วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อ่านละครเล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 13 วันที่ 30 ก.ค. 55

ค่ำคืนนั้น ตาลเตลิดมาอยู่บ้านตากอากาศริมทะเล ท่ามกลางแสงดาวสดใส เสียงคลื่นซัดสาดหาดทราย แม้เสียงโทรศัพท์จากธาวินจะเข้ามาอย่างไร เธอก็ไม่รับ ชายหนุ่มจึงเลือกวิธีส่งข้อความเข้ามาแทน

“เชอะ อย่ามาง้อซะให้ยากเลย หนอย หลอกเราได้ว่าเป็นทายาทพันล้าน เสีย SELF หมด” ตาลเบ้ปาก หลังอ่านข้อความ

ส่วน คู่ของเมย์และบุญทัน เช้าวันต่อมา บุญทันอุตส่าห์เข้ามาง้อสาวเมย์ถึงบ้าน แต่สาวเจ้ายังใจแข็งไม่ยอมดีด้วย เพราะอยากให้บทเรียนกับคนรัก ชายหนุ่มต้องเดินคอตกออกไปนั่งซึมในสวน

ปารมีสบโอกาส เข้าคุยด้วยหวังทอดสะพาน แต่เมื่อได้ยินบุญทันยืนยันหนักแน่นว่า รักเมย์คนเดียว ไม่มีใจให้ใครอีกแล้ว จอมมารยาก็ยิ่งแค้น

สายวันนั้น เอง ตาลทราบจากตำรวจว่า เจ้าหน้าที่นิติเวชตรวจพบเศษผิวหนังในเล็บของศพ ทำให้สันนิษฐานได้ว่า ก่อนเสียชีวิตน่าจะคว้ามือฆาตกรไว้ ทำให้เล็บจิกโดนผิวหนัง เมื่อนำไปตรวจ เจ้าหน้าที่พบว่า เศษเนื้อเยื่อผิวหนังนั้น ไม่ใช่ของนภา

“หมายความว่า คุณนภาไม่ได้ฆ่าแม่หรือคะ”

“ครับ คุณนภาไม่ใช่ฆาตกรที่ฆ่าคุณแม่คุณ”

ตาลตกตะลึง คิดไม่ออกว่าฆาตกรคือใคร?

ooooooo

เวลา เดียวกัน พิพัฒน์นั่งพักสายตาอยู่ในห้อง ปารมีย่องเข้ามาจากทางด้านหลัง คุณปู่สะดุ้งหันมาทัก “อ้าว ยายปา ทำไมมายืนเงียบๆปู่ตกใจหมด”

“ขอ โทษค่ะคุณปู่ ปาไม่ทราบว่าคุณปู่หลับค่ะ เห็นอากาศร้อนก็เลยตั้งใจจะเอาชามะนาวมาให้ค่ะ” ปารมีวางแก้วชาบนโต๊ะ พลางถามหาภูบดี คุณปู่ว่าคงกำลังงอนง้อเมย์อยู่

แม่จอมวางแผนสบโอกาสชวนพิพัฒน์ไปตีกอล์ฟ และอาสาขับรถให้ พิพัฒน์แปลกใจซักว่า ทำไมอยู่ๆถึงชวนไปตีกอล์ฟ

“ก็ปาเห็นว่าระยะหลังมานี่คุณปู่ไม่ได้ออกไปไหนเลย อยู่แต่บ้านทุกวัน คงเบื่อแย่”

“ก็ดีเหมือนกันนะ ไปออกรอบซะหน่อย งั้นปู่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้านะ” พิพัฒน์จิบน้ำชาแล้วลุกออกไป ปารมีมองตามส่งยิ้มอย่างมีแผน

พิพัฒน์นั่งรถออกมากับปารมีได้สักพัก ก็เริ่มหาว พลางบ่นกับหลานสาวว่า ทำไมง่วงจัง

“ถ้าง่วงก็งีบหลับได้ก่อนค่ะคุณปู่ เดี๋ยวถึงสนามแล้วปาจะปลุก” ปารมีเสียงหวานแต่แววตาแสนโหดเหี้ยม

ไม่ นานนัก จอมวางแผนก็พาพิพัฒน์มาที่บ้านหลังหนึ่ง ทันทีที่รถจอดก็มีชายฉกรรจ์สองคนออกมาเปิดประตูรถอุ้มพิพัฒน์ที่ยังไม่ได้ สติเข้าไปข้างใน

“เฝ้าไว้ให้ดี ถ้าฟื้นแล้วบอกฉัน” ปารมีกำชับ

“ครับ” ชายฉกรรจ์รับคำพร้อมกับวางร่างพิพัฒน์ลงบนเตียง

ooooooo

ตาล ตัดสินใจกลับบ้านวริทธิวรนันท์ ธาวินออกมาพบด้วยความดีใจ เขารีบง้องอนคนรัก แต่เธอทำเสียงเข้ม แจ้งว่า มาพบภูบดีเพราะมีเรื่องสำคัญจะแจ้งให้ทราบ ธาวินหน้าสลด น้อยใจกับท่าทีเย็นชาของตาล

ระหว่างนั่งรอภูบดี ต้นหอมเอาน้ำเข้ามาเสิร์ฟตาล พลางอ้อนให้กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเก่าเพราะบ้านเงียบมากเมื่อไม่มีเธอ

“ฉันจะมาอยู่ในฐานะอะไร ฉันไม่ใช่สะใภ้ของบ้านนี้ซะหน่อย”

ธาวินมองตาลนิ่งรู้ว่าถูกแขวะเข้าแล้ว จึงเปลี่ยนประเด็นบอกให้ต้นหอมกลับไปทำงาน แล้วเข้ามาจ้องหน้าตาล หมายขอความเห็นใจ

“ผมรู้นะว่าผมผิดที่ผมไม่บอกความจริงตาล แต่ผมอยากให้ตาลเข้าใจผมบ้าง”

“ทำไมฉันต้องเข้าใจ ในเมื่อคุณหลอกลวงฉัน บอกว่าเป็นทายาทเศรษฐีพันล้าน ฉันถึงหลวมตัวมาอยู่ด้วย”

“นี่ตาลจะบอกว่าตาลมาอยู่กับผมเพราะเงินงั้นหรือ ไหนตาลบอกว่าตาลรักผม”

“มันก็ต้องมีเงินเป็นส่วนประกอบด้วยเหมือนกัน ถ้าตอนแรกฉันรู้ว่าคุณไม่มีเงิน ฉันไม่มาอยู่กับคุณหรอก” ตาลทำเมินใส่ทั้งสะใจและเจ็บใจ

“ผมไม่คิดเลยว่าตาลจะเป็นคนแบบนี้” ธาวินตัดพ้อ

นาทีนั้น บุญทันเดินเข้ามา “หวัดดีครับคุณตาล วินบอกว่าคุณตาลมีธุระจะคุยกับผม”

“ค่ะ ฉันจะมาบอกคุณว่าฆาตกรที่ฆ่าแม่ฉันไม่ใช่คุณนภา”

“หมายความว่าไงไม่ใช่คุณนภา คุณป้านภายอมเป็นแพะรับบาปแทนฆาตกรงั้นหรือ” ธาวินกับบุญทันมองหน้ากัน

“ใช่ค่ะ ตำรวจบอกว่าฆาตกรยังอยู่ที่นี่”

“งั้นเรื่องสมยศล่ะ คุณป้านภาฆ่าสมยศด้วยรึเปล่า”

“ไม่ได้ฆ่าค่ะ”

“หมายความว่าคุณนภาโกหกงั้นหรือ ถ้าคุณป้านภาไม่ได้ฆ่าแม่คุณกับสมยศแล้วยอมรับผิดไปทำไม หรือว่ามีใครบังคับ” ธาวินนิ่งคิด

แต่บุญทันกับโพล่งออกมา “หรือว่าคุณนภาปกป้องใคร”

“ปารมีไงคะ” เมย์ตามเข้ามา

เธอขอโทษทุกคนที่เสียมารยาทมาแอบฟัง แล้วอธิบาย ว่า นภาน่าจะยอมรับผิดแทนปารมีมากกว่าจะเป็นผู้ลงมือเอง

“เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ ตาลไม่เชื่อว่าคุณปารมีจะเป็นฆาตกร ตอนที่ตาลไปเยี่ยมคุณนภาเธอยังร้องไห้เสียใจเรื่องแม่ตาลอยู่เลย”

“แต่ผมว่าเป็นไปได้นะ วิน แกจำที่ฉันบอกได้ไหมถ้าคุณนภาไม่ใช่ฆาตกร คนที่น่าสงสัยก็คือปารมี”

“ถ้าเป็นปารมีจริงนับว่าเธอน่ากลัวกว่าที่เราคิดนะ” ธาวินหันมาทางตาล เห็นเธอนั่งอึ้งไม่อยากเชื่อว่าปารมีจะเป็นฆาตกร

ooooooo

ผู้กำกับเรียกปรารภมาพบที่สถานีตำรวจ แจ้งว่าปารมีน่าจะมีส่วนรู้เห็นในการตายของสมยศ

“คือ ลูกน้องผมไปสอบปากคำหมอและพยาบาลที่ทำการผ่าตัดคุณนภา ทุกคนยืนยันว่าวันที่สมยศตาย คุณนภาอยู่ในห้องผ่าตัดตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงบ่ายสามโมง และคุณปารมีหายไปตอนสิบโมงถึงเที่ยง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สมยศตาย”

“แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณปารมีจะมีส่วนรู้เห็นนี่ครับ”

“บังเอิญ เราได้หลักฐานจากกล้องวงจรปิดของร้านอาหารที่คุณปารมีไปเจอกับสมยศ ในวันที่คุณตาลกับคุณเมย์ถูกจับไปเรียกค่าไถ่” ผู้กำกับกดเปิดภาพจากคอมพิวเตอร์ให้ปรารภดู เห็นปารมีนั่งอยู่กับสมยศในร้านอาหารและสมยศกำลังคุยโทรศัพท์อยู่

“และช่วงเวลาที่ภาพบันทึกได้ เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่สมยศโทร.สั่งการลูกน้องให้ฆ่าคุณตาลกับคุณเมย์”

“ผมไม่อยากเชื่อเลยนะครับว่าคุณปารมีจะอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้” ปรารภคาดไม่ถึง

ooooooo

เวลาเดียวกัน พิพัฒน์เริ่มรู้สึกตัว ท่านร้องถามปารมีว่ามาอยู่บ้านหลังนี้ได้อย่างไร

“ปาพาคุณปู่มาเองค่ะ” ปารมีแสยะยิ้มแล้วเปิดทางให้ชายฉกรรจ์สองคนเข้ามายืนขนาบ

“นี่มันเรื่องอะไรกัน เธอคิดจะทำอะไร”

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ปาแค่อยากให้คุณปู่แก้พินัยกรรมด้วยการมอบอำนาจให้ปาเป็นผู้จัดการมรดกหลังจากที่คุณปู่ตาย”

“เธอทำแบบนี้เพื่ออะไร”

“ไม่ต้องถามหรอกค่ะ ตอนนี้อันดับแรก ปาอยากให้คุณปู่บอกให้คุณปรารภมาหาคุณปู่ที่นี่ดีกว่า”

“ไม่ ฉันไม่ทำอะไรให้เธอทั้งนั้น”

ปารมี หันมามองหน้าชายฉกรรจ์ หนึ่งในนั้นเข้ามาตบหน้าพิพัฒน์ผัวะ นางมารร้ายแสยะยิ้มกระชากเสียงสั่งให้พิพัฒน์ทำตาม จะได้ไม่เจ็บตัว พลางยื่นโทรศัพท์ให้ พิพัฒน์จำใจรับมากดโทร.หาปรารภ

ด้านปรารภ เขากำลังจะเดินไปที่รถ เมื่อเสียงโทรศัพท์ มือถือดัง คุณทนายเห็นเบอร์พิพัฒน์ขึ้นหน้าจอจึงรีบกดรับ
“ปรารภ ฉันมาหาเพื่อนที่บ้านเลขที่ 101 ซอยยินดี 22 คุณแวะมาหาหน่อยได้ไหม”

“ได้ครับ ผมมีเรื่องสำคัญจะไปคุยกับท่านอยู่พอดี”

“อืมม์” พิพัฒน์ส่งโทรศัพท์ให้ปารมี แล้วยืนยันว่าปรารภไม่มีทางทำพินัยกรรมปลอมแน่

“เดี๋ยวก็รู้ค่ะ” ปารมีเชิดใส่อย่างมั่นใจ

ปรารภ ครุ่นคิดถึงคำพูดของผู้กำกับ เรื่องสมยศจ้างคนไปฆ่าภาคินลูกชายพิพัฒน์ และบางทีปารมีอาจจะเกี่ยวข้องด้วย เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง ปรารภกดรับได้ยินบุญทันสั่งให้รีบกลับมาที่บ้าน เพราะตาลมาบอกว่า ฆาตกรที่ฆ่าเจ๊อ้อยกับสมยศไม่ใช่นภา

“ผมกำลังจะโทร.บอกคุณภูอยู่ เหมือนกัน เพราะเมื่อกี้ผมไปคุยกับตำรวจมา ตำรวจบอกว่าคุณปารมีอยู่เบื้องหลังการตายของสมยศ ตอนนี้ตำรวจกำลังวางแผนจะจับเธอ”

“ปารมีหรือครับ ผมว่ามาคุยกันที่บ้านดีไหมครับ”

“ได้ ครับ แต่ผมจะแวะไปหาคุณพิพัฒน์ที่บ้านเพื่อนท่านก่อน เพราะเมื่อสักครู่ท่านโทร.หาผมบอกว่าอยู่บ้านเพื่อนน่ะครับ ให้ผมแวะไปหา เดี๋ยวเจอกันนะครับ” ปรารภปิดโทรศัพท์

บุญทันหันมาบอกทุกคน “คุณปรารภบอกว่าปารมี อยู่เบื้องหลังการตายของสมยศจริงๆ”

“หมายความว่าคุณปารมีฆ่าแม่ตาลด้วยงั้นหรือ” ตาลไม่อยากเชื่อ

“เห็นไหมคะ เมย์บอกแล้วว่าปารมีไม่ใช่คนดีอย่างที่ทุกคนคิด”

“แล้วตอนนี้ปารมีอยู่ไหน” ธาวินมองหา

ต้นหอมเดินผ่านมาพอดี ชายหนุ่มเรียกเธอมาถามได้ความว่า ปารมีพาพิพัฒน์ออกไปตีกอล์ฟตั้งแต่บ่าย

“ตอนนี้บ่ายสอง แต่เมื่อกี้คุณปรารภบอกว่าคุณปู่ไปหาเพื่อน” บุญทันมองนาฬิกา

“หรือว่าปารมีคิดจะทำอะไรคุณปู่”

“ตาลว่าคุณรีบโทร.บอกคุณปรารภก่อนดีกว่า”

บุญทันยกโทรศัพท์กดหาปรารภ

ooooooo

ปรารภ ขับรถมาจอดที่หน้าบ้านหลังนั้น เขาชะเง้อมองหาพิพัฒน์  แต่ไม่พบจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปดูข้างใน  เพราะประตูบ้านเปิดอยู่ ปารมีกับคนของเธอใช้ปืนจี้บังคับปรารภ และยึดโทรศัพท์ที่ส่งเสียงเรียกมากดตัดสาย

“นี่มันอะไรกันครับคุณปารมี” ปรารภถามโดยไม่ทันตั้งตัว

“เดี๋ยวคุณก็รู้...เอาตัวไป” ปารมีสั่ง หนึ่งในชายฉกรรจ์จึงผลักปรารภขึ้นไปชั้นบน และให้เข้าไปอยู่รวมกับพิพัฒน์ในห้อง

“คุณปารมีทำอะไรท่านรึเปล่าครับ” คุณทนายร้องถาม

“เขาจะให้แก้พินัยกรรม ให้ฉันมอบอำนาจให้เขาเป็นผู้จัดการมรดก”

“จริงหรือครับ”

“ใช่ เขาต้องการมรดกทั้งหมดของฉัน”

“ถ้า อย่างนั้นคุณปารมีก็คือคนที่อยู่เบื้องหลังการตายของคุณภาคิน เพราะตำรวจบอกผมว่าคุณปารมีอยู่เบื้องหลังการตายของสมยศ และสมยศเป็นคนจ้างคนไปฆ่าคุณภาคิน” ขาดคำปารมีก็เดินเข้ามาพร้อมเอกสาร

“เอาล่ะค่ะคุณปรารภ ในเมื่อเข้าใจทุกอย่างดีแล้วก็กรุณาเซ็นเป็นพยานในเอกสารนี้ด้วย”

“ผมไม่เซ็น”

“คุณว่าไงนะ”

“ผมบอกว่าผมไม่เซ็นอะไรให้คุณทั้งนั้น”

“ก็ตามใจ” ปารมีหันไปคว้าปืนจากลูกน้องยิงใส่อกปรารภเปรี้ยง

สิ้น เสียงปืน ปรารภสะดุ้งเฮือก ร่างผงะหงาย ตาเหลือกค้าง พลันทรุดลงไปนอนจมกองเลือดขาดใจตาย นางมารร้ายแสยะยิ้มหันมาบอกพิพัฒน์ “ไม่มีพยานก็ไม่เป็นไรค่ะ คุณปู่ช่วยเซ็นมอบอำนาจให้ปาด้วย”

“ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะอำมหิตแบบนี้ปารมี” พิพัฒน์เอ่ยเสียงสั่น เนื่องจากตกใจกับเหตุการณ์เบื้องหน้า

“ถ้าปาไม่ทำแบบนี้ก็ไม่มีวันได้มรดกของคุณปู่น่ะสิคะ”

“อย่ามาเรียกฉันว่าปู่ ฉันไม่มีลูกหลานเป็นฆาตกร”

“ก็ ได้ เพราะฉันเองก็ไม่ได้อยากนับญาติกับคุณ เอาล่ะเซ็นชื่อได้แล้ว ถ้าคุณไม่อยากมีจุดจบเหมือนทนายปรารภ” ปารมีจ้องพิพัฒน์อย่างอำมหิต

พิพัฒน์อึ้งจำใจรับปากกากับเอกสารจากปารมี

ooooooo

บุญ ทันกดโทรศัพท์ซ้ำ แต่ไม่มีเสียงตอบรับ เขาหันมาบอกว่าอยู่ๆโทรศัพท์ก็ถูกตัดสัญญาณ ธาวินสังหรณ์ใจกลัวจะเกิดเรื่องไม่ดี เช่นเดียวกับตาล เธอให้บุญทันรีบแจ้งตำรวจ

บุญทันพยักหน้ารับแล้วหันมาชวนธาวินไปด้วยกัน

สอง หนุ่มไปที่สถานีตำรวจ เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ผู้กำกับฟัง ท่านวิเคราะห์สถานการณ์แล้วบอกกับทั้งคู่ว่า ปารมีคงหลอกให้ปรารภไปพบกับพิพัฒน์แล้วกักขังตัวไว้

“แล้วเธอจะเอาตัวคุณปู่กับคุณปรารภไปทำอะไร” บุญทันหันมาปรึกษาธาวิน แล้วทั้งสองก็ร้องพร้อมกัน “มรดก...ใช่ ต้องเป็นเรื่องนี้แน่”

“ถ้างั้นผมรู้แล้วครับว่าเราจะจับตัวคุณปารมีได้ยังไง” ผู้กำกับเริ่มวางแผน

ครั้น ซักซ้อมแผนการกันดีแล้ว ธาวินกับบุญทันกลับมาแจ้งตาลและเมย์ “ตำรวจบอกให้เราแกล้งทำไม่รู้ว่าปารมีคือคนร้าย พวกเราทุกคนต้องทำเป็นตกใจกับการหายไปของคุณปู่”

“เรื่องตกใจไม่เห็นต้องบอกเลย ตอนนี้ก็ตกใจกันอยู่แล้ว” เมย์โพล่งออกมา

“คุณเมย์ครับผมว่าตอนนี้เราต้องสงบศึกชั่วคราวนะครับ” ธาวินไกล่เกลี่ย

เมย์กับตาลส่งค้อนให้ แล้วซักว่าแผนขั้นต่อไปคืออะไร

“เมื่อปารมีตายใจว่าเราไม่ได้สงสัยเธอ เราก็จะหลอกให้เธอติดกับ” บุญทันอธิบาย

“แล้วปารมีจะรู้ได้ยังไงว่าเราไม่สงสัยเธอ” ตาลยังข้องใจ

“เดี๋ยวผมจะโทร.ถามเธอว่าคุณปู่อยู่ไหน” บุญทันหยิบโทรศัพท์มากดหาปารมี

ooooooo

ปารมีกำลังจ่ายค่าจ้างงวดแรกให้กับลูกน้อง หนึ่งในนั้นถามว่าเมื่อไหร่จะฆ่าพิพัฒน์เพราะรำคาญเต็มทีแล้ว

“ยัง ไม่ใช่ตอนนี้ เพราะมันยังไม่หมดประโยชน์ ฉันต้องเก็บมันไว้” ขาดคำ เสียงโทรศัพท์ของปารมีดังขึ้น เธอก้มดูเห็นเป็นเบอร์บ้าน ก็ลังเลก่อนจะตัดสินใจกดรับ “ฮัลโหล”

“น้องปาหรือ ผม ภูบดีนะ พอดีพี่โทร.หาคุณปู่แต่ไม่มีคนรับสาย เห็นเด็กบอกว่าออกไปตีกอล์ฟกับน้องปา พี่เลยจะโทร.มาถามว่าคุณปู่จะกลับบ้านกี่โมง”

“อ๋อ ปาแยกกับคุณปู่ตั้งนานแล้วค่ะพี่ภู ตอนแรกปาจะไปส่งที่สนามกอล์ฟแต่คุณปู่ขอลงกลางทาง บอกว่าเปลี่ยนใจจะไปหาเพื่อน ปาจะไปส่งก็ไม่ยอม บอกจะไปแท็กซี่”

“อ้าวหรือ โอเคจ้ะ งั้นแค่นี้นะ เดี๋ยวพี่จะลองโทร.เข้ามือถือท่านอีกที พอดีมีเรื่องสำคัญ”

“เรื่องอะไรหรือคะ”

“สำนักงานกฎหมายโทร.มาแจ้งว่าเราถูกฟ้องล้มละลาย” บุญทันเข้าแผน

“อะไรนะคะ ล้มละลาย”

“อาจ จะเป็นการเข้าใจผิดก็ได้ นี่พี่กำลังโทร.ตามคุณปรารภอยู่ไม่รู้ว่าแกหายไปไหน แค่นี้นะ” บุญทันปิดโทรศัพท์แล้วหันมาบอกธาวินว่า ปารมีเชื่อสนิท คาดว่าอีกไม่เกินครึ่งชั่วโมงเธอต้องกลับมา

ooooooo

ปารมี ร้อนใจเรียกลูกน้องมาสั่งการ ต้องดูแลพิพัฒน์ให้ดีอย่าให้หนีไปได้ แล้วบึ่งรถกลับบ้าน เธอตรงไปที่ตึกใหญ่ พบบุญทันนั่งหน้าเครียดอยู่กับธาวิน

“เป็นไงคะพี่ภู โทร.เจอคุณปู่รึยังคะ” ปารมีเข้ามาทัก

“ท่านยังไม่รับสายเลย ไม่รู้เป็นอะไรรึเปล่า” บุญทันทำทีเป็นกดโทรศัพท์หาปรารภ

ธาวินหันมาซัก “คุณปู่บอกรึเปล่าครับคุณปา ว่าจะไปหาเพื่อนที่ไหน”

“ไม่ได้บอกค่ะ ปาก็ดันไม่ได้ถามซะด้วย”
“นี่ คุณปรารภก็ไม่รับสายเหมือนกัน” ธาวินทำท่าถอดใจ

เสียงโทรศัพท์บ้านดัง ธาวินเดินไปรับ แล้วเรียกให้บุญทันเข้าไปคุยอ้างว่า ทางธนาคารโทร.มาจะขอพูดกับคุณปู่

บุญ ทันกรอกเสียงไปตามสาย “ตอนนี้คุณปู่ไม่อยู่ครับ ผมเป็นหลานชายท่าน ฝากเรื่องไว้ได้ไหมครับ อะไรนะครับ อายัดเงินในแบงก์ทั้งหมด ยึดบ้านวริทธิ–วรนันท์ด้วย และจะขายทอดตลาดบริษัทในเครือวรารมย์ทั้งหมด ครับๆ  ถ้าท่านกลับมาผมจะเรียนให้ท่านทราบ” บุญทันวางโทรศัพท์หันมาบอกธาวินกับปารมีว่า พิพัฒน์ถูกฟ้องล้มละลายจริงๆ

“ไม่ เป็นไปไม่ได้” ปารมีแทบทรุด

“แต่มันเป็นไปแล้ว แบงก์จะมายึดบ้านและบริษัทกำลังจะถูกขายทอดตลาด”

“ไม่จริง พี่ภูโกหก ปาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน”

“พี่ ก็ไม่เคยรู้มาก่อนเหมือนกัน แต่ทางแบงก์บอกว่าคุณปู่เอาบ้านและบริษัทไปจำนองไว้โดยไม่จ่ายดอกเบี้ยมา หลายปีแล้ว ถ้าปาไม่เชื่อ ปาก็ต่อสายไปคุยกับที่แบงก์ดู” บุญทันยื่นโทรศัพท์ให้

ปารมีอึ้งไม่อยากเชื่อว่าทุกอย่างจะจบแบบนี้

“แล้วนี่คุณปู่ไปไหน ทำไมไม่โทร.กลับซะที ฉันว่าเราควรจะแจ้งตำรวจนะภู” ธาวินเหลือบมองเพื่อนรัก

“รออีกซักพักน่ะ บางทีคุณปู่อาจจะลืมโทรศัพท์ไว้ที่ไหนก็ได้”

“งั้นปาขอตัวก่อนนะคะ คือปาปวดหัวน่ะค่ะ จะกลับไปพักซะหน่อย” ปารมีเดินออกไป

ตาล กับเมย์หลบฟังความอยู่นานแล้ว พวกเธอรีบเข้ามาถามว่า ปารมีเชื่อไหม บุญทันตอบว่า ห้าสิบห้าสิบ เมย์เสนอให้ไปจับตัวปารมีทันที ตาลเห็นดีด้วย แต่ธาวินห้ามไว้ เพราะถ้าไม่มีหลักฐานแน่นหนา ปารมีอาจจะไม่ยอมบอกว่าพิพัฒน์กับปรารภอยู่ไหน

“แล้วจะทำยังไงต่อไป ปล่อยให้ปารมีเดินไปเดินมาลอยนวลแบบนี้หรือคะ ฉันกลัวว่าเขาจะสั่งฆ่าคุณปู่ซะก่อน” เมย์เป็นห่วง

“ยัง หรอก ผมเชื่อว่าปารมีต้องกลับไปเช็กให้แน่ใจก่อน ว่าคุณปู่ล้มละลายจริงรึเปล่า” บุญทันมั่นใจเสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น ชายหนุ่มกดรับได้ยินผู้กำกับแจ้งว่า

“ลูกน้องผมไปเจอรถคุณปรารภจอดทิ้งอยู่ในซอยแถวนนท์”

“จริงหรือครับ แล้วเจอตัวคุณปู่กับคุณปรารภไหมครับ”

“ตอน นี้ยัง แต่เจอบ้านที่ต้องสงสัยแล้ว ลูกน้องผมกำลังหาวิธีเข้าไป ถ้าปารมีกลับมาผมอยากให้คุณเฝ้าเธอไว้อย่าให้เธอหนีไปก่อนที่เราจะเจอตัวคุณ พิพัฒน์”

“ได้ครับ นี่เธอเพิ่งกลับมา”

“ดี เฝ้าเธอไว้อย่าให้คลาดสายตา”

“ครับ” บุญทันปิดโทรศัพท์ หันมาบอกทุกคนว่าตำรวจให้จับตาดูปารมีไว้

“แต่ตอนนี้เธอกลับไปบ้านแล้ว”

“งั้นฉันจะไปอยู่กับเธอเอง” ตาลอาสา

“ผมว่าอย่าดีกว่า เราไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ คุณอาจจะมีอันตรายนะตาล”

“ใช่ค่ะพี่ตาล เมย์ว่าอย่าเสี่ยงดีกว่า”

“แต่ถ้าไม่มีใครประกบเธอไว้ เธออาจจะหนีได้นะคะ”

“ใช่ เอาอย่างนี้ ผมว่าให้ตาลเข้าไปประกบปารมี ส่วนพวกเราคอยระวังอยู่รอบนอก” บุญทันตัดสิน

“โอเคค่ะ” ตาลเหลือบมาเห็นธาวินมองอย่างห่วงใย ก็ทำเมินใส่

ooooooo

ครั้นกลับมาถึงบ้าน ปารมีรีบโทร.หาชัยรัตน์ผู้จัดการธนาคาร ถามเรื่องพิพัฒน์ถูกฟ้องล้มละลายอย่างร้อนรน

“อ๋อ ใช่ครับ ผมเพิ่งได้รับแจ้งเหมือนกันว่าคุณพิพัฒน์ล้มละลาย”

“จริง หรือคะ ขอบคุณนะคะ” ปารมีปิดโทรศัพท์อย่างโกรธๆ พลางสบถออกมา “บ้าที่สุด ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ นี่ฉันหลงคิดว่ามันมีเงินงั้นหรือไอ้แก่ แกนี่มันเลวจริงๆ ฉันจะฆ่าแก”

ปารมีลุกจะเดินออก แต่ตาลเปิดประตูเข้ามาทัก “ดีใจจังเลยค่ะที่เจอคุณปา”

“มีอะไรหรือคะ” ปารมีรีบปรับสีหน้า

“ตาลมีเรื่องกลุ้มๆน่ะค่ะ ไม่รู้จะคุยกับใคร เลยนึกถึงคุณปา ตาลคุยด้วยได้ใช่ไหมคะ”

“เอ่อ ค่ะ” ปารมีจำใจรับคำ

ตาลยิ้มให้ทำทีเดินดูบ้าน “โอ้โห บ้านคุณปาสวยจังเลยนะคะ ตาลไม่เคยเข้ามาที่นี่เลย”

“ค่ะ ปากับคุณแม่ช่วยกันตกแต่งน่ะค่ะ”

ตาลหยิบรูปนภาที่วางบนตู้โชว์ขึ้นมาดูแล้วเปรยขึ้น “เห็นคุณนภาแล้วทำให้ตาลคิดถึงแม่”

ปารมีชะงักแสร้งทำตีหน้าเศร้าบอกว่าเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น

“ช่างมันเถอะค่ะ ตอนนี้คุณนภาก็ชดใช้กรรมแล้ว”

“พี่ตาลไม่โกรธแม่ปาจริงๆหรือคะ”

“ไม่ค่ะ” ตาลข่มความเจ็บปวดแล้วฝืนยิ้ม

“ขอบคุณนะคะ อ้อ พี่ตาลดื่มอะไรดีคะ มีน้ำแอปเปิ้ลกับน้ำส้ม”

“น้ำเย็นดีกว่าค่ะ”

“เดี๋ยวปาไปเอาให้นะคะ” ปารมีเดินออกไป

ตาลมองตามด้วยความโกรธและเกลียดชัง ส่วนปารมีเมื่อพ้นสายตาตาลแล้ว เธอรีบโทร.สั่งลูกน้องให้ฆ่าพิพัฒน์ทันที เพราะหมดประโยชน์แล้ว

“ถ้าเรียบร้อยแล้ว โทร.บอกฉันด้วย” ปารมีปิดโทรศัพท์ด้วยแววตาไร้อารมณ์

ด้าน ลูกน้อง เมื่อรับคำสั่งก็ชวนกันขึ้นไปจัดการกับพิพัฒน์ แต่ยังไม่ทันได้ลงมือ ตำรวจก็บุกเข้ามา ทั้งสองไม่ยอมให้จับ จึงถูกตำรวจวิสามัญ

“ปลอดภัยแล้วครับท่าน” ตำรวจเข้ามาช่วยพิพัฒน์ที่เริ่มถอนใจได้

ooooooo

ปารมียกน้ำมาเสิร์ฟตาล สาวเจ้าทำทีเป็นยกน้ำจิบแล้วชวนคุยไปเรื่อยเพื่อรอเวลา สักพักเสียงโทรศัพท์มือถือของตาลดังขึ้น เธอกดรับ

“ฮัลโหล”

“ตอนนี้ตำรวจช่วยคุณปู่ได้แล้วนะ อีกไม่เกินสิบนาทีตำรวจจะมาจับปารมี ตาลออกมาได้แล้ว” เสียงธาวิน บอกมาตามสาย

“ค่ะ ขอบคุณนะคะ” ตาลปิดโทรศัพท์ แล้วหันมาบอกปารมี “คุณเมย์น่ะค่ะเขาชวนไปทานข้าวที่บ้านเย็นนี้ คุณปาไปทานด้วยกันไหมคะ”

“ไม่ล่ะค่ะ”

“คุณปาอยู่คนเดียวคงเหงานะคะ”

“ก็มีบ้างค่ะ ปกติคุณแม่เคยอยู่ด้วย พอไม่มีคุณแม่ก็แย่เหมือนกัน”

“จะ ว่าไปคุณปากับตาลก็หัวอกเดียวกันนะคะ เราเป็นลูกสาวคนเดียวเหมือนกัน กำพร้าพ่อเหมือนกัน แถมแม่ยังมาตายเหมือนกันอีก คุณนภาคงรักคุณปามากนะคะ”

“ค่ะ ปาก็รักแม่มากเหมือนกัน ปายังจำได้ตอนเด็กๆ เวลาปาอยากได้อะไรแม่จะหามาให้ ต่อให้ยากแค่ไหน แม่ก็จะต้องดั้นด้นไปหามาให้จนได้”

“นั่นสิคะ แล้วทำไมถึงโยนบาปไปให้ท่าน”

“โยนบาป”

“ใช่คะ ทำไมถึงโยนความผิดให้ท่านเป็นฆาตกร”

“พี่ตาลพูดเรื่องอะไรคะ” ปารมีตีหน้าซื่อ

“คุณเป็นคนฆ่าแม่ฉัน ฆ่าสมยศไม่ใช่หรือคะ”

“ทำไมพี่ตาลพูดแบบนี้ล่ะคะ ปาไม่ได้ทำนะคะ”

“คุณเลิกโกหกได้แล้ว ตอนนี้ใครๆก็รู้ว่าคุณเป็นฆาตกร คุณเป็นคนอำมหิต คุณฆ่าแม่ฉันได้ยังไง แม่ฉันทำอะไรให้คุณ” ตาลเดินเข้าหา

ปารมีถอยหนีพลางปฏิเสธ “ปาไม่รู้เรื่องพี่ตาล ปาไม่รู้เรื่องนะคะ”

“เลิกตีหน้าซื่อทำเป็นแสนดีได้แล้ว ตอนนี้ตำรวจกำลังจะมาจับคุณ”

“งั้นหรือ” ปารมีดึงปืนจากกระเป๋ามาจ่อตาล “เธอนี่มันแส่หาที่ตายเหมือนแม่ไม่มีผิด”

“ในที่สุดเธอก็ยอมเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาซะที”

“ใช่ ฉันฆ่าแม่เธอ เพราะแม่เธอมันสาระแนไม่เข้าเรื่องเหมือนกับเธอ ที่จริงเธอน่าจะตายไปนานแล้วนะ ไม่น่าเชื่อว่าจะรอดมาได้ทุกครั้ง”

“นี่หมายความว่าเธอหาทางฆ่าฉันมานานแล้วหรือ”

“ใช่ ตั้งแต่ก้าวแรกที่เธอมาเหยียบบ้านนี้ เพราะเธอมันแส่เหมือนแม่ ถ้าเธอไม่เข้ามาในฐานะหลานสะใภ้คุณปู่ก็คงไม่ต้องเสี่ยงตาย”

“เธอนี่มันเลวจริงๆ”
ขอขอบคุณจาก thairath.co.th

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น