วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อ่านละคร ขุนเดช ตอนที่ 19-20 วันที่ 12 มิ.ย. 55


อ่านละคร ขุนเดช ตอนที่ 19

“สันดานเอ็งมันทำทุกอย่างเพื่อเงิน ข้าจะปล่อยให้เงินของไอ้ประดับมาทำให้เอ็งปากโป้งเรื่องข้าไม้ได้หรอกเว้ย!”
กำนันกะซวกซ้ำอีกหลายครั้งไม่แยแสกับเสียงร้องของซ้อน จนมันตายคามีดแล้วกำนันมองศพซ้อนพึมพำ...

“ทีนี้ก็เหลือเธอคนเดียวแล้วผกา...”

ooooooo

ผกาหนีกระเซอะกระเซิงไปยืนโบกรถขอความช่วยเหลือที่ถนนเปลี่ยว เจออ๊อดกับอ่ำขับรถส่ายมาเป็นงูเลื้อยชนผกาล้มหมดสติ มันรีบพาผกาไปที่กระท่อมก่อนที่ใครจะมาเห็น

พอมาถึงกระท่อม อ่ำทำหน้าหื่นเข้าหาผกา พอดีผการู้สึกตัวถามว่ามันเป็นใคร และตนมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง

อ่ำถามผกาว่าหนีใครมาหรือ ผกาตวาดว่าตนจะหนีใครมาก็ไม่เกี่ยวกับมัน ตะเพิดให้มันถอยไป

ทันใดนั้น อ๊อดก็มาร้องเรียกอ่ำบอกว่า ได้เวลาทำงานแล้ว

“รู้แล้ว...” อ่ำตอบอย่างขัดใจ บอกผกาว่า “อยู่

ที่นี่เถอะนะจ๊ะคนสวย รับรองว่าปลอดภัยแน่นอน แต่ถ้าคนสวยรู้สึกไม่ปลอดภัยละก็...” มันยื่นมีดพกให้ “เก็บเอาไว้ป้องกันตัวนะจ๊ะ ฉันขอตัวไปทำงานก่อนล่ะ”

อ่ำออกไปแล้ว ผกามองตามอย่างสงสัยว่ามันเป็นใครและไปทำอะไร?

ooooooo

เมื่อวีรบุรุษบาปไปแล้ว ดาราเอาพระร่วงนั่งเนื้อเหล็กดำมอบให้คำปัน บอกว่าวีรบุรุษบาปฝากไว้ปกป้องคุ้มครองบัวทอง คำปันรับไปด้วยสีหน้าหนักใจ ทำให้ดาราตัดสินใจพูดความจริงว่า

“น้าคำปันคะ ไม่ใช่น้าคนเดียวหรอกค่ะ ที่รู้ความจริงว่าวีรบุรุษบาปเป็นใคร” คำปันมองอึ้งถามว่าอาจารย์รู้ด้วยหรือ “ดาราเคยพยายามขอร้องให้เขามอบตัวแล้วค่ะ แต่ไม่เคยสำเร็จเลย เพราะเขาย้ำอยู่ตลอดเวลาว่า ทางเดียวที่จะหยุดวีรบุรุษบาปได้ก็คือ...ความตาย”

คำปันตกใจมาก คืนนี้จึงไปหาขุนเดชที่โบสถ์

วัดเกาะน้อย ถามว่าเขาโกหกใช่ไหมที่ว่าจะไปมอบตัวกับยงยุทธ ที่แท้เขาไม่ได้คิดจะไปเข้าคุก แต่จะไปสู้กับยงยุทธเพื่อให้ถูกฆ่า

ขุนเดชยอมรับ บอกว่าแค่ติดคุกยังน้อยไป ในเมื่อตนก็เหมือนคนบาปที่ตัวเองฆ่า เมื่อตนวางมือ ความตายเท่านั้นจึงจะเหมาะสม ทั้งยังบอกว่า ตนเป็นต้นเหตุให้บัวทองถูกยิง ทำให้บัวทองต้องเดือดร้อนหลายครั้งแล้ว บอกคำปันอย่างสงบว่า

“ผมไม่ใช่วีรบุรุษอย่างที่เขาสรรเสริญ แต่ผมคือคนบาป...หนทางข้างหน้าของผมมีแต่ความตายเท่านั้น”

