วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2555

อ่านละครหงส์สะบัดลาย ตอนที่5 วันที่19 ส.ค. 55

ระบิลพานายสาวมานั่งในร้านกาแฟริมทะเล สถานที่แห่งนี้เขาเคยพาเอมมิกามาเที่ยวบ่อยๆ เนติมาชื่นชมบรรยากาศรอบตัว ครั้นหันมาเห็นระบิลนั่งเหม่อจึงเอ่ยถามว่าเป็นอะไร

“เราก็เป็นแฟนกันไง”

“อะไร นะ” เจ้านายสาวสะดุ้งโหยง “ใครเป็นแฟนนาย นายไม่สบายรึเปล่าเนี่ย ฉันเรียกนายตั้งหลายทีแล้ว แต่นายมองอะไรโต๊ะโน้นอยู่ แล้วเมื่อกี้พูดอะไร...ใครแฟนใคร” เนติมาใส่เป็นชุด

ระบิลตื่นจาก ภวังค์รีบกลบเกลื่อน เนติมาแซวให้เขาพาแฟนมารู้จักกันบ้าง ระบิลกลับลุกหนี เนติมาตามไปคาดคั้น แต่ไม่ทันได้คำตอบ ศิวัชก็โทร.เข้ามา เธอโกหกคนรักเจอเพื่อนเก่าก็เลยออกมาทานข้าวกัน

ในตอนบ่าย ดลมานั่งเฝ้าอ้อที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง สาวน้อยมาเป็นพริตตี้ยืนแจกตัวอย่างน้ำสมุนไพรให้คนที่มาออกกำลังกาย เมื่อเสร็จงานเธอนำเงินค่าจ้างมาส่งให้ดลเก็บไว้ ชายหนุ่มไม่ยอมรับ เพราะเป็นน้ำพัก น้ำแรงของเธอ สาวน้อยไม่ขัดใจ แต่มีเงื่อนไขว่า ขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงข้าวเย็น แล้วขอตัวไปเปลี่ยนชุด

ดลกลับมานั่งรอ เขาหยิบหนังสือพิมพ์มาอ่าน เห็นข่าวพาดหัวว่า“ศิวัช กิตติธร ฟอร์มทีมรัฐบาล พร้อมทำงานเต็มสูบ”

หัวข่าวทำให้หนุ่มน้อยหันมาใคร่ครวญ อนาคตของตัวเอง

ooooooo

สายวันใหม่ เนติมาเข้ามาดูความเรียบร้อยเรื่องเสื้อผ้าให้ศิวัช เพราะวันนี้คนรักจะออกแถลงจุดยืนทางการเมืองเป็นครั้งแรก

ศิ วัชถือโอกาสขอเนติมาแต่งงาน เพราะต้องการสตรีหมายเลขหนึ่งมายืนเคียงข้าง สาวเจ้าตอบกลับว่า ไม่อยากเป็นสตรีหมายเลขหนึ่ง แต่อยากเป็นแค่ผู้หญิงคนเดียวของเขามากกว่า เพราะยังน้อยใจเรื่องปฏิพรไม่หาย

ศิวัชอึดอัดใจชี้แจงว่าทุกอย่าง เป็นแค่เกมการเมืองที่พ่อเขาเป็นคนจัดการ และยืนยันว่าไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับปฏิพร นอกจากเห็นเธอเป็นแค่น้องสาว เนติมาฝืนยิ้มออกตัวว่า แค่ล้อเล่นเพราะไม่อยากให้คนรักไม่สบายใจ
หนุ่มสาวสบตากันด้วยความรัก พลันสะดุดเมื่อ ปฏิพรเข้ามา เธออ้างว่าธำรงให้มาตาม และนักข่าวก็มากันพร้อมแล้ว จอมมารยาฉวยโอกาสควงแขนชายหนุ่มเดินออกไป เมื่อถึงประตู แม่ร้อยเล่ห์ก็เอื้อมมือไปจัดเนกไทให้อีกครั้ง เพื่อโชว์ความหวานให้ช่างภาพ

เนติมาแอบเศร้า ปฏิพรลอบมองอาการเธอด้วยความสะใจ ก่อนเดินเกมสร้างความร้าวฉานต่อไป

หลังจากศิวัชแถลงนโยบายและตอบคำถาม

สื่อ มวลชนเรียบร้อยแล้ว ระบิลสะกิดให้เนติมาเข้าไปถ่ายรูปกับศิวัชเพื่อประกาศตัวอย่างเป็นทางการ แต่เนติมายังลังเล จึงถูกปฏิพรขโมยซีนถ่ายรูปคู่กับศิวัชแทน

ธำรงยืน มองเหตุการณ์อยู่ในห้องอย่างพึงพอใจ เพราะทุกอย่างเป็นไปตามแผน สักพักชลกรมาขอพบเธอใช้มารยาหว่านล้อมให้ธำรงยอมรับปากว่า จะเสนอที่ประชุมให้รับพงศ์เลิศเข้าร่วมรัฐบาลด้วย และชวนไปดินเนอร์ที่คอนโดฯเพื่อตอบแทน ธำรงลอบยิ้มพลางสบตากับชลกรอย่างรู้กัน

