วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555

อ่านละคร มนต์รักตลาดสด ตอนที่ 2

 ตลาดสดยามเช้าวันนั้นบรรยากาศคึกคักแสนวุ่นวาย คนเข็นผัก ส่งของ คนซื้อ คนขาย เดินกันให้ว่อนไปหมด บริเวณด้านหน้าตลาดเป็นวินมอเตอไซค์ อยู่หน้าร้านกาแฟของลั้นลา กะเทยถึกปากร้ายแต่นิสัยดีเลิศ
      
       ระหว่างนั้นคนขับมอเตอร์ไซค์วินยุ่งผลัดคิวกันเข้า ออก ต๋อยหนึ่งในวินมอเตอร์ไซค์ ทำหน้าทะเล้นหันมาสั่งเสียหญิงสาวที่รอคิวรถอยู่
       “พี่ไปแค่ปากซอย แป๊บเดียวก็มา รอนะจ๊ะ”
       หญิงสาวงงๆ ไม่โต้ตอบ
       “สัญญาสิจ๊ะว่าจะรอ”
       เป้ง หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ ขี่รถกลับเขาวินมาเห็นเข้า
       “ไอ้ต๋อย ยังไม่ออกอีก มัวทำอะไรอยู่วะ”
       “ใจเย็นๆ สิครับพี่เป้ง ทำการค้ามันก็ต้องมีจุดขายบ้าง”
       เป้งเข้ามาฟาดป้าบ
       “มึงจะเอาจุดขายหรือจุดตาย เดี๋ยวกูจัดให้”
       “โห พี่เป้ง พี่ไม่มีหัวการตลาดอ้ะ”
       “กูไม่มีหัวการตลาด แต่มึงกำลังจะมีหัวฟาดตลาด จะไปไม่ไป”
       “ไป! ฮึ่ยย!”
       ต๋อยออกรถไปบ่นด่าเป้งอุบอิบๆ เป้งเก๊กทันที
       “ให้มันรู้ซะบ้างว่าแถวนี้ใครแน่ ใครหล่อ ใครคุม ใครใหญ่”
       ทันใดนั้นรถเข็นคันหนึ่ง ใส่ของมาจนสูงมิดตัวคนเข็นก็พุ่งเข้าเสยเป้งเต็มๆ
       “เฮ้ย!”เป้งกระเด็นไป
       ดวง หนุ่มผู้ถูกเอาตัวมาทิ้งไว้ที่ตลาดสดสร้อยเพชรตั้งแต่แบเบาะ โตขึ้นมาแบบขาดๆ เกินๆ ด้วยฝีมือพ่อค้าแม่ค้า มีหน้าที่ดูแลรับใช้ไปทั่วตลาด เป็นคนซื่อมาก จิตใจดี เป็นขวัญใจสาวๆและกะเทย ชะโงกหน้าข้ามของบนรถเข็นมามอง
       “ขอโทษครับพี่ ผมไม่ได้คุม แต่ผมใหญ่ครับ เฮะๆๆ” ดวงชี้ของบนรถ “ของมันใหญ่”
       ขาดคำดวงก็เข็นรถเข้าตลาดไปด้วยลีลาเทพๆ
      
