วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555

อ่านละครพริกกับเกลือ ตอนที่ 9


       จิตรวรรณเดินอย่างมั่นใจเข้ามาในออฟฟิศ เลี้ยวไปทางหนึ่ง จิตรวรรณเดินมาถึงหน้าห้องเก็บเอกสาร รัตนาเดินมาเห็น จิตรวรรณเปิดประตูห้อง แล้วปิดทันที รัตนาเดินมาลองเปิดประตูดู ปรากฏว่าล็อก รัตนาเข้าใจความรู้สึกของจิตรวรรณดี รู้สึกเป็นห่วง
        
       จิตรวรรณยืนนิ่ง จากความเข้มแข็ง กลายเป็นความอ่อนแอที่ไม่อยากให้ใครเห็น เธอร้องไห้ออกมา มองมือที่เพิ่งสาดน้ำใส่ศยามด้วยความเสียใจ ทรุดลงร้องไห้อย่างหนัก แต่พยายามไม่ให้มีเสียงลอดออกมา
       รัตนายืนอยู่หน้าประตูห้อง ยุพาเข้ามา จะเข้าไปเอาเอกสารในห้อง รัตนาขวางเอาไว้
       “จะเข้าไปทำไม”
       “ก็เอาเอกสารน่ะสิคะ ถามแปลก ไม่มีใครเข้าไปในห้องเก็บเอกสารเพื่อไปแอบร้องไห้หรอกนะ จะบอกให้”
       รัตนาอึ้ง ยุพาคิดได้
       “เอ๊ะ หรือว่ามี”
       ยุพาสอกรู้สอดเห็นจะเข้าห้องให้ได้ รัตนาขวางเอาไว้อีกจงใจพูดเสียงดังให้จิตรวรรณได้ยิน
       “ประตูมันล็อก ฉันรอให้แม่บ้านเอากุญแจมาเปิดอยู่ เปิดได้แล้ว จะโทรบอกเจ๊ยุพาที่โต๊ะ”
       จิตรวรรณที่กำลังร้องไห้อยู่ หยุดร้องทันที พยายามเช็ดหน้าเช็ดตา ไปยืนฟังที่ประตู ได้ยินรัตนาเถียงกับยุพาที่หน้าห้อง
       “จะพูดเสียงดังทำไม เจ๊ไม่ได้หูตึง”
       “แต่ฉันหูอื้อ พูดเสียงปกติ ฉันไม่ได้ยินตัวเอง แน่ใจนะว่าจะรอ แน่ใจเหรอ”
       ยุพารำคาญ
       “โอ๊ย...พอแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว ไปรอที่โต๊ะแล้วกัน อย่าลืมโทรบอกนะ”
       ยุพาเดินออกไป รัตนาตะโกนตามหลังเสียงดัง
       “ค่ะ”
       ยุพาสะดุ้งตกใจ รีบเดินออกไปให้พ้นๆ จิตรวรรณค่อยๆเปิดประตูออกมา เห็นรัตนายืนอยู่ จิตรวรรณอึ้งๆ รัตนายิ้มให้
       “อ้าว...ไม่ได้ล็อกเหรอคะเนี่ย สงสัยดิฉันจะเข้าใจผิด”
       “เอ่อ...ขอบคุณนะ”
       รัตนายิ้ม
       “เข้าห้องน้ำก่อนมั้ยคะ ล้างหน้าล้างตา แต่งหน้าใหม่ จะได้ดูสดชื่นขึ้น”
       จิตรวรรณอึ้ง ส่ายหน้า น้ำตาจะไหลขึ้นมาอีก
       “งั้น มาทางนี้เถอะค่ะ”
       รัตนาจูงมือจิตรวรรณออกไป จิตรวรรณเดินตามไปอย่างว่าง่าย
      
