วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อ่านหนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ ตอนที่ 13 วันที่ 17 มิ.ย. 55


อ่านละครหนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ

อ่านหนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ ตอนที่ 13 วันที่ 17 มิ.ย. 55

“ใช่ นี่แหละชีวิตฉัน ชีวิตของนับดาวว้าวแซ่บ...ปราบ ฉันรู้ว่าคุณรักฉัน แล้วฉันก็รักคุณ แต่ในโลกของฉัน ความรักมันไม่ได้มีความหมายอะไรมากมายนักหรอก ในโลกของฉัน เราแต่งงานกับคนที่เหมาะสมกับเรา
เท่านั้น” “ก็เพราะโลกของคุณมันจอมปลอมน่ะสิ” “ใช่ โลกของฉันมันจอมปลอม แต่คุณไม่รู้เหรอ...ว่าฉันก็จอมปลอม” “ไม่ คุณดูเหมือนจะจอมปลอม แต่คุณไม่ใช่” “ฉันฟุ้งเฟ้อ ฉันตอแหล ฉันสร้างภาพ ฉันชอบสื่อ...คนอย่างฉันเนี่ยนะไม่จอมปลอม” “นับดาว
นั่นมันแค่วิถีชีวิตที่คุณโดนครอบงำมาตั้งแต่เด็กๆ ตัวจริงคุณไม่ใช่คนแบบนั้น” “ตัวจริงฉันเป็นยังไง” ปราบตอบไม่ถูก นับดาวยิ้มหยัน “ตอบไม่ได้ใช่มั้ย” นับดาวรอฟัง ปราบเงียบ “ออกไปเถอะค่ะปราบ” ปราบเดินออกมาที่ประตู หันมาหานับดาว “คุณคือยัยตัวแสบ” ปราบมองนับดาว แต๋เธอหันมองไปทางอื่น “ไปเถอะ เวลาของเรามันหมดลงแล้วล่ะ” ปราบเปิดประตูเดินผ่าน รปภ.ที่นั่งหลับอยู่หน้าห้องออกไป แล้วปิดประตู นับดาวอยู่คนเดียว สักพักน้ำตาก็ไหลออกมา เปื้อนมาสคาร่าเป็นทาง หญิงสาวเช็ดน้ำตาจนมาสคาร่าเปื้อนมือ “คนบ้า มาสคาร่าเละหมดแล้ว อีกอย่างมันทายากนะยะ” oooooooooooooooooooooo ที่ล็อบบี้ที่จัดงานแต่งงานของนับดาว มีน้ำแข็งแกละสลักรูปตัว C กับ N เด่นอยู่กลางห้อง วงควอตเตสบรรเลงอยู่บนเวที แขกเหรื่อมามากมาย ฟู่กำลังคุยอยู่กับอลิสาที่มุมหนึ่ง “งานนี้จัดเป็นงานแต่งคู่รักแห่งปีเลยนะ เขาเม้าท์กันให้แซ่ด” “เหมาะกันอย่างกะกิ่งทองใบหยกเลยใช่มั้ยฟู่” “เปล่าจ้ะ เขาเม้าท์กันว่าป่องก่อนแต่ง ตั้งโต๊ะพนันกันแล้วนะว่าเด็กกี่เดือนแล้ว” อลิสาฉุนกกึก “ทุเรศ” อีกมุมหนึ่ง เอมี่เม้าท์กับโจโจ้ “เอางี้มั้ย เดี๋ยวพอยัยนับดาวคลอดลูกปุ๊ป ฉันจะย้ำกับคนดูอีกทีว่ายัยนี่แต่งงานวันนี้ บวกลบไปเลยว่ากี่เดือนคลอด” เอมี่ส่ายหน้าแย้งขึ้น “ไม่เอาอ่ะ เด็กไม่รู้อิโหน่อิเหน่จะพลอยซวยไปด้วย เล่นเรื่องอื่นเถอะ” โจโจ้แปลกใจ “เรื่องอะไรเหรอ” “ยังนึกไม่ออก ดูๆไปก่อนละกัน” อีกมุมหนึ่งคุณหญิงคุณนายจับกลุ่มคุยกัน “นึกว่างานจะแกรนด์กว่านี้นะเนี่ย งานลูกดิฉันน่ะแขกมากันเกือบหมื่น