วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อ่านละครรักคุณเท่าฟ้า ตอนที่ 1 (จบตอน) วันที่ 18 ก.ค. 55

 เครื่องบินโดยสารลำใหญ่พุ่งทะยานผ่านม่านฟ้าสีคราม จังหวะนั้นเสียงพูดของกัปตันดังทั่วห้องผู้โดยสาร
     
       “ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ ผมกัปตันธีระ ขณะนี้เรากำลังลดระดับเพื่อนำเครื่องลงสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิครับ”
       กัปตันธีระที่นั่งอยู่ในห้องนักบินบอกวิทย์ซึ่งเป็นผู้ช่วย
       “กางล้อ”
       “ล้อกางแล้วครับ” วิทย์บอก
       ล้อเครื่องบินกางออก เครื่องบินกำลังจะลง ธีระถือคันบังคับด้วยใบหน้านิ่ง
       “ห้าสิบฟิต .. สามสิบฟิต .. ยี่สิบฟิต .. ทัชดาวน์” วิทย์พูด
       ล้อเครื่องบินแตะพื้นจนควันฟุ้งกระจาย
       เครื่องบินยังคงเคลื่อนไปตามทาง เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในลานบินโบกธงให้สัญญาณ เครื่องบินค่อยๆ เคลื่อนเข้าที่จอด
     
       ธีระซึ่งนั่งประจำอยู่ในห้องนักบินพูดประกาศ
       “ขณะนี้เรานำเครื่องบินเข้าจอดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเรียบร้อย แล้ว ผมกัปตันธีระ และลูกเรือทุกคน ขอขอบคุณท่านผู้โดยสารทุกท่าน”
       ธีระดึงหูฟังออกแล้วหันมาบอกวิทย์
       “กู๊ดจ๊อบ”
       “แธ้งกิ้ว เซอร์” วิทย์ตอบรับ
     
       ที่ป้ายทางเดินออกของลูกเรือ พิมเดินมาพร้อมกับกลุ่มเพื่อนแอร์โฮสเตส
       “โอ๊ย ไฟลท์นี้เหนื่อยจัง” แหม่มเพื่อนของพิมบ่น
       เป๊ปเห็นด้วย “ใช่ ผู้โดยสารเต็มลำเลย”
       “อย่าบ่น เรามีหน้าที่บริการนะจ๊ะ เดี๋ยวกลับบ้านเจอแฟนก็หายแล้ว” พิมบอก
       “แหม ใครจะเหมือนพี่พิมล่ะคะ ได้บินคู่กับแฟนก็ไม่เหนื่อยน่ะสิ” นุ้ยแซว
       “ใช่ มีหวานใจอยู่ใกล้ตัวตลอด” กุ๊กสนับสนุน
       “ช่วยไม่ได้นี่ พวกเธออยากไม่มีแฟนเป็นกัปตันทำไมล่ะ” พิมว่า
       เป๊บรีบพูด “อุ๊ย อย่าพูดดังค่ะ กัปตันธียืนรออยู่นั่น”
       กลุ่มแอร์โฮสเตสมองไปก็เห็นธีระยืนรอพิมอยู่กับวิทย์ กลุ่มแอร์โฮศเตสเดินเข้ามาหา
       “นินทาอะไรผม” ธีระถาม
       “ใครบอกคะ” พิมถามกลับ
       “อ้าว ก็เมื่อกี้ตอนเดินมาเห็นคุยกันเจี๊ยวจ๊าว พอเห็นผมก็เงียบเสียงกันหมด”
       “ใช่ครับ แบบนี้ต้องนินทาพวกเราแน่ ๆ” วิทย์เสริม
       “นินทากัปตันต่างหากไม่ได้นินทาเธอ” แหม่มบอก
       “พี่วิทย์ไปส่งหน่อยสิ เป๊บไม่ได้เอารถมา”
       “เสียใจด้วย วันนี้แฟนพี่มารับ” วิทย์หันมาพูดกับธีระ “ผมไปนะครับ อ้อ เกือบลืม นี่ครับช๊อคโกแลตของแม่กัปตัน”
       วิทย์ส่งถุงชอคโกแลตที่ซื้อมาให้ธีระ
       “ขอบใจวิทย์ ถ้าลืมล่ะแย่เลย แม่ผมต้องโกรธแน่”
       “ไปก่อนนะพิม” กุ๊กลา
       “บ๊ายบายค่ะพี่พิม กัปตัน” นุ้ยบอก
       วิทย์และสาว ๆ แอร์โฮสเตสแยกย้ายออกไป
       ธีระหันมาถามแฟนสาว “ทริปนี้เหนื่อยมั้ย”
       “ไม่ค่ะ แค่ได้บินเที่ยวเดียวกับธี พิมก็หายเหนื่อยแล้ว ไปค่ะ”
       “อ้อ เดี๋ยวผมขอแวะหาแม่ก่อนนะ”
       “ค่ะ”
       แล้วทั้งสองคนก็เดินออกไปคู่กัน
     