       ด้านในตลาด...เสียงดวงดังลั่นไปตามทางเดินในตลาด
       “ขอทางหน่อยครับ ขอทางหน่อย หลบด้วยครับ”
       ดวงเข็นรถเข็นของฉวัดเฉวียนมาตามทางที่เต็มไปด้วยผู้คน ลีลาการหักหลบ ออกตัว ถอยหลัง ซ้ายขวา ชำนาญมาก ดวงโซว์ลีลาตวัดจอดอย่างสวยงาม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอย่างเท่ห์ๆ เก๋ๆ ทันใดนั้นเสียงตะโกนด่าของอาซ้งก็ดังมา
       “ไอ้ดวง ไอ้ดวงซวย มึงจะเท่ห์อีกนานไหม ไข่กูจะเน่าอยู่แล้ว”
       ดวงสะดุ้ง ยิ้มแหะๆ
       “แหม ก็นิดหนึ่งน่ะครับ”
       ดวงยกแผงไข่ออกจากรถเข็นไปส่งที่แผง เจ๊แต๋วที่ขายผักอยู่ข้างๆหันไปถามอาซ้ง
       “ไข่ลื้อทำไมมันเน่าง่ายนักล่ะเฮียซ้ง หรือว่าลื้อไม่สบาย”
       อาซ้งสะดุ้ง
       “ฮึ่ย! อั๊วหมายถึงไข่นี่ นี่ นี่” อาซ้งชี้ที่ไข่บนแผง “ลื้อคิดไปถึงไหน”
       เจ๊แต๋วยิ้มๆ
       “เอ๋า จะไปรู้เหรอ เห็นบ่นแต่ไข่เน่าๆ”
       “ลื้อขายผักเน่าของลื้อไปเลย ไม่ต้องมายุ่งกับไข่อั๊วะ”
       เจ๊แต๋วค้อน
       “แหม...อยากยุ่งตายล่ะ ไข่คนแก่”
       ดวงยกไข่วาง
       “อ๊ะสิบแผง เหลืออีกสิบแผงนะ”
       ดวงจะรีบออกไป อาซ้งเรียกไว้
       “เดี๋ยวก่อนๆ ไอ้ดวง ลื้อยังไม่ได้กินข้าวเช้าใช่ไหม” อาซ้งโยนซาลาเปาให้ “เอาไปซาลาเปา”
       ดวงรับซาลาเปามาแล้วยกมือไหว้
       “ขอบคุณครับ”
       “นี่ด้วย”
       เจ๊แต๋วโยนนมกล่องให้
       “ขอบคุณครับเจ๊”
       ดวงรับนมหันกลับมาเจออั้ม เจ้าของแผงขายของใช้จิปาถะ ก็สะดุ้ง อั้มโพสสวยใส่ทันที
       “รับขนมจีบ กาแฟเย็นเพิ่มด้วยไหมจ้ะรูปหล่อ”
       “เอ่อ...ไม่ล่ะครับ แค่นี้ก็อิ่มแล้ว”
       ดวงรีบเข็นรถหนีแต่ไม่พ้น โดนอั้มตบตูดตามหลังไปหนึ่งที
       “แอร๊ยย น่ารว๊ากกกอ้ะ แค่ตบตูดก็เห็นหน้าลูกแล้วอ้ะ”
       ลั้นลาเอากาแฟเข้ามาส่งได้ยินเข้าพอดี
       “โอยั๊วะหวานๆ ของอาซ้ง” ลั่นลาส่งให้ “กาแฟเย็นใส่นมของเจ๊แต๊ว”
       อั้มหันไปถาม
       “แล้วเอสเป๊ดโซ่อะโกโก้ โลว์ชูก้าของฉันล่ะยะ”
       ลั้นลามองหน้า
       “อ้าว...ได้ยินแว่วๆ ว่าเห็นหน้าลูกแล้วไม่ใช่เหรอ คนท้องน้ำหน้าอย่างแกเขาห้ามกินกาแฟนะยะ กินได้แต่เพ็ดดีกรี เฮะๆๆ”
       ลั้นล้าเดินเชิดเริดสวยออกไป อั้มโกรธ
       “ฮึ่ยย นังลั้นลา อิจฉาฉันล่ะสิ ทำใจซะเถอะ ยังไงพี่ดวงก็เกิดมาเพื่อฉัน ไม่ใช่แก”
      
