วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2555

อ่านละครพริกกับเกลือ ตอนที่9 วันที่19 ส.ค. 55

ต่อหน้าคนอื่นจี๊ดทำเก่งกาจเข้มแข็ง แต่พอลับหลังก็แสดงความอ่อนแอออกมาอย่างสุดจะกลั้น เธอหลบเข้าไปร้องไห้ในห้องเก็บของ บังเอิญเจ๊ยุพาต้องการเอกสารในห้องนั้น รัตนาซึ่งรู้เห็นอยู่ก่อนจึงขัดขวางอย่างสุดกำลัง ทำให้ยุพานึกเอะใจสงสัย แต่ก็ไม่อาจสาระแนอะไรได้ถนัด ต้องล่าถอยกลับไปด้วยความหมั่นไส้รัตนา

จี๊ดได้ยินทุกอย่างหน้าห้อง เธอออกมาขอบคุณรัตนาก่อนจะทำตามคำแนะนำไปพักผ่อนในห้องทำงานของเจตนา เพราะตอนนี้ท่านออกไปงานเลี้ยง รับรองไม่มีใครมากวนใจแน่

“แล้วทำไมเธอไม่ไปกับพ่อ”

“เป็นงานเลี้ยงส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับงาน ท่านไม่ต้องมีเลขาตามไปหรอกค่ะ”

จี๊ดฟังแล้วยิ่งรู้สึกดีกับรัตนา และตัดสินใจขอปรึกษาเรื่องดิ่ง รัตนาจึงเปรียบเปรยให้ฟังว่า พ่อของจี๊ดเคยสอนตนไว้ว่า ให้ใส่ต่างหูหนักๆถ่วงเอาไว้ทั้งสองข้าง เราไม่ควรฟังความข้างเดียว ทุกคนควรได้รับโอกาสที่จะอธิบายเหตุผล ส่วนจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณ

ฟังแล้วจี๊ดถอนใจดังเฮือก รัตนายิ้มบางๆ อธิบายต่อไปอย่างใจเย็น

“ยากใช่ไหมคะ แต่ดิฉันอยากให้คุณจี๊ดเริ่มคิดแบบนี้ให้ได้ อย่าลืมนะคะ นี่คือคุณสมบัติอย่างหนึ่งของผู้บริหารที่ดี และในอนาคตคุณจี๊ดก็ต้องมาบริหารแทนคุณพ่อ”

“ฉันอาจจะ...”

“อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน อย่าเพิ่งพูดอะไรเลยค่ะ แต่ตอนนี้คุณจี๊ดควรจะฟังคำอธิบายจากคุณดิ่งบ้าง ลองคิดเปรียบเทียบกับตัวเองดูนะคะ ถ้าคุณจี๊ดมีเหตุผลที่อยากอธิบาย แต่ไม่มีใครฟังคุณจี๊ดเลย คุณจี๊ดรู้สึกยังไงคะ”

“ไม่ยุติธรรม”

“ค่ะ ไม่ยุติธรรมสำหรับคนดีอย่างคุณดิ่งที่อาจจะมีความจำเป็นอะไรบางอย่าง ซึ่งบอกใครไม่ได้”

“คนดีเหรอ ทำไมเธอมั่นใจในตัวนายนั่นมากขนาดนี้”

“เวลาเราอยู่ใกล้ใครแล้วรู้สึกเย็น มีความสุข ไม่ร้อนใจ มีแต่การทำสิ่งดีๆด้วยกัน...เขาคนนั้นน่าจะเป็นคนแบบไหนคะ”

จี๊ดอึ้ง...เห็นด้วยกับรัตนา แต่ยังมีความกังวลใจเพราะหมายถึงการเสียฟอร์ม...ส่วนที่หน้าห้อง ยุพาแอบฟังอย่างสอดรู้สอดเห็น พอเทวัญเดินมาทัก ยุพาตกใจผงะออกมา จากนั้นก็ใส่สีตีไข่เสียจนเทวัญร้อนใจโทร.ไปตัดพ้อกับวันดี

“คุณแม่ครับ จะให้ผมคืนดีกับน้องจี๊ดได้ยังไง ในเมื่อเมียน้อย...เอ่อ...ผมขอโทษครับ คนรอบข้างน้องจี๊ด โดยเฉพาะยัยรัตนานั่นคอยเสี้ยมน้องจี๊ดอยู่แบบนี้ ดีนะที่เจ๊ยุพาได้ยินแล้วรายงานผม”

พูดไปแล้วเขานิ่งฟังอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนวางสายแล้วหันมาบอกยุพาว่า คุณวันดีให้ไปพบที่บ้านด่วน

“ว้าย...ตายแล้ว งั้นดิฉันไปเลยนะคะ เรื่องสอพลอ เอ๊ย ดูแลจิตใจเจ้านายสำคัญมากกว่างานตัวเองค่ะ” ยุพาระริกระรี้ออกไป

