วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555

อ่านละคร รักเกิดในตลาดสด ตอนที่ 8 (ต่อ)วันที่ 14 ส.ค. 55

ต๋องพากิมลั้งวิ่งไป ถูกลูกน้องบังไล่ตามจนเจอ ต๋องยังพากิมลั้งวิ่งหนีเจอร่องน้ำก็บอกให้กระโดด กิมลั้งกระโดดพลาดทำให้ขาแพลง เธอเจ็บมากจนไปต่อไม่ได้ บอกต๋องให้รีบหนีไปก่อน เพราะถ้าเขารอดก็ยังพาคนมาช่วยตนได้

ต๋องลังเล กิมลั้งบอกว่าถ้าเขาอยากให้ตนรอดก็รีบไปก่อนที่จะไม่ทัน ต๋องจึงตัดสินใจวิ่งไป บอกว่าแล้วจะรีบมาช่วย

ลูกน้องบังส่วนหนึ่งไล่ตามต๋องไป อีกส่วนหนึ่งก็มาลากกิมลั้งขึ้นจากน้ำอย่างไม่ปรานีปราศรัย มิไยว่าเธอจะร้องว่าเจ็บสักแค่ไหน

“ปล่อย ผู้หญิงเดี๋ยวนี้!” ต๋องย้อนกลับมาตะคอกใส่ พวกมันหันมองแล้วยกปืนเล็งทันที ต๋องยกมือยอมแพ้อย่างไม่ลังเล แต่ตามองกิมลั้งอย่างเป็นห่วง ส่วนกิมลั้ง

มองต๋องอย่างผิดหวังว่า...ไม่น่ากลับมาเลย...

ลูก น้องชายศักดิ์ส่งรูปมาให้ดู พอเห็นหน้าต๋องจากโทรศัพท์มือถือ ชายศักดิ์กัดฟันกรอดพึมพำว่า ไอ้ต๋องจริงๆด้วย ลูกน้องถามว่าจะให้จัดการสองคนนี้อย่างไร

“จับมันไว้ก่อน อย่าให้หนีได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะเข้าไปจัดการมันอีกที อ้อ...อย่าเผลอทำอะไรโง่ๆให้มันจับได้ล่ะว่าฉันคือบังเว้ยเฮ้ย”

ลูกน้องรับปากแข็งขัน พอวางสายจากเจ้านาย พวกที่ยืนรอลุ้นอยู่ก็ชวนไปสังสรรค์กันอย่างกระหาย คว้าขวดเหล้าโชว์กันหัวเราะร่า

ฝ่ายชายศักดิ์คิดไม่ออกว่าจะจัดการกับต๋อง

อย่าง ไรดี รัศมีเสนอให้จัดการเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว เสี่ยกลัวเรื่องจะสาวมาถึงตัวบอกรัศมีว่า ชีวิตเรามีค่าไม่ควรเอาไปแลกกับพวกนั้น แต่ก็ยังไม่รู้จะทำอย่างไร คืนนี้คิดอีกคืนพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน

ooooooo

พรรคพวกของคิตตี้ และชมพู่ที่ตลาดต่างพากันเป็นห่วงสองคนที่หายเงียบไป โทร.ก็ไม่รับสาย เครือฟ้า คาดว่าสองคนนี้ต้องหนีหนี้บังเว้ยเฮ้ยแน่ๆ เลยไม่กล้ารับโทรศัพท์ของใครเลย

ป้าพิณที่นั่งฟังอยู่นานยกมือท่วมหัวภาวนา “เจ้าประคู้ณ...ขอให้เป็นอย่างที่เอ็งว่าเทอะ...อย่าให้เป็นอย่างที่ข้าคิดเลย”

อา โกถามว่าคิดอะไร ป้าพิณไม่ทันบอก คิตตี้กับชมพู่ก็โผล่มาในสภาพทรุดโทรมสุดๆ พอเข้าร้านก็รีบบอกอาโกให้ปิดร้านเร็วๆ เดี๋ยวพวกบังมาเห็นเข้า