แทบไม่มีที่ยืนเลยค่ะ” “นั่นสิคะ วงดนตรีก็วงเล็กๆ มีกันแค่ 3-4 คน ของลูกฉันน่ะ มาเต็ม มีหางเครื่องด้วย สนุกม้าก” “ขนมเค้กก็ชิ้นเล็ก งานลูกดิฉันน่ะ ทั้งใหญ่ทั้งสูงเกือบชนเพดาน เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องปีนบันได ไปตัดเลยนะคะ” “น้ำแข็งก็ไม่สวย ของลูกฉันน่ะ จ้างช่างมาสิบคน แกะเป็นมังกรกับหงส์ร่อนอยู่สวรรค์ เมฆปลิว ตลบ น้ำแข็งก้อนใหญ่จนหนาวกันทั้งงานเลยค่ะ” ชัชฎายืนอยู่คนเดียว กำลังคุยมือถืออยู่ “ดีมากเลยค่ะ แปลว่าตอนนี้บริษัทเราก็พ้นจุดวิกฤติมาได้แล้วใช่ไหมคะ...งั้นคุณส่งตัวเลขมาได้เลย เดี๋ยวฉันจะรีบตบแต่งแล้วส่งกลับไปให้...อยู่ในงานแต่งงานค่ะ แต่ไม่เป็นไรหรอก เรื่องนี้สำคัญกว่า...” ใกล้ๆกัน น้อยหน่ายืนอยู่กับตะวันวาด ยืนกินอาหารกันเอร็ดอร่อยในมือถือแก้วน้ำ “งานไฮโซจริงๆนะเนี่ย มีแต่คุณหญิงคุณนาย” ตะวันวาดกวาดตามองเหล่าไฮโซ “ถ้ามีโจรมาปล้นเครื่องเพชรคนที่ใส่ในงาน คงรวยกันเละเลยล่ะ” “ของกินก็อร่อย ไปดูตรงนั้นดีกว่าว่ามีอะไรกินบ้าง” น้อยหน่าเดินพรวดออกไป พอดีกับจังหวะที่ชัชฎาเดินมาพอดี “หน่า ระวัง” น้อยหน่าชนเต็มเปา น้ำหกรดชัชฎา น้อยหน่ารีบขอโทษ “ขอโทษค่ะ” ชัชฎาหน้าตึง กำลังจะด่า แต่พอเห็นหน้าน้อยหน่าแล้วก็ชะงัก “หนูขอโทษจริงๆค่ะ หนูไม่ทันเห็น” น้อยหน่าหน้าเสียเมื่อเห็นชัชฎาโกธร ชัชฎาสงสารรีบเปลี่ยนสีหน้า “ไม่เป็นไรหรอก...เป็นญาติทางเจ้าสาวเหรอคะ” “ไม่ใช่ญาติหรอกค่ะ แต่รู้จักกับพี่ดาวน่ะค่ะ…หนูขอโทษ ทำชุดคุณเปื้อนหมดเลย” “ไม่เป็นไรจ้ะ กินอะไรรึยัง ไป เดี๋ยวฉันพาไปหาของกินอร่อยๆตรงนั้นเอามั้ย” น้อยหน่าหันมามองตะวันวาด “อ้อ เพื่อนมาด้วย ไปกันทั้งสองคนน่ะแหละ” ชัชฎาเดินนำไป น้อยหน่ากับตะวันวาดแอบมองกันด้วยความแปลกใจ ตะวันวาดกระซิบ “ตอนแรกเห็นหน้ายังกะจะกินหัวเธอ ฉันนึกว่าเธอหัวขาดแน่” น้อยหน่ากระซิบตอบ “เหมือนกัน แต่กลายเป็นใจดีไปได้เนอะ...” สองคนเดินตามชัชฎาไป ooooooooooooooooooooooo ที่ทางเข้าหน้างานปราบเดินเข้ามา หาปกป้อง “เป็นไงบ้าง ไหวมั้ยเนี่ย” ปราบส่ายหน้า ปกป้องมองปราบด้วยความเห็นใจ “งั้นกลับไหม อย่าอยู่เลยภาพมันแสลงใจ” “ขออยู่อีกนิดเถอะครับ ให้แน่ใจว่าเขาไม่เปลี่ยนใจแน่ๆ” ปกป้องพยักหน้า เข้าใจ ขณะเดียวกัน นับดาวนั่งมองหน้าตัวเองในกระจกเงาอยู่ในห้อง หญิงสาวรู้สึกสับสนไปหมด บนเวทีมีการฉายสไลด์ตอนเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นเด็ก เป็นรูปนับดาวตอนเด็ก