คำปันร้องไห้ด้วยความกดดันอัดอั้น ทรุดนั่งอย่างหมดแรง ขุนเดชประคองคำปันไว้ เอ่ยอย่างรู้สึกผิดว่า

“ผมขอโทษนะครับ ผมอยากจะกตัญญูตอบแทนบุญคุณน้า แต่ผมคงไม่มีโอกาส เพราะผมคงต้องตอบแทนบุญคุณกตัญญูต่อบรรพบุรุษก่อน”

ooooooo

แล้วประดับก็รู้จริงๆว่าซ้อนเป็นคนยิงตน สั่งเบิ้มให้ไปลากคอมาเดี๋ยวนี้ เบิ้มบอกว่าไม่ทันแล้ว เพราะซ้อนถูกเก็บไปเมื่อวานนี้เอง

ระหว่างนั้น กำนันบุญเข้ามารายงานว่าให้ลูกน้องแกะรอยผกาอยู่ อีกไม่นานได้รู้แน่ว่าผกาอยู่ไหน ประดับกำชับว่าอย่าให้นานนัก แล้วเอาโทรเลขของอาจารย์ก้องเกียรติให้ดู บอกว่านี่คือโลหะวัตถุโบราณศักดิ์สิทธิ์ชิ้นต่อไปที่ต้องตามหา ให้กำนันไปจัดการมาให้ด้วย กำนันรับโทรเลขไปดูอย่างสนใจ พึมพำ

“ธรรมจักรสัมฤทธิ์...”

ooooooo

ผกาแอบตามไปดูอ๊อดกับอ่ำทำงาน จึงรู้ว่าพวกมันหลอกชาวบ้านมาแก้กรรม โดยใช้ธรรมจักรสัมฤทธิ์เป็นเครื่องมือ ชาวบ้านที่หลงเชื่อพากันแก้กรรมเพราะกลัวตกนรก ต่างพากันทำบุญหวังได้ขึ้นสวรรค์ เอาทั้งเงินที่ติดตัวมา ถอดทองที่ใส่มาวางลงในขันทองคำทำบุญ ท่ามกลางใบหน้าที่ยิ้มแย้มพอใจของอ่ำกับอ๊อด

ผกาจำได้ว่า ธรรมจักรสัมฤทธิ์นี้ พวกชาวบ้านเคยเอามาขายให้กำนัน แต่กำนันไล่กลับไป บอกผกาที่นั่งดูอยู่ด้วยว่า

“ไอ้พวกขุดกรุกิ๊กก๊อกเอาของไม่มีราคามาขาย”

พอกำนันรู้ว่าอาจารย์ก้องเกียรติให้หาธรรมจักรสัมฤทธิ์ก็จำได้นึกเสียดาย เพราะตอนนั้นคิดว่าเป็นของไม่มีค่า เมื่อเล่าให้ประดับฟัง ประดับกำชับว่า

“งั้นกำนันก็ต้องรีบไปตามเอากลับมา ระหว่างที่ฉันต้องกลับไปจัดการธุระที่กรุงเทพฯ” จากนั้นสั่งเบิ้มให้คอยช่วยกำนันอยู่ที่นี่ ได้ธรรมจักรสัมฤทธิ์มาเมื่อไรรีบเอาไปให้ตนทันที

ooooooo

ยงยุทธยังเดินหน้าสืบรู้ให้ได้ว่าวีรบุรุษบาปคือใคร ไปหาคำปันที่อนามัยถามว่า ตอนที่วีรบุรุษบาปพาบัวทองมาที่นี่ได้พูดอะไรหรือเปล่า คำปันอึกอักมีพิรุธจนยงยุทธดูออก

ดารากับขุนเดชมาเยี่ยมบัวทอง พอรู้จากจ่าแท่นว่ายงยุทธคุยกับคำปันอยู่ข้างบน ดารากังวลว่าถ้าบัวทองถูกยงยุทธสอบปากคำเรื่องขุนเดช คำปันจะต้องบอกความจริงว่าขุนเดชคือวีรบุรุษบาปแน่ เร่งให้เขารีบหนีไปเสีย ตนจะถ่วงเวลายงยุทธไว้ที่นี่เอง