       ณ บ้านไม้สองชั้นของจินดา แม่ของธีระมีระเบียงแลดูร่มรื่น รถของธีระแล่นเข้ามาจอด ธีระกับพิมถือของฝากเดินลงมาจากรถ
       อร สาวใช้ประจำบ้านมองไปหน้าบ้านก่อนจะหันมาบอกจินดา
       “คุณยายขา คุณธีมาแล้วค่ะ”
       จินดาลุกขึ้นด้วยความดีใจ เธอเห็นธีระเปิดประตูเข้ามากับพิม
       “หวัดดีครับแม่”
       “กลับมาแล้วหรือลูก” จินดาดีใจ
       “ครับ”
       “หวัดดีค่ะคุณแม่” พิมยกมือไหว้
       “หวัดดีจ้ะหนูพิม”
       “ผมซื้อชอคโกแลตมาฝากแม่” ธีระบอก
       “ของเก่ายังไม่หมดเลยลูก ซื้อมาอีกทำไม” จินดาถาม
       “มันเก็บได้นานครับ” ธีระบอก
       “นานอะไร พอเราเผลอไอ้อรก็ขโมยกินหมด” จินดาฟ้อง
       “แหม คุณยายขา หนูไม่เคยขโมยนะคะ ถ้าคุณยายไม่อนุญาตหนูก็ไม่กินหรอก”
       “อย่ามาต่อปากต่อคำ ไปเอาน้ำมาให้พี่เค้ากินซิ” จินดาสั่ง อรเดินออกไป จินดาหันมาถาม “เหนื่อยมั้ยลูก”
       “ไม่เหนื่อยหรอกครับ”
       “เอ๊ะ คราวนี้ลูกบินไปไหนนะ”
       “ผมไปอังกฤษมาน่ะครับ”
       “แล้วหนาวมั้ยลูก”
       “นิดหน่อยครับ”
       “ไหนขอแม่กอดหน่อยซิ”
       จินดาดึงธีระเข้ามากอด พิมมองสองแม่ลูกแล้วก็ยิ้ม ธีระเหลือบมาเห็นพิมแล้วจึงเอ่ยขึ้น
       “มัวแต่คุยกับแม่จนเพลิน ลืมพิมไปเลย แม่ครับ พิมเค้ามีเรื่องสำคัญจะมาบอกแม่”
       จินดาสงสัย “เรื่องสำคัญอะไรจ๊ะ”
       “เราสองคนจะแต่งงานกันค่ะ” พิมบอก
       จินดาถึงกับอึ้ง
       “ครับแม่ จะได้มีหลานให้แม่ซะที” ธีระเสริม
       “คิดดีแล้วหรือ” จินดาถาม
       พิมชะงักเหลือบมองธีระ
       “ทำไมแม่ถามอย่างงั้นล่ะ” ธีระงง
       “แม่หมายความว่า แน่ใจกันแล้วนะ ไม่อยากให้แต่งแล้วเลิกกันทีหลัง” จินดาบอก
       “ไม่หรอกค่ะคุณแม่ เราสองคนรักกันจริง ๆ “ พิมบอก
       “เอา ถ้ารักกันจริงแม่ก็ไม่ขัดหรอก”
       “ตกลงแม่อนุญาตแล้วนะ” ธีระถามย้ำ
       “แหม แกพูดยังกะว่าถ้าแม่ไม่ให้แต่ง แกก็จะไม่แต่งอย่างงั้นล่ะ”
       “ไม่หรอกครับ ผมรู้ว่ายังไงแม่ก็ต้องอนุญาต” ธีระบอก
       ธีระกอดหอมแก้มแม่ ส่วนพิมมองจินดา จินดามองสบตาแล้วยิ้มให้เหมือนไม่มีอะไร
     