เมื่อ คิดว่าปลอดภัยแล้ว คิตตี้กับชมพู่ก็เล่าเรื่องที่เกือบเอาชีวิตไม่รอดให้เพื่อนๆฟัง ชมพู่ย้ำว่า บังเว้ยเฮ้ย โหดร้ายกว่าที่เราคิดมาก คิตตี้พูดอย่างหวาดผวาว่าป่านนี้พวกมันคงตามหาตนสองคนให้ควั่กไปแล้ว บอกพรรคพวกว่า

“ที่มานี่ก็เพราะฉันจะมาเตือนทุกคนไว้ ถ้างวดหน้าคิดว่าไม่มีเงินใช้หนี้บังมันละก็ให้รีบหายตัวไปจากตลาดให้เร็วที่สุด”

“เอ็งก็พูดง่าย แล้วจะให้พวกข้าหนีกันไปที่ไหน ที่ทำมาหากินก็อยู่นี่” คำมูลถาม

“แต่ถ้าไม่หนี พี่ก็จะไม่มีโอกาสทำมาหากินไปตลอดชีวิต เพราะจะโดนพวกมันลากไปฆ่าเหมือนฉันสองคนแน่”

เครือฟ้าถามว่าแล้วจะให้หนีไปไหน คิตตี้ให้หนีไปให้พ้นจากแถวนี้ก่อน ว่าแล้วก็ตัดบทว่า

“เอา ล่ะ...ฉันคงช่วยทุกคนได้แค่นี้...ที่เหลือก็ตัวใครตัวมันละกัน” แล้วทั้งคิตตี้กับชมพู่ก็พรวดพราดออกไปเลย ทิ้งให้พรรคพวกที่เหลือมองหน้ากันอย่างหนักใจว่าจะเอายังไงกันดี!?

ooooooo

กิมฮวยไม่เป็นอันกินอันนอน เมื่อตามหากิมลั้งไม่เจอจึงไปหาจะเด็ดให้นั่งทางในดูว่าลูกสาวตนอยู่ไหน
จะเด็ดนั่งทางในหน้าเครียด เต็กไฮ้ถามว่าเห็นไหมว่า กิมลั้งกับต๋องอยู่ไหน จะเด็ดทำเป็นเพ่งแล้วบ่นว่า “ที่นั่นมันมืดมาก ขมุกขมัวเหมือนมีม่านอะไรบังอยู่”

กิมฮวยกำลังเสียศูนย์ โวยวายว่าต๋องพากิมลั้งเข้าม่านรูดหรือ จนเคี้ยงต้องเตือนให้ตั้งสติหน่อย คิดได้ยังไงว่าลูกสาวเราจะทำอะไรแบบนั้น

กิมฮวยโต้ว่าถึงกิมลั้งไม่ทำต๋องก็ทำ จาตุรงค์ทนฟังไม่ได้เอามือจับที่หัวใจทำท่าเหมือนจะตาย

“ฉันว่าเราอย่าเพิ่งตีโพยตีพายกันไปก่อนเลยนะ อาจจะไม่มีอะไรเลวร้ายอย่างที่คิดก็ได้” ลักษณ์ปลอบลูกชาย

กิมฮวยฟูมฟายว่าป่านนี้ลูกสาวตนจะถูกทำปู้ยี่ปู้ยำยังไงบ้างก็ไม่รู้ ตำรวจก็ไม่มีข่าวเลย พูดแล้วร้องไห้โฮๆจนเคี้ยงต้องคอยปลอบ

ooooooo

ณดาไข้ขึ้นสูงจนเพ้อ เธอหนาวจนศักดิ์ชายกอดเธอไว้ให้ความอบอุ่น แต่พอเธอรู้สึกตัวขึ้นมาก็โวยวายว่าทำอะไรตนอีกแล้วใช่ไหม

ศักดิ์ ชายบอกว่าเธอเองนั่นแหละที่มาซุกตน ครางตลอดเวลาว่าหนาว ไข้ขึ้นจนเพ้ออะไรออกมาบ้างไม่รู้ตัวเลยใช่ไหม พูดแล้วบ่น “ไอ้เราก็อุตส่าห์ช่วยให้ความอบอุ่น รู้งี้ปล่อยให้จมนํ้าตายสมใจอยากก็ดี”

