วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อ่านละครชิงนาง ตอนที่ 6 (ต่อ) วันที่ 29 ก.ค. 55

ส่วนทางด้านภูผาถือสายรอ จนสายโทรศัพท์ตัดสัญญาณไป เพราะไม่มีคนรับ ภูผาจะกดซ้ำ เสียงแม่ค้าแทรกเข้ามาซะก่อน
     
       “เสร็จหรือยังคุณ ลูกฉันไม่สบาย ฉันจะรีบกลับไปดูลูก”
       ภูผาชะงักมือ “เสร็จแล้ว”
       แม่ค้ารับหูโทรศัพท์มาวาง ดึงประตูกดดันให้ภูผารีบออกไป ภูผาจำต้องเดินออกไป
     
       ส่วนวงเดือนกำลังจะถอดเสื้อผ้า มวยผมขึ้นแล้ว เสียงเคาะประตูดัง วงเดือนชะงักแล้วจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยเดินไปเปิดประตู
       เห็นอรุณสีหน้ากราดเกรี้ยวยืนรออยู่ที่หน้าประตู
       วงเดือน ตกใจ “คุณอรุณ มีอะไร..”
       วงเดือนพูดไม่ทันจบ อรุณผลักประตูเข้ามา จนวงเดือนเซไป
       วงเดือนยังไม่ทันตั้งหลัก อรุณเข้ามาจับตัววงเดือนอย่างโกรธเกรี้ยว
       “บอกฉันมา เดือนกับพี่เมฆามีอะไรกันหรือเปล่า”
       “คุณอรุณ ปล่อยเดือนนะคะ”
       อรุณกร้าว “ไม่!” เขย่าตัววงเดือนอย่างลืมตัว “เดือนเป็นของฉัน เดือนจะรักจะห่วงจะไปยุ่งกับคนอื่นไม่ได้!”
       วงเดือนเสียงดังด้วยความอัดอั้น
       “ไม่ เดือนไม่ได้เป็นของใคร หัวใจของเดือนใครก็บังคับไม่ได้! ถ้าเดือนอยากรักใคร เดือนก็จะรัก”
       อรุณอารมณ์ขึ้นด้วยความหึงหวง “ไม่ได้”
       อรุณเข้ากอดวงเดือนด้วยแรงอารมณ์หึง
       วงเดือน ตกใจคิดว่าอรุณจะขืนใจกรีดร้อง “ปล่อยเดือนนะ คุณอรุณ ปล่อย!”
       อรุณกอดวงเดือนแน่นไม่ยอมปล่อย “ฉันจะไม่ยอมให้เดือนเป็นของคนอื่น! เดือนเป็นของฉัน ของฉันคนเดียว!”
       วงเดือนพยายามดิ้นรนจนไปชนกับเตียง วงเดือนเสียหลักหงายลงบนเตียงทำให้อรุณเสียหลักโถมทับตามลงมาพอดี
       “ไม่! ช่วยด้วย! ปล่อยเดือน! ช่วยด้วย”
       จังหวะนั้นเอง มือของเมฆายื่นเข้ามาจับคอเสื้อของอรุณอย่างไวว่อง เมฆากระชากอรุณขึ้นมาจากตัววงเดือนแล้วต่อยอรุณโครม!
       วงเดือนตะลึง “คุณเมฆา”
       วงเดือนรีบเข้าไปหลบหลังเมฆา
       “อรุณ! แกทำแบบนี้ไม่ได้”
       อรุณฉุนกึก “ผมทำไม่ได้ แล้วใครล่ะที่ทำได้ พี่งั้นเหรอ พี่กับเดือนมีอะไรกันใช่ไหม”
       เมฆากับวงเดือน ตกใจคาดไม่ถึง อุทานออกมาพร้อมกัน “อรุณ” / “คุณอรุณ”
       เมฆารีบบอก “ฉันกับเดือน เราไม่เคยทำเรื่องเลวๆ แบบนั้น”
       “อย่านึกว่าผมไม่รู้นะว่าพี่ให้เงินกับเดือน ถ้าไม่มีอะไร พี่จะให้เงินเยอะ ๆ กับเดือนทำไม! นอกจากว่าเดือนจะเป็นเมียพี่แล้ว”
       วงเดือนสุดทนตบหน้าอรุณ ดังเผียะ!
       ทุกคนต่างตะลึงอึ้งไป
       “ถึงเดือนจะเป็นแค่เด็กกำพร้า แต่เดือนไม่เคยคิดจะขายตัว เดือนมีศักดิ์ศรี มีความเป็นคนเหมือนๆ กับคุณ! ออกไปจากห้องของเดือนค่ะ”
       อรุณตกใจ ที่เห็นวงเดือนโกรธขนาดนี้ “เดือน...ฉัน”
       วงเดือนบอกเสียงเย็นชามาก “กรุณาออกไป”
       อรุณเห็นท่าทีอันเฉยชาของวงเดือน ก็เสียใจจำต้องเดินออกไป
       “เดือน” เมฆาอึ้งๆ เช่นกัน
       “ขอเดือนอยู่คนเดียวได้ไหมคะ” วงเดือนขอร้อง
       เมฆารู้ว่าไม่ควรตอแย จึงเดินออกไป วงเดือนรีบล็อกประตูอย่างขวัญเสีย
     
