วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อ่านละครปิ่นอนงค์ ตอน 8 วันที่ 28 มิ.ย. 55

อรสอางค์โล่งอกที่อุทัยหายสงสัย ใหญ่ดึงปิ่นอนงค์นั่งร่วมโต๊ะ ครองสุขหยั่งเชิงทำเป็นตื่นเต้นถามว่าเขามาที่นี่ได้อย่างไร ใหญ่ยิ้มเหยียดๆ เล่าว่าตนเกือบตายอยู่ในป่า ดีที่ได้จอมช่วยไว้

ครองสุขแค้นแต่แสร้งทำตกใจ “คุณพระช่วย ทำไมน้าไม่รู้เรื่อง ไม่เห็นมีใครบอกเลย”

ใหญ่ โอบไหล่ปิ่นอนงค์ “ผมกับแฟนเข้าไปเที่ยวจู๋จี๋กันในป่า พรานมันเข้าใจผิดว่าผมเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ก็เลยทำร้ายผมน่ะครับ...พอรอดมาได้ก็อยากพาแฟนเที่ยวปลอบขวัญเสียหน่อย”

ปราง ทิพย์จะอ้าปากถาม ทรรศนะกับทัศนีย์กลับเข้ามาเสียก่อน สายตาปิ่นอนงค์มองทรรศนะอย่างผิดหวัง ทัศนีย์ทักเสียงอ้อแอ้...ขณะเดียวกัน พรานแจ้งที่จอมพามาทำแผลอนามัยตำบล ฉวยโอกาสหนีเข้าไปในไร่ข้าวโพด แต่โชคร้ายถูกรถไถคันใหญ่ถอยมาทับตาย

ใหญ่กำลังป่วนครองสุขกับทรรศนะ ให้ขายหน้า อรสอางค์ขอเปิดไวน์อย่างดี ครองสุขจะค้านแต่ใหญ่อนุญาต ปรางทิพย์เห็นความใจปํ้าของใหญ่เริ่มสนใจ ครองสุขไม่วายแอบใส่ไฟว่าใหญ่สติไม่ค่อยเต็ม ไพศาลถึงยกมรดกให้ทรรศนะ แต่สองคนนี้ก็รักกันเหมือนพี่น้อง ปรางทิพย์จึงอวดอ้างบ้างว่าเพิ่งยกที่ดินแถวสีลมร้อยกว่าไร่ให้ลูกสาวเป็น สินสมรส ครองสุขตาวาว ต่างฝ่ายต่างคิดว่ารอดตายแล้ว...อุทัยอดทนทานอาหารจนเสร็จ ขอตัวไปรอที่รถ ครองสุขกับปรางทิพย์ต่างมองหยั่งเชิงว่าใครจะเป็นคนจ่าย บ๋อยนำบิลมาส่งให้ครองสุข เธอรับมาดูถึงกับมือไม้สั่นเพราะเป็นเงินแสนเจ็ด ทรรศนะกระซิบ แค่ไวน์ก็เหยียบแสนแล้ว ใหญ่อมยิ้ม

“มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง ถือว่าฉลองให้น้องชายผม” ใหญ่ปรบมือสองที

ปานเทพถือถุงเงินมาวาง “ในนี้มีเงินอยู่สักแสนแปด คงพอ”

ใหญ่ล้วงแบงก์ยับยู่ยี่ออกมา “เงินมันเยอะเลยไม่มีเวลานับ นับเอาเองนะน้อง ส่วนที่เหลือให้เป็นทิป”

ครองสุขกลืนน้ำลายเอื๊อกด้วยความเสียดาย

ปราง ทิพย์กระซิบลูกสาวประมาณว่าใหญ่รวยจริง ทุกคนจะกลับ ใหญ่ประกาศโพล่งขึ้น “ยังไปไม่ได้ครับ ผมมีเรื่องสำคัญจะแจ้งให้ทุกคนทราบ ผมกับปิ่นเราจะแต่งงานกัน กำหนดวันงานอีกสองวันข้างหน้า ขอเรียนเชิญคุณหญิงกับท่านปลัดไปเป็นเกียรติในงานด้วยนะครับ”