       รัตนาพาจิตรวรรณเข้ามาในห้องทำงานเจตนา
       “พักอยู่ในห้องท่านให้สบายนะคะ ไม่มีใครมากวนคุณจี๊ดแน่นอนค่ะ”
       “คุณพ่อไม่อยู่เหรอ”
       “ท่านไปงานเลี้ยงค่ะ”
       “แล้วทำไมเธอไม่ไป”
       “เป็นงานเลี้ยงส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับงาน ท่านไม่ต้องมีเลขาตามไปหรอกค่ะ”
       จิตรวรรณรู้สึกดีกับรัตนา รัตนาจะออกไป จิตรวรรณเรียกไว้
       “เดี๋ยวก่อน”
       “คะ”
       รัตนาแปลกใจที่จิตรวรรณรั้งไว้ จิตรวรรณดูลังเล แต่ก็ยิ้มให้ เพราะอยากคุยกับรัตนา
       “ฉันอยากปรึกษาเธอ...เรื่องนายดิ่ง”
      
       ศยามเดินเข้ามาในบ้าน...ซึม เครียด มองไปรอบๆ บ้านใหญ่โตที่มีตัวเองอยู่เพียงลำพัง แม่บ้านเข้ามา
       “ไม่มีใครอยู่เลยเหรอ”
       “ค่ะ...อยู่ที่โรงพยาบาลกันหมด ยังไม่กลับมากันเลยค่ะ”
       “อืม...”
       แม่บ้านออกไป ศยามเดินเข้าไปข้างในอย่างเหนื่อยอ่อน
      
       รัตนาเข้ามาปลอบใจจิตรวรรณ
       “รู้มั้ยคะว่าคุณพ่อของคุณจี๊ด เคยสอนดิฉันว่ายังไง”
       “จะไปรู้เหรอ”
       รัตนายิ้ม ไม่ถือสา
       “ให้ใส่ตุ้มหูหนักๆถ่วงเอาไว้ทั้งสองข้าง”
       จิตรวรรณชะงัก
       “หือ”
       “เราไม่ควรฟังความข้างเดียวค่ะ ทุกคนควรได้รับโอกาสที่จะอธิบายเหตุผล คุณจี๊ดจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณ”
       จิตรวรรณถอนใจเฮือก
       “เฮ้อ...”
       “ยากใช่มั้ยคะ แต่ดิฉันอยากให้คุณจี๊ดเริ่มคิดแบบนี้ให้ได้ อย่าลืมนะคะ นี่คือคุณสมบัติอย่างหนึ่งของผู้บริหารที่ดี...และในอนาคตคุณจี๊ดก็ต้อง มาบริหารแทนคุณพ่อ”
       “ฉันอาจจะ...”
       “อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน อย่าเพิ่งพูดอะไรเลยค่ะ...แต่ตอนนี้ คุณจี๊ดควรจะฟังคำอธิบายจากคุณดิ่งบ้าง”
       จิตรวรรณอึ้ง
       “ลองคิดเปรียบเทียบกับตัวเองดูนะคะ ถ้าคุณจี๊ดมีเหตุผลที่อยากอธิบาย แต่ ไม่มีใครฟังคุณจี๊ดเลย...คุณจี๊ดรู้สึกยังไงคะ”
       “ไม่ยุติธรรม”
       “ค่ะ ไม่ยุติธรรมสำหรับคนดีอย่างคุณดิ่งที่อาจจะมีความจำเป็นอะไรบางอย่าง ซึ่งบอกใครไม่ได้”
       “คนดีเหรอ ทำไมเธอมั่นใจในตัวนายนั่นมากขนาดนี้”
       “เวลาเราอยู่ใกล้ใครแล้วรู้สึกเย็น มีความสุข ไม่ร้อนใจ มีแต่การทำสิ่งดีๆด้วยกัน...เขาคนนั้นน่าจะเป็นคนแบบไหนคะ”
       จิตรวรรณอึ้ง เห็นด้วยกับรัตนา แต่ยังมีความกังวลใจ เพราะหมายถึงการเสียฟอร์ม
       “ฉันควรจะไปคุยกับนายดิ่งจริงๆเหรอ”
      
       ยุพาแนบหูฟังที่ประตูอย่างสอดรู้สอดเห็นมาก เทวัญเดินเข้ามาข้างหลังยุพา
       “ทำอะไร”
       ยุพาตกใจ
       “ว้าย”
      