       ดวงกัดๆ ซาละเปากินอย่างรีบร้อน ผ่านเขียงหมู คว้าปังตอขึ้นสับเสียงโชะ พ่อค้าหมูที่หลับคาเขียงอยู่สะดุ้งตื่นหน้าเหวอ…ดวงกินไปเดินไป มาถึงหน้าร้านไหนก็มีลูกเล่นกับร้านนั้นๆ ชายหนุ่มเป็นขวัญใจและเบ๊ของตลาด...ดวงมาหยุดที่ด้านหน้าตลาดสด เจออาซัน ลูกชายอาซ้ง ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกัน กำลังขับซาเล้งมาส่งน้ำแข็ง
       “ว่าไงวะไอ้ดวง คึกคักแต่เช้าเชียวนะเว้ย”
       อีกด้านแหวว ลูกสาวเจ๊แต๋ว ในชุดนักศึกษาเดินเข้ามา
       “ไม่มีใครเขาขี้เกียจเหมือนแกหรอก”
       ซันมองแหววหยันๆ
       “แหม นี่ก็ปากหวานแต่เช้า ปากอย่างนี้สิถึงเรียนไม่จบสักที”
       แหววฉุนกึก
       “ไอ้ซัน แกพูดดีๆ นะ”
       “ดีๆ น่ะเขาเอาไว้พูดกับแฟน แต่กับเพื่อนอย่างแก พูดอะไรก็ได้ตามสันดาน เฮะๆๆ”
       “ฮึ่ยย”
       แหววจะเอาหนังสือตบ ดวงรีบห้าม
       “เฮ่ย...แกสองคนนี่ทะเลาะกันตั้งแต่เกิด ยังไม่เบื่ออีกเหรอวะ”
       แหววกับซันพูดพร้อมกัน
       “ไม่เบื่อ”
       ดวงหน้าเหวอ
       “อ้าว…”
       แหววมองหน้าดวง
       “ฉันควรจะถามแกมากว่านะ แกโตที่นี่ อยู่ที่นี่ นอนที่นี่มายี่สิบกว่าปี แกไม่เบื่อตลาดนี่บ้างเหรอ”
       ซันก็สงสัยเหมือนกัน
       “เออ นั่นดิ อย่างฉันทำงานเสร็จยังกลับไปนอนบ้านได้ แต่แกต้องอยู่ที่นี่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง กินก็กินของในตลาด เรียกว่าชีวิตทั้งชีวิตที่ผ่านมาจมอยู่แต่ในตลาดนี่แหละ ไม่เบื่อบ้างเหรอวะ”
       ดวงยิ้ม
       “ฉันไม่เคยเบื่อ แล้วก็ไม่คิดจะเบื่อด้วย สำหรับคนอื่นๆ ที่นี่มันก็แค่ตลาดสด แต่สำหรับฉัน มันคือบ้าน มันคือชีวิต ฉันจะเบื่อชีวิตตัวเองไปเพื่ออะไรกันล่ะ”
       แหววกับซันอึ้งๆ ไป ทันใดนั้นมีเสียงเจ๊แต๋ว ตะโกนดังออกมาจากด้านในตลาด
       “ไอ้ดวง ส่งของด้วย”
       “ครับผม” ดวงหันไปบอกเพื่อน “ฉันไปก่อนนะ ไว้เจอกัน”
       ดวงวิ่งกลับเข้าไปข้างใน…แหววกับซันมองตามไป ก่อนที่แหววจะเปรยๆขึ้น
       “ไอ้ดวงนี่มันโชคดีเนอะ มีแต่คนรัก ไม่เหมือนแกเลยว่ะ มีแต่คนรังเกียจ”
       “แหม...นางก็พูดเข้า” ซันเหลือบตาประณาม “นางสวย นางรวย นางเจิดสุดๆ อ้ะ”
       “แน่นอน ฉันไม่ถึกเหมือนแกนี่ ไปเรียนดีกว่า”
       แหววเชิดเชอะใส่ซันแล้วออกไป อาซันมองตามไปอย่างหมั่นไส้
       “เดี๋ยวเอาซาเล้งเสยซะเลย ปากดีนัก”
      
       ดวงวิ่งเข้ามาหาเจ๊แต๋วที่ยืนอยู่หน้ากล่องขนาดใหญ่ใบหนึ่ง
       “มาแล้วครับเจ๊”
       “รีบเอาไปส่งเร็วๆ เข้า ที่เดิมนะ ลูกค้า VIP เซเลปเบตี้ ห้ามช้าเด็ดขาด ไปส่งด้วยตัวเองนะ อย่าใช้ไอ้เปรตสองคนนั้นเป็นอันขาดฉันไม่ไว้ใจ รีบไปเร็วเข้า”
       “ครับเจ๊”
       เจ๊แต๋วส่งกุญแจให้
       “เอ้า...เอารถเฮียซ้งไป”
       ดวงอุ้มกล่องวิ่งออกไป
      
