วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อ่านละครภูผาแพรไหม ตอน 9 วันที่ 29 มิ.ย. 55

งานศพชัยจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย มีญาติสนิทมาแสดงความเสียใจกับบุญศรีและภูผาไม่มากนัก แพรไหมก็มาแต่ถูกภูผาตราหน้าว่าเธอคือฆาตกรเลือดเย็น  แถมเขายังจะไล่เธอออกจากงานถ้าบุญศรีไม่เข้ามาห้ามไว้

“ใจเย็นๆนะลูก หนูแพรไม่ได้ฆ่าชัยนะ”

“ถ้าเขาไม่ใช้เสน่ห์เล่ห์กลหลอกให้พี่ชัยหลงรัก พี่ชัยก็คงไม่ทำร้ายตัวเองจนตายหรอก...ไม่ได้ฆ่าก็เหมือนฆ่านั่นแหละ”

ภูผา เลี่ยงไปอย่างหัวเสีย แพรไหมไหว้บุญศรีก่อนเดินเข้าไปจุดธูปหน้าโลงศพขอโทษชัยแทนพันทิญา แล้วกลับมานั่งเพื่อฟังพระสวด สักครู่ปรางแก้วเข้ามาคุยกับเธอด้วยความเห็นใจ ไม่ได้คิดว่าเธอทำให้ชัยตายแต่ตนเชื่อในเรื่องกรรม คิดว่าพี่ชัยคงทำบุญมาแค่นี้

“ขอบคุณมากนะคะคุณปรางแก้ว คุณทำให้แพรรู้สึกดีขึ้นจริงๆ อย่างน้อยก็ยังมีคนเข้าใจบ้าง ดีกว่าถูกมองอย่างรังเกียจเหมือนแพรเป็นฆาตกร”

“พี่ภูผาคงเสียใจมาก เขามีพี่ชายคนเดียว แล้วก็รักกันมากด้วยค่ะ”

แพร ไหมมองไปที่ภูผาด้วยความเข้าใจและเห็นใจ ส่วนทวีปที่อยู่กับภูผาก็ปลอบใจเขาว่าแพรไหมคงไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันเลว ร้ายแบบนี้ และบางทีพี่ชัยอาจจะรักเขาข้างเดียวก็ได้

“แต่ถ้าเขาไม่ให้ความหวัง พี่ชัยก็คงไม่รักเขามากจนยอมทำร้ายตัวเองเพื่อประชดเขา”

“เออ ฉันเข้าใจ แต่แกก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปทำร้ายเขา ในทางกฎหมายเขาไม่ได้ฆ่าพี่ชัยนะ”

“ใช่...กฎหมาย เอาผิดเขาไม่ได้ แต่พี่ชัยตายเพราะเขา เขาต้องรับผิดชอบ” ภูผาสีหน้าโกรธแค้น ทวีปหนักใจแทนเพื่อน มองเห็นความยุ่งยากรออยู่ข้างหน้า...

เช่นเดียวกับพันทิญาที่เมื่อ รู้ว่าแพรไหมไปงานศพชัย เธอกลัวเรื่องจะโยงมาถึงตัวถ้าแพรไหมเผลอพูดความจริงขึ้นมาว่าที่แท้คนที่คบ กับชัยคือเธอ แต่วนิดาปลอบหลานรักว่าไม่ต้องกลัว พันไม่ได้ฆ่ามัน ขอให้จำไว้ว่ามันฆ่าตัวตายเอง

ไม่ทันที่แพรไหมจะกลับจากงานศพ พันทิญาก็หน้าระรื่นออกไปเที่ยวกับพิพัฒน์ โดยได้รับการสนับสนุน จากวนิดาอีกเหมือนเคย ส่วนศุภลักษณ์ ถึงแม้จะไม่ขัดขวาง แต่เธอก็เตือนผ่านวนิดาว่า ถ้าเห็นพิพัฒน์ดีจริง พันทิญาก็ควรจะจริงจัง เลิกทำตัวเป็นแม่พวงมาลัยลอยไปลอยมาสักที เพราะผู้หญิงเจ้าชู้ไม่มีใครเขาว่าดีนักหรอก

