วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555

อ่านละครพริกกับเกลือ ตอนที่7(ต่อ) วันที่14 ส.ค. 55


“พี่ดิ่งกลับมาแล้วค่ะคุณพ่อ เมื่อถูกยัยมารศรีตีจากโดยไม่บอกเหตุผล แล้วมาแต่งงานกับคุณพ่อ ผู้หญิงคนนี้โกหกว่าไม่รู้จักพี่ดิ่ง ทั้งๆ ที่เขากับพี่ดิ่งเคยรักกันและพี่ดิ่งวาดฝันจะแต่งงานกับเขาด้วยซ้ำ แล้ว...”

“พอ!! พ่อถามว่าไอ้ดิ่งมันอยู่ไหน”

ศุ วิมลแทบช็อก เมื่อถูกเศกตำหนิอย่างรุนแรงว่า ทั้งที่รู้ว่าตนไม่สบายก็ยังสร้างเรื่องมาให้ทุกข์ใจ ถ้าเกลียดมารศรีนักก็ไม่ต้องอยู่ที่นี่ “เพราะฉันไม่มีทางเลิกกับคุณศรีเพียงเพราะคำพูดของแก!”

เศกเดินกลับไปแล้ว มารศรีเย้ยศุวิมลที่ยังช็อกอยู่ว่า “รู้คำตอบจากคุณเศกแล้วใช่ไหม...เขาไม่เชื่อคุณ!”

ooooooo

เพราะ ถูกดิ่งขอร้องแกมขู่ว่าให้พูดกับตนดีๆ เพราะเธอต้องพึ่งตนอยู่ คืนนี้จี๊ดหิว เธอบอกเขาอย่างอ่อนหวาน...ดิ่งก็รีบทำให้โดยเร็ว แต่พอยกมาให้ จี๊ดผิดหวังอย่างแรง เพราะมันเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ดิ่งถามว่าจะกินไหม เธอทำหยิ่งบอกว่าไม่กิน แต่พอดิ่งจะยกไปเธอรีบคว้าไว้ บอกว่าอยากกินก็ไปทำเอาเอง ดิ่งบอกว่าซองนี้ซองสุดท้ายแล้ว จี๊ดเลยยิ่งหวง แต่เห็นหน้าดิ่งแล้วใจอ่อน เลยแบ่งกันกิน นั่งกันคนละฝั่งโซ้ยกันคนละคำ แต่พอคำต่อๆ ไปก็กลายเป็นแย่งกันอย่างดุเดือด ท่ามกลางเสียงเพลงโรแมนติกที่ดิ่งเอามาเปิดคลอตลอดเวลา

กินเสร็จ จี๊ดเข้านอน แต่พอล้มตัวลงนอนก็คิดถึงเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจและหนีมา เธอถอนใจ บอกตัวเองอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “พรุ่งนี้ฉันจะตื่นมา แล้วลืมเรื่องเลวร้ายทุกอย่าง ฉันจะเข้มแข็ง ฉันต้องทำได้”

ดิ่งยืนอยู่ที่หน้าประตูได้ยินจี๊ดตั้งใจดี เขาพึมพำอย่างเชื่อมั่นว่า “คุณต้องทำได้สิ คุณจี๊ด ผมเอาใจช่วย”

แต่พอรุ่งขึ้น จี๊ดก็กลับซึมเศร้าเหมือนเดิม ดิ่งเดินเข้าไปทัก

“ผมคิดว่าคุณจะเข้มแข็ง และก็ดีขึ้นแล้วเสียอีก”

“ไม่ รู้สิ บอกไม่ถูก...เดี๋ยวดีเดี๋ยวเศร้า สลับกันไปมา บางทีก็คิดนะ จะเศร้าดีหรือไม่เศร้าดี พอจะเศร้าก็ไม่อยากพอจะดีก็ดันเศร้า” ดิ่งฟังแล้วถอนใจบอกว่า บ้าแล้วล่ะ

จี๊ดมองขวับดุร้ายปานงูจะฉก แต่แล้วก็บ่นว่า ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วยแล้ว อยากจะลืมโลก ลืมความวุ่นวาย

ดิ่งลุกขึ้นส่งมือให้ จี๊ดถามว่าทำอะไร “ไม่อยากเศร้าไม่ใช่เหรอ ไป ผมจะพาไปร่าเริง”

ที่ยอดผา ดิ่งพาจี๊ดไปยืนมองทะเลที่กว้างไกลสุดสายตา คลื่นต้องแสงอาทิตย์เป็นประกายระยิบระยับ จี๊ดมองตะลึง

“สวยจัง...เขาไม่ได้เรียกพามาร่าเริง...เขาเรียก...