ทรรศนะ หน้าเสีย ครองสุขกับทัศนีย์ตะลึง มีอรสอางค์ที่เบ้ปากและว่าก็สมกันดี...พอทุกคนแยกย้ายกันกลับ ปานเทพรายงานใหญ่เรื่องพรานแจ้งตายแล้วและต่อว่าที่เอาเงินมาละลายเล่นแบบ นี้ ใหญ่โต้เป็นการลงทุนนิดหน่อย ปิ่นอนงค์มาได้ยินสะเทือนใจ

ในห้อง พักโรงแรม ปิ่นอนงค์ขอคุยกับใหญ่ แต่เขาขออาบน้ำก่อน เสร็จ เขาเดินออกจากห้องน้ำมาในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว เธอตกใจปิดตาจะเดินหนีออกจากห้อง ใหญ่กระชากตัวเธอกลับมาให้นั่งบนเตียง “ว่ามา มีอะไรจะคุยกับฉัน”

ปิ่นอนงค์ขยับห่างจากตัวใหญ่ “เรื่องแต่งงาน คุณใหญ่พูดเล่นใช่มั้ยคะ”

“ทำไมคิดว่าฉันพูดเล่น” ใหญ่ลุกพรวด

“เพราะเราไม่ได้รักกัน” ปิ่นอนงค์เสียงสั่นหวาดๆ

ใหญ่ เจ็บจี๊ดในใจ กลบเกลื่อนว่าไม่เห็นต้องรักกัน ก่อนหน้านี้มีคนเอาลูกสาวมาเสนอให้ตนตั้งหลายคน ทุกคนก็กรี๊ดตนดี ปิ่นอนงค์พยายามพูดให้จริงจัง

“ถ้าเป็นเรื่องหนี้สามแสน คุณใหญ่จับปิ่นเข้าคุกได้ไม่เห็นต้องบังคับให้ปิ่นแต่งงานด้วย”

ใหญ่แกล้งมองลามเลีย เธอถอยหนี เขาดึงมาปะทะอก “ถ้าฉันบอกเธอว่า ฉันชอบเธอล่ะ”

ปิ่น อนงค์ตาโพลง ใหญ่จ้องตาเธอ เผลอก้มหน้าจะจูบ เธอได้สติผลักเขาออก “ไม่จริง คุณใหญ่ต้องการแกล้งปิ่น เหมือนที่เคยกลั่นแกล้งมาตลอด คุณเป็นคนขาดความรัก คุณก็เลยไม่อยากเห็นใครมีความสุข”

“ใช่ ฉันชอบแกล้งเธอปิ่นอนงค์ ยิ่งเห็นเธอร้องไห้ บอกตรงๆฉันมีความสุขเป็นบ้า”

“ได้ค่ะ ปิ่นจะให้คุณแกล้งปิ่นจนกว่าจะสมใจ” ปิ่นอนงค์เสียใจเดินหนีออกจากห้อง

ใหญ่มองตามพึมพำ “ฉันจะทำให้เธอเป็นปิ่นอนงค์ที่ใครๆก็ต้องอิจฉา...”

วัน รุ่งขึ้น ปานเทพพาปิ่นอนงค์ไปเลือกซื้อเสื้อผ้าแบรนด์ดังๆ เธอไม่ยอมเลือกเพราะเห็นว่าราคาแพง เขาต้องขู่และหลอกต่างๆนานากว่าจะได้เสื้อผ้ามาเต็มกระเป๋า

ปลอดอด ไม่ได้ที่จะถามใหญ่ ทำไมต้องลงทุนถึงขนาดแต่งงาน ใหญ่ตอบเลี่ยงๆว่าตนจะใช้ปิ่นอนงค์หาความจริงเรื่องการตายของพ่อ สำเร็จเมื่อไหร่จะเลิก กับเธอทันที แต่ปลอดเตือนว่าผู้ชายตายน้ำตื้นเพราะผู้หญิงมานักต่อนัก แม้แต่ไพศาล และที่สำคัญปิ่นอนงค์อาจถูกส่งมาหลอกเขาก็ได้ เอาหลักฐานมาต่อสู้ทางศาลก็น่าจะพอและเร็วกว่าด้วย ใหญ่สารภาพ