วนิดาไม่พอใจเถียงแทนหลานสาวว่า “ใครจะดีเลิศประเสริฐศรีเหมือนยัยแพรลูกสาวคุณพี่ล่ะคะ”

“พี่ก็ไม่เคยคิดว่ายัยพันเป็นคนอื่น แต่ที่ต้องพูดเพราะพี่รู้จักยัยพันดีน่ะสิ” ศุภลักษณ์พูดจบก็ผละไป วนิดามองตามอย่างแค้นเคือง...

ส่วน ที่วัด แขกกลับกันหมดแล้ว ทวีปอาสาไปส่งบุญศรีที่บ้านโดยมีปรางแก้วตามมานอนเป็นเพื่อนด้วย เพราะภูผาขออยู่เป็นเพื่อนศพที่วัด ส่วนแพรไหมกลับไปถึงบ้านด้วยความไม่สบายใจ แล้วบังเอิญเห็นพิพัฒน์มาส่งพันทิญาและแสดงความรักกันหวานแหวว โดยฝ่ายชายมอบสร้อยคอให้ฝ่ายหญิงแล้วได้รางวัลตอบแทนเป็นการหอมแก้มหนึ่งฟอด นั่นยิ่งทำให้แพรไหมรู้สึกสลดหดหู่ถึงกับตำหนิพี่สาวหลังจากฝ่ายชายกลับไป แล้ว

“คนตายทั้งคน...พี่พันยังมีแก่ใจไปเที่ยวกับคนอื่น”

“ช่วยไม่ได้มันอยากโง่เอง...หลีกไป พี่ง่วง”

“พี่พันคะ พี่พันไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอคะ คุณชัยตายเพราะพี่พันนะคะ”

“ฉันไม่ได้ทำอะไรมันนะ มันฆ่าตัวตายเอง แล้วแกจะให้ฉันไปรับผิดชอบอะไรมัน”

“แต่ พี่พันคงปฏิเสธไม่ได้ว่าพี่พันทำให้เขารัก... เหมือนที่พี่พันทำให้คุณพิพัฒน์หลงรัก แต่คุณชัยโชคร้ายที่เขาอ่อนแอเกินกว่าจะทนรับความผิดหวังได้ พี่พันจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้นะคะ พี่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าทำอะไรกับเขาไว้”

“แกเป็นน้องไม่มีสิทธิ์มาสอนฉัน”

“แล้ว พี่พันมีสิทธิ์เอาชื่อแพรไปหลอกเขาเหรอคะ พอเขาตายพี่พันจะผลักภาระมาให้แพรรับผิดชอบ มันถูกแล้วเหรอ” แพรไหมระบายด้วยความคับแค้นใจ เพราะเธอต้องแบกรับความแค้นของภูผา แต่พันทิญาไม่สนแถมจ้องน้องสาวอย่างไม่พอใจ ก่อนจะสะบัดหน้าเดินเลี่ยงเข้าบ้านไป ทิ้งแพรไหมยืนน้ำตาคลอ จะทำอย่างไรดีกับสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ooooooo

แสง มณีแสดงน้ำใจต่อภูผาที่เคยช่วยชีวิตตนไว้ด้วยการชวนแสงฉายมางานศพชัยในคืน นี้ ซึ่งการมาของสองพี่น้องแน่นอนว่าต้องมีคนตามอารักขาอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกัน แพรไหมก็พยายามคะยั้นคะยอขอร้องพันทิญาให้มาร่วมงาน แต่ผลก็คือเธอถูกพี่สาวด่าอีกตามเคย