บริเวณหน้างาน ระบิลยังยุนายสาวให้ออกไปถ่ายรูปกับศิวัชไม่เลิก แต่เธอปฏิเสธ เพราะไม่อยากเห็นคนรัก ลำบากใจ ระบิลจะปลุกระดมต่อ พลันระเบิดดังตูม แขกเหรื่อกระเจิงไปคนละทิศละทาง

“ระวัง” ระบิลโผเข้ารวบตัวเนติมาให้นอนกับพื้นโดยเอาตัวเข้าบังไว้

ส่วน ศิวัชกับปฏิพรเสียหลักล้มลง บอดี้การ์ดเข้ามาคุ้มกัน ชายหนุ่มลุกขึ้น รีบส่งปฏิพรให้บอดี้การ์ดดูแลแล้ววิ่งไปหาเนติมาที่ถูกร่างระบิลทับอยู่

“เนต์ิ...เนติ์เป็นอะไรรึเปล่าจ๊ะ” ศิวัชจับมือคนรัก

“ไม่ เป็นอะไรค่ะ แต่คุณระบิลสิคะโอ๊ย ลุกได้แล้ว ฉันหนักนะ” เนติมาพยายามดันระบิลออก แต่ไม่สามารถทำได้ ศิวัชเข้ามาช่วย เขาร้องเรียกระบิลพลางเอื้อมมือไปพลิกตัวชายหนุ่ม แล้วต้องตะลึงเมื่อเห็นระบิลหมดสติ มีเลือดไหลจากศีรษะ

ooooooo

บอดี้ การ์ดหนุ่มถูกส่งโรงพยาบาล เนติมาตามมาเฝ้าด้วยความเป็นห่วงและรู้สึกผิด ศิวัชเข้ามาปลอบใจ  เขาบอกคนรักว่า นี่แค่การเริ่มต้นเท่านั้น หญิงสาวเริ่มคิดหนัก แต่ยังยืนยันขอเดินหน้าต่อ
ศิวัชดึงเนติมามากอดให้กำลังใจ แล้วต้องรีบผละออก เพราะระบิลรู้สึกตัว บอดี้การ์ดคุยโวว่าสบายดี แล้วลุกขึ้นชวนนายสาวกลับบ้านหน้าตาเฉย

เนติ มาร้องห้ามเสียงหลง ขอให้พักสักสองสามวัน ศิวัชเห็นด้วย แต่ระบิลไม่ยอม เขาว่าแผลพวกนี้ไกลหัวใจ ศิวัชมองระบิลอย่างห่วงๆ ขณะที่เนติมาหน้าบึ้ง เพราะหงุดหงิดในความรั้นของชายหนุ่ม

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ระบิลเข้ามานั่งยิ้มระรื่นอยู่ในบ้านกันต์ เขายืนยันกับสองสามีภรรยาว่า ไม่เป็นอะไรมาก เนติมาตามมาส่งค้อนพลางบ่นยืดยาว ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นขวัญชนกลงมาดูอาการระบิลด้วยความเป็นห่วง

ส่วน เจือจันทร์หันมาคุยกับกันต์ “ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกไหนเป็นคนทำ นี่มันชักถี่มากขึ้นแล้วนะคุณคราวก่อนหนูเนติ์ก็โดนไล่ยิง นี่ถ้าเมื่อไหร่มันคิดจะทำอะไรกับบ้านหลังนี้ ก็คง...”

ขวัญชนกได้ ยินก็หน้าเสียรู้สึกกลัวขึ้นมา กันต์เอื้อมมือไปจับมือลูกและภรรยาอย่างปลอบโยน ขณะที่ระบิลกับเนติมานิ่งคิดด้วยความไม่สบายใจนัก

เวลาเดียวกัน พงษ์เลิศหวดลูกกอล์ฟออกไปอย่างหัวเสีย เพราะเกมการเมืองกำลังจะเดิน แต่ลูกชายตัวดีดันมาเตะตัดขากันเอง เขาสั่งชลกรให้โทร.หาอิทธิหาญ แต่ติดต่อไม่ได้ เพราะจอมเกเรไม่ยอมรับสาย

“เพิ่งแพ้มาหยกๆ แล้วยังมาเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีก ดูสิข่าวแต่ละสำนักด่าเราทั้งนั้น นี่ถ้าไอ้ศิวัชมันเกิดจะเล่นงานเร่งขุดคุ้ยเราขึ้นมามีหวังแย่แน่”

“ใจ เย็นๆสิคะ มีฉันอยู่ทั้งคน คุณจะกลัวอะไร คุณก็รู้นี่คะ ว่าฝีปากฉันกล่อมคนมานักต่อนักแล้ว แค่ฉันสบตา สัมผัสตัวคุณธำรงเขาแค่นิดเดียว ฉันก็รู้แล้วว่าเขาต้องการอะไร” ชลกรอมยิ้มมีเลศนัย ก่อนเข้ามากระซิบบางอย่าง พงษ์เลิศพยักหน้าเข้าใจความหมาย และเริ่มมีหวัง

ooooooo

คำ เที่ยงเห็นข่าวลอบวางระเบิดพรรคสยามพัฒนา ก็ห่วงดลถึงกับมาหาที่คอนโดฯ และชวนดลกับอ้อไปไหว้อัฐิวิเชียรกับพรรณศรีที่วัด เพื่อขอให้วิญญาณทั้งสองช่วยคุ้มครองเนติมาให้ปลอดภัย