ณดาสวนไปทันทีว่าใครบอกว่าตนอยากตาย ศักดิ์ชายหาว่าเธอเดินลุยลงทะเลประชดตน ณดายิ้มเหยียดย้อนเย้ยว่า

“สำคัญ ตัวผิดแล้ว ฉันไม่ได้คิดจะฆ่าตัวตายจริงๆ ซะหน่อย ตอนนั้นตะคริวมันกินก็เลยผิดแผน ฉันไม่โง่พอที่จะเอาชีวิตไปแลกกับคนไม่มีค่าอย่างคุณหรอก”

ศักดิ์ชาย ของขึ้นคว้าแขนเธอดึงไปจ้องหน้าพูดด้วยความโกรธว่า “ใครมันจะไปมีค่าสู้ไอ้ต๋องของคุณล่ะ ถึงได้ระริกระรี้อยากเป็นเมียมันนัก ทั้งๆ ที่มันไม่ได้รักคุณเลย หน้าไม่อาย!”

ณดาสะบัดมืออย่างแรง พูดอย่างอวดดีว่า “สำหรับฉัน ความรักน่ะสร้างเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ถ้าเจอผู้ชายดีๆอย่างคุณต๋องก็ต้องรีบคว้าไว้ จะได้ไม่ตกกระไดพลอยโจนไปกับผู้ชายเลวๆ”

“ไม่ใช่ไอ้ผู้ชายเลวๆคนนี้เหรอที่ช่วยชีวิตคุณไว้สองครั้งสองคราเพื่อให้คุณมายืนด่าฉอดๆ แบบนี้ แค่คำขอบใจสักคำยังไม่เคยมี”

“จะให้ฉันขอบใจไอ้คนใจทรามที่เคยข่มเหง

ยํ่ายีฉันงั้นเหรอ” ณดาแหวใส่อย่างเจ็บใจ

“ผม ไม่เคยทำอะไรคุณทั้งนั้นเข้าใจไหม” ศักดิ์ชายโกรธจนลืมตัว พลั้งปากออกไป แต่วันนี้ณดากลับไม่เชื่อ ด่าเขาว่าเห็นทุกทีมาอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าข้าวเจ้าของตน  แต่พอจนมุมก็บอกว่าไม่ได้ทำชั่ว

ศักดิ์ชายอ้างว่าตนชั่วเพราะเธอยัด เยียดให้ เล่าความจริงว่า “ที่คอนโดฯวันนั้น...แค่คุณเห็นร่างกายตัวเองล่อนจ้อน เพราะแม่บ้านถอดเสื้อผ้าให้ คุณก็รีบตราหน้าว่าเป็นผลงานความชั่วช้าของผมแล้ว ทั้งๆ ที่คืนนั้นผมไม่ได้อยู่ร่วมห้องกับคุณเลยทั้งคืน”

“แล้วทำไมวันนั้นคุณไม่ปฏิเสธ”

“ก็ เพราะมันอาจจะเป็นโอกาสเดียวที่ทำให้คนอย่างคุณหันมามองคนไม่มีค่าอย่างผม บ้างยังไงล่ะ แต่มันก็เป็นข้อต่อรองโง่ๆที่ผมเอามาใช้หลอกตัวเองไปวันๆ แล้วผมก็คิดผิด เพราะจนวันนี้คุณก็ไม่เคยเห็นผมในสายตา...ผมยอมรับว่าผมมันไม่ใช่คนดีอะไร แต่คุณรู้ไหมว่าทำไมคนเลวๆอย่างผมถึงทำอะไรที่ไม่เคยทำให้ผู้หญิงคนไหนเท่า กับที่ทำให้คุณ”

“ทำไม...”ณดาเริ่มใจสั่นหวั่นไหว แต่ศักดิ์ชายกลับบอกว่าช่างมันเถอะแล้วเดินจากไปหงอยๆ

ความ รู้สึกที่เจ็บปวด สับสน ต่อสู้กันในความคิดของศักดิ์ชายอย่างหนัก ทำให้เขาหลบหน้าไปนั่งดื่มที่ริมหาดอย่างเงียบเหงาในคํ่าคืนนี้ พยายามไล่ความรู้สึกที่รบกวนตัวเอง บอกตัวเองว่าจะไม่มีทางรู้สึกอะไรแบบนั้นกับเธอเด็ดขาด...