“ผมไม่กล้ายืนพูดต่อหน้าศาล ผมกลัว กลัวที่ต้องเล่าอดีตของผมกับพ่อให้ใครต่อใครรู้ ผมเจ็บทุกครั้งที่เห็นพ่อเกลียดผม”

ปลอด อึ้งเมื่อรับรู้ความรู้สึกของเขา...ใหญ่กลับมาหาปิ่นอนงค์ที่ห้องพัก เห็นเธอหายไปก็ตกใจ ออกตามหา ปิ่นอนงค์เดินมาถามเขากำลังทำอะไร ใหญ่กลบเกลื่อนว่าออกมาดูวิวแล้วย้อนถามเธอไปไหนมา เธอตอบว่าเอาของที่แม่บ้านทำความสะอาดลืมไว้ไปคืน ใหญ่บอก ธุระให้เธอกลับไร่กับปานเทพก่อน อีกสองวันตนจะตามไป เธอถามทำไมไม่กลับด้วยกัน

“ทำไมจ๊ะ กลัวจะทนคิดถึงว่าที่สามีไม่ไหวหรือไง เอ๊ะหรือว่า จะวางมัดจำไว้ก่อนดี” ใหญ่จุ๊บแก้มเธออย่างรวดเร็ว “อีกสองวันเจอกันที่ไร่ ฉันมีเซอร์ไพรส์ให้เธอ”

ปิ่นอนงค์กุมแก้ม หัวใจเต้นโครมครามพูดไม่ออก มองเขาเดินไป

ooooooo

ครอง สุขกลับมา อุ่นเรือนรีบขอร้องให้ช่วยปิ่นอนงค์ ที่โดนใหญ่ลากไปกรุงเทพฯด้วย ครองสุขโวยวายใส่ หาว่าตีหน้าซื่อ ทั้งที่หลอกลวงทั้งแม่ทั้งลูก ธีระซึ่งถูกขังอยู่ทุบประตูโครมๆ ครองสุขได้ยินมาช่วย เขารายงานเรื่องทั้งหมด ครองสุขยิ่งเครียดจัด
ปิ่นอนงค์กลับมาในชุดสวย ดูเหมือนดารา จนคนในไร่ตื่นเต้นยกใหญ่ ปานเทพประกาศให้ทุกคนรู้ว่า อีกสองวันจะมีงานมงคลสมรสของใหญ่กับปิ่นอนงค์ ทุกคนตกตะลึง อุ่นเรือนไม่ยอม ปิ่นอนงค์พยายามอธิบายเหตุผล

“ปิ่นเป็นหนี้คุณใหญ่ แม่ก็รู้ แต่งงานแค่นี้เรื่องเล็กน้อยมาก ถ้าแลกกับการที่ต้องติดคุก”

อุ่น เรือนร้องไห้ฟูมฟาย ปิ่นอนงค์เครียดและเสียใจไม่น้อย เธอมาหลบพักใจที่บ้านจินตนา ขอร้องอย่าตอกย้ำเรื่องอะไร ตนอยากได้คนปลอบใจบ้าง จินตนาสงสารเพื่อนจับจิต

“โอเค เราไม่พูดก็ได้ เธอจะเอายังไงก็เอา โอ๊ย...แต่ยังไงเราก็อยากรู้ว่าปิ่นยอมแต่งกับคุณใหญ่เพราะอะไร”

“เราไม่รู้ เราแค่อยากจะทำอะไรก็ได้ที่ทำให้ตัวเองเจ็บมากยิ่งดี เราเกลียดตัวเอง เกลียดสิ่งที่เราเป็นอยู่”

“แบบ นี้เขาเรียกว่าประชดชีวิต แล้วเธอจะพบเองว่า มันไม่ใช่ทางแก้ปัญหา แต่เป็นการทำร้ายตัวเอง คิดใหม่อีกทีนะปิ่น” จินตนาโอบกอดเพื่อนรัก...