ดลเปรยว่าอยากพบพี่สาวเร็วๆ คำเที่ยงเห็นใจและเตือนให้ระวังตัว เพราะถ้าพงษ์เลิศรู้ว่าเขาคือใคร คงไม่เอาไว้แน่
“ใช่แล้ว ยิ่งเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ อ้อว่าเรายิ่งเข้าถึงตัวพี่เนติ์ลำบากขึ้นแน่ๆ” อ้อเสริม

ดลถอนใจ ขณะที่คำเที่ยงหันไปพูดกับรูปวิเชียรและพรรณศรี

“คุณ วิเชียรไม่ต้องห่วงนะครับ สัญญาที่ผมให้ไว้กับคุณจะต้องสำเร็จ เด็กสองคนโตขึ้นอย่างเข้มแข็ง ผมมั่นใจว่าเขาจะเป็นคนดีอย่างที่คุณอยากให้เป็น” คำเที่ยงเอ่ยทั้งน้ำตา แล้วหันมาบอกอ้อ “คุณวิเชียรมีบุญคุณกับพ่อมาก ถ้าวันนั้นพ่อไม่ได้คุณวิเชียร ชีวิตพ่อวันนี้ก็ไม่รู้จะเป็นยังไง”

คำ เที่ยงนึกถึงความหลัง เมื่อครั้งวิเชียรให้เงินไปรักษาลูกชายที่นอนรอความตายอยู่ในห้องไอซียู ทั้งๆ ที่เขาเป็นแค่คนขับรถของพงษ์เลิศเท่านั้น

“พ่อรู้สึกว่าชีวิตเล็กๆ ของพ่อ ชดใช้อีกกี่ครั้งก็คงไม่เท่ากับความเมตตาที่คุณวิเชียรมีให้”

“แต่พ่อก็ทำทุกอย่างดีที่สุดแล้วนี่ครับ ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณพ่อ ถ้าไม่ได้พ่อ ผมคง...”

“พ่อ ภูมิใจที่สุด ที่พ่อมีส่วนทำให้ลูกโตขึ้นมาเป็นคนดี เออ...วันครบรอบวันเสียชีวิตคุณวิเชียรกับคุณพรรณศรีปีนี้ พ่อคงไม่ได้มา ดลจัดการเองได้นะลูก”

“ได้ครับพ่อ สบายมากครับ” ดลพูดยิ้มๆ ขณะที่อ้อแกล้งมองพ่อกับพี่ชายอย่างงอนๆ ก่อนโวยว่าไม่มีใครสนใจเธอเลย ทั้งสองหัวเราะชอบใจแล้วดึงอ้อไปกอดด้วยความรัก

ooooooo
ค่ำวันเดียวกัน เนติมาโทร.ไปกู๊ดไนต์คนรัก แล้วจะเดินเข้าห้อง เมื่อเห็นไฟห้องหนังสือยังเปิดอยู่ และได้ยินเสียงคนในห้องบ่นงึมงำจึงเข้าไปดู เธอเห็นบอดี้การ์ดกำลังทำแผลบริเวณขมับอย่างทุลักทุเล แถมทำผ้าก๊อซหลุดมือตกลงพื้น

ระบิลถอนใจอย่างหงุดหงิดก่อนก้มลงจะ หยิบ แต่หัวไปโขกกับโต๊ะเข้าอีก “โอ๊ย...อะไรวะเนี่ย อูยเจ็บ” พ่อหนุ่มกุมหัวป้อยๆ พลางก้มลงเก็บผ้าก๊อซขึ้นมา ใช้ปากเป่าทำความสะอาดอย่างง่ายๆ แล้วจะปิดแผล

เนติมาปรี่เข้ามาแย่งไปจากมือพร้อมต่อว่าชุดใหญ่ ก่อนจะดึงกล่องยามาเปิดและช่วยทำแผลให้ พลางเอ่ย

อย่างรู้สึกผิด “ถ้าไม่ได้นาย คนที่ต้องเจ็บตัวคงเป็นฉัน”

“มันเป็นหน้าที่ของผมที่จะต้องปกป้องคุณ การที่ผมเจ็บแล้วคุณไม่เจ็บเนี่ย ถือว่าผมทำงานสำเร็จนะ”

“แต่ ถ้าฉันไม่เจ็บ นายไม่เจ็บ จะดีกว่าไม่ใช่เหรอ ความจริงความรู้ความสามารถนาย ไม่จำเป็นต้องมาเป็นบอดี้การ์ดก็ได้นะ ถ้านายกลับเข้ารับราชการฉันว่านายต้องได้เป็น...” เนติมาพูดไม่ทันจบ ระบิลก็เบี่ยงหน้าหลบบอกว่า เขาไม่มีวันกลับไปรับราชการ