       ดวงวิ่งอุ้มกล่องออกมา ตรงไปที่มอเตอไซด์คันเก๋าเอาของขึ้นท้ายรถ มัดๆๆ แล้วสตาร์ทเครื่อง
       “วีไอพี ใครกันวะ วีไอพี สั่งแต่ของ ไม่เห็นเคยเจอหน้า”
       ดวงว่าแล้วก็ออกรถไป เป้งกับต๋อยที่กำลังประจำอยู่ที่วินมองตามไปอย่างหมั่นไส้ ต๋อยหันมาถามเป้ง
       “ทำไมมันไม่ใช้บริการเราอ่ะพี่”
       เป้งมองตามหลังรถมอเตอร์ไซค์ดวงไปอย่างครุ่นคิด
       “มึงอยู่เฉยๆ น่ะดีแล้ว ท่าทางมันเลิ่กลั่กๆ รีบร้อนออกอย่างนั้น ใครจะไปรู้ในกล่องอาจจะไม่ใช่แค่กับข้าวก็ได้”
       ต๋อยตาโต
       “หือ...มันขนของเถื่อนเหรอพี่ เอาแล้วเว้ยเฮ้ย! ในกล่องนั้นมันอาจจะเป็นยาเสพติด หรืออาวุธเถื่อนก็ได้ ใช่ไหมพี่”
       “กูว่าไม่ใช่ ไอ้ที่มึงพูดมา มันธรรมดาไป”
       ต๋อยงงๆ
       “อ้าว แล้วพี่คิดว่าอะไรล่ะ”
       “กูไม่ได้สนใจของในกล่อง กูสนใจไอ้คนสั่งของมากกว่า”
       ต๋อยไม่เข้าใจ
       “เอ้า...ทำไมล่ะพี่”
       “มันไม่เคยปรากฏตัว ไม่เคยทิ้งร่องรอย...กูจับตามานานแล้ว...เล่นสั่งทั้งของสดของคาว กลิ่นให้หึ่งไปหมดแบบนี้”
       ต๋อยฟังอย่างตื่นเต้นมาก...เป้งตาวาว
       “กูว่าแวมไพร์ชัวร์!”
       “เว้ออ...”
      
       ต๋อยมองเป้งอย่างเซ็งๆ หน่ายๆ หันไปเช็ดรถแทน
ดวงจอดรถหน้าบ้านหลังใหญ่ของคุณนายสร้อยเพชร เขาตรงไปกดออด ยื่นหน้าไปส่องดูที่ช่องประตูเล็ก เจอดวงตาของอีกฝั่งมองสวนมาพอดี ป้ะกันเข้าให้
       
       “เว้ย!”
       พะวงเปิดประตูออกมา
       “ตกใจอะไรยะ ไม่เคยเห็นคนรับใช้เหรอ”
       ดวงยิ้มแหยๆ
       “เอ่อ...ครับ ผมเอาของมาส่งครับ”
       พะวงมองๆ
       “เอามาครบรึเปล่า ต้องเช็คก่อน”
       พะวงเดินไปเช็ค
       “ครบแน่ครับ ทั้งเนื้อ ทั้งผัก แล้วก็เครื่องปรุง ตามใบสั่งทุกอย่างครับ”
       พะวงเช็คของ ดวงถามอย่างสุภาพ
       “เอ่อ ไม่ทราบว่าคุณเป็นแม่ครัวรึเปล่าครับ”
       “ถามทำไม”
       “ก็เห็นคุณสั่งของทุกวัน คุณต้องเป็นคนทำอาหารพวกนี้แน่ๆ จริงไหมครับ”
       พะวงยังไม่ทันได้ตอบ เสียงกรี๊ดของสายมุกจากในบ้านก็ดังมา
       “อ๊าย...ไฟไหม้...ไฟไหม้”
       ดวงหน้าตื่น
       “ไฟไหม้!”
       “อีกแล้วเหรอเนี่ย ฮื้อ”
       พะวงวิ่งกลับเข้าไป ดวงทำอะไรไม่ถูก จากเสียงโวยวายทำให้เขาตัดสินใจวิ่งตามเข้าไป
      