       เมฆาเดินออกมา เจออรุณที่ยืนรออยู่ อาการยังโกรธอยู่ “ไม่ว่ายังไงเดือนก็ต้องแต่งงานกับผม”
       “วันนี้ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย ถ้าใจเขาไม่มีให้แก สักวันตัวเขาก็จะไปจากแกเหมือนกัน”
       “ผมจะไม่ให้มันมีวันนั้นแน่นอน!”
     
       อรุณยืนจ้องหน้าเมฆาด้วยสีหน้าไม่ยอมแพ้ 
 ด้านหนูนานั่งรอภูผาที่ระเบียงบ้านพักอย่างกระวนกระวาย สักครู่ต่อมาภูผาเดินขึ้นมาบนเรือนชายหนุ่มชะงักที่เห็นหนูนา
       
       “คุณหายไปไหนมา” หนูนาถามเร็วปรื๋อ
       “ไปธุระ มีอะไรเหรอ”
       “ฉันเห็นคุณไม่อยู่ก็เลย…”
       หนูนาพูดไม่ทันจบภูผาก็สวนออกมา “เธอไม่ต้องห่วงฉันหรอกหนูน้อย ฉันดูแลตัวเองได้”
       “แต่ฉัน”
       “ฉันมีคนที่ห่วงฉันอยู่แล้ว ขอบใจนะ”
       คำพูดตัดรอนไมตรีของภูผา ทำเอาหนูนาสะเทือนใจ
       “ก็รู้นะว่าเย็นชา แต่จะพูดอะไรไม่คิดถึงใจคนฟังบ้างเลยเหรอ”
       “ความจริงคือสิ่งที่เราต้องยอมรับ ฉันไม่อยากทำร้ายเธอนะหนูน้อย”
       “ก็ใช่ ความจริงวันนี้คือคุณไม่ได้รักฉัน แต่ความจริงของวันพรุ่งนี้คุณอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้”
       ภูผาย้ำน้ำคำ “ฉันไม่มีวันเปลี่ยนใจ”
       “อย่าเพิ่งพูดเลย ฉันไม่อยากเห็นคุณกลืนน้ำลายตัวเองทีหลัง” หนูนาพูดอย่างถือดีและมั่นใจ
       ภูผาจะพูดต่อ แต่หนูนาหาวใส่
       “ง่วงแล้ว ฉันไปนอนก่อนดีกว่า คุณก็ไปนอนในห้องซะ”
       หนูนาฝืนยิ้มแล้วรีบออกไป
       ภูผามองตามอย่างหนักใจ
       จังหวะนั้นเองเหนือฟ้าก็ก้าวออกมา ได้ยินและเห็นทุกอย่าง “น่าอิจฉานายนะ”
       ภูผาเหลียวมามอง
       “ฉันไม่เคยเห็นหนูนาชอบใครเท่ากับนายเลย” เหนือฟ้าว่า
       “นายชอบหนูนาตรงไหน เฮี้ยวกับนายขนาดนั้น” ภูผาสงสัย
       “ฉันเป็นลูกพ่อเลี้ยงพสุ มีทั้งเงิน ทั้งอิทธิพล ทั่วทั้งดอยไม่มีใครที่กล้ามีเรื่องกับฉัน”
       ภูผานึกรู้ทันที “ยกเว้นหนูนาใช่ไหม”
       “หนูนาไม่เคยกลัวใคร กล้าแกร่ง และมีน้ำใจ ถึงเกลียดหน้าฉันแต่หนูนาก็เคยช่วยฉันไว้”
