ขณะกิมลั้งง่วนกับการเก็บของนั่นเอง จาตุรงค์ก็เข้ามาช่วย กิมลั้งถามว่าแม่ไม่มาหรือ จาตุรงค์ตอบอย่างสนิทชิดเชื้อว่า
“พอน้ากิมฮวยกับป๊าไหว้เจ้าเสร็จ พี่ก็พาไปส่งที่บ้านเลย น้ากิมฮวยก็เลยวานให้พี่มาช่วยน้องกิมลั้งเก็บแผงนี่ล่ะจ้ะ”
กิมลั้งอึดอัดใจบอกเขาว่าไม่เป็นไรตนก็เก็บเองได้ แต่พอเหลือบเห็นต๋องกำลังเดินมา เธอก็เปลี่ยนใจเป็นเต็มใจให้จาตุรงค์ช่วย ซ้ำยังแสดงความสนิทสนมให้บาดตาต๋องด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อจาตุรงค์เห็นกิมลั้งท่าทีดีด้วยก็ชวนไปหาอะไรกินกันที่ร้านอาหารเปิด ใหม่ที่ปากซอย เห็นเขาบอกว่าทั้งถูกและอร่อยด้วย กิมลั้งต้องการประชดต๋อง ตอบตกลงทันที จาตุรงค์ดีใจมากรีบช่วยเก็บของจะได้ไปกันไวๆ
ขณะจาตุรงค์สาละวนกับการเก็บของ กิมลั้งก็พยายามจ้องหน้าต๋องเหมือนจงใจจะเย้ย ต๋องได้แต่มองอย่างตัดพ้อ
ระหว่าง นั่งกินอาหาร จาตุรงค์เอาอกเอาใจดูแล กิมลั้งเต็มที่ ต๋องไปนั่งอยู่อีกมุมหนึ่งเห็นทั้งสองกินอาหารกันอย่างมีความสุขก็ลุกเดิน ออกไปอย่างเศร้าใจ
ที่อีกมุมหนึ่ง กิมแชนั่งดูทั้งสองอย่างเจ็บปวดจนทนดูต่อไปไม่ได้ วางเงินค่าอาหารที่โต๊ะ แล้วลุกเดินน้ำตาท่วมออกไป
เพราะต่างก็ออกจากร้านมาด้วยหัวใจที่บอบช้ำ เลยเดินชนกัน พอรู้ว่าใครเป็นใคร ต๋องก็ทักกิมแชว่า
“ร้องไห้ทำไม...” กิมแชหันมองไปที่จาตุรงค์กับกิมลั้ง ต๋องพึมพำว่า “อย่าบอกนะว่าเป็นเพราะ...”
ถูกทายแทงใจดำ กิมแชน้ำตาร่วงพรู จนต๋องต้องพาไปนั่งคุยกันที่สวนสาธารณะแถวนั้น กิมแชกลับพูดเป็นว่า
“ไม่มีอะไรหรอก กิมแชแค่สงสารที่ความรักของพี่ต๋องกับเจ้น่ะมีอุปสรรคมากมายเหลือเกิน ทำไมความรักถึงทำให้เราทุกข์ใจได้ขนาดนี้นะ”
ต๋องบอกว่า บางทีตอนนี้กิมลั้งอาจจะกำลังมีความสุขก็ได้ กิมลั้งอาจจะคิดว่าตนไม่รักแล้วถึงไปเริ่มต้นกับคนอื่น
“ไม่ได้นะ...เจ้ จะมาเริ่มต้นใหม่กับพี่รงค์ไม่ได้เด็ดขาด ถ้าเจ้มีปัญหาเจ้ก็ต้องเคลียร์กับพี่ซิ คนอื่นจะได้ไม่เดือดร้อน เพราะถูกแย่งคนรักไปแบบนี้ ไม่งั้นก็จะมีคนเสียใจไม่จบไม่สิ้น”