ใน ขณะที่ทางไร่ ถวิลกับปานเทพคุมคนงานจัดสถานที่อย่างสวยงาม อรสอางค์เห็นแล้วเปรยกับครองสุขว่า งานของตนต้องใช้ดอกทิวลิปที่สั่งจากฮอลแลนด์ หรือตุรกีเท่านั้น ครองสุขแอบเบ้ปากอย่างหมั่นไส้ ทัศนีย์ก็ถูกปานเทพบังคับให้จัดพานขันหมาก เธอโวยวายไม่ยอมทำ เขาจึงส่งเธอไปเก็บขี้วัวและให้คนงานมาทำแทน เธอโกรธแค้นตักขี้วัวไปสาดใส่ปิ่นอนงค์ จอมเอาตัวบังไว้ ทัศนีย์เจ็บใจ เยาะเย้ยให้ระวังตัวไว้ เพราะใหญ่เป็นซาดิสต์ ตนเห็นมากับตา จอมขอร้องปิ่นอนงค์ให้เปลี่ยนใจ แล้วหนีไปกับตน เธอบอกเขาว่า ไม่ต้องห่วงตนจะกอบโกยให้คุ้ม จอมแทบไม่เชื่อหู วิ่งหนีเตลิดไปด้วยความเสียใจ

ปิ่นอนงค์ยืนเศร้าหมดอาลัยตายอยากใน ชีวิต ทรรศนะเดินมาเจอ “นี่ปิ่นอนงค์เหรอ ปิ่นแต่งตัวอย่างนี้สวยยังกะนางฟ้า พี่แทบจำไม่ได้เลยรู้มั้ย ตอนแรกนึกว่านักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ”

ปิ่นอนงค์เกรงทำใจไม่ได้ เดินเลี่ยงหนี เขาตามมายืนขวาง

“ไม่อยากพูดกับพี่เหรอ พี่ขอโทษเรื่องที่ไม่ได้ตามไปช่วยปิ่น เพราะว่า...”

“ไม่เป็นไรค่ะ คุณใหญ่ไม่ได้ทำร้ายปิ่น”

ทรรศนะ ขัดใจอยากให้ปิ่นอนงค์เกลียดใหญ่ จึงแกล้งเปรย เธอชอบใหญ่จริงหรือ ตนไม่ห้ามหรอกแค่อยากแสดงความยินดี ใหญ่มีเงินทองมากมายแม้จะเป็นเงินไม่ค่อยสุจริต แต่ก็ทำให้เธอสุขสบาย ไม่ต้องรับใช้ใครอีก ปิ่นอนงค์ผิดหวัง ประชดกลับว่าใช่ ตนต้องการยกระดับตัวเองให้สูงเหมือนเขา จะได้พ้นสภาพโดนจิกหัวใช้

“ปิ่นพูดเหมือนกำลังโกรธแค้นใครอยู่ ปิ่นมีอะไรทุกข์ใจ ปิ่นเล่าให้พี่ฟังได้นะ อย่าเก็บเอาไว้ในใจคนเดียว” ทรรศนะกุมมือเธอ

“คุณนะมีเวลาฟังความในใจของปิ่นเหรอคะ”

ทรรศนะ บอกว่า เขามีเวลาให้เสมอ ไม่ทันไร เสียง อรสอางค์เรียก ทรรศนะปล่อยมือทันทีรีบวิ่งไปหา อรสอางค์ไม่เห็นปิ่นอนงค์เพราะพุ่มไม้บัง ทรรศนะประคองแฟนเดินกลับ ปล่อยปิ่นอนงค์มองตามด้วยความสะเทือนใจ

จาก ที่จอมเตลิดไป เขาดื่มเหล้าจนเมา เห็นเจิด กับก้านกลับมาที่ไร่ ยังพอมีสติจำได้ จะจับตัวทั้งสองคน แต่กลับถูกซ้อมจนสลบ เปี๊ยกผ่านมาช่วย สองคนหนีไปได้

ooooooo

ถึงวันงาน จินตนา น้อย และช่างเสื้อที่ใหญ่ส่งมา แต่งตัวให้ปิ่นอนงค์ในชุดไทยประยุกต์สวยสง่าจน