       เชฟฝรั่งวิ่งหูตาเหลือก แหกปากร้องลั่น ด้านหลังติดไฟออกมาจากบ้าน พะวงผงะ
       “ว้าย คุณเชฟคะ คุณเชฟไฟลุก”
       ดวงพุ่งเข้ามา
       “ไหนครับ ไฟไหม้ที่ไหนครับ”
       เชฟตะโกนลั่น
       “ไหม้ที่ไอนี่ไง ไหม้ขนาดนี้ยังไม่เห็นอีกเหรอ ยู ฟาย!”
       ดวงหน้าเหวอ
       “อ้าว...ด่ากันซะงั้น”
       พะวงตื่นตกใจ
       “ช่วยกันดับไฟก่อนสิ เร็วเข้า เดี๋ยวก็ไหม้ทั้งตัวตายกันพอดี”
       ดวงกับพะวงช่วยกันดับไฟให้เชฟ ดวงหันไปบอกพะวง
       “ไปเอาน้ำมาสิ”
       พะวงนึกได้ รีบวิ่งออกไป ดวงเข้าช่วยเชฟ
       “ยู หันหลัง”
       เชฟงงๆ
       “ฮะ”
       “บอกให้หันหลัง”
       ว่าแล้วดวงก็จับเชฟฝรั่งหันหลัง หันหน้าใส่ผนัง
       “หันหลัง แล้วอยู่นิ่งๆ อย่าดิ้นสิ ไฟมันยิ่งลาม”
       “โอ้ว พระจ้าว”
       สายมุกวิ่งออกมาหน้าตาตื่น
       “อ๊าย”
       สายมุกเห็นดวงกำลังใช้กำลังจับเชฟหันหลังและบังคับด้วยท่าทางแปลกๆ น่าเข้าใจผิด
       “เชฟ...แย่แล้ว” สายมุกมองดวงไม่ไว้ใจ “หน้าแปลกๆ ขโมย มันต้องเป็นขโมยแน่ๆ เลย”
       สายมุกหันไปคว้าไม้แถวนั้นแล้ววิ่งตรงไปที่ดวงกับเชฟทันที
       “ไอ้ขโมยบ้ากาม หยุดเดี๋ยวนี้นะ”
       สายมุกว่าแล้วก็ฟาดไม้ใส่ ดวงหันกลับมามองพอดีเห็นไม้ที่กำลังฟาดลงมา
       “เฮ้ย!”
       สายมุกฟาดเต็มๆ มือ ดวงหลบทัน สายมุกเลยเสียจังหวะ ฟาดวืดแล้วเสียหลักจะล้มลง ว้ายๆๆๆ
       “อ้าว คุณๆๆๆ”
       ดวงคว้าเอวสายมุกไว้ได้แล้วดึงให้หันกลับมาหน้าหญิงสาวเกือบชนเข้า กับหน้าชายหนุ่ม ทั้งสองสบตากัน วิ๊ง! พะวงไม่รู้เรื่อง หิ้วถังน้ำวิ่งมา
       “น้ำๆๆ น้ำมาแล้ว”
       พะวงสาดโครม น้ำถูกสาดเข้าใส่ดวงกับสายมุกเต็มๆ
       “อ้าว...คุณหนู!”
       ดวงชะงัก
       “คุณหนู”
       สายมุขโวยขึ้น
       “จะมาเรียกฉันทำไมเล่า รีบช่วยเชฟสิ”
       ทุกคนหันไปที่เชฟแล้วสะดุ้งโหยง ร้องออกมาพร้อมกัน
       “เชฟ!”
       เชฟเอาหลังตัวเองลงไปแช่ในบ่อปลาคาร์ฟเรียบร้อยแล้ว
      
