วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อ่านละคร ปิ่นอนงค์ ตอนที่ 3 วันที่ 17 มิ.ย. 55


อ่านละคร ปิ่นอนงค์
อ่านละคร ปิ่นอนงค์ ตอนที่ 3 วันที่ 17 มิ.ย. 55
“อืม ไม่ได้แล้ว คุณน้าอุตส่าห์เลี้ยงให้ชั้นทั้งที ชั้นจะงอมืองอเท้าได้ยังไง ต้องแสดงฝีมือมั่ง ขอกุญแจรถหน่อย”
ปิ่นอนงค์ยื่นกุญแจให้ ใหญ่เดินผิวปากขึ้นรถขับไป ปิ่นอนงค์งวยงง ไม่รู้จะมาไม้ไหน มุกไหน? เมื่อผีพนันอย่างคุณนายครองสุขไม่ได้เข้าบ่อน ก็เลยแก้อาการคันโดยกดแทงไพ่ผ่านโน้ตบุ๊คในห้องทำงานแทน ลุ้นตาเหลือก และดีใจที่แทงถูก ครองสุขจดยอดเงิน กดดูสถิติการแทงหน้าบาน ระหว่างนั้นมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เป็นอุ่นเรือนเปิดเดินเข้ามาสีหน้าซาบ
ซึ้งและตื้นตัน ครองสุขจดจ้องจอโน้ตบุ๊คอยู่ นึกว่าเป็นปิ่นอนงค์จึงด่าออกไป “หายหัวไปซะนาน ไปจ่ายกับข้าวถึงตลาด อ.ต.ก.ที่กรุงเทพฯ เหรอนังปิ่น” อุ่นเรือนรี่เข้าไปคุกเข่า กราบที่พื้นแทบเท้าครองสุข ก่อนจะเงยหน้าน้ำตานองขึ้นตื้นตันหนัก ครองสุขอึ้งกะพริบตามอง “อ้าว อุ่นเรือน หายดีแล้วเหรอ” อุ่นเรือนยังพนมมือมองครองสุขด้วยความตื้นตัน “อุ่นกราบขอบพระคุณ คุณนายจริงๆ อุตส่าห์ดูแลจ่ายค่าผ่าตัด ค่าโรงพยาบาลให้อุ่น ชาตินี้ อุ่นจะไม่ลืมพระคุณเลยค่ะ” ครองสุขงงๆ “ว่าไงนะ ค่าโรงพยาบาลอะไร” “ก็ค่าผ่าตัดไงคะ ถ้าอุ่นรู้ว่ามันจะแพงเป็นแสนๆ แบบนี้ อุ่นยอมตายเลยดีกว่า ที่จะให้คุณนายต้องมาเสียเงินเสียทองเพราะอุ่น ครองสุข ครางเบาๆ “หรือว่าเป็นธีระ....” “นี่พออุ่นรู้ว่า คุณใหญ่กลับมา อุ่นก็รีบออกจากโรงพยาบาลเลย เรื่องมันเป็นยังไงกันคะ” “เป็นยังไง มันก็คงอดอยากจนทนไม่ไหว หรือไม่ก็หนีคดีอะไรมาซักอย่าง ถ้าแกเห็นมันคงเป็นลม ไม่รู้ว่ามันจะฆ่าชั้นวันไหน” อุ่นเรือนหน้าเครียด สองมือจับขาครองสุข “ไม่ต้องกลัวค่ะ อุ่นไม่มีวันยอมให้คุณใหญ่มาทำอะไรคุณนายได้หรอก ข้ามศพอุ่นไปก่อนเถอะ” “ได้ยินแบบนี้ฉันก็ใจชื้น อย่างน้อยก็มีแกที่อยู่ข้างฉัน นังอุ่น” น้ำเสียงอุ่นเรือนมุ่งมั่นนัก ครองสุขยิ้มพอใจ ถวิลใส่เสื้อติดกระดุมออกมาจากห้อง