เทวัญนึกถึงดิ่งแล้วยิ่งแค้นและอาฆาต “น้องจี๊ด จะต้องมองแกเป็นผู้ชายมักมาก ปลิ้นปล้อน ลวงโลก เท่านั้น...ไอ้ดิ่ง!”

ooooooo

แยกจากยอดชายแล้วดิ่งกลับมาที่บ้านตัวเอง เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมจะอาบน้ำ แต่ต้องชะงักถอยกลับออกมาเมื่อเห็นมารศรียืนยิ้มหวานอยู่ข้างใน

มารศรีไม่ปล่อยโอกาสทองไปง่ายๆ เธอยั่วยวนทั้งคำพูดและลีลาพลางโถมเข้ากอดรัดฟัดจูบดิ่งพัลวันแม้เขาผลักไส ด่าให้อย่างเจ็บแสบเธอก็ยังหน้าด้านหว่านล้อมราว กับคู่รักที่รักกันมาก นั่นก็เพราะเธอมีแผนสร้างความร้าวฉานให้ดิ่งกับจี๊ดมากยิ่งขึ้น ด้วยการตัดต่อคลิปเหตุการณ์นี้ ที่แอบถ่ายเอาไว้แล้วส่งไปเข้ามือถือของจี๊ด

เมื่อดิ่งย้อนกลับมาที่บ้านจี๊ดอีกครั้งในตอนค่ำ จี๊ดโกรธมากไม่ต้อนรับแถมด่าเขาชุดใหญ่ก่อนจะเอาคลิปที่ได้รับให้เขาดู

“ความจริงมันไม่ได้เป็นแบบนั้น”

“แล้วเป็นแบบไหน”

“ผมถูกจัดฉาก”

“มารศรีก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่นายเป็นผู้ชายอกสามศอก ดูฉลาดไม่ได้โง่ จะให้ฉันเชื่อเหรอว่านายถูกจัดฉาก ทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากตัณหาและความใคร่ของนาย...ชั่ว เลว มักมาก ปลิ้นปล้อน ลวงโลก”

“ไม่จริง!!”

“สงเคราะห์อะไรให้นะ ถือว่าทำบุญ ถ้าไม่อยากตกนรกขุมที่ลึกกว่านี้ เดินไปบอกพ่อนายแบบแมนๆว่านายกับมารศรียังมีเยื่อใยต่อกัน ขอเมียพ่อซึ่งเป็นแฟนเก่านายกลับไปเสพสุขกันเหมือนเดิมตามประสาหญิงชั่วชาย โฉด” ว่าแล้วจี๊ดหันหลังกลับ ดิ่งตะโกนว่าตนยังพูดไม่จบ แต่เธอตวาดแว้ดว่าไม่ฟัง

“ต้องฟัง เพราะมันเกี่ยวกับคุณ ผมไม่ได้รักมารศรี เพราะผมรัก...”

จี๊ดหยุดกึก ใจเต้นแรง ค่อยๆหันกลับมารอฟัง

“ผมรักใคร...ผมจะหาแต่สิ่งดีๆมาให้เขา ทำให้เขามีความสุขที่สุดในชีวิต ซึ่งไม่ใช่มารศรี แต่เป็น...”

พลันเสียงแตรรถดังขึ้น ดิ่งและจี๊ดหันไปมอง คิดไม่ถึงว่าจะเป็นมารศรี เธอลงจากรถเดินนวยนาดมาควงแขนดิ่งแสดงความเป็นเจ้าของ

“กะแล้วว่าคุณต้องมาที่นี่ ไงคะคุณจี๊ด...คิดยังไงใส่ชุดนอนลงมาคุยกับคนรักของดิฉัน”

“มารศรี...พอได้แล้ว” ดิ่งตวาด

“อ๋อ...ฉันลงมาเอาคลิปอุบาทว์ให้คนรักของเธอดูน่ะ อยากดูไหม” จี๊ดตอบโต้มารศรีแล้วเขวี้ยงมือถือ ตัวเองใส่ด้วยความโมโห มารศรีหลบทันแต่มือถือของจี๊ดหล่นแตกแถมเจ้าของยังเหยียบขยี้ซ้ำเพราะแค้นใจ เรื่องคลิป จนดิ่งต้องเข้ามาเตือน

“คุณจี๊ดใจเย็นๆก่อนนะ อย่าให้มิตรภาพของเราต้องพังเพราะความโกรธความไม่มีสติแบบนี้เลย”

“เออ ฉันมันไม่มีสติ ฉันมันไม่มีอะไรดี กลับไปไป๊!!” จี๊ดตะโกนลั่นไล่ดิ่งและมารศรี พวกป้าเพ็ญได้ยินเสียงเอะอะรีบวิ่งออกมาดู จี๊ดเลยให้คนของตนช่วยกันไล่สองคนนี้ มารศรีเห็นท่าไม่ดีลากดิ่งขึ้นรถขับออกไป แล้วหยุดตรงกลางซอย ดิ่งรีบลงอย่างรวดเร็ว

