
อ่านละคร ภูผาแพรไหม ตอนที่ 6 วันที่ 19 มิ.ย. 55
พิพัฒน์พยักหน้ารับรู้ พลางมองรูปและจดจำชื่อรุ่นกระเป๋า โดยไม่รู้ว่าสองน้าหลานแอบส่งยิ้มให้กันอย่างสมใจooooooo
หลังแยกย้ายกับทวีปที่ร้านอาหารแล้ว ภูผาแวะมาที่โรงพยาบาล พอรู้ว่าวันนี้แพรไหมไม่ได้มาขอโทษชัย ภูผามีสีหน้าท่าทีโมโหขึ้นมาทันที
“แต่น้าเขามาหาแม่นะ ขอโทษขอโพยแทนคุณแพรจนแม่เกรงใจ แล้วแก้วก็เล่าว่าเจอพี่สาวคุณแพรจะมาขอโทษชัย แต่เปลี่ยนใจไม่เข้ามาเพราะจะให้คุณแพรมาเอง”
“คอยตามล้างตามเช็ดให้กันอย่างนี้น่ะสิ คุณแพรถึงเป็นเด็กไม่รู้จักโต ไม่รู้จักรับผิดชอบความผิดตัวเอง”
“แกเข้าใจผิด คุณแพรเป็นผู้ใหญ่มาก แล้วพี่ก็เชื่อว่าวันนี้คุณแพรตั้งใจมาจริงๆ แต่อาจจะมีธุระด่วนเลยมาไม่ได้...พรุ่งนี้เธอคงมา”
“เลิกหวังอะไรลมๆแล้งๆจากผู้หญิงขี้โกหกคนนี้ซะทีเถอะครับ พี่ชัยจะได้ไม่ต้องเสียใจอีก ผมลืมของไว้ที่รถเดี๋ยวมานะครับ”
ภูผาไม่ได้ลืมของอย่างที่บอก แต่เขาออกไปโทร.ต่อว่าแพรไหมเป็นการใหญ่ แพรไหมฟังจนหูชาแล้วตัดบทว่า พรุ่งนี้ตนไปแน่!
ooooooo
เช้าวันรุ่งขึ้น พิพิธตั้งใจจะไปหาแสงมณีที่บ้านแต่โชคดีที่ไม่ไปเก้อเพราะโทร.ไปถามดวงใจก่อนถึงรู้ว่าเธอไม่อยู่ ซึ่งดวงใจไม่ได้บอกว่าเธอไปเที่ยวปางช้างแต่โกหกว่าไปธุระกับพี่ชายและไม่รู้ว่าจะกลับตอนไหนด้วย
สาเหตุที่ดวงใจต้องโกหกก็เพราะต้องการให้แสงมณี มีโอกาสพูดคุยกับภูผาตามสบาย แต่ดูเหมือนทั้งแสงมณีและดวงใจจะต้องผิดหวังเสียแล้ว เพราะงานนี้ภูผาพาทวีปมาด้วยในฐานะองครักษ์ฝีมือดีที่สุดที่ลูกน้องในบริษัทของตนไม่มีใครสู้ได้เลย
ด้านแสงฉายที่แวะไปรับแพรไหมถึงบ้าน แพรไหมไม่ได้อยากไปด้วยสักหน่อย แต่เธอถูกศุภลักษณ์บังคับจนหมดทางปฏิเสธ ฝ่ายพันทิญาที่ไม่เกี่ยวอะไรด้วยแต่เธออยากไปจึงอ้างว่าจะได้เป็นเพื่อนแพรไหม ศุภลักษณ์ยอมให้ไปแต่ไม่ยอมให้นั่งรถคันเดียวกันทั้งสามคน พันทิญาจึงต้องขับรถของตนไปเอง
ก่อนออกจากบ้าน แพรไหมแอบส่งข้อความบอกปรางแก้วว่าตนมีธุระยังไปหาชัยไม่ได้ ปรางแก้วอ่านแล้วตอบกลับมาทันทีว่า จะมาเมื่อไหร่ขอให้บอกตนจะได้พาป้าบุญศรีออกจากห้อง...แพรไหมเห็นข้อความนั้นแล้วยิ้มสบายใจ แต่แสงฉายหน้านิ่วสงสัยในพฤติกรรมของเธอ
ส่วนที่โรงพยาบาล หมอตรวจอาการชัยก่อนจะอนุญาตให้กลับบ้านได้วันนี้ ปรางแก้วดีใจจะโทร.บอกภูผากับทวีป แต่บุญศรีห้ามไว้เพราะไม่อยากรบกวนเวลางาน รอให้ภูผาโทร.มาแล้วค่อยบอกจะดีกว่า