ฟังแล้วต๋องถามอย่างแปลกใจว่ากิมแชหมายถึงอะไร ใครแย่งคนรักใคร กิมแชอึกอัก ทำให้ต๋องยิ่งสงสัยถามตรงๆว่า
“กิม แชกลัวว่ากิมลั้งจะรักกับจาตุรงค์ใช่ไหม” กิมแชหลบตาย้อนถามว่าแล้วเขาไม่กลัวหรือ ต๋องตอบทันทีว่า “พี่กลัวเพราะพี่รักกิมลั้ง แต่กิมแชกลัวเพราะกิมแชรักจาตุรงค์...ตกลงว่าใช่ไหม”
“ใช่ก็ได้” กิมแชถูกต้อนจนมุมตอบไปไม่เต็มปากเต็มเสียง แต่แล้วก็ถามลนๆว่า “แล้วมันผิดมากไหมถ้ากิมแชจะรักพี่รงค์ เมื่อก่อนเจ้ก็ไม่ได้มีทีท่าจะสนใจเขานี่ กิมแชไม่ได้ไปแย่งพี่รงค์มาจากเจ้สักหน่อย”
ต๋องบอกว่า ตนไม่ได้คิดเลยว่ากิมแชผิดที่ไปชอบจาตุรงค์ แต่กิมแชก็ยังรู้สึกผิดเพราะตนไปชอบคนที่แม่อยากให้แต่งงานกับกิมลั้ง
“แต่ถ้าเจ้ของกิมแชเปลี่ยนใจไปชอบจาตุรงค์จริงๆ สิ่งที่พี่กับกิมแชรู้สึกมันอาจจะกลายเป็นเรื่องที่ผิดขึ้นมาก็ได้”
“พี่ต๋องก็ต้องไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นสิ”
“มัน ไม่ได้อยู่ที่พี่คนเดียวหรอก แล้วที่สำคัญ... กิมลั้งคงไม่ยอมฟังคำพูดพี่อีกแล้ว ตอนนี้มีทางเดียวก็คือ...รอให้ความจริงทุกอย่างมันเปิดเผยเอง...” ต๋องพูดอย่างครุ่นคิด กังวล
ooooooo
ที่บ้านพักบนเกาะ คืนนี้ ณดาแอบแหวกม่านหน้าต่างมองออกไป เห็นคนงานสองคนยืนตบยุงเฝ้าอยู่หน้าบ้าน เธอมองไปที่สเตอริโอที่วางอยู่อย่างครุ่นคิด ลุกไปเปิดสเตอริโอเสียงดัง จนคนงานสองคนนั้นมอง แต่เมื่อเห็นไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรและไฟในห้องพักก็ดับจึงไม่สนใจ
ณดา หยิบห่อผ้าที่เตรียมไว้ปีนออกทางหน้าต่าง ไปเจอกิ่งไม้ลักษณะเหมือนไม้สามง่าม จึงหักจากลำต้น พึมพำอย่างมั่นใจ “ไม่รู้จักเนตรนารีเก่าซะแล้ว” จากนั้นเอาห่อผ้าสอดกับกิ่งไม้แบกย่องออกไป
เดิน ออกไปถึงใต้เงาไม้ใหญ่ก็แหงนมองท้องฟ้าหาดาวเหนือ ดาวใต้ หาไม่เจอเลยนั่งพักเอาแรงก่อน แกะห่อผ้าที่เอามาในนั้นมีมีดปอกผลไม้ ผลไม้ น้ำ ห่อข้าวในใบตอง ไม้ขีด และตะเกียงเล็กๆ