       ภูผามองอย่างสงสัย
       เหนือฟ้าพูดต่อ “ลูกพ่อเลี้ยงเวลาที่ไม่มีลูกน้องคอยตาม ก็ต้องโดนเอาคืนบ้างเป็นธรรมดา สามต่อหนึ่ง ฉันคงโดนอัดเละไปแล้วถ้าหนูนาไม่เข้ามาช่วยฉันไว้”
       ภูผามองสายตาเหนือฟ้าเห็นสายตาแห่งความชื่นชมที่เหนือฟ้ามีต่อหนูนาฉายโชนในตาคู่นั้น
       “ฉันเห็นหนูนาเป็นเหมือนน้องสาวเท่านั้น ไม่เคยคิดเป็นอย่างอื่น”
       เหนือฟ้าหันมองภูผา
       “เข้าใจใช่ไหมว่าฉันกำลังจะบอกนายว่าอะไร”
       “ดึกแล้ว ฉันคงต้องพักผ่อน”
       เหนือฟ้าตัดบท เดินหน้ายิ้มร่า กลับเข้าห้องตัวเองไป
       ส่วนภูผานั่งแหงนหน้ามองพระจันทร์อย่างเดียวดาย คิดถึงวงเดือนเหลือเกิน
       “เดือน...”
     
       เวลาเดียวกันวงเดือนทิ้งตัวลงบนเตียง ร้องไห้อย่างอัดอั้น ที่โดนบีบบังคับ โดนข่มเหงขนาดนี้
       “คุณผา...คุณผา...”
       หญิงสาวซุกตัวลงนอนร้องไห้คร่ำครวญอยู่บนเตียงอย่างน่าสงสาร
     
       ขณะเดียวกันภูผานั่งหลับอยู่ที่ระเบียง จู่ๆ มีสายลมพัดมาวูบเบาๆ
       ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนมีมือของศรีเรือนเข้ามาลูบที่ศีรษะของตนอย่างอ่อนโยน
       ภูผาค่อยๆ ลืมตามอง เห็นศรีเรือนนั่งอยู่ข้างๆ กำลังมองภูผาด้วยสายตาเศร้าโศก
       “คุณย่า...”
       ภูผาขยับเข้าไปคุกเข่ากอดศรีเรือนรอบตัวด้วยความคิดถึง
       “ผมคิดถึงคุณย่าที่สุด คุณย่า...”
       ศรีเรือนลูบศีรษะภูผาด้วยความรัก ระหว่างนั้นยินเสียงวงเดือนร้องไห้แว่วมา ภูผาชะงัก
       “เสียงเดือน..เดือนร้องไห้เหรอครับคุณย่า...เดือนเป็นอะไรครับคุณย่า”
       ภูผาเงยหน้ามองย่า เห็นใบหน้าและแววตาของศรีเรือนดูเศร้ามาก
       “เดือนเป็นอะไรครับคุณย่า...” ภูผาเหลียวมองไปตามเสียง “เดือน...เดือนอย่าร้องไห้..เดือน...”
       ภูผานอนละเมอ “เดือน..อย่าร้องไห้..เดือน...เดือน!”
       วินาทีนั้นเองภูผาสะดุ้งตื่นขึ้นมา ชะงักที่เห็นตัวเองนั่งอยู่เพียงลำพัง
       ภูผาผินหน้าไปมองพระจันทร์ทั้งคิดถึงและเป็นห่วงวงเดือนจนล้นหัวใจ
       “เดือน...”
     