“อะไร...ฉันแค่พูดลอยๆ ไม่เห็นต้องหงุดหงิดเลย มีอะไรเหรอ ทำไมนายถึงไม่อยากกลับไปรับราชการ

ก็ในเมื่อ...” ระบิลขยับจะลุกจากเก้าอี้ แต่เนติมารีบรั้งไว้ “โอ๊ยๆโอเคๆไม่ถามแล้วก็ได้ อะไรเนี่ยจู่ๆ ของก็ขึ้น

มานี่ๆ มาทำแผลต่อเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว” เนติมาเอามือจับหน้าระบิลให้หันกลับมา ก่อนจะทำแผลต่อด้วยความตั้งใจ

“คิด ไปคิดมานายไม่ต้องไปทำงานอย่างอื่นน่ะดีแล้ว เพราะฉันจ้างนายคนเดียวเหมือนได้ตั้งหลายคนทั้งคนสวน ช่างไฟฟ้า พ่อบ้าน พ่อครัว คนขับรถ คน...”

“โอ๊ย...เบาๆสิคุณ...เจ็บ” ระบิลร้องด้วยความเจ็บพลางคว้ามือเนติมาข้างที่กำลังทายาไว้ ทั้งสองหันมาสบตากันแล้วต้องชะงักด้วยความหวั่นไหว

ระบิลตั้งสติได้ก่อน รีบปล่อยมือเนติมาพร้อม

คำขอโทษ และขอทำแผลต่อเอง แต่เนติมาไม่ยอม เธอทำแผลให้เขาจนเสร็จแล้วเดินอมยิ้มกลับห้อง ระบิลมองตามรู้สึกหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก

ooooooo

วัน ใหม่ เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นกับหญิงสาว เนติมาขอยืมปืนจากเพื่อนมาบังคับระบิลให้สอนยิงปืน แต่กลับโดนบอดี้การ์ดบิดข้อมือแย่งปืน พร้อมคำเทศนาชุดใหญ่ ถึงกระนั้นเนติมาก็ไม่สน เธอยืนกรานให้ระบิลสอน ถ้าไม่สอนให้จะไปหาที่เรียนเอง

“แต่คุณมีผมเป็นบอดี้การ์ดอยู่แล้ว ถ้าคนที่ผมปกป้อง ต้องมาฝึกอาวุธคุ้มครองตัวเอง ผมเลิกเป็นบอดี้การ์ดดีกว่า ผมจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำอันตรายคุณเด็ดขาด แล้วถ้าถึงเวลาที่คุณจะต้องใช้ปืน ผมจะเป็นคนสอนคุณด้วยมือผมเอง” ระบิลเสียงเข้มท่าทางเอาจริง

เนติมาหน้าจ๋อยยอมจำนน เธอรีบเปลี่ยนเรื่องชวนระบิลไปหาศิวัช เพราะมีนัดทานข้าว

ทั้ง สองมาถึงหน้าคฤหาสน์หรู พบศิวัชเดินคุยอยู่กับวิเชษฐ์ เนติมาเข้าไปหาคนรัก ส่วนวิเชษฐ์หันมาทักระบิล และถามเรื่องอาการบาดเจ็บ เพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องงานจึงไม่ได้ไปเยี่ยม

“โอ๊ย...สบายมากครับพี่ ผมน่ะแก่ยาก แต่ตาย ยากกว่า”

“อย่างอื่นยาก แต่โม้เนี่ยง่ายถึงง่ายที่สุดเลยล่ะ”

เนติมาหันมาต่อปากต่อคำ ก่อนจะถามหาธำรง

“คุณ พ่อไปธุระข้างนอกน่ะจ้ะ ท่านบอกไม่ต้องรอ ให้พวกเราทานไปก่อนได้เลยไปทานข้าวกันเถอะครับแม่บ้านตั้งโต๊ะไว้พร้อมแล้ว” ศิวัชชวนทุกคน

เนติมามองซ้ายขวาถามหาปฏิพร ศิวัชว่าวันนี้เธอไม่มาเพราะติดธุระ สาวเจ้ายิ้มโล่งใจ ระบิลแกล้งเปรย “แหม...กลัวก้างมาขวางคอตอนทานข้าวเหรอคุณ”

เนติมาค้อนให้ก่อนหันไปจับมือคนรักเดินนำสองหนุ่มเข้าบ้าน

ooooooo

เวลา เดียวกัน ชลกรนอนกอดก่ายอยู่กับธำรงบนเตียงในคอนโดฯหรู เธอออดอ้อนถามเขาถึงข้อเสนอที่ให้ไปเพราะหนูในกรงเล็บราชสีห์อย่างเธอ ยอมทุกอย่าง ธำรงยิ้มพอใจแล้วถามกลับ

“หนูตัวนี้ กำลังจะบอกราชสีห์ด้วยใช่ไหมว่า

วันหนึ่งจะเข้ามาช่วยราชสีห์เวลาติดบ่วงนายพราน”

