วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อ่านละครราชินีลูกทุ่ง ตอนที่ 14 วันที่ 29 ก.ค. 55

 จิรายุขับรถมาส่งกุ้งนางที่หน้าหอ ทั้งสองดูมีความสุข กุ้งนางจะลงจากรถ จิรายุเอื้อมมือไปจับแขนไว้
      
       “เดี๋ยว...”
       กุ้งนางชะงัก หันกลับมามองแขนตัวเองที่ถูกจับอยู่ จิรายุรีบปล่อย
       “คุณมีอะไร”
       กุ้งนาง ถามด้วยน้ำเสียงที่นิ่มกว่าแต่ก่อน
       “คือ..ฉันขอขอบใจเธออีกครั้งนะเรื่องที่เธออธิษฐานช่วยฉัน”
       กุ้งนางยิ้ม
       “ไม่คิดว่า ฉันอาจจะเห็นแก่ตัวทำเพื่อตัวเองเหรอ เพราะถ้างานล่ม ฉันก็ตกงานเหมือนกันนะ”
       “คนเห็นแก่ตัวที่ไหน จะนึกถึงคนอื่นเยอะแยะไปหมด ฉันดีใจที่ได้รู้จักกับเธอนะ กุ้งนาง”
       บรรยากาศรอบข้างเงียบ ทั้งสองมองตารู้สึกดีต่อกันอยู่นานจนกุ้งนางเริ่มเขินแต่ทั้งคู่ก็ต้อง สะดุ้งเมื่อก้านมาเคาะกระจกรถด้วยความไม่พอใจ กุ้งนางมองออกไปเห็นก้าน และหันกลับมามองจิรายุอีกครั้ง
       “ฉันต้องไปแล้ว”
       “ดูแลตัวเองด้วยนะ”
       กุ้งนางยิ้มให้
       “ค่ะ...”
       กุ้งนางเปิดประตูออกไป จิรายุยิ้มมองตาม
      
       จิรายุขับรถออกไป ก้านยืนข้างๆมองกุ้งนางที่มองตามรถจิรายุไป
       “ไปนอนเถอะ ดึกแล้ว”
       กุ้งนางกับก้านเดินไปด้วยกัน แต่ก้านเงียบจนกุ้งนางแปลกใจ
       “พี่ก้านเป็นอะไร ทำไมดูแปลกๆ”
       ก้านเสียงดุ
       “กุ้งไปไหนทำไมไม่บอกกันบ้างอ่ะกุ้ง แล้วทำไมกลับมาเอาป่านนี้”
       กุ้งนางรู้สึกเหมือนถูกจับผิด แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร
       “กุ้งโทรบอกพี่ชะเอมแล้วนี่”
       “นั่นแหละ พี่ก็ยังเป็นห่วง”
       กุ้งนางชักเป็นกังวลที่เห็นก้านโมโห
       “นี่พี่ก้านโกรธกุ้งเหรอ”
       ก้านนิ่งเงียบไม่ตอบอะไร
       “พี่ก้าน อย่าเงียบแบบนี้ มีอะไรเราค่อยๆ คุยกันดีกว่านะจ๊ะ”
       ก้านก็ยังนิ่งเงียบอีก กุ้งนางยิ้มเอาใจ
       “เอางี้ พี่ยังไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไร เอาเป็นว่ากุ้งขอโทษพี่ก้าน แล้วก็ขอบคุณที่เป็นห่วงกุ้งนะ ต่อไปกุ้ง จะไม่ทำให้เป็นพี่เป็นห่วงอีก นะๆๆ วันนี้เราไปนอน พักผ่อนให้สดชื่น แล้วพรุ่งนี้พี่ก้านต้องหายโกรธกุ้งนะ”
       กุ้งนางจะดันแขนก้านให้เดินต่อแต่เขาหยุด
       “กุ้ง! พี่ไม่ได้แค่เป็นห่วงกุ้งนะ”
       กุ้งนางมองหน้าก้านงงๆสงสัย
       “พี่รักกุ้ง...”
       กุ้งนางช็อคตกใจ ความในใจของก้านพรั่งพรูออกมา
       “พี่รักกุ้งมากนะ...รักมานานแล้ว กุ้งรักพี่บ้างมั้ย”
       กุ้งนางจ้องตานิ่ง
       “รักสิ...รักมากด้วย...ความรักที่กุ้งมีให้พี่ก้านไม่เคยลดน้อยลงไปเลย”
       ก้านยิ้มดีใจหน้าตามีความหวัง กุ้งนางถอนใจเบาๆ
       “พี่ก้านเป็นพี่ชายที่แสนดีของกุ้งมาตลอด...กุ้งรักพี่ก้านเหมือนพี่ชายแท้ๆ”
       ก้านชะงัก
       “พี่ชาย!”
       ก้านปล่อยมือจากกุ้งนาง จ้องนิ่งโกรธระคนน้อยใจ
       “เพราะพี่มันจนใช่มั้ยกุ้งถึงรักพี่ไม่ได้”
       “มันไม่ใช่อย่างงั้นนะพี่”
       “ทำไมจะไม่ใช่ ในเมื่อพี่ไม่ใช่ลูกเจ้าของบริษัท ขับรถคันใหญ่ๆ เหมือนคุณจิรายุ”
       กุ้งนางอึ้ง
       “พี่ก้าน...นี่กุ้งไม่ได้คิดอะไรกับคุณจิเลยนะ พี่คิดมากเกินไปแล้วล่ะ”
       “คิดมากเหรอ ที่กุ้งกลับมาป่านนี้ จะให้พี่คิดยังไง บางทีมันอาจจะมากกว่าที่พี่คิดด้วยซ้ำใช่ไหม”
       กุ้งนางตบหน้าก้านอย่างแรง หญิงสาวร้องไห้ออกมา
       “พี่ก้าน! ฉันไม่คิดเลย ว่าพี่ที่ฉันรักมากที่สุด จะคิดดูถูกฉันแบบนี้”
       กุ้งนางวิ่งร้องไห้หนีไป ก้านยืนมองตามด้วยความรู้สึกเศร้าใจ
      
