วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2555

อ่านละครชิงนาง ตอนที่ 12(ต่อ) วันที่ 13 ส.ค. 55

แม้ภูผาจะรับเป็นพ่อของเด็กในท้อง แต่ไม่ได้ทำให้หนูนาคลายความกังวล เอาแต่นั่งซึมไม่ยอมแตะต้องอาหารที่ดอยยกมาให้ ดอยพยายามอ้อนวอนให้กินข้าวจะได้กินยา แต่เธอยังคงนั่งนิ่ง เด็กน้อยหมดปัญญา ยกสำรับอาหารจะออกไป เจอภูผาเดินสวนเข้ามาพอดี คว้าสำรับมาถือไว้ สั่งให้ดอยออกไปก่อน แล้วเดินมานั่งข้างๆหนูนา ตักข้าวต้มจะป้อนให้ยิ่งเห็นเขาดีกับเธอมากเท่าไหร่ เธอถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่

“คุณไม่ต้องทำอย่างนี้ก็ได้...คุณไม่ได้รักฉันสักนิด คุณจะมาเสียสละเพื่อฉันทำไม คุณจะทิ้งความสุขของคุณกับวงเดือนเพื่ออะไร”

“ความ สุขมันมักจะอยู่กับเราไม่นานหรอก และการที่เราได้เสียสละมันก็ทำให้เรามีความสุขได้เหมือนกันไม่ใช่หรือ...หนู นา...ฉันจะแต่งงานกับเธอ” เขาว่าแล้วลูบหัวเธอด้วยความสงสาร ส่วนเธอดีใจน้ำตาไหล

ooooooo

โฉมไฉไลยังหน้าด้านหน้าทนไม่ เลิก ทำตัวเป็นนางพญาเทครัวสวมชุดนอนเซ็กซี่แอบย่องเข้าหาเมฆาถึงห้องนอนแต่ต้อง ผิดหวัง เจอแต่ความว่างเปล่า เหลือบเห็นชอุ่มเดินผ่านมา ร้องถามว่าเมฆาไปไหน

“ถามหาผิดคนหรือเปล่าคะ” ชอุ่มมองอย่างตำหนิ
“แกอย่ามายอกย้อน ฉันถามว่าเมฆาอยู่ที่ไหน แล้วจะกลับมาเมื่อไหร่”

“คุณเมฆาค้างที่ รพ.ค่ะ ส่วนจะกลับเมื่อไหร่ ชอุ่มไม่ทราบค่ะ พอดีไม่ชอบสาระแนเรื่องเจ้านายน่ะค่ะ”

โฉม ไฉไลโมโหทำท่าจะเอาเรื่อง โชคดีที่ศรีดาราได้ยินเสียงเอะอะเข้ามาถามเสียก่อนว่ามีเรื่องอะไรกัน ชอุ่มยังไม่ทันจะอ้าปากฟ้อง ยัยตัวแสบชิงพูดขึ้นก่อนว่า

“โฉมมาถามหาพฤกษ์น่ะค่ะ ไม่กลับบ้านอีกแล้ว โฉมเป็นห่วงมากเลย”

ศรี ดาราถึงกับถอนใจ หนักใจทำไมลูกทั้งสองคนถึงไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง หันไปถามโฉมไฉไลว่าพอจะรู้ไหมว่าสองคนนั้นมีเรื่องอะไรกัน เธอตีหน้าซื่อไม่รู้เรื่อง ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าเป็นเพราะเธอเอง ชอุ่มแอบมองสะใภ้ใหญ่ของบ้านแสนสมุทรไม่ค่อยชอบใจนัก...

ในเวลาเดียว กัน เมฆารู้ว่าคืนนี้วงเดือนต้องเข้าเวรรีบแลกเวรกับหมอคนอื่นเพื่อจะได้อยู่กะ เดียวกับเธอ หญิงสาวแปลกใจที่เจอเขา แต่ยังไม่ทันพูดอะไร เจ้าหน้าที่ของ รพ.เข็นเตียงคนไข้ฉุกเฉินเข้ามาเสียก่อน คนไข้ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ อาการสาหัส ต้องทำการผ่าตัดโดยด่วน ทั้งสองคนรีบตรงไปยังห้องผ่าตัดทันที

เมฆา ทำการผ่าตัดคนไข้ โดยมีวงเดือนกับพยาบาลอีกคนหนึ่งเป็นผู้ช่วย การผ่าตัดสำเร็จด้วยดี คนไข้พ้นขีดอันตราย เมฆากับวงเดือนออกมาแจ้งให้ญาติคนไข้ทราบว่าทุกอย่างเรียบร้อย คนไข้ปลอดภัย

“ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ...ขอบคุณจริงๆ” ญาติคนไข้จับมือเมฆาเขย่าๆๆด้วยความดีใจ

วงเดือนมองเขาอย่างชื่นชม เขาหันมาเห็นเธอยิ้มให้ หัวใจพองคับอกปลื้มจนพูดไม่ออก...

