วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555

อ่านละครพริกกับเกลือ ตอนที่ 7 (ต่อ)

ศยามรับใบรับงานมาจากแต๋ว
        
       “ขอบคุณครับ”
       แต๋วหน้าตึง เสียงตึง
       “ไม่เป็นไร”
       ศยามรู้สึกถึงความผิดปกติในน้ำเสียง แต๋วรีบเดินออกไป พอดีลุงแปลงเดินเข้ามา
       “แต๋ว...ไอ้โพไปไหน หยุดงานเหรอ”
       “ไม่ทราบจ๊ะ ตัวไม่ได้ติดกัน”
       แต๋วรีบเดินออกไปทันที ลุงแปลงมองตามแต๋วงงๆ
       “เฮ้ย...อารมณ์เสียอะไรของมันเนี่ย”
       ศยามอมยิ้ม ไม่ถือสาแต๋ว...ลุงแปลงหันมามองศยาม
       “ปกติถ้ามันจะไม่มา มันก็ต้องโทรมาบอก นี่หายจ้อยเลย โทรตามก็ไม่ติด”
       “ลองไปตามที่บ้านดูดีมั้ยครับลุง...ผมไปด้วย”
       ลุงแปลงพยักหน้ารับอย่างเห็นดีด้วย
      
       จิตรวรรณเดินเข้ามาในร้านอาหาร ลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับเงาะในสภาพบอบช้ำ และทรุดโทรมนั่งอยู่อย่างหวาดระแวง
       “เงาะ...”
       “มีใครรู้มั้ย...ว่าเธอมาหาฉัน”
       “ทำไมต้องหลบซ่อนขนาดนี้ เธอกลัวอะไร ใคร เธอไปไหนมา รู้มั้ยว่าทุกคนเป็นห่วง...”
       เงาะตัดบท
       “พี่เทวัญ จี๊ด...พี่เทวัญ”
       “อะไรนะ!”
       เงาะร้องไห้โฮออกมา จิตรวรรณหน้าเสีย ใจเสีย
      
       ใจดีกำลังเก็บของจะกลับบ้าน เทวัญเข้ามา
       “ใจดี...จี๊ดล่ะ”
       “อ้าว...ใจดีคิดว่าจี๊ดกลับไปกับพี่เทวัญแล้วซะอีก”
       เทวัญนึกแปลกใจจิตรวรรณไปไหน
      
       เงาะสารภาพความจริงกับจิตรวรรณทั้งหมด ในขณะที่จิตรวรรณนั่งตะลึง ตัวแข็ง ช็อก
       “ฉันอิจฉาเธอ ฉันยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เขามา โดยที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า เขาไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่เราเห็น เขาหลอกเธอ หลอกฉัน หลอกทุกคน”
       “ไม่จริง...”
       “ฉันไม่มีอะไรยืนยันนอกจากคำพูดกับสภาพร่างกายของฉัน...เห็นฉันมั้ย จี๊ด...เขาทำร้ายฉัน เพราะฉันขู่เขาว่าจะบอกเธอเรื่อง เขาเอาฉันไปขังไว้ที่คอนโด...เธอเกือบเห็นฉัน...แต่น้องชายของเขาช่วยปิด บัง”
       จิตรวรรณพูดไม่ออก
       “จี๊ด...ที่ผ่านมา ฉันขอโทษ แต่เลิกกับเขาซะ ก่อนที่เธอจะลงนรกไปกับผู้ชายคนนี้” เงาะบอกย้ำ...
       หลังจากที่แยกมาจากเงาะ จิตรวรรณยืนร้องไห้อยู่ที่สวนสาธารณะด้วยความเสียใจ หัวใจแหลกสลายไปกับพระอาทิตย์ที่กำลังตกดิน
      