“ดิ่ง...เดี๋ยวศรีไปส่งที่บ้านไงคะ ขึ้นรถเถอะค่ะ อย่าใจน้อยสิคะ”

“ถ้าคุณยังไม่เลิกยุ่งกับผม...ผมจะทำให้คุณอยู่ที่บ้านเราไม่ได้”

“แลกกันไหมล่ะ พ่อคุณก็อาจจะตายวันพรุ่งนี้เลยก็ได้ เพราะถูกฉันปั่นหัวจนเครียด หัวใจวายตายเรื่องคุณ”

ดิ่งแค้นจนพูดอะไรไม่ออกที่มารศรีเอาชีวิตของพ่อมาต่อรอง เขาส่ายหน้าเดินหนีไปอย่างรับไม่ได้

“ยังไงคุณก็หนีฉันไปไม่พ้นหรอก ถ้าฉันไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าใครจะได้” มารศรีตะโกนไล่หลังด้วยความสะใจ ก่อนหยิบมือถือของตนออกมาโทร.หาเทวัญ

กรอกเสียงไปว่า “แผนของคุณได้ผลดีเกินคาด!”

ที่ แท้ผู้อยู่เบื้องหลังคลิปนั้นก็คือเทวัญนั่นเอง เทวัญวางแผนให้มารศรีจัดฉากเหมือนพลอดรักกับดิ่งแล้วตัดต่อส่งไปให้จี๊ด ซึ่งแผนนี้ลุล่วงเป็นที่น่าพอใจ เพราะจี๊ดทั้งโกรธทั้งเสียใจ อีกทั้งวันดีก็ยิ่งชิงชังดิ่ง ถือโอกาสตอกย้ำกับลูกสาวว่า

“ไม่มีใครรักและจริงใจกับลูกเท่ากับเทวัญ

อีก แล้วนะ คนอื่นเข้ามาหาลูกเพราะหวังผลประโยชน์ทั้งนั้น ถ้าลูกใจอ่อน ลูกก็จะพบแต่ความเสียใจ...ตัดใจจากนายดิ่งซะ แล้วเดินหน้าต่อไป”

“จี๊ดไม่ได้รู้สึกอะไรกับนายนั่นสักหน่อย ไม่เห็นจะต้องตัดใจอะไร ขอตัวนะคะ”

จี๊ด ทำเป็นปากแข็ง แต่พออยู่ในห้องคนเดียวก็หลั่งน้ำตาด้วยความเสียใจ เจ็บใจ...ในขณะที่ดิ่งเองเมื่อกลับไปถึงบ้านก็หมกมุ่นอยู่กับเรื่องที่เกิด ขึ้น ยิ่งคิดก็ยิ่งมืดมน มองไม่เห็นหนทางที่เขากับจี๊ดจะเข้าใจกันได้

ooooooo
วันนี้หมออนุญาตให้เศกกลับบ้าน...มารศรีทำตัวเป็นเมียที่แสนดีมารอรับ แถมพอถึงบ้านยังอาสาดูแลเรื่องหยูกยาของเศกอีก ห้ามคนอื่นยุ่งเด็ดขาด

ศุวิมลหมั่นไส้แขวะมารศรีไปหลายคำ ทำให้เศก ไม่ค่อยพอใจ ขึ้นเสียงว่า

“ยัยศุ...ให้โอกาสคุณศรีบ้างไม่ได้หรือไง”

“คุณพ่อให้ไปคนเดียวเถอะค่ะ สำหรับศุ...ไม่มีวัน”

ศุ วิมลยืนยันแล้วเดินหนี เศกเครียดขึ้นมาอีก มารศรีเอาใจด้วยคำพูดหวานๆ ก่อนจะขอตัวไปจัดยาก่อน อาหารมาให้เขา แล้วจะแอบเอายาพิษผสมลงในยา แต่เศกเดินมาส่งเสียงทัก เธอเลยชะงัก รีบซ่อนซองยา...ฝ่ายศุวิมลที่ฮึดฮัดออกมา เธอรีบโทร.หาพี่ชาย บอกให้รู้ว่าพ่อกลับบ้านแล้ว...ดิ่งอยู่กับยอดชายในอู่ซ่อมรถที่เจ้าของต้อง การเซ้งกิจการ เมื่อได้ยินน้องว่ามาอย่างนั้น ดิ่งตอบกลับว่าดีแล้ว พรุ่งนี้พี่จะได้ออกมาเลย

“พี่ดิ่ง! จะปล่อยให้ศุรับมือกับนังแม่เลี้ยงอสรพิษนั่นคนเดียวได้ไง รู้ไหมเมื่อกี้นะ...”