“เรื่องนี้ก็แล้วแต่ราชสีห์ว่าจะให้หนูตัวนี้ช่วย หรือจะให้พลีกายแทนนะคะ” ชลกรตอบด้วยรอยยิ้ม ก่อนก้มลงจูบธำรงอย่างเอาใจ

บ่าย วันนั้น อิทธิหาญลงว่ายน้ำในสระเพื่อดับร้อน แต่ก็ไม่ช่วยอะไร เขาอดรนทนไม่ไหวว่ายน้ำเข้ามาถามพงษ์เลิศที่นั่งเช็กข่าว ว่าแน่ใจแล้วหรือที่จะเข้าไปเป็นขี้ข้ารองมือรองเท้าให้ธำรงกับลูกชาย

“เราเคยเป็นใหญ่มาตั้งหลายปี จู่ๆ ทำไมจะต้องทำตัวเป็นกาฝากเกาะต้นมันกินด้วย เราไม่เห็นจำเป็นต้องง้อมันนี่พ่อ”

“เพราะ นี่คือการเมืองแกลืมไปแล้วเหรอ ว่าเราทำอะไรไว้บ้าง แล้วถ้ามันขุดคุ้ยเล่นงานเราขึ้นมาแถมแกเพิ่งวางระเบิดถล่มพวกมันไปอีก อย่าลืม อำนาจอยู่ที่ใคร คำพิพากษาก็อยู่ในมือคนนั้นแหละ”

“โว้ย แล้วส่งใครไปเจรจาไม่ส่ง ดันส่งโสเภณีการเมืองไป จากแม่ค้าอาวุธ พอเราขึ้นมันก็โผมาเกาะเรา พอพวกไอ้ศิวัชขึ้นพ่อยังจะส่งมันไป ระวังเถอะมันจะสมคบกันตลบหลังเรา”

“อย่ามองฉันในแง่ร้ายอย่างนั้นสิคะ” ชลกรเดินเข้ามาแล้วหันไปยิ้มให้พงษ์เลิศอย่างอารมณ์ดี

ooooooo

ธำรง มาถึงคฤหาสน์ เขาบอกศิวัชกับเนติมาว่า จะให้พงษ์เลิศเข้าร่วมรัฐบาลด้วย ศิวัชรีบค้านกลัวจะเป็นการเลี้ยงเสือไว้ในบ้าน และเนติมาจะไม่ปลอดภัย แต่ธำรงยิ้มอย่างใจเย็นหันไปถามเนติมาว่ากลัวไหม

“ไม่กลัวค่ะ ถ้าเลี้ยงเสือไว้ในบ้าน แล้วขังมันให้ดี ก็ยังดีกว่าปล่อยให้มันเพ่นพ่าน รอให้มันดักล่าเราไม่ใช่เหรอค่ะ” เนติมาตอบอย่างมั่นใจ

ศิวัชยังกังวลไม่หาย เขาอ้างถึงคะแนนนิยมที่อาจตกลง ถ้ามีคนอย่างพงษ์เลิศร่วมรัฐบาล

“บทบาทเขาจะมากหรือน้อย อยู่ที่เราไม่ใช่เหรอลูก” ธำรงพูด แต่สีหน้าแววตามีเลศนัย

ใน ตอนเย็น ศิวัชเดินหน้าเครียดออกมาส่งคนรักที่รถเพราะยังคิดเรื่องพงษ์เลิศ ระบิลสังเกตเห็นแอบกระซิบถามนายสาวว่าเกิดอะไรขึ้น เนติมาว่ากลับบ้านแล้วจะเล่าให้ฟัง แล้วหันไปชวนวิเชษฐ์ที่กำลังจะกลับไปทานข้าวเย็นต่อที่บ้านกันต์ หวังจะให้ระบิลโชว์ฝีมือ

“แหม...เคยตัว เริ่มสั่งเป็นร้านอาหารตามสั่งเลยนะคุณ ตามไปชิมด้วยกันไหมครับคุณศิวัช เดี๋ยวผมทำเมนู ผู้นำขำกระจายให้ทาน จะได้อารมณ์ดีขึ้น” ระบิลเรียกเสียงฮา

ศิ วัชยิ้มเจื่อนเอ่ยว่า “เดี๋ยวคุณพ่อนัดผมคุยเรื่องจัด ตั้งรัฐบาลกับท่านทวีน่ะครับ ฝากเนติ์ด้วยนะครับคุณระบิล” ศิวัชพูดพลางเอื้อมมือไปกุมมือเนติมาด้วยความเป็นห่วง

ในตอนค่ำ เจือจันทร์รู้จากเนติมาว่าธำรงจะให้

พงษ์ เลิศเข้าร่วมรัฐบาล เพราะต้องการให้อยู่ในสายตา ก็ชักเครียด เธอมาปรับทุกข์กับกันต์ที่นั่งอ่านหนังสือ เพราะกลัวครอบครัวจะถูกพงษ์เลิศเล่นงานอีก