ชะงักมองไปเห็นจอมนั่งถอดเสื้อที่หน้าบ้าน เหม่อลอยคิดถึงปิ่นอนงค์อยู่ “อ้าวไอ้จอม ไปแต่งเนื้อแต่งตัวสิวะ จะได้ไปงานเลี้ยงรับคุณใหญ่พร้อมกัน” “ไม่เห็นอยากจะไปเลย ไร่จะเจ๊งอยู่แล้ว ยังจะมีแก่ใจมาเลี้ยงฉลองกันอีก ไม่เข้าท่า” จอมไม่สน “ขวางซะแล้ว ไอ้นี่ นี่มันงานสำคัญนะโว้ย คุณใหญ่กลับมาอย่างนี้ เราควรจะดีใจถึงจะถูก” ถวิลว่า “ดีใจทำไม คุณใหญ่กลับมาก็ไม่เห็นทำอะไรให้ที่นี่ดีขึ้นตรงไหนซักอย่าง “ก็ท่านเพิ่งกลับมา จะให้ทำอะไร” ถวิลแก้ต่าง ปรามลูกชายอยู่ในที “ทำอะไรก็ได้ ที่มันดูน่าเคารพนับถือมากกว่านี้” จอมเดินไปถวิลเรียก “ไอ้จอมๆ ไอ้นี่....” จอมไม่ยอมเหลียวหลัง เย็นนั้น ที่บริเวณศาลาใหญ่กลางไร่หรือรีสอร์ต คนงานชายหญิง รวมตัวกันแทบพร้อมหน้า 30 กว่าคน กลางลานขาวัวชิ้นใหญ่ และขาหมูถูกย่างหมุนเหนือเตา ควันโขมงคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ คนงานนั่งจับกลุ่ม รอเวลา ที่โต๊ะใหญ่กลางลานครองสุขนั่งเคียงทัศนีย์ อุ่นเรือนกับปิ่นอนงค์ เริ่มลำเลียงอาหารมาจัดวางบนโต๊ะ อีกด้านเป็นธีระ ก้าน เจิด และถวิล อาหารพร้อมแล้ว คนงานหญิง 2 คน คอยดูแลที่โต๊ะ ครองสุขพยักหน้า ทุกคนเริ่มกินกันไป ชะเง้อชะแง้มองหาใหญ่ไป ครองสุขดูนาฬิกาข้อมือหงุดหงิดชะมัด สบตากับธีระ “มันหายไปไหนของมัน” “เดี๋ยวคงมาหรอกครับ กินฟรี ดื่มฟรีเต็มที่แบบนี้คงไม่พลาด” ทัศนีย์ยี้ใส่ “แต่หนูไม่อยากนั่งปะปนกับคนงานสกปรกพวกนี้” ครองสุขตอก หลานและลูกสาว จนหน้าหงาย “แกนึกว่าฉันอยากหรือไง” น้อยเข้ามารายงาน “หาทั่วแล้วค่ะ คุณใหญ่ไม่รู้ไปไหน ที่ห้องก็ไม่อยู่” “คุณใหญ่ขับรถออกไปเมื่อตอนเย็นค่ะ” ปิ่นอนงค์บอกครองสุข ถวิลมองเจิดกะก้าน เกลียดขี้หน้า หวานเข้ามากระซิบถวิลผัวหาย “ไอ้เปี๊ยกกับไอ้แจ้ง ไอ้สินหายหัวไปไหนไม่รู้ ลุงหวิน” เวลาเดียวกัน รถที่ใหญ่ยืมจากปิ่นอนงค์จอดอยู่หน้าโรงนาร้าง ส่วนด้านในเปี๊ยก แจ้ง และ สิน 2 คนงาน ที่เคยต่อยตีกับใหญ่วันก่อน กำลังต้มเหล้าเถื่อนอยู่หน้าเตา 2 เตา ควันโขมง เปี๊ยกทยอยเรียงขวดเหล้าเถื่อน 40 ดีกรี ใส่ลัง ได้ประมาณ 14 ขวด แยกฝาขวดสีทอง 7 ขวด และฝาสีดำ 7 