ณดาตามไปเจอ เธอดึงแก้วเหล้าจากมือเขา จะดื่มให้ตายรึไง ศักดิ์ชายประชดว่าถ้าตนตายคนที่ดีใจที่สุดคงจะเป็นเธอใช่ไหม

“ฉัน จะดีใจได้ไง...ถ้าคุณตายไปแล้วใครจะพาฉันกลับบ้าน” ถูกเขาตัดพ้อว่าเธอก็ห่วงอยู่แต่เรื่องเดียวนี่แหละ ณดาเปลี่ยนเสียงรื้อฟื้นเรื่องเก่าขึ้นมาถามอีกว่า “ยังจะมีหน้ามาพูด ตกลงว่าคุณไม่ได้สำนึกเลยใช่ไหมว่า ทำอะไรกับฉันไว้”

“คุณคงเกลียด คงขยะแขยงผมเต็มทนแล้วซินะ

ถ้า คนที่อยู่ตรงนี้เป็นไอ้ต๋องไม่ใช่ผม คุณคงอยากอยู่ที่นี่กับมันไปตลอดชีวิต ผู้ชายอย่างมันดีเลิศเลออะไรนักหนา คุณถึงได้หลงใหลได้ปลื้มนัก”

“คุณ มันก็คิดได้แค่ว่า วันๆฉันคอยแต่ไล่ตามจับผู้ชาย แล้วมันผิดตรงไหน ถ้าฉันจะชอบคนดีๆ ในเมื่อที่ผ่านๆมาผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตฉัน ถ้าไม่หวังตัวฉัน ก็หวังสมบัติของฉัน ไม่งั้นก็คิดว่าฉันเป็นเครื่องประดับที่ควรค่า สำหรับชีวิต ในขณะที่คุณต๋องเขาไม่เคยคิดอะไรกับฉันแบบนั้นเลย”

“ก็ใช่ไง...เขาไม่ได้คิดอะไรเลย แม้แต่คิดจะรักคุณ”


“ไม่ ต้องกรอกหูฉันนักหรอก เพราะจริงๆฉันก็ไม่ได้รักอะไรเขานักหนา...เรื่องความรักน่ะ ฉันเจอมาเยอะจนแทบจะหมดศรัทธาแล้ว ฉันถึงรู้ไงว่าชีวิตนี้ แค่เจอคนดีๆสักคน มันยิ่งกว่าได้เจอมหาสมบัติ”

“ผู้ชายอย่างผม มันคงเลวในสายตาคุณมากซินะ”

“ฉัน ก็ไม่ได้คิดว่าคุณแย่ขนาดนั้นหรอกนะ ไม่งั้นคุณจะช่วยชีวิตฉันซํ้าแล้วซํ้าเล่า ทั้งที่ฉันว่าคุณสารพัดเหรอ แต่ฉันก็ไม่เข้าใจว่า มันเป็นไปได้ยังไง ที่คนที่ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยฉันจะเป็นคนคนเดียวกันกับที่ทำเรื่องแย่ๆ กับฉันแบบนี้”

“ผมมันไม่ดีเองล่ะ แล้วก็ไม่มีอะไรจะแก้ตัวด้วย แต่ผมก็ไม่คิดเหมือนกันว่า อะไรๆที่ทำไป มันจะฉุดกระชากลากถูผมมาไกลมากขนาดนี้ ไกลจนทำให้...ความรู้สึกของผมเปลี่ยน...”

“ฉันรู้ว่า คุณรู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่มันไม่ถูกต้อง แต่ทำไม...”