       เวลาผ่านไป ธีระกุมมือพิมเดินออกจากบ้านของจินดามาที่รถ
       “เฮ้อ ตอนแรกพิมกลัวว่าคุณแม่คุณจะไม่ยอมให้คุณแต่งงานซะอีก” พิมโพล่งออกมา
       “ผมบอกแล้วไงว่าแม่ผมไม่มีปัญหา แม่รักคุณจะตายไปเหลือแต่พ่อแม่คุณเถอะ” ธีระบอก
       “พ่อแม่พิมไม่มีปัญหาหรอกค่ะ ท่านกลัวว่าคุณจะไม่มาขอพิมมากกว่า”
       “งั้นวันอาทิตย์นี้ผมจะไปคุยกับท่านนะ”
       “ได้ค่ะ พิมดีใจจริงๆเลย”
       “ผมก็ดีใจ”
       ธีระหอมแก้มพิม พิมหอมตอบ ในขณะที่จินดายืนแอบมองลอดหน้าต่างอย่างไม่พอใจ
     
       บ่ายวันใหม่ จินดานั่งกินอาหารอยู่กับแดง ลูกสาวคนโต กบซึ่งเป็นลูกเขย และไตรตั้นหลานชายวัย 6 ขวบ
       “ดีใจจัง นายธีจะแต่งงาน คราวนี้แม่ก็สบายแล้ว ไม่ต้องห่วงน้อง” แดงบอก
       “ใครบอกแกว่าชั้นอยากให้มันแต่ง” จินดาโพล่งออกมา
       “นี่อย่าบอกนะว่าแม่หวงลูกชาย ไม่อยากให้มีเมีย” แดงถาม
       “ก็ใช่สิ ชั้นยังรักมันไม่พอ”
       “แม่ ธีมันอายุสามสิบกว่าแล้วนะ แม่ต้องปล่อยให้มันไปมีชีวิตเองได้แล้ว” แดงบอก
       “ไม่ ยังไงมันก็เป็นลูกชั้น ต่อให้มัน60 มันก็ยังเป็นลูกแหง่ของชั้น”
       “แต่ผมเห็นแม่ก็ชอบกับน้องพิมดีไม่ใช่หรือครับ ทำไมถึงไม่ยอมให้เค้าแต่งงานกันล่ะ” กบสงสัย
       “ไม่ใช่ไม่ยอม แต่แม่ว่ามันเร็วไป ให้ตาธี40ค่อยแต่งก็ยังทัน”
       “อุ๊ยแม่ ถึงวันนั้นผู้หญิงที่ไหนเค้าจะรอ แล้วเค้าก็รักกันมาตั้งสองสามปีแล้ว หนูว่าให้เค้าแต่งกันเหอะ” แดงสนับสนุน
       “แกไม่ต้องมายุ่ง ไอ้ธีมันเป็นลูกชั้น ไม่ใช่ลูกแก”
       “แล้วแม่บอกธีไปรึยังว่าแม่ไม่ให้แต่ง” แดงถาม
       “ชั้นจะไปพูดอย่างงั้นได้ไง ชั้นเป็นผู้ใหญ่ แกน่ะแหละช่วยพูดให้แม่ที”
       “ไม่เอาหรอกแม่ เรื่องแบบนี้หนูไม่ทำ” แดงว่า
       “กบ งั้นแกช่วยพูดกับนายธีให้แม่หน่อยว่าอย่าเพิ่งรีบแต่ง”
       “ผมพูดไม่ได้หรอกครับแม่ ผมเป็นแค่พี่เขย ถ้าแม่ไม่อยากให้แต่งแม่พูดเองน่ะแหละดีแล้ว” กบบอก
       “งั้นตั้นบอกน้าธีให้มั้ยครับว่าคุณยายไม่อยากให้แต่งงาน” ไตรตั้นแทรกขึ้นมา
       แดงดุ “ไตรตั้น”
       “กินข้าวเถอะลูก อย่าไปยุ่งเรื่องผู้ใหญ่เค้า” กบบอกลูกชาย
       จินดามองค้อนลูกเขยกับลูกสาวด้วยความขัดใจ
     