“ไม่...ผมไม่ไป เพราะผมได้พูดกับน้าคำปันไปหมดแล้วว่าหน้าที่ของผมคืออะไร ที่เหลือก็อยู่ที่น้าคำปันคนเดียวว่าจะเห็นด้วยกับผมรึเปล่า”

ยงยุทธออกมาพอดี เขาเรียกขุนเดชไว้บอกว่าเรามีเรื่องต้องคุยกัน ขุนเดชกำลังจะชี้แจง ยงยุทธก็ตัดบทว่าเรื่องนี้ตนไม่อยากให้เขามายุ่งด้วย ขุนเดชรับคำแล้วเดินออกไปด้วยกัน ดาราได้แต่มองตามไปด้วยความกังวล...

ขุนเดชพายงยุทธไปคุยกันที่กระท่อมของเขา ถามยงยุทธว่า สงสัยว่าคำปันรู้จักตัวตนที่แท้จริงของวีรบุรุษบาปใช่ไหม ยงยุทธบอกว่าใช่ แต่คำปันไม่ยอมพูด ขุนเดชถามว่าทำไมคำปันถึงไม่พูด ยงยุทธก็นิ่งไป

ที่แท้แล้ว คำปันไม่ได้บอกยงยุทธว่าใครคือวีรบุรุษบาป แต่ความเสียใจเมื่อพูดถึงวีรบุรุษบาปและปณิธานของวีรบุรุษบาปที่ไม่ยอมติด คุกเด็ดขาด แต่จะขอสู้กับคนใจ บาปจนตายหรือไม่ก็สู้กับหมวดจนตาย คำปันร้องไห้อย่างหนัก ย้ำกับยงยุทธว่าใครก็เปลี่ยนความคิดของเขาไม่ได้

นี่เอง ยงยุทธจึงปักใจเชื่อว่าขุนเดชคือวีรบุรุษ บาป บอกขุนเดชว่า วันนี้ตนจะพิสูจน์ความจริงว่าเขาคือ วีรบุรุษบาป!

“ถ้าฉันเป็นวีรบุรุษบาปจริงอย่างที่แกสงสัย งั้นแกก็ฆ่าฉันให้ตายไปเลยดีกว่า เพราะน้าคำปันก็บอกแล้วว่า วีรบุรุษบาปไม่ยอมติดคุก แต่จะยอมตายสถานเดียว”

เมื่อคาดคั้นเอาความจริงจากขุนเดชไม่ได้ ยงยุทธกระชากคอเสื้อขุนเดชเหวี่ยงเขากระเด็นไป แล้วเข้าไปค้นหาอาวุธที่วีรบุรุษบาปใช้ฆ่าคนบาป แต่ไม่เจอ เขาออกมามองขุนเดชที่ถูกทำร้ายจนเลือดกบปาก ชี้หน้าบอกว่า

“ถ้าวีรบุรุษบาปอยากให้ฉันฆ่ามันให้ตายแทนโทษติดคุก และถ้าฉันพิสูจน์ได้ว่ามันคือแก...ฉันจะฆ่ามัน!!”

“ดี...เพราะถ้าฉันเป็นวีรบุรุษบาปจริง ฉันก็คงดีใจมากที่ได้ตายด้วยน้ำมือแกมากกว่าน้ำมือโจร”

ยงยุทธกลับไปอย่างหัวเสียโกรธแค้น ขุนเดชเดินไปที่ริมธาร วักน้ำล้างเลือดที่กบปาก มองเงาตัวเองในน้ำ แล้วล้วงมือลงไปในน้ำ หยิบดาบดำขึ้นจากใต้ผืนน้ำ...ชักดาบดำออกมามอง พูดอย่างมุ่งมั่น...

