วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อ่านละครเล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 12 วันที่ 25 ก.ค. 55


พิพัฒน์ ธาวิน และบุญทันทราบข่าวสารวัตรสมยศตายจากปรารภ ต่างพากันตกใจพยายามช่วยกันคิดหาตัวฆาตกร แต่ก็ยังมืดแปดด้าน

ส่วน ปารมี เธอกระวนกระวายใจอยู่หน้าห้องผ่าตัด ครู่ใหญ่หมอเปิดประตูออกมา “คุณแม่คุณได้รับการรักษาช้าไป กว่าเราจะได้ผ่าตัดเลือดก็ซึมออกในสมองจนทั่ว ทำให้สมองส่วนที่ควบคุมร่างกายไม่ทำงาน คุณแม่คุณมีสิทธิ์เป็นอัมพาตตั้งแต่แขนลงไปจนถึงขา”

“อะไรนะคะ เป็นอัมพาต”

“ใช่ ครับ เราเองก็ทำจนสุดความสามารถแล้ว ถ้าเมื่อเช้าคุณไม่หายไปในช่วงที่เราต้องการการตัดสินใจจากคุณเพื่อผ่าตัด คนไข้จะไม่เป็นแบบนี้ เอาล่ะครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ” หมอเดินออกไปทิ้งให้ปารมีทรุดกายลงนั่งร้องไห้ ด้วยความเสียใจ

นภาเข้ามาพักฟื้นในห้องคนไข้ ลูกสาวเข้าจับมือแม่พลางฟูมฟายขอโทษ แม่ยังหลับใหลไม่รับรู้เรื่องราวใดๆ

เวลา เดียวกัน ตาลพยายามโทร.หาคนรู้จักรวมทั้งเฮียเสกเพื่อถามข่าวเจ๊อ้อย แต่ไม่มีใครรู้ แล้วจู่ๆก็มีเบอร์แปลกตาโทร.เข้ามา ตาลกดรับสายได้ยินเสียงตำรวจแจ้งว่าพบศพผู้หญิงคนหนึ่งถูกฆ่าทิ้งในแม่น้ำ โทรศัพท์คนตายมีเบอร์ตาลอยู่ จึงอยากให้ไปดู

ตาลตอบรับ แล้วหันไปชวนธาวิน “ตำรวจโทร.มาว่า เจอศพผู้หญิง ตาลสงสัยว่าจะเป็นแม่ไปดูด้วยกันนะคะ”

“ไปสิ” ธาวินจูงมือตาลออกไป

ทั้ง สองมาถึงแผนกนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ตรงเข้าไปดูศพในห้อง ตาลยกมือท่วมหัวขอให้ศพที่คลุมผ้าอยู่ตรงหน้าไม่ใช่แม่ แต่เมื่อตำรวจเปิดผ้าคลุมออกก็แทบช็อก

“แม่...แม่...ใครทำแม่ ใครฆ่าแม่ ใครฆ่าแม่” ตาลเขย่าตัวเรียก

ธาวินรวบตัวคนรักมากอดไว้ ปลอบให้ใจเย็นๆขณะที่ตำรวจถามย้ำอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจด้วยเกรงจะผิดฝาผิดตัว

“แม่ฉันค่ะ ทำไมฉันจะจำแม่ไม่ได้”

“งั้นผมคงต้องขอสอบปากคำคุณผู้หญิงด้วยนะครับ เชิญข้างนอกเลยครับ” ตำรวจคลุมผ้าปิดศพแล้วเดินนำตาลกับธาวินออกไป

ตาลร้องไห้โฮ รำพึงรำพันกับธาวินเรื่องการจากไปของแม่ ชายหนุ่มปลอบใจแล้วประคองคนรักตามตำรวจเข้าไปในห้องสอบปากคำ

“แม่ของคุณถูกฆาตกรรม เพราะตอนที่พบศพถูกมัดอยู่ในกระเป๋าเดินทาง คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่เกินสามวัน” ตำรวจให้รายละเอียด

“คุณตำรวจจะสืบรู้ใช่ไหมคะ ว่าใครฆ่าแม่ฉัน”

“ครับ แต่ผมคงต้องขอรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับผู้ตายจากคุณก่อน”

ตาลตอบทุกคำถามอย่างละเอียด เพราะอยากให้ตำรวจเอาตัวคนร้ายมาลงโทษ ขณะที่ธาวินนั่งครุ่นคิดถึงสาเหตุการตายของเจ๊อ้อย

หลัง จากให้ปากคำเสร็จ ตำรวจแจ้งกับตาลและธาวินว่า พรุ่งนี้จะไปสอบปากคำคนที่อยู่ในบ้านทุกคน และอย่าเพิ่งบอกใครเพราะไม่อยากให้คนร้ายไหวตัว ทั้งสองรับปากแล้วขอตัว

เมื่อ มาถึงบ้าน ตาลก็เอาแต่ร้องไห้โทษตัวเอง ที่ไม่ยอมหนีไปกับแม่ ทำให้แม่เป็นห่วงต้องตามมาอยู่ด้วย จนถูกฆ่าตาย ธาวินเห็นใจคนรัก เขาดึงเธอมากอดปลอบใจ และให้ความเชื่อมั่นว่าตำรวจจะต้องหาตัวคนร้ายได้แน่ ตาลพยักหน้ารับ แต่ยังสะอื้นอยู่ในอ้อมกอด

ooooooo

วันรุ่ง ขึ้น ธาวินเข้ามาเรียนพิพัฒน์ที่นั่งคุยอยู่กับบุญทันและปรารภว่าเจ๊อ้อยเป็นแม่ ของตาลถูกฆ่าตาย วันนี้ตำรวจจะเข้ามาสอบปากคำคนในบ้าน

“หมายความว่า บ้านเรามีฆาตกรงั้นหรือ” พิพัฒน์ตกใจ แล้วรีบเก็บอาการ เมื่อเห็นปารมีเดินเข้ามา ท่านถามอาการนภากับหลานสาว

“ปากำลังจะมาเรียนให้คุณปู่ทราบว่า...แม่เส้นเลือดในสมองแตก หมอบอกว่าแม่จะเป็นอัมพาตไปทั้งตัว”

“อะไร ร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรือ”

“หมอบอกว่าแม่อาจจะไม่สามารถเดินหรือขยับตัวได้อีกต่อไปค่ะ” ปารมีน้ำตาร่วง

ธา วินแปลกใจซักว่า ทำไมนภาถึงตกบันได ปารมีตีหน้าซื่อหลอกว่าแม่เป็นลมเลยหน้ามืดล้มลง พิพัฒน์เห็นใจรับปากจะดูแลเรื่องค่ารักษาให้นภาเอง ปารมีก้มลงกราบคุณปู่ แล้วขอตัว

ครั้นปารมีเดินพ้นไปแล้ว พิพัฒน์ก็เปรยว่าอยากทำบุญบ้านครั้งใหญ่ เพราะมีแต่เรื่องไม่หยุด ขาดคำเสียงมือถือปรารภก็ดังขึ้น คุณทนายกดรับแล้วหันมาเรียนพิพัฒน์ว่า ตำรวจสอบปากคำเด็กคนที่นำอาหารไปให้

สารวัตรสมยศแล้ว ได้ความว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งจ้างให้ทำ

“ผู้หญิงหรือครับ” ธาวินกับบุญทันมองหน้ากันอย่างครุ่นคิด

ในตอนสาย ตำรวจสอบปากคำทุกคนในบ้าน เพื่อหาตัวฆาตกร ส่วนฆาตกรตัวจริงกำลังเดินเข้ามาหานภาในห้องพักคนไข้ พบหมอกำลังตรวจอาการแม่อยู่

“สวัสดีค่ะคุณหมอ คุณแม่เป็นยังไงบ้างคะ”

“รู้สึกตัวแล้วครับ แต่ว่าแขนขาขยับอะไรไม่ได้ ร่างกายทั้งหมด ตั้งแต่คอลงมาไม่ตอบสนองความรู้สึกอะไรเลย”

“แล้วแม่จะมีโอกาสหายเป็นปกติไหมคะ”

“มีเปอร์เซ็นต์น้อยมากครับ แต่นับว่าแกโชคดีมากนะครับที่ยังฟื้นขึ้นมาได้”

“ฝากคุณแม่ด้วยนะคะคุณหมอ ถ้ามีอะไรที่จะทำให้คุณแม่หายขอให้บอกนะคะ”
“ครับ ผมขอตัวก่อนนะ” หมอเดินออกไป

ปารมีหันมองแม่ แล้วเข้ากราบตรงอก “แม่ แม่เป็นไงบ้างคะ ปาขอโทษนะคะแม่ ปาเป็นคนทำให้แม่ต้องเป็นแบบนี้ แม่ยกโทษให้ปานะคะ”

นภาน้ำตาคลอมองลูกสาวพลางพยักหน้าอย่างอ่อนแรง

“จริงนะคะแม่ แม่ไม่โกรธปาจริงๆนะ” ปารมีโผกอดแม่ร้องไห้ “ขอบคุณนะคะแม่ ปารักแม่นะ ปาอยากให้แม่รู้ว่าปารักแม่”

นภาน้ำตาไหลรินมองลูกสาวด้วยความรัก

ooooooo

หลัง จากสอบปากคำทุกคนในบ้านแล้ว ตำรวจก็แจ้งกับตาลและธาวินว่า เหลือเพียงนภากับปารมีที่ยังไม่ได้สอบปากคำ แต่จะรีบโทร.นัดทั้งคู่อีกที ตาลซักว่า คนที่สอบปากคำไปแล้วมีใครน่าสงสัยบ้าง ตำรวจส่ายหน้าเพราะเจ๊อ๊อยไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร ยกเว้นติดเงินพวกคนงานด้วยกันเล็กๆน้อยๆ

“หรือว่าคนร้ายจะไม่ได้อยู่ที่นี่คะ”

“ผม ก็ยังตอบไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ ทุกคนพูดตรงกันว่า วันที่คุณแม่คุณหายตัวไป เธอไม่ได้ออกไปไหน เอาล่ะครับผมขอตัวกลับก่อน ถ้ามีอะไรคืบหน้าผมจะแจ้งให้ทราบ” ตำรวจกลับออกไปแล้วโทร.ติดต่อปารมีเพื่อขอสอบปากคำ

ปารมีตอบยินดีให้ ความร่วมมือ เธอปิดโทรศัพท์แล้วก้มลงกระซิบกับนภา “ตำรวจค่ะเขาเจอศพนางอ้อยแล้ว แม่ไม่ต้องกลัวค่ะ ตำรวจมันไม่มีทางรู้หรอกว่าเป็นเรา”

นภาส่ายหน้าด้วยความกลัว แต่ปารมีส่งยิ้มมั่นใจ “เชื่อหนูสิคะ ตำรวจไม่มีวันรู้”

ooooooo

ในตอนบ่าย บุญทันกับเมย์เดินคุยกันอยู่ในสวน ถึงเรื่องตาลที่ต้องเสียแม่ไปอย่างกะทันหัน

“ถ้า ตอนที่พ่อกับพี่เอตายฉันไม่มีนายอยู่ด้วยก็คงไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ขอบคุณนะบุญทันที่อยู่เคียงข้างฉันตลอดมา” เมย์ส่งสายตาซึ้งแล้วเคลื่อนหน้าเข้ามาจุ๊บแก้มชายหนุ่ม

บุญทันชะงัก เมย์เขินรีบเปลี่ยนเรื่องบอกว่า จะรีบกลับไปเรียนให้จบแล้วกลับมาช่วยงานคุณปู่ ส่วนบุญทันเองก็ควรจะเรียนภาษาเพิ่มด้วย แล้วแม่จอมวีนก็อาสาเป็นคุณครูติวเข้มวิชาภาษาอังกฤษให้

“ครับ” บุญทันรับปาก

“ดีมาก” เมย์ดึงจมูกบุญทันเป็นเชิงล้อ

พิพัฒน์ กับปรารภยืนมองหนุ่มสาวอยู่ริมระเบียง คุณทนายยิ้มน้อยๆพลางเปรยขึ้น “ไม่น่าเชื่อนะครับว่า ในที่สุดคุณเมย์กับคุณภูก็จะได้แต่งงานกันสมความปรารถนาของท่าน”

“ถ้าเจ้าภูไม่ปลอมตัวมา บางทียายเมย์อาจจะไม่รักก็ได้”

“อย่างน้อยในเรื่องร้ายๆยังมีเรื่องดีๆซักเรื่องนะครับ” ปรารภกับพิพัฒน์ยิ้มให้กัน

ooooooo

บ่าย วันต่อมา ตำรวจมาสอบปากคำปารมีที่บ้านสาวเจ้าตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จจนตำรวจเริ่ม คล้อยตามว่าเธอไม่มีส่วนรู้เห็นกับการตายของเจ๊อ้อยและจะขอกลับมาสอบปากคำ อีกครั้งเมื่อนภามีอาการดีขึ้น

“ยินดีค่ะ ปาต้องขอโทษอีกครั้งนะคะ ที่คุณแม่ให้ปากคำไม่ได้”

“ไม่เป็นไรครับ ผมลาล่ะครับ” ตำรวจลุกเดินออก ปารมีมองตามไปแววตาเยือกเย็น

หลัง จากตำรวจกลับไปแล้ว ปารมีก็เข้าไปคุยกับตาลบนตึกใหญ่ เธอนึกอยากจะฆ่าตาลให้ตายตามแม่ แต่ไม่สบโอกาสเพราะเมย์อยู่ด้วย จึงแสร้งทำเป็นนางเอกแสนดีเข้าไปกอดปลอบ

สาวตาลซาบซึ้งชมว่า ปารมีดีกับเธอมากจริงๆ และขอโทษที่ไม่ได้ไปเยี่ยมนภา

“ไม่ เป็นไรหรอกค่ะ ปาเข้าใจ เรื่องของพี่ตาลก็หนักพออยู่แล้ว แล้วปาจะบอกคุณแม่ให้ว่าพี่ตาลเป็นห่วง ปาอยากให้พี่ตาลรู้ว่าปาเป็นห่วงพี่ตาลนะคะ”

ตาลน้ำตาไหลด้วยความตื้นตัน แต่ปารมีกลับลอบมองเธออย่างเกลียดชัง

เวลา เดียวกัน ธาวิน บุญทัน และปรารภไปคุยกับผู้กำกับบนโรงพักเรื่องคดีสมยศจากข้อมูลที่ได้ระบุว่า สมยศมีผู้หญิงมาติดพันหลายคน และหนึ่งในนั้นคือ

ปารมี สามหนุ่มถึงกับอึ้ง

บุญ ทันดึงธาวินออกมาคุยข้างนอก “ถ้าปารมีอยู่เบื้องหลังการตายของสมยศจริงก็แสดงว่าเธอต้องเลือดเย็นมาก ถึงไม่มีท่าทีสะทกสะท้านอะไรเลย”

ธาวินถอนใจภาวนาขออย่าให้เป็นปารมี เพราะถ้าพิพัฒน์รู้อาจช็อกได้ แล้วพึมพำว่าทำไมครอบครัวบุญทันถึงได้วุ่นวายนัก

“อย่าบ่น แกเป็นคนเสนอตัวเข้ามาช่วยฉันเอง ยังไงก็ต้องสานต่อให้จบ” บุญทันเสียงเข้ม พลางหันไปมองปรารภ

คุณ ทนายเดินเข้ามาบอกกับสองหนุ่มว่า ผู้กำกับขอให้เก็บเรื่องปารมีกับสมยศไว้เป็นความลับเพราะถ้าปารมีอยู่เบื้อง หลังการตายของสมยศจริง ตำรวจจะต้องหาพยานหลักฐานให้แน่นหนามามัดตัวเธอไม่ให้หลุด

ธาวินกับบุญทันพยักหน้ารับรู้ แล้วชวนกันกลับบ้าน

ใน ตอนเย็น ปารมีมาบอกกับนภาเรื่องเจ๊อ้อยเป็นแม่ของตาล สวมรอยเข้ามาเป็นคนใช้ เพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดกับลูกสาว พลางยํ้ากับแม่ว่าไม่มีใครสงสัยเรื่องเธอเป็นฆาตกร

นภานิ่งฟังลูก ใจคอไม่ดีนัก เพราะหวั่นในความผิด

ooooooo

สายวันต่อมา ตำรวจเข้าสอบปากคำนภาในห้องพักคนไข้ เรื่องคดีสมยศถูกวางยา
นภาตระหนักรู้ว่า ต้องเป็นปารมีแน่ ยังไม่รู้จะคิดอ่านปานใด ปารมีก็มาถึงพอดี เธอรีบพาตำรวจไปนั่งคุยในร้านกาแฟ แล้วบีบนํ้าตาแต่งเรื่องหลอกว่า เธอกับสมยศรักกันมานานแล้ว แต่นภาไม่ชอบจึงต้องปกปิดไว้

ตำรวจถามต่อเรื่องสมยศลักพาตัวเมย์กับตาลไปเรียกค่าไถ่

“ปา ไม่ทราบเลยค่ะ มีแค่ก่อนที่เขาจะถูกจับ เขาบอกปาว่าเขาจะหาเงินซักก้อนมาขอปา เพื่อไม่ให้คุณแม่ปาดูถูก แต่ปาไม่คิดเลยว่าเขาจะหาทางออกด้วยการจับพี่ตาลกับน้องเมย์ไปเรียกค่าไถ่ ตอนที่ปารู้ปาทั้งตกใจแล้วก็เสียใจ ใจหนึ่งก็อยากไปเยี่ยมเขา แต่อีกใจก็กลัวคุณแม่จะโกรธ จนรู้ข่าวจากหนังสือพิมพ์ว่าเขาตายแล้วปาได้แต่ร้องไห้เสียใจที่ตัวเองทอด ทิ้งเขา” ปารมีทำสะอื้น

ตำรวจดึงทิชชูส่งให้อย่างเห็นใจ และเชื่อว่าเธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยจึงขอตัว ปารมีมองตามพลาง

แสยะยิ้มทั้งนํ้าตา

ด้าน นภา เธอนอนชะเง้อมองไปที่ประตูด้วยความเป็นห่วง สักพักปารมีก็เดินยิ้มเข้ามาบอกว่า ตำรวจไม่มีทางจับเธอได้แน่ นภาส่ายหน้าอยากจะบอกให้ลูกได้สำนึก แต่ปารมีกลับยืนยันอย่างมั่นใจว่า ไม่มีใครทำอะไรเธอได้ แล้วเดินไปเข้าห้องนํ้า

นภามองตาม รู้สึกใจหายที่ลูกไม่มีความหวาดกลัว หรือละอายต่อการฆ่าคนเลย

ooooooo

วันรุ่งขึ้น  ต้นหอมมาทำความสะอาดบ้านนภา

ปารมี เดินลงมาสั่งสาวใช้เข้าไปทำความสะอาดห้องนภา หวังอาทิตย์หน้าหมออาจจะให้แม่กลับบ้านได้ เธอเดินไปหยิบกุญแจมาไขห้อง พลางกำชับ “ทำให้สะอาดนะ เสร็จแล้วก็ล็อกด้วย” แล้วแม่จอมวางแผนก็เดินออกไป

ต้น หอมรีบเข้าไปทำความสะอาดห้อง เธอพบต่างหูข้างหนึ่งตกอยู่ จึงหยิบขึ้นมาดู และจำได้ว่าเป็นของเจ๊อ้อย เพราะเธอเคยขอเจ๊ แต่เจ๊ว่าให้ไม่ได้ เพราะลูกซื้อให้ แม่สาวใช้ไม่รอช้า รีบเอาไปให้ตาลดู และบังเอิญว่าเธอนั่งคุยอยู่กับธาวิน บุญทัน และเมย์

ทั้งสี่ช่วยกันวิเคราะห์เหตุการณ์ เพราะเป็นไปได้ว่านภาอาจฆ่าเจ๊อ้อย แต่เพื่อความมั่นใจ บุญทันจึงแนะตาลว่าควรให้ตำรวจจัดการ

ไม่นานนักตำรวจก็เข้ามาขอสอบปากคำนภาที่โรงพยาบาล ปารมีพยายามจะค้าน แต่ไม่สำเร็จ

“หนูอยู่ข้างนอกนะคะแม่” ปารมีมองแม่อย่างหวาดๆ ก่อนเดินออกไป

นภา มองตามลูกอย่างสุดรักแล้วเริ่มตอบคำถามตำรวจด้วยการพยักหน้า ปารมีมองเข้าไปในห้องเห็นตำรวจกำลังพูดกับแม่ พลันภาพตอนเธอตวัดเข็มขัดรัดคอ

เจ๊อ้อยก็แวบเข้ามา สาวเจ้าสะดุ้งเผลอพึมพำกับตัวเอง

“ทำยังไงดี แม่ต้องบอกตำรวจแน่ ว่าเราเป็นคนฆ่านางอ้อย”

เวลา ผ่านไป ตำรวจสอบปากคำเสร็จ เขาลุกแตะมือนภา พร้อมกล่าวคำขอบคุณในความร่วมมือแล้วเดินจากไป นภาได้แต่นอนนํ้าตาริน ยอมรับสภาพกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น

ปารมีเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องเพราะ หมดหนทางหนี เมื่อเห็นตำรวจเปิดประตูออกมา เธอจึงเข้าไปหาอย่างยอมจำนนพลางเอ่ยถามว่า แม่บอกหมดแล้วใช่ไหม

“ครับ คุณนภายอมรับสารภาพว่าเธอเป็นคนฆ่าคุณอ้อย และเป็นคนจ้างเด็กไปวางยาคุณสมยศ”

“อะไรนะ แม่บอกคุณอย่างงั้นหรือคะ”

“ใช่ครับ เดี๋ยวผมจะขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเฝ้าเธอที่นี่ไว้ก่อน ผมขอตัวนะครับ” ตำรวจเดินออกไป

ปารมีตะลึง รีบเข้าไปสอบถามนภา “แม่...ทำไมแม่บอกตำรวจแบบนั้นล่ะคะ”

นภาหันมองลูกสาวแล้วยิ้มให้ด้วยความรัก ปารมีนํ้าตารื้นถามว่าแม่ทำเพื่อเธอหรือ ผู้เป็นแม่พยักหน้าช้าๆ

“แม่...” ปารมีร้องไห้โฮโผเข้ากอดนภา

ooooooo

เวลา เดียวกัน ปรารภเข้ามาเรียนสมาชิกในบ้านวริทธิวรนันท์ว่า นภาคือคนฆ่าเจ๊อ้อยแม่ของตาลและสารวัตรสมยศ พิพัฒน์แทบทรุดและไม่อยากเชื่อ แต่ปรารภยืนยันว่า เธอเป็นคนสารภาพทุกอย่างเอง

“ตอนแรกตำรวจถามแค่เรื่องแม่คุณตาล แต่บังเอิญพูดพาดพิงไปเรื่องสมยศ คุณนภาก็เลยสารภาพมาทั้งหมด”

เมย์แย้งว่า ทำไมนภายอมรับผิดง่ายๆ บุญทันเห็นด้วย เพราะเขาเองก็ไม่อยากเชื่อว่านภาจะยอมสารภาพง่ายแบบนี้

“แกอาจจะเห็นว่าตำรวจมีหลักฐานมัดตัวแน่นหนา ถ้าไม่สารภาพก็คงไม่รอดอยู่ดี” ธาวินสรุป พลางหันมามองตาลที่นั่งนํ้าตาริน

“ทำไมเขาใจร้ายอย่างนี้...ทำไมเขาต้องฆ่าแม่ตาลด้วย” ตาลลุกขึ้น

“เดี๋ยวตาล ตาลจะไปไหน” ธาวินคว้าตัวไว้

“ตาลจะไปถามเขาว่าทำไมถึงอำมหิตโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้ แม่ตาลไปทำอะไรให้ ทำไมต้องฆ่าแม่ด้วย”

“อย่าไปเลย ไม่มีประโยชน์หรอก ตอนนี้ป้านภาเขาก็ไม่สบายมาก ถึงตาลไปมันก็ไม่ช่วยให้แม่ตาลฟื้นขึ้นมาได้”

“ใช่ อย่าไปเลยลูก ปู่รู้ว่าหนูเสียใจ แต่ปู่ขอ

เถอะ นะ อย่ามีเวรมีกรรมต่อกันเลย อโหสิกรรมให้เขาเถอะ เพราะตอนนี้เขาก็เหมือนตายทั้งเป็นไปแล้ว เห็นแก่ปู่เถอะนะ อโหสิกรรมให้เขา” พิพัฒน์พยักหน้าให้ตาลเป็นเชิงขอร้อง

สาวตาลทรุดลงนั่งนํ้าตาร่วง ธาวินดึงเธอเข้ามา กอดปลอบใจ

หลังจากพิพัฒน์กับปรารภลุกออกไป เมย์ก็หันมาเปรยกับธาวิน

“เม ย์ว่า เรื่องป้านภามันดูแปลกๆนะคะพี่ภู เมย์ว่ามันไม่ค่อยเมกเซนส์ ที่ป้านภายอมรับว่าฆ่าแม่พี่ตาล เมย์ก็พอจะเข้าใจได้ว่าตำรวจมีหลักฐาน แต่เรื่องสารวัตรสมยศนี่สิทำไมแกต้องสารภาพ ในเมื่อตำรวจเขาไม่ได้สงสัยแกซะหน่อย”
ขอขอบคุณจาก thairath.co.th 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น