ทุก คนเห็นแล้วต้องตะลึง ทัศนีย์แขวะว่าไปเช่าจากพาหุรัดหรือสำเพ็ง ช่างตอบว่า ตัดจากห้องเสื้อหรู ผ้าไหมจากอิตาลี ประดับด้วยเพชรแท้ มูลค่ากว่าสามแสน ทัศนีย์อิจฉา

“เชอะ ใส่ของดีไปก็เท่านั้น เดี๋ยวคืนนี้ก็คงโดนฉีกทึ้งเป็นชิ้นๆ ยับเยินทั้งชุดทั้งคน จริงมั้ยจ๊ะ ปิ่นอนงค์” ทัศนีย์เยาะแล้วสะบัดหน้าหนีไป ปิ่นอนงค์หน้าเสีย

สะใจ ไม่ทันไร ทัศนีย์โดนปานเทพใช้ให้ถือพานของชำร่วยคอยแจกแขกที่รดน้ำ ภายในงานมีทั้งฝรั่งและคนไทยลูกค้าที่มาพัก รวมทั้งคนงานในไร่ที่ใหญ่เชิญมาร่วมงาน อรสอางค์ ครองสุข และทรรศนะยืนหน้าบูดอยู่มุมหนึ่ง เพราะโดนบังคับให้มา จิ๋วอดแขวะไม่ได้ หวังว่าเจ้าบ่าวคงไม่คาดผ้าขาวม้า สวมสร้อยสังวาลเหมือนลิเกมา ไม่ทันไร ต้องตาค้าง เมื่อเห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในงาน

ด้วยชุดสูทขาว หรู ผมเผ้าหน้าตาสะอาดหล่อเหลา ถวิลเข้ามาต้อนรับถามว่าเป็นแขกทางเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาว น้อยกับหวานแย่งกันพาเข้างาน  ใหญ่ตอบว่าตนเป็นเพื่อนปาน ป่าหวาย พอปานเทพหันมาเห็นรีบทัก

“เฮ้ย เจ้าบ่าว ทำไมถึงมาช้านักวะ” ปานเทพประกาศให้ทุกคนในงานรู้จักใหญ่ หรือชาลิต ลูกชายคนเดียวของไพศาล เจ้าของไร่แห่งนี้

ครอง สุขกับอรสอางค์ตาโพลง ตะลึงงัน...น้อยหน้าตื่นวิ่งไปตามเจ้าสาวให้รีบออกไป จินตนาถามว่าใหญ่ก่อเรื่องอะไรอีก น้อยให้ออกไปดูเอง ทัศนีย์เสียดายโมโหพาลต่อว่าครองสุข

“ไหนคุณน้าบอกว่าตัวเองฉลาดนักหนาไงคะ โง่ๆอย่างนังปิ่นยังให้มันหลอกเอาได้”

“ตื่นเต้น อะไรกันนักหนา ก็แค่โกนหนวดโกนเครา มันล้างคราบโจรไม่ได้หรอก ใช่มั้ยพี่จิ๋ว” อรสอางค์หมั่นไส้ แต่จิ๋วยังอ้าปากค้างตะลึงอยู่

จินตนาพาปิ่นอนงค์เดินออกมา ทรรศนะและ

ทุกคนตะลึงอีกครั้ง ใหญ่หันมาเห็นยืนอึ้ง ปิ่นอนงค์เองก็ตะลึงกับลุคใหม่ของใหญ่ จึงสะดุดชายผ้า ใหญ่โผเข้ากอดไว้ อดแหย่ไม่ได้ว่า

“ทำไม ตะลึงในความหล่อของว่าที่สามีหรือไงจ๊ะ”