แพรไหมเดินทางมาคนเดียวแล้วมา เจอพวกแสงฉายที่วัด แสงฉายแสดงความไม่พอใจเนื่องจากระแวงในความสัมพันธ์ของแพรไหมกับภูผา แต่แสงมณีก็คลี่คลายบรรยากาศ ไปได้ก่อนพากันเข้าไปเคารพศพและฟังพระสวด

ขณะ จุดสนใจของทุกคนอยู่ที่พระ พวกนักฆ่าจากเชียงทวายที่นำโดยอโณทัยกับเพื่อนอีกสี่คนก็ลอบเข้ามาวางระเบิด ใต้ท้องรถแสงฉายหมายเอาชีวิตให้จงได้ แต่ระหว่างทางภูผากับทวีปตามมาช่วย หลังพบพิรุธจากชายสองคนที่ลานจอดรถในวัด

ภูผาช่วยชีวิตทุกคนในรถคันนั้นได้อย่างฉิวเฉียด เพราะเหลือเวลาอีกไม่ถึงห้านาที ระเบิดก็จะทำงาน

แพร ไหมซึ่งโดนแสงฉายบังคับให้นั่งรถมาด้วยตกใจมาก และพอรู้ว่าภูผาบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ก็เป็นห่วงรีบเข้าไปดู แต่ภูผากลับด่ากระทบจิตใจจนเธอยืนอึ้ง แทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่

จากนั้น ทวีปพาภูผาที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่แขนไปบ้านของตนเพื่อให้ปรางแก้วทำแผล เสร็จแล้วสองพี่น้องก็ช่วยกันเกลี้ยกล่อมภูผาให้เลิกอาฆาตแพรไหมเพราะเธอไม่ ได้ตั้งใจทำให้ชัยตาย แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล เพราะถึงแม้ภูผาจะไม่พูดอะไร แต่สีหน้าและแววตาของเขานั้นบ่งบอกว่าโกรธแค้น

ส่วนเรื่องที่เจ้าแสง ฉายถูกตามฆ่า ทวีปยังคิดไม่ตกว่าศัตรูของเจ้าคือใคร ขณะที่ภูผามั่นใจว่าเจ้าต้องรู้ ไม่งั้นคงไม่กล้าจ้างพวกเราแพงขนาดนี้
ด้านแพรไหมเมื่อกลับไปถึงบ้านก็รีบเล่าเรื่องเฉียดตายที่เกิดขึ้นให้แม่ฟัง ก่อนจะวิงวอนขอร้องให้แม่ยกเลิกงานแต่งของตนกับเจ้าแสงฉายเพราะตนไม่อยาก เสี่ยงอันตรายอีกต่อไป ศุภลักษณ์คิดหนักเพราะรักและห่วงลูก แต่ด้วยเหตุผลบางประการทำให้เธอต้องฝืนใจตอบลูกสาวว่า

“แม่เชื่อว่า เจ้าดูแลลูกได้ เจ้ารักแพรนะลูก เขาคงไม่ปล่อยให้ลูกของแม่เป็นอันตรายหรอก...ที่สำคัญ ทุกอย่างมันเตรียมการไว้หมดแล้ว แม่จะบอกเขาว่ายังไงล่ะลูก”

“แค่แพร ไม่ได้รักเขาก็พอแล้วมั้งคะ...คุณแม่ขา... เลิกล้มการแต่งงานเถอะนะคะ ชีวิตแพรทั้งชีวิตนะคะ อย่าให้แพรต้องทนอยู่กับคนที่แพรไม่รักเลย”

แพรไหมอ้อนวอนทั้งน้ำตา ศุภลักษณ์เมินหน้าซ่อนน้ำตาที่กำลังจะไหล แล้วยื่นคำขาดว่าลูกต้องแต่ง!

