วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555

อ่านละครพริกกับเกลือ ตอนที่4 วันที่5 ส.ค. 55

เมื่อปักใจเสียแล้วว่ายอดชายคือ “ไอ้โรคจิต” ศุวิมลจึงคิดเล่นงานเขาให้ได้ด้วยการนำความมาบอก รปภ.ให้ช่วยค้นหาและจับตัวไว้ก่อนที่เขาจะไปทำอุบาทว์กับใครอีก

ขณะที่เธอกับ รปภ.โรงพยาบาลเดินหาตามห้องต่างๆ จนมาหยุดใกล้ห้องดิ่ง เป็นจังหวะที่ดิ่งตั้งใจออกไปเดินยืดเส้นยืดสายนอกห้อง สองพี่น้องเลยจ๊ะเอ๋กันอย่างไม่คาดฝัน ส่วนนายยอดไม่รู้ไม่เห็น นั่งอยู่ในห้องรอสาวจี๊ดว่าเมื่อไหร่จะมาดูแลนายดิ่งตามที่ตกลงกันไว้

ดิ่งพาน้องสาวไปคุยกันมุมหนึ่ง เขาบอกเหตุผลที่ไม่เรียนต่อและไม่กลับเข้าบ้านเพราะทำใจไม่ได้ที่พ่อแต่งงาน ใหม่กับคนรักของตน แถมพ่อยังข่มขืนมารศรีจนเธอต้องยอมแต่งงานด้วยเพื่อรักษาหน้าตัวเองและพ่อ แม่ แต่แล้วดิ่งกลับเป็นฝ่ายอึ้ง เมื่อศุวิมลให้ข้อมูลที่แท้จริงว่ามารศรีโกหก

“เขาโกหกพี่ และโกหกคุณพ่อกับศุ รวมถึงทุกๆคนอย่างหน้าไม่อายที่สุด คุณพ่อไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขาเป็นแฟนพี่ดิ่ง...นึกไว้แล้วเชียวว่าผู้หญิง คนนี้ไม่ได้รักคุณพ่อจริง ไว้ใจไม่ได้”

“แล้วมารศรีทำแบบนี้ทำไม”

“ไม่เห็นจะเดายาก โลภไงคะ เท่าที่พี่ดิ่งมีมันอาจจะไม่เพียงพอ ต้องระดับคุณพ่อถึงจะสนองความต้องการของตัวเองได้ ศุจะไปฉีกหน้ากากมันให้คุณพ่อรู้ความจริง พี่ดิ่งไปกับศุ”

“พี่ยังไปตอนนี้ไม่ได้”

“ทำไมล่ะคะ”

“มีคนใส่ร้ายคุณพ่อว่าเป็นคนสั่งฆ่าคุณเจตนามีคนต้องการจะกำจัดคุณเจตนาแล้วป้ายความผิดให้คุณพ่อ

พี่ต้องรู้ให้ได้ว่าใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ พี่ต้องปกปิดตัวเองต่อไป ให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าพี่เป็นใคร”

“แต่ศุอยากทำให้คุณพ่อตาสว่าง ถ้าไม่มีพี่ดิ่งไปยืนยัน คุณพ่อไม่มีวันเชื่อศุ ท่านทั้งรักทั้งหลงยายนั่น”

“ศุ...ใจเย็น ดูแลคุณพ่อให้ดี ทำทุกอย่างอย่าให้คุณพ่อเสียทีมารศรี”

ศุวิมลไม่ทันจะรับปาก ยอดชายโผล่มาเห็น ต่างคนต่างอุทานใส่กันก่อนที่ศุวิมลจะวิ่งไล่ตียอดชายไปรอบตัวดิ่ง

“อย่าหนีนะ บอกให้หยุด”

“ไม่หยุดแล้วจะทำไม ทำโทษเหมือนนักเรียนคุณเหรอ ฝันไปเถอะ”

ศุวิมลเริ่มเหนื่อยหอบ ถามพี่ชายว่ารู้จักไอ้โรคจิตนี่ด้วยเหรอ ขณะที่ยอดชายก็ถามดิ่งว่ารู้จักยายอาจารย์เพี้ยนนี่ได้ยังไง เมื่อสองคนยังเถียงกันไปมาไม่มีทีท่าว่าจะหยุด แถมศุวิมลก็ทั้งด่าทั้งไล่ตียอดชายวุ่นวายไปหมด ดิ่งจึงเอ่ยปากขอร้องทั้งคู่ แล้วอธิบายกับน้องสาวว่า

“คุณศุวิมลครับ คุณยอดชายเป็นเจ้านายของผมเอง เขาไม่ได้เป็นโรคจิต”
“รู้จักชื่อยายเพี้ยนนี่ได้ไงคุณดิ่ง”