เพียง ได้ยินชื่อมารศรี ดิ่งไม่อยากฟังอะไรอีก รีบยัดโทรศัพท์ใส่มือยอดชายให้คุยแทน แต่แค่ยอดชายพูดฮัลโหล ทางโน้นก็แหวใส่ว่าไม่คุยกับเขา จะคุยกับพี่ชาย ของตนเท่านั้น

“คุณดิ่งติดธุระ ให้ผมคุยแทน”

“ธุระอะไรนักหนาที่สำคัญกว่าเรื่องผู้หญิงอสรพิษนั่น” ศุวิมลตะเบ็งเสียง...ยอดชายสะดุ้งหูแทบแตก ดิ่งเดินกลับมาคว้าโทรศัพท์ไปคุยเอง

“พี่ไม่อยากฟังเรื่องของมารศรี...แค่นี้นะ พี่มีธุระ”

ดิ่ง วางสายแล้วปิดเครื่อง เดินกลับไปหาเจ้าของอู่ เพื่อเจรจาเซ้งกิจการอู่ซ่อมรถมาทำต่อ ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็เรียบร้อย และดิ่งตั้งใจจะย้ายมาพรุ่งนี้เลย ยอดชายท้วงว่าทำไมใจร้อนนัก ดิ่งไม่ตอบแต่หันไปบอกลาเจ้าของอู่ แล้วจะพายอดชายไปเลี้ยงข้าวขอบคุณที่ช่วยแนะนำที่นี่ให้

“ดีมาก กำลังหิว แต่คิดดีแน่แล้วนะว่าทำคนเดียวไหว”

“ไหวสิ เดี๋ยวคงหาลูกมือสักคน”

“บริษัทพ่อคุณก็ออกใหญ่โต ทำไมไม่ไปช่วยดูแล”

“มีคนดูแลแทนผมแล้วล่ะ”

“แล้วคุณไว้ใจคุณมารศรีเหรอ”

“ไม่...แต่ตอนนี้ผมทำได้ดีที่สุดคือคอยดูอยู่ห่างๆ”

“เป็นผมหน่อยไม่ได้...”

“ไปเถอะ เดี๋ยวรถติดตอนเข้าเมือง...อ้อ...อย่าบอกใครนะว่าผมมาอยู่ที่นี่”

“ทำไมล่ะ”

“ผมชอบอยู่เงียบๆ ลืมไปเลยว่ามีผมอยู่ในโลกนี้ได้ยิ่งดี”

ยอด ชายทราบดีว่าดิ่งหมายถึงใคร แต่เพื่อความมั่นใจจึงขอเสียมารยาทถามเรื่องส่วนตัวว่าเขาคิดยังไงกับจี๊ด ดิ่งเลี่ยงที่จะไม่ตอบ บอกว่าตนไม่มีสิทธิ์คิดอะไรตอนนี้ พูดเสร็จก็เดินนำยอดชายไปที่รถทันทีเลย

“แต่ผมรู้ว่าคุณคิดยังไงกับจี๊ด” ยอดชายพึมพำหน้าเศร้า เพราะตัวเองยังตัดใจจากจี๊ดไม่ได้...

ooooooo

ยาม ที่เจ็บปวด ผิดหวัง และเสียใจ...จี๊ดอยากมีใครสักคนเป็นเพื่อน เธออุตส่าห์มาง้อใจดีที่ยังมึนตึงกับเธออยู่ ด้วยการชวนกินข้าวกลางวัน แต่ถูกใจดีปฏิเสธแถมตีรวนจนจี๊ดเสียงดังด้วยความโมโห

จังหวะนั้น เทวัญเข้ามาพอดี จี๊ดเลยไม่สนใจดี ชวนเทวัญไปกินข้าว เทวัญยิ้มร่ารับคำแล้วเดินตามเธอไป รัตนาเดินมาจากอีกทางมองตามทั้งคู่ไปอย่างแปลกใจ ใจดีจึงรายงานให้ฟังว่า

“ดีกันแล้วค่ะ พี่รัตนา...เพื่อนหนูเนี่ยไอคิวสูงแต่อีคิวต่ำจริงๆ”

“ไม่ หรอกค่ะ คุณจี๊ดแยกแยะได้ว่าอะไรดีหรือไม่ดี เพียงแต่ตอนนี้ยังเต็มไปด้วยความโกรธ เลยทำให้ไม่มีสติ และอาจจะยังไม่มีโอกาสได้คุยกับคุณดิ่ง”

“แปลว่าอีคิวต่ำค่ะพี่...เฮ้อ...แล้วจะช่วยเพื่อนหนูได้ยังไงดีล่ะคะ”

รัตนา นิ่งไป คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะช่วยยังไง... แต่จี๊ดที่เมื่อครู่ทำเก่งต่อหน้าเพื่อน คิดได้แล้วว่าเธอไม่อยากกินข้าวกับเทวัญ พอพ้นสายตาใจดีมา จึงบอกเขาว่าตนเปลี่ยนใจแล้ว ตนอยากไปกินข้าวคนเดียว

“จะอร่อยเหรอ พี่ไปเป็นเพื่อนดีกว่านะ”

