิดมาก็ต้องทำงานแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ หรือว่าจากสลัมมาอยู่ตึกเกิดจะทำไม่เป็นขึ้นมา”
“ฉันกำลังทำอยู่นี่ไง”
“อย่ามาเถียงชั้น...ทำไป ฟังอย่างเดียว”
ดอกโศกมองหน้า
“ไม่ต้องมามองหน้าด้วย ก้มหน้าทำไป”
“เธอนี่ประหลาดจริง” ดอกโศกว่าขึ้นมา น้ำเสียงเรียบ
อุ๊ปราดเข้ามา เงื้อมือหมายจะตี
ดอกโศกมองหน้า “คุณตาไม่ให้ตี”
อุ๊ชะงัก
ประตูห้องเพ็ญตระการเปิดอยู่แล้ว ระหว่างนั้นสุดสวยเดินผ่านมาเห็น เดินเข้ามาดู
“ทำอะไรกันอยู่”
“น้าสวย”
“ทำอะไรน่ะ ทำไมต้องให้มันมาถูห้องเธอยัยอุ๊” สุดสวยปแลกใจ
“คุณตาสั่ง” อุ๊บอก
“จริงเหรอ....สมน้ำหน้า มันทำอะไรผิด” สุดสวยเยาะ
“เขาว่าน้าสวยอีกแล้ว” อุ๊นึกบางอย่างขึ้นมา โดยฉับพลัน
“อะไรนะ...ว่า ว่าไง” สุดสวยของขึ้นแล้ว
ดอกโศกทำหน้าเบื่อหน่าย
“ว่าน้าสวยน่ะไม่เห็นสวยเลยชื่อสุดสวยได้ไง”
ดอกโศกมองอุ๊ ประหลาดใจมาก “อุ๊”
“น้าสวยอย่างนี้น้าสวยยอมเหรอ” อุ๊ใส่ไคล้ต่อ
“เรื่องอะไรจะยอม”
“หนูไม่เคยพูด...”
ขาดคำฝ่ามือของสุดสวยตบทันทีฉาดใหญ่ ใบหน้าดอกโศกสะบัดไปตามแรง น้ำตาไหลรินออกมาทันที ดอกโศกรู้สึกเจ็บมาก แก้มแดงเห็นเป็นรอยนิ้วทันตา
“โกหก” สุดสวยตวาดซ้ำ
“หนูไม่ได้โกหก....ไม่เคยว่าน้าสวยเลยค่ะ” ดอกโศกบอก
“ไม่เชื่อ แกว่าชั้นมาตลอด ขอชั้นตบแกอีกทีเถอะ”
“เอาเลยน้าสวย” อุ๊ยุส่ง
สุดสวยกราดเข้ามา ดอกโศกปัดป้อง สุดสวยแรงมากแบบคนไม่ปกติ
ผลักจนร่างดอกโศกกระเด็น หัวเหนือขมับซ้ายกระแทกโต๊ะ เลือดไหลย้อย
ดอกโศกนั่งงงงัน ก้มหน้ามองเห็น เลือดหยดลงมาที่กางเกง สุดสวยจ้องเขม็งตกใจมากที่เห็นเลือด ร้องวี๊ด..วี๊ด หันหลังกลับวิ่งออกไป
“น้าสวย...”
ดอกโศกยันตัวลุกขึ้น ไม่พูดอะไรเดินไปหยิบทิชชูมาเช็ดเลือด กดๆ ปิดปากแผลไว้ให้เลือดหยุดไหล
อุ๊ยืนขวาง ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน ดอกโศกหยิบม็อบมาถูกต่อ....ถู.....ถู มาถึงที่อุ๊ยืนอยู่
สองคนจ้องหน้ากัน สายตาดอกโศกเย็นเฉียบ อุ๊ ถดตัวถอยไปจากตรงนั้น ก่อนจะออกไปจากห้อง
ดอกโศกถูบ้านต่อ เมื่อถูเสร็จก็จัดข้าวของบนโต๊ะ จังหวะหนึ่งเอามือกดกระดาษปิดแผลให้แน่นขึ้น
จากนั้นดอกโศกจึงหันมาทำเตียง และทำความสะอาดห้องน้ำ

เวลาต่อมาเฉลยใส่ยาพลาง ปากพร่ำบ่นพลาง “นี่มันมากเกินไปแล้ว...มากเกินไปแล้ว” ปิดปลาสเตอร์ให้ที่แผล
ดอกโศก นัยน์ตาแดงช้ำ
เฉลยส่งยา พร้อมกับส่งแก้วน้ำให้ “ทานยาแล้วนอนซะคุณอภิรมย์”