เมื่อคณะของแสงฉายไปถึงปางช้าง แสงฉายพยายามเอาใจแพรไหมเพื่อโอ้อวดภูผา ทำให้แพรไหมทั้งเซ็งทั้งเบื่ออยากจะกลับให้เร็วที่สุด แต่สำหรับพันทิญานั้นเพลิดเพลินคอยหาจังหวะใกล้ชิดแสงฉาย แต่เหมือนฝ่ายชายจะรู้ตัวจึงไม่เผลอไผลไปด้วย
ภูผาเห็นการเอาใจของแสงฉายที่มีต่อแพรไหมก็รู้สึกหวงอยู่ลึกๆ ส่วนทวีปกับแสงมณีก็ดูจะไม่ลงรอยกันเหมือนเดิม โดยเฉพาะตอนช้างที่แพรไหมนั่งวิ่งเตลิดไปเพราะตกใจแสงแฟลชกล้องถ่ายรูปพันทิญาแล้วแสงมณี จะขี่ช้างตามทุกคนที่ไปช่วยแพรไหม แต่ทวีปไม่ยอม จึงเกิดมีปากเสียงกันลั่น
“เจ้าจะตามไปทำไม”
“ถามได้ ก็ตามไปช่วยคุณแพรน่ะสิ”
“ช่วยยังไง”
แสงมณีนิ่งไปอย่างคิดไม่ออก ทวีปได้ทีตัดบทอย่างรวดเร็ว
“คิดไม่ออกว่าจะช่วยยังไงก็รออยู่นี่เถอะ”
“ช่วยไม่ได้อย่างน้อยก็ตามไปดูว่าคุณแพรเป็นยังไงบ้าง ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย”
“แต่ผมว่าเวลานี้ไม่ทำอะไรเลยดีกว่า เกิดเจ้าไปแล้วช้างเจ้าตื่นหรือโดนคนร้ายดักทำร้ายกลางทางจะวุ่นวายกันหนักเข้าไปอีก รออยู่นี่แหละครับ”
“แต่ฉันอยากไป”
“ผมขออนุญาตขัดใจเพื่อความปลอดภัยของเจ้าครับ”
แสงมณีไม่พอใจ ร้องเรียกธนาที่ยืนอยู่ด้านหลัง แต่ธนาตอบกลับมาทันทีว่า
“ผมเห็นด้วยกับผู้หมวดครับ”
แสงมณีเซ็งสุดๆ หันมองทวีปอย่างหงุดหงิดแล้วเดินไปนั่งหน้าตูมอยู่ในเต็นท์ คอยชะเง้อชะแง้รอคอยอย่างไม่เป็นสุข สักครู่ทวีปเดินเข้ามาทำทีชวนคุยแต่ความจริงหวังล้วงความลับเพื่อคดีของตน
“เครียดเหรอครับ”
“ช้างคุณแพรเตลิดเข้าป่าจะให้นั่งยิ้มสบายใจเหมือนคุณได้ยังไง”
“ผมก็ไม่ได้สบายใจนักหรอกครับ แต่รู้ว่าไอ้ภูต้องช่วยคุณแพรให้ปลอดภัยได้เลยไม่เครียด ผมว่าเรามาหาเรื่องคุยกันดีกว่านะครับ เจ้าจะได้หายเครียดบ้าง”
“คุยอะไร”
“เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมครับว่านักธุรกิจที่ซื้อขายแร่กับเจ้าแสงฉายมีใครบ้าง”
“ฉันไม่รู้ อยากรู้ก็รอถามพี่ชายเอาเอง” แสงมณีตอบเลี่ยงอย่างรู้ทัน แล้วลุกเดินหนีไปนั่งเก้าอี้อีกตัวเพื่อยุติการสนทนา
ooooooo
ในป่า...ช้างของแพรไหมวิ่งเตลิดมาถึงริมแม่น้ำ ภูผาขี่ช้างอีกตัวตามมาทัน เขาพยายามยื่นมือให้เธอจับ แสงฉายบนช้างอีกตัวมองมาไม่พอใจ ส่วนพันทิญาที่นั่งในเสลี่ยงข้างแสงฉายกลับยิ้มกริ่มชอบใจ
“คุณแพรส่งมือมา...ยืนขึ้นแล้วกระโดดมานะครับ ผมจะจับคุณไว้เอง”
แพรไหมจับมือภูผาแน่นแล้วรอจังหวะจะทำตาม แต่พอเธอจะโดด แสงฉายตัดสินใจโหนกิ่งไม้ใกล้ๆแล้วเหวี่ยงตัวมาหาเธอ และกอดปลอบเธอไว้ด้วยความรัก