“พูดว่าฉันเพี้ยนอีกครั้งเดียว มีหัวแตก” ศุวิมลเงื้อง่า ยอดชายรีบหลบข้างหลังดิ่ง

“บังเอิญว่าคุณศุวิมลทำผ้าเช็ดหน้าหล่น ผมเลยเก็บให้ ทำให้ได้คุยกัน”

ศุวิมลหันมองพี่ชายที่แอบขยิบตาส่งซิกทำนองว่าไม่รู้จักกัน เธอเลยต้องตามน้ำไปก่อน

“ใช่ ฉันทำผ้าเช็ดหน้าหล่น กำลังคุยกันสนุก ก็มีสัมภเวสีโผล่มา”

“สัมภเวสีเลยเหรอ ทำผ้าเช็ดหน้าหล่นเนี่ยนะ หาแฟนด้วยวิธีอ่อยโบราณมาก นี่คนป่วยนะคุณ เว้นๆบ้างเถอะ”

“ไอ้บ้า ฉันไม่ได้...” ศุวิมลชะงัก เพราะดิ่งแทรกขึ้นอย่างว่า

“ผมเพลียแล้วครับ แล้วเจอกันนะครับคุณศุวิมล”

“เขาเจอคุณเลยเพลีย...ไปครับคุณดิ่ง” ยอดชายทำหน้าทะเล้นใส่ศุวิมลก่อนพาดิ่งออกไป ศุวิมลเจ็บใจยอดชายมาก แล้วก็นึกเป็นกังวลเรื่องที่พี่ชายปกปิดตัวเองอยู่ในบ้านคู่แข่งของพ่อ

ooooooo

จี๊ดมาถึงโรงพยาบาลแล้วพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้า แต่เธอถูกเทวัญสกัดเอาไว้อย่างไม่ชอบใจ เขาท้วงว่าไม่เหมาะที่เธอจะมาค้างอ้างแรมกับนายดิ่ง

“นี่โรงพยาบาลนะคะ แล้วถ้านายนั่นมันจะทำอะไรจี๊ด คงไม่มีปัญญาทำหรอกค่ะ เดี้ยงขนาดนั้น”

“พี่ขอความจริง...ความจริงที่จี๊ดกำลังปกปิดพี่อยู่ ทำไมถึงต้องลดตัวมาทำดีกับมันขนาดนี้”

หญิงสาวลำบากใจสุดๆ จำเป็นต้องโกหกเขาว่า “จี๊ดไม่ได้มีอะไรปกปิดพี่เทวัญจริงๆนะคะ ตอนนี้จี๊ดพยายามทำดีกับนายนั่นเพื่อให้คุณพ่อสบายใจ”

“พี่ไม่อยากเชื่อเลยว่าจี๊ดจะเปลี่ยนความคิดได้เร็วขนาดนี้”

“จี๊ดอาจจะมองคนในแง่ร้ายเกินไป นายนั่นคงจะเป็นคนดี ไม่ได้เป็นสิบแปดมงกุฎอย่างที่เราเข้าใจ จี๊ดว่า...จี๊ดต้องให้โอกาสเขาค่ะ”

จี๊ดยิ้มยืนยัน เทวัญไม่ค่อยเชื่อนัก แต่ก็พยักหน้าเอาใจแฟนสาว

“น้องจี๊ดของพี่เป็นคนดีมาก แต่ระวังตัวไว้หน่อยแล้วกันนะ พี่เป็นห่วง”

“ค่ะ จี๊ดจะทำดีกับนายดิ่งเพื่อเป็นการไถ่โทษ...แบบจัดเต็มเลยค่ะ”

เมื่อเทวัญกลับไปแล้ว จี๊ดมุ่งหน้ามาที่ห้องดิ่งเพื่อทำตามข้อตกลง แต่เขากลับบอกเธอด้วยท่าทีเย็นชาว่า กลับบ้านไปเถอะ เธอเลยหงุดหงิดใส่ ถามว่าตกลงจะเอายังไง เธออุตส่าห์ทำใจได้แล้วว่าต้องมาดูแลเขา

“เปลี่ยนใจแล้ว ไม่อยากนอนผวากลัวว่าเมื่อไหร่คุณจะเอามีดมาเสียบข้างหลังผม”

“ถ้าฉันจะฆ่านายให้ตาย ไม่โง่ทำให้คนจับได้หรอก”

“นั่นไง ยิ่งไม่น่าไว้ใจ”
“นี่...คิดว่าฉันจะฆ่านายจริงๆหรือไง”