“แม่คิดดีแล้ว ผู้หญิงสักกี่คนที่จะโชคดีได้รับโอกาสที่ดีที่สุด แต่เจ้าอยากได้ลูกเป็นเจ้าหญิงของเขา”

“ไม่ใช่แค่นั้นใช่ไหมคะคุณแม่ มีเหตุอะไรที่มากกว่านั้นเหรอคะ ทำไมคุณแม่ต้องเกรงใจเขาด้วย”

ศุภ ลักษณ์นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจบอกเหตุผลที่แท้จริง “เขากำลังจะเปิดโรงงานผ้าไหมส่งออกที่เมืองไทย ด้วยเงินลงทุนกว่าพันล้านบาทเชียวนะลูก ถ้าแพรได้แต่งงานกับเขา โรงงานนี้เขาจะยกให้แพร”

“แต่แพรไม่ต้องการ แพรไม่อยากเป็นเจ้าหญิง ไม่อยากเป็นเจ้าของโรงงาน แพรอยากจะเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่สามารถใช้ชีวิตอย่างที่ใจต้องการ”

แพร ไหมไม่ต้องการ แต่พันทิญาที่แอบฟังอยู่กับวนิดาต้องการอย่างที่สุด...สองน้าหลานรีบกลับไป คุยกันในห้อง พันทิญาอยากเป็นเจ้าหญิงจนเนื้อเต้น และคิดจะเขี่ยพิพัฒน์ให้เร็วที่สุด โดยวนิดาสนับสนุนเต็มที่ แนะให้หลานรักหาโอกาสหว่านเสน่ห์เจ้าแสงฉาย อย่าปล่อยให้เขาหลุดมือ ที่สำคัญอย่าให้แพรไหมได้ดีกว่าเป็นอันขาด

เพียงวันรุ่งขึ้น พันทิญาก็รุกหนักด้วยการเดินทางไปพบแสงฉายถึงบ้าน และแสดงความเป็นห่วงสอบถามเหตุการณ์เมื่อคืนที่รถโดนวางระเบิด

“พวกมันทำอะไรผมไม่ได้หรอก ฝีมือมันกระจอกเกินไป...ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง”

“พันห่วงเจ้าอยู่แล้วล่ะค่ะ ห่วงมานานแล้วด้วย แต่เจ้าไม่สนใจเอง”

ทั้งคำพูดและสายตาของเธอเปิดเผยความรู้สึกชัดเจน แถมยังพยายามทำให้แสงฉายรู้สึกไม่ดีต่อแพรไหมยิ่งขึ้นด้วยการใส่ไฟว่า

“เมื่อคืนยัยแพรก็ทะเลาะกับคุณแม่อีกแล้ว จะยกเลิกงานแต่งงานให้ได้ ไม่รู้ว่าแอบไปมีใจให้ใคร”

“หมดธุระของคุณแล้วใช่ไหม”

พัน ทิญาหน้าเจื่อนที่ถูกไล่ แต่ยังพยายามใจเย็นต่อไป “พันกลับก็ได้ค่ะ พันก็แค่ไม่อยากให้เจ้าไว้ใจยัยแพรนัก เจ้าลองคิดดูนะคะว่าทำไมยัยแพรถึงไม่อยากแต่งงานกับเจ้า ทั้งที่เจ้าออกจะหล่อ รวย แล้วก็มีเสน่ห์... บางทียัยแพรอาจจะแอบมีใจให้คนอื่นอยู่ก็ได้นะคะ ไม่อย่างงั้นคงไม่หาทางล้มเลิกงานแต่งงานกับเจ้าหรอกค่ะ”

พล่ามจนจบ แล้วหญิงสาวหันหลังจะกลับออกไปแต่แกล้งทำเท้าพลิกเซจะล้ม ซึ่งได้ผลสมใจหวัง เขารีบรับร่างเธอไว้ในอ้อมแขน แต่พอเธอกอดรัดเขาแน่นอย่างยวนยั่ว เขากลับไม่เล่นด้วย ดึงตัวเองออกแล้วบอกว่าจะไปส่งเธอที่รถ