ขวด ตามที่ใหญ่สั่ง เปี๊ยกส่งเสียงอ้อแอ้ๆ กลืนน้ำลายเอื๊อก “เครื่องดื่มพร้อม ทีนี้มากับแกล้ม” ใหญ่บอกแล้วเดินมาที่คนงานอีกกลุ่มที่กำลังทำลาบ ทอดหนอน ทอดแมลง กับเตาแก๊สปิคนิค “นี่ก็ต้องปรุงด้วยสูตรพิเศษมันถึงจะแซ่บ” ใหญ่หยิบมวนบุหรี่มาแกะ เป็นกัญชาซอยละเอียดพันลำตามมวนบุหรี่ ใหญ่โรยในกับข้าวเปิบพิสดารที่ว่า บรรยากาศกินดื่มในงานเลี้ยงกำลังเฮฮาได้ที่ จู่ๆ คนงานที่ศาลา ก็โห่เหมือนเสียงโห่ขันหมากเข้ามา อีกฝ่ายก็ฮิ้ว...รับกันถ้วนหน้า จากนั้นก็ยินเสียงเพลง ขอให้เจ้าภาพจงเจริญ ดังลั่นเข้ามา ใหญ่เดินนำขบวนมา แกล้งเมาไปกับพวกเปี๊ยก ครองสุขกับพรรคพวกวายร้ายมองงงๆ “อะไรกันนั่นน่ะ” ใหญ่เดินแจกเหล้าฝาทองตามกลุ่มคนงาน ลีลาราวกะอบต.หาเสียง “ขอโทษที่มาช้า ผมชาลิต หรือใหญ่ลูกคุณไพศาล ยินดีรู้จักพี่น้องคนงานทุกคน มีอะไรบอกผมได้ ใจถึง พึ่งได้ จริงใจ จริงจัง” ธีระเดินเข้ามาหาใหญ่ กะเอาหน้าเต็มที่ “คุณใหญ่ ผมเตรียมเครื่องดื่มกับอาหารไว้แล้ว คุณใหญ่ไม่ต้องลำบากหรอกครับ” “โอ๊ย เก็บๆ ของนอกไปเลย กินของไทย ของป่ากันดีกว่า ต้มเองกะมือ ลองแล้วจะติดใจ” ใหญ่ยิ้มร่า “นี่เหล้าเถื่อนเหรอคะ ไม่ดีมั้งคะคุณใหญ่” ครองสุขท้วง “ไม่ต้องกลัวหรอกคุณน้า นี่มันเขตไร่เราตำรวจคนไหนจะกล้ามาซ่า” ใหญ่คุยโว เปี๊ยกเทเหล้าแก้วของธีระ ก้าน เจิด ทิ้ง เทเหล้าฝาดำน้ำใสแจ๋วใส่ให้ “นี่ไอ้เปี๊ยกไปช่วยคุณใหญ่ต้มเหล้าเหรอเนี่ย ไอ้นี่ชักก้าวหน้า” หวานด่าผัว ถวิลมองสายตาเป็นกังวล ใหญ่ชวนทุกคนบนโต๊ะชนแก้วฉลองมิตรภาพ? “ชนๆ ครับ คุณน้องสาว คุณผู้จัดการ ดื่มเพื่อลืมความร้าวฉาน ทุกคนดิ่มๆๆ วันนี้สนุกกันเต็มที่” พวกธีระมองหน้ากัน เจิดได้กลิ่นเหล้าแล้วบอก “แรงน่าดูเลยนะนาย “แกก็จิบพอเป็นพิธีซิ ให้ไอ้ใหญ่มันฟาดไปให้เต็มที่ แรงๆ นี่แหละดี จะได้จบไวๆ” ธีระพยักหน้าบอกเจิดกะก้านให้ทำเป็นจิบๆ ไป อุ่นเรือนสะกิดปิ่นอนงค์ ไม่อยากเชื่อสายตา “เนี่ยเหรอ คุณใหญ่ ใช่เหรอยายปิ่น” “จ้ะ” ปิ่นอนงค์บอก ใหญ่ได้ยินหันไป “อ้าว นั่นป้าอุ่นเรือนใช่มั้ย หายป่วยแล้วใช่มั้ย” “ค่ะ” อุ่นเรือนยิ้มแหยๆ “แบบนี้ยิ่งต้องฉลอง