ลั้ลลา...” จี๊ดวิ่งไปสูดอากาศบริสุทธิ์ราวกับนกน้อยเริงลม

คนที่สบายใจยิ่งกว่าคือดิ่ง เขายืนมองจี๊ดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว...

ooooooo

ฝ่ายยอดชายกับใจดี หลังจากพบปะกับเงาะแล้ว ก็ยังเป็นห่วงคอยใกล้ชิดดูแลให้กำลังใจ และก็เบาใจเมื่อเงาะสัญญาว่าจะไม่ไปไหนอีกแล้ว

เทวัญ ที่เหมือนวัวสันหลังหวะ มีชนักปักหลัง คอยจับตาการเคลื่อนไหวของยอดชายและใจดีไม่วางตา เห็นสองคนยืนคุยกันก็มาแอบฟัง ได้ยินยอดชายฝากใจดีไปบอกเงาะว่าให้อดทนอีกหน่อย

“ไม่ต้องห่วง เงาะแค้นพี่เทวัญมาก ตั้งใจจะช่วยพวกเราเขี่ยพี่เทวัญให้พ้นจากชีวิตของจี๊ดและทุกคนให้ได้ เงาะพร้อมเป็นพยานยืนยัน คุณเจตนาก็รู้เรื่องแล้ว แต่จี๊ดดันไม่อยู่ คนที่จะตัดสินใจและทำให้เรื่องนี้จบคือจี๊ดคนเดียว”

เทวัญโกรธแค้นมาก เดินเครียดออกไปทันที

เทวัญดิ่งไปที่ห้องทำงานของเจตนา พอเห็นเจตนามองก็กินปูนร้อนท้องว่าท่านมองตนเหมือนเป็นฆาตกร ทำเอาเจตนางงบอกให้ใจเย็นๆ

“ผมคงเย็นต่อไปไม่ไหวแล้วครับ เมื่อทุกคนทำ อะไรกันลับหลัง โดยที่มีผมเป็นเหยื่อ”

เจตนาถามงงๆว่าพูดถึงเรื่องอะไร เทวัญโพล่งไปว่ามีคนมารายงานท่านเรื่องตนกับเงาะ เจตนายอมรับว่าใช่ และเพราะเรื่องนี้ทำให้จี๊ดหนีไป

“ทุกคนฟังความข้างเดียวจากผู้หญิงขี้อิจฉาคนนั้น แต่ไม่มีใครฟังผม ซึ่งเป็นคนรักที่คบหากันมานานของน้องจี๊ด!”

เทวัญ แสดงอาการวิตก น้อยใจ โกรธเกรี้ยวจนเจตนาเริ่มลังเล เทวัญได้ทีรุกต่อ “ผมรักน้องจี๊ดอย่างจริงใจ สามปีที่พิสูจน์ตัวเองมามันไม่หนักแน่นเท่าคำใส่ร้ายจากผู้หญิงคนนั้นไม่กี่ ประโยคเหรอครับ”

เจตนาบอกว่าตนตอบคำถามของเขาไม่ได้ เขาควรไปคุยกับจี๊ดเอง เทวัญถามทันทีว่า

“แล้วน้องจี๊ดอยู่ที่ไหนล่ะครับ”

“เมื่อเขาสบายใจเขาก็กลับมาเอง”

“ถึงตอนนั้นยังมีความยุติธรรมเหลือให้ผมอยู่อีกเหรอครับ น้องจี๊ดอาจจะปักใจเชื่อไปแล้วก็ได้ว่าผมมันเลว!”

ooooooo

จี๊ดกำลังสบายใจกับทิวทัศน์สวยงามที่ยอดหน้าผา เธอนั่งคุยกับดิ่งอารมณ์ดีเล่าให้เขาฟังว่า

“ฉันเจอพี่เทวัญครั้งแรกตอนนั้นฉันเรียนอยู่ปีสุดท้าย และมาฝึกงานที่ออฟฟิศของคุณพ่อ โดยมีเพื่อนๆ

ฉัน อีกสามคนคือยอด ใจดี และเงาะมาด้วย...พี่เทวัญเป็นคนเก่ง หน้าตา นิสัย ฐานะดีมาก ดูแลฉันและเพื่อนดีที่สุด ตอนนั้นเขาคือคนที่เพอร์เฟกต์ และเป็นสุภาพบุรุษที่สุด... พี่เทวัญสารภาพกับคุณพ่อคุณแม่ว่ารักฉัน และขออนุญาตดูแลฉัน ฉันตอบตกลงก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะตอบเสียอีก”

ดิ่ง ถามว่าเธอรักเขาใช่ไหม จี๊ดบอกว่าที่ตอบตกลงเพราะอยากมีคนรัก อยากให้คนมารักเพราะไม่มีใครมารักตนเลย ทั้งที่ตนสวย รวย และเก่ง ดิ่งเปรยๆว่า “ก็เลือกเยอะทำไม”

“ไม่มีมาให้เลือกต่างหาก ไม่มีใครทนนิสัยฉันได้สักคน มีแต่พี่เทวัญที่รักในสิ่งที่ฉันเป็น...แต่ในที่สุด

เขาก็หลอกฉัน!”