พันทิญาหน้าตึง จำต้องเดินตามเขาไป พลางคิดในใจว่า...ยิ่งยากยิ่งท้าทายให้อยากเอาชนะ

ooooooo

เย็น วันเผาศพชัย บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศก แพรไหมมาร่วมอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย แต่ไม่คิดว่าเธอจะโดนภูผาที่เสียใจอย่างหนักฉุดกระชากลากตัวขึ้นรถแล้วพาออก ไปจากวัดโดยไม่มีใครรู้เห็น

ภูผาพาแพรไหมไปยังจุดที่ชัยกระโดดตึก เขาต้องการให้เธอรับผิดชอบชีวิตพี่ชายของเขาด้วยชีวิตของเธอ

“คุณจะทำอะไรฉัน...ปล่อยฉันเถอะ ฉันรู้ว่าคุณเสียใจที่พี่ชายคุณตาย แต่ฉันไม่ได้ฆ่าเขา”

“คุณ นั่นแหละทำ บอกมา...คุณพูดอะไรให้เขากระโดดลงไป ไม่อย่างงั้น ผมจะโยนคุณลงไปเอง ให้ตายตกไปตามพี่ชัย พี่ชัยจะได้ไม่ต้องตายอย่างโดดเดี่ยว...เขารักคุณมากนี่ คุณน่าจะไปอยู่กับเขา”

แพรไหมกลัวสุดขีด ระหว่างนี้เองศุภลักษณ์ให้น้อยต่อสายเข้ามือถือแพรไหม แต่เธอหมดโอกาสรับ เพราะภูผาแย่งมันมาเก็บไว้ในกระเป๋าตัวเอง แล้วฉุดกระชากเธอเพื่อจะพาไปริมกำแพง

“คุณภูผา...คุณต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”

“ใช่ ผมเป็นบ้า คนที่พี่ชายถูกทำร้ายจิตใจจนฆ่าตัวตายคงไม่มีใครทำใจได้หรอก ผมไม่ฆ่าคุณก็บุญแล้ว”

“คุณก็ฆ่าฉันเลยสิ ถ้าฉันตายไปเสียได้ เรื่องทุกอย่างมันจะได้จบ!”

“ชีวิตของผู้หญิงโกหกหลอกลวงอย่างคุณไม่มีค่าเท่ากับชีวิตของพี่ชายผมหรอก ตายไปก็ไม่คุ้ม”

แพร ไหมอัดอั้นคับแค้นจนน้ำตานองหน้า หันรีหันขวางเพื่อจะไปให้พ้นเขา ได้จังหวะรถคันหนึ่งผ่านมา เธอทำท่าจะวิ่งไปขอความช่วยเหลือ แต่ภูผารู้ทันกระชากแขนเธอไว้เสียก่อนแล้วลากมายังจุดที่ชัยกระโดดฆ่าตัวตาย บังคับให้บอกมาว่าวันนั้นพูดอะไรกับพี่ชาย ของตน เขาถึงได้กระโดดลงไป พอเธอปฏิเสธว่าไม่รู้ ภูผา ยิ่งโมโห ขึ้นเสียงจนเธอสะดุ้ง

“ไม่รู้ ได้ยังไง คุณอยู่กับเขาสองคน แล้วแหวนนี่ล่ะ แหวนที่คุณให้เขาซื้อให้ หรือว่ามันมีราคาน้อยเกินไป คุณถึงเอามาคืนเขาเพื่อไปแต่งงานกับเจ้าแสงฉาย”

“ไม่จริง...ฉันไม่เคยคิดอย่างงั้นเลย ฉันไม่เคยอยากได้ของเขาเลย”

“โกหก! ไม่อยากได้แล้วคุณหลอกให้เขาซื้อให้ทำไม” เขาปาแหวนใส่หน้าเธออย่างฉุนเฉียว แถมกระชากแขนไม่ปรานี จะเอาคำตอบให้ได้ว่าวันนั้นพูดอะไร ถ้าไม่ตอบจะผลักลงไปเดี๋ยวนี้

แพรไหมมองไปเบื้องล่างอย่างหวาดกลัว ขอร้องเขาให้ปล่อย แต่เขากลับระเบิดอารมณ์หนักขึ้นกว่าเดิม