       ศยามถอดเสื้อ จะอาบน้ำ เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว เปิดประตูห้องน้ำซึ่งอยู่ในห้องนอนแล้วศยามก็ต้องชะงัก เดินถอยหลังกลับออกมา เมื่อเห็นมารศรีเดินนวยนาดออกมาจากห้องน้ำของเขา
       “มารศรี”
       “ค่ะ ศรีเอง...แหม...ปล่อยให้รอตั้งนานแน่ะ”
       “คุณ มาตั้งแต่ตอนไหน แม่บ้านบอกว่า...”
       “คนที่แอบทำอะไรลับๆ ก็ต้องทำให้ทุกอย่างเป็นความลับ ถ้าไม่อยากให้พ่อคุณรู้...ว่าเราแอบทำอะไรกัน”
       มารศรีโถมตัวเข้าไปหาศยามทันที
       “ศรี อย่า”
      
       เทวัญคุยมือถือกับวันดีอย่างฉุนเฉียว
       “คุณแม่ครับ จะให้ผมคืนดีกับน้องจี๊ดได้ยังไง ในเมื่อเมียน้อย...เอ่อ ผมขอโทษครับ...คนรอบข้างน้องจี๊ด โดยเฉพาะยัยรัตนานั่นคอยเสี้ยมน้องจี๊ดอยู่แบบนี้ ดีนะที่เจ๊ยุพาเขาได้ยินแล้วรายงานผม”
       เทวัญหันไปมองยุพา ซึ่งนั่งยิ้มภูมิใจอยู่
       “ขอบคุณครับ คุณแม่”
       เทวัญวางสาย ยิ้มสะใจ หันไปพูดกับยุพา
       “คุณวันดีให้คุณไปพบที่บ้าน ด่วน”
       “ว้าย ตายแล้ว งั้นดิฉันไปเลยนะคะ เรื่องสอพลอ เอ๊ย...ดูแลจิตใจเจ้านาย สำคัญมากกว่างานตัวเองค่ะ”
       ยุพาระริกระรี้เดินออกไป เทวัญเครียด
       “น้องจี๊ดจะต้องมองแกเป็นผู้ชายมักมาก ปลิ้นปล้อน ลวงโลก เท่านั้น...ไอ้ดิ่ง”
      
       มารศรีโถมทับศยามลงบนเตียง
       “ดิ่งขา...ศรีคิดถึงคุณมากเลยรู้มั้ย”
       “ปล่อยผมดีๆ หรือจะต้องให้ผมใช้กำลัง”
       “ไม่ยักกะรู้ว่าเดี๋ยวนี้ชอบเล่นแรงๆ”
       ศยามไล่อย่างไม่ใยดี
       “ศรี...ออกไป”
       “ไม่ค่ะ ศรีรู้ว่าเรายังรักกัน ไม่งั้น คุณไม่ปฏิเสธศรีแบบนี้หรอก คุณกลัวจะห้ามใจตัวเองไม่ได้”
       ศยามพยายามใจเย็น
       “ศรี...”
       “ไง...ศรีพูดถูกใช่มั้ย ดิ่ง...”
       มารศรีจับมือศยามมาทาบที่ทรวงอก
       “รู้สึกอะไรมั้ย...หัวใจของศรีมันเต้นแรงมากจนจะออกมานอกอก เพราะว่ามันคิดถึงคุณ คิดถึงจนใจจะขาด”
       มารศรีประทับจูบลงบนส่วนต่างๆของเขา ไล่ตั้งแต่หน้าผาก จมูก คาง...และกำลังจะถึงริมฝีปาก ศยามตัดสินใจผลักเธอออกไป แล้วพลิกกลับไปเป็นคนอยู่เหนือมารศรี
       “ว้าย”
       ศยามจ้องมอง มารศรีหายใจหอบถี่แรง
       “ดิ่ง...ทำไมต้องฝืนใจตัวเอง ในเมื่อเรายังรักกัน ความรักไม่ใช่เรื่องผิด เปิดใจสิคะ ศรีรอคุณอยู่...”
       ศยามเกลียดชังมารศรีจนทนไม่ไหว
       “ฟังนะศรี...ผมขยะแขยงคุณ”
       มารศรีอึ้ง
       “ดิ่ง...และเกลียดคุณมาก ไม่มีทางที่คุณจะทำให้ผมใจอ่อนกับมารยาต่ำๆ ที่ อาจจะได้ผลกับพ่อผม แต่กับผม...ไม่มีทาง”
       ศยามลุกหนีออกไป ปิดประตูปัง
       “ดิ่ง”
       มารศรีก็ยิ้มสะใจ ลุกเดินมาที่โต๊ะข้างเตียง หยิบกล้องที่ซ่อนเอาไว้ ขึ้นมาดู
       “ก็แค่ลบคำพูดตอนท้ายว่าคุณขยะแขยงและเกลียดฉันออก...จากนั้นก็พร้อม ส่ง... ฮ่ะๆๆๆๆๆ”
       มารศรีเดินหัวเราะออกไปจากห้องศยาม
      