“ไม่เป็นไรแล้วนะครับคุณแพร ไม่เป็นไรแล้ว”
ภูผาที่รอเก้อมองแสงฉายกอดแพรไหมด้วยรู้สึกเจ็บปวดแปลบอย่างบอกไม่ถูก ส่วนพันทิญารู้สึกอิจฉาแพรไหมจนแทบเก็บอาการไม่อยู่
แพรไหมไม่ได้ดีใจหรือพอใจที่แสงฉายช่วยตนไว้ แต่ออกจะรังเกียจเขาด้วยซ้ำ ไม่อยากให้เขาถูกเนื้อต้องตัว พอเธอขยับจะออกจากตักและอ้อมกอดของเขา กลายเป็นว่าเขายิ่งกอดแน่น พลางมองไปทางภูผาด้วย รอยยิ้มเย้ยๆ
ooooooo
ที่บ้านบุญศรี...ชัยเพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาเมื่อเช้า แต่พอบ่ายเขาก็อาบน้ำแต่งตัวใหม่เพื่อจะออกไปหาแพรไหมอย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรก
บุญศรีนั่งปักผ้าเพลินอยู่ พอเห็นลูกชายเดินออกมาก็อดแซวไม่ได้ว่า
“หอมฟุ้งมาเชียว อาบน้ำใส่ชุดใหม่ๆ ใส่น้ำหอมแบบนี้ลูกดูสดชื่นขึ้นเยอะเลย”
“จะออกไปหาคุณแพรก็ต้องทำตัวให้สดชื่นหน่อยสิครับ”
“นัดเขาแล้วเหรอ”
“ยังครับ ยังไม่ได้บอกเขาด้วยซ้ำว่าออกจากโรงพยาบาล เซอร์ไพรส์น่ะครับ”
ชัยยิ้มบางๆ จะเดินออกไป บุญศรีเหมือนนึกอะไรได้ลุกขึ้นเดินมาหา
“เดี๋ยวลูก...ถ้าทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่หวังก็กลับมาหาแม่ อย่าหนีแม่ไปไหนอีกนะ”
“คุณแพรออกตามหาผม คุณแพรมาเยี่ยมผมที่โรงพยาบาล ผมมั่นใจครับว่าคุณแพรยังรักผม คราวนี้ผมไม่ผิดหวังแล้วล่ะครับ” ชัยท่าทีมั่นใจมาก แต่สำหรับแม่บุญศรีนั้นไม่มั่นใจเอาเสียเลย
ooooooo
วันเดียวกันนี้ พิพัฒน์ตั้งใจมาหาพันทิญาที่ร้านแต่ไม่เจอ ศุภลักษณ์บอกเขาว่าพันทิญาออกไปเที่ยวปางช้างกับแพรไหมและเจ้าแสงฉายตั้งแต่สายๆแล้ว อีกไม่นานก็คงกลับ
“งั้นผมขออนุญาตรอคุณพันที่นี่นะครับ”
“ตามสบายค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
ในระหว่างพิพัฒน์รอพันทิญา ศุภลักษณ์มานั่งคุยอย่างเป็นมิตร ท่าทางนอบน้อมและภูมิฐานของพิพัฒน์ทำให้ศุภลักษณ์ค่อนข้างวางใจที่ลูกสาวคนโตจะคบด้วย
“เห็นยัยพันเล่าว่าร้านเพชรที่กรุงเทพฯติดใจเพชร ร้านคุณ สั่งของเพิ่มจนคุณแทบหาเพชรมาขายแทบไม่ทันเลยใช่ไหมคะ”
ผมโชคดีเพราะน้องชายน่ะครับ พิพิธออกแบบเก่งทำออกมาแล้วสวยทุกแบบเลยถูกใจลูกค้า”
“ยกความดีความชอบให้น้องชาย ไม่ยอมรับว่าบริหารธุรกิจเก่ง คุณนี่ถ่อมตัวน่าดูนะคะ”
พิพัฒน์กับศุภลักษ์คุยกันถูกคอ...ที่หน้าร้านชัยเดินตรงมาอย่างมีความหวัง แต่พอเห็นพิพัฒน์นั่งอยู่ในร้านก็ชะงักอย่างจำได้