“บอกว่าไม่ก็ไม่สิคะ” จี๊ดขึ้นเสียงแล้วเดินหนีทันที ทิ้งให้เทวัญเสียหน้า หันรีหันขวางอย่างหงุดหงิด

จี๊ดไม่ได้ออกไปกินข้าว แต่กลับเข้ามานั่งซึมที่โต๊ะทำงาน รัตนามาเลียบๆเคียงๆก่อนจะชวนเธอไป

กินข้าวด้วยกัน อ้างว่ากินข้าวไม่ตรงเวลาระวังปวดท้อง... คำพูดนี้ทำให้จี๊ดนึกถึงตอนตัวเองปวดท้องที่บ้านพัก

ริม ทะเลแล้วดิ่งคอยดูแล ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เธอรู้สึกดีกับดิ่งมาก แต่แล้วจี๊ดสลัดความรู้สึกนั้นออกไป ปฏิเสธรัตนาด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง

รัตนา ไม่ถือสาแล้วออกไปกินข้าวกับใจดี แต่ไม่นึกว่าจะเจอวันดีตามระราน โดยมียุพาเจ้ากี้เจ้าการเป็นสายให้หลังรับคำสั่งจากเทวัญมาอีกที วันดีด่าประจานรัตนาจนคนทั้งร้านหันมองเป็นตาเดียว ใจดีห้ามเท่าไหร่วันดีก็ไม่ฟัง แถมยังอบรมสั่งสอนใจดีเข้าให้ด้วย

รัตนา อายมากกับถ้อยคำดูถูกเหยียดหยามของวันดี คำก็เมียน้อย สองคำก็แย่งผัว เธอทั้งอายทั้งรับไม่ได้จะเดินหนี วันดียังตามกระชากแขนเธอไว้อีก

“จะหนีไปไหนล่ะ ไหนบอกว่าไม่ได้ทำอะไร

ผิดไง แล้วจะกลัวอะไรกับคำพูดของฉัน”

“ดิฉันไม่ได้กลัว แต่ดิฉันไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ที่นี่ตอนนี้”

“จำ เป็นสิ ทุกคนดูหน้านังผู้หญิงคนนี้ไว้ให้ดีๆนะคะ แล้วกลับไประวังสามีของตัวเองด้วย ถ้าทำงานอยู่แถวๆนี้ ก็ให้หลีกห่างอย่าเข้าไปใกล้ เพราะหล่อนเอาไม่เลือกว่าผัวใคร”

“คุณวันดี กรุณาหยุดเถอะค่ะ”

“ฉัน ไม่หยุด! แล้วเมื่อแผนการชั่วๆยังไม่สำเร็จ หล่อนก็ใช้แผนการยุแหย่บ่อนทำลายครอบครัวของฉันไม่ให้มีความสุข เป่าหูลูกสาวฉันให้เปลี่ยนใจจากคู่หมั้นไปหาผู้ชายคนอื่น เลว!!”

รัตนา ชักจะทนไม่ไหว จ้องหน้าวันดีเขม็ง ใจดีเห็นท่าไม่ดีกลัวจะมีการฟ้อนเล็บ จึงวิ่งออกไปเพื่อขอความช่วยเหลือ เผอิญเจอจี๊ดกำลังสวนเข้ามา ก็เลยลากเธอเข้ามาช่วยห้าม

วันดีทั้งด่าทั้งจะตบตีรัตนาให้ได้ พอจี๊ดขัดขวางก็ไม่พอใจ หาว่าลูกเข้าข้างคนอื่น เห็นคนอื่นดีกว่าแม่ตัวเอง

“แต่ คุณแม่ทำไม่ถูก พี่รัตนาไม่ได้ยุ่งอะไรกับคุณพ่อเกินไปจากหน้าที่ของเลขา และที่สำคัญ พี่รัตนาไม่ได้ยุแหย่ให้จี๊ดกับพี่เทวัญแตกแยกกัน คุณแม่เข้าใจผิด คุณแม่มองไปรอบๆสิคะ”

วันดีทำตามที่ลูกบอก เห็นผู้คนมุงดูกันเต็ม พลางซุบซิบนินทากันสนุกปาก

“เรื่องในครอบครัวของเราไม่ใช่เรื่องสาธารณะนะคะ ถ้าคุณแม่ข้องใจ เราไปคุยกันที่บ้านได้ไหมคะ”

วัน ดีมองรัตนาอย่างเดือดแค้น แต่ก็เลือกที่จะเชื่อลูกสาวยอมกลับไปบ้านพร้อมกัน และทันทีที่ถึงบ้าน แม่ก็ต่อว่าลูกว่าเดี๋ยวนี้กลายเป็นพวกมันเต็มตัวแล้ว จี๊ดบอกตนไม่ได้เป็นพวกใคร ตนพูดตามที่เห็น และไม่อยากให้แม่หูเบา

“ลูกไม่รักดี” วันดีกระแทกเสียงอย่างคับแค้นใจ

“ไม่เกี่ยวนะคะคุณแม่”

