วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อ่านละครเกิดเป็นหงส์ ตอนที่ 19 อวสาน วันที่ 10 ก.ค. 55

 ทิววิ่งพาทุกคนไปตามเส้นทางที่เขามั่นใจว่าเทพ กับล้วนพาหญิงมานศรีหนีไป แต่ทิวอ่อนล้ามาก ธีรพลเห็นท่าทีจึงถามอย่างกังวล
     
       “คุณทิว...เป็นอะไรหรือเปล่า”
       “ผมไม่เป็นอะไร ผมจะไปช่วยคุณหญิงจากไอ้สารเลวนั่น”
       “ทุกคนตระหนักในความเป็นห่วงหญิงมานศรีของทิว”
       “หมอดูแลคุณชายเถอะ คุณชายหนักกว่าผม”
       ชายคำรณฤทธีสวนขึ้น
       “คุณไม่ต้องพูดหรอก ผมเองก็ห่วงน้องหญิงไม่น้อยไปกว่าคุณ ผมพร้อมเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อน้องหญิง...”
       ทิวยิ้มให้
       “งั้น เรารีบไปกันเถอะ”
       ทิวและชายคำรณฤทธี รีบออกเดินทางตามช่วยหญิงมานศรี ธีรพลหันมาบอกพิไลพร
       “พร...กลับไปที่บ้านใหญ่เถอะ”
       “ไม่ค่ะ พรเป็นห่วงคุณหญิง พรจะไปช่วย”
       “ตามใจ”
       พิไลพรตามธีรพล วิ่งตามทิวและชายคำรณฤทธีไปพักใหญ่ ทิวมองไปรอบๆไม่เห็นวี่แวว เขาหันกลับมามองชายคำรณที่เหนื่อยและบาดเจ็บมาก
       “หมอธี ให้คุณชายพักก่อน ผมจะไปดูร่องรอยใกล้ๆ”
       ธีรพลดูอาการของชายคำรณฤทธี
       “พักก่อนนะชายคำรณ...”
       ทิววิ่งออกไปทางหนึ่ง แล้วเห็นล้วนวิ่งไปอีกด้าน
       “ไอ้ล้วน”
       ทิวชักปืนจะยิงล้วน แต่ไม่ทัน ทิวรีบตามล้วนไป
     
       พิไลพรเห็นทิวหายไปนานก็กังวล...
       “คุณทิวหายไปนานแล้วนะคะ”
       ธีรพลไม่สบายใจขึ้นมา
       “หรือว่า...จะมีเรื่อง...”
       “เราตามไปกันเถอะ”
       “แต่คุณชาย...”
       “ฉันเป็นลูกผู้ชาย จะมามัวอ่อนแออยู่ได้ยังไง ในขณะที่น้องหญิงกำลังตกอยู่ในอันตราย”
       ชายคำรณฤทธีลุกขึ้นทันที เดินนำออกไป ธีรพล พิไลพรสบตากันอย่างเห็นใจและเข้าใจชายคำรณฤทธี จึงรีบตามออกไป
     