“คุณว่าความรักทำให้คนเปลี่ยนแปลงได้ไหม” ชายหนุ่มแทรกขึ้นทันที แต่พอเห็นท่าทีอึกอักของณดาเขาก็เสียใจ ตัดบทว่า

“ช่าง มันเถอะ อย่าถือสาคนเมาเลย ผมไปนอนนะ” พูดพลางลุกขึ้น แต่เขาทรงตัวไม่อยู่ ดีที่ณดาประคองไว้ทัน ศักดิ์ชายพูดอย่างถือดีว่าไม่เป็นไร แล้วพยายามจะเดินไป แต่ก็ไม่รอด เซจะล้มอีก ณดาต้องตามไปประคองอีกครั้ง เขาจะปฏิเสธอีก เลยถูกเธอดุว่า

“เงียบนะ แล้วเดินไป”

เห็นท่าทีจริงจังของณดา ศักดิ์ชายจึงเงียบแล้วปล่อยให้เธอประคองกลับไปอย่างว่าง่าย

ooooooo

หลัง จากคิตตี้และชมพู่มาเตือนพรรคพวกที่เป็นลูกหนี้บังเว้ยเฮ้ยแล้ว คำมูลกับเขียวหวานหวาดกลัวจนตัดสินใจจะหนีไปด้วยกัน ป้าพิณมายืนส่ง ฝากคำมูลให้ดูแลเขียวหวานด้วย เพราะเขียวหวานเองก็ไม่มีที่พึ่งแล้วจริงๆ

คำมูลบอกว่าไม่ต้องห่วงตนรักเขียวหวานเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง ที่พูดเกี้ยวๆไปนั่นก็แค่ยั่วประสาทป้าที่หวงเขียวหวานมากเท่านั้นเอง

ทั้งป้าพิณและเขียวหวานต่างเป็นห่วงกัน กอดกันร้องไห้ก่อนจากกันจนคำมูลอดนํ้าตาซึมไปด้วยไม่ได้

ส่วน ชมพู่กลับไปเอาของที่ร้านแล้วถามน้อยหน่าว่าไม่ไปกับตนหรือ น้อยหน่าไปไม่ได้เพราะถ้าไปที่อื่นก็ต้องไปลงทุนทำร้านใหม่ยิ่งหนักกว่าเดิม อีก เร่งน้องให้รีบไปเสียเดี๋ยวใครมาเห็นเข้า ชมพู่พูดทั้งน้ำตาว่าแล้วจะ

ส่งข่าวมาให้บ่อยๆ

“อืม...แล้วฉันจะสวดมนต์ทุกคืนให้แกรอดปลอดภัยนะ”

สองพี่น้องลาจากกันด้วยความรักและห่วงใย...

ขณะ ชมพู่เดินออกไปอย่างระแวดระวัง ก็ต้องใจคอไม่ดีเมื่อรู้สึกว่ามีคนสะกดรอยตาม หลบเลี่ยงหลอกล่อกันจนเกือบลงไม้ลงมือกัน จึงรู้ว่าที่แท้คือคิตตี้นั่นเอง

คิตตี้ ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนจึงจะตามชมพู่ไปด้วย แต่ไม่กล้าบอกตรงๆ ชมพู่ใจอ่อนบอกว่าถ้าอยากไปด้วยก็ตามมา ว่าแล้วก็รีบเดินไป คิตตี้รีบวิ่งตามอย่างดีใจ

ooooooo

ณดาประคองศักดิ์ชายมาถึงห้องนอน ก็เตรียมเช็ดตัวที่เปื้อนทรายให้ เขาไม่ยอมให้เช็ดพูดอย่างน้อยใจว่า

“คุณไม่ชอบหน้าผม ก็ไม่ต้องมาทำดีกับผม”

“เอ๊ะ คุณนี่...ยังไงนะ” ณดาดุ ยื้อจะเช็ดตัวให้ ศักดิ์ชายดึงผ้าจนณดาเสียหลักคว่ำทับร่างเขาปากต่อปากจุ๊บกันจนชะงักไปทั้ง คู่ พอได้สติ ณดารีบลุกขึ้นถูกศักดิ์ชายรั้งตัวไว้ มองลึกเข้าไปในดวงตาเอ่ยเสียงอ่อนโยนเสน่หาว่า

“ณดา...คุณจะเชื่อไหมถ้าผมบอกว่าผม...เอ่อ...รักคุณ”

“คุณไม่ได้รักฉันหรอก คุณก็แค่อยากได้ตัวฉัน”

“ถ้า อย่างนั้น ทำไมผมถึงไม่ทำอะไรคุณไปตั้งนานแล้ว ทั้งที่มีโอกาสไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง...เพราะผมอยากให้คุณรู้สึกกับผม เหมือนที่ผมรู้สึกกับคุณไง”