       ลิฟต์ภายในคอนโดของธีระเปิดออก พิมถือถุงอาหารและผลไม้เดินมาถึงหน้าห้องของธีระ พิมกดออด ธีระเดินมาเปิดประตูและเห็นพิมจึงถามขึ้น
       “ซื้ออะไรมาเยอะแยะจ๊ะ”
       “ของชอบของคุณทั้งนั้นแหละค่ะ” พิมบอก
       พิมเดินเข้าไปในห้อง ธีระปิดประตูแล้วเดินตามเข้ามา
       “ผมว่าถ้าเราแต่งงานกันผมต้องอ้วนเป็นหมูแน่เลย”
       “ถ้าคุณอ้วนเป็นหมูเค้าก็ต้องปลดคุณจากกัปตันนะ” พิมบอก
       พิมแกะอาหารใส่จาน
       “นี่ ถ้าแต่งงานแล้วผมอยากให้คุณเลิกบินนะ” ธีระพูด
       “ค่ะ พิมก็คิดอยู่เหมือนกัน จะปรึกษาคุณว่าพิมจะเปิดร้านกาแฟขายเค้กคุณว่าดีมั้ย”
       “ดีจ้ะ พอเรามีลูก คุณจะได้มีเวลาเลี้ยงลูกอยู่กับลูก”
       “พูดถึงมีลูก พิมว่าถ้าเราแต่งงานกันแล้ว เราย้ายไปอยู่บ้านพ่อแม่พิมดีมั้ยคะ จะได้ให้ท่านช่วยเลี้ยง” พิมเสนอ
       “ผมว่าอย่าดีกว่า ผมมีแพลนว่าจะปลูกบ้านเป็นเรือนหอของเราในที่ดินที่ติดกับบ้านแม่”
       “จะดีหรือคะ”
       “คุณกลัวว่าแม่จะจุกจิกใช่มั้ย ไม่ต้องห่วงผมจะกั้นรั้วด้วยต้นไม้เพื่อแยกส่วนบ้านเรากับแม่ รับรองแม่ไม่มายุ่งหรอก”
       “งั้นก็ได้ค่ะ” พิมบอก ธีระเดินเข้ามากอดพิมจากด้านหลัง
       “คุณนี่น่ารักจริง ๆ ตามใจผมทุกอย่าง”
       “ก็เพราะว่าพิมรักคุณน่ะสิคะ”
       “ผมก็รักคุณ” พูดจบธีระก็หอมแก้มพิม
     
       ธีระตักอาหารป้อนพิม ทั้งสองหยอกล้อกันด้วยความรัก เวลาผ่านไป พิมกับธีระมานั่งเล่นเกมด้วยกัน ทั้งสองคุยและหัวเราะด้วยกันขณะเล่นเกม ธีระนั่งดูทีวี ส่วนพิมนอนหนุนตักธีระ ธีระมองแฟนสาวแล้วลูบผมของพิมก่อนจะก้มลงหอมแก้มเธอ พิมลืมตามองแล้วหอมแก้มตอบ
     