แขกในงานส่งเสียงเอ็นดู เอมี่ทำหน้าเบะ ปราบนึกถึงความหลังของเขา นับดาวยังคงนั่งอยู่หน้ากระจกเงา น้ำตารื้นออกมา สไลด์จบลง แขกในงานปรบมือ ชัชฎาอยู่กับน้อยหน่ากับตะวันวาด ปรบมือด้วย ไฟในห้องหรี่ลง สปอร์ตไลท์ฉายไปที่ประตู ทันใดนั้นประตูห้องเปิดออก เด็กน้อยชายหญิง 3 - 4 คนเดินเข้ามา โปรยดอกไม้เป็นทาง ถัดไปเป็นชนะชัยยืนอยู่นอกประตูอยู่คนเดียว มองหานับดาว แต่นับดาวไม่รู้อยู่ไหน ปราบกับปกป้องอยู่อีกมุมหนึ่ง ปกป้องมองอย่างแปลกใจ “อ้าว คุณนับดาวล่ะหายไปไหน หรือว่า...” ปราบมองไป ทำท่าเหมือนจะยิ้ม แต่แล้วก็เจื่อนลงเมื่อนับดาวเดินเข้ามาหยุดยืนข้างชนะชัย ทั้งสองควงกันเดินเข้ามาในห้อง อลิสายิ้มปลาบปลื้มทุกอย่างลงตัวเสียที ฟู่ซับน้ำตาให้ ปกป้องมองหลานชายอย่างห่วงๆ ปราบเดินออกไป ปกป้องสะกิดน้อยหน่ากับตะวันวาดให้ออกมาจากงาน ขณะที่ชัชฎาเดินไปอยู่ที่ข้างๆเวที ooooooooooooooooooooooo ปราบขึ้นมาบนรถ ปกป้องตามมาด้วย น้อยหน่ากับตะวันวาดขึ้นด้านหลัง ปกป้องตบบ่าหลานชายปลอบใจ ปราบไม่พูดอะไร ขับรถออกไป นับดาวกับชนะชัยกำลังเดินตรงไปที่เวที แต่นับดาวยิ่งเดินยิ่งช้าลงเรื่อยๆ แล้วก็หยุดนิ่งห่างจากเวทีไม่กี่ก้าว นับดาวมองขึ้นไปบนเวที มองไปที่ชื่อเธอ ภาพในอดีตของเธอกับปราบที่นั่งคุยกันในไร่ปรีดาแว่บเข้ามาในห้วงคำนึง “ขอบคุณนะที่เอาไดอารี่ให้อ่าน ฉันเพิ่งรู้ว่าทำไมฉันชื่อนับดาว” “ทำไมล่ะครับ” “พอแม่ฉันท้อง แม่ชอบออกมานั่งเล่นดูดาว พ่อก็ชวนลูกในท้องคุย แต่พ่อคงชวนคุยไม่เก่ง พอหมดมุขก็จะสอนฉันนับดาวบนท้องฟ้า...นับไปเรื่อยๆ...แม่ฉันเลยตั้งชื่อฉันว่านับดาว” “ท้องฟ้าที่กรุงเทพน่ะไม่มีดาวให้นับเท่าไหร่หรอก คนกรุงเทพเลยไม่ตั้งชื่อลูกว่านับดาว ผมว่าพ่อ แม่คุณท่านตั้งชื่อคุณได้เพราะและมีความหมายมาก” “นั่นสินะ ท้องฟ้าตอนนั้นกับตอนนี้คงเหมือนกัน พวกท่านคงนั่งดูดาวแบบเดียวกับเราตอนนี้ละมั้ง” ทั้งสองนั่งมองดาวกันเงียบๆ ปราบแอบละสายตามามองนับดาว ooooooooooooooooooooo ชนะชัยแปลกใจที่เห็นนับดาวยืนนิ่ง เขาจึงเรียกเบาๆ “คุณดาวครับ...” นับดาวมองชนะชัย “จ๊อบ...ฉันขอโทษนะคะ” ชนะชัยงง นับดาวหันหลังให้ เดินออกจากงาน ทุกคนตะลึง อลิสายืนอยู่ข้างฟู่ จิบพันช์อยู่ อ้าปากค้าง ส่วนฟู่ดูจะชอบใจ “ต๊าย รันอะเวย์บรายด์ เลิศ” ชนะชัยมองตามนับดาวไป ทำอะไรไม่ถูก พวกแขกเหรื่อเริ่มพึมพำกันแซ่ด สื่อมวลชนรีบมาถ่ายรูปชนะชัย เสร็จแล้วรีบวิ่งกรูกันตามนับดาวออกไปนอกห้อง “คุณนับดาวไปทางไหนแล้วเนี่ย...