“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่เชื่อมั่นในความรักอีกต่อไปแล้ว แล้วฉันก็ไม่เชื่อว่าใครจะมารักฉันจริง”

“คุณ กลัวต่างหากณดา คุณกลัวว่าความรักจะทำให้คุณผิดหวังอีก...” ณดาน้ำตาคลอเมื่อถูกจี้จุดอ่อน ศักดิ์ชายเอามือเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน ถามอย่างอบอุ่นว่า “ที่

ผ่านมา มันยังไม่พิสูจน์ให้เห็นอีกเหรอว่าผมรู้สึกกับคุณยังไง ให้โอกาสผมได้ไหม”

ณดา ตอบไม่ออก ชายหนุ่มบรรจงจูบที่หน้าผากอย่างอ่อนโยน ณดาไม่ขัดขืน ปล่อยเขาจูบมาจนถึงปาก เธอยิ่งสั่นสะเทิ้น จนเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง ปล่อยอารมณ์เป็นหนึ่งเดียวกับศักดิ์ชายด้วยความเต็มใจ...

ooooooo

ที่ บ้านร้างในสวน ลูกน้องบังที่เฝ้าต๋องกับกิมลั้งอยู่ จับกลุ่มสังสรรค์ดื่มกินและเล่นหมากรุกกัน จนตะเกียงน้ำมันหมด จึงลุกไปหยิบแกลลอนน้ำมันมาเทใส่ แต่เพราะเมาเลยเทพลาดทำน้ำมันหก เท่านั้นไม่พอ อีกคนเซล้มทับ น้ำมันทั้งแกลลอนหกนองพื้น ไฟลุกพรึ่บทันที

ไอ้ เหลิมที่เป็นลูกพี่ ด่าไอ้ปื๊ดที่ทำน้ำมันหกไฟไหม้บ้าน แล้วก็พากันหนีเอาตัวรอด คนหนึ่งร้องถามว่าแล้วสองคนนั้นล่ะ ไอ้เหลิมร้องบอกพลางวิ่งหนีว่า

“เอาชีวิตตัวเองให้รอดก่อนเหอะมึง มึงเห็นไหมว่าน้ำมันรอเป็นเชื้อเพลิงอยู่ตั้งกี่ถัง กูไปแล้ว...” ว่าแล้วก็เผ่นแน่บก่อนใครเพื่อน พวกที่เหลือวิ่งตามกันขาขวิด

ต๋องกับ กิมลั้งถูกขังอยู่ในห้อง ถูกมัดมือมัดเท้าแน่นหนา เมื่อควันไฟพวยพุ่งเข้ามาจึงรู้ว่าไฟไหม้บ้าน ต๋องหาทางแก้เชือก เขาพุ่งไปหากองไฟใช้ไฟตัดเชือกที่มัดมือ กิมลั้งกระโดดไปหาต๋อง แต่เพราะเท้าถูกมัดเลย ล้มหัวแตก

ไฟไหม้เชือกที่มัดมือต๋องขาดพอดี เขารีบมาประคองกิมลั้งและแก้เชือกให้แต่กิมลั้งสำลักควันไฟจนหมดสติ ต๋องถอดเสื้อตัวเองคลุมหน้ากิมลั้งอุ้มฝ่าเปลวไฟออกไปแทบเอาชีวิตไม่รอด เมื่อวิ่งออกไปถึงหน้าบ้าน ต๋องบอกว่ารอดแล้ว แต่เธอยังไม่รู้สึกตัว ต๋องเอามือกดที่กลางอกกิมลั้งเพื่อนวดหัวใจ กิมลั้งก็ยังไม่ฟื้น ต๋องกอดเธอไว้พร่ำบอกทั้งน้ำตาว่า

“กิมลั้ง อย่าเป็นอะไรนะ ฉันมันไม่เอาไหนจริงๆ ฉันไม่เคยปกป้องเธอได้เลย กิมลั้ง”

“อย่า พูดอย่างนั้นต๋อง...” เสียงกิมลั้งแผ่วโผยอยู่ข้างหูต๋อง เขาดีใจมาก กิมลั้งมองหน้าต๋องอย่างสับสน ตัดสินใจถามความอัดอั้นในใจว่า “ต๋อง...เธอรักฉันไหม”

