วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555

อ่านละคร ชิงนาง ตอนที่ 20 จบบริบูรณ์ (เพิ่มเติม)

รุ่งเช้า ขณะที่เมฆาเดินถือกระเป๋าออกมาเพื่อจะไปทำงาน เผอิญเจอกับภูผา สองคนชะงักมองหน้ากัน เมฆาจ้องหน้าภูผาตลอดเวลาขณะพูด
      
       “ตลอดเวลาที่พี่ยังจะอยู่ในบ้านหลังนี้ พี่จงอย่าลืมว่าผมกับเดือนเป็นสามีภรรยากัน เพราะฉนั้น ผมหวังว่าจะไม่เห็นพี่แอบหยอกล้อกับเมียผมอย่างมีความสุขเหมือนเมื่อคืนนี้ อีก”
       “เมฆา” ภูผาคราง
       เมฆาชี้หน้าทันที “ถ้ายังจะมีอีก ผมเอาพี่ตายแน่”
       พูดจบเท่านั้น เมฆาก็เดินออกไปทันที ภูผามองตามทั้งเซ็งและหน่าย
      
       ศรีดาราซึ่งยังอยู่ในชุดไว้ทุกข์ กำลังยื่นสร้อยมุกเส้นเล็กๆ เรียบๆ ดูเป็นผู้ดีให้โสภี รับขวัญสะใภ้ หน้าตาของศรีดารายังดูเศร้าโศกอยู่
       “รับไว้สิจ๊ะ..โสภี”
       โสภีอึ้ง ปลายตามองพฤกษ์เป็นเชิงถาม “เอ่อ...”
       “คุณแม่ครับ ผมกับโสภีไม่ได้ต้องการ...”
       ศรีดาราสวนคำ “แม่อยากให้โสภีเอาไว้ใส่งานศพคุณพ่อ”
       สองคนอึ้งกันไปเลย
       “แขกเหรื่อเค้าจะได้ไม่ดูแคลนลูกสะใภ้คนโตของแม่” ศรีดารายิ้มให้
       พฤกษ์อึ้ง “คุณแม่”
       “รับไว้เถอะ...โสภี”
       โสภีมองหน้าพฤกษ์อีก พฤกษ์พยักหน้า โสภีกราบศรีดารา
       “มาสิ...แม่จะใส่ให้”
       ศรีดาราใส่สร้อยให้โสภีพลางเมียงมอง แล้วจู่ๆ ก็ถอนหายใจ
       “คิดๆ แล้วก็อดนึกถึงหนูโฉมไฉไลไม่ได้นะ อย่างน้อย...เธอก็เคยอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเรามา แต่จู่ๆ ก็หายสาบสูญไป” พูดพลางส่ายหน้า “ช่างเวทนาจริงๆ”
       พฤกษ์อึ้ง โสภีมองอย่างเห็นใจสามี
      
       ชอุ่มสะดุ้งโหยงเพราะบ้าจี้ โดนหนูน้อยจี๋เอวเอา มีวงเดือนนั่งอยู่ด้วย
       “อุ๊ย! รถไฟปู้น..ปู้น!! คุณหนูน้อยอย่าค่ะ”
       หนูน้อยขำก๊าก จี้อีกแรงๆ “รถไฟอะไร”
       “อ่ะ! รถไฟปู้น..ปู้นน” ชักจะเหนื่อย “คุณหนูน้อยพอแล้วค่ะ ชอุ่มเหนื่อย ชอุ่มแก่แล้วนะคะ”
       หนูน้อยขำก๊ากๆ วงเดือนอดขำด้วยไม่ได้
       ภูผาเดินเข้ามาเห็น “พอได้แล้วหนูน้อย แกล้งคนแก่บาปกรรมนะครับ”
       “บาปกรรมมันเป็นยังไงเหรอคับพ่อผา” เด็กชายตัวน้อยถาม
       “เอ่อ...” ภูผาอึกอัก
       วงเดือนช่วยอธิบาย “ถ้าคนเราทำสิ่งไม่ดี จะมีเจ้าบาปกรรมเนี่ยตามมาลงโทษเราทีหลังน่ะจ้ะ”
       “งั้นพ่อผาก็เป็นเจ้าบาปกรรม เพราะพ่อผาชอบลงโทษเวลาหนูน้อยเกเร” หนูน้อยเจื้อยแจ้ว
       ภูผาร้อง “อ้าว”
       วงเดือนกลับเห็นงามด้วย “ถูกต้องจ้ะ! อย่างนั้นเลยแหละ”
       ภูผาร้องอีก “เอ๊า”
       ชอุ่มยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “คุณหนูน้อยนี่ทั้งน่ารัก ทั้งฉลาดมากเลยนะคะ แต่ยิ่งโตก็ยิ่งไม่เหมือนคุณภูผา สงสัยจะไปเหมือนทางแม่ซะมากกว่า เฮ้อ! คิดถึงคุณหนูนาเธอนะคะ”
       ภูผาอึ้ง วงเดือนสงสารช่วยหาทางเปลี่ยนเรื่อง
       “เอ่อ..หนูน้อยจ๊ะ ไปเที่ยวทะเลกันมั้ยจ๊ะ”
       ภูผาหันขวับ ไม่อยากไป จะบอกปฏิเสธ เพราะเพิ่งโดนเมฆาตอกย้ำ แต่ไม่ทันหนูน้อยดีใจลั่น
       “เย้! เที่ยวทะเล! ไชโย้ หนูน้อยจะไปเล่นทะเล หนูน้อยจะไปเล่นทราย”
       “แต่พ่อผาว่า...”
       ไม่ทันแล้ว หนูน้อยฉุดแขนวงเดือนวิ่งตื๋อออกไปเลย
       “หนูน้อยจะไปเที่ยวทะเลกับแม่เดือน เย้ๆๆๆ”
       ภูผาตะโกนเรียก “หนูน้อย”
       “แฮ่ๆ ไม่ทันแล้วค่ะ...คุณพ่อผา” ชอุ่มว่ายิ้มขำๆ
      