รู้สึกหิวจึงใช้มือเปิบข้าว แต่ไม่ทันกินก็ถูกมือหนึ่งมาคว้าห่อข้าวไป ศักดิ์ชายนั่นเอง เขาถามดุๆว่า
“นี่คุณกำลังคิดว่าเข้าค่ายอยู่รึไง หมดเวลาสนุกแล้ว กลับบ้าน”
ณดา ไม่ยอมกลับ เขาถามว่าคิดว่าตัวเองจะหนีไปจากเกาะใหญ่ๆกลางทะเลแบบนี้ได้หรือ ขู่ว่าถ้าไม่ยอมกลับเธอได้ตายเพราะสัตว์ร้ายในป่านี้แน่
“คุณมันก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์ร้ายในป่านี้หรอก ให้ฉันตายเพราะสัตว์แถวนี้ ฉันก็ยังรู้สึกมีเกียรติกว่าตายเพราะคนอย่างคุณ”
พริบ ตานั้น ศักดิ์ชายจับณดาเหวี่ยงออกไปอย่างแรง เธอเจ็บมาก หันมองเขาอย่างโกรธจัด แต่แล้วก็กลายเป็นตกใจเมื่อเห็นงูเห่าตัวเขื่องแผ่แม่เบี้ยพุ่งเข้าฉกเขาที่ ขา เขาร้องอย่างเจ็บปวดแล้วล้มลงกุมเท้า
“คุณ...เป็นไงบ้าง” ณดาวิ่งเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วง เหลือบเห็นกุญแจเรือในกระเป๋าเสื้อของเขา ความคิดแว่บหนึ่งเกิดขึ้น เธอคว้ากุญแจจากกระเป๋าเขาวิ่งออกไป ศักดิ์ชายมองตาม แล้วหลับตาลงอย่างผิดหวัง
แต่พอเขาลืมตาขึ้นอีกครั้งก็ตะลึง เมื่อเห็นณดา
ยืน อยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้ารู้สึกผิด เธอนั่งลงข้างๆเขาพยายามฉีกผ้าที่ห่อของแต่ผ้าหนาฉีกไม่ขาด จึงเปลี่ยนเป็นฉีกชายเสื้อตัวเองจนขาดรอบตัว แล้วรีบรัดผ้าเหนือแผลที่ถูกงูกัดอย่างรวดเร็ว
“อย่าขยับตัวมาก เดี๋ยวพิษกระจาย” เธอร้องบอกอย่างเป็นห่วง แล้วลุกไปหักกิ่งไม้มาขันชะเนาะ ปลอบใจเขาว่า “อดทนหน่อยนะ” แล้วก็วิ่งไปยืนป้องปากตะโกน “ช่วยด้วยค่ะ...ช่วยด้วย...คุณชายโดนงูกัดช่วยด้วยค่ะ”
ศักดิ์ชายได้ รับการดูแล ได้ยินคำปลอบใจและเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือของเธอแล้ว เขายิ้มออกมาเพลียๆ แล้วทำท่าจะหลับตานอน ณดาตกใจ บอกอย่างเป็นห่วงมากว่า
“อย่าหลับนะคุณ...อย่าหลับ” แล้วหันไปตะโกนสุดเสียง “ช่วยด้วยค่ะ...ช่วยด้วย...”
