วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อ่านละครภูผาแพรไหม ตอน 11 วันที่ 3 ก.ค. 55

แพรไหมสบโอกาสหนีอีกครั้งในตอนเย็นที่ภูผาเผลอหลับ...เธอหยิบกุญแจรถออกไป สตาร์ต แต่ไม่ทันจะออกตัว ภูผาก็พุ่งพรวดมากระชากประตูแล้วลากเธอลงมาด้วยความโมโห

“คิดเหรอว่าผมจะยอมให้คุณกลับไปแต่งงานกับเจ้าแสงฉาย กลายเป็นเจ้าหญิงสูงส่ง แล้วปล่อยให้พี่ชายผมตายไปฟรีๆ”

“คุณ จะทำอะไรก็ทำสิ อยากจะทำร้ายฉัน อยากจะ ฆ่าฉันให้สาสมกับที่คุณคิดว่าฉันทำให้พี่ชายคุณตายก็เชิญตามสบาย เอาสิ หรือว่าคุณอยากจะให้ฉันทรมานใจจนทนไม่ไหว ฆ่าตัวตายไปเอง”

“ถ้าเป็นอย่างงั้นได้มันก็สมควรแล้วนี่ แต่คนเห็นแก่ตัวอย่างคุณไม่ฆ่าตัวตายหรอก มีแต่ฆ่าคนอื่น”

ยิ่ง พูดเขายิ่งโกรธ กระชากแขนเธอเพื่อพากลับบ้านพัก แต่เธอขัดขืนสุดแรง วิ่งหนีลงทะเลแล้วเป็นตะคริวเกือบเอาชีวิตไม่รอดถ้าภูผาไม่ตามลงมาช่วย

ขณะ ที่แพรไหมต้องทุกข์ทนกับสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ แต่ตัวการกลับเบิกบานอยู่กับความหวังที่จะได้เป็นเจ้าหญิงแห่งเชียงทวายถึง ขนาดเอาตัวเข้าแลกไปแล้ว และกำลังจะสลัดพิพัฒน์ให้พ้นทางด้วยวิธีเดิมๆที่เคยทำกับชัย

พันทิญา ไม่รับสายและไม่ยอมเจอหน้าพิพัฒน์มาสองสามวันแล้ว พิพัฒน์ข้องใจเป็นอันมากจนต้องมาแอบซุ่มหน้าบ้านเธอในคืนนี้ เขารอจนกระทั่งเห็นเธอขับรถออกจากบ้านแล้วขับตามไปโดยไม่ให้เธอรู้ตัว

จุด หมายปลายทางของพันทิญาคือบ้านแสงฉาย... เวลานั้นแสงฉายกับธนากำลังวางแผนเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้น หลังจากคืนก่อนมีคนบุกเข้ามาหมายเอาชีวิตแสงฉาย และที่แท้คนที่เป็นสายให้พวกอโณทัยก็คือลูกน้องคนหนึ่งของธนานั่นเอง ธนาไม่ละเว้น เขาแทงมันตายอย่างเลือดเย็นแล้วเอาศพไปจัดการตามที่แสงฉายออกคำสั่ง

พันทิญามาถึงเป็นจังหวะที่แสงฉายผละจากธนาพอดี พันทิญาแสดงออกอย่างไม่แคร์สายตาใครด้วยการโผเข้ากอดแสงฉายทันทีที่ก้าวเข้ามาในบ้าน

“พันคิดถึงเจ้าที่สุดเลยค่ะ คิดถึงจนทนไม่ไหว”

“แต่คุณไม่ควรมาหาผมบ่อยๆ ผมไม่อยากให้คุณแพรรู้”

“ยัยแพรคงไม่สนใจหรอกค่ะ ป่านนี้ไม่รู้ว่าไประริกระรี้อยู่กับใคร บ้านช่องไม่ยอมกลับ”

แสงฉายไม่พอใจ สั่งเธอหยุดพูด แต่เธอกลับยิ่งพล่าม พาดพิงให้ร้ายแพรไหมราวกับไม่ใช่ญาติ

“เผื่อ ใจไว้บ้างก็ดีนะคะ ยัยแพรดูซื่อๆก็จริง แต่เรื่องผู้ชายไว้ใจไม่ได้หรอกนะคะ ไม่อย่างงั้นคงไม่ตามผู้ชาย ไปหรอก ไปกับใครไม่ไป ไปกับบอดี้การ์ดของเจ้าเนี่ยนะ ไม่รู้ว่าเห็นผิดเป็นชอบได้ยังไง ผู้ชายคนนั้นเทียบเจ้าไม่ได้เลยสักนิด”

แสงฉายหงุดหงิดทำท่าจะเดินหนี พันทิญารีบดักหน้าเว้าวอนอย่างน่าสงสารให้เขาอยู่กับตนก่อน

“พัน ทราบดีค่ะ ว่าพันไม่ใช่คนที่เจ้าอยากจะแต่งงาน ด้วย แต่พันก็ห้ามใจไม่ให้รักเจ้าไม่ได้ ให้พันมีโอกาสอยู่กับเจ้านะคะ พันอยากจะเก็บความทรงจำดีๆนี้ไว้ในใจตลอดไป พันสัญญาค่ะ ก่อนจะถึงวันแต่งงานกับยัยแพร พันจะเป็นฝ่ายไปจากเจ้าเอง...นะคะเจ้า”

แสงฉายพูดไม่ออก สายตาที่มองพันทิญาอ่อนโยนลง

ooooooo

หลัง จากเป็นตะคริวจมน้ำเกือบตายเมื่อตอนเย็น แพรไหมหมดสติถูกภูผาอุ้มกลับมาที่บ้านพัก...เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนค่ำพบว่า ตัวเองใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ นั่นทำให้เธอเข้าใจผิดคิดว่าภูผาเป็นคนเปลี่ยน จึงต่อว่าเขาไปหลายคำ ก่อนจะรู้ความจริงว่าที่แท้พนักงานหญิงของบ้านพักเป็นคนเปลี่ยนให้

“ขอบคุณมากนะคะ ที่ช่วยชีวิตฉันไว้” น้ำเสียงเธออ่อนลง แต่สายตาที่เขามองมาแสนเย็นชาจนเธอรู้สึกได้

“ผมแค่ไม่อยากเห็นคนตายไปต่อหน้าต่อตาก็เท่านั้น”

“ฉัน ขอโทษสำหรับทุกอย่าง ฉันจะไม่แก้ตัว ไม่อธิบายอะไรทั้งนั้น เพราะมันคงไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว ถ้าคุณจะให้ฉันยกเลิกงานแต่งงานกับเจ้า ฉันก็จะทำ เพราะฉันไม่เคยรักเจ้าเลย แต่ฉันต้องทำตามความต้องการของคุณแม่”

แพรไหมน้ำตาเอ่อออกมาด้วยความเสียใจ ภูผามองอย่างชั่งใจครู่หนึ่งก่อนเช็ดน้ำตาให้เธอ

“ไม่ ต้องพูดอะไรอีกแล้ว ผมเข้าใจ ผมจะไม่ทำให้คุณเสียใจอีก ต่อไปนี้ ผมจะลืมสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วก็ปล่อยคุณไปตามทางของคุณ อีกหน่อยคุณก็จะแต่งงานกับคนที่รักคุณ เขาคงดูแลคุณได้ แล้วคุณก็ไม่ต้องรู้สึกผิดอีกต่อไป”

“ไม่...ฉันแต่งงานกับใครไม่ได้อีกแล้ว ถ้าต้องแต่ง... ฉันจะแต่งกับผู้ชายที่ฉันรักคนเดียว ถึงแม้ว่าเขาจะเกลียดฉัน...ฉันก็จะรักเขา”

“ผู้ชายที่คุณรักคงโชคดีที่สุด”
“แต่น่าเสียดายนะคะ ผู้ชายคนนั้นอาจจะไม่เคยหันมามองความรู้สึกของฉันเลยแม้แต่น้อย เขาถึงมีแต่ความเกลียดชัง โกรธแค้น จนไม่เหลือช่องว่างพอที่จะมองเห็นความรู้สึกดีๆที่ฉันมีให้เขาตั้งแต่วันแรก ที่เขาได้ช่วยเหลือฉัน”

เธอสารภาพจากใจจริง แต่สำหรับภูผามีแต่ความ เจ็บแค้น และเขากำลังรอเวลาที่เธอต้องชดใช้อย่างสาสม ทุกถ้อยคำที่ออกจากปากเขาจึงไร้ซึ่งความจริงใจ มีแต่เสแสร้งแกล้งหลอกให้เธอตายใจ

“ใครบอกว่าผมไม่รู้สึกอะไร คุณรู้ไหมว่าผมเจ็บปวดมากแค่ไหนที่รู้ว่าคุณกำลังจะแต่งงานกับคนอื่น ที่ผมพาคุณหนีมา ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่เมื่อผมได้เห็นคุณกำลังจะตายไปต่อหน้าต่อตา มันทำให้ผมรู้ว่าที่ผ่านมาผมไม่เคยเกลียดคุณเลย”

นอกจากลมปากที่เส แสร้งแล้ว เขายังตอกย้ำด้วยการดึงเธอมากอดและจูบอย่างแผ่วเบา แถมเช้าวันต่อมาเขายังมอบแหวนเพชรที่ชัยซื้อให้พันทิญาไว้กับเธอ เสมือนหนึ่งเป็นตัวแทนของเขา เพื่อที่เธอจะได้ไม่ลืมว่าเราสองคนเคยมีความสุขกันมากแค่ไหน

ข้าง ฝ่ายพิพัฒน์ที่สะกดรอยตามพันทิญาจนแน่ใจแล้วว่าเธอคิดไม่ซื่อ ซึ่งคนอย่างเขาไม่มีวันยอมเสียหน้า ยังไงก็ต้องหาทางเอาคืนพันทิญาให้จงได้ ขณะเดียวกันแสงฉายเริ่มหนักใจการกระทำของพันทิญาที่ชักจะเข้ามาวุ่นวายใน บ้านของตนมากขึ้น

พันทิญานอนค้างคืนแล้วเช้าขึ้นมายังร่วมโต๊ะอาหาร กับแสงฉายและแสงมณี ดวงใจหน้าตึงไม่อยากต้อนรับ เช่นเดียวกับแสงมณีที่ดูเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด ครั้นพันทิญากลับไปแล้ว แสงมณีจึงเอ่ยปากกับพี่ชาย ด้วยกลัวแพรไหมรู้เข้าจะมีปัญหา

“พี่ไม่ได้คิดอะไรกับเขาหรอก หญิงอย่าร้อนใจ

ไปเลย ยังไงพี่ก็ต้องแต่งงานกับคุณแพร”

“ถ้าคุณพันไม่ยอมล่ะคะ”

“พี่จัดการได้”

“พี่ชายรู้จักผู้หญิงน้อยไป ผู้หญิงที่ทำอะไรก็ได้ตามที่ตัวเองต้องการโดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสม หญิงไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะยอมให้พี่ชายแต่งงานกับคนอื่นง่ายๆ ท่าทางเขาร้ายไม่ใช่เล่นนะคะ”

“เรื่องของพี่...เดี๋ยวพี่จัดการเอง” แสงฉายตัดบทด้วยความหนักใจ

ooooooo

หาย ไปทั้งคืนแถมยังหน้าระรื่นกลับมา พันทิญาเลยโดนศุภลักษณ์คาดคั้นด้วยความไม่พอใจ ยิ่งเมื่อพันทิญาโกหกว่าไปนอนค้างบ้านเพื่อนแล้วยังพาลด่าแพรไหมที่ป่านนี้ ยังไม่กลับ ศุภลักษณ์โกรธจัดถึงกับตบหน้าพันทิญา แต่พอได้สติก็ขอโทษลูกเสียงสั่นเครือ

วนิดาเห็นเหตุการณ์โดยตลอด เข้ามาปลอบพันทิญาและจ้องมองศุภลักษณ์อย่างไม่พอใจ ขณะที่พันทิญาก็ตัดพ้อต่อว่าทั้งน้ำตาคลอๆ

“ไม่ ต้องแสร้งทำเป็นรู้สึกผิดหรอกค่ะ พันรู้ตัวดีว่าพันไม่ใช่ลูกแท้ๆของคุณแม่ ทำอะไรก็ผิดอยู่วันยังค่ำในสายตาของคุณแม่ ผิดกับยัยแพร มันจะหายตัวไปกี่วัน ไปนอนกับผู้ชายคนไหน คุณแม่ก็ไม่เคยด่าไม่เคยว่า เพราะมันเป็นลูกแท้ๆของคุณแม่”

“ไม่จริงนะลูก แม่ไม่เคยคิดว่าพันเป็นคนอื่น ไม่เคยคิดเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงพันไม่ใช่ลูกแต่แม่ก็เลี้ยงพันมาตั้งแต่เล็กๆ เหมือนที่แม่เลี้ยงยัยแพร”

“ใช่ เลี้ยงเหมือนกัน...คุณแม่ให้พันทุกอย่างก็จริง แต่สิ่งที่คุณแม่ลืมไปก็คือความรัก คุณแม่รักพันไม่เท่ากับยัยแพร ยัยแพรได้ความรักจากคุณแม่ ได้สิ่งดีๆทุกอย่าง แต่พันไม่ได้อะไรเลย”

พันทิญาร้องไห้วิ่งขึ้นห้องไปแล้ว วนิดาโกรธแทนหลานรัก ตำหนิศุภลักษณ์สองสามคำก่อนรีบก้าวตามไปปลอบ...

ส่วน แพรไหมที่อยู่ในระหว่างเดินทางกลับบ้านพร้อมภูผา เธอให้สัญญากับเขาเรื่องจะยกเลิกงานแต่งกับแสงฉายเพื่อได้อยู่กับคนที่เธอ รัก ภูผารับฟังด้วยความสะใจ แล้วฉวยโอกาสนี้พาเธอแวะบ้านของตนก่อน เพราะทวีปโทร.มาบอกว่าที่บ้านเกิดเรื่องใหญ่

ภูผาจอดรถหน้าบ้านแล้วลงมาพร้อมแพรไหม ทวีปแปลกใจรีบเดินมากระซิบถามเพื่อน แต่ภูผาชิงบอกเสียก่อนว่า เดี๋ยวแพรไหมก็กลับบ้านแล้ว...

ปราง แก้วออกมาจากในบ้านอีกคน สีหน้าท่าทางเธอเสียใจจะหันหลังกลับ แต่ภูผารีบดึงมือเธอไว้ อธิบายว่าตนแค่พาแพรไหมไปธุระเรื่องพี่ชัย เราจะได้ไม่ต้องมีอะไรติดค้างต่อกันอีก...แพรไหมไม่เข้าใจในคำพูดนั้น จนกระทั่งเขาออกปากไล่เธอกลับไป เธอถึงกับยืนตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะทวงถามสัญญา แต่คำตอบของภูผากลับทำให้เธอเสียใจอย่างสุดซึ้ง
“คุณจะมาเชื่ออะไรกับลมปากของผู้ชาย...ก็เหมือนคุณไง คุณบอกว่ารักพี่ชัย รักเจ้าแสงฉาย และคงรักทุกคนที่คุณรู้จัก เพื่อหลอกให้พวกเขาตายใจจนตกเป็นเหยื่อคำว่ารักของคุณ...เสียใจด้วยนะ ผมไม่เชื่อคุณ”

“แล้วคุณมาหลอกฉันทำไม”

“ก็สมควรแล้วนี่ คุณหลอกพี่ชายผมจนเขาฆ่า

ตัวตาย ถ้าผมจะหลอกคุณบ้างมันก็สาสมแล้วไม่ใช่เหรอ”

“แล้วที่ผ่านมาล่ะ คุณกำลังจะบอกว่าฉันเข้าใจผิดไปเองใช่ไหม? บอกมาสิว่าคุณไม่ได้รักฉันเลย”

“คุณ ทำให้พี่ชายผมตาย คุณยังคิดว่าผมจะรักคุณได้งั้นเหรอ เสียใจด้วยนะ ผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้ว และอีกไม่นานเราก็จะแต่งงานกัน” ภูผาโอบปรางแก้วเพื่อยืนยันคำพูด แพรไหมร่ำร้องทั้งน้ำตาว่า..ไม่จริง ไม่จริงใช่ไหม? “ผมจะหลอกคุณเพื่ออะไร คนอย่างคุณไม่มีค่าพอที่ผมจะรักได้หรอก...กลับไปซะ ไปแต่งงานกับเจ้าแสงฉาย ต่อไปนี้เราไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกันอีก”

ถูกตัดรอนอย่างไม่มีเยื่อใย แพรไหมแทบล้มทั้งยืน ร้องไห้น้ำตาไหลพราก แต่ภูผากลับไม่สนใจ เดินนำทวีปและปรางแก้วเข้าบ้านหน้าตาเฉย

เข้า มาเห็นหน้าตาแม่ฟกช้ำดำเขียว ภูผาโกรธแค้นคนร้าย จะไปคุยกับแสงฉายให้รู้เรื่อง แต่ทวีปห้ามไว้ เพราะเรายังไม่มีหลักฐานชัดเจน มีแค่คำพูดที่มันขู่ไม่ให้ภูผายุ่งกับแพรไหม

“งั้นฉันจะให้คนมาเฝ้าบ้านไว้ เผื่อพวกมันไม่หยุดอยู่แค่นี้”

“ฉันก็จะให้ตำรวจมาดูแลคุณป้าด้วย เผื่อพวกมันย้อนกลับมาอีก”

การหารือของสองหนุ่มทำให้บุญศรีกับปรางแก้วมองหน้ากันอย่างตระหนกตกใจ คาดไม่ถึงว่าเหตุการณ์จะบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่...

ฝ่าย แพรไหมที่ซมซานกลับมาถึงบ้าน เมื่อถูกพันทิญาคาดคั้นทั้งเรื่องที่หายไปและเรื่องแต่งงานกับแสงฉาย โดยเฉพาะเรื่องหลังที่พันทิญาต้องการให้เธอยกเลิกในเร็ววันแล้วหันไปหา ผู้ชายที่เธอรัก...แพรไหมกำลังเจ็บปวดร้าวรานใจจึงระเบิดอารมณ์ว่า มันไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว ผู้ชายคนนั้นเขาเกลียดตน เขาไม่ได้รักตน ถ้าตนแต่งงานกับเจ้าไปซะ เขาอาจจะดีใจก็เป็นได้

พันทิญาทั้งงงกับขัด ใจคำพูดของน้องสาว ถ้าเป็นเช่นนี้แพรไหมก็ยังเป็นมารขัดขวางความรักของตนอยู่อีก อีกครู่ต่อมา พันทิญาแต่งตัวเตรียมออกจากบ้านตั้งใจจะไปหาแสงฉาย แต่พอโผล่มาถึงรถปรากฏว่าพิพัฒน์ยืนรออยู่ เธอเลี่ยงไม่ได้เลยต้องปากหวานกับเขาว่า

“แหม...ใจเราตรงกันเลยนะคะ พันกำลังเหงาอยู่พอดี ก็เลยจะแวะไปชวนคุณพัฒน์ทานข้าวด้วย”

“ดีสิครับ ผมจะได้ถือโอกาสมอบของขวัญพิเศษสุดให้คุณพัน”

“อะไรเหรอคะ น่าตื่นเต้นจัง”

“เก็บ ไว้บอกหลังจากที่เราทานข้าวด้วยกันเสร็จแล้วดีกว่า แต่รับรองว่าของขวัญชิ้นนี้คุณพันจะต้องถูกใจที่สุด ผมหาตั้งนานกว่าจะได้ ถึงมีเงินกี่ล้านเขาก็ไม่ขายให้นะครับ”

“เป็นล้านเลยเหรอคะ พันเกรงใจจังเลยค่ะ”

“เล็กๆ น้อยๆครับ สำหรับคนพิเศษอย่างคุณพัน มากกว่านี้ผมก็ให้ได้...เชิญครับ” เขาเปิดประตูรถให้ หญิงสาวยิ้มหวานก้าวเข้าไปนั่งหน้าระรื่น โดยไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังหลงกล

แต่น้อยซึ่งรู้อยู่เต็มอกว่าพันทิ ญาตกเป็นของแสงฉายเรียบร้อยโรงเรียนเชียงทวายไปแล้ว และเมื่อสักครู่เห็นกับตาว่าเธอนั่งรถออกไปกับพิพัฒน์ น้อยนึกอยากจะตั้งฉายาให้เหลือเกินว่า หล่อนคือนายสถานีรถไฟที่สับรางเก่งที่สุด

ศุภลักษณ์ทราบจากน้อยว่า แพรไหมกลับมาแล้ว ท่าทางซึมๆเหมือนคนอกหัก เธอรีบขึ้นไปหาลูกสาวบนห้อง ถามไถ่ว่าเป็นอะไร และบอกด้วยว่าเจ้าแสงฉายเป็นห่วงลูกมาก โทร.ถามถึงลูกตลอดเลย

“แพรไม่ได้เป็นอะไร แค่เวียนหัวนิดหน่อยค่ะ คุณแม่บอกเขาไปเลยนะคะ แพรพร้อมจะแต่งงานกับเขาแล้ว แต่งวันนี้พรุ่งนี้ได้ยิ่งดี”

คำ ตอบของแพรไหมทำเอาคนเป็นแม่ตะลึง พรึงเพริด...ดึงลูกสาวเข้ามากอดด้วยความดีใจ ทางด้านพันทิญาที่ค่ำนั้นไปทานอาหารกับพิพัฒน์ในร้านหรู เธอไม่ได้ระแวดระวังตัวเลยสักนิด ด้วยไม่คิดว่าเขาจะเจ้าเล่ห์เช่นเดียวกับตนเอง พิพัฒน์รอโอกาสตอนพันทิญาลุกไปห้องน้ำแล้วแอบใส่ยานอนหลับลงในแก้วน้ำส้มของ เธอ

ooooooo

เช้าวันใหม่ที่บ้านหลังใหม่ซึ่งแสงฉายย้ายเข้า มาเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและน้องสาว...นับวันแสงมณีเริ่มเบื่อหน่ายกับ ชีวิตที่ต้องระวังตัวแจ ไปไหนมาไหนมีแต่ความหวาดกลัวว่าจะมีคนเข้ามาทำร้าย

“ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ แค่ความเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกันจะทำให้คนเชียงทวายด้วยกันถึงกับฆ่ากันได้”

“แต่ พี่จะไม่ยอมให้กบฏพวกนั้นยึดอำนาจไปจากเราได้ หญิงไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น คนที่ภักดีต่อเรากำลังหาทางจัดการกับพวกมันอยู่ อีกไม่นานพวกกบฏจะต้องถูกกำจัด ต่อไปนี้พี่จะให้บอดี้การ์ดของหญิงจัดคนมาดูแลหญิงตลอดเวลา ทั้งในบ้านและนอกบ้าน”

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น