วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555

อ่านข่าวชี้ศูลย์ฯเชียงใหม่ส่งกลิ่นเน่าเสนอ"ยิ่งลักษณ์"กำจัดเหลือบ


รัฐบาลชุดปัจจุบันประกาศให้ธุรกิจการจัดประชุม สัมมนา นิทรรศการ และการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (ไมซ์) เป็นส่วนหนึ่งที่จะผลักดันรายได้ท่องเที่ยวไทยถึง 2 ล้านล้านบาทในปี 58 ซึ่งโครงการก่อสร้างศูนย์การประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รับผิดชอบ เป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ฝันว่า จะผลักดันเป็นศูนย์กลางการประชุมของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ได้แก่ ไทย ลาว พม่า กัมพูชา เวียดนาม และจีน ทว่าความฝันจะไม่มีวันเป็นจริงแน่ นอน หากไม่มีขั้นตอนลงมือทำ!…ที่ผ่านมา มีคำถามจากภาคเอกชนถึงอนาคตศูนย์ประชุมฯ ซึ่งยังดูล่องลอย หลายคนอดกังวลไม่ได้ว่า ศูนย์ประชุมฯ ที่ลงทุนมหาศาลจะกลายเป็นอาคารร้าง ราวกับนำเงินแผ่นดินไปตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ให้พรรคการเมืองบางพรรคกอบโกยผลประโยชน์ ที่ผ่านมาการก่อสร้างศูนย์ประชุมฯ สำเร็จไปกว่า 90% แล้ว เหลือเพียงการตกแต่งภายใน การจัดหาครุภัณฑ์ แต่สาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้อง เช่น ถนน ระบบไฟฟ้า ประปายังไร้อนาคต ล่าสุด กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพิ่งของบประมาณปี 56 จากรัฐบาลไป 290 ล้านบาท โดย 190 ล้านบาท ใช้ก่อสร้างโรงเก็บขยะ ที่พักคนงาน โรงซ่อมอุปกรณ์เครื่องมือ รวมถึงส่วนที่เกี่ยวข้อง และอีกส่วนใช้จัดซื้อครุภัณฑ์ อีก 100 ล้านบาท ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จ้างเอกชนมาดูแลศูนย์ประชุมฯ ชั่วคราวปีต่อปี ระหว่างรอหาผู้บริหารตัวจริงร่วมทุน ซึ่ง 100 ล้านบาทนี้ รวมค่าไฟฟ้า ประปาและการดูแลส่วนอื่นด้วย โดยมีกระแสข่าวลือหนาหูว่า บริษัท ไร้ท์แมน ซึ่งสนิทสนมฝ่ายการเมืองจะได้ดูแลชั่วคราว “ณรงค์ คองประเสริฐ” ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า อยากให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ หาบุคลากรที่มีความสามารถมาบริหารจัดการศูนย์ประชุมฯ เชียงใหม่ระยะยาว แทนจ้างบริษัทมาดูแลชั่วคราว เพราะเอกชนห่วงความต่อเนื่องการบริหารจัดการ โดยเฉพาะการทำตลาด หากใช้วิธีจ้างบริษัทแบบปีต่อปีไปก่อน 2 ปี จึงร่วมลงทุน บริษัทที่มาบริหารจัดการจริงคงทำการตลาดไม่ทันรับงานปี 58 ที่ไทยร่วมเออีซี เพราะงานระดับนานาชาติ ใช้เวลา 1-2 ปีตัดสินใจเลือกที่ประชุม แถมผู้ร่วมลงทุนอาจต้องปรับปรุงระบบภายในอีกมาก แทนที่รัฐบาลจะลงทุนปรับปรุงโครงสร้างภายในตอนนี้ เร่งหาบริษัทบริหารจัดการระยะยาว ให้บริษัทลงทุนระบบภายในแทนเลยจะได้ไม่เปลืองงบรัฐ “ที่ผ่านมาโครงการของภาครัฐในเชียงใหม่ ที่สร้างตึก อาคาร มักมีปัญหาการบริหารจัดการ สร้างขึ้นมาสิ้นเปลืองงบ ไม่เกิดประโยชน์ เอกชนก็ไม่อยากให้ศูนย์ประชุมฯ เชียงใหม่เป็นแบบนั้น จึงอยากเห็นคนที่เคยบริหารศูนย์ประชุมมาแล้วมาบริหารงาน และถ้าเป็นไปได้อยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคนเชียงใหม่ ให้ความสำคัญกับศูนย์ประชุมฯ มาดูแลเรื่องนี้มากขึ้น อย่าปล่อยให้กระทรวงใดกระทรวงหนึ่งรับผิดชอบและทอดทิ้งโครงการที่เอกชนใช้เวลากว่า 10 ปีผลักดัน” “สุเมธ สุทัศน์ ณ อยุธยา” นายกสมาคมส่งเสริมการประชุมนานา ชาติไทย (ทิก้า) ระบุว่า ก่อนสร้างศูนย์ประชุมฯ จนถึงระหว่างสร้าง ไม่ว่าเอกชนจะเสนอแนะอะไร ภาครัฐไม่เคยฟัง ดังนั้นคงไม่สนใจศูนย์ประชุมฯ นี้แล้ว เพราะ เมื่อพิจารณาโครงสร้างของศูนย์ประชุมฯ ไม่ได้ตอบรับการจัดงานประชุมนานาชาติเลย ไม่มีเครื่องมือใช้งานรองรับ โอกาสที่ตลาดนานาชาติจะไปใช้บริการแทบไม่มี เอกชนจึงสรุปว่าอนาคตคงไม่สามารถใช้ศูนย์ประชุมฯ นี้เป็นแม่เหล็กดึงงานนานาชาติได้ โครงการศูนย์ประชุมฯเชียงใหม่ สร้างขึ้นด้วยจุดประสงค์ที่ดี แต่อาจล้มเหลวได้เพราะไร้ทิศทางในการปฏิบัติ หากกระทรวงการท่องเที่ยวฯ รู้ตัวว่าไม่ถนัดบริหารจัดการ ต้องส่งต่องานให้ผู้ที่มีประสบการณ์บริหารศูนย์ประชุมฯ ทำ หรือหากให้เหตุผลว่ากำลังร่างทีโออาร์หาผู้ร่วมทุนในอนาคตต้องใช้เวลา เพื่อความโปร่งใสและประโยชน์ของรัฐ ก็ควรให้สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) เกี่ยวพันโดยตรงกับการทำตลาดไมซ์ รับผิดชอบการบริหารงาน ได้แต่ภาวนาว่า ผู้ดูแลโครงการจะทำทุกขั้นตอนให้ดีและโปร่งใส!!! คงไม่มีประชาชนคนไหน อยากเห็นรัฐบาลนำเงินภาษีที่เรียกเก็บได้จากหยาดเหงื่อแรงงานของตัวเอง ไปถลุงเล่นอย่างไร้ค่า โดยที่ประเทศชาติไม่ได้อะไรกลับมาเลย. source: dailynews.co.th

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น