“ตอนนี้กลัว แล้วตอนที่คุณทำร้ายจิตใจเขาล่ะ คุณคิดบ้างไหมว่าเขาเจ็บปวดแค่ไหน หัวจิตหัวใจคุณทำด้วยอะไร คุณยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า”

ถูกเขาตะคอกและเขย่าร่างอย่างแรง หญิงสาวทั้งตกใจทั้งหวาดกลัวจนเป็นลม ภูผารีบอุ้มเธอกลับไปขึ้นรถโดยไม่ลืมหยิบแหวนที่พื้นมาด้วย

ฟาก ศุภลักษณ์ที่ร้อนใจเป็นห่วงแพรไหม นานเข้าทนอยู่เฉยไม่ได้จึงส่งข่าวไปยังเจ้าแสงฉาย ไม่นานนักเขาก็มาถึง และส่งคนออกตามหาแพรไหมอย่างเร่งด่วน เพราะหวั่นใจว่าจะเกี่ยวกับภูผาที่พักหลังมานี้แพรไหมไปงานศพพี่ชายเขาทุก วัน
ขณะที่แสงฉายกำลังหงุดหงิดงุ่นง่านอยู่ที่บ้านศุภลักษณ์ ภูผาได้พาแพรไหมซึ่งหมดสติเข้าไปในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง เมื่อเธอรู้สึกตัวก็ลนลานจะหนี จึงเกิดการยื้อยุดกันไปมา เป็นเหตุให้ภูผายิ่งโมโหกระชากเธอมาจูบหนักหน่วงแล้วผลักไปบนเตียง

“ที่จูบไม่ได้พิศวาสหรอกนะ ผู้หญิงอย่างคุณไม่ได้มีค่าขนาดนั้น”

“ถ้า คุณรังเกียจฉันนักก็ปล่อยฉันไปสิ เอาตัวฉันไว้ทำไม ฉันอยากกลับบ้าน ปล่อยฉันไปเถอะนะ อย่าทำกับฉันอย่างนี้เลย ฉันยอมชดใช้ให้คุณทุกอย่าง ถ้ามันจะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น”

“ชดใช้เหรอ เงินเท่าไหร่มันถึงจะช่วยทำให้พี่ชายผมฟื้นขึ้นมาได้”

“แล้วคุณต้องการอะไร”

“ชีวิต ต้องแลกด้วยชีวิต” ว่าแล้วเขาพุ่งเข้าหามัดมือและเท้าเธอด้วยผ้าเช็ดตัว แพรไหมทั้งดิ้นรนทั้งวิงวอนแต่เขาตะคอกให้หยุดพูด ไม่เช่นนั้นจะมัดปากเสียด้วยเลย

แพรไหมทั้งกลัวทั้งคับแค้นใจจนน้ำตา ไหลพราก เธอจะบอกเขาได้อย่างไรว่าไม่ได้ทำให้พี่ชายของเขาตาย...เวลาเดียวกัน แสงฉายทนรอต่อไปไม่ไหว เขาจะออกจากบ้านศุภลักษณ์พร้อมธนาและลูกน้องสามคน พันทิญาฉวยโอกาสนี้ขอติดรถไปด้วย อ้างว่าตนอยากตามหาน้องสาวแต่พอดีรถของตนเสีย

“แล้วคุณรู้เหรอว่าคุณแพรอยู่ที่ไหน”

“แค่สงสัยน่ะค่ะ เพราะช่วงนี้พันเห็นยัยแพรสนิทสนมกับบอดี้การ์ดของเจ้าเป็นพิเศษ บางทียัยแพรอาจจะไปอยู่ที่บ้านคุณภูผาก็ได้”