       กุ้งนางเปิดประตูห้องพักเข้ามา ยืนพิงประตูร้องไห้ ทั้งโกรธทั้งน้อยใจ ชะเอมนอนหลับอยู่บนเตียง สักครู่ชะเอมก็ค่อยๆ รู้สึกตัว จ้องมาที่ประตู เห็นกุ้งนางยืนร้องไห้อยู่
       “อ้าว กุ้ง...นั่นร้องไห้ทำไม”
       กุ้งนางยังคงนิ่ง
       “มีอะไรเหรอกุ้ง”
       กุ้งนางพยายามระงับอารมณ์
       “ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะ”
       กุ้งนางเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป ชะเอมมองตามนิ่งคิดสงสัย
       “ใครจะเชื่อวะ”
      
       ด้วงหน้าเครียดเมื่อได้รับรู้ในสิ่งที่ก้านบอก
       “ไอ้ก้าน...เอ๊ย...ไอ้ก้าน เอ็งพูดยังงั้นกับไอ้กุ้งได้ยังไงวะ”
       ด้วงถอนใจเข้ามานั่งใกล้ๆ ก้านซึ่งนั่งชันเข่าอมทุกข์อยู่ที่พื้น ด้วงจ้องนิ่ง
       “เอ็งกับไอ้กุ้งก็เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กๆ ดูมันไม่ออกจริงๆ เหรอว่ากุ้งมันเป็นคนยังไง”
       “แต่คุณจิรายุเขาทั้งหล่อทั้งรวย ผู้หญิงที่ไหนก็อยากได้”
       “ไอ้ผู้หญิงที่ไหนที่เอ็งว่า รวมกุ้งมันไปด้วยเหรอวะ”
       ก้านนิ่งเงียบไม่ตอบ
       “หรือว่ารู้ทั้งรู้ว่าไอ้กุ้งไม่ได้รักเอ็ง เลยต้องเอาความรวยของคุณจิมาเป็นข้ออ้าง”
       “นี่พี่ด้วงเลิกเชียร์ฉันแล้วเหรอ”
       “ก็ไม่อยากเลิกนะ แต่เท่าที่ดู พี่คิดว่ากุ้งมันก็คงรักเอ็งอย่างพี่ชายจริงๆ ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับเอ็งแล้วว่าจะเดินหน้าต่อเพื่อไขว่คว้าให้ได้มัน หรือเอ็งจะรักกุ้งมันเท่าเดิม แต่แปรรูปเป็นแบบพี่น้อง”
       “ถ้าเป็นพี่ด้วง พี่จะทำยังไง”
       “คิดให้ดีนะไอ้ก้าน...รักกันอย่างพี่น้องผองเพื่อน นานวันก็ยิ่งแน่นแฟ้น แต่รักอย่างแฟน นานวันก็มีแต่จืดจาง สุดท้ายก็กลายเป็นเพื่อนกันอยู่ดี...ถ้าเอ็งรักกุ้งนางจริง ก็ต้องให้เขามีความสุข ไม่ใช่นึกถึงแต่ความสุขของตัวเอง”
       ก้าน คิดตาม แต่สีหน้ายังเครียด สับสน ทำใจไม่ได้
      