       ค่ำนั้น จิตรวรรณเดินไปเดินมา มองมือถือตัวเอง...ลังเล อยากจะโทรหาศยาม แต่ไม่กล้ามีเสียงมือถือเรียกเข้า เห็นชื่อเทวัญที่หน้าจอ จิตรวรรณเซ็งขึ้นมาซะงั้น จำใจรับสาย
       “เดี๋ยวจี๊ดโทรกลับได้มั้ยคะ กำลังยุ่ง สวัสดีค่ะ”
       จิตรวรรณกดวางสาย เดินไปนั่งเซ็งที่เตียง
       “เอาไงดีเนี่ย...โทรหานายดิ่ง...หรือไม่โทร...โทร...ไม่โทร...โอ๊ย”
       เสียงเตือนข้อความมัลติมีเดียดังขึ้น...จิตรวรรณตกใจ มอง...แปลกใจ
       “คลิปวีดีโอ...จากใคร...”
       จิตรวรรณกดโหลด
      
       ศยามเดินมากดออดหน้าบ้านจิตรวรรณ ป้าเพ็ญเดินมา เห็นศยาม ตกใจ
       “คุณดิ่ง...เอ้ย คุณศยาม”
       “เรียกผมเหมือนเดิมก็ได้ครับป้า ผมมาหาคุณจี๊ด
       “เอ่อ...ป้าว่า...อย่าเลยดีกว่านะคะ”
       “จี๊ดอยากเจอเขาอยู่พอดีค่ะป้าเพ็ญ”
       จิตรวรรณเดินยิ้มปกติเข้ามา ศยามเห็นจิตรวรรณยิ้มแล้วดีใจ จิตรวรรณเดินมาเปิดประตู
       “ป้าเพ็ญเข้าไปเถอะ จี๊ดคงคุยไม่นาน”
       “ค่ะ”
       ป้าเพ็ญเข้าไป จิตรวรรณหันมามองศยาม ยิ้มๆ
       “ว่าไง...คงไม่ว่านะถ้าไม่เชิญเข้าบ้าน”
       “ผมอยากจะอธิบายเรื่องทั้งหมด”
       “อ๋อ ไม่ต้องหรอก ฉันเข้าใจแล้วล่ะ ไม่ต้องพูด”
       “เข้าใจ”
       “เคยได้ยินป่ะ ภาพๆหนึ่งอธิบายได้มากกว่าคำพูดเป็นร้อยเป็นพัน และยิ่งถ้ามันเป็นภาพเคลื่อนไหวความยาวเกือบสองนาที มันยิ่งอธิบายอะไรๆได้เยอะเลย จนทำให้ฉันเข้าใจ และไม่ต้องการฟังคำอธิบายอะไรอีก”
       ศยามไม่เข้าใจคำพูดของจิตรวรรณ จิตรวรรณกดเพลย์คลิปวีดีโอในมือถือที่ตัวเองถือออกมาด้วย แล้วส่งให้ศยามดู
       ศยามยืนดูคลิปในมือถือของจิตรวรรณเป็นภาพที่มารศรีกำลังพรมจูบเขา ตั้งแต่หน้าผาก...จมูก คาง...เกือบถึงปาก แล้วศยามก็โถมกลับไปทับมารศรี...มารศรีหอบใจหอบถี่ ศยามตกใจ จิตรวรรณรีบเก็บมือถือ รู้สึกเสียใจมาก
       “ให้ดูแค่นี้พอ...เพราะฉันทนให้คลิปอุบาทว์นี่สิงอยู่ในมือถือฉันไม่ได้อีกต่อไปแล้ว”
       จิตรวรรณกดลบ
       “โอเคนะ...กลับไปได้แล้ว”
       ศยามหน้าเสีย
       “ความจริงมันไม่ได้เป็นแบบนี้”
       “แล้วเป็นแบบไหน”
       “ผมถูกจัดฉาก”