เปี๊ยกน้องรัก เอากับแกล้มมาเลย” คนงานหญิง 2 คนเข้าเลื่อนจานกับข้าวไปท้ายโต๊ะ คนงานลูกน้องเปี๊ยกวางจาน 5 จาน อีกคน ตัก เทลาบเลือด หนอนรถไฟ แมงอีนูน จิ้งหรีด ตั๊กแตน ใส่จาน “เชิญครับคุณน้า” ใหญ่ผายมือ ครองสุขเห็นแต่ละเมนูก็รู้สึกสะอิดสะเอียน ใหญ่ตักลาบเลือดใส่ช้อนครองสุข ช้อนทัศนีย์ แล้วตักจากชามซดลาบเลือดสีแดงเข้าปากอย่างอร่อยล้ำ ทัศนีย์ยี้ทันที “อี๊...นั่นมันเลือดสดๆ นี่” “ชิมซิจ๊ะนี ลาบเลือดสดๆ รับรองจะติดใจ ไม่ต้องกลัว ไม่ใช่ลาบหมาแน่นอน” ใหญ่เชื้อชวน “ไม่...ไม่ไหวแล้ว” ทัศนีย์จะลุกหนี ครองสุขฉุดไว้ ทำตาดุ “ยัยนี นั่ง กินเดี๋ยวนี้” ทัศนีย์กล้ำกลืนกิน ในใจอยากจะร้องไห้ “แหม อร่อยจริงๆ ด้วยค่ะคุณใหญ่” “อร่อยก็ต้องกินเยอะๆนะน้องนี” ใหญ่ตักป้อนทัศนีย์ ทัศนีย์ทำท่าจะอ้วก “เลี่ยนใช่มั้ย เลี่ยนต้องตบซ้ำด้วยไอ้นี่” ใหญ่ป้อนแมงทอดให้ ปิ่นอนงค์มองแล้วรู้สึกผะอืดผะอม อุ่นเรือนเองก็หน้าซีดจะอ้วก “แม่ไม่ไหวแล้วปิ่น” อุ่นเรือนวิ่งไปทางครัว “แม่” ปิ่นอนงค์ตามแม่ไป ใหญ่ปรายตามองตามแวบหนึ่ง แล้วก็หันไปเฮฮาต่อ ที่โต๊ะใหญ่เวลานี้ ครองสุขแอบทำเป็นจิบเหล้าแต่สบตากับธีระแล้วเทเหล้าทิ้งทั้งคู่ ธีระพยักหน้าให้เจิดส่งสัญญาณ ใหญ่ทำเป็นมองไม่เห็น เปิดขวดฝาสีทองที่เหล้าเกือบหมดใส่แก้ว เจิดยกแก้วไปหาใหญ่ “ชน คุณใหญ่” พอชนแก้วกับใหญ่ เจิดยกดื่มหมดแก้ว หน้าตาบิดเบี้ยว เจิดเมาจริงๆ แล้ว เริ่มท้าตามแผนทันที “ได้ข่าวว่าคุณใหญ่ ผ่านมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ไม่รู้ว่าเรื่องจริงหรือราคาคุย” “วันก่อนพวกเราแค่ออมมือให้ วันนี้อยากจะล้างตาซักหน่อย กล้ามั้ยเนี่ย” ก้านผสมโรง ถวิลไม่ชอบใจ ตะโกนออกไป “เฮ้ยๆๆ ไอ้พวกไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง กล้าท้าเจ้านายเชียวเหรอวะ ข้ามศพ ข้าไปก่อนเหอะ” ถวิลลุกขึ้น ทำท่าจะต่อย แต่เจิดหลบนิดเดียวถวิลเสียหลักเซหน้าทิ่ม หวานที่ไม่เมาเข้าประคอง “น้า ปั๊ทโธ่ ไม่ทันไรนอนให้เค้าข้ามซะแล้ว” “ว่าไงครับ คุณใหญ่ จะเมตตาโชว์ฝีมือให้ผมเห็นเป็นบุญตาซักหน่อยได้มั้ย เฮ้ย ใครอยากเห็นบ้างวะ” คนงานที่เมากันแล้ว ทั้งตบมือ เป่าปาก ตะโกนว่า “อยากเห็นๆ...