ศักดิ์ ชายถูกนำตัวกลับมานอนหน้าซีดเซียวที่บ้านพัก เมื่อลืมตาขึ้นเห็นณดานั่งเฝ้าอยู่ข้างๆ มือเธอยังกุมมือเขาอยู่ ศักดิ์ชายยิ้มออกมา มองหน้าเธอด้วยแววตาอ่อนโยน ณดารู้ตัวดึงมือตัวเองออก ถามเขินๆว่า
“ตื่นนานแล้วเหรอคะ คุณเป็นยังไงบ้าง เพื่อนคุณเขาช่วยกันบดสมุนไพรกรอกปากคุณกันใหญ่ ฉันนึกว่าคุณจะสำลักตายก่อนเพราะพิษงูเสียแล้ว”
ศักดิ์ ชายบอกว่ายังรู้สึกมีไข้นิดๆ เขาเพิ่งนึกได้ว่าพวกที่อยู่เกาะนี้เก่งเรื่องสมุนไพร เขาขอบคุณเธอที่เมื่อคืนไม่ทิ้งกัน ณดาบอกว่าเขาทำไม่ดีกับตนไว้มาก ที่ตนช่วยเขาจากงูกัด ก็เป็นอันว่าเจ๊ากันไป
ณดายังคิดจะหนีไปจาก เกาะ ถูกศักดิ์ชายขู่ว่า ถ้าคิดว่าจะขับเรือที่น้ำมันหมดไปได้ก็ตามใจ ทำให้ณดาชะงักหันกลับมา เขามองเธอด้วยสายตาโลมเลียชมว่า ใส่เสื้อขาดๆแล้วก็ดูเซ็กซี่ดี ณดาขว้างกุญแจเรือใส่ด่าเคืองๆงอนๆ ก่อนเดินออกไป
“ไอ้ลามก!”
ooooooo
หลังจากติดต่อ ศักดิ์ชายได้ และลูกชายให้ดำเนินตามแผนที่ตนวางไว้ต่อไปแล้ว ชายศักดิ์ก็แปลงโฉมในคราบบังเว้ยเฮ้ยไปเก็บหนี้ที่ตลาดร่วมใจเกื้อพร้อมลูก น้องสี่ห้าคน
ที่ร้านกาแฟอาโก คิตตี้ ป้าพิณ และชมพู่กำลังวิพากษ์วิจารณ์ถึงการหายตัวไปของณดาอย่างเจาะลึกอยู่นั้น จู่ๆเครือฟ้าก็วิ่งหน้าตื่นมาบอกพรรคพวกว่า บังเว้ยเฮ้ยมาเก็บหนี้แล้ว ทำเอาวงแตก คิตตี้กับชมพู่ยังไม่มีเงินส่งเลยเปิดอ้าวกันไป ส่วนคนอื่นๆก็แยกย้ายกันไปทางใครทางมัน
บังเว้ยเฮ้ยเดินไปเก็บเงิน จากแม่ค้าถึงหน้าแผงในตลาด บางคนไม่ทันตั้งสติถึงกับหน้าซีด หลบก็หลบไม่ทันจำต้องเทกระเป๋าให้ไป บางคนเอาเงินเหน็บไว้ที่ร่องอก บังเว้ยเฮ้ยเห็นก็ยื่นนิ้วเข้าไปคีบออกมา
ป้าพิณบริหารเงินดีจึงมี เงินจ่าย บังเว้ยเฮ้ยรับเงินยิ้มให้อย่างพอใจ ทวีกับเครือฟ้าหลบไม่ทันทำทียกหนังสือพิมพ์อ่านบังหน้าไว้ แต่บังเว้ยเฮ้ยเห็นแค่หัวแม่เท้าก็รู้แล้วว่าเป็นใคร เลยแกล้งจุดไฟเผาหนังสือพิมพ์ ทำเอาสองสาวหนีไม่พ้น จำต้องเทกระเป๋าจ่ายให้บังไปตามระเบียบ
คิตตี้กับชมพู่เห็นทีอยู่แถวนี้คงไม่รอดแน่ เลยพากันวิ่งอ้าวออกไป แต่ไม่รอดสายตาบังที่หันเห็นหลังทั้งสองไวๆเลยให้ลูกน้องไล่ตามไป
ooooooo
ต๋องยังใจจดจ่ออยู่กับกิมลั้ง ขายผักไปก็ชะเง้อมองทางแผงปลาไป เห็นกิมลั้งพูดอะไรกับกิมฮวยสองสามคำแล้วลุกจากแผง ต๋องรีบตาม
พอตามไปทัน ต๋องร้องเรียกกิมลั้ง เธอชะงักหันมองถามเสียงขุ่นว่า
source: thairath.co.th
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น