       ล้วนวิ่งมาถึงที่โรงงานแห่งหนึ่ง ทิววิ่งตามมา
       “หยุดนะ ไอ้ล้วน!”
       ล้วนยิ้ม แล้ววิ่งไปทางมุมหนึ่ง ทิวมองตาม เห็นหญิงมานศรียืนอยู่ชั้นสองของโรงงาน แต่แล้วเทพเดินเข้ามายืนด้านหลังหญิงมานศรี
       “ยินดีต้อนรับสู่ลานประหาร...”
       ทิวตกใจที่เทพคุมเชิกหญิงมานศรีไว้ ชายคำรณฤทธี ธีรพล พิไลพรตามเข้ามา ทุกคนตกใจ และเป็นห่วงหญิงมานศรีมาก
       “ไอ้เทพ แกต้องการอะไรกันแน่ ถ้าแกต้องการสมบัติของทัดเทพทั้งหมดฉันยินดียกให้แก เงินฉันมีมากพอที่จะให้แกหนีไปอยู่ต่างประเทศ แต่แกต้องปล่อยตัวคุณหญิง”
       “มันเลยจุดจุดนั้นมาแล้ว ฉันไม่ต้องการเงินทอง เพราะเงินที่ฉันยักยอกมาก็ทำให้ฉันอยู่ได้สุขสบายไปทั้งชาติ”
       “แล้วนายต้องการอะไร”ชายคำรณฤทธีถาม
       “ชีวิต”
       ทิวและชายคำรณฤทธีตกใจในสิ่งที่เทพต้องการ
       “แกต้องการชีวิตคุณหญิง แกก็ต้องเอาชีวิตมาแลก”
       หญิงมานศรีร้องห้าม
       “ไม่นะ!”
       “ได้ ฉันจะเอาชีวิตของฉันแลกกับคุณหญิง”
       หญิงมานศรีตกใจ
       “นายทิว ได้โปรดเถอะ อย่าทำอย่างนั้นเลย”
       “ที่ผ่านมาผมใจร้ายทำร้ายคุณหญิง แต่คุณหญิงก็ยังดีกับผม และให้โอกาสผมเสมอมา ถึงเวลาแล้วที่ผมจะช่วยเหลือคุณหญิง เพราะชีวิตของคุณหญิงมีค่ามากกว่านายทิวคนนี้” ทิวบอกอย่างมุ่งมั่น
       “ไม่มีใครมีค่ามากไปกว่าใคร ชีวิตของทุกคนต่างก็มีค่าด้วยกันทั้งนั้น ยกเว้นชีวิตของผู้ชายชั่วๆคนนี้”
       “ปากเก่งปากดีไม่มีตกเลยนะคุณหญิง แบบนี้สิ ผมชอบ”
       เทพขยี้จูบปากหญิงมานศรีทันที แต่เธอไม่ยอมให้เทพได้โดยง่าย กัดปากเทพอย่างแรง
       “โอ๊ย!”
       เทพจะตบหลังมือไปที่หน้าหญิงมานศรี ทิวร้องขัด
       “อยากจะเอาชีวิตฉัน ก็อย่าแตะต้องคุณหญิง”
       เทพชะงัก ทิวหยิบปืน ขึ้นมา เทพยิ้มพอใจ
       “ปลิดชีพตัวเองซะ”
       ทิวจะยิงปืนฆ่าตัวตาย แต่ชายคำรณฤทธีร้องห้าม
       “ไม่ได้นะนายทิว นายทำอย่างนั้นไม่ได้ เอาชีวิตฉันไปแทน”
       “พี่ชาย” หญิงมานศรีตกใจ
       “น้องหญิง ขอให้พี่ได้ทำหน้าที่พี่ชายอย่างสมบูรณ์เถอะ พี่ชายรักน้องหญิงมาก หากเกิดอะไรกับน้องหญิงพี่ชายไม่มีวันให้อภัยตัวเองเลย พี่ชายขอสละชีวิตให้น้องหญิง ขอให้น้องหญิงดูแลหม่อมแม่ และดูแล
       วังกฤตยาของเราต่อไป...”
       “ไม่นะพี่ชาย อย่าทำ ผู้ชายคนนี้ไม่เคยรักษาสัญญา ไม่ว่าใครจะตายไปกี่คนมันก็ไม่มีทางปล่อยหญิง”
       ชายคำรณฤทธีมองเทพ
       “สัญญาสิ...ว่าจะปล่อยน้องหญิง”
       “ก็เอาสิ กล้าเสียสละชีวิตตัวเองได้ ผมก็กล้าปล่อยคุณหญิงได้เหมือนกัน”
       “พี่ชาย อย่าไปเชื่อ อย่าเชื่อ!”
       ชายคำรณฤทธีแย่งปืนมาแล้วเหนี่ยวไกยิงตัวเองที่อกด้านขวา เสียงปืนดังปัง หญิงมานศรีตกใจ
       “พี่ชาย”
       ชายคำรณฤทธีทรุดตัวร่วงลงนอนกับพื้น หญิงมานศรีร้องไห้โฮ
       “พี่ชาย”
       หญิงมานศรีทรุดตัวร้องไห้เสียใจ ทิว ธีรพล พิไลพร เองก็เสียใจและตกใจมาก ชายคำรณฤทธีค่อยๆหลับตาลงแน่นิ่งไป
     