หาไม่เจอแล้ว...กระจายกันหาเร็ว...” ชัชฎามองมาที่ชนะชัยอย่างกังวล เอมี่กับโจโจ้ก็อึ้งไป “เกิดอะไรขึ้นเนี่ย” เอมี่เบ้หน้าหมั่นไส้ “มันอยากขโมยซีนตัวเองล่ะสิ เชอะ” oooooooooooooooooooooo อลิสาเปิดประตูห้องพรวดเข้ามาในห้องพัก “นับดาว” เงียบ...ในห้องไม่มีใครอยู่ “นับดาว” อลิสาเปิดดูในห้องน้ำไม่เจอใคร ก็รีบกดมือถือโทรหาแต่นับดาวปิดเครื่องไปแล้ว’ แขกเหรื่อเริ่มทยอยกลับ มีบ้างยังจับกลุ่มนินทากันอยู่ ชนะชัยนั่งอึ้งยังทำอะไรไม่ถูก ชัชฎาอยู่ข้างๆ กดมือถือตลอด “ปิดเครื่องหนีเลยเหรอ เล่นกันอย่างนี้เลยใช่มั้ย” ชนะชัยฝืนยิ้ม ชัชฎาโกรธจัด “ทำอย่างงี้หมายความว่าไง...หรือว่า เขารู้แล้วว่าเรากำลังจะล้มละลาย” “ผมว่าคงไม่ใช่หรอกครับ” ชัชฎาดูเบาใจขึ้นนิดหนึ่ง “แต่ยังไงก็เถอะ ทำแบบนี้มันฉีกหน้ากันชัดๆ ฉันไม่ยอม...แกลองนึกดูซิ ว่าเขาจะไปหนีไปอยู่ที่ไหนได้บ้าง” ชนะชัยเงียบไป oooooooooooooooooooooooo นับดาวในชุดเจ้าสาว จอดรถอยู่หน้าทางเข้าไร่ปรีดา เธอทำท่าจะขับเข้าไป แต่ก็เปลี่ยนใจ เบรครถ ลังเลๆแบบนี้อยู่สักพักก็ตัดใจดับเครื่อง หญิงสาวถอนใจอย่างเศร้าสร้อย มองเข้าไปในไร่ ทันใดนั้นก็มีรถวิ่งออกมา เป็นรถกระบะเก่าๆ แสงไฟจากรถส่องเข้ามาที่รถเธอ รถกระบะคันนั้นจอด คนที่ลงมาเป็นลุงเย็นนั่นเอง ลุงเย็นเข้ามาที่รถ เคาะกระจกรถ นับดาวกดเลื่อนหน้าต่างลง “คุณนับดาว...เป็นอะไรรึเปล่า ทำไมมาจอดรถตรงนี้” “ดาว...เอ่อ...ดาวบอกไม่ถูกค่ะ แต่ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ดาวปกติดีค่ะ” ลุงเย็นมองหญิงสาวอย่างสงสัย “ปกติดี ใส่ชุดเจ้าสาวขับรถมาจอดริมทางตอนดึกๆอย่างนี้เนี่ยนะ” นับดาวถอนใจ “ก็...มีผิดปกติอยู่เหมือนกันน่ะค่ะ” “ลุงมาธุระที่ปราบกำลังจะกลับบ้าน ไปนั่งพักสติอารมณ์ที่บ้านลุงไหม” นับดาวลังเลนิดนึง “ก็ดีเหมือนกันค่ะ ดาวกำลังไม่อยากเจอหน้าใคร” ooooooooooooooooooooooooooo ลุงเย็นพานับดาวเข้ามาในบ้าน “ตามสบายนะ” “ขอบคุณค่ะ...แล้วป้าล่ะคะ” “หลับไปแล้วล่ะ” นับดาวเดินไปรอบๆ เลือกที่นั่งที่มองเห็นดาวบนฟ้า “ที่นั่งเยอะแยะ ทำไมเลือกนั่งตรงนั่น” “ก็...ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เห็นมันเห็นวิวสวยดี ทำไมเหรอคะ” “เมื่อก่อนนายนิ่งก็ชอบนั่งตรงนั้น” นับดาวอึ้งไป “เมื่อก่อนพ่อมาที่นี่บ่อยเหรอคะ” ลุงเย็นพยักหน้า “เดี๋ยวลุงเอาชาสมุนไพรอุ่นมาให้จิบ จะได้สบายๆหายเครียด” นับดาวนั่งมองวิว มองดาวบนฟ้า สักครู่ก็ได้ยินเสียงกุกกัก “แปลกนะคะ ท้องฟ้าที่นี่ก็เห็นดาวสวยดี แต่ไม่สวยเท่าที่ไร่ปรีดา...