“ทำไมจะไม่เกี่ยว ฉันทำแบบนี้ก็เพราะอยากให้ชีวิตของแกมีความสุข ไม่มีพวกมารมาคอยขัดขวาง”

“จี๊ดไม่เข้าใจ”

“เพราะมันทำให้แกหวั่นไหวกับนายดิ่ง ทั้งๆที่แกต้องแต่งงานกับเทวัญ”

“จี๊ดไม่ได้บอกว่าจี๊ดจะแต่งงานกับพี่เทวัญ”

“แกเปลี่ยนใจไม่ได้”

“แต่จี๊ดเป็นคนแต่ง ไม่ใช่คุณแม่ เลิกเจ้ากี้เจ้าการชีวิตจี๊ดสักที”

วัน ดีโกรธจะตบหน้าจี๊ด เจตนาเข้ามายับยั้งไว้ได้ทัน สั่งห้ามเธอทำร้ายลูก วันดีเถียงคอเป็นเอ็นว่าตนไม่ได้ทำร้าย แต่ต้องการเตือนสติลูก ลูกทำไม่ถูก

“คุณนั่นแหละที่ทำไม่ถูก มีสมอง มีสติบ้างหรือเปล่า ทำอะไรลงไปบ้าง รู้ตัวบ้างไหม”
“ฉันทำอะไรก็ผิดไปหมดใช่มั้ย...อ้อ...นังเมียน้อยคงไปสำออยออเซาะมาแล้วล่ะสิ ถึงได้มาเอาเรื่องกับฉัน”

“ผมไม่เคยมีเมียน้อย และคุณก็เลิกบังคับใจลูกให้ทำตามอารมณ์ของตัวเองได้แล้ว...และผมจะไปเซ็นใบหย่ากับคุณเดี๋ยวนี้”

สองแม่ลูกตกใจ...จี๊ดจะขอร้องพ่อ แต่เจตนาไม่เปิดโอกาส

“มันถึงเวลาแล้วลูก ฟางเส้นสุดท้ายสำหรับพ่อจริงๆ พ่อขอโทษ ไปคุณวันดี...ไปกับผม”

“ฉันไม่ไป!”

“คุณต้องไป แต่ถ้าคุณไม่ไปกับผมวันนี้ ก็เตรียมรอรับเอกสารจากทนายของผม เร็วหรือช้ามันก็ลงเอยเหมือนกัน เลือกเอา”

วันดีช็อก ไม่คิดว่าเจตนาเอาจริง เช่นเดียวกับจี๊ดที่รับไม่ได้ เธอผลุนผลันออกจากบ้านไปทั้งน้ำตา

ooooooo

ขณะ ที่จี๊ดออกจากบ้านไปด้วยความเสียใจเรื่องพ่อขอหย่าแม่...ดิ่งเองก็กำลังเก็บ สัมภาระเตรียมออกจากบ้านหลังใหญ่ของพ่อในเช้าวันรุ่งขึ้นเพื่อไปอยู่อู่ซ่อม รถเล็กๆของตน ซึ่งครั้งนี้ดิ่งตั้งใจเอาแหวนแต่งงานของแม่ที่ท่านเคยให้ไว้ติดตัวไปด้วย

ดิ่ง มีที่ไปแล้วแต่จี๊ดยังเคว้งคว้างท่ามกลางความมืดยามค่ำคืนและสายฝนโปรยปราย เธอไม่รู้จะหันหน้าพึ่งใคร ที่สุดก็ตัดสินใจไปหารัตนาถึงบ้านในสภาพเนื้อตัวเปียกโชกหนาวสั่น ส่วนดิ่งที่เก็บสัมภาระเตรียมพร้อมไว้แล้ว กลับต้องมาขุ่นมัวหัวเสียเมื่อเศกมาถามเขาว่า

“แกไม่คิดจะรับผิดชอบสิ่งที่แกทำเอาไว้บ้างหรือไง”

เศก ทราบเรื่องที่โมเดิร์นคาร์ขอเป็นผู้จัดจำหน่ายรถของเยอรมันแต่ไม่สำเร็จ ซึ่งเขาเข้าใจว่าเป็นฝีมือของดิ่ง จึงต้องการให้สานต่อจนจบ แต่ดิ่งยืนยันเสียงแข็งว่าตนไม่รู้เรื่อง ไม่ได้เริ่ม และจะไม่ทำงานที่ได้มาด้วยการแทงข้างหลังคนอื่นอย่างน่าไม่อายแบบ นี้...มารศรีได้ยินแล้วหมั่นไส้ สวนดิ่งทันควันว่า

“น่าไม่อายตรงไหน ธุรกิจคือการแข่งขัน ใครมีข้อมูลเหนือกว่าถือว่าได้เปรียบ”

“เป็นฝีมือของเธอกับนายเทวัญเองใช่ไหม”