       ภูผากลุ้มใจ
วงเดือนจูงมือหนูน้อยมาหยุดยืนตรงชายหาดทรายสีขาวสะอ้าน หนูน้อยตาโตร้อง “ว้าว” กระโดดโลดเต้นไม่เคยเห็นทะเลมาก่อน
      
       “โอ้โห! ทะเล! เย้ๆๆๆ”
       หนูน้อยวิ่งตื๋อไป กระโดดๆๆ เล่นคลื่นทันที
       วงเดือนวิ่งตามอย่างเป็นห่วง “หนูน้อย! อย่าไปลึกนะจ๊ะ อยู่แค่ตื้นๆ เข้าใจมั้ย”
       “คับ! เข้าใจคับ” แล้วหนูน้อยก็จับวงเดือนกระโดดๆๆ เล่นคลื่นสนุกสนาน
       สักพักภูผาก็ก้าวมาหยุดยืนมองอยู่ไกลๆ
       หนูน้อยหันมาเห็น ก็ตะโกนเรียก “พ่อผา” กวักมือเรียก “มาเร็ว”
       ภูผาโบกมือว่าไม่เอา!! ไม่ไป!!
       หนูน้อยดึงวงเดือนมากระซิบ วงเดือนตกใจ ส่ายหน้า หนูน้อยทำท่าเจ้าเล่ห์ คะยั้นตะยอบอกว่า ‘เหอะน่า..เหอะน่า’
       วงเดือนอมยิ้ม ‘โอเค.ก็ได้’ แล้ว 2 คนก็วิ่งมาลากภูผาไปผลักลงทะเล 2 คนขำกันใหญ่ จากนั้นก็แกล้งกันนัวสนุกสนานทั้ง 3 คน
      
       ไม่นานนักหนูน้อยนั่งก่อกองทราย ถัดไปมีวงเดือนนั่งคุยอยู่กับภูผาท่าทีสบายๆ
       “เราไม่ได้มาทะเลกันนานมากแล้วนะคะ”
       ภูผายิ้มเยื้อน พยักหน้า “ใช่....ตั้งแต่อรุณจากไป”
       วงเดือนถอนใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเอ่ยขึ้น
       “ตั้งแต่เล็กจนโต คุณทั้ง 4 แล้วก็เดือน มีทะเลเป็นสนามเด็กเล่น”
       ภูผานึกตาม ยิ้มๆ
       “ว่ายน้ำแข่งกันทีไร คุณก็ชนะตลอด แต่คุณก็ชอบแกล้งแพ้ให้คุณอรุณอยู่เรื่อย”
       ภาพเหตุการณ์ในอดีตตอนพี่น้องแข่งกันว่ายน้ำผุดขึ้นมาในความคิดสองคน
       ภูผาก้มหน้ายิ้มๆ
       วงเดือนว่าต่ออีก “แถมยังแกล้งเดือนตั้งหลายครั้ง” ภาพตอนภูผาแกล้งพาเดือนตกแพ ลงไปให้ดอกไม้ใต้น้ำผุดขึ้นมาแว๊บๆ “นึกๆ ดูแล้วเหมือนมันเพิ่งผ่านไปเมื่อวานนี้เองนะคะ”
       ภูผาพูดขึ้นมาลอยๆ “วันเวลาแห่งความสุขมันมักจะผ่านไปไวเสมอ”
       วงเดือนพูดลอยๆ เช่นกัน “แต่ทำไมความทุกข์มันก็มักจะเข้ามา...อยู่กับเรา...นานเหลือเกิน”
       ภูผาชะงัก พลางหันมามองหน้า วงเดือนพูดลอยๆ อีก
       “ทุกครั้งที่เดือนนึกถึงความทรงจำที่ทำให้เดือนมีความสุขทีไร มันก็มักจะมีคุณอยู่ในความทรงจำนั้นเสมอ...”
       ภูผาคราง “เดือน”
       วงเดือนหันมายิ้มให้เศร้าๆ “และเดือนก็ยังจะเก็บมันไว้ตลอดไปค่ะ”
       ภูผามองจ้องอยากขยับเข้าไปกอดเหลือแสน แต่...ทำได้แค่ห้ามใจ ถอนหายใจออกมาคอตก
       วงเดือนมองภูผา ก่อนจะเบือนหน้าไปมองทะเล
      