“คิด” ตอบแล้วก็หันไปปรับเตียงด้วยมือข้างเดียวอย่างยากลำบาก จี๊ดทนดูไม่ได้อาสาเข้ามาช่วย แต่ปรับสูงต่ำหลายครั้งไม่ได้ดังใจดิ่งเสียที กระทั่งรู้ว่าถูกเขาแกล้งเธอเลยคว้าหมอนมากดปิดหน้าเขา แต่ทำไปทำมาโดนเขากอดแน่นแทบหายใจไม่ออก

ทั้งคู่สบตากันด้วยความรู้สึกแปลกๆ หวิวๆ พอดียอดชายโผล่เข้ามาพร้อมกระเป๋าใบเล็ก จี๊ดรีบผละออกจากดิ่ง แล้วแก้เก้อว่าตนมาได้สักพักหนึ่งแล้ว แต่ถ้ายอดชายจะเฝ้าไข้นายดิ่ง ตนก็จะกลับบ้าน และไม่ถือว่าตนผิดคำพูด

เมื่อตกลงกันตามนั้นแล้ว ยอดชายเดินตามไปส่งจี๊ด และต้องฟังเธอบ่นนายดิ่งต่อไปอย่างหงุดหงิด

“ประสาท อารมณ์แปรปรวน ทำฉันเสียเวลาย้อนไปย้อนมา แกล้งกันชัดๆ เห็นฉันว่างมากหรือไง”

“คุณดิ่งเขาไม่อยากให้คุณพ่อเธอเป็นห่วงต่างหาก”

“อะไรนะ”

“ท่านโทร.มาหาฉัน เห็นเธอหอบกระเป๋าออกมา กลัวว่าเธอจะเสียใจเรื่องคุณแม่จนต้องหนีออกจากบ้าน คุณดิ่งเลยไม่อยากทำให้ท่านเป็นห่วง”

“เป็นคนดีอย่างนั้นเชียว”

“ใช่...ดีได้มากกว่านี้อีก ให้เล่ามั้ย”

“ไม่ต้อง ขี้เกียจเก็บไปฝัน...สยอง”

ครั้นยอดชายอาสาขับรถไปส่ง จี๊ดปฏิเสธเพราะตนอาจจะยังไม่กลับบ้าน ยอดชายนึกว่าเธอจะไปเที่ยวต่อ จึงเตือนว่าอย่าดึกนักเพราะพรุ่งนี้ต้องทำงาน ปรากฏว่าไม่ใช่อย่างนั้นแน่ แต่เธอจะไปทำอะไรดีๆต่างหาก

ooooooo

ในห้องคนไข้ที่เศกยังรักษาตัวอยู่ ศุวิมลเข้ามาเห็นมารศรีนั่งเฝ้าพ่อของตนแล้วอดนึกถึงคำพูดพี่ชายไม่ได้ มารศรีโกหกหน้าด้านๆ โยนความผิดให้เศกเพื่อขอความเห็นใจจากดิ่ง และถ้าดิ่งไม่รู้ความจริงจากเธอ ก็คงโกรธเกลียดพ่อไปแล้ว

มารศรีเห็นสายตาเมินหมางของศุวิมลก็พาลไม่อยากอยู่เฝ้าเศก ขอกลับไปนอนบ้านแล้วพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ เพราะยังไงคืนนี้ศุวิมลก็ตั้งใจจะเฝ้าเศกอยู่แล้ว ขณะที่มารศรีกลับออกมาที่ลานจอดรถ เธอเห็นจี๊ดขึ้นรถขับออกไปพอดี แต่ก็ไม่ได้ติดใจสงสัยว่ามาทำไม?

คืนนั้น ดิ่งรอจนยอดชายหลับสนิทก่อนแอบออกไปที่ห้องพ่อ เขาแง้มประตูมองพ่อที่หลับบนเตียง

ส่วน น้องสาวนอนที่โซฟา ดิ่งเห็นสภาพอิดโรยของพ่อแล้วรู้สึกผิดที่ตัวเองเป็นต้นเหตุให้พ่อเสียใจจน ล้มป่วย แต่สักครู่เขาต้องผละออกไปเมื่อเห็นพ่อลืมตาขึ้น

ด้านสาวจี๊ดที่ไม่ยอมกลับเข้าบ้านตัวเอง เธอไปขอนอนค้างที่บ้านใจดีสักสองสามวัน ใจดีไม่มีปัญหา อนุญาตให้เพื่อนนอนได้เป็นปี สบายใจแล้วค่อยกลับ แต่ผ่านไปสักครู่ใจดีก็ทำให้จี๊ดกระวนกระวายใจแทบนอนไม่หลับ แต่งตัวออกจากบ้านไปแต่เช้าเพื่อจะเอาความจริงว่าเทวัญนอกใจตนจริงหรือเปล่า
ขอขอบคุณจาก thairath.co.th 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น