เศกแปลกใจ ทวนชื่อเทวัญพลางมองหน้ามารศรีอย่างรอคอยคำตอบ

“ดิ่ง เกลียดศรีจะตาย อะไรที่ทำให้ศรีเลวได้ เขาก็พูดออกมาได้ทั้งนั้น” มารศรีแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ดิ่งเจ็บใจจะตอบโต้ แต่เธอไม่เปิดโอกาส รีบตัดบทออดอ้อนขอความเห็นใจจากเศก “ศรีจะรู้จากใครไม่สำคัญเท่ากับที่ศรีทำเพื่อใครหรอกค่ะ ศรีอยากให้บริษัทของคุณแซงหน้าคู่แข่ง ศรีทำผิดเหรอคะ”

ดิ่งมองมารศรีที่เกาะกอดพ่อของตนอย่างชิงชังรังเกียจ

“ที นี้คุณเศกก็รู้แล้วใช่ไหมคะ ว่าใครกันแน่ที่คุณควรจะให้สานงานต่อเพื่อความก้าวหน้าของบริษัท ลูกชายคุณไม่กล้าทำอย่างศรีแน่ เพราะอะไรรู้ไหมคะ...เพราะคุณดิ่งรักคุณจี๊ด ลูกสาวของนายเจตนาเข้าเต็มหัวใจแล้วน่ะสิคะ”

“ใช่ ผมรักคุณจี๊ดเต็มหัวใจ” ดิ่งยอมรับอย่างลูกผู้ชาย แต่มันทำให้เศกไม่พอใจ ตวาดใส่ลูกชายอย่างเอาเรื่อง

“ไอ้ดิ่ง! แกไปรักลูกศัตรูได้ยังไง”

“ได้ยังไงผมไม่รู้...รู้แต่ว่าตอนนี้ผมรักคุณจี๊ดและผมจะไม่มีทางทำร้ายคนที่ผมรัก”

“ดี งั้นฉันก็คิดถูกแล้วสินะที่ไล่แกออกไปจากชีวิตฉัน”

“ถ้า พ่อคิดว่าพ่อจะมีความสุขกับผู้หญิงคนนี้ได้จริงๆ พ่อก็ไม่จำเป็นต้องมีผม เพราะผมคงอยู่ร่วมชายคาเดียวกับผู้หญิงที่ผมเกลียดไม่ได้”

มารศรีเจ็บลึกเหมือนถูกมีดกรีดกลางใจเมื่อเห็นสายตายืนยันของดิ่ง และทันทีที่ดิ่งผลุนผลันออกไป เศก หน้าเครียดขึ้น มารศรีรีบปลอบใจ

“คนกำลังมีความรัก ต่อให้ช้างก็ฉุดเอาไว้ไม่อยู่หรอกค่ะ”

“ผมเลี้ยงมันได้แต่ตัวจริงๆ” เศกมองตามลูกชายด้วยความผิดหวัง...มารศรีเจ็บใจและแค้นใจดิ่งมาก

ooooooo

ที่ บ้านรัตนา...จี๊ดเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วนั่งซึมเหม่อมองออกไปนอก หน้าต่าง เห็นสายฝนโปรยปรายยิ่งรู้สึกเศร้าใจ เมื่อรู้สึกได้ว่ารัตนาเข้ามา จี๊ดเอ่ยวาจาโดยไม่เหลียวมอง

“อย่าบอกใครนะว่าฉันอยู่ที่นี่ ฉันไม่อยากเจอใคร”

รัตนา รับคำเบาๆ ปลีกตัวออกไปให้จี๊ดได้อยู่ตาม ลำพัง...ในเวลาเดียวกันที่บ้านจี๊ด แม่วันดีกับพ่อเจตนาของจี๊ดนั่งกันคนละมุม วันดีกล่าวโทษเจตนาเป็นต้นเหตุทำให้ ลูกเสียใจเตลิดออกไปจากบ้าน คงสะใจเขาแล้วใช่ไหม?

“อย่าโทษผมคนเดียว เราสองคนเป็นคนทำให้ลูกเสียใจ”

“คุณนั่นแหละผิด อยากหย่าจนตัวสั่นแล้วใช่ไหม จะได้ไปแต่งงานกับมัน”

“ก็ไม่แน่...รัตนามีคุณสมบัติทุกอย่างพร้อมสำหรับการเป็นภรรยาที่ดี”

วันดีโกรธกรี๊ดกระจาย...เพ็ญเดินเข้ามา ตัดสินใจพูดในสิ่งที่อึดอัดมานาน

“เพ็ญขออนุญาตนะคะ คุณทั้งสองคนรักคุณหนูจี๊ดกันบ้างไหมคะ หรือรักแต่ตัวเอง”

“ป้าเพ็ญ...กล้าดียังไง” วันดีแว้ดใส่

“เพราะ เพ็ญไม่กล้ามาตั้งแต่แรก...เลยไม่ได้พูดให้คุณท่านและคุณผู้หญิงฟัง ในฐานะที่เพ็ญเป็นคนเลี้ยง และเฝ้าดูการเจริญเติบโตของคุณหนูจี๊ด เธอน่าสงสารที่สุด”