       “มารศรีก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่นายเป็นผู้ชายอกสามศอก ดูฉลาดไม่ได้โง่จะ ให้ฉันเชื่อเหรอ ว่านายถูกจัดฉาก ทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากตัณหาและความใคร่ของนาย ชั่ว เลว มักมาก ปลิ้นปล้อน ลวงโลก”
       “ไม่จริง”
       “สงเคราะห์อะไรให้นะ ถือว่าทำบุญ...ถ้าไม่อยากตกนรกขุมที่ลึกกว่านี้ เดินไปบอกพ่อนายแบบแมนๆว่านายกับมารศรียังมีเยื่อใยต่อกัน ขอเมียพ่อซึ่งเป็นแฟนเก่านาย กลับไปเสพย์สุขกันเหมือนเดิมตามประสาหญิงชั่วชายโฉด”
       จิตรวรรณหันเดินกลับ ศยามตะโกน
       “ผมยังพูดความจริงไม่จบ”
       “ฉันไม่ฟัง”
       “ต้องฟัง เพราะมันเกี่ยวกับคุณ”
       จิตรวรรณเดินหนี
       “ผมไม่ได้รักมารศรี เพราะผมรัก...”
       จิตรวรรณใจเต้นแรงหันไป
       “ผมรักใคร ผมจะหาแต่สิ่งดีๆมาให้เขา ทำให้เขามีความสุขที่สุดในชีวิต ซึ่งไม่ใช่มารศรี...แต่เป็น....”
       ทันใดนั้นเสียงบีบแตรรถดังขึ้น...ทั้งดิ่งและจี๊ดชะงัก หันไปมอง มารศรีจอดรถ เปิดประตูเดินนวยนาดลงมา ศยามและจิตรวรรณตกใจ มารศรีเข้ามาควงแขนศยาม
       “กะแล้วว่าคุณต้องมาที่นี่ ไงคะ คุณจี๊ด...คิดไง ใส่ชุดนอนลงมาคุยกับคนรักของดิฉัน”
       ศยามปราม
       “มารศรี พอได้แล้ว”
       “อ๋อ...ฉันลงมาเอาคลิปอุบาทว์ให้คนรักของเธอดูน่ะ...อยากดูมั้ย”
       มารศรียักไหล่ จิตรวรรณเขวี้ยงมือถือตัวเองใส่ มารศรีตกใจ หลบทัน
       “ว้าย”
       มือถือของจิตรวรรณตกพื้น แตก กระจาย จิตรวรรณเดินไปเหยียบและขยี้ด้วยความแค้น ศยามตกใจ
       “คุณจี๊ด ใจเย็นๆก่อนนะ...อย่าให้มิตรภาพของเราต้องพังเพราะความโกรธ ความไม่มีสติแบบนี้เลย”
       “เออฉันมันไม่มีสติ ฉันมันไม่มีอะไรดี กลับไป ไป๊ ไป๊”
       จิตรวรรณตะโกนไล่ศยามและมารศรี เหมือนหมาบ้า ป้าเพ็ญ สำรวย แช่มวิ่งออกมา
       “คุณหนูจี๊ด เกิดอะไรขึ้นคะ”
       “แช่ม ไล่พวกนี้ไปให้พ้น ไม่งั้น ฉันเอาแกตาย ไป๊”
       “คร้าบ”
       “ดิ่ง เราไปกันเถอะ ไม่กลัวหมาบ้ากัดเอาหรือไง”
       มารศรีลากศยามไปขึ้นรถ ศยามยังมองจิตรวรรณตลอดเวลาด้วยความเสียใจ ศยามขึ้นรถไปกับมารศรี รถออกตัวไป จิตรวรรณถอดรองเท้า ไล่ปาอย่างบ้าคลั่ง
       “ไปให้พ้น ไอ้คนเลว เลวทั้งผู้ชายผู้หญิง ชั่ว ไปให้พ้น”
       จิตรวรรณยืนหมดแรง ร้องไห้อยู่หน้าบ้าน ศยาม เห็นจิตรวรรณยืนเหนื่อยหอบห่างออกไปเรื่อยๆ
      