       ค่ำนั้น...ศยามยืนมองโพที่กำลังลงนั่งบนเก้าอี้ในห้องเช่าของตัวเอง สภาพบอบช้ำ ลุงแปลงยืนอยู่ใกล้ๆ
       “ดีนะที่ดิ่งมันบอกให้ลุงลองมาดูแกที่บ้าน ไม่งั้น นอนระบมทั้งคืนแน่ เพราะไม่มีเงินไปหาหมอ...เดี๋ยวนี้ขโมยขโจรมันเกลื่อนเมืองจริงๆ คราวก่อนก็คุณรัตนา คราวนี้ก็แกอีก”
       “ขอบคุณลุงนะ”
       โพมองศยามตัดสินใจอย่างยากลำบาก ก่อนจะพูดออกมา
       “แล้วก็...ขอบใจนายด้วย”
       “ไม่เป็นไร ว่าแต่ว่า จะไม่ให้แจ้งความจริงเหรอ”
       โพตัดสินใจจะเล่าดีหรือไม่ดี แล้วก็ไม่อยากเล่า
       “ช่างมันเหอะ แจ้งไปก็จับตัวมันไม่ได้ ถือว่าฟาดเคราะห์”
       “งั้นก็นอนพักซะ จะได้หายเร็วๆ ไปดิ่ง กลับกันเถอะ ไอ้โพจะได้พักผ่อน”
       โพไหว้ลาลุงแปลง ศยามตามลุงแปลงออกไป แต่อดหันมามองโพอย่างติดใจไม่ได้ มีบางอย่างยังอยากจะถาม โพลงนอนหันหลังให้ทุกคน ในขณะที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวลใจและเครียดเรื่องด้วงทำงานให้เทวัญ
      
       วันดีนั่งเครียด ขณะที่ยอดชายและใจดีนั่งอยู่ด้วย
       “จี๊ดเป็นอะไรไป ไปไหนก็ไม่บอก ชอบทำให้คนอื่นเป็นห่วงอยู่เรื่อยๆเลย” วันดีบ่น
       “ใจเย็นๆก่อนนะครับคุณแม่ ผมว่า จี๊ดอาจจะอยาก...”
       ยอดชายอึ้งไป ใจดีถามอย่างสงสัย
       “อยากอะไรยอด”
       ยอดชายพูดเบาๆกับใจดี
       “ไม่รู้เหมือนกัน คิดไม่ทัน ก็อยากจะปลอบใจคุณแม่อ่ะ”
       ใจดีถอนใจ
       “เฮ้อ...”
       เทวัญเข้ามา แปลกใจที่เห็นใจดีและยอดชายอยู่ที่นี่
       “มากันทำไม”
       ยอดชาย ใจดีแอบไม่พอใจคำพูดของเทวัญ
       “พวกผมเป็นเพื่อนจี๊ด เพื่อนหายไป ติดต่อไม่ได้ จะให้ใจเย็นอยู่เฉยๆ ไม่เอาเรื่องมาบอกพ่อแม่จี๊ดก็คงไม่ได้”
       ใจดีรีบแก้ตัว แต่ตั้งใจกัดเต็มๆ
       “พวกเราไม่ได้ว่าพี่เทวัญใจเย็นอยู่เฉยๆเลยนะคะ”
       เทวัญโมโห
       “พวกเธอว่าฉัน ไม่รู้ว่าฉันไปไหน ทำอะไรบ้าง ก็อย่าพูดดีกว่า ไม่ชอบพวกมือที่สามที่คอยเสียบทุกครั้งที่มีโอกาส”
       “คุณว่าใคร” ยอดฃายย้อน
       “ว่านายไง...นายชอบแอบชอบจี๊ด ตอนนี้ก็มาเสนอหน้าบอกคุณแม่ แล้วใส่ร้ายฉัน อยากจะให้ฉันกับจี๊ดมีปัญหากันนักใช่มั้ย”
       ยอดชายฉุนกึก
       “คุณเทวัญ!”
       วันดีตะโกนแทรก
       “พอ...หยุดได้แล้ว เกรงใจฉันบ้างสิ”
       เทวัญ และยอดชายชะงัก ถอยกันออกมาด้วยความเกรงใจคุณวันดี แต่ต่างไม่พอใจกันและกัน
       “ใครจะรู้บ้างเนี่ย ว่าจี๊ดไปไหน”
       ทุกคนเครียด เป็นห่วงจิตรวรรณ
      