ต๋องถามว่าถึงขนาดนี้แล้วเธอยังต้องถามอีก หรือ กิมลั้งถามเรื่องณดา ต๋องยืนยันว่าตนไม่มีอะไรกับณดา ที่ณดาพูดไปเช่นนี้เพราะกลัวคุณนายสดศรีจับแต่งงานกับศักดิ์ชายเท่านั้น

“ถ้ามันเป็นอย่างที่เธอว่า ทำไมช่วงหลังๆ เธอถึงต้องทำตัวห่างเหินกับฉัน...ต๋อง ถึงเวลานี้แล้ว เธอยังบอกฉันไม่ได้อีกหรอว่าทำไม

ต๋องอ้ำอึ้งเพราะไม่อยากพาดพิงถึงกิมฮวย แต่เมื่อกิมลั้งยังค้างคาใจอยู่ จึงตัดสินใจบอกความจริงว่า

“ก็ เพราะแม่เธอไง... แม่เธอบอกว่า ถ้าฉันรักเธอจริง ก็ต้องปล่อยเธอไป ให้เธอมีชีวิตที่ดี แม่เธอบอกว่าถ้าฉันยังยื้อเธอไว้ก็เท่ากับฉันเห็นแก่ตัว รักตัวเองมากกว่ารักเธอ...ฉันก็เห็นว่า มันคงจริง ชีวิตเธออาจจะดีขึ้นถ้าได้ลงเอยกับคนที่ดีกว่าฉัน”

“ทำไมเธอไม่ถาม ฉันสักคำล่ะต๋องว่าฉันต้องการให้ชีวิตฉันเป็นยังไง ฉันจะอยู่ที่ไหน ฉันจะเป็นยังไงก็ได้ทั้งนั้น ถ้าที่นั่นมีเธอ...เข้าใจไหม”

“ขอบคุณมากนะกิมลั้ง”

“ไม่ต้องขอบคุณต๋อง ฉันไม่ได้ทำอะไรให้เธอ ฉันแค่รักเธอเท่านั้นเอง”

“ฉันก็รักเธอ...กิมลั้ง”

ทั้งคู่โผเข้ากอดกันอย่างแนบแน่น ด้วยความรัก ความผูกพันที่ล้ำลึก...

ooooooo

ที่ บ้านเล็กบนเกาะ...ณดาหลับอย่างมีความสุข ซบอยู่กับอกที่เปลือยเปล่าของศักดิ์ชาย เธอลืมตาขึ้นอย่างมีความสุข แต่ก็สับสนว่าตนทำผิดหรือเปล่า พอขยับจะลุก ก็ถูกเขารั้งตัวไว้ หอมที่หน้าผากอย่างทะนุถนอม บอกเธอว่า

“ณดา...เรื่องที่ผมพูดกับคุณ เมื่อคืนทุกอย่างเป็นเรื่องจริงนะ ผมไม่ได้เมา” ณดาทำไก๋ถามว่าบอกอะไร ตนลืมหมดแล้ว “ก็เรื่องที่ผมรักคุณไง”

ณดาก็ยังแง่งอนว่าผู้ชายก็พูด ได้เหมือนกันหมดนั่นแหละ ศักดิ์ชายบอกว่าแล้วตนจะพิสูจน์ให้เห็นเอง ขอแค่โอกาสจากเธอเท่านั้น แล้วจะทำให้เธอภาคภูมิใจ

แล้วศักดิ์ชายก็ชวนลุกไปอาบน้ำแต่งตัว ณดาถามว่าจะพาตนไปไหน

“ก็ รีบพาคุณกลับไปพิสูจน์ไงว่าผมจะทำได้อย่างที่พูดจริงไหม” พูดแล้วลุกไปอาบน้ำอย่างกระตือรือร้น ณดามองตามด้วยแววตาอ่อนโยน แอบยิ้มเขินกับความสัมพันธ์ที่ผ่านมา

ooooooo

ชายศักดิ์ได้ข่าวเรื่องไฟไหม้ที่บ้านสวน เขาด่าพวกลูกน้องที่นั่นโขมงโฉงเฉง
source: thairath.co.th/

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น