       รถของมารศรีจอดกลางซอย ศยามเปิดประตูรถลงมา มารศรีตามลงมา
       “เดี๋ยวศรีไปส่งที่บ้านไงคะ ดิ่ง ขึ้นรถเถอะค่ะ อย่าใจน้อยสิคะ”
       ศยามหยุด หันไปมองมารศรี
       “ถ้าคุณยังไม่เลิกยุ่งกับผม...ผมจะทำให้คุณอยู่ที่บ้านเราไม่ได้”
       “แลกกันป่ะล่ะ พ่อคุณก็อาจจะตายวันพรุ่งนี้เลยก็ได้ เพราะถูกฉันปั่นหัวจนเครียด หัวใจวายตายเรื่องคุณ”
       ศยามมองหน้ามารศรี จุก แค้น พูดอะไรไม่ออกที่มารศรีเอาชีวิตของพ่อมาต่อรอง ศยามหันเดินออกไป มารศรีตะโกนตาม
       “ยังไง คุณก็หนีฉันไปไม่พ้นหรอก ถ้าฉันไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าใครจะได้”
       ศยามยังเดินไม่หยุด อย่างเจ็บแค้น มารศรีเจ็บใจศยามมาก หยิบมือถือขึ้นมากดเบอร์
       “แผนของคุณได้ผลดีเกินคาดนะคุณเทวัญ...”
      
       จิตรวรรณเดินปาดน้ำตาเข้ามา เจอวันดียืนรออยู่แล้ว
       “จี๊ด”
       “ค่ะแม่...”
       “ไม่มีใครรักและจริงใจกับลูกเท่ากับตาเทวัญอีกแล้วนะ”
       จิตรวรรณเงียบ
       “คนอื่นเข้ามาหาลูกเพราะหวังผลประโยชน์ทั้งนั้น ถ้าลูกใจอ่อน ลูกก็จะพบแต่ความเสียใจ...ตัดใจจากนายดิ่งซะ แล้วเดินหน้าต่อไป”
       จิตรวรรณปากแข็ง
       “จี๊ดไม่ได้รู้สึกอะไรกับนายนั่นสักหน่อย ไม่เห็นจะต้องตัดใจอะไร ขอตัวนะคะ”
       จิตรวรรณเดินขึ้นไป วันดีมองตามอย่างเป็นห่วงลูก
      
       จิตรวรรณเข้ามาตีหมอน ทั้งฟัด ทั้งเหวี่ยงด้วยความโมโห
       “ไปตายซะทั้งคู่นั่นแหละ ไปตายซะ”
       จิตรวรรณร้องไห้อย่างเจ็บปวด
       ศยามลงนั่งอย่างเปลี่ยวเหงา เสียใจอยู่เพียงลำพัง ในมุมมืดของบ้าน เขาเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และเจอทางตัน
       “จะมีวันที่เราจะเข้าใจกันได้มั้ย...คุณจี๊ด...”
      