       กุ้งนางอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วเข้ามานั่งที่เตียง เตรียมจะนอน ชะเอมนั่งมองอยู่บนเตียง เปรยๆ ขึ้น
       “รู้มั้ยไอ้ก้านมันมาตามแกตั้งหลายหนจนพี่รำคาญ”
       กุ้งนางนิ่งเงียบ ชะเอมยิ้มหยั่งเชิง
       “พี่ว่าไอ้ก้านมันรักกุ้งนะ...แล้วกุ้งล่ะคิดยังไง”
       กุ้งนางหน้าหม่นหมอง
       “ฉันรักพี่ก้านแบบพี่ชาย”
       “แต่ไอ้ก้านมันรักกุ้งมากนะ ทั้งรักทั้งห่วง พี่ว่า...”
       กุ้งนางตัดบท
       “นอนเถอะพี่ชะเอม พรุ่งนี้ต้องไปทำงาน”
       กุ้งนางถอนใจ ล้มตัวลงนอนตะแคงไปอีกด้านหนึ่ง ชะเอมทำท่าจะถามอีก แต่ก็ไม่กล้า สักครู่ก็ล้มตัวลงนอนบ้าง ชะเอม นิ่งคิด หนักใจพึมพำกับตัวเองเบาๆ
       “เฮ้อ...ก๊วนกูจะแตกมั้ยวะเนี่ย”
      
       กุ้งนางหน้าหม่นหมอง ไม่สบายใจ นอนไม่หลับ 
 จิรายุนั่งเล่นอีเล็คโทน ฮัมเพลงเพลงเบาๆหน้ายิ้มมีความสุข สักครู่ ชายหนุ่มก็หยุดเล่น นิ่งคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา เขาพากุ้งนางขับรถเที่ยวชมกรุงเทพยามราตรี ทานข้าว กันอย่างมีความสุข...จิรายุยิ้มมีความสุขพูดกับตัวเอง
      
       “กุ้งนาง...ขอบคุณนะที่เป็นกำลังใจให้ฉัน”
       จิรายุใบหน้าเปื้อนยิ้ม เล่นดนตรีต่อไปอย่างมีความสุข
      
       เสียงดนตรีที่จิรายุเล่นดังออกมานอกบ้าน ชามาดานั่งอยู่ในรถกำลังมองไปที่ห้องนอนของเขา หญิงสาวนิ่งคิดแค้นใจ
       “ฮึ...อารมณ์ดี! กำลังฝันถึงนังกุ้งเน่าอยู่สิท่า”
       ชามาดาเจ็บใจกัดริมฝีปากแน่น น้ำตาเอ่อไหล
      