       จิตรวรรณกำลังจะเข้าบ้าน ป้าเพ็ญเดินมาพอดี
       “คุณหนูจี๊ด กลับมาแล้วเหรอคะ ทุกคนเป็นห่วงคุณหนูจี๊ดมากเลย ทั้งคุณแม่คุณยอด คุณใจดีและคุณเทวัญ ทุกคนอยู่ในบ้าน รอฟังข่าวคุณหนูจี๊ดกันอยู่นะคะ”
       “พี่เทวัญ...”
       “ป้าจะไปบอกทุกคนก่อนนะคะ ว่าคุณหนูจี๊ดกลับมาแล้ว”
       ป้าเพ็ญวิ่งเข้าไปข้างใน จิตรวรรณยืนอึ้ง ยังเสียใจเรื่องเทวัญ
      
       ป้าเพ็ญเข้ามารายงานทุกคน
       “คุณหนูจี๊ดกลับมาแล้วค่ะ อยู่ข้างนอกค่ะ”
       ทุกคนดีใจ ต่างหันออกไปมองที่ประตูบ้าน รอคอยการเข้ามาของจิตรวรรณ วันดีจะออกไปหาลูกสาว
       “จี๊ด..ลูก!”
       ยอดชายจะก้าวไปด้วย แต่ถูกเทวัญยกมือกันเอาไว้
       “ถึงเป็นเพื่อน แต่ก็ถือว่าสำคัญน้อยกว่าฉันที่เป็นคู่หมั้น”
       ยอดชายอึ้ง เทวัญรีบเดินไปกับวันดี ใจดีเข้ามาปลอบยอดชาย
      
       เทวัญประคองวันดีออกมา ยอดชาย ใจดีและป้าเพ็ญตามออกมา ทุกคนแสดงอาการดีใจที่จะได้เจอจิตรวรรณแต่แล้ว...มีแต่ความว่างเปล่า
       “จี๊ดอยู่ไหน ป้าเพ็ญ ไหนบอกว่ากลับมาแล้วไง”
       “ไม่ทราบค่ะ หรือว่าออกไปอีกก็ไม่รู้ เหมือนคุณหนูจี๊ดร้องไห้มาหนักมากนะคะ คุณผู้หญิง...ตาบวมเป่งเลย”
       “โธ่จี๊ด ลูกแม่ เป็นอะไรเนี่ย...ทำไมไม่คุยกับแม่”
       เทวัญชักร้อนใจ ในขณะที่ยอดชายและใจดีต่างเป็นห่วงจิตรวรรณ ยอดชายอาสา
       “ผมจะไปตามหาจี๊ดเอง รถก็ยังอยู่ อาจจะยังไปไม่ไกล”
       “ไม่ต้อง! ให้ตาเทวัญไป เธอรออยู่ที่นี่แหละ”
       ยอดชายชะงัก เทวัญรีบวิ่งออกไปทันที นึกสะใจที่ยอดชายถูกวันดีกีดกัน
      