“มีสิ...อย่าเพิ่งสิ้นหวังว่าจะไม่มีคนรักคุณจริง

รัก ตัวเองเสียก่อนแล้วค่อยไปรักคนอื่น เมื่อรักเป็น ตอนนั้น คุณก็จะได้รับความรักที่จริงใจตอบแทนกลับมา...ภายใต้เงื่อนไข ถ้าคนคนนั้นจริงใจกับคุณ”

ooooooo

เจตนาฟังเทวัญแล้วคิด เครียดไปด้วย เขาฝากข้อความไปตามเบอร์ที่ดิ่งให้ไว้ รุ่งขึ้นเมื่อดิ่งไปที่ร้านขายของชำก็ได้รับข้อความจากเจตนาว่า “เทวัญ

ต้องการคุยกับจี๊ด กลับบ้านด่วน...เจตนา”

เมื่อดิ่งบอกจี๊ด เธอปฏิเสธทันที “ฉันไม่กลับ” ดิ่งถามว่าทำไม เธอสะบัดเสียงใส่ “ยังไม่พร้อม”

ดิ่ง พยายามหว่านล้อมให้เธอกลับไปแก้ปัญหาเสีย เพราะถ้าเกิดปัญหาแล้วไม่รีบเคลียร์ให้จบมันจะยิ่งยุ่งยาก เธอไม่ควรหนี ควรกลับไปเผชิญหน้า ถูกจี๊ดโต้เสียงเครือว่า

“นายไม่ใช่ฉัน นายไม่รู้หรอกว่ามันยากแค่ไหนที่ฉันต้องกลับไปคุยกับพี่เทวัญเรื่องที่เขามี อะไรกับเพื่อนสนิทฉัน มันไม่ง่าย! นายเข้าใจไหม!!”

ดิ่งไม่พูดแต่นึกในใจอย่างเจ็บปวดว่า “ทำไมจะไม่เข้าใจว่าการถูกหักหลังมันเป็นยังไง...”

คำ ยุยงเป่าหูของเทวัญทำให้มารศรีเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทุกวันนี้เธอดูแลเศกอย่างดีเยี่ยม เอาอกเอาใจฉอเลาะอ่อนหวาน ตีสองหน้าแบบคนหน้าเนื้อ

ใจเสือ เธอเหี้ยมพอที่จะวางยาให้เศกตายไปทีละน้อยๆ

อย่างเลือดเย็น!

แม้ เศกจะหลงใหลมารศรี แต่ก็ระแวง เขาจ้างนักสืบให้สืบประวัติมารศรีมาให้หมด โดยเฉพาะตอนอยู่เยอรมันเธอเรียนที่ไหน เรียนอะไร ที่สำคัญมีคนรักอยู่ที่นั่นหรือเปล่า

ความกังวลทำให้เศกหวาดหวั่นถึงกับภาวนาว่า “อย่าให้ความจริงเป็นอย่างที่ผมคิดเคยคุณศรี...ผมรักคุณนะ”

ooooooo

ศุ วิมลเสียใจที่ถูกพ่อไล่ เธอไปหาดิ่ง ถูกยอด- ชายกวนประสาทตามเคย หาว่าตามตื๊อผู้ชาย ในภาวะที่กดดันอัดอั้นทำให้เธอร้องไห้ออกมา ยอดชายกลัวคนเข้าใจผิดรีบพาเธอเข้าไปนั่งในห้อง อดเหน็บไม่ได้ว่าร้องไห้เพราะถูกผู้ชายทิ้ง ศุวิมลขำความเข้าใจผิดของยอดชายที่คิดว่าเธอหลงรักดิ่งและตามตื๊อ เธอหัวเราะออกมาทั้งที่น้ำตายังเปียกแก้ม

ยอดชายตกใจแกมแปลกใจกับศุ วิมลที่ร้องไห้อยู่ดีๆก็หัวเราะออกมา เธอบอกว่าขำที่เขาคิดว่าตนตามตื๊อดิ่งไม่ยอมเลิก เกือบพลั้งปากบอกว่าดิ่งเป็นพี่ชายไปแล้ว ดีแต่แก้ทันว่า รู้จักกับดิ่งถูกชะตากันจนนับถือเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง

“แค่ไม่กี่วันเนี่ยนะ นับถือเป็นพี่เป็นน้องกันแล้ว”