       ยิ่งใกล้กลับยิ่งเจ็บ! สองคนอยู่ใกล้กันแท้ๆ แต่ทำอะไรอย่างใจปรารถนาไม่ได้  

บ่ายคล้อย ทั้งสามคนวิ่งกันเข้ามาในบ้านแสนสมุทร ภูผาบ่นอุบ
       
       “แย่แล้วเห็นมั้ย? กว่าจะอาบน้ำเสร็จ เดี๋ยวก็ไม่ทันงานคุณปู่กันพอดี เพราะหนูน้อยคนเดียวเลยเห็นมั้ย?”
       “โธ่! อย่าว่าลูกเลยค่ะคุณภูผา หนูน้อยเพิ่งเคยเห็นทะเลเป็นครั้งแรก ก็ให้แกได้สนุกเต็มที่เถอะค่ะ” วงเดือนปราม
       เสียงเมฆาแหลมเข้ามา “สนุกกันพอรึยัง”
       ภูผาและวงเดือน ตะลึง เมฆาแต่งตัวเรียบร้อยเตรียมไปงานศพพ่อที่วัดแล้ว
       “คุณเมฆา...”
       ไม่พูดพร่ำ เมฆาพุ่งเข้าต่อยภูผาซัดไม่ยั้ง วงเดือนร้องห้าม หนูน้อยยืนตกใจ
       “ฉันบอกแกแล้วใช่มั้ยไอ้พี่ผา! ฉันเอาแกตายแน่”
       วงเดือนรวบตัวเมฆาไว้ แยกออกมาจนได้ “พอเถอะค่ะคุณเมฆา คุณภูผาไม่เกี่ยว เดือนเอง...เดือนผิดเอง”
       เมฆาชะงัก “อะไรนะ”
       “เดือนเป็นคนชวนหนูน้อยกับคุณภูผาเอง”
       “เดือน! เดือนเป็นเมียผมนะ”
       “ค่ะ! ถ้าจะลงโทษก็ลงโทษเดือน! เพราะเดือนผิดเอง”
       เมฆาฉุนขาด “เดือน” โมโหแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่ฮึดฮัด “หึ้ย”
       เมฆายัวะมากจะเดินหนี หนูน้อยมายืนขวางไว้
       หนูน้อยจ้องหน้าโกรธประสาเด็ก “คุณอาต่อยพ่อผา ผมเกลียดคุณอา” ชี้หน้า “เจ้าบาปกรรมจะลงโทษคุณอา”
       เมฆาตาลุกวาว โกรธจัด
       วงเดือนรีบรวบตัวหนูน้อยมากอดไว้ “หนูน้อย! พูดอย่างนั้นกับคุณอาเมฆา ไม่ได้นะจ๊ะ”
       เมฆาหันไปบอกภูผาอย่างมีอารมณ์ “พี่ผา...ช่วยอบรมแล้วก็สั่งสอนลูกชายพี่ด้วยสิว่า ถ้าไม่มีอาเมฆาช่วยมันไว้ตั้งแต่เกิด ป่านนี้มันคงไม่มีโอกาสมายืนชี้หน้าด่าอามันแบบนี้ได้หรอก”
       พูดจบเมฆาก็เดินออกไปทันที
       หนูน้อยวิ่งไปกอดพ่อผา “พ่อผา..เจ็บมั้ย”
       “ไม่! พ่อผมไม่เจ็บครับ! เป็นลูกผู้ชายต้องอดทน เข้าใจมั้ย”
       “เข้าใจคับ”
       วงเดือนจ๋อย “เดือนขอโทษนะคะ..คุณภูผา”
       “เดือน...” ภูผาตัดสินใจแล้ว “ทางที่ดี..เราอยู่ห่างกันไว้จะดีกว่า”
       “คุณภูผา” วงเดือนคราง
       “ฉันเป็นห่วงเธอนะ..วงเดือน”
       วงเดือนอึ้ง ภูผามองวงเดือนอย่างร้าวร้านใจ ยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บ
      
       ในห้องนอนคืนนั้น บรรยากาศอึมครึม ตึงเครียด เมฆาเข้ามาจ้องหน้าถามอย่างเอาเรื่อง
       “ลืมมันไม่ลงจริงๆ เหรอ..ไอ้พี่ผาน่ะ”
       วงเดือนควบคุมอารมณ์ พยายามอธิบายอย่