ดาวอยากกลับไปดูดาวที่นั่น...แต่ ดาวไม่กล้าเข้าไป” ooooooooooooooooooooooooooo ปราบเดินเข้ามาจากด้านหลัง วางถาดใส่กาดินเผากับถ้วยสองใบ “ไร่ปรีดายินดีต้อนรับคุณเสมอ” นับดาวหันขวับมา เจอปราบ “ปราบ คุณมาได้ไงเนี่ย” “พอผมกลับมาจากงานแต่งคุณ ลุงเย็นก็มาตามให้มาดูวัวขาหัก ผมอยู่ดูวัวแล้วให้ลุงเย็นกลับไปเอายาที่บ้านมาให้ผม” ปราบรินชาใส่ถ้วยให้นับดาวแล้วก็ตัวเอง “แล้ววัวเป็นยังไงบ้าง” “เรียบร้อยแล้ว ว่าแต่คุณเถอะ เวลานี้ต้องเข้าเรือนหอแล้วไม่ใช่เหรอมาทำอะไรที่นี่” “ฉันหนีออกมาจากงานกลางคัน” “ทำไม ประธานในพิธีพูดอวยพรน่าเบื่อขนาดนั้นเชียว” นับดาวอดหัวเราะไม่ได้ “เปล่า...ความจริงแล้วฉันไม่ได้รักชนะชัยเขาหรอก แค่คิดว่าเขาเหมาะสมกับฉัน ฉันเคยนึกนะว่าความรักไม่สำคัญเท่ากับการได้แต่งงานกับคนที่เหมาะสมกับเรา แต่พอถึงเวลาเข้าจริงๆ...ฉันกลับทำไม่ได้” “แต่ก็มีบางคนที่เขาทำได้...ผมดีใจที่คุณไม่ใช่คนแบบนั้น” “ฉันถึงต้องหนีมาที่นี่ไง เพราะฉันไม่กล้าสู้หน้าน้าอะซ่า ไม่กล้าสู้หน้าชนะชัยแล้วก็แม่ของเขา...ฉันมันขี้ขลาด” “เปล่าเลย คุณเข้มแข็งต่างหาก ถึงทำแบบนี้ได้” นับดาวกับปราบมองตากัน ขยับเข้าใกล้กัน “ปราบ...คุณยังรักฉันอยู่รึเปล่า” “ผมยังยืนยันคำเดิม...คุณล่ะ ตอบผมได้รึยัง ว่าคุณรักผมไหม” นับดาวเงียบไป ทันใดนั้นมือถือปราบดังขึ้น เขาไม่สนใจ มองหน้านับดาว “รับสายก่อนสิ” “ตอบผมมาก่อน” “นี่ มันอาจเป็นเรื่องสำคัญฉุกเฉินร้ายแรงก็ได้นะ” ปราบจุ๊ปาก หยิบมือถือออกมา ดูเบอร์คนโทรเข้า แล้วกดรับสาย “ว่าไงครับอา” เสียงปกป้องดังมาโดยมีเสียงเอ็ดอึงเซ็งแซ่แทรกเข้ามาด้วย “เฮ้ย รีบกลับมาที่ไร่ด่วนเลย ป่วนมาก... อาไม่รู้จะทำไงแล้ว ไปไม่เป็นเลย อาไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน...เฮ้ย บอกว่าอย่าปีน ลงไป...” ปกป้องวางสายไป oooooooooooooooooooooooo ปราบขับรถของเขามา นับดาวนั่งมาด้วย พอเข้าใกล้ไร่ ปราบเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าก็อุทาน “เรื่องใหญ่แล้วไง” “มีอะไรเหรอ...” นับดาวจะดู ปราบรีบกดหัวนับดาวลงไป ตวัดแจ็คเก็ตที่คลุมเบาะของเขาอยู่คลุมทับตัวนับดาว “จะทำอะไรฉันนะ” “ถ้าไม่อยากเดือดร้อนก็เงียบไว้” ปราบขับรถเข้ามาเห็นหน้าไร่ของเขาเต็มไปด้วยกองทัพสื่อมวลชน ปกป้องถือโทรโข่งยันอยู่หน้าประตูทางเข้าไร่ “คุณนับดาวไม่อยู่ที่นี่ เชื่อผมเถอะ พวกคุณกลับไปซะเถอะ” “ถ้าไม่อยู่แล้วทำไมเข้าไปดูไม่ได้ ถ้าบริสุทธิ์ใจต้องให้เราเข้าไปดูดิ” ปกป้องตะโกนสวนไป “แล้วถ้าผมสงสัยว่านับดาวอยู่บ้านแม่คุณ คุณยอมให้คนเข้าไปค้นมั้ยล่ะ” สื่อมวลชนไม่พอใจ “คุณกล้าด่าแม่สื่อมวลชนเหรอ พรุ่งนี้ผมประจานคุณแน่” “อยากทำอะไรก็ตามใจ ผมไม่ให้เข้า” ปราบขับรถมา บีบแตรปิ๊นๆ เขาลดกระจกลง “ใครบอกคุณว่านับดาวอยู่ที่นี่” “คุณเอมี่บอก เขาบอกคุณนับดาวมีกิ๊กชื่อปราบ เป็นเจ้าของไร่ที่นี่” ปราบยิ้มแป้น นับดาวแอบหยิกขา ปราบสะดุ้ง สื่อมวลชนคนหนึ่งเข้ามาถาม “คุณเป็นใคร” “ผมนี่แหละปราบ” “แล้วคุณเป็นกิ๊กนับดาวเขาจริงรึเปล่า” ปราบยังไม่ทันตอบ นับดาวก็หยิกขาเขาอีก “เปล่าครับ...แค่คนรู้จักน่ะ แล้วผมก็ยืนยันพวกคุณได้เลยว่าตอนนี้คุณนับดาวไม่ได้อยู่ข้างในบ้านผมหรอก” “จริงเหรอ” “ถ้าไม่จริงขอให้ไฟไหม้บ้าน ขอให้เป็นโรคร้าย ขอให้ผมไม่ตายดี พอใจมั้ย” “แล้วเขาอยู่ไหน” “อาจจะอยู่บ้านคุณเอมี่ก็ได้...พวกเขาเป็นเพื่อนกัน คุณอาจจะหลงกลคุณเอมี่แล้วก็ได้นะ” สื่อมวลชนอึ้งไป “เออว่ะ เป็นไปได้นะเว้ย...ไปที่บ้านเอมี่กันเหอะ” พวกสื่อรีบแยกย้ายกันออกไปทันที ปกป้องถอนหายใจเฮือก ปราบขับรถเข้าไป นับดาวค่อยๆโผล่ออกมา “คุณนี่โกหกเก่งเหมือนกันนี่” “ผมไม่ได้โกหกนะ ผมพูดว่า อาจจะต่างหาก…” “คุณว่าฉันแสบแต่คุณนี่แสบกว่า นายตัวแสบ” ปราบหัวเราะชอบใจ ปราบ ปกป้อง นับดาว เดินเข้าบ้านมาด้วยกัน นับดาวหน้าสลด “ขอโทษนะ ที่ทำให้วุ่นวาย” ปกป้องถอนใจ “จู่ๆก็แห่กันมา ไม่รู้อะไรของมัน ดีนะที่มีคนเตือนไว้ก่อน” “ใครเตือนเหรอครับ” “นั่นไง” นับดาวที่เดินมาด้วยอึ้ง เมื่อเจอชนะชัยนั่งรออยู่ก่อนแล้ว “คุณมาที่นี่จริงๆด้วยดาว” “ค่ะ” น้อยหน่าเดินออกมาจากห้อง “พ่อกลับมาแล้วเหรอคะ...อ้าว พี่ดาว คุณชนะชัย...” ปราบหันไปบอกลูก “น้อยหน่า เข้าไปในห้องก่อน” “ไม่เป็นไรค่ะ...” นับดาหันไปหาชนะชัย “เราออกไปคุยกันข้างนอกเถอะค่ะ” นับดาวออกมาคุยกับชนะชัยนอกบ้าน “ดาวว่าจะไปหาคุณจ๊อบหลังจากนี้...ดาวขอโทษจริงๆค่ะ” “ผมอยากรู้เหตุผล” นับดาวชะงัก “ดาว...” “ไม่ได้รักผม” “ค่ะ...ดาวรู้สึกดีกับคุณ ดีมาก แต่...มันไม่ใช่ความรัก” “แล้วทำไมคุณจะแต่งงานกับผม” “ถึงวันนี้ ดาวคงต้องบอกความจริง...ดาวแต่งงานกับคุณเพราะเรื่องเงินค่ะ” ชนะชัยไม่เข้าใจ “ดาวมีแต่เปลือกค่ะ ความจริงดาวไม่มีเงินแล้ว” “แล้วที่คุณซื้อหุ้นบริษัทแม่ผมล่ะ” “ดาวขายที่ได้ ที่ที่เป็นมรดกจากพ่อ...