“ไม่ต้องพูดแล้ว ออกไปเลยนะ” วันดีไล่เพ็ญอย่างฉุนเฉียว แต่เจตนาให้เพ็ญพูดต่อ เขาอยากฟังเสียงที่ไม่เคยได้ยิน และวันดีก็ควรจะฟังเสียบ้าง

วันดี หน้าตึงไม่พอใจกับถ้อยคำของสามี และเมื่อเพ็ญตั้งคำถามว่าทั้งคู่ทะเลาะกันเพื่ออะไร วันดีก็ตวาดสวนทันควันอีกว่า “ไม่ใช่เรื่องของเธอ”

“ค่ะ ไม่ใช่เรื่องของเพ็ญ แต่หันไปดูหัวใจของลูกบ้างเถอะค่ะ เคยรู้บ้างไหมคะ คุณหนูจี๊ดต้องการพวกคุณทั้งสองคน ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง แต่ตอนนี้พวกคุณกำลังทำอะไรกันอยู่ ยังมีคุณหนูจี๊ดอยู่ในสายตากันหรือเปล่า...อย่าได้โทษใครเลยนะคะ ที่ทำไมคุณหนูจี๊ดถึงกลายเป็นคุณหนูนิสัยเสียในสายตาคนอื่น...ขอบพระคุณค่ะ ที่ให้เพ็ญได้พูด”

เจตนาและวันดีฟังแล้วอึ้งไปด้วยกัน...เหมือนถูกตบหน้า กระชากสติให้รู้คิดมากขึ้นกว่าเดิม

ooooooo

ตอน แรกตั้งใจค้างที่บ้านรัตนา แต่พอแอบได้ยินรัตนาโทร.หายอดชาย  จี๊ดก็เปลี่ยนใจหนีออกมาโดยไม่บอกกล่าว  เมื่อยอดชายพร้อมด้วยดิ่งและศุวิมลมาถึงจึงต้องตามหาจี๊ดกันให้วุ่น ฝ่ายมารศรีที่แอบได้ยินดิ่งคุยโทรศัพท์กับยอดชายก่อนผลุนผลันออกไปกับศุวิมล เธอแค้นใจนักหนาที่ดิ่งห่วงใยจี๊ด ก็เลยระบายความแค้นกับพ่อของเขาด้วยการผสมยาพิษในน้ำชาให้เศกกิน

ริม ถนนเปลี่ยว...จี๊ดเกือบถูกชายเมายาสองคนลวนลาม ถ้าพวกดิ่งตามมาช่วยไว้ไม่ทัน และในขณะที่ ดิ่งกับจี๊ดทำท่าจะดีกัน จู่ๆเทวัญขับรถมาจอดพรืดแล้ววิ่งไปหาจี๊ด

“น้องจี๊ด พี่มารับแล้ว”

“พี่เทวัญ...”

จี๊ดอึ้งเหมือนกัน แต่ก็ยอมให้เทวัญสวมกอด โดยที่สายตาเธอจับจ้องอยู่ที่ดิ่งตลอดเวลา

“พี่ขอโทษที่มาช้า หลังจากรับสายน้องจี๊ด พี่ก็รีบมาแต่รถติดมากเลย...มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า”

ดิ่งเบือนหน้าหนี คนอื่นๆเซ็งมาก โดยเฉพาะยอดชายถึงกับพูดพึมพำงึมงำว่า “จังหวะนรกจริงๆ”

เทวัญ ไม่สนใจใคร ลูบหน้าลูบผมจี๊ดด้วยความเป็นห่วง...ในขณะที่จี๊ดยังไม่ละสายตาไปจากดิ่ง และดิ่งไม่กล้าหันมาสบตาเพราะกลัวใจตัวเองจะทนไม่ไหว

หลังจากเทวัญพาจี๊ดไปขึ้นรถ เขาเดินกลับมาที่พวกดิ่งอีกครั้ง จงใจพูดขึ้นเพื่อเยาะเย้ยดิ่ง

“ขอบใจนะที่ช่วยน้องจี๊ดเอาไว้ ฉันจะดูแลน้องจี๊ดเอง”

ดิ่งไม่พูดอะไรและจะผละไป เทวัญยังไม่สะใจเรียกเขาไว้อีก

“เดี๋ยวก่อนสิครับ คุณศยาม...เสียใจด้วยนะ”

“เรื่องอะไรที่ผมต้องเสียใจ”

“คุณรู้ดีว่าเรื่องอะไร เห็นๆอยู่ว่าน้องจี๊ดเลือกผม ไม่ใช่คุณ”

เทวัญ ยิ้มเย้ยแล้วเดินมาขึ้นรถขับออกไป จี๊ดไม่เหลียวมองดิ่ง...กล้ำกลืนความรู้สึกเอาไว้ภายใน ตัดสินใจมุ่งมั่นกับอะไรบางอย่างจากนี้ไป...

ooooooo
source.thairath.co.th

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น