เอาเลยๆ” ครองสุข ตะโกน “พอแล้ว นี่มันงานเลี้ยง งานมงคลนะ จะมาท้าทายอะไรกัน ถ้าเมาก็กลับไปนอนเลยไป” ใหญ่ยิ้มกรึ่ม ตาเยิ้ม “ช้าก่อนครับ คุณน้า แหม เสียงเชียร์อุ่นหนาฝาคั่งขนาดนี้ ใหญ่เห็นจะต้องจัดใหญ่จัดเต็มซะแล้ว” ธีระทำเป็นห้ามตามแผน “อย่าเลยครับคุณใหญ่ คุณใหญ่เมาแล้วนะครับ” “ไม่ได้หรอกผู้จัดการ ลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้” ใหญ่ลุกขึ้นเดินเซนิดๆ พอท้วมๆ เดินออกไปจากโต๊ะ ธีระกระหยิ่ม พยักหน้าให้เจิด ก้าน “ตามแผนนะ ไอ้เจิดล่อให้มันโมโห ไอ้ก้านเป็นลูกคู่ให้ได้แผลไปแจ้งความว่ามันพยายามฆ่าก็พอ” เจิดกะก้านพยักหน้า เดินตาม คนงานเฮโลตามออกไป ครองสุขสบตากับธีระ กังวลบอกไม่ถูก “ถ้าไอ้ใหญ่มันเล่นถึงตายเลยล่ะ” “ก็ดีน่ะสิครับ ขอให้สมพรปากพี่เถอะ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ไอ้เจิดไอ้ก้านตายบวกกับประวัติที่เคยก่อคดี ไอ้ใหญ่แก่ตายในคุกแน่” ธีระหัวเราะสะใจ ครองสุขหน้าเครียด น้อยแอบชิมอาหาร “รสชาติใช้ได้นะเนี่ย” ที่ครัวเรือนใหญ่เวลานั้น อุ่นเรือนนั่งกินยาหอมหมดแก้ว ปิ่นอนงค์นวดมือให้ “ค่อยยังชั่วมั้ยจ๊ะ” อุ่นเรือนพยักหน้า “ไม่นึกเลยว่าลูกชายคุณไพศาลจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้ แล้วต่อไปนี้จะทำยังไงกัน ไร่ไพศาลมิลุกเป็นไฟเหรอ” “คงไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ แม่ ความจริงคุณใหญ่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร” “ขนาดนี้ แกยังว่าไม่เลวร้ายอีกเหรอ หน้าตาท่าทางยิ่งกว่าโจรห้าร้อย แม่เป็นห่วงคุณนายกับคุณนีย์จริงๆ แล้วไหนคุณนะก็จะกลับมาอีก” อุ่นเรือนบ่น “แม่อย่าคิดมากเลยจ้ะ อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ แม่เองก็ไม่สบายอยู่นะจ๊ะ” มีเสียงเฮลั่น แว่วยินมาไกลๆ “เสียงอะไรน่ะ ตายแล้ว หรือว่าเกิดเรื่อง” อุ่นลุกขึ่นจะไปแต่ก็เซหน้ามืด “แม่ แม่อย่าไปเลยนะจ๊ะ พักก่อน เดี๋ยวปิ่นไปดูให้เอง” ปิ่นอนงค์รีบไป อุ่นเรือนรำพึง “อย่าให้เกิดอะไรไม่ดีไม่งามขึ้นเลย