       จิตรวรรณวิ่งร้องไห้มาตามถนนในซอยบ้าน ศยามเดินมาตามถนน กำลังจะกลับเข้าบ้าน พอถึงมุมถนน จิตรวรรณวิ่งเลี้ยวเข้ามาชนกับศยามพอดี
       “ว้าย!”
       “คุณจี๊ด!” ชายหนุ่มแปลกใจที่เห็นหญิงสาวร้องไห้อย่างหนัก “คุณเป็นอะไร ใครทำอะไรคุณ”
       จิตรวรรณพยายามจะไม่ร้องไห้ให้เขาเห็น
       “พี่เทวัญโกหก โกหกมาตลอด”
       “ใจเย็นคุณจี๊ด ค่อยๆพูด”
       “ช่วยพาฉันไปที”
       “คุณจะไปไหน”
       “ไปไหนก็ได้ ฉันไม่อยากเจอใคร ฉันอยากอยู่คนเดียว”
       ศยามสงสาร ดึงตัวจิตรวรรณเข้ามากอดเอาไว้เพื่อปลอบใจ หญิงสาวกลั้นร้องไห้ต่อไปไม่ไหว ร้องไห้ตัวโยนแต่พยายามไม่ให้มีเสียง
       ศยามกอดเธอไว้แน่นขึ้นอย่างสงสารจับใจ จิตรวรรณกอดศยามเอาไว้เหมือนคนเสียหลักที่พยายามหาที่ยึด
       เทวัญวิ่งมาตามถนน พยายามมองหาจิตรวรรณ แต่ไม่เห็น เทวัญจะออกวิ่งต่อ แต่แล้ว...ก็ชะงักฝีเท้าไว้ ตัดสินใจไม่ตามต่อไป
       “จะอะไรนักหนา ทำตัววุ่นวายไม่เลิก น่ารำคาญ”
       เทวัญตัดสินใจหันหลังกลับจึงไม่เห็นว่าจิตรวรรณยืนกอดศยาม อยู่ใกล้ๆเพียงแค่เลี้ยวไปก็เจอ...
      
       เช้าวันใหม่...ท่าเรือข้ามไปเกาะ มีเรือจอดอยู่เรียงราย ทั้งเรือประมงและเรือข้ามฟาก จิตรวรรณยืนอึ้งอยู่ข้างๆศยาม
       “เห็นเกาะข้างหน้านั่นมั้ย”
       จิตรวรรณพยักหน้า
       “นั่นแหละ ที่ผมจะพาคุณไป”
       “ให้พาไปที่ไหนก็ได้...แต่ไม่คิดว่าจะพามาไกลขนาดนี้”
       “ไม่ไปก็ได้ แค่หันหลังกลับ แล้วขึ้นรถทัวร์ ซื้อตั๋วได้เลย รถออกทุกชั่วโมง”
       “ไม่! คนอย่างจิตรวรรณ ไม่มีคำว่าหันหลังกลับ”
       จิตรวรรณออกเดินไป
       “แล้วรู้เหรอ ว่าจะลงเรือลำไหน”
       “ไม่รู้! แต่ไม่ชอบเดินข้างหลัง”
       “เออเนอะ อวดเก่งได้ตลอดเวลา งั้นก็ไปเอง”
       ศยามหันหลังกลับ จิตรวรรณวิ่งเข้าไปง้อ
       “ตัวก็ใหญ่ ทำไมใจเท่ามด”
       “จะง้อก็พูดดีๆ พูดใหม่”
       จิตรวรรณยอมง้อพูดดีๆ
       “ก็ได้...อย่าทิ้งกันกลางทางแบบนี้สิ พามาแล้วก็พาไปให้ตลอดรอดฝั่ง ฉันไปคนเดียวไม่ถูกหรอก ถ้านายไม่นำทางไป”
       จิตรวรรณมองศยาม อ้อนวอน ขอร้องอย่างจริงใจ ศยามอึ้ง มองจิตรวรรณตะลึง ไม่คิดว่าจิตรวรรณจะพูดคมคายแฝงด้วยความหมาย
       “คมป่ะ อึ้งเลยอ่ะดิ่ ฮ่ะๆๆๆๆๆ”
       จิตรวรรณหัวเราะชอบใจ บรรยากาศโรแมนติกหายวับไปทันที ศยามเซ็ง ตัดสินใจจูงมือจิตรวรรณเดินลิ่วออกไป
       “ไปเรือเฟอรี่ป่ะ!”
       “หรูเหมาะกับคุณหนูอย่างคุณเลยล่ะ”
       จิตรวรรณตัวปลิวตามศยามออกไป
      