“อย่ากังวลไปเลยคุณ ผมว่าคุณธำรงเขาคงไม่ยอมให้นายพงษ์เลิศมามีอิทธิพลเหนือเขาหรอก แต่เราควรตั้งรับให้ดี ส่วนเรื่องรุกน่ะโน่น ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหนุ่มๆ สาวๆ เขา” กันต์มองออกไปยังสวนหย่อม

เจือจันทร์มองตามไปพลางถอนใจ ถามสามีว่า “รวมถึงลูกเราด้วยหรือ”

“วันนี้ เขากล้าออกมาจากโลกส่วนตัว ที่เขาขังตัวเองมาร่วมสิบปีแล้วนะ วันข้างหน้าเขาจะต้องกล้าที่จะกลับออกไปสู่โลกกว้างอีกครั้ง ผมเชื่อว่าลูกต้องทำได้ ดูผมสิ ผมยังเอาหนังสือกฎหมายมาอ่านทบทวน ผมจะกลับไปทำงานด้านกฎหมายที่ผมรักอีกครั้ง อย่างน้อยก็สู้เพื่อความยุติธรรมของคนในบ้าน ให้ผมรู้สึกว่าผมได้สู้เพื่อลูกเมียที่ผมรักบ้าง” กันต์วางหนังสือลงแล้วดึงมือ
ภรรยามากุมไว้ เพื่อให้กำลังใจ
ส่วนที่หน้าบ้าน เนติมา ระบิล ขวัญชนก และวิเชษฐ์นั่งชมจันทร์กันอยู่บนเก้าอี้สนาม ระบิลเล่าวีรกรรมของเขาสมัยเป็นเด็กบ้านสวน ขวัญชนกชักสนุก ขอไปเที่ยวบ้านสวนของระบิลบ้าง

เนติมาแปลกใจถามเพื่อนว่าไม่กลัวแล้วหรือ ขวัญชนกยิ้มเจื่อนๆ ตอบว่าถ้ามีเนติมากับระบิลไปด้วยก็คงไม่เป็นไร

“บ้าน สวนผมไม่ได้กลับมานาน ป่านนี้ต้นไม้คงขึ้นรกหมดแล้ว เอาไว้ให้ผมไปทำความสะอาดให้เรียบร้อย แล้วจะพาคุณขวัญไปเที่ยวนะครับ” ระบิลรับปาก

“ค่ะ” ขวัญชนกยิ้มรับพลางชำเลืองมองระบิลอย่างอายๆ และบังเอิญว่าเนติมาหันไปเห็นพอดี เธอมองเพื่อนอย่างสังเกต แต่ไม่ทันได้ฟันธงก็หันไปเห็นวิเชษฐ์นั่งมองขวัญชนกด้วยรอยยิ้มเช่นกัน

ก่อนเข้านอน เนติมาลงมาช่วยทำแผลให้ระบิล

พลางเปรยว่ามีคนแอบชอบเขาอยู่ บอดี้การ์ดทำเอียงอายถามว่าใคร แต่เนติมาว่ารอให้แน่ใจก่อนแล้วจะบอก

เธอชวนชายหนุ่มออกไปคุยกันหน้าบ้าน

เนติ มาว่า เธอจะเป็นกามเทพจับคู่ให้วิเชษฐ์กับขวัญชนก เพราะแอบเห็นผู้กองมองเพื่อนรักด้วยสายตาแปลกๆ ระบิลเงยหน้ามองฟ้าแล้วเปรยว่า “ปล่อยให้เป็นไปตามลิขิตเถอะคุณ ถ้าคนเราเกิดมาเป็นของกันและกัน ยังไงก็หนีกันไม่พ้น แต่ถ้าไม่ใช่ ต่อให้รักกันแทบตาย เขาก็พรากเอาคนที่เรารักไปอยู่ดี”

“นายคิดถึงแฟนนายเหรอ ทำไมนายไม่เคยพูดถึงคนรักให้ฟังบ้างเลย ถามทีไรก็บ่ายเบี่ยงอยู่เรื่อย”

“แฟน ผมเป็นนางฟ้า” ระบิลหันมาตอบแล้วรีบ ตัดบท “เรื่องของผมมันไม่มีอะไรน่าสนใจหรอกคุณ  ว่าแต่คุณเถอะ ตอนทานข้าวบอกว่าจะให้ผมพาไปทำบุญให้คุณพ่อคุณแม่ เมื่อไหร่ครับ...ผมจะได้วางแผนถูก”

เนติมาฟังระบิลพูด ทำให้รู้สึกคิดถึงพ่อแม่ ขึ้นมาทันที

ooooooo

วันรุ่งขึ้น ระบิลพาเนติมาไปซื้อของทำบุญ

ใน ตลาดใกล้ๆกับวัดที่เก็บอัฐิวิเชียรและพรรณศรี จังหวะหนึ่งเนติมาให้เขาแยกไปหาซื้อสังฆทาน ส่วนเธอจะเลือกดอกไม้รออยู่ที่ร้าน ระบิลจำใจเดินออกมา แต่เมื่อถึงมุมลับตา ก็ถูกปานกระชากตัวเข้าไปเตือนให้ถอนตัวจากงานนี้ แต่ระบิลยัง ยืนยันคำตอบเดิม แถมด่าฝากไปถึงพวกพงษ์เลิศ