“ฉันจะรอวันที่ได้ตายด้วยน้ำมือของแก...ไอ้เพื่อนรัก...”

ooooooo

อ่านละคร ขุนเดช ตอนที่ 20

หลัง จากปารมีเลิกกินยาที่ประดับจัดให้แล้ว ร่างกายแข็งแรงขึ้น เธอเดินไปหาคุณหญิงที่เอาแต่ดื่มไวน์ประชดชีวิตทั้งกลางวันกลางคืนจนหน้า หมองคล้ำ

ปารมีบอกคุณหญิงว่า จะจัดการกับประดับที่แว้งกัดครอบครัวเรา จะไม่ยอมให้ประดับตักตวงผลประโยชน์จากเราต่อไปแล้ว คุณหญิงบอกว่าเรื่องนี้ตนจะหาทางจัดการเอง ปารมีถามอย่างร้อนใจว่าทำไมเราต้องรออีก

พอดีคนใช้เข้ามาบอกว่าประดับกลับมาแล้ว ปารมี บอกคุณหญิงว่าตนจะไปสั่งสอนประดับเอง คุณหญิงห้ามก็ไม่ฟัง

“ไม่ได้หรอกค่ะคุณแม่...มันทำร้ายปาเหมือนไม่ใช่คน ปามีวิธีจัดการมันแบบที่มันไม่ทันจะรู้ตัว คุณแม่รอดูปาจัดการมันเถอะ”

ปารมีเดินออกไปหาประดับที่กำลังเข้ามา เธอหยิบมีดปอกผลไม้ซ่อนไว้ข้างหลัง แล้วตีหน้าเศร้าวิ่งไปหาประดับ ออดอ้อนราวกับรักคิดถึงแทบขาดใจ ชวนประดับออกไปอยู่ข้างนอกกัน เพราะตนทนอยู่กับพ่อที่เป็นบ้าและแม่ขี้เมาไม่ไหวแล้ว

ประดับบอกให้รอก่อน ตอนนี้เรายังไปไหนไม่ได้ ปารมีอ้อนว่าตนรอไม่ไหวแล้ว พลางก็เข้ายั่วยวนกอดรัดประดับจนเขาเคลิ้มไปเหมือนกัน

แต่สัญชาตญาณระวังตัวของมันสูง เพียงปารมีเอามีดปอกผลไม้ออกมาจะแทงเท่านั้น ก็ถูกประดับจับมือตรึงไว้ คำรามใส่หน้า

“คิดว่าลูกไม้ตื้นๆแค่นี้ของคุณปาจะทำอะไรผมได้เหรอ” ว่าแล้วก็บิดมือปารมีจนมือหลุด ปารมีร้องอย่างเจ็บปวด

คุณหญิงได้ยินเสียงปารมีวิ่งมาบอกประดับให้หยุด แต่กลับถูกประดับสั่งให้คุณหญิงหยุดแค่นั้น ขู่ว่าถ้าเข้ามายุ่ง คุณหญิงรู้อยู่แล้วว่าจะเจออะไร

แม้คุณหญิงจะหยุดแค่นั้น แต่ประดับไม่หยุด เดินไปหยิบซองที่โต๊ะเครื่องแป้งหยิบรูปออกมาให้ปารมีดู พูดอย่างสะใจว่า

“ลูกสาวคุณหญิงควรจะดูไว้ จะได้จำใส่กะโหลกว่า คุณหญิงที่สูงส่ง เวลามั่วกับผู้ชายแล้วเป็นยังไง” พลางโยนรูปให้ปารมีดู

“คุณแม่!!” ปารมีช็อกกับภาพที่เห็น

เมื่อประดับเข้าไปในห้องเก็บสมบัติชื่นชมโลหะศักดิ์สิทธิ์โบราณ คุณหญิงตามเข้าไปต่อว่าอย่างโกรธแค้น ประดับตอบอย่างไม่แยแสว่า

“ช่วยไม่ได้ คุณหญิงเป็นแม่ แต่กลับปล่อยให้ลูกสาวมาทำร้ายผัวตัวเอง แม่ยายแบบนี้ผมไม่ปลื้ม” คุณหญิงปรี่เข้าไปจะตบก็ถูกจับแขนไว้ ขู่ว่า “จำไว้นะคุณหญิงอย่าได้คิดต่อกรกับผมอีก ไม่งั้นคราวหน้า คนที่จะต้องไปนอนให้ไอ้พวกนั้นมันปู้ยี่ปู้ยำจะเป็นคุณปา” พูดจบก็ผลักคุณหญิงกระเด็นไป