       เช้าวันใหม่...กุ้งนาง ก้าน ชะเอม และด้วงกำลังกินข้าวกันอยู่ที่โต๊ะ กุ้งนางและก้านนั่งตรงข้ามกัน แต่ไม่มองหน้ากัน ต่างคนต่างกิน บนโต๊ะมีกับข้าวสามอย่าง ผัดผัก แกงเผ็ด แล้วก็ยำตีนไก่ ชะเอมเห็นบรรยากาศดูอึดอัดก็เลยปล่อยมุขกะเรียกเสียงฮา
       “พี่ด้วง...กินตีนมั้ยพี่”
       ด้วงสะอึกถลึงตาใส่
       “ปล่อยหมาออกจากปากแต่เช้าเลยนะ เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย เนี่ย...เพื่อนเล่นเหรอ”
       ชะเอมแกล้งกวนต่อ
       “อุ๊ย จะให้ฉันเขยิ๊บเป็นแฟนพี่เหรอ โอว ไม่นะ...ไม่ปฏิเสธก็ได้จ้ะพี่ดอ...ด้วงจ๋า”
       ด้วงสวนขึ้นเสียงเข้ม
       “หุบปากได้แล้ว กินข้าวไม่ลง”
       ชะเอมเห็นด้วงโมโหก็ขำ หัวเราะคิกๆ
       “ฮิฮิ...ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ ยิ่งโกรธก็ยิ่งหล่อ ฉันล่ะปวดตับ ปวดไต ใจสั่นไปหมดแย้ว” ชะเอมตักยำตีนไก่ใส่จานข้าวด้วง “นี่จ๊ะยำตีนไก่ กินเยอะๆ นะพี่”
       ชะเอมหันไปมองกุ้งนางกับก้าน ก็เห็นทั้งคู่ยังคงเงียบ ชะเอมพึมพำกับตัวเอง
       “มุขแป้กเลยตู”
       ด้วงเหล่มอง
       “ไอ้ก้าน...เป็นใบ้เหรอวะ เงียบเป็นเป่าสากเลยนะแก”
       ก้านถอนใจเบาๆ ไม่สนใจ กินข้าวต่อ ด้วงและชะเอมหันมามองหน้ากัน รู้สึกอึดอัดกับก้านและกุ้งนางที่มีท่าทีมึนตึงกัน ชะเอมยิ้มๆ
       “กุ้ง...ไอ้ก้านมันชอบแกงเผ็ดนะ ตักให้มันมั่งสิ”
       กุ้งนางถอนใจเบาๆ
       “ฉันอิ่มแล้วพี่”
       กุ้งนางหยิบเงินส่วนของเธอวางบนโต๊ะ แล้วลุกขึ้นเดินออกไป ก้านเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ชะเอมเรียกไว้
       “เดี๋ยวสิกุ้ง...”
       ด้วงถอนใจเฮือก
       “อะไรวะเนี่ย!”
      
       กุ้งนางเดินออกมาหน้าหอพัก ชะเอมและก้านรีบจ้ำอ้าวๆ ตามเข้ามา ก้านเดินตามเอื่อยๆหน้าตาเซ็งๆ ชะเอมตะโกนลั่น
       “รอด้วยไอ้กุ้ง จะรีบไปไหนวะ”
       กุ้งนางหยุดเดินยืนรอ ชะเอม ด้วงและก้านตามเข้ามาถึงบริเวณที่กุ้งนางยืนอยู่ ด้วงมองกุ้งนางอย่างเป็นห่วง
       “เป็นอะไรกุ้ง...ไอ้ก้านใช่มั้ย”
       กุ้งนางอึดอัด ถอนใจ พูดไม่ออก ขณะเดียวกันนั้น จิรายุขับรถเข้ามาจอด ทุกคนหันไปมอง ก้านชักสีหน้าทันที ชะเอมจ้องนิ่ง
       “คุณจิรายุ!”
       จิรายุเปิดประตูลงจากรถ เดินเข้ามาหาหน้าตายิ้มแย้ม
       “ฉันมารับ...ไปด้วยกันนะทุกคน”
       กุ้งนาง ชะเอมและด้วงหันมามองหน้ากัน ก้านถอนใจมองกุ้งนาง แล้วหันไปมองจิรายุตาขวางๆก่อนจะเดินปึงๆ ออกไป จิรายุมองตามอย่างไม่เข้าใจ ด้วงเรียกไว้
       “เฮ้ย ไอ้ก้าน อย่าเพิ่งไป” ด้วงหันมาบอกจิรายุ “เออ...ขอบคุณนะครับท่าน แต่ผมต้องไปกับน้อง”
       ด้วงรีบวิ่งตามไป ชะเอมทำหน้าเลิกลัก มองทางโน้นทีทางนี้ที
       “เอ่อ...พี่ไปกับพี่ด้วงนะกุ้ง เดี๋ยวพี่เขาจะน้อยใจ...” ชะเอมกันมากับจิรายุ “ขอบคุณนะคะ”
       ชะเอมรีบจ้ำอ้าวๆ ตามด้วงไป
       “พี่ชะเอม!”
       กุ้งนางจะตามชะเอมไป จิรายุรีบมาขวางไว้ จ้องหน้านิ่ง
       “ทำไมพวกนั้นเขาไม่ไปกับฉัน”
       กุ้งนางอึ้งๆ
       “กุ้งกับพี่ก้านมีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย”
       กุ้งนางลังเล จิรายุยิ้มให้
       “ขึ้นรถสิ”
      