ขณะ ที่เมฆาได้ใจวงเดือนไปเต็มๆจากการที่ช่วยชีวิตคนไข้ หนูนายืนมองออกไปนอกหน้าต่าง ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อนึกถึงคำพูดของภูผาที่บอกว่าจะแต่งงานกับเธอ พอหันกลับมาต้องตกใจที่เห็นดอยยืนมองอยู่

“ไอ้ดอย...ตกใจหมด เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ตั้งแต่ลูกพี่มองฟ้าแล้วก็ยิ้มอยู่คนเดียวแล้วล่ะ ดีใจใช่ไหมจ๊ะที่จะได้แต่งงานกับนายภูผา”

“เฮ้ย...นี่แกแอบฟังหรือ”

“ตอน ได้ยินนายพูดว่าจะแต่งงานกับลูกพี่ ดอยล่ะดีใจ๊ดีใจ...เอ๊ะ...แล้วนายเอาคุณเดือนไปไว้ที่ไหน” ดอยหันไปเห็นลูกพี่หน้าเครียด รู้ทันทีว่าตัวเองพลาด รีบเปลี่ยนเรื่องพูด “ดอยว่านายแต่งงานกับลูกพี่เพราะแพ้ใจลูกพี่แล้วแน่ๆ” คำพูดของดอยยิ่งทำให้หนูนาเครียดหนัก รู้อยู่เต็มอกที่เขาจะแต่งงานด้วยเพราะเด็กในท้อง ไม่ใช่เพราะแพ้ใจเธอ

ooooooo

ขณะ เมฆากับวงเดือนเดินออกจาก รพ.มาด้วยกันหลังจากออกเวรแล้ว เธออดชื่นชมเขาไม่ได้ที่เมื่อคืนช่วยชีวิตคนไข้ไว้ได้ ญาติๆคนไข้ดีใจกันมากที่ได้คนที่พวกตนรักกลับมา

“ฉันเข้าใจความ รู้สึกของพวกเขาดี เหมือนครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ ตอนที่เธอฟื้นขึ้นมา ฉันดีใจมากแค่ไหนเธอรู้ไหม” เขาเจตนาพูดเพื่อให้เธอรู้สึกว่าเป็นหนี้ชีวิตเขา เธอถึงกับอึ้งเพราะไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน เขาเห็นเธอมีท่าทีอึดอัดรีบเปลี่ยนเรื่องพูด ชวนเธอไปหาข้าวเช้ากินกัน เธออึกๆอักๆลำบากใจ

“ผ่าตัดมาทั้งคืนฉันเหนื่อย ไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยเถอะนะ...ใช้พลังไปกับงานเยอะแล้ว จะต้องเหนื่อยง้อเธออีกฉันไม่ไหวนะ” สีหน้าเขาเหนื่อยจริงไม่ได้เสแสร้ง วงเดือนจึงไม่อยากขัดใจ...

พฤกษ์เพิ่งกลับมาจากกินเหล้ากับยอดและพวก คนงานกำลังจะไปท่าเรือ ยอดอยากรู้ว่าวันนี้เจ้านายจะออกเรือหรือเปล่า พฤกษ์ไม่มีอารมณ์จะทำงาน ฝากเขาช่วยจัดการแทนด้วย ยอดหันไปยิ้มเจ้าเล่ห์กับคนงานที่รวมหัวกันโกงแสนสมุทรโดยที่พฤกษ์ไม่ทัน สังเกต ขณะเดินผ่านร้านขายโจ๊ก พฤกษ์เห็นเมฆากับวงเดือนนั่งกินโจ๊กกันอยู่ชักสีหน้าไม่พอใจ สั่งให้พวกคนงานกลับไปก่อน แล้วเข้าไปนั่งร่วมวงกินโจ๊กด้วย

วงเดือน ยังเสียความรู้สึกเรื่องที่เกือบถูกพฤกษ์ขืนใจ เบือนหน้าหนีไม่สบตาด้วย ต่างคนต่างนั่งเงียบไม่มีใครพูดอะไร หญิงสาวอึดอัดใจ กินอะไรไม่ลงวางช้อน เมฆารอจังหวะอยู่แล้ว

“อิ่มแล้วใช่ไหม...งั้นเรากลับกันนะ”