“คนอย่างแกอย่าหวังว่าจะได้ยิ่งใหญ่ แกเป็นได้ก็แค่ไอ้ผีเปรต ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด บาปกรรมที่แกทำจะตามจัดการแก”

“บาปกรรมน่ะเหรอ...หึๆกลัวเสียที่ไหน...ไป!!” มันตะเพิดจนคุณหญิงต้องออกไปอย่างเจ็บใจที่ทำอะไรมันไม่ได้

ooooooo

ที่โรงพัก...ยงยุทธถามจ่าแท่นว่า ที่ให้ไปถามคำปันว่าวีรบุรุษบาปเป็นใครได้ความเพิ่มไหม จ่าบอกว่าคงยาก เพราะตอนนี้คำปันไปบวชชีพราหมณ์อยู่ที่วัดเกาะน้อยแล้ว

ที่วัดเกาะน้อย ขุนเดชยืนดูคำปันที่นุ่งขาวห่มขาวปฏิบัติธรรมสวดมนต์อยู่หน้าพระประธาน มีบัวทองพนมมือสวดมนต์อยู่ใกล้ๆ ดาราเดินเข้ามาหาขุนเดช บอกเขาว่า

“ที่น้าคำปันตัดสินใจมาอยู่วัดถือศีลปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด น้าเขาทำเพื่อเธอนะขุนเดช เขาอยากให้บุญกุศลที่เพียรทำเพื่อช่วยแบ่งเบาบาปของเธอ”

“ผมเข้าใจ และก็อนุโมทนาด้วย แต่บุญส่วนบุญ บาปส่วนบาป ยังไงผมก็หยุดทำบาปไม่ได้ จนกว่าพวกมันจะถูกตัดสินโทษจนหมด” พูดแล้วขุนเดชเดินออกไป ดารามองตามไปอย่างเป็นห่วง

ขุนเดชไปกราบพระศิลาไร้เศียรที่ถ้ำศิลา บัวทองตามมาเพื่อเอาพระร่วงนั่งเนื้อเหล็กดำที่เขาฝากดาราให้เธอไว้ปกป้อง คุ้มครองคืนให้เขา ขุนเดชจะไม่รับคืน บัวทองบอกเขาว่า นี่เป็นพระเครื่องของพ่อเขา

“พ่อของพี่ได้มอบพระเครื่องนี้ให้คำปันเพราะเป็นผู้หญิงที่พ่อรัก วันนี้พี่ก็ทำเหมือนพ่อ”

บัวทองชะงักอึ้ง ขุนเดชเดินอ้อมไปข้างหลังสวมสร้อยให้ที่คอบัวทองอย่างทะนุถนอม บัวทองถึงกับน้ำตาคลอ

“พี่อยากให้บัวทองรู้ไว้นะว่า ทุกครั้งที่พี่เห็นบัวทองเจ็บ พี่ยิ่งเจ็บกว่าหลายเท่า”

ยิ่งฟังขุนเดชพูดความในใจ บัวทองยิ่งร้องไห้หนัก จนทนไม่ได้ร้องไห้โฮโผเข้าซบอกขุนเดช แต่พอขุนเดชจะโอบกอด บัวทองกลับผลักเขาออก พูดอย่างเป็นการเป็นงานว่า

“ฉันขอโทษนะจ๊ะพี่ ฉันรู้ว่าพี่เป็นห่วงฉัน และรู้ว่าพี่...รักฉัน...แต่ว่า...หัวใจของฉันได้ให้วีรบุรุษบาปไปหมดแล้ว”

“ทั้งๆที่เขาผลักไสให้บัวทองเสียใจ บัวทองก็ยังไม่เลิกรักเขาอีก”

“ไม่จ้ะพี่...ต่อให้เขาทำร้ายหัวใจของฉันมากแค่ไหน แต่พอเกิดเรื่องกับเขา วินาทีนั้นฉันไม่คิดอะไร นอกจาก...ขอให้ได้ทำหน้าที่ของเขาต่อ”

ขุนเดชนิ่งงัน มองหน้าบัวทองที่ร้องไห้ไม่หยุด บัวทองยังพูดต่อทั้งที่ใจหายว่า...