เวลาเดียวกันเพ็ญพักตร์คุยโทรศัพท์มือถือกับตระกูลอยู่ในห้อง “นัดลูกค้าคนเดิมเหรอตระกูล...อย่าดึกเกินไปแล้วกัน กลับดึกมาหลายคืนแล้วนะ” ปิดโทรศัพท์แล้วหันมาหาอุ๊ “ไม่ต้องกลัว น้าสวยทำไม่ใช่อุ๊ คุณตาไม่ว่าอะไรหรอก....ก็ดีเพราะเราจะทำเองไม่ได้ น้าสวยช่วยทำให้”
“คุณพ่อกลับดึกเหรอคะคุณแม่”
อุ๊ถามเรื่องพ่อเพ็ญพักตร์พยักหน้า
“ลูกค้าอะไรทำไมต้องเจรจาธุรกิจดึกๆ ล่ะคะ ผู้หญิงหรือผู้ชายคะคุณแม่”
“ผู้ชาย ทำไมสงสัยอะไร คุณพ่อไม่ทำนอกกรอบหรอก”
น้ำเสียงของเพ็ญพักตร์มั่นใจมาก

เวลาต่อมาภายในห้องรับแขก ที่คอนโดปรียากมล ตระกูลอยู่ที่นั่นกับเจ้าของห้อง
ทั้งคู่ดื่มเหล้ากัน คุยหัวเราะกัน ตระกูลฉุดมือปรียากมล ลุกขึ้นเต้นรำ ท่วงทำนองเพลงช้าๆ ตระกูลเริ่มรุกเข้าไป เห็นจากด้านหลังว่า ได้จูบ 1 ที ก่อนที่ร่างตระกูลจะถูกผลักให้นั่งลง
ปรียากมล เดินห่างไปที่วิทยุ กดปิด หันกลับมา ตระกูลประชิดตัวอยู่ด้านหลัง
“พอแล้ว”
“อะไรนะ” ตระกูลประหลาดใจ
“กลับบ้านคุณได้แล้ว”
“ทำไมล่ะ คุณไม่ได้....” ตระกูลจะพูดต่อ ปรียากมลสวนขึ้นก่อน
“ไม่...คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันยอมให้คุณมาบ้านฉันก็คือมาคุยกัน ดื่มกันนิดหน่อยก็เท่านั้น”
“แต่เมื่อกี้คุณยอมให้ผม...”
“จูบ โธ่เอ๋ย....คุณตระกูลจูบเดียวเท่านั้น” ปรียากมลบอก
“เท่านั้น แต่มันไม่ได้หมายความว่าเราอาจจะ...”
“ไม่อย่างเด็ดขาด คุณมีภรรยาแล้วนะอย่าลืม”
“แต่ผมรักคุณนะปรียากมล” ตระกูลบอกความรู้สึก
“คุณไม่รักภรรยาคุณแล้วเหรอ”
“ไม่....เราอยู่กันเพื่อลูก”
“ตามสูตร” ปรียากมลหัวเราะเบาๆ
“ไม่...ไม่มีสูตรอะไร เราไม่ได้รักกันแล้ว ผมจะมีใครก็ได้” ตระกูลหว่านล้อม
“คุณคิดว่าฉันจะยอมเป็นเมียน้อยคุณหรือจะพูดว่าเป็นเมียเก็บของคุณงั้นเหรอ”
“ไม่ใช่ ปรียากมล ถ้าเรา...รักกันจริงๆ ผมอาจจะหย่า”
“คุณเพ็ญพักตร์เธอยอมก็ดีสิ เธอหวงคุณเหมือนจงอางหวงไข่ แล้วเธอก็เกลียดฉันยังกะอะไรดี”
“ตอนนี้มีเราสองคนเท่านั้นนะครับ” ตระกูลหยอดหวานใส่
ปรียากมลฟังแล้วหัวเราะชอบใจ “แต่คุณกำลังจะทำให้เป็นเราสามคน”
“โธ่ ปรียากมลครับ” ตระกูลเว้าวอน
“กลับบ้านได้แล้วค่ะ....ฉันง่วงแล้ว”
“ก็ไปนอนด้วยกัน” ตระกูลยังคิดว่า...มีหวัง
“นี่....ฉันเริ่มแปลกใจแล้วนะที่คุณพูดไม่รู้เรื่อง”
ตระกูลนิ่งงัน
ปรียากมลหยิบกุญแจรถมาส่งให้ “ขับรถดีๆ คุณเมานิดหน่อยแล้วนะ”
“ผมไม่เมาเหล้า...ผมเมารัก”
“อีกแล้ว.....คิดว่าเก๋เหรอ รู้มั้ยมันเชยมาก โบราณมาก ไป...เร็วๆ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน”
ไม่ไล่ก็เหมือนไล่ ปรียากมลเปิดประตู ตระกูลเดินผ่านออกไป ปรียากมลปิดประตู

อ่านละครเรื่อง ดอกโศก ตอนที่ 7/2 วันที่ 18 เม.ย. 55
ละครเรื่อง ดอกโศก บทประพันธ์ : ศรีทอง ลดาวัลย์
ละครเรื่อง ดอกโศก บทโทรทัศน์ : ศัลยา
ละครเรื่อง ดอกโศก กำกับการแสดง : สันต์ ศรีแก้วหล่อ
ละครเรื่อง ดอกโศก ผลิต : บ. เอ็กแซ็กท์ - ซีเนริโอ
ละครเรื่อง ดอกโศก แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง ดอกโศก ออกอากาศทุกวัน จันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทาง ททบ. 5
ละครเรื่อง ดอกโศก ออกอากาศตอนแรก เริ่มวันจันทร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2555
ที่มา manager.co.th

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น