       จิตรวรรณนั่งหน้าตึงอยู่บนเรือประมงลำเล็กๆข้ามไปเกาะ หญิงสาวเหล่ตามองศยามอย่างไม่พอใจ
       “หรู...เหมาะกับคุณหนูอย่างฉัน เรือหาปลาเนี่ยนะ”
       “อ้าว...ไม่หรูเหรอ สำหรับผม...แค่นี้ก็หรูแล้ว ดีแค่ไหนที่ไม่ต้องว่ายน้ำข้ามไป เนี่ยบริการฟรี ไม่มีชาร์จ...หรูจะตาย!”
       “ทำไมต้องว่ายน้ำ เงินก็มีจ่าย”
       “เงินคุณ ไม่ใช่เงินผม ผมมีแค่ไม่กี่บาท ผมต้องประหยัด”
       “เงินฉันมี ก็เอาไปสิ”
       “ผมเป็นคนพาคุณมา ผมต้องรับผิดชอบดูแลคุณ ไม่เอาเงินคุณหรอก เก็บไว้เถอะ”
       จิตรวรรณอึ้ง...ที่เห็นศยามตั้งใจดูแลเธอจริงๆ หญิงสาวรู้สึกประทับใจ ชายหนุ่มหันไปเห็นสายตาของหญิงสาว เลี่ยงลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย...จิตรวรรณมองตามศยามยิ้มๆ ก่อนจะรู้สึกแปลกๆที่เท้า จิตรวรรณก้มมองลงไป เห็นปลาตัวเป็นๆหลุดมานอนดิ้นที่เท้าก็ตกใจ
       “ว้าย! อ๊าย”
       จิตรวรรณตกใจกระโดดเกาะคอศยาม ยกเท้าขึ้น ชายหนุ่มตกใจอุ้มเธอโดยอัติโนมัติ
       “เป็นอะไร!”
       “ปลาดิ้น”
       จิตรวรรณดิ้นๆๆ
       “แต่คุณอย่าดิ้นได้มั้ย ผมหนัก”
       “ก็ฉัน...อี๋!”
       จิตรวรรณยังดิ้นไม่หยุด ศยามทนไม่ไหว ปล่อยตัวเธอร่วงลงพื้นดังตุ๊บ
       “โอ๊ย! นายดิ่ง”
       จิตรวรรณลุกขึ้นจะเอาเรื่อง แต่เจอศยามหยิบปลาที่ดิ้นอยู่ ชูใส่หน้า จิตรวรรณผงะ
       “ว้าย!”
       ศยามหัวเราะชอบใจรีบส่งปลาคืนให้ ชาวประมงรับไปรีบเอาไปใส่ถัง จิตรวรรณหน้าง้ำ เดินไปนั่งอยู่มุมหนึ่ง พยายามสงบ นั่งมองวิวสวยงาม หญิงสาวรู้สึกดีขึ้น
       ศยามชะงัก เมื่อเห็นจิตรวรรณโดนแดดส่อง...เขามองซ้ายมองขวาแล้วสะดุดสายตาที่มุมหนึ่ง
      
       จิตรวรรณนั่งมองวิวเพลินอยู่ หมวกเก่าๆปอนๆ ถูกยื่นเข้ามาตรงหน้า หญิงสาวหันมองไปข้างหลัง ศยามเป็นคนยื่นให้ จิตรวรรณหันกลับ ทำงอน ไม่สน ไม่รับ ชายหนุ่มถอนใจกับความเยอะของหญิงสาวเลยเอาหมวกครอบลงบนหัวของเธอ
       “ว้าย!”
       “หยิ่งแล้วได้อะไร ไม่รู้สึกอะไรด้วยหรอก”
       “ใช่สิ อย่างนายมันทั้งหนาทั้งด้าน”
       “บอกแล้วไงว่าไม่รู้สึก...พูดไปก็เท่านั้น ใส่ๆซะเหอะ แดดมันแรง เดี๋ยวไม่สบาย ขี้เกียจดูแล”
       “ที่ยอมใส่เพราะไม่อยากเป็นภาระใคร”
       “ก็ดี”
       ศยามเดินกลับออกไป จิตรวรรณยอมใส่หมวกงอนๆ แต่ก็รู้สึกดีที่ศยามดูแล...ก่อนจะเศร้าหมองลงอีกครั้ง
       “คุณพ่อคุณแม่ขา...จี๊ดขอโทษนะ แต่จี๊ด ยังไม่พร้อมที่จะเจอใครจริงๆ”
       จิตรวรรณนั่งเศร้า...ศยามลอบมองด้วยความเห็นใจ แต่ไม่คิดรุกเร้าให้เธอเล่าเรื่องราวทั้งหมด ได้แต่มองอยู่อย่างนั้นด้วยสายตาอ่อนโยน มีความหมายลึกซึ้ง
      