แต่มีชื่อคุณปราบติดอยู่ด้วย ที่ดาวต้องมาที่นี่ก็เพื่อมาหาทางเจรจาให้คุณปราบยอมขายที่ให้ดาว เพื่อเอาเงินไปซื้อหุ้นให้แม่คุณเชื่อถือในตัวดาว” ชนะชัยอึ้งไปครู่ใหญ่ แล้วหัวเราะออกมา นับดาวแปลกใจ “มีอะไรตลกเหรอคะ” “ตลกสิครับ...ผมจะบอกความจริงให้ว่า...” ชนะชัยยังไม่ทันพูดก็เห็นปรายฟ้าเดินออกมาพอดี ปรายฟ้ายังไม่ทันเห็นเขา “อ้าว คุณดาว มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ...” ปรายฟ้าหันมาเห็นชนะชัยก็ตกใจ รีบเดินหนีไป ชนะชัยช็อคไปครู่หนึ่ง รีบตามไปทันที นับดาวมองตามไป รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติแน่ๆ ปรายฟ้าเดินก้มหน้าจ้ำอ้าวๆ ชนะชัยจ้ำตามมา พยายามมอง ด้วยความไม่แน่ใจ แต่ปรายฟ้าไม่หยุดเดินไปเรื่อย ชนะชัยตัดสินใจวิ่งมาดักหน้า “ขอโทษนะครับ” ปรายฟ้าหลบหน้า จะเดินไปทางอื่น ชนะชัยอ้อมมาดัก ปรายฟ้าก้มหน้างุด พูดจาอ้อมแอ้ม “หลีกไปค่ะ” ชนะชัยยิ่งสงสัย จับไหล่ปรายฟ้าหันมาทางเขา “คุณ...ปรายฟ้า” “คุณจำคนผิดแล้ว ปล่อยฉัน” ปรายฟ้าสะบัด ชนะชัยไม่ปล่อย “ปรายฟ้า” ปรายฟ้าหยุดนิ่ง “ใช่ ฉันเอง” “ผมตามหาคุณมาตลอด คุณมาอยู่ที่นี่เองเหรอ” “ตามหาฉันทำไมมีความจำเป็นอะไรเหรอค่ะ ฉันไม่ได้อยากเจอคุณเลย คุณกลับไปซะ เถอะ” “ไม่มีทาง คุณต้องเล่าให้ผมฟังก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นตอนผมไปเมืองนอก แม่บอกผมว่าลูก ในท้องไม่ใช่ของผม คุณมาขอเงินจากท่านแล้วก็หนีมา” “ก็เป็นไปอย่างที่แม่คุณว่านั่นแหละ” “ผมไม่เชื่อแม่ผม...ผมพยายามหาคุณแทบพลิกแผ่นดิน แต่ก็ไม่เจอ” “หน้าอย่างคุณเป็นไปได้เหรอที่จะไม่เชื่อแม่คุณน่ะ” “เรื่องอื่นอาจจะใช่ แต่ไม่ใช่เรื่องของคุณ...เล่าให้ผมฟังหน่อยเถอะปรายฟ้าว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” ปรายฟ้ามองชนะชัยอย่างเจ็บปวด “จะรื้อฟื้นอดีตขึ้นมาเพื่ออะไรคะ” “เพราะผมยังรักคุณไงล่ะ” ปรายฟ้ากลั้นน้ำตาไม่ไหว ร้องไห้ออกมา “ทันทีที่คุณบินไปเมืองนอกวันนั้น แม่คุณก็มาหาฉันที่ห้อง...” oooooooooooooooooooooooo ในอดีต...เสียงเคาะประตูห้องดังชึ้น ปรายฟ้ามาเปิดประตู พบว่าชัชฎามากับชายสองคน ดูเหมือนพวกคนมีสีรับจ๊อบ ปรายฟ้าดูตกใจ พยายามตั้งสติ “สวัสดีค่ะ” ชัชฎาไม่ไหว้ตอบ เปิดกระเป๋าหยิบธนบัตรปึกหนึ่งที่เตรียมไว้มาโยนใส่หน้าปรายฟ้า “เอาเงินนี่ไป แล้วอย่ามายุ่งกับลูกชายฉันอีก” “คุณแม่คะ นี่อะไรกันคะเนี่ย” “อย่ามาเรียกว่าฉันว่าแม่ ฉันจะพูดอีกครั้งเดียว เอาเงินนี่ไป