ปิ่น อนงค์พอจะจำใหญ่ได้ ใหญ่ยิ้มประคองเธอเดินอวดกับทุกคนว่า เจ้าสาวของตนสวย ครองสุขหมั่นไส้ให้เริ่มพิธีได้ ใหญ่ตอบว่าต้องรอญาติผู้ใหญ่ก่อน ครองสุขโวยว่าอุ่นเรือนไม่มา ทำใจไม่ได้  ไม่ทันไร เสียงปืนดังเปรี้ยงขึ้นหนึ่งนัด ตามด้วยขบวนเถิดเทิง ถืออ้อย กล้วย พาน ขนมตามพิธีไทยโบราณ ปลอดนำทีมแห่เข้ามา ครองสุขมองหน้าอย่างคลับคล้ายคลับคลา
ปลอดเข้ามาทักครองสุข ปานเทพแนะนำว่าพ่อตนเอง ครองสุขนึกออกทันที ปลอดประกาศให้เริ่มพิธีได้ เสียงกลองยาวบรรเลงอย่างสนุกสนาน ปานเทพกับปลอดแจกซองเงินให้คนงานทุกคนถ้วนหน้า ใหญ่เอ่ยชื่อคนงานแทบทุกคน สร้างความประทับใจให้พวกเขา

อรสอางค์สุดทน ลากทรรศนะออกมาจากงาน โวย “พวกคุณเป็นอะไรกันไปหมด พวกมันมีแต่โจรห้าร้อย อาวุธครบมือ ทำไมไม่รีบแจ้งตำรวจมาลากคอพวกมัน อรจะโทร.เอง”

“อย่านะอร เราไม่มีหลักฐานว่าเขาไปฆ่าใคร จี้ปล้นใคร ตำรวจไม่ฟังเราหรอก”

“ถ้ายังงั้นก็รีบๆขายไร่นี่ซะ แล้วกลับไปอยู่กรุงเทพฯกับอร”

“ผมทำอย่างนั้นแน่ๆ แต่อรต้องใจเย็นๆก่อน รอคำสั่งศาลอีกสักหน่อย ไม่นานหรอก”

“อย่าลืมที่พูดก็แล้วกัน แต่วันนี้อรไม่ร่วมสังฆกรรมกับไอ้พวกคนชั้นต่ำแบบนี้ อรรับไม่ได้ พี่จิ๋ว กลับห้อง” อรสอางค์สะบัดหน้าเดินไป

พิธี เริ่มขึ้นด้วยการที่ปลอดให้คนวางพานขันหมากที่เต็มไปด้วยเครื่องเพชร เครื่องทองครองสุขตาวาว ปิ่นอนงค์สีหน้าเรียบเฉยไม่ตื่นเต้น แสงเฟสชจากช่างภาพถ่ายกันวูบวาบ ใหญ่สวมแหวนให้เจ้าสาว  เธอเหลียวมองหาอุ่นเรือน เจอสายตาทรรศนะจึงชะงัก

ถึงพิธีรดน้ำ ปิ่นอนงค์เห็นแม่มายืนมองแต่ไม่ยอมเข้ามารดน้ำ เธอน้ำตาร่วง ครองสุขรดน้ำให้อย่างไม่เต็มใจ ทรรศนะไม่รดน้ำให้ใหญ่แต่รดให้ปิ่นอนงค์และมอบดอกปีบที่มัดเป็นกำให้ เอ่ยปากชม “วันนี้ปิ่นสวยมาก สวยจนละลายหัวใจผู้ชายทั้งงาน รวมทั้งพี่ด้วย”

“ปิ่น เขาไม่ชอบผู้ชายเหยาะแหยะที่นิยมเกาะชายกระโปรงผู้หญิงกินหรอก จริงมั้ยจ๊ะปิ่น” ใหญ่คว้าดอกปีบมาบีบคามือและบอกเธอว่า โทษทีกลัวมดมันจะกัดเอา

เสร็จพิธี จินตนาเก็บสินสอดทองหมั้นใส่กระเป๋า ครองสุขกับธีระเข้ามา จะเอากระเป๋าไปเก็บไว้เอง จินตนาไม่ให้ สองคนยื้อแย่งกันยกใหญ่ ปลอดเข้ามาเอ็ดให้หยุด