       เช้าวันใหม่ ธีระกับพิมนั่งอยู่ในบ้านของสุนีย์ แม่ของพิมและพลโทพจผู้เป็นพ่อของพิม
       “จะแต่งงานจริงหรือลูก” สุนีย์ถามย้ำ
       “จริงค่ะแม่” พิมบอก
       “วันนี้ผมก็เลยมาเรียนด้วยวาจาให้คุณพ่อกับคุณแม่ทราบก่อน แล้วผมจะให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอเป็นทางการอีกทีครับ” ธีระพูด
       “ถ้าเธอสองคนมั่นใจ พ่อกับแม่ก็ไม่มีปัญหาหรอก” พจบอก
       “ผมต้องกราบขอบพระคุณคุณพ่อคุณแม่มากครับ”
       “อ้อ แต่อย่างนึงที่ผมต้องบอกคุณก่อนนะ ผมเองมีลูกสาวคนเดียวผมและแม่เค้ารักยัยพิมมาก หวังว่าคุณคงไม่ทำให้ลูกสาวผมเสียใจ” พจบอก
       “ผมสัญญาครับ ผมจะรักและดูแลพิมไปจนวันตายครับ”
       พิมมองธีระด้วยความปลาบปลื้ม
       “แม่เชื่อจ้ะว่าพ่อธีจะไม่ทำให้ยัยพิมเสียใจหรอก” สุนีย์บอก
       “แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณผิดคำสัญญา คุณคงรู้จักผมดีนะ” พจว่า
       พิมท้วง “พ่อน่ะ ทำไมต้องมาขู่ธีเค้าด้วย”
       “ก็ต้องปรามไว้ก่อนสิ” พจบอก
       “คุณพ่อไม่ต้องห่วงครับ คุณพ่อจะไม่ผิดหวังในตัวผม” ธีระย้ำ
       “แม่ดีใจกับลูกจริง ๆ”
       พิมโผเข้ากอดแม่กับพ่อ ธีระมองยิ้มอย่างสุขใจและปลาบปลื้ม
     
       ที่สตูดิโอถ่ายรูปแต่งงาน ธีระกับพิมเดินเข้าเฟรมมาในชุดแต่งงาน ทั้งสองหันมามองกล้องแล้วยิ้ม
       ธีระกับพิมถ่ายรูปคู่ซึ่งเป็นภาพทั้งสองในชุดแต่งงานจำนวนหลายภาพ
     
       เช้าวันใหม่ พิมวิ่งลงทะเล ส่วนธีระวิ่งตามไปกอดพิมแล้วอุ้มขึ้นมาหมุน พิมกับธีระเดินจูงมือกัน รอยเท้าของพิมกับธีระปรากฏเป็นแถวยาวที่ชายหาด จากนั้นพิมกับธีระก็มานั่งกอดกันอยู่ที่ริมทะเล
     
       วันต่อมา ที่ห้องในคอนโดของธีระ ภาพในวีทีอาร์เป็นภาพพิมกับธีระนั่งกอดกันอยู่ที่ทะเล ข้อความ รักนิรันดร์ปรากฏบนจอคอมพิวเตอร์ ธีระกับพิมยืนดูภาพของวีทอาร์งานแต่งจากคอมพิวเตอร์
       “เป็นไง พิมอยากแก้ไขตรงไหน” ธีระถาม
       “ไม่เลยค่ะ พิมว่ามันน่ารักมาก ดูแล้วซึ้งจริงๆ อยากให้ถึงวันแต่งงานเร็วๆจังเลย” พิมบอก
       “ผมก็เหมือนกัน”
       ธีระจุ๊บแก้มพิม พิมโผเข้ากอดเขา ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ทั้งสองชะงัก แล้วธีระก็กดรับ
       “ฮัลโหล มีอะไรอร”
       อรกำลังพูดโทรศัพท์อยู่ที่บ้านจินดา
       “คุณยายไม่ค่อยสบายค่ะ” อรบอก
       “อ้าว แม่เป็นอะไร” ธีระตกใจ
       “หนูก็ไม่ทราบค่ะ เห็นแกนอนทั้งวัน บอกไม่ค่อยสบาย”
       “อ้าวหรือ งั้นเดี๋ยวชั้นจะไปดูเดี๋ยวนี้” ธีระวางสาย
       พิมสงสัย “มีอะไรหรือคะ”
       “เด็กที่บ้านโทรบอกว่าแม่ไม่สบาย ผมจะไปดูซะหน่อย”
       “ไปค่ะ พิมไปด้วย”
       ทั้งสองเดินออกไปจากห้องทันที
     