       ภายในครัว ข้าวของเละเทะไปหมด พะวงทำความสะอาดจับเก็บของไปบ่นไป
       “ตกลงคุณหนูจะหัดทำอาหารหรือจะฆาตกรรมเชฟกันแน่คะ”
       สายมุกเถียงไม่ออก ดวงที่ช่วยเก็บของลอบมองบ่อยๆ พะวงบ่นไม่เลิก
       “นี่มันไม่ใช่ครั้งแรกนะคะ ที่การเรียนทำอาหารของคุณหนูทำให้ไฟไหม้บ้าน เดี๋ยวไหม้ตรงโน่น ตรงนี้ สุดท้ายไหม้ได้แม้กระทั่งครูสอน”
       สายมุกจ๋อยๆ
       “มันก็แค่อุบัติเหตุน่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
       “หยุดเถอะค่ะคุณหนู ขืนเรียนต่อไป พะวงว่าไม่ใครก็ใครต้องตายสักคนแน่ๆ ค่ะ” พะวงหันไปบอกดวง “พรุ่งนี้ไม่ต้องเอาของมาส่งแล้วนะ พอ เลิก จบกันแค่นี้”
       ดวงหน้าชะงัก
       “อ้าว…หมายความว่าผมไม่ต้องมาที่นี่อีกแล้วเหรอครับ”
       ดวงมองสายมุก พะวงพยักหน้า
       “ถูก...ไม่ต้องมา ไม่มีธุระอะไรต้องมา ระหว่างนายกับบ้านหลังนี้จบกันแล้ว”
       ดวงมองหน้าสายมุก สบตากัน…ดวงเสียดายที่จะไม่ได้เจอเธออีก
      
       รถหรูจอดที่หน้าตลาด...วิเชียรซึ่งเป็นคนขับรถรีบลงมาเปิดประตูให้คุณนายสร้อยเพชร
       “เชิญครับคุณนาย”
       คุณนายสร้อยเพชรมองเข้าไปในตลาด
       “ฉันจะเข้าไปไม่นาน รออยู่แถวนี้”
       “ครับผม”
       คุณนายสร้อยเพชรเดินเชิดเข้าไปในตลาด เป้งกับต๋อยประจำอยู่ที่วิน ต๋อยสะกิดเป้ง
       “พี่เป้ง คุณนายมา!”
       เป้งมองขยาดๆ
       “เอาแล้วเว้ยเฮ้ย ท่าทางจะเรื่องใหญ่เว้ย ออร่อเปล่งมาแต่ไกลเลย”
       ต๋อยร้อนใจ
       “เอาไงดีล่ะพี่”
       “ทำตามหน้าที่สิวะ กระจายข่าวก่อนเว้ย” เป้งป้องปากตะโกน “ฮองเฮาเสด็จแล้ว!”
      