“ความ จริงใจไม่ได้วัดกันที่ระยะเวลา บางคนถ้าถูกชะตาแค่เห็นแป๊บเดียวก็อาจจะตายแทนกันได้ แต่บางคนถ้าไม่ถูกชะตาก็อยากจะฆ่าให้ตายได้เหมือนกัน”

ยอดชายทำหน้า สยอง ปลอบให้ทำใจดีๆไว้ แล้วจึงบอกว่า ดิ่งไม่อยู่ลางานกลับบ้านต่างจังหวัด พอรู้ว่าพี่ชายไม่อยู่ ศุวิมลก็ร้องไห้ออกมาอีกอย่างเสียใจ เคว้งคว้าง จนยอดชายใจไม่ดีบอกว่ามีอะไรจะให้ตนช่วยได้ก็ไม่ต้องเกรงใจ

“นายช่วยอะไรไม่ได้หรอก เรื่องนี้ซับซ้อนเกินกว่าที่คนสมองไม่ค่อยมีรอยหยักอย่างนายจะเข้าใจ ไปนะ”

ศุวิมลไปแล้ว ยอดชายเพิ่งรู้ตัวว่าถูกด่าว่าโง่ ได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันคำรามว่าต้องคิดบัญชีกับเธอให้สาสมเลย คอยดู!

ooooooo

เพราะ จี๊ดยังอารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ดิ่งหาทางทำให้เธอลืมความเจ็บปวด วันนี้เลยอุ้มไปลงทะเล จี๊ดดิ้นเร่าๆถามว่าจะพาไปไหน เขาบอกว่า พาเอาความทุกข์ไปทิ้งทะเล

จี๊ดถูกโยนลงทะเล เธอลุกขึ้นได้ก็ไล่เอาคืน หนุ่มสาววิ่งไล่กันในทะเล จากที่จะเอาคืนกันกลายเป็นหยอกล้อกันอย่างร่าเริง ดิ่งยิ้มอย่างสบายใจที่ทำให้จี๊ดหัวเราะได้

เล่นกันจนเหนื่อย ขึ้นมานอนพักที่หาดทราย ดิ่งถามว่าคิดจะกลับบ้านเมื่อไหร่ จี๊ดบอกว่าอีกสองสามวัน ดิ่งถามวัดใจว่าไม่เป็นห่วงพ่อแม่บ้างรึไง

“ห่วง แต่...ไม่รู้สิ ไม่เป็นไรหรอกมั้ง ป้าเพ็ญกับสำรวยก็อยู่ ส่วนคุณพ่อท่านก็แข็งแรงดี” ดิ่งชี้ว่าตนหมายถึงท่านจะใจหายแค่ไหนที่ลูกสาวหายไป “ฉันไม่ห่วง เพราะฉันรู้ว่านายโทร.ไปบอกคุณพ่อฉันตั้งแต่วันแรกที่มาที่นี่แล้ว...เป็น ไง...ฉันสวยและฉลาดแค่แกล้งทำโง่ไป

งั้นแหละ” จี๊ดคุยโว ทำเอาดิ่งทึ่ง ได้แต่ขำๆความเฮี้ยวของเธอ

เวลา เดียวกัน วันดีร้อนใจที่จนป่านนี้ลูกยังไม่กลับ เจตนาบอกว่าลูกอาจจะยังไม่หายโกรธก็ได้ วันดีอยากให้เทวัญออกตามหา เทวัญพูดเหน็บๆว่าตนก็อยากทำ แต่ท่าทางท่านไม่อยากให้ตนไป วันดีหันไปต่อว่าเจตนาว่าขัดขวางความสุขของลูก เพราะอยากแก้แค้นตน

“เลิก เพ้อเจ้อก่อนเถอะคุณวันดี ผมไม่บอกว่าจี๊ดอยู่ไหนเพราะผมเคารพความต้องการของลูก ต้องให้ลูกตัดสินใจเองว่าเขาจะพร้อมเมื่อไหร่” แล้วหันบอกเทวัญว่า “ฉันช่วยเธอดีที่สุดแล้วนะ ที่เหลือก็ต้องแล้วแต่จี๊ด”

ที่บ้านพักบนเกาะ เกิดเรื่องตกอกตกใจเมื่อแม่บ้านขี่มอเตอร์ไซค์มาที่บ้าน เห็นจี๊ดเดินอยู่หน้าบ้านก็ชี้หน้าตะโกนลั่น

“ช่วยด้วย...ช่วยด้วย...โจรปล้นบ้าน!!”

“เฮ้ย...ไม่ใช่นะ ไม่ใช่” จี๊ดตะโกนสวนไป ดิ่งวิ่งออกมา เธอถามหน้าตาตื่น “นายดิ่ง เขาว่าเราเป็นโจรปล้นบ้านเขา ยังไงเนี่ย!!”

“ซวยแล้ว!!!”

ooooooo

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น