หญิง สาวลุกขึ้นโดยไม่มองหน้าพฤกษ์ เขาทนไม่ไหวคว้ามือเธอพาออกจากร้าน อ้างว่ามีเรื่องจะคุยด้วย เธอเห็นเขาดูมีสติจึงยอมเดินตาม เมฆาไม่สบายใจมาก จ่ายเงินค่าโจ๊กแล้วรีบวิ่งตามมาคว้ามืออีกข้างของเธอไว้ เตือนพี่ชายว่าไม่ควรทำแบบนี้
“คนอย่างแกไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉันว่าควรหรือไม่ควรทำอะไร มันเป็นเรื่องระหว่างฉันกับเดือน”

เมฆา ถึงกับอึ้ง แต่ยังไม่ยอมปล่อยวงเดือน พฤกษ์โกรธเงื้อหมัดจะต่อย เธอคว้าแขนเขาไว้ ขอร้องอย่ามีเรื่องกันเลย เขาอยากจะคุยอะไรกับเธอว่ามา เมฆาฮึดฮัดจะไม่ยอม เธอต้องขอร้องให้เขาปล่อยมือ ก่อนจะเดินไปกับพฤกษ์ พอมาถึงชายหาดที่เงียบสงบ เขาขอโทษที่ทำไม่ดีกับเธอ และขอให้เธอยกโทษให้

“เดือนไม่ได้โกรธคุณแล้ว คุณพฤกษ์ลืมมันไปเถอะนะคะ เดือนขอตัวค่ะ” เธอขยับจะไป เขาคว้ามือเธอ

“เดือน...ฉันรักเธอ รักเธอมาก เห็นใจฉันได้ไหม”

เธอ เตือนว่าเขาแต่งงานแล้ว พฤกษ์อ้างว่าแต่งเพราะความจำเป็น ระหว่างโฉมไฉไลกับเขาไม่ใช่ความรัก เธอต้องการแค่สมบัติของแสนสมุทร แต่เขาต้องการความรัก และต้องเป็นความรักจากวงเดือนคนเดียวเท่านั้น เธอไม่อาจจะรักเขาได้ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เขาเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากพี่ชายของเธอ

“เธอไม่รักฉันไม่ว่า ขอแค่ให้ฉันดูแลเธอได้ไหม

ไม่ต้องรักฉันก็ได้” พฤกษ์ตื๊อสุดชีวิต

แค่ ดูแลเธอก็เห็นว่าไม่เหมาะสม เพราะคนอื่นๆ จะมองเธอกับเขาไปในทางไม่ดี และที่สำคัญเธอไม่อยากทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องเสียใจ พฤกษ์คิดว่าเป็นเพราะเขาแต่งงานแล้วเธอจึงไม่ยอมรับรักเขา ถ้าเป็นเช่นนั้นเขาจะหย่า เมฆายืนฟังอยู่นานเห็นท่าไม่ดี รีบเข้ามาขวาง

“พอได้แล้วพี่ เดือนทำงานมาทั้งคืน ให้เดือนกลับไปพักได้แล้ว”

วงเดือนแกะมือเขาออก แล้วกลับไปกับเมฆาทิ้งให้พฤกษ์ยืนเจ็บปวดใจอยู่เพียงลำพัง...

พฤกษ์ เลือกที่จะใช้เหล้าดับความทุกข์ในใจ เมามายจนไม่รู้ว่ากำลังถูกยอด ลูกน้องที่เขาไว้ใจหักหลังอีกครั้ง เอาปลาที่จับได้ไปส่งให้โรงงานของเฮียเกียงแทนที่ จะไปส่งให้โรงงานของคุณณรงค์

ooooooo

ในเวลาไล่เลี่ยกัน ที่ไร่วงเดือน พวกคนงานเห็นหนูนาเก็บใบชาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุข ต่างชี้ชวนกันให้ดู คนงานหญิงกลุ่มหนึ่งอยากรู้อยากเห็นมาก เข้ามาสะกิดถามว่าจริงหรือเปล่าที่เธอจะแต่งงานกับเจ้านาย หนูนาตกใจพวกคนงานไปได้ยินเรื่องนี้มาจากไหน ดอยยืนอยู่ใกล้ๆ รีบเสนอหน้าทันที

“จริงจ้ะ...ดอยได้ยินมากับหูเลยนะ”

“ไม่ จริงหรอกมั้ง ข้าไม่เห็นนายภูผาจะพูดอะไรเลย” หนึ่งในคนงานท้วง หนูนาถึงกับหน้าเสีย ดอยยืนยันว่าได้ยินมากับหูจริงๆ พวกคนงานไม่เชื่อ หาว่าดอยขี้โม้ เด็กน้อยไม่พอใจเข้าไปตีคนงานปากเสียคนนั้น เลยเกิดศึกย่อยๆขึ้น คนงานอื่นๆเริ่มหันมามอง ภูผากับนายสว่างต้องรีบเข้าไปหย่าศึก ถามว่ามีเรื่องอะไรกัน
source: thairath.co.th 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น