“ไอ้ระบิล ถ้าแกไม่ใช่น้องไอ้ก้อง ฉันเอาแกตายแน่ ระวังเงาหัวตัวเองไว้ด้วย เพราะเกมนี้ ไม่เลิกก็ตาย” ปานโกรธจัดหันหลังจะเดินออก แต่ระบิลเรียกไว้ พร้อมยิงคำถามเรื่องพี่ชายที่หายตัวไป

ปานชะงักรู้สึกผิดขึ้นมา เขาตัดสินใจเดินหนีโดยไม่สนใจเสียงเรียกของระบิล

“พี่ปานอยู่แถวนี้ แล้วถ้าไอ้อิทธิหาญมัน...คุณเนติ์” ระบิลเริ่มนึกได้

บอดี้ การ์ดหนุ่มวิ่งกลับมาที่แผงขายดอกไม้ เนติมาไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว เขาตกใจ ถามหาเธอกับแม่ค้า ยังไม่ทันได้คำตอบ เนติมาก็เดินยิ้มเข้ามาพร้อมกับถุงผลไม้ในมือ

ระบิลต่อว่านายสาวที่ ไปไหนไม่บอก เธอสวนว่า แค่ออกไปซื้อผลไม้ไม่มีอะไรน่าห่วง แถมยังพาลเรื่องระบิลระแวงมากไปจนได้ของไม่ครบ ก่อนจะชวนเดินหาร้านขายสังฆทาน ระบิลกลัวจะเจอพวกปานอีก เขารีบพาเจ้านายขึ้นรถบอกว่าไปหาเอาข้างหน้า

ooooooo

เมื่อ ได้ของครบแล้ว เจ้านายลูกน้องก็พากันมาที่วัด ระหว่างทางไปที่เก็บอัฐิ เนติมาเปรยว่า สิบปีแล้ว แต่ดูเร็วจัง ระบิลถึงกับชะงักคิดถึงพี่ชายเพราะจากกันไปสิบปีเหมือนกัน

สาวเจ้า รำพึงต่อว่า สิบปีที่ผ่านมาเร็วเสียจนเธอไม่รู้ว่ามีชีวิตอยู่มาได้ยังไง ระบิลว่านั่นเป็นเพราะเธอเข้มแข็ง เพราะถ้าเป็นคนอื่นเจอเรื่องร้ายๆแบบนี้จะทนได้หรือเปล่าก็ไม่รู้

“แหม...พูด ให้กำลังใจอย่างนี้ ค่อยน่าฟังหน่อย ไป...ป่านนี้คุณพ่อคุณแม่ฉันรอแย่แล้ว” เนติมายิ้มอย่างขอบคุณ จะเดินนำระบิลออกไป แต่เห็นบอดี้การ์ดยังยืนนิ่งท่าทางเหมือนกำลังคิดถึงใคร จึงหันมาถาม “นาย เป็นอะไรน่ะ”

“เออ...ไม่เป็นอะไรครับ ไปรีบไปกันดีกว่า” ระบิลยิ้มกลบเกลื่อนรีบเดินแซงขึ้นหน้า

ทั้ง สองมาถึงที่เก็บอัฐิของวิเชียรกับพรรณศรี เนติมาจุดธูปไหว้อัฐิ พลางรำพัน “หนูอยากกอดคุณพ่อ คุณแม่อีกสักครั้ง แต่คงเป็นไปไม่ได้แล้ว หนูคงใกล้คุณพ่อ คุณแม่ที่สุดได้เท่านี้ใช่ไหมคะ”

ระบิลอดเป็นห่วง ไม่ได้ เขาเข้ามานั่งข้างๆ จะปลอบใจ แต่ไม่ทันได้เอ่ยก็เหลือบเห็นปานถือถุงใบโตเดินใกล้เข้ามา จึงรีบดึงเนติมาหลบ เนติมาจะหันมาต่อว่า พอระบิลชี้ให้ดูปานก็เข้าใจ เธอสงสัยว่าปานมาทำอะไรจึงแอบตามไป บอดี้การ์ดส่ายหน้ากับความรั้นของนายสาว แล้วรีบตาม

ทั้งสองเห็นปานเข้าไปทำบุญในศาลาแล้วหยิบที่กรวดน้ำออก มาเทใต้ต้นไม้ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้เพื่อนรัก ระบิลกลัวนายสาวจะมีอันตรายจึงชวนกลับ แต่เนติมาว่าเธอยังทำบุญให้คุณพ่อคุณแม่ไม่เสร็จ

“คุณ...จะมาดื้อ อะไรตอนนี้เนี่ย เกิดพวกมัน...เฮ้ย” ระบิลชำเลืองไปเห็นลูกน้องอิทธิหาญอีกคนเดินผ่านมา เขารีบรวบตัวเนติมาเข้ามาแอบหลังพุ่มไม้ แต่พื้นที่แคบมากทำให้ทั้งสองคนแนบชิดกัน จนเนติมาเกร็งทำอะไร ไม่ถูก

สมุน อิทธิหาญเดินผ่านไปหาปานและชักชวนกันกลับ เนติมารีบตีมือระบิลที่ยังรวบเอวเธอไว้เป็นการเตือนว่าปล่อยได้แล้ว ระบิลหน้าเจื่อนรีบขอโทษ แล้วตัดบทชวนเนติมากลับไปไหว้พ่อกับแม่ต่อ

ooooooo

บอดี้ การ์ดกับนายสาว เดินคุยเรื่องปานขณะกลับ เข้ามาในบริเวณเก็บอัฐิ แต่จู่ๆ ระบิลก็บอกให้เจ้านายเงียบ เพราะได้ยินเสียงคนคุยกันดังมาจากที่เก็บอัฐิของวิเชียรกับพรรณศรี ทั้งสองย่องเข้าไปดู เห็นดลกับอ้อกำลังไหว้อัฐิอยู่และได้ยินดลบ่นว่า ข้าวของมากมายที่อยู่หน้าอัฐิพ่อกับแม่เป็นของใคร หรือว่ามีคนมาไหว้ผิดที่

“ไม่น่าผิดนะจ๊ะ ทั้งรูป ทั้งชื่อคุณพ่อคุณแม่พี่ดลก็ติดอยู่เนี่ย” อ้อมั่นใจ

เนติมายืนอึ้งหันมามองระบิล ก่อนตรงดิ่งไปหา น้องชาย

“เดี๋ยวคุณ” ระบิลลืมตัวร้องเรียกเสียงหลง

ดล กับอ้อสะดุ้งหันมามองเห็นเนติมายืนมองอยู่ โดยมีระบิลตามมายืนข้างๆ สองพี่น้องมองหน้ากันนิ่งภาพความรักความผูกพันในอดีตผุดพรายขึ้นมา ก่อนที่ทั้งคู่จะโผเข้ากอดกันร้องไห้ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย

“พี่นึกว่าจะไม่ได้เจอวีร์อีกแล้ว” เนติมาประคองหน้าดลขึ้นมามองอย่างไม่เชื่อสายตา

“ผมคิดถึงพี่เนติ์นะครับ ผมรอเวลานี้มาทั้งชีวิตครับพี่เนติ์”

“จะไม่มีอะไรพรากเราสองคนพี่น้องอีกแล้ว”

อ้อน้ำตาซึมด้วยความตื้นตันใจ ขณะที่ระบิลส่งยิ้มอิ่มใจ ก่อนเปรยกับนายสาว “คุณพ่อคุณแม่ของคุณคงอยากให้คุณสองคนพบกันซะทีนะครับ”

เนติ มากับดลหันมองรูปพ่อกับแม่ด้วยความคิดถึง ทั้งสองเข้าไปคุกเข่ากราบพวกท่านอีกครั้ง ก่อนชักชวนกันไปทำบุญถวายสังฆทานเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ และตบท้ายด้วยการปล่อยปลาลงแม่น้ำ

“เฮ้อ วันนี้เมื่อสิบปีที่แล้ว เป็นวันแห่งความพลัดพราก แต่วันนี้โลกหมุนพาสิ่งที่พรากจากให้มา

พบกันจนได้นะครับ” ระบิลพลอยดีใจไปกับเจ้านาย

“ต่อไป จะไม่มีอะไรพรากเราสองคนได้อีกแล้วล่ะ” เนติมาเอื้อมมือไปโอบไหล่ดล

อ้ออมยิ้มแซวว่า ไม่เคยเห็นดลมีความสุขแบบนี้มาก่อนเลย ดลว่า เขารอวันนี้มาทั้งชีวิต ระบิลได้ช่องชวนทุกคนไปฉลองและขอเป็นเจ้ามือ

ooooooo

บอดี้ การ์ดหนุ่มพาทุกคนมาทานอาหารในร้านริมแม่น้ำ ขณะที่เนติมา ดล และอ้อนั่งคุยกันอย่างออกรส ระบิลกลับออกไปยืนเหม่อคิดถึงพี่ชาย เนติมา หันมาเห็นก็รีบลุกไปคุยด้วย แต่ระบิลทำเฉไฉ เดินกลับมาที่โต๊ะอาหาร

หลัง ทานอาหารเสร็จแล้ว เนติมาขอให้ระบิลขับรถพาเธอ ดล และอ้อไปบ้านสวนจังหวัดสิงห์บุรีเพราะอยากจะขอบคุณคำเที่ยง และไม่ลืมโทร.บอกศิวัชพร้อมหยอดคำหวานจนระบิลอดแซวไม่ได้

“มีมดขึ้น รถรึเปล่าน่ะคุณ จิ๊จ๊ะจี๋จ๋ากันตั้งแต่หลุดเขตกรุงเทพฯ จนจะถึงสวนน้องอ้ออยู่แล้วนะคุณ แหม...หวานจนชาวบ้านแถวนี้เขานึกว่ารถคันนี้เป็นรถบรรทุกอ้อยแล้วมั้งเนี่ย”
source. thairath.co.th

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น