       หม่อมสรัสวดีที่หลับอยู่สะดุ้งรู้สึกตัว...
       “ชาย...ชายคำรณ”
       พวงทองเข้ามาดูแลหม่อมสรัสวดี...
       “หม่อมฟื้นแล้ว”
       หม่อมสรัสวดีร้องไห้
       “พวงทอง ชายคำรณถูกยิง ชายคำรณอยู่ไหน”
       “หม่อมฝันไปน่ะค่ะ เรายังไม่ได้ข่าวคราวของพวกเขาเลยค่ะ”
       “ฉันฝันไปเหรอ...แต่มันเหมือนจริงมาก มันเหมือนจริงทุกอย่าง...ฉันจะไปช่วยชายคำรณกับลูกหญิง”
       หม่อมสรัสวดีลุกขึ้นจากเตียง ออกไปจากห้องทันที
       “หม่อมคะ”
       พวงทองรีบวิ่งตามไป บุญปลูกเข้ามาขวางไว้ ก่อนที่หม่อมสรัสวดีจะออกไปข้างนอก
       “หม่อมจะไปไหนคะ”
       “ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ออกไป”
       หม่อมสรัสวดีผลักบุญปลูกออก พวงทองเข้ามากับอรอนงค์และนพดล
       “หม่อมค่ะ อย่าไปเลยค่ะ มันอันตรายมาก”
       หม่อมสรัสวดีหันกลับมาบอก
       “ ไม่ว่าฉันจะเป็นอะไร ฉันยอมเอาชีวิตเข้าแลก ฉันต้องช่วยลูกหญิงและชายคำรณให้ได้เธอไม่เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่หรอก”
       “ถึงดิฉันไม่ใช่แม่คน แต่ฉันแบกความรับผิดชอบในฐานะผู้นำของบ้านนี้ ในฐานะพี่สาวที่เป็นห่วงน้องชาย และผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาคุณเทพ ภรรยาของฆาตกรที่ฆ่าพ่อแม่ตัวเองและกำลังทำร้ายทุกคน ความเจ็บปวดที่ดิฉันได้รับไม่ยิ่งหย่อนกว่าที่หม่อมรู้สึก ดิฉันจะเป็นคนออกไปช่วยทุกคนเอง ดิฉันจะพยายามโน้มน้าวให้คุณเทพเปลี่ยนใจ...ดิฉันต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ เกิดขึ้น”
       อรอนงค์รีบบอก
       “ให้ฉันไปด้วยเถอะ ขอให้ฉันได้แสดงความรับผิดชอบเหมือนเธอบ้าง”
       “ถ้าอย่างนั้น ดิฉันฝากให้คุณอร...ดูแลหม่อมสรัสวดีแทนดิฉันด้วย นี่คือความรับผิดชอบที่ดิฉันต้องการจากคุณ”
       อรอนงค์อึ้ง พยักหน้าช้าๆอย่างยอมรับ พวงทองหันไปสั่งเข้มที่เดินเข้ามา
       “นายเข้ม ไปกับฉัน”
       “ครับคุณพวงทอง”
       บุญปลูกรีบบอก
       “บุญปลูกจะดูแลทางนี้เองค่ะ”
       พวงทองและเข้มจะออกไป หม่อมสรัสวดีให้พร...
       “ขอให้เธอพาลูกหญิงและทุกคนกลับมาอย่างปลอดภัยนะ”
       “ค่ะ...”
       พวงทองและเข้มรีบออกไป ทุกคนมองตามอย่างเป็นห่วง ส่งแรงใจช่วยทุกคน
     
       ภายในโรงงานร้าง...ทิวบอกเทพ...
       “แกทำลายไปหนึ่งชีวิต...แกได้สิ่งที่แกต้องการแล้ว ปล่อยตัวคุณหญิงได้แล้ว”
       เทพหัวเราะสะใจ
       “แกยังเชื่อใจและไว้ใจฉันอีกเหรอ ฉันล่ะนับถือแกจริงๆ”
       “ไอ้คนหลอกลวง” หญิงมานศรีตวาด
       “นิยายรักพี่ชายแสนดีกับน้องสาวแสนสวย มันจบลงแล้ว...ชีวิตพี่ชายเธอมันไร้ค่าสำหรับฉัน เธอรู้ดีไม่ใช่เหรอ....ว่าฉันต้องการอะไร...” เทพชี้ไปที่ทิว “วิญญาณมันต่างหากที่ฉันต้องการ”
       ทิวจ้องเขม็ง เทพมองอย่างเกลียดชัง
       “แกเป็นตัวมารที่ขวางความสุขฉันมาทั้งชีวิต คิดจะแย่งชิงธุรกิจไปจากฉัน คิดจะพรากผู้หญิงที่ฉันรัก... ทิว หยุดเถอะ...อย่าทำให้ฉันต้องเกลียดแกชั่วชีวิตเลย ฆ่าตัวตายซะ...”
       “อย่านะทิว อย่าทำตามมัน ไม่งั้นนายก็พ่ายแพ้ต่อมัน”
       หญิงมานศรีร้องห้าม ทิวเดินไปหยิบปืนจากมือชายคำรณฤทธี ขึ้นมา...
       “นายทิว อย่านะ...”
       “ผมไม่เหลือทางเลือกอีกแล้ว ในเมื่อมันเกลียดชังผม หากผมตายไปทุกอย่างอาจจบลง”
       เทพยิ้มเย้ยอย่างพอใจ หญิงมานศรีทรุดตัวลงร้องไห้
       “นายทิว”
       “คุณหญิงครับ...หากสิ่งที่ผ่านมา ผมทำให้คุณหญิงเจ็บช้ำน้ำใจ ผมอยากบอกคุณหญิงว่า...จริงๆแล้วผมไม่เคยมีเจตนาอย่างนั้น”
       หญิงมานศรีได้ฟังก็แปลกใจ นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ถูกทิวกลั่นแกล้งในอดีตอย่างเศร้าๆ
       “สิ่งสุดท้ายที่ผมอยากบอกคุณหญิงก็คือ...”
       หญิงมานศรีรอฟัง เทพตวาด...
       “เลิกพร่ำเพ้อสักที ได้เวลาตายของแกแล้ว ไอ้ทิว ฉันไม่อยากเสียมือฆ่าแก ฉันอยากเห็นแกตายด้วยมือของแกเอง....มันยิ่งทำให้ฉันภูมิใจ ฮ่ะๆ...แล้วหลังจากนี้คุณหญิงก็จะครองรักอยู่กับฉันอย่างมีความสุข
       ตลอดไป...ชั่วนิจนิรันดร์ แฮปปี้เอ็นดิ้ง ฮ่ะๆๆๆ”
       “ไม่...ฉันไม่มีวันรักคุณ”
       เทพไม่พอใจ
       “คุณหญิง”
       หญิงมานศรีตวาด
       “ฉันไม่มีวันรักคุณ”
       “คุณหญิงรักใครไม่ได้นอกจากผม คุณหญิงต้องรักผม”
       “ฉันเคยคิดว่าคุณคือเทพบุตร แต่เมื่อฉันได้รู้จักคุณ คุณกลับมีหัวใจสีดำที่คอยทำร้ายคนอื่น ซึ่งตรงกันข้ามกับนายทิว”
       หญิงมานศรีมองไปยังทิวที่คอยฟังว่าหญิงมานศรีจะพูดถึงเขาอย่างไร...
       “...ผู้ชายที่เต็มไปด้วยความโหดร้าย หยาบคาย เป็นผู้ชายที่ฉันรังเกียจ แต่หัวใจเขากลับบริสุทธิ์ มีความรักที่จริงใจ สิ่งเหล่านี้ต่างหาก คือเกียรติสูงส่งที่น่าศรัทธา...ซึ่งคุณจะไม่มีวันได้รับรักจากใคร หากคุณใช้อำนาจบังคับขู่เข็ญ”
       “หยุดพล่ามได้แล้ว...ตายได้แล้ว ทิว ยิงสิ ยิง!”
       หญิงมานศรีไม่หยุดยังคงพูด...
       “ได้ยินมั้ยว่าฉันเกลียดและขยะแขยง คุณไม่เคยมีค่ามีตัวตนในสายตาของฉัน คุณมันไร้ค่า แม้แต่ไส้เดือนกิ้งกือ ยังมีคุณค่าต่อโลกใบนี้มากกว่าเศษมนุษย์อย่างคุณ”
       เทพสั่งทิว
       “แกไม่ยิง ฉันฆ่าแกเอง”
       เทพจะยิงทิวเอง แต่หญิงมานศรีจับปืนไว้
       “ก็ได้ ผมจะไม่ยิงมัน ถ้าอย่างนั้น คุณหญิงก็ต้องตายแทนมัน”
       เทพจ่อยิง หญิงมานศรีศรีตัดสินใจแย่งปืนจากเทพ...ตะโกนบอกทิว
       “ทุกคนรีบหนีไป”
       หญิงมานศรีแย่งปืนจากเทพ ปืนกระเด็นหลุดมือเทพไป หญิงมานศรีรีบวิ่งหนี ทิวเป็นห่วงจะวิ่งไปช่วย ล้วนวิ่งเข้ามาขวาง ทิวต่อสู้กับล้วนด้วยหมัดมวย พิไลพรจับชีพจรของชายคำรณฤทธีร้องบอกอย่างดีใจ
       “คุณชายยังไม่ตายค่ะหมอธี”
       “อะไรนะ”
       ธีรพลรีบมาดูอาการของชายคำรณทันที
     
       เทพวิ่งเข้าไปหยิบปืน จะตามจับตัวหญิงมานศรี เธอพยายามคว้าของใกล้ตัว ปาใส่เทพ เพื่อจะวิ่งหนีลงไปข้างล่าง
       ทางด้านทิวต่อสู้กับล้วน ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ ทิวหันมาตะโกนสั่ง
       “พาคุณชายออกไป เร็วเข้า!”
       ธีรพลและพิไลพรพยุงชายคำรณออกไป ล้วนเข้ามาซ้ำทิว อาศัยแรงเยอะกว่า จัดการทิวกลิ้งไปนอนหมอบกับพื้น ล้วนถือเหล็กแหลมที่หยิบมาได้ ลากเข้ามา จะแทงตัวทิว แต่ทิวคว้าปืนที่พื้นข้างตัวชายคำรณ ฤทธีขึ้นมายิงสวน
       ล้วนถืออาวุธค้างจะล้มลง ทิวกลิ้งตัวหลบร่างล้วนที่ล้มลงมา...
     
       หญิงมานศรีวิ่งหนีลงมาจากชั้นสอง ลงมาข้างล่าง เทพวิ่งไล่ตามมา...
       “หยุดนะคุณหญิง!”
       หญิงมานศรีวิ่งหนี จะไปหาทิว แต่สะดุดเชือก ทำให้ล้มลง เทพวิ่งเข้ามาหยุดมอง สะใจที่หญิงมานศรีหนีไปไม่ได้
       ทิวเห็นเทพเดินตรงไปหามานศรีก็เป็นห่วง
       “คุณหญิง”
       ทิวจะวิ่งไปช่วยหญิงมานศรี แต่แล้วมือของล้วนจับเท้าทิวไว้
       “ไอ้ล้วน”
       ล้วนดึงเท้าทำให้ทิวล้มลง ล้วนฝืนลุกขึ้น หยิบอาวุธแหลมจะแทง ทิวยื้อแย่งของแหลมนั้น แล้วแกว่งไปปักที่มุมหนึ่ง
      
       ล้วนเข้ามาต่อสู้อีกคราวนี้ทิวออกแรงสุดกำลังถีบล้วนกระเด็นไปถูกเหล็กแหลมปักทะลุกลางร่าง ล้วนขาดใจตายทันที
ขอขอบคุณจาก manager.co.th
 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น