       ที่บ้านของจินดา ธีระดึงปรอทออกจากปากของแม่มาดู ในขณะที่พิมกับอรยืนอยู่ในห้องด้วย
       “ไข้ก็ไม่มีนะแม่” ธีระบอก
       “แต่มันปวดเนื้อปวดตัว นี่ลูกมาก็ดีขึ้นเลย” จินดาพูด
       “แหม คุณยายพูดยังกะคุณธีเป็นหมอ มาปุ๊บก็หายปั๊บ” อรแซว
       “พูดมากนะแก” จินดาว่า
       “คุณแม่ทานโจ๊กปลาหน่อยมั้ยคะ พิมซื้อโจ๊กปลามาฝาก” พิมบอก
       “ไม่จ้ะ แม่ไม่หิว” จินดาบอก พิมถึงกับชะงัก
       “ทานหน่อยสิแม่ พิมเค้าอุตส่าห์ซื้อมา” ธีระบอก
       “แม่ไม่ชอบกินโจ๊กปลา”
       “อ้าว แต่ผมเคยซื้อมาแม่ยังบอกอร่อยไง”
       “แต่ตอนนี้แม่ไม่อยากกิน”
       “ไม่เป็นไรค่ะ งั้นเอาเต้าฮวยน้ำขิงหน่อยมั้ยคะ ร้อนๆเลยค่ะ” พิมเสนอ
       “ไม่ล่ะ แม่อยากนอนพัก”
       พิมอึ้ง “งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ”
       พิมขยับจะไป ธีระเดินตามแต่จินดาเรียกไว้
       “เดี๋ยวธี”
       “ครับ”
       “อย่าเพิ่งไปลูก นั่งเป็นเพื่อนแม่หน่อย” จินดาขอ
       ธีระรับคำ “ครับ”
       พิมชะงักแล้วเหลือบมองหน้าธีระ
       “งั้นพิมรอข้างนอกนะคะ”
       ธีระพยักหน้า พิมเดินออกไปจากห้อง จินดามองตามแล้วหันมาถาม
       “แล้วเรื่องแต่งงานไปถึงไหนแล้ว”
       “ผมได้วันมาแล้วครับ กะจะมาคุยกับแม่อยู่เหมือนกัน” ธีระบอก
       “เมื่อไหร่ลูก” จินดาถามต่อ
       “วันที่ 28 เดือนหน้าครับ”
       “ทำไมมันรวดเร็วอย่างงั้นล่ะ”
       “เผอิญผมกับพิมขอลางานได้ช่วงนั้นพอดีครับ”
       “ไม่ใช่รีบแต่งเพราะยัยพิมท้องนะ”
       “ไม่ใช่ครับแม่ มันเป็นฤกษ์สะดวกน่ะครับ เพราะถ้าเลยจากนั้นไปผมกับพิมก็จะว่างไม่ตรงกัน”
       “แต่แม่ว่าแกควรจะคิดให้ดีนะ เรื่องแต่งงานมันเป็นเรื่องใหญ่ อนาคตการงานของแกกำลังรุ่ง”
       “ไม่เกี่ยวกับงานหรอกแม่ กัปตันส่วนใหญ่เค้าก็มีครอบครัวกันทั้งนั้น”
       “แม่พูดจริงๆนะ แม่ยังไม่อยากให้แกแต่งด้วยซ้ำ”
       “อ้าว ทำไมล่ะครับ ไหนวันนั้นเราคุยกัน แล้วแม่ก็เห็นดีด้วย”
       “แม่ก็พูดไปอย่างงั้นแหละเพราะแฟนแกอยู่ด้วย” ธีระมองแม่ของตัวเองอย่างงงๆ “นี่ แม่ว่าอย่าเพิ่งแต่งเลยนะลูก บอกยัยพิมว่าถ้ารักกันจริงก็รออีกปีสองปีค่อยแต่ง”
       “แม่ครับ จะปีหน้าหรืออีกสองปี ผมก็ต้องแต่งกับพิมอยู่ดี ยังไงผมก็ต้องแต่งแล้วล่ะครับ”
       “หมายความว่าแม่เตือนอะไรแกไม่ได้ใช่มั้ย” จินดาน้อยใจ
       “ไม่ใช่อย่างงั้นแม่ แต่ผมไปคุยกับพ่อแม่พิมเค้าแล้ว”
       “แม่ไม่ได้บอกว่าไม่ให้แต่ง แกก็บอกเค้าว่าตอนนี้เรายังไม่พร้อม”
       “ผมทำอย่างงั้นไม่ได้หรอกแม่ ผู้หญิงเค้าเสียหายนะ”
       ธีระพูดอย่างเด็ดขาด จินดามองลูกชายอย่างไม่พอใจ
     