       วันใหม่...มารศรีประคองเศกลงนั่งพัก หลังจากกลับมาจากโรงพยาบาล ศุวิมลถือของมาส่งให้ แม่บ้านรับมา
       “นี่ถุงยาคุณพ่อ...ดูด้วยนะว่าต้องทานอะไรตอนไหนบ้าง เผื่อฉันไม่อยู่...มารศรีแทรกขึ้นทันที
       “เอามานี่ ฉันจะดูแลเรื่องยาของคุณเศกเอง คนอื่นไม่ต้องยุ่ง”
       ศุวิมลไม่พอใจที่มารศรีเสียงแข็ง
       “ศรีทำตามหน้าที่นะคะคุณศุ...เมื่อสามีไม่สบาย ภรรยาก็ต้องดูแล”
       “ก็ดีค่ะ...หวังว่าคุณศรีคงจะดูแลคุณพ่อจริงๆนะคะ ไม่ใช่แค่ตบตาไปวันๆ”
       เศกหันไปดุ
       “ยัยศุ”
       ศุวิมลอึ้ง
       “ให้โอกาสคุณศรีบ้างไม่ได้หรือไง”
       “คุณพ่อให้ไปคนเดียวเถอะค่ะ สำหรับศุ...ไม่มีวัน”
       ศุวิมลเดินออกไป เศกเครียดขึ้นมาอีก มารศรีรีบเอาใจ
       “เอาเถอะค่ะๆ ศรีไม่ติดใจอะไรหรอก ศรีเข้าใจคุณศุ คุณเศกก็ต้องเข้าใจนะคะ สัญญากับศรีนะคะว่าจะไม่คิดมาก”
       เศกยิ้มอย่างอ่อนโยน พยักหน้ากับมารศรีเป็นการยอมรับ
       “ดีมากค่ะ คนเก่งของศรี...พักแป๊บนะ ศรีจะจัดยาก่อนอาหารมาให้ รอแป๊บนะคะ”
       “อย่าไปนานนะ”
       “แหม...อยู่ในบ้านเดียวกันแท้ๆนะคะ ไม่หายไปไหนหรอกน่า”
       มารศรีหอมแก้มให้กำลังใจเศก แล้วเดินออกไป ยิ้มกริ่ม เศกมองตามมารศรีทั้งรักทั้งหลงเมียสาว
       ศุวิมลแอบมองอย่างเสียใจและผิดหวังที่พ่อหลงมารศรี
       ศยามคุยมือถืออยู่หน้าอู่ซ่อมรถเล็กๆที่เจ้าของกำลังจะเซ้งให้ ยอดชายและเจ้าของอู่รถกำลังคุยกันอยู่ที่มุมหนึ่ง
       “ว่าไง...ศุ”
       “พี่ดิ่งอยู่ไหน”
       “พี่มาทำธุระ มีอะไร”
       “คุณพ่อกลับบ้านแล้วนะ”
       “ก็ดีแล้ว พรุ่งนี้พี่จะได้ออกมาเลย”
       “พี่ดิ่งจะปล่อยให้ศุรับมือกับนังแม่เลี้ยงอสรพิษนั่นคนเดียวได้ไง รู้มั้ยเมื่อกี้นะ...”
       ศยามไม่อยากฟังเรื่องมารศรีอีก เดินไปหายอดชายและยัดมือถือใส่มือยอดชาย
       “คุยแทนผมที”
       ยอดชายรับมางงๆ
       “คุยกับใคร อะไร ยังไง”
       ศยามไม่สนใจ เดินไปคุยกับเจ้าของอู่
       “ผมตกลงเซ้งอู่นี่ครับ ต้องวางเงินเลยใช่มั้ย”
       ยอดชายเดินออกไปคุยโทรศัพท์ของศยาม โดยที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองคุยกับใคร
       “ฮัลโหลครับ...”
       ศุวิมลอึ้ง
       “เสียงนายยอดชายนี่...”
       “ก็เสียงผมสิครับ...” ยอดชายจำเสียงได้ว่าเป็นเสียงศุวิมล “หรือคุณศุวิมลคิดว่าเป็นเสียง” ยอดชายเก๊กเสียงหล่อพันธมิตร “เอ่อ...เสียงใครเหรอครับ เอ่อ...”
       “ทะลึ่ง ฉันจะคุยกับพี่ชายฉัน”
       “คุณดิ่งติดธุระ ให้ผมคุยแทน”
       “ธุระอะไรนักหนา ที่สำคัญกว่าเรื่องผู้หญิงอสรพิษนั่น หา”
       ยอดชายหูแทบแตก เอามือถือออกห่างหูตัวเองทันที ศยามเข้ามาเอามือถือคืนไปพูดเอง
       “พี่ไม่อยากฟังเรื่องของมารศรี...แค่นี้นะ พี่มีธุระ”
       ศยามรีบกดวางสาย แต่ก็เปลี่ยนใจ
       “ปิดเครื่องเลยดีกว่า”
       ยอดชายเห็นดีด้วย
       “ดีครับ...ไม่งั้น หูตึงแน่ๆ”
       ศยามเดินออกไปหาเจ้าของอู่ ยอดชายตามไป ศุวิมลหงุดหงิดมาก
       “พี่ดิ่งอ่ะ...ไปไหนทำอะไรก็ไม่ยอมบอกกันบ้างเลย”
       
source: manager.co.th

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น