       เวลาเดียวกันวันชัยยืนมองไปในไร่ใช้ความคิด สีหน้าเครียดขามเข้ามายื่นเครื่องดื่มให้นาย
       “นายคิดจะทำยังไงกับไอ้เหนือฟ้า” ขามถามขึ้น
       “ถ้ามันอยากได้คนร้าย ฉันจะหาให้มัน” วันชัยเอ่ยขึ้น
       “แล้วนายจะไปเอาคนร้ายมาจากไหน”
       วันชัยหันมองขาม
       “แกอยู่กับฉันมานาน แกรู้ใช่ไหมว่าถ้าฉันได้ทุกอย่างไว้ในมือ ฉันจะเลี้ยงแกอย่างดี”
     
       เห็นวันชัยชักปืนขึ้นมา ขามตกใจ “นาย”
เหนือฟ้าฟังข่าวจากวันชัยด้วยความตกใจ ในเช้าวันรุ่งขึ้น
       
       “ไอ้ขามน่ะเหรอ คิดจะฆ่าพี่”
       วันชัยทำทีเป็นถอนใจ “ใช่ มันแค้นพี่เรื่องผู้หญิง”
       “ผู้หญิง!” เหนือฟ้าอึ้ง
       วันชัยเริ่มปั้นน้ำเป็นตัว “พี่ไม่รู้ว่าไอ้ขามมันรักผู้หญิงคนนี้ แล้วผู้หญิงก็มาให้พี่เอง พี่ก็เลย...ที่จริงวันนั้นมันคิดว่าพี่จะใช้รถ มันถึงลงมือ แต่พ่อเลี้ยงมารับเคราะห์แทนพี่”
       เหนือฟ้าคาใจ “แล้วพี่รู้ได้ยังไง”
       “พี่เค้นมันด้วยมือพี่เอง” วันชัยบอกน้ำเสียงเคร่ง
       “แล้วตอนนี้ไอ้ขามมันอยู่ไหน”
       “ในป่า ใต้ดินที่ไหนสักที่ พี่สั่งให้พวกมันฝังไว้อย่างดี”
       “พี่ฆ่ามันเหรอ” เหนือฟ้าตะลึง
       “คนที่มันทำให้พ่อเลี้ยงได้รับอันตราย โทษของมันคือตาย”
       เหนือฟ้าอึ้งๆ
       “ถ้าพ่อเลี้ยงไม่แน่ใจ อยากจะเห็นศพมัน...”
       เหนือฟ้าสวนคำออกมา “ไม่ต้อง...”
       “พี่จัดการเรื่องคนร้ายให้แล้ว..พี่อยากให้พ่อเลี้ยงกลับไร่ ทุกคนในไร่ฟ้าเหนือฟ้ากำลังรอเจ้านายของไร่กลับไปเป็นขวัญและกำลังใจ”
       เหนือฟ้าคิดอย่างใคร่ครวญ แล้วตัดสินใจ “พรุ่งนี้ตอนเช้าพี่ค่อยมารับฉัน”
       “ครับ...”
       วันชัยรับคำแล้วเดินออกไป ในทันทีที่หันหลังให้เหนือฟ้า วันชัยยิ้มพอใจ ที่แผนการลุล่วง
     