ที่ลานประลองใหญ่ถอดเสื้อ ขว้างไปคลุมหน้าเปี๊ยกพอดีเป๊ะ คนงานเฮขำก๊าก เจิดชักมีดออกมาจากที่เสียบไว้ เขวี้ยงไปปักดินหน้าใหญ่ ใหญ่ตะลึง “นี่อะไรวะ” “อาวุธของคุณใหญ่ ส่วนนี่ของผม” เจิดถอดเสื้อโชว์มีดที่เอว แล้วชักมีดออกมาจดจ้องใส่ใหญ่ คนงานฮือฮา หวานที่เวลานี้ยังไม่เมาตกใจ “นี่จะฆ่ากันให้ตายเลยเหรอ น้า น้า” ถวิลเมาคอตกไม่รู้เรื่องแล้ว “ไอ้เปี๊ยก” เปี๊ยกดึงเสื้อใหญ่ออกจากหัว หันไปอีกทาง ท่าทีอ้อแอ้ๆ “ทางนี้” หวานดึงเปี๊ยกให้หันมาหาเปี๊ยก ทำทีเป็นสะดุ้งแล้วหัวเราะกั้กๆๆ เพราะกัญชาในอาหารเริ่มออกฤทธิ์ “โธ่ จะพึ่งใครเนี่ย” หวานเซ็งสุดขีด ใหญ่ดึงมีดขึ้นมาถือ เช็ดกับแขนเสื้อเหมือนลับมีด หน้าตายิ้มเหี้ยม ปิ่นอนงค์วิ่งมา ชนกับจอมที่เดินมา “จอม” “ปิ่น ไม่ได้อยู่ที่งานเหรอ” “แม่ไม่สบายน่ะ แต่นี่กำลังจะไปดู ไม่รู้เสียงดังอะไรกัน” หวานวิ่งเซเข้ามาเรียกเสียงดังลั่น “จอม ปิ่น” “พี่หวาน ที่งานเค้าส่งเสียงดังอะไรกัน” “คุณใหญ่ กับคนงานใหม่จะฆ่ากันตายแล้ว” หวานบอก ปิ่นอนงค์ตาค้าง “ฮะ” ที่ลานตรงสนามหญ้าเวลานั้น หมู่มวลคนงานลุ้นระทึก ใหญ่กะเจิดยืนจังก้า ก้านถอยมาดูท่าที ถูกเปี๊ยกดึงไป แล้วยื่นเหล้าให้ ก้านอยากกินแต่แกล้งเมินไปมา ในที่สุดก็รับมา เจิดโผนเข้าแทง ใหญ่หลบ คนดูคนงานเฮ แต่พอเจิดจะแทงอีกที ใหญ่ยืนแอ่นยกมือห้าม “เดี๋ยว” เจิดชะงักกึก “เล่นกันถึงเลือดถึงเนื้ออย่างนี้ ต้องย้อมใจหน่อย เปี๊ยก” ใหญ่เรียก เปี๊ยกเดินถือขวดเข้ามา เจิดงง “เป่ายิ้งฉุบกัน ใครแพ้ อึกหนึ่ง แล้วค่อยดวลกัน” เจิดเย้ยแกมหยัน “อย่าถ่วงเวลาดีกว่าน่าคุณใหญ่ เห็นมีดแล้วปอดเหรอ” ใหญ่พูดขำๆ “ไม่ได้ปอดแต่มันเสียว ของคมๆ บาดเนื้อ เจ็บใช่ย่อย ได้ซักกรึ๊บสองกรึ๊บ พอทน เอ้า เร็ว ๆ อย่าชักช้า เป่า ยิ้ง ฉุบ” ใหญ่ออกค้อนเลย เจิดออกกรรไกรเกือบไม่ทัน “โดนๆๆๆ” คนงานโห่เจิดเสียหน้า เปี๊ยกวิ่งมายื่นขวดให้เจิด ปิ่นอนงค์ จอม และหวานวิ่งมา “เร็ว จอม แกไปห้ามเร็ว” ใหญ่ยิ้งฉุบออกกรรไกรชนะ เจิดโดนโห่อีก จอมกับปิ่นอนงค์ชะงัก หวานถึงกับอึ้ง เจิดเช็ดปาก ส่งขวดคืนให้เปี๊ยกหน้าแดง เจิดถกแขน “มา” ปรากฎว่าเจิดออกอะไรก็แพ้ โดนโห่หนัก “โห ไอ้เจิด ไม่ได้เรื่องเลยว่ะเอ็ง มานี่ต้องข้า” ก้านบอก เจิดเมาตาลาย ก้านเซเข้ามาเล่นบ้าง หวานงง “ไหงเป็นงี้ไปได้” ครองสุขกับธีระชะเง้อชะแง้ดูอยู่ที่โต๊ะ มีเสียงเฮลั่น เป็นจังหวะ มาจากลานประลอง ครองสุขบอกกับธีระ “ป่านนี้มันคงแทงกันเลือดสาดแล้ว” “เดี๋ยวค่อยไปเก็บกวาดตับไตไส้พุงมัน แต่ตอนนี้เราฉลองกันล่วงหน้ากันดีมั้ย” ธีระบอกเสียงหื่น ธีระเข้ามาโอบครองสุขยั้งไว้ “ฮื้อ อย่ามาทำประเจิดประเจ้อ เมาแล้วใช่มั้ยเนี่ย” “ใครว่าเมา ผมไม่คออ่อนอย่างไอ้ใหญ่หรอก แค่มึนๆเท่านั้น” ธีระออกอาการหื่นเต็มกำลัง น้อยหัวเราะฮะๆๆๆ ถือจานลาบเข้ามา “ว้าย ทำอะไรกันน่ะ หน้าไม่อาย” ครองสุขผละออกจากธีระด้วยความตกใจ ตั้งสติได้ครองสุขก็ตวาดแว้ด “นังน้อย แกพูดเหลวไหลอะไร” น้อยชี้ไปที่ผนัง “จิ้งจกมันพลอดรักกัน ฮ่าๆๆ ดูซิ มันจูบกันด้วย” ครองสุข “นังนี่ ท่าจะบ้า เอ๊ะ แล้วนี่ทัศนีย์ไปไหน นังน้อย เห็นทัศนีย์มั้ย” “ทัศนีย์ ไม่อยู่ อยู่แต่พัชราภา ได้มั้ยคะ” ว่าแล้วน้อยโพสท่าที่คิดสวยสุด “นังนี่มันเมากัญชาหรือไงเนี่ย” เสียงเฮดังขึ้นอีก ครองสุขหันไป “สงสัย ได้เรื่องแล้ว ไปดูซิธีระ” ธีระเดินออกไป ครองสุขกระหยิ่มยิ้มย่อง ยกแก้วชู “แด่ ชัยชนะของครองสุข” ทว่าพริบตานั้น ครองสุขชักมึนๆ แต่เสียงยังลั่นมา “หายหัวไปไหนตั้งนานสองนาน ครองสุขลุกขึ้นเดินออกไป ผ่านน้อยที่ออกอาการหลุดโลก นั่งหัวเราะ เมาทั้งเหล้าทั้งกัญชา คุยกับจิ้งจกตุ๊กแกคนเดียวอย่างอารมณ์ดี บรรยากาศที่บริเวณลานประลองครึกครื้นเต็มที่ ครองสุข เดินเซๆ มา เห็นคนงานไร่ยืนเชียร์ โห่ฮา เมาปลิ้น ทั้งกัญชาทั้งเหล้าพอแหวกเข้ามาด้านใน เห็นก้าน เป่ายิ้งฉุบอยู่กับเปี๊ยก สภาพเมาเละเทะ เลอะเทอะ บางจังหวะดันเถียงกันไป หัวเราะกันไป ส่วนเจิดนั้นฟุบอยู่ในท่าขัดสมาธิ แต่มือยังทำเป็นรูปกรรไกร ถวิลเองก็เมาปลิ้นกอดคอจอมถามหาความรักประสาพ่อลูก “เอ็งรักพ่อมั้ยไอ้จอม เอิ้ก” “รักซิพ่อ ชีวิตไอ้จอม ให้พ่อได้ เอิ้ก” ครองสุข งงเป็นไก่ตาแตก “นี่มันอะไรกัน ทำไมเป็นอย่างงี้ไปได้” แถเข้าไปหาเจิด จิกกบาลขึ้นมา “เจิด... ไอ้เจิด ธีระอยู่ไหน” ครองสุขเข้าไป เขย่าคอก้าน “ไอ้ก้าน ธีระนายแกอยู่ไหน” เสียงธีระร้องเพลง เต้นร่อนอยู่กับพวกคนงาน ทัศนีย์กำลังดิ้นแด้นซ์อยู่กับกลุ่มฉิ่งฉับ ที่ร้องรำทำเพลง เสียงเพลงโจ๊ะ ของคาราบาวดังสนั่นไปทั่วบริเวณ สลับเสียงเป่าปากปี๊ดปิ้ว หวาน กะเปี๊ยก รำป้อ ธีระร้องเพลงนำ เคาะจาน เคาะช้อนประกอบจังหวะ “ธีระ ยัยนีย์” ครองสุขวี้ดจะบ้าตาย ปิ่นอนงค์เดินเข้ามาในครัวสีหน้ากลุ้มใจ “แม่จ๊ะ อ้าวไปไหนแล้ว” ปิ่นอนงค์เดินกลับมาหาอุ่นเรือนในบ้าน เสียงโทรศัพท์บ้านดัง ปิ่นรับสาย “สวัสดีค่ะ บ้านไร่ไพศาลค่ะ” จำเสียงได้แม่น “นั่น นั่นคุณนะใช่มั้ยคะ” ปิ่นอนงค์เนื้อเต้น ดีใจสุดๆ ทรรศนะโทรจากห้องพักโรงแรมเมืองนอก “พี่โทร.มาหลายที แต่ไม่มีใครรับ” ปิ่นอนงค์ระงับความตื่นเต้น “พอดีวันนี้มีงานเลี้ยงเลยอยู่ข้างนอกกันหมด” “อ้อ คุณน้าคงเลี้ยงลูกค้าละซิ เห็นว่าตอนนี้ที่ไร่กิจการดีมาก” “ค่ะ คุณนะสบายดีเหรอคะ แล้วคุณจะกลับวันไหนแน่ กี่โมง” ทรรศนะไม่สนใจคำพูดปิ่นอนงค์ “ได้คุยกับปิ่นก็ดีแล้ว ตอนนี้พี่เดือดร้อนมาก โดนล้วงกระเป๋า ทั้งเงินสด ทั้งบัตรเครดิตไม่มีเหลือ” ทรรศนะโกหก “แย่จริง แล้วจะทำยังไงคะ” ปิ่นอนงค์ตกใจ “ตอนนี้พี่ต้องใช้เงินไปซื้อของขวัญให้อาจารย์ที่สอน พี่ก่อนกลับ ปิ่นบอกคุณน้าหน่อยนะว่าพอจะโอนเงินให้พี่ก่อนซักสามสี่หมื่นมั้ย ฮัลโหล ปิ่น” “ฮัลโหลๆๆๆ คุณนะ” ปิ่นอนงค์วางหู หันไปเจอใหญ่ที่ถือสายโทรศัพท์ที่เพิ่งกระชากออกหน้าตาดุดัน ปิ่นอนงค์ตกใจ “คุณใหญ่” อ่านละคร ปิ่นอนงค์ ตอนที่ 3 วันที่ 17 มิ.ย. 55 ละคร ปิ่นอนงค์ บทประพันธ์โดย : รจเรข ละคร ปิ่นอนงค์ บทโทรทัศน์โดย : ดลกมล คนหลังม่าน ละคร ปิ่นอนงค์ แนวละคร : โรแมนติก ดราม่า ละคร ปิ่นอนงค์ผลิตโดย : บริษัท มุมใหม่ จำกัด โดย อ๊อด ธีรศักดิ์ พรหมเงิน ละคร ปิ่นอนงค์ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ ละคร ปิ่นอนงค์ เริ่มออกอากาศตอนแรก วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายนนี้ ที่มา manager.co.th

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น