แสง ฉายนิ่งคิดก่อนตัดสินใจให้เธอไปด้วย แล้วสั่งธนา ให้สืบหาบ้านช่องภูผาโดยเร็ว ฝ่ายพันทิญาพอขึ้นรถได้ก็เอาแต่พูดจายั่วยุให้แสงฉายระแวงแพรไหม โดยเฉพาะเรื่องที่แพรไหมอาจจะชอบภูผาขึ้นมาแล้วก็ได้

เมื่อธนาพาไปถึงบ้านภูผา ปรากฏว่าปรางแก้วออกมารับหน้า พันทิญาจึงให้แสงฉายรออยู่ในรถ เธอขอจัดการเรื่องนี้เอง

“ฉันเป็นพี่สาวของแพรไหม คุณภูผาอยู่ไหม”

“น้องคุณหายไป แล้วพี่ภูเกี่ยวอะไรด้วยคะ”

“ก็เขาอยู่ไหมล่ะ” พันทิญาขึ้นเสียง

“ยังไม่กลับค่ะ”

“ก็แค่นั้นแหละ อ้อ...เธอคงเป็นแฟนเขาล่ะสิ”

ปรางแก้วชักสีหน้าไม่พอใจและย้อนว่า “คงไม่เกี่ยวกับธุระของคุณมั้งคะ”

“คงไม่เกี่ยวหรอก ถ้าน้องสาวฉันไม่หายตัวไป เราก็เลยมาถามดู เห็นคุณภูผากับยัยแพรสนิทสนมกัน ฉันก็เลยกลัวว่าเขาจะหายไปด้วยกัน”

ปรางแก้วฟังแล้วอึ้งไปด้วยความหวั่นใจ...หรือว่าพวกเขาจะไปด้วยกันจริงๆ

ooooooo

ตอน แรกตั้งใจจะค้างคืน แต่ด้วยความสงสารเพราะลึกๆแล้วก็รู้สึกดีกับเธอไม่น้อย ภูผาจึงเปลี่ยนใจพาแพรไหมออกจากโรงแรมเพื่อไปส่งที่บ้าน แต่ระหว่างทางไม่วายมีปากเสียงกันอีก เพราะภูผาเอาความเจ็บ แค้นแทนพี่ชายมาลงที่เธอทั้งหมด

ด้านคณะของแสงฉายที่ผิดหวังไม่เจอ ภูผา พอเขากลับมาส่งพันทิญาที่บ้าน ปรากฏว่ารถภูผาแล่นมาจอดไล่เลี่ยกัน แสงฉายสีหน้าโกรธจัด ขณะที่พันทิญาลอบยิ้มสะใจ แล้วกรีดเสียงสูงใส่ทั้งคู่ที่ลงรถมาด้วยกัน

“ต๊าย...นึกว่าหายไปไหน ที่แท้ก็ไปกับบอดี้การ์ดของเจ้านี่เอง...ไปไหนกันมาล่ะ ตั้งดึกดื่นค่อนคืน”

“ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดก็แล้วกันครับ” ภูผาสวนทันควัน

“จะไปรู้เหรอ ก็ผู้หญิงกับผู้ชายไปกันสองต่อสอง”

ภูผาทำท่าจะตอบโต้อีก แต่แพรไหมชิงอธิบายว่า พอดีตนไปช่วยภูผาจัดการเรื่องงานศพพี่ชาย กว่าจะเสร็จก็เลยดึกไปหน่อย

“อ้อ พี่ก็ลืมไปว่าแพรกับคุณภูผาสนิทสนมกัน เพราะเคยช่วยเหลือกันมา”

แสงฉายข่มความโกรธเดินมาเอ่ยกับแพรไหม อย่างอ่อนโยน “ที่จริงคุณน่าจะบอกผมก่อน ผมจะได้ ส่งคนไปรับไปส่ง จะได้ไม่ลำบาก”

“อย่าเลยค่ะ เรายังไม่ได้แต่งงานกัน ฉันยังอยากจะมีอิสระที่จะไปไหนมาไหนได้บ้าง ถ้าอยากควบคุมฉันล่ะก็ รอให้แต่งงานกันก่อนเถอะค่ะ”