       วันดีนั่งร้อนใจอยู่ เทวัญนั่งอยู่ข้างๆ เจตนาเข้ามาอย่างร้อนใจ
       “จี๊ดติดต่อกลับมาหรือยัง”
       “มาได้แล้วเหรอ โทรไปบอกตั้งแต่เพิ่งเกิดเรื่อง เพิ่งจะโผล่มาตอนนี้เนี่ยนะ กก กันเพลินอยู่ล่ะสิ”
       เจตนาไม่สนใจวันดี หันไปถามเทวัญ
       “ว่าไง เทวัญ”
       “ยังครับ...ผมรอให้ครบยี่สิบสี่ชั่วโมง แล้วจะไปแจ้งความให้ตำรวจช่วยตามหาครับ”
       “รู้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้นกับจี๊ด”
       “ไม่ทราบครับ ทราบแต่ว่า...ไอ้ดิ่งมันก็หายไปด้วย”
       “ดิ่งบอกฉันว่า จะขอย้ายออกไปอยู่ข้างนอก”
       ป้าเพ็ญรีบบอก
       “แต่ข้าวของของคุณดิ่งงอยู่ครบทุกอย่างเลยนะคะ ถ้าจะย้ายออกไปจริงๆ ดิฉันกับคนอื่นๆก็ต้องทราบเรื่อง”
       วันดีจ้องมองเจตนาอย่างโกรธเคือง
       “มันอาจจะลักพาตัวยัยจี๊ดไป ฉันบอกคุณแล้วใช่มั้ยว่าอย่าไปไว้มัน กินบนเรือนขี้บนหลังคา แล้วเป็นไง"
       “แต่ก็อาจจะไม่ใช่ อย่าเพิ่งกล่าวหาใคร จนกว่าจะมีหลักฐาน”
       วันดีไม่พอใจ ลุกเดินหนีเจตนาไป เจตนาหันมามองหน้าเทวัญ
       “แน่ใจเหรอ เทวัญ ว่ายัยจี๊ดไม่ได้มีเรื่องทะเลาะอะไรกับใครก่อนจะหายตัวไปแบบนี้ ทะเลาะกับเธอหรือเปล่า”
       “เป็นไปไม่ได้หรอกครับ เราเพิ่งปรับความเข้าใจกันได้ด้วยซ้ำ...ผมแน่ใจว่านายดิ่งต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้”
       เจตนาหนักใจ เทวัญแอบสะใจที่ได้ใส่ร้ายศยาม
      
       ศยามยืนเท้าสะเอวมองไปเบื้องหน้าอย่างมีความสุข จิตรวรรณเดินเข้ามามองไปด้วยเช่นกัน ตกตะลึงไม่ใช่น้อย
       “โห...”
       “ไง...สวยมั้ย”
       เบื้องหน้าของศยามและจิตรวรรณคือเกาะที่สวยงามและยังคงความบริสุทธิ์เอาไว้
       “สวยจังเลย นายรู้จักที่นี่ได้ยังไง”
       ศยามหน้าหมองลง....
       “จะเชื่อมั้ย ถ้าผมบอกว่า...ตอนเด็กๆผมกับพ่อแม่และน้องสาวเคยมาเที่ยวที่นี่ เป็นการเที่ยวครั้งสุดท้ายอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันของครอบครัวเรา...หลัง จากนั้นไม่นาน แม่ผมก็เสีย”
       จิตรวรรณมองศยามอย่างเห็นใจ
       “เหรอ...”
       “อืม...”
       “แต่นายไม่เคยบอกฉันเลยนะว่าแม่นายเสียแล้ว”
       ศยามอึ้ง
       “เหรอ...” ชายหนุ่มรีบกลบเกลื่อน “บางเรื่อง มันไม่จำเป็นต้องบอก”
       “ก็ใช่...แล้ว...ไม่มีเรือเล็กมารับไปส่งที่หาดเหรอ”
       ศยามหันมองจิตรวรรณเซ็งๆ ถอนใจออกมา
       “บางอย่าง มันก็ไม่จำเป็นต้องใช้”
      