       เช้านั้นอรุณอาบน้ำอยู่ อรุณมองกระจกเห็นแผลช้ำบนโหนกแก้มซ้าย อรุณแตะ มองอย่างอารมณ์เสีย
       อรุณออกมาจากห้องน้ำ ชอุ่มเดินถือถาดยาเข้ามา
       “เดือนล่ะ” อรุณถามเสียงขุ่น
       ชอุ่มท่าทีกลัว ๆ “ออกไปทำงานแล้วค่ะ ก็เลยให้ชอุ่มเอายามาให้คุณอรุณค่ะ”
       อรุณโมโหปัดถาดยาทิ้งกระจาย หล่นดังโครม!
       ชอุ่มตกใจ
       “คุณอรุณคะ”
       อรุณตวาด “ออกไป”
       “ค่ะ!...” ชอุ่มนึกได้ “คุณอรุณคะวันนี้มีถวายเพลตอนเที่ยงนะคะ คุณอนุตกับคุณศรีดาราออกไปที่วัดแล้ว”
       อรุณตะเพิด “ไป๊”
       ชอุ่มสะดุ้งรีบเผ่นออกไปทันที
       อรุณโกรธอาละวาดปัดข้าวของอย่างระบายอารมณ์
     
       ภูผาตัดสินใจเข้ามาตลาดในเมืองอีกครั้ง เขาอยู่ที่ร้านค้าที่ให้บริการโทรทางไกล แม่ค้าอออกมา
       “โทรทางไกล”
       ภูผาสีหน้าเครียดส่งกระดาษเบอร์โทรศัพท์ให้ แม่ค้ารีบกดโทรศัพท์ต่อเบอร์ให้ ภูผามองอย่างรอคอยอย่างจดจ่อ
     
       อรุณแต่งตัวเรียบร้อยลงมาข้างล่าง ไม่มีใครอยู่
       อรุณจะเดินออกไปแต่ชะงักเพราะเสียงโทรศัพท์ดัง
       “ชอุ่ม...ชอุ่ม” อรุณตะโกนเรียก
       เงียบ ไม่มีวี่แววของชอุ่ม อรุณยืนมองโทรศัพท์ที่ยังส่งเสียงดังไม่ยอมหยุด ก่อนจะตัดสินใจยกหูโทรศัพท์อย่างหงุดหงิดกำลังจะพูด
       “เดือน!” เสียงภูผาพูดอยู่ในสาย
       อรุณจำได้ ชะงักเงียบงัน
     
       ภูผาพยายามถามต่ออย่างมีความหวัง
       “เดือน...นั่นใช่เดือนหรือเปล่า”
       อรุณสีหน้าไม่พอใจมาก
       อรุณพูดด้วยน้ำเสียงกระชาก “ผมเองครับพี่ผา”
       ภูผาตกใจที่ตัวเองพลาด “อรุณ..เอ่อ...พี่...”
       “ถ้าพี่จะคุยกับเดือน คงไม่สะดวกหรอกครับ เพราะตอนนี้เดือนกำลังยุ่งกับการเตรียมงานแต่งงานของเดือนกับผม”
       ภูผาช็อก “งานแต่งงาน..เดือนกับนายเหรอ”
       อรุณบอกต่อ “ครับพี่...อีกสองอาทิตย์ คุณพ่อคุณแม่จะจัดงานให้ผมกับเดือน ถ้าพี่ผาว่างก็มาร่วมยินดีกับผมด้วยนะครับ”
       ภูผาช็อกๆ อยู่
       “พี่ผา...พี่ผาครับ”
       ภูผารู้สึกตัว “พี่ฟังอยู่”
       “พี่น่าจะมางานผมนะครับในฐานะพี่ชายเจ้าบ่าว” อรุณเน้นเสียง
       ภูผาพยายามเก็บอาการที่สุด “พี่ไม่แน่ใจนะ ต้องดูอีกที ตอนนี้งานพี่มันยุ่งๆ น่ะ”
       “แต่ผมอยากให้พี่มาพี่จะได้เห็นว่าเดือนตอนที่เป็นเจ้าสาวของผม..สวยมากแค่ไหน”
       ภูผาแทบหมดแรงวางสายโทรศัพท์
       “พี่ผา...ฮัลโหล..พี่ผา”
     
       เสียงสัญญาณขาดไป อรุณวางสายยิ้มพอใจที่ได้ประกาศความเป็นเจ้าของให้ภูผารู้ 
ขอขอบคุณจาก manager.co.th  

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น