วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ไอเอ็นจี ไทย หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ แชมป์ผลตอบแทนกองอาร์เอ็มเอฟหุ้น

ไอเอ็นจี ไทย หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ แชมป์ผลตอบแทนกองอาร์เอ็มเอฟหุ้น
ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คอลัมน์ "Best of Fund" ได้นำเสนอผลการดำเนินงานกองทุนแต่ละประเภท ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนพฤษภาคมมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งให้ผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ ตลอดช่วงระยะเวลาการลงทุน 5 เดือนดังกล่าว...

...เริ่มต้นกันที่กองทุนหุ้น ซึ่งกองทุนอันดับ 1 ให้ผลตอบแทนสูงถึง 30.85% ต่อด้วยกองทุนรวมที่ออกไปลงทุนในต่างประเทศ หรือ เอฟไอเอฟ ซึ่งได้อานิสงส์จากการที่ดัชนีหุ้นทั่วโลกโดยเฉพาะเอเชียปรับตัวขึ้น จนทำให้กองทุนอันดับ 1 ให้ผลตอบแทนสูงถึง 52.72% ในขณะที่ผลตอบแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) เอง ก็ออกมาดูดีเช่นกัน ด้วยผลตอบแทนสูงสุดอยู่ที่ 33.09%

สัปดาห์นี้ ต่อเนื่องกับกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นกันต่อ สำหรับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ) ที่ลงทุนในหุ้น...ซึ่งผลการดำเนินงานของกองทุนประเภทนี้ ก็ออกมาดีไม่น้อย และใกล้เคียงกับกองทุนหุ้นทั่วไป

โดยผลการดำเนินงานของกองทุนที่ให้ผลตอบแทรสูงสุด 10 อันดับแรก (ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2552) ประกอบด้วย อันดับ 1 กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารจัดการของ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด โดยกองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 30.46% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ประมาณ 5.91%

อันดับ 2 กองทุนเปิดอยุธยา SET100 เพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนอาร์เอ็มเอฟในพอร์ตของ บลจ.อยุธยา ด้วยผลตอบแทนในรอบ 5 เดือนกว่า 29.37% ส฿งกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ 4.82%

อันดับ 3 กองทุนเปิดทหารไทย SET50 เพื่อการเลี้ยงชีพ ของ บลจ.ทหารไทย กองทุนนี้ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 29.24% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 4.69%

อันดับ 4 กองทุนเปิดเค หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้พอร์ตของ บลจ. กสิกรไทย ด้วยผลตอบแทนย้อนหลัง 28.16% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ประมาณ 3.61%

อันดับ 5 กองทุนเปิด ทิสโก้หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ของบลจ.ทิสโก้ กองทุนนี้ ให้ผลตอบแทนย้อนหลังในรอบ 5 เดือนอยู่ที่ 27.82% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ 3.27%

อันดับ 6 กองทุนเปิด แมกซ์หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ของบลจ.นครหลวงไทย โดยกองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 25.70% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ประมาณ 1.15%

อันดับ 7 กองทุนเปิด JUMBO 25 เพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนอาร์เอ็มเอฟกองที่ 2 ในพอร์ตของ บลจ.ทหารไทย ด้วยผลตอบแทนในรอบ 5 เดือนกว่า 24.79% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ 0.24%

อันดับ 8 กองทุนเปิด อเบอร์ดีนสมาร์ทแคปปิตอลเพื่อการเลี้ยงชีพ ของบลจ.อเบอร์ดีน ด้วยผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 23.88% กองทุนนี้ ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ประมาณ- 0.67%

อันดับ 9 กองทุนเปิดหุ้นคุณค่า เพื่อการเลี้ยงชีพ ของบลจ.วรรณ กองทุนนี้ ให้ผลตอบแทนย้อนหลังในรอบ 5 เดือนอยู่ที่ 23.69% ต่ำกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่- 0.86%

อันดับ 10 กองทุนเปิด แอสเซท พลัส ตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้พอร์ตของบลจ. แอสเซท พลัส ด้วยผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 23.22% ต่ำกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ประมาณ -1.33%

ทั้งนี้ **ผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐาน ในช่วงเวลาเดียว ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 24.55%
ต่อ อินทรวิวัฒน์
เปิดพอร์ตกองทุนอันดับ 1

ต่อ อินทรวิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายธุรกิจกองทุนรวมเเละที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า หุ้นไทยราคาถูกกว่าพื้นฐานค่อนข้างมา ซึ่งในช่วงเวลานั้นผู้จัดการกองทุนก็เก็บหุ้นราคาถูกเต่จ่ายปันผลที่ดีเเละ ให้ปันผลสูงเข้าพอร์ตเพื่อรอทำกำไร โดยสิ้นเดือนพ.ค กองทุนให้น้ำหนักลงทุนไปที่หุ้นกลุ่มพลังงานเเละธนาคาร ซึ่งกองทุนลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน 44.68% กลุ่มหุ้นธนาคาร 24.6% หุ้นกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 12.57% เป็นต้น เเละให้ถือเงินสดไว้เพียง 8% เท่านั้น ในขณะที่ตอนนี้ทางผู้จัดการกองทุนได้เปลี่ยนมาถือเงินสดเป็น 15-20% เพื่อรอให้หุ้นมีปรับฐานเสียก่อน จึงจะกลับเข้าไปลงทุนอีกครั้ง

"กลยุทธ์การลงทุนกองทุนหุ้นในช่วงนี้คือถือเงินสด เพื่อรอหุ้นทยอยปรับฐานเเล้วจึงกลับเข้าไปลงทุนอีกครั้ง เชื่อว่าการปรับฐานครั้งนี้น่าจะอยู่ในกรอบ 580-620 จุด" นายต่อกล่าว

สำหรับรายชื่อหลักทรัพย์ 5 หลักทรัพย์เเรกที่กองทุนลงทุนได้เเก่ อันดับเเรกบริษัท ปตท.16.48% อันดับที่ 2 ปตสผ. 14.98% อันดับที่ 3 บริษัท เเอดวานซ์ อินโฟเซอร์วิส 7.17% อันดับที่ 4 ธนาคารกสิกรไทย 6.96% เเละอันดับที่ 5 ธนาคารไทยพาณิชย์ 6.95%
ที่มา manager.co.th

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น