“มานั่งเฝ้าเลยเหรอ” ชัยพึมพำ...แล้วเรียกพนักงานร้านคนหนึ่งที่เดินออกมาพอดี “คุณครับ...ผู้หญิงที่นั่งคุยกับผู้ชายคนนั้นใครครับ”
“คุณศุภลักษณ์เจ้าของร้านค่ะ”
“แม่คุณแพร...มิน่า เอาอกเอาใจไอ้คนรวยนั่นนัก” ชัยแอบบ่น...แล้วพูดกับพนักงานอย่างสุภาพว่า “ช่วยตาม คุณแพรให้ผมหน่อยครับ บอกเขาว่าคนชื่อชัยมาหา”
“คุณแพรไม่อยู่ค่ะ แต่ได้ยินคุณศุบอกว่าอีกไม่นานก็กลับ คุณเข้าไปรอในร้านก่อนนะคะ” พนักงานทำท่าจะเปิดประตูให้แต่ชัยรีบห้าม
“ไม่เป็นไรครับ ผมรอข้างนอกดีกว่า”
พนักงานพยักหน้าแล้วเดินออกไป...ชัยมองศุภลักษณ์กับพิพัฒน์พลางบ่นงึมงำกับตัวเอง
“แม่คุณแพรเห่อคนรวย คนจนอย่างเราเข้าไปเขาได้ตะเพิดออกมาน่ะสิ”
ooooooo
ที่ปางช้าง เมื่อแสงฉายและภูผาพาแพรไหมกลับมาได้อย่างปลอดภัย แสงมณีรีบวิ่งเข้าไปหา ถามไถ่แพรไหมด้วยความเป็นห่วง
“เจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ”
“ไม่ค่ะ ต้องขอบคุณเจ้าที่ช่วยฉันไว้ แต่จะขอบคุณกว่านี้ถ้าไม่ฉวยโอกาส”
“ผมไม่ได้ฉวยโอกาส แต่ที่กอดไว้เพราะกลัวคุณตกช้าง” แสงฉายอธิบาย
ทวีปเดินไปหาภูผาที่ท่าทางไม่สบอารมณ์เอาเสียเลย “ตอนขี่ช้างไปกินรังแตนมาเหรอวะ ทำไมหน้าบูดแบบนี้”
“แกก็ดูคุณแพรสิ บอกรู้สึกผิดกับพี่ชัยแต่ยอมให้เจ้าแสงฉายกอดมาตลอดทาง”
จังหวะนั้น เจ้าของปางวิ่งมานั่งคุกเข่าพนมมือไหว้ แสงฉายอย่างหวาดกลัว
“ผมต้องกราบขอประทานโทษเจ้าด้วยนะครับ ช้างคงตกใจแสงแฟลชเลยตื่น”
“นี่แกโทษว่าฉันเป็นคนทำให้ช้างตื่นเหรอ” พันทิญา แว้ดทันที
“มิได้ครับ ผมแค่อยากอธิบายว่าปกติเวลามีคนถ่ายรูปไอ้ทองไม่เคยตกใจ แต่วันนี้มันเป็นอะไรไม่รู้ จู่ๆก็ตกใจแสงแฟลชของคุณ เป็นความผิดของช้างผมเองครับ ผมต้องขอประทานโทษด้วยครับ”
“มันเป็นเหตุสุดวิสัย ผมเข้าใจ”
“ขอบคุณครับเจ้า”
“ฉันไม่มีกะจิตกะใจจะเที่ยวต่อแล้ว กลับกันเถอะค่ะ” แพรไหมโพล่งขึ้นมา แสงฉายไม่ค่อยพอใจแต่ก็ไม่ขัดใจเธอ
“งั้นพี่กลับเลยนะ เอารถมาคนละคันอยู่แล้ว” พันทิญาชิงขอตัว
“ค่ะ แพรเข้าห้องน้ำล้างเนื้อล้างตัวแล้วจะกลับเลยเหมือนกัน”
พอแพรไหมออกเดินไปสักครู่ ภูผาก็ทำเนียนเดินไปบ้างเหมือนกัน แล้วไปดักรอเธอตรงหน้าห้องน้ำ เมื่อแพรไหมออกมาเห็นจึงรีบออกตัวเพราะกลัวเขาจะต่อว่า
“เมื่อกลางวันฉันตั้งใจไปหาคุณชัย แต่เจ้ารับมาที่นี่ซะก่อนเลยไม่ได้ไป”
“คุณก็บอกเจ้าไปสิว่ามีธุระมาไม่ได้ หรือไม่กล้าขัดใจเพราะกลัวเจ้าไม่แต่งงานด้วย”
“ฉันตอบคำถามคุณไม่ไหวหรอกค่ะ เอาเป็นว่ากลับถึงร้านฉันจะรีบออกไปหาคุณชัยทันที”