“ยิ่งแม่ยกโทษให้เขาแล้วหันมาปฏิบัติธรรมเพื่อให้บุญกุศลช่วยรักษาชีวิตเขา ไว้ ฉันก็ยิ่งรักเขาหมดหัวใจ พี่ขุนเดชจะโกรธจะเกลียดฉันยังไงก็ได้ เพราะฉันมันไม่รักดีที่พลีหัวใจให้โจร”

ขุนเดชเบือนหน้าไปทางอื่นอย่างไม่รู้จะพูดอย่างไร บัวทองปาดน้ำตาแล้วเดินจากไป ขุนเดชมองตามอย่างหนักใจอยู่เบื้องหน้าพระศิลาไร้เศียร...

ooooooo

เมื่อกำนันจำได้ว่าอ่ำกับอ๊อดเคยเอาธรรมจักรสัมฤทธิ์มาขายแต่ตนไม่ซื้อ ก็สั่งให้ลูกน้องออกตามหาตัวสองพี่น้องทันที

แต่มันหาไม่เจอ เพราะหลังจากวันที่ผกาตามไปจับได้ว่ามันใช้ธรรมจักรสัมฤทธิ์หลอกลวงชาวบ้าน ให้เอาทรัพย์สินเงินทองมาแก้กรรมแล้ว ชาวบ้านคนหนึ่งที่รู้ตัวว่าถูกหลอกลวงก็ถือมีดพร้าเข้ามาจะเล่นงาน อ่ำวิ่งไปคว้าปืนจะยิง ผกาเลยถูกชาวบ้านคนนั้นจับเป็นตัวประกัน แต่ก็ถูกอ่ำตามไปยิงตาย แล้วขู่ผกาว่าถ้าปากโป้งเอาเรื่องวันนี้ไปโพนทะนาให้ชาวบ้านรู้จะถูกเก็บอีก คน

ระหว่างนั้น อ๊อดวิ่งมาบอกอ่ำว่า ได้ข่าวว่ากำนันส่งคนไปค้นที่บ้านเพราะอยากได้ธรรมจักรสัมฤทธิ์

“ข้าเคยเอาไปขายมันแล้ว แต่มันบอกไม่อยากได้นี่หว่า แล้วทำไมอยู่ๆมันถึงกระเหี้ยนกระหือรืออยากได้ขึ้นมา”

“ฉันว่าฉันรู้นะ ว่าทำไมกำนันบุญถึงต้องการธรรมจักร สัมฤทธิ์ของแก” ผกายิ้มอย่างมีเลศนัย

ฝ่ายกำนัน เมื่อส่งลูกน้องไปค้นบ้านอ่ำกับอ๊อดแล้วไม่เจอธรรมจักรสัมฤทธิ์ ก็สั่งให้ไปตามสืบจากเมียๆของมัน

เบิ้มเดินเข้ามาบอกว่า ไม่ต้องไปสืบหรอก ตนสืบมาแล้ว อ่ำไม่ได้อยู่กับเมียๆของมัน แต่ส่งเงินมาให้ใช้อู้ฟู่ทุกเดือนเพราะ “มันใช้ประโยชน์จากธรรมจักรสัมฤทธิ์ โลหะวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่เรากำลังตามหาต้มตุ๋นชาวบ้าน”

ฝ่ายอ่ำกับอ๊อดพอรู้ว่ากำนันกำลังตามหาธรรมจักรสัมฤทธิ์เครื่องมือทำมาหากิน ของมัน ก็ประกาศว่า ต่อให้เอาเงินมากองให้ ตนก็ไม่สน อ๊อดกลัวกำนันจะใช้ลูกน้องมาปล้น อ่ำบอกว่าไม่กลัว เพราะฝีมือตนสู้กับพวกนั้นได้สบาย