นี่คือค่าจ้างให้เธอเลิกยุ่งกับลูกชายฉันตลอดไป ฉันไม่ได้ขอร้องนะ แต่เป็นคำสั่ง ถ้าเธอไม่ไปล่ะก็...” คนมีสีสองคนเข้ามาหา ปรายฟ้าจะหนี แต่ทั้งสองจับเธอไว้ คนหนึ่งล็อค อีกคนชักมีดพร้อมเชือด ปรายฟ้ากลัวจนร้องไห้ ชัชฎานั่งเย็นชาอยู่ตรงหน้าปรายฟ้าที่โดนสองคนล็อคไว้เป็นการบังครับ มีเครื่องบันทึกเอ็มพีสามวางอยู่ “ฉันรู้ว่าเด็กในท้องไม่ใช่หลานฉัน ถ้าเธอยอมรับซะตั้งแต่ตอนนี้ ฉันจะให้เงินเธอก้อนหนึ่งเก็บไว้เลี้ยงลูกของเธอ แต่ถ้าดื้อด้านไม่ยอมล่ะก็ เธอติดคุกแน่” ปรายฟ้าพูดไปน้ำตาไหลเจ็บปวดที่ต้องทำตาม “คุณจะเอาอะไรมาตรวจสอบฉัน” “หมอสูติเขาคำนวณวันปฏิสนธิได้ ผิดพลาดไม่เกิน 7 วัน ถ้าช่วงนั้นนายจ๊อบไม่ได้อยู่กับเธอ...” “ตกลง ฉันยอม...เด็กนั่นไม่ใช่ลูกของคุณชนะชัยหรอกค่ะ” “ขอบใจที่พูดความจริง ฉันจะให้เธอ 1 ล้านบาท แล้วเธอก็ไปซะ” “10 ล้านค่ะ” “โลภมากจริงนะ ก็ได้เงินแค่นี้ถ้าจะทำให้ฉันไม่ต้องเจอสิบแปดมงกุฎแบบเธออีก พรุ่งนี้มาหาฉัน” ชัชฎาปิดเอ็มพีสามยิ้มพอใจ “ทีนี้เธอก็หายไปจากชีวิตลูกชายฉันได้แล้ว อ้อ แล้วถ้าเธอยังตอแยกับเขาอยู่เธอก็หายไปจากโลกนี้เลยพร้อมกับลูกของเธอ ฉันน่ะเป็นคนพูดจริงทำจริง หวังว่าเธอคงจะเข้าใจที่ฉันพูดนะ” คนมีสีปล่อยปรายฟ้าจนหน้าคว่ำ ชัชฎาเดินออกไปพร้อมคนมีสี ปรายฟ้าร้องไห้อย่างหนัก *******อ่านต่อเวลา 12.30 น.******** อ่านหนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ ตอนที่ 13 วันที่ 17 มิ.ย. 55 หนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ บทประพันธ์โดย พลอยชื่ร-ฝนพรำ หนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ บทโทรทัศน์ โดย คุณสมภพ ผูกพันน้อย หนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ กำกับการแสดงโดย คุณสมจริง ศรีสุภาพ หนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ ผลิตโดย บริษัท กู๊ด ฟิลลิ่ง จำกัด หนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ แนวละคร โรแมนติกคอมเมดี้เบาสมอง หนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ ออกอากาศทุกวันศุกร์-เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.30 น. หนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3 เริ่มตอนแรก เสาร์ที่ 26 พ.ค. 2555 นำแสดงโดย: ปีเตอร์ , ชมพู่ อารยา, ทูน, แหม่ม จินตหรา, บิ๊ก ภูชิสะ, ไอซ์ อภิษฎา ที่มา ไทยรัฐ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น