พูดจบ แพรไหมผละเข้าบ้านทันที แสงฉายหน้าตึงไม่พอใจ พันทิญาเห็นดังนั้นก็ใส่ไฟแพรไหมต่อทันที

“ดูยัยแพรสิคะ เจ้าอุตส่าห์ตามหาด้วยความเป็นห่วง จะขอบคุณสักคำก็ไม่มี แย่จริงๆ พันต้องขอโทษแทนน้องด้วยนะคะเจ้า”

“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณคุณพันที่ช่วยผมตามหาคุณแพร”

“พันต้องช่วยเจ้าอยู่แล้วล่ะค่ะ เจ้าจะขึ้นไปดื่มอะไรร้อนๆก่อนไหมคะ”

“อย่าเลยครับ ดึกแล้ว ผมขอกลับไปพักผ่อนดีกว่า”

พันทิญายิ้มหวาน โบกมือลาเขาแล้วหันไปยิ้มเยาะภูผาก่อนเดินเข้าบ้าน...ไม่ทันที่ภูผาจะกลับไปขึ้นรถ แสงฉายก็ออกคำสั่งด้วยความไม่พอใจ

“คุณควรจะรู้นะว่าคุณแพรเป็นว่าที่เจ้าสาวของผม ต่อไปผมขอสั่งเด็ดขาด...ห้ามยุ่งกับคุณแพร”

“คำ สั่งของเจ้าอยู่นอกเหนือจากเงื่อนไขเรื่องงาน ผมคงรับปากไม่ได้หรอกครับ” ภูผาตอบกลับอย่างไม่เกรง แล้วขึ้นรถออกไป ธนาเจ็บใจแทนนายจะตามไปจัดการ แต่แสงฉายรีบเบรกไว้

“ปล่อยให้มันอวดดีไปก่อน เรายังใช้ประโยชน์มันได้”

“แต่เจ้าเป็นนายจ้างของมันนะครับ ถ้าปล่อยให้มัน ลามปามได้ อีกหน่อยมันก็จะหมดความเกรงใจเจ้านะครับ”

คำทักท้วงของลูกน้องคนสนิททำให้แสงฉายคิดหนักอยู่เหมือนกัน...

ดึก แล้วแทนที่จะได้พักผ่อน แพรไหมยังต้องเผชิญหน้า กับพันทิญาที่รุกล้ำเข้ามาในห้องนอน เมื่อถูกพี่สาวพูดจาให้ร้าย ที่หายไปกับภูผานานสองนาน แพรไหมจึงย้อนอย่างเจ็บช้ำว่า

“ถ้าพี่พันไม่เอาชื่อแพรไปใช้  แพรก็ไม่ต้องมา

รับผิดชอบหรอกค่ะ”

“พี่ไม่ได้บอกให้แกไปยุ่งกับเขานะ เป็นคนดีไม่เข้าเรื่อง ญาติโกโหติกาก็ไม่ใช่ แต่ไปงานศพเขาทุกวัน ชาวบ้านเขาก็สงสัยเอาน่ะสิ”

“แพรคงวางเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างพี่พันไม่ได้หรอกค่ะ ถึงจะช่วยให้พี่ชายเขาฟื้นขึ้นมาไม่ได้ ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลยอย่างพี่พัน”

“ตามสบายเถอะ แล้วอย่าเผลอไปบอกอะไรเขาก็แล้วกัน พี่ไม่อยากยุ่งด้วย”

“พี่พันไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ยังไงแพรก็ต้องรักษาคำพูดจนถึงที่สุด”

“ก็ดี พี่จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนไปด้วย” ตัดบทอย่างเห็นแก่ตัวแล้วพันทิญาเชิดหน้าออกไปทันที

แพรไหมทั้งกลุ้มทั้งเครียด แต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากทรุดลงร้องไห้ด้วยความคับแค้นใจ

ooooooo
ขอขอบคุณจาก thairath.co.th 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น