       ก้านเดินเข็นรถขนเครื่องเสียงเข้ามามุมหนึ่งหน้าเครียด จิรายุเดินเข้ามาพอเห็นก้านเขาก็รีบเข้าไปหาทันที
       “เดี๋ยวก้าน!”
       ก้านชะงักหันมามอง จิรายุเดินเข้ามาหานิ่งมอง
       “ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
       ก้านหน้าตึงๆ
       “ผมกำลังจะไปทำงานครับ ขอโทษนะครับ...ท่าน”
       จิรายุรีบดึงแขนไว้
       “เดี๋ยวสิก้าน นายโกรธฉันเรื่องอะไร”
       “ผมไม่กล้าโกรธท่านหรอกครับ”
       “งั้นนายมีปัญหาอะไรก็บอกมา เผื่อฉันจะช่วยได้ เราเป็นเพื่อนกันแล้ว อย่าลืมสิ”
       ก้านเสียงแข็ง
       “ท่านเป็นเพื่อนผมไม่ได้หรอกครับ ถอยไปเถอะครับ ผมจะไปทำงาน”
       จิรายุชักฉุน
       “ไม่ถอย! จนกว่าฉันจะคุยกับนายรู้เรื่อง”
       ก้านโกรธจัดจะเดินหนี จิรายุโมโหดึงแขนก้านอย่างแรงไม่ให้เดินต่อ
       “เฮ้ย...ทำไมนายเป็นคนแบบนี้หา”
       ก้านโกรธจัด
       “โธ่โว้ย!”
       ก้านโมโหผลักอก จิรายุเสียหลักล้มลงไปที่พื้น กุ้งนาง ชะเอมและด้วงเข้ามาเห็นเหตุการณ์พอดี ทุกคนต่างก็ชะงักตกใจ กุ้งนางหน้าตื่น
       “พี่ก้าน!”
       กุ้งนาง ชะเอมและด้วงรีบวิ่งเข้ามา ทั้งสามช่วยกันประคองจิรายุให้ลุกขึ้น กุ้งนางหันไปจ้องก้านอย่างไม่พอใจ
       “ทำไมต้องทำรุนแรงแบบนี้ด้วย”
       ด้วงชักโกรธ
       “นั่นสิ มีอะไรก็ค่อยๆพูดค่อยๆจาก็ได้นี่”
       จิรายุรีบบอก
       “ไม่เป็นไรหรอก ก้านคงไม่ได้ตั้งใจ”
       ชะเอมเสียงเข้ม
       “ขอโทษคุณจิรายุเดี๋ยวนี้ไอ้ก้าน”
       ก้านยืนนิ่งจ้องหน้าจิรายุขบกรามแน่นด้วยความโกรธ แล้วเดินมาหา
       “ผมขอลาออก!”
       ทุกคนพากันชะงักตกใจ จิรายุถอนใจ หน้าเครียด กุ้งนางตะลึง
       “พี่ก้าน...”
       ก้าน มองหน้ากุ้งนาง ด้วง ชะเอม
       “ฉันจะกลับบ้าน”
       ก้านหันหลังเดินจากทุกคน แต่จิรายุวิ่งไปดึงแขนของเขาอีกครั้ง แล้วพูดเสียงเข้ม
       “ฉันยังไม่อนุมัติให้ออก...”
       “แต่ผม...”
       จิรายุสวนขึ้น
       “กลับไปคิดให้ดีก่อน แล้วค่อยมาคุยกันใหม่”
       จิรายุโมโหเดินออกไปทันที ก้านหงุดหงิดเดินแยกออกไปอีกทางหนึ่ง กุ้งนางนิ่งคิด หน้าเครียดมากจนน้ำตาเอ่อ หญิงสาวรู้สึกแย่มาก ทนไม่ไหวร้องไห้ออกมา
       
       ชะเอมและด้วงมองกุ้งนางอย่างเห็นใจ ชะเอมเอื้อมมือมาบีบมือเชิงปลอบ
ขอขอบคุณจาก manager.co.th 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น