       ศยามลงมาจากเรือ จะเดินลุยน้ำไปที่หาด ในขณะที่จิตรวรรณยังเก้ๆกังๆ
       “นี่ รอฉันก่อนสิ!”
       “ก็รีบลงมาสิ”
       “ก็มันกลัวเปียก มีชุดอยู่ชุดเดียว เปียกแล้วจะเอาเสื้อผ้าที่ไหนเปลี่ยนล่ะ จะให้แก้ผ้าหรือไง”
       “ได้ตายกันทั้งเกาะแน่ๆถ้าเห็นคุณแก้ผ้า”
       “อ๊าย!”
       ศยามเดินย้อนไปหาหันหลังให้ จิตรวรรณแดกดัน
       “ทำไม ให้ดูขี้กลากที่หลังหรือไง”
       “เนื้อคู่ผมเท่านั้นแหละที่จะได้มีบุญได้เห็น...ให้ขี่หลังเดินไป จะได้ไม่เปียกหรือไม่เอา”
       “เอาสิ! ตัวใหญ่ใจมดอีกแล้ว” จิตรวรรณแอบอมยิ้มอย่างพึงพอใจ “น่าจะคิดได้ซะตั้งแต่ทีแรกนะ ว่าควรจะทำยังไง ไม่เห็นต้องให้บอกเลย สมองช้า กินปลาเยอะๆหน่อยนะ”
       จิตรวรรณจะลงไปเกาะหลังแต่ศยามหมั่นไส้ เพราะเธอพูดเยอะ แกล้ง ออกตัวเดินออกไปเลยทำให้เธอวืดตกน้ำ
       “อ๊าย!”
       ศยามยืนมองหัวเราะอย่างชอบใจ จิตรวรรณโผล่ขึ้นมาจากน้ำ โกรธไล่ตี ชายหนุ่มวิ่งหนีไปทางริมหาด หญิงสาววิ่งไล่ตาม
       “อย่าหนีนะ โอ๊ย! นายนี่มัน! โอ๊ย! ฉันจะฆ่านาย นายดิ่ง”
       “อ่ะ อยากจะฆ่าคนก็วิ่งตามให้ทัน เร็วสิ เร็ว!”
       ศยามยิ่งยั่วโมโห จิตรวรรณยิ่งอารมณ์ขึ้น วิ่งตาม
      
       ศยามวิ่งขึ้นมาจากน้ำ จิตรวรรณลากสังขารตามมาอย่างเหนื่อยอ่อนเต็มที หอบ ชายหนุ่มหันไปมองเห็นหญิงสาวหมดแรง ก็สงสาร จิตรวรรณเปียกโชกทั้งตัว ทั้งเสื้อผ้าและกระเป๋าถือ มองสภาพตัวเองแล้วเซ็ง ศยามเดินไปยื่นมือให้จิตรวรรณจับ
       “มา...ผมช่วย!”
       จิตรวรรณโอกาสเอาคืน รีบปั้นยิ้ม
       “ขอบใจนะ”
       ศยามหดมือกลับ
       “แต่ไม่ดีกว่า ผมรู้ว่าคุณคิดจะเอาคืน...ไม่สำเร็จหรอก เดินเร็วๆ”
      
       ศยามวิ่งออกไป จิตรวรรณเจ็บใจ จนร้องไม่ออก ได้แต่เต้นเร่าๆอยู่คนเดียว จนชาวบ้านที่เดินผ่านไปมองด้วยสายตาแปลกประหลาด จิตรวรรณไม่สนใจ เต้น เร่าๆ ร้องด้วยความไม่ได้อย่างใจต่อไป
source; manager.co.th
 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น