       พิมนั่งอ่านหนังสือรอธีระอยู่ที่ห้องรับแขก สักพักแดง กบและไตรตั้นก็เดินเข้ามา
       “อ้าว พิม” แดงทัก
       “หวัดดีค่ะพี่แดงพี่กบ” พิมยกมือไหว้
       “มาเยี่ยมแม่หรือ” กบถาม
       “ค่ะ” พิมรับคำ
       “แล้วแม่เป็นอะไร” แดงถาม
       “เห็นบอกว่าปวดหัวปวดตัว ตอนนี้คุยอยู่กับธีค่ะ” พิมบอก
       “งั้นพี่เข้าไปดูแม่ก่อนนะ”
       “อ้าว ไตรตั้น หวัดดีน้าพิมรึยัง” กบบอกลูกชาย
       “หวัดดีครับ” ไตรตั้นยกมือไหว้
       “งั้นอยู่กับน้าพิมนะ พ่อไปดูคุณยายก่อน” กบบอกลูกชาย
       “ครับ”
       แดงกับกบเดินเข้าไปในห้อง พิมดึงไตรตั้นมากอด
       “ไหน ขอน้าหอมแก้มทีซิ”
       “น้าพิมครับ” ไตรตั้นเรียก
       “ว่าไงครับ”
       “ตั้นมีความลับจะบอกน้าพิม”
       “ความลับอะไร”
       “คุณยายบอกว่าไม่อยากให้น้าธีแต่งงานกับน้าพิม”
       พิมชะงักและถึงกับอึ้ง
       “คุณยายบอกน้องตั้นหรือ” พิมถาม
       “ครับ คุณยายบอกพ่อกับแม่”
       พิมยิ่งอึ้ง ทันใดนั้นธีระก็เดินเข้ามาหา
       “อ้าว ไตรตั้น คุยอะไรกับน้าพิม”
       “ไม่บอก ตั้นไปหาคุณยายดีกว่า”
       ไตรตั้นวิ่งออกไป ส่วนพิมยังอึ้งไม่หาย
       “นายตั้นแกคุยอะไรกับคุณ”
       “เปล่าค่ะ แกเล่าเรื่องที่โรงเรียนให้ฟัง แล้วคุณแม่คุยอะไรหรือคะ”
       “ไม่มีอะไรหรอก แม่ถามว่าเราจะแต่งงานเมื่อไหร่ ผมก็บอกว่าสิ้นเดือน”
       “แล้วท่านพูดอะไรอีกรึเปล่าคะ”
       “ไม่มีนี่” ธีระบอก
       “ไม่มีอะไรจริงๆนะคะ”
       “จริงสิ ไป เราไปเตรียมเรื่องงานแต่งของเราต่อดีกว่า”
     
       ธีระกอดพิมแล้วพาเดินออกไป 
ขอขอบคุณจาก manager.co.th

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น