ผกาปรามาสว่าได้ยินมาเยอะแล้ว คนอวดเก่งแบบนี้ พอถึงเวลาก็กลายเป็นผีเฝ้าป่าทุกคน ทำให้อ่ำไม่พอใจกระชากผกาเข้าไป ตะคอกใส่หน้าว่า ตอนนี้เธอกำลังถูกกำนันตามล่า ถ้าจวนตัวตนก็ยังมีเธอเป็นตัวแลกเปลี่ยน ผกาตกใจขอร้องมันอย่าส่งตนให้กำนันเลย อยากได้อะไรตนยอมให้ได้ทุกอย่าง อ่ำมองผกาที่ยั่วยวนด้วยสายตาหื่นจัด

ooooooo

เมื่อยงยุทธเห็นคำปันบวชชีพราหมณ์อยู่จึงไม่คาดคั้นเรื่องวีรบุรุษบาป แต่ก็ได้ข่าวจากจ่าแท่นว่า เวลานี้มีชาวบ้านมาร้องเรียนเรื่องแปลกๆเกี่ยวกับพวกต้มตุ๋นหลอกลวง พลางเล่ารายละเอียดที่ได้ยินมาให้ฟัง

ยงยุทธไปปรึกษาดาราที่แคมป์โบราณคดี เรื่องชาวบ้านถูกคนปลอมเป็นพระใช้ธรรมจักรสัมฤทธิ์โบราณหลอกลวงว่าสามารถมอง เห็นเวรกรรม แล้วให้ร่วมทำบุญเพื่อไม่ต้องตกนรก จ่าแท่นช่วยชี้แจงเพิ่มเติมว่า

“คือหมวดเขาสงสัยว่าไอ้พวกนี้จะเป็นพวกลักลอบขุดกรุด้วยครับ เพราะมีข้อมูลถูกส่งมาว่า ธรรมจักรสัมฤทธิ์ที่พวกต้มตุ๋นมันใช้เป็นโบราณวัตถุที่ถูกขโมยมา”

“ชาวบ้านที่มาร้องเรียนบอกว่ามีคนพยายามจะเปิดโปงพวกมัน แต่ก็หายตัวไป คิดว่าน่าจะถูกเก็บไปแล้ว หนำซ้ำยังมีคนหลงเชื่อพวกมันมากขึ้นเรื่อยๆด้วย” ยงยุทธเสริม

ระหว่างนั้น ดารานิ่งคิด จนยงยุทธถามว่ามีอะไรหรือ เธอบอกเขาว่า

“ฉันว่าถ้าเธออยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ คนที่จะให้คำตอบได้น่าจะเป็นขุนเดช”

ooooooo

ดังนั้น ทั้งสามจึงไปหาขุนเดชที่กระท่อม ขุนเดชฟังทั้งสามเล่าแล้วเชื่อว่า สิ่งนั้นคงเป็นธรรมจักรสัมฤทธิ์ วงล้อแห่งกรรมและดวงตายมบาลที่ตนเคยเล่าให้ทุกคนฟัง

“ฉันจำได้” ดารานึกออก “ตามตำนานว่ากันว่า สมัยโบราณมีคณะทูตสงฆ์มุ่งหน้าจาริกแสวงบุญ พร้อมนำธรรมจักรสัมฤทธิ์ไปเผยแผ่คำสอนของพระพุทธองค์

แต่ระหว่างทางถูกโจรฆ่าตายทั้งคณะเพราะต้องการธรรมจักรสัมฤทธิ์ไปหลอมทำอาวุธ”

“ใช่ แต่สิ่งอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น เมื่อธรรมจักรสัมฤทธิ์หลอมไม่ละลาย แม้จะอยู่ในกองเพลิงถึง 7 วัน 7 คืน และเมื่อผู้ใดสัมผัสพร้อมจิตอธิษฐาน ผู้นั้นจะมองเห็นกรรม” ขุนเดชเสริม

อ่านละคร ขุนเดช ตอนที่ 19-20 วันที่ 12 มิ.ย. 55
ละคร ขุนเดช บทประพันธ์ โดย: สุจิตต์ วงศ์เทศ
ละคร ขุนเดช บทโทรทัศน์ โดย : แพรพริมา
ละคร ขุนเดช กำกับการแสดง โดย : สยาม น่วมเศรษฐี
ละคร ขุนเดช ผลิต โดย : บริษัท พอดีคำ จำกัด โดยธงชัย - มณีรัตน์ ประสงค์สันติ
ละคร ขุนเดช แนวละคร โดย : ดราม่า แอ็คชั่น อิงประวัติศาสตร์
ละคร ขุนเดช ออกอากาศ : วันพุธ-วันพฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ที่มา ไทยรัฐ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น