       ภายในตลาดที่กำลังวุ่นวาย...ลั้นลากำลังชงกาแฟอยู่ได้ยินเสียงเป้ง รีบเงยหน้ามาเห็นเข้า ตาเหลือก
       “ฮองเฮาเสด็จ!”
       คุณนายสร้อยเพชรเดินผ่านหน้าไปพอดี ลั้นลารีบตะโกน
       “ฮองเฮาเสด็จแล้ว”
       พ่อค้าแม่ค้าทุกคนฮือกันขึ้นมาทันที รีบหันไปมอง อาซ้งหันมาบอกเจ๊แต๋ว
       “อาแต๊ว คุณนายสร้อยเพชรมา”
       เจ๊แต๋วไม่สนใจ
       “แล้วจะตื่นเต้นทำไม ไม่ใช่ดาราซะหน่อย ถ้าสรพงษ์ ชาตรีมาก็ว่าไปอย่าง”
       “โห...นี่ลื้อยังไม่ลืมอาสรพงษ์อีกเหรอ ตอนนี้อีแก่แล้วนา”
       “อั๊วจะลืมได้ยังไง สมัยนั้นนะ ใครๆ เขาก็พูดกันทั้งนั้นแหละว่าอั๊วเหมาะสมกับเขา”
       อาซ้งจ้องหน้า
       “ใครพูดวะ”
       คุณนายสร้อยเพชรเดินเข้ามาถึงพอดี
       “เป็นยังไงจ้ะ ค้าได้ขายดีกันอยู่ใช่ไหมจ๊ะ”
       ทุกคนพูดพร้อมกัน
       “จ้าาาาาา”
       “ได้ยินอย่างนี้ก็ชื่นใจ คิดไม่ผิดเลยที่เอามรดกที่ดินผืนนี้มาทำเป็นตลาดสดเปิดให้ชาวบ้านแถวนี้ได้เข้ามาทำมาหากิน”
       เจ๊แต๋วเซ็งเลย
       “เอาแล้วไง...เริ่มแล้วไง”
       “ได้มีเงินรายได้เข้าตัว เลี้ยงลูกเต้าให้เติบโต” คุณนายสร้อยเพชรมองลั้นลา “มีเงินไปผ่าตัด
       แปลงเพศ โอ๊ย! ชื่นใจจริงๆ ทุกชีวิตลืมตาอ้าปากกันได้ ก็เพราะตลาดสดสร้อยเพชรของฉันแท้ๆ เลย”
       เจ๊แต๋วบ่นเบาๆ
       “ทวงบุญคุณตลอด”
       “ถ้าไม่มีตลาดสดแห่งนี้ คิดดูสิว่าชีวิตทุกคนจะพินาศแค่ไหน แต่อย่านะอย่าได้คิดว่าเป็นหนี้บุญคุณฉันเป็นอันขาด แค่คิดว่าชีวิตนี้ถ้าไม่มีฉันก็อดตายกันแน่ๆ เท่านั้นก็พอ คิดเท่านั้นพอนะจ้ะ”
       เจ๊แต๋วเบ้หน้า
       “อื้อหือ...”
       อั้มเข้ามาออดอ้อนเอาใจ
       “คุณนายขา ตกลงว่าคุณนายจะไม่คิดค่าเช่าพวกเราแล้วใช่ไหมคะ”
       คุณนายสร้อยเพชรถอนใจ ท่าทางหนักใจมากๆ
       “ที่ฉันต้องมาวันนี้ก็เพราะเรื่องนี้น่ะแหละ”
       อั้มดีใจ
       “แอร๊ยย คุณนายจะให้พวกเราค้าขายฟรีๆ แล้วใช่ไหมคะ โอ้ว ไม่ต้องจ่ายค่าเช่ารายเดือนรายปีแล้ว แอร๊ยย ทำไมคุณนายใจดีอย่างนี้ล่ะคะ” อั้มยกมือไหว้ “ขอให้ได้ผัวเด็กสมใจนะคะคุณนาย”
       ทุกคนสาธุตาม คุณนายสร้อยเพชรยกมือห้าม
       “หยุด !”
       ทุกคนสะดุ้งหุบปากกันหมด
       “ฉันไม่ได้ถ่อมาให้พวกแกอวยพร แต่จะมาบอกให้รู้ว่า ฉันจะขึ้นค่าเช่า”
       ทุกคนร้องออกมาพร้อมกัน
       “ฮ้า...ขึ้นค่าเช่า”
       “ถูก! ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไปฉันจะขึ้นค่าเช่าอีก 50 % ใครจ่ายได้ก็ขายต่อไป ใครไม่มีปัญญาจ่ายก็เก็บข้าวของออกไปขายที่อื่น”
       ทุกคนอึ้งตะลึงงัน
       “ส่วนใครมีปัญหาขอให้ยกมือขึ้น”
       อาซ้งยกมือขึ้นทันที คุณนายสร้อยเพชรมองหน้าแล้วสั่งเสียงเฉียบ
       “แล้วก็เอามือนั้นปิดปากตัวเองไว้”
       อาซ้งเอามือที่ยกปิดปากตัวเองทันที
       “ดีมาก แค่นี้นะ สวัสดี”
       คุณนายสร้อยเพชรเดินเชิดออกไป...ทุกคนมองตามไปแล้วมองหน้ากันอึ้งๆ เจ๊แต๋วหันมาด่าอาซ้ง
       “เอามือออกได้แล้ว จะโง่ถึงไหน”
       “ก็มันลืมตัว”

source: manager.co.th

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น