“ไม่ต้องมาเสนอหน้านายปลอด แกมันก็แค่คนงานที่โดนคุณไพศาลไล่ออกไปแล้ว โดนไอ้ใหญ่ยกหางให้หน่อย มาทำตวาดฉัน”

ปลอด ชี้หน้า “คุณนายเองก็เถอะ อย่านึกว่าทำอะไรเอาไว้แล้วจะไม่มีใครรู้ คราวนี้ไม่ง่ายเหมือนในอดีตหรอก ถ้าคุณใหญ่เป็นอะไร ไปเพราะใคร ผมจะฆ่าพวกมันยกครัว”

ครองสุขหน้าซีด ปานเทพยุส่งให้จับมัด เธอโวยวายวิ่งหนีไป ปลอดสั่งลูกชายอย่าให้ใครมาปอกลอกเงินใหญ่ไปได้เหมือนที่เคยทำกับไพศาล จินตนามองสองพ่อลูกอย่างสงสัย

หลังจากนั้น ถวิลนั่งดื่มกับปลอด เขาอึดอัดใจมาก ระบายเรื่องในอดีตหลังจากที่ปลอดถูกไล่ออกไปแล้วให้ฟังว่า ตั้งแต่ไพศาลป่วย นอนพักบนเรือนใหญ่ ตนไม่เคยได้พบ จนกระทั่งรู้ข่าวท่านตายเพราะหัวใจล้มเหลว ตนเสียใจมาก ปลอดให้ถวิลจำไว้ว่า ใหญ่ไม่ได้เป็นเสือ

เป็นโจร และฝากช่วยดูแลด้วย ปลอดถามถึงนิสัยใจคอของปิ่นอนงค์ ถวิลรับรองว่าเป็นเด็กดี แต่กลัวครองสุขทั้งแม่และลูก ปลอดคิดสักพักแล้วกระซิบกับถวิลให้ช่วยทำอะไรบางอย่าง

ooooooo

ภาย ในห้องหอ บนเตียงจัดแต่งด้วยกุหลาบแดงสวยงาม ปิ่นอนงค์นั่งมองดอกปีบที่ช้ำแล้วน้ำตาคลอ ก่อนจะใส่ในสมุดที่เธอทับดอกปีบครั้งก่อน พึมพำตนจะเลิกคิดถึงทรรศนะอีก

ใหญ่โผล่มาดึงสมุดจากมือ “ไอ้นะมันมีดีอะไร ทำไมถึงได้หลงใหลมันนักหนา รู้ทั้งรู้ว่ามันมีแฟนอยู่ ยังยอมโง่ให้มันหลอก”

“แล้วคุณใหญ่ล่ะคะ เคยหลอกปิ่นบ้างหรือเปล่า”

“ฉันจริงใจกับเธอมากที่สุดแล้วปิ่นอนงค์”

“ทำไม คุณใหญ่ถึงได้รู้ว่าปิ่นทำต้มบ๊วยหมูสับเป็น เพราะคุณใหญ่เคยเห็นปิ่นที่เก็บกระดูกคุณท่าน แถมยังแกล้งทำไม่รู้จัก คุณใหญ่มีจุดประสงค์อะไร นี่ใช่มั้ยคะที่เรียกความจริงใจ”

“เธอคิดจะ เฉไฉพาฉันออกนอกเรื่อง เพราะกลัวฉันจะเล่นงานไอ้นะ ก็เลยกุเรื่องบ้าบอนี่ขึ้นมา” ใหญ่อึ้งเมื่อรู้ว่าเธอจำตนได้ แกล้งกลบเกลื่อน

“คุณใหญ่หลอกปิ่นได้ แต่หลอกตัวเองไม่ได้หรอกค่ะ ที่คุณใหญ่พูดปาวๆว่าเกลียดพ่อแล้วไปไหว้กระดูกท่านทำไม ถ้าไม่ใช่เพราะยังผูกพันกับท่านอยู่ ขอดอกปีบคืนให้ปิ่นเถอะค่ะ”

ใหญ่ พาลโยนสมุดลงกลางเตียง พอปิ่นอนงค์คลานไปหยิบ เขาก็แกล้งขู่จะทำให้เธอลืมทรรศนะในคืนนี้ ปิ่นอนงค์ตกใจ คว้าหมอนปาใส่ ใหญ่ปัดแล้วกระโจนใส่ เธอม้วนตัวหลบเสียงเขากระแทกลงบนเตียงดังโครม ปานเทพ ปลอด และพรรคพวกนั่งดื่มอยู่หน้าบ้านตกใจ วิ่งพรวดเข้ามาในห้อง เห็นใหญ่นอนบิดไปมาเจ็บหลังอยู่กลางเตียงที่หักยุบลง ส่วนปิ่นอนงค์นั่งหน้าตื่นตระหนกอยู่ปลายเตียง ทุกคนหัวเราะ ปานเทพบอกพ่อไปดื่มต่อ เอ่ยขอโทษใหญ่ขำๆ

“คุณใหญ่เจ็บมากมั้ยคะ ให้ปิ่นช่วยประคองขึ้นมามั้ย” ปิ่นอนงค์กล้าๆกลัวๆแต่ก็ห่วง

“ไม่ต้อง เพราะเธอทำให้ฉันขายหน้าลูกน้องหมด”

“เพราะ ปิ่นเหรอคะ คุณใหญ่ไม่เคยมองว่าตัวเองเป็นคนผิดบ้างเลย เห็นมั้ยคะให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว” ปิ่นอนงค์เดินไปนอนบนผ้าที่ปูไว้บนพื้น

ใหญ่โวยว่าตนจะนอนตรงไหน ปิ่นอนงค์ไม่สนใจพลิกตัวหันหลังให้เขา ใหญ่งึมงำฝากไว้ก่อน วันพระไม่ได้มีหนเดียว

ooooooo

วัน รุ่งขึ้น คนงานคุยกันโขมง เรื่องเตียงหัก อุ่นเรือนยังโกรธและเสียใจ ถวิลพยายามพูดให้เห็นใจลูกบ้าง แต่เธอยังเชื่อว่าลูกแต่งกับโจรจะมีความสุขได้อย่างไร...ในขณะที่ใหญ่เห็น ว่าถึงเวลาแล้วที่ตนจะเอาคืนพวกครองสุข ปานเทพเข้าใจว่า ใหญ่จะแสดงตัวต่อศาลว่ายังมีชีวิตอยู่ แต่กลับไม่ใช่ ใหญ่จะเอาคืนแบบล้างแค้น

เริ่มต้นด้วยใหญ่สั่งคนย้ายของทรรศนะออกจาก ห้องไปอยู่ที่รีสอร์ตแทน ตนจะกลับมาอยู่เรือนใหญ่ อรสอางค์โวยวายด่าว่าตามพินัยกรรมใหญ่ไม่ใช่เจ้าของที่นี่มีสิทธิอะไรมาทำ แบบนี้ ใหญ่ให้ครองสุขเอาพินัยกรรมออกมายืนยัน ครองสุขหน้าเจื่อนเกรงความแตกรีบบอกว่าให้ใหญ่ย้ายไปอยู่ห้องตน ตนจะไปอยู่รีสอร์ตเอง อรสอางค์ไม่พอใจตามถามครองสุขทำไมต้องยอม เธออ้างว่าพินัยกรรมอยู่ในตู้นิรภัยที่ธนาคาร ถ้าเอาออกมาเดี๋ยวโดนใหญ่เผาทิ้ง เธอพยายามปลอบว่าที่สะใภ้ให้ใจเย็น อีกไม่นานทุกอย่างก็จะเป็นของเรา อรสอางค์ หลุดปากออกมาว่า ไม่มีเวลาแล้ว ครองสุขถามว่าเวลาอะไร อรสอางค์อึกอักแก้ตัวว่า เวลาที่พ่อกับแม่ เร่งรัดมา
 ขอขอบคุณจาก thairath.co.th

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น