“ถ้าคุณผิดคำพูดอีก วันนี้เจ้าแสงฉายได้รู้เรื่องคุณกับพี่ชัยแน่”
แพรไหมกลัวแต่แกล้งมองภูผาอย่างแบบเชิดๆแล้วเดินออกไป พอไปถึงรถซึ่งแสงฉายรออยู่ แพรไหมหยิบกระเป๋าสะพายและหยิบมือถือออกมา จึงพบว่าปรางแก้วส่งข้อความมาบอกว่าชัยออกจากโรงพยาบาลแล้ว
เธอยิ้มดีใจจะโทร.หาพันทิญา แต่เห็นแสงฉายมองอยู่จึงเปลี่ยนใจเก็บมือถือใส่กระเป๋าแล้วหันมองไปนอกรถ
ooooooo
พิพัฒน์นั่งอ่านนิตยสารรอพันทิญาอย่างใจเย็น แต่เมื่อมองไปหน้าร้านเห็นชัยเดินป้วนเปี้ยนอยู่ เขาจำผู้ชายคนนี้ได้จึงลุกออกไปถามซึ่งหน้าว่า มาทำอะไรที่นี่?
“มาหาคุณแพร”
“คุณก็เห็นแล้วว่าเขาเกลียดเขากลัว ทำไมคุณไม่เลิกยุ่งกับเขาซะที”
“ไม่จริง คุณแพรรักผมเคยเป็นแฟนกับผม เขาจะเกลียดจะกลัวผมได้ยังไง ที่คุณพูดอย่างนี้เพราะคุณอยากให้ผมเลิกยุ่งกับคุณแพร”
“เคยเป็นแฟน...ทำไมคุณถึงสร้างจินตนาการให้ตัวเองเก่งอย่างนี้ ถามจริงๆ คุณมีญาติพี่น้องบ้างไหม”
“ถามโง่ๆ ใครจะไม่มีญาติพี่น้อง”
“มีแล้วทำไมพวกเขาไม่พาคุณไปรักษา คุณจะได้ออกจากโลกจินตนาการของคุณแล้วใช้ชีวิตแบบคนปกติได้”
“ชีวิตผมปกติดี เพราะผมไม่ได้บ้า”
“ไม่ได้บ้าเหรอ ไม่ได้บ้าแล้วจะเรียกชื่อคนผิดๆ ถูกๆได้ยังไง ผมจะบอกให้นะว่าผู้หญิงที่คุณเรียกว่าแพรไม่ได้ชื่อแพร แต่ชื่อ...”
“แพรไหมค่ะ” เสียงพันทิญาแทรกขึ้นมาจนสองหนุ่ม ต้องหันไปมอง
ชัยดีใจมากเมื่อเห็นเธอ...พันทิญารีบจัดแจงเพื่อไม่ให้ตัวเองเสีย เธอบอกพิพัฒน์ว่าขอคุยกับชัยเป็นการส่วนตัวสักครู่...พิพัฒน์ยินยอมทั้งๆที่เป็นห่วงเธอ
อ่านละคร ภูผาแพรไหม ตอนที่ 6 วันที่ 19 มิ.ย. 55
ละครภูผาแพรไหม บทประพันธ์โดย : โสภี พรรณราย
ละครภูผาแพรไหม บทโทรทัศน์โดย : ปัณณภัทร-ชาติญา
ละครภูผาแพรไหม กำกับการแสดงโดย : ชูศักดิ์ สุธีรธรรม
ละครภูผาแพรไหม ผู้จัดละครโดย : ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา
ละครภูผาแพรไหม ผลิตในนาม : บริษัท ฮูแอนด์ฮูจำกัด
ละครภูผาแพรไหม แนวละคร : โรแมนติก-ดราม่า-แอ็คชั่น
ละครภูผาแพรไหม ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 20.30 น.
นำแสดงโดย: ปอ ทฤษฎี , แต้ว ณฐพร , เป๊ก เปรมณัช , โจอี้ อรวิภา , บอย พิษณุ , จอย รินลณี
ละครภูผาแพรไหม เริ่มออกอากาศวันแรก วันพุธ ที่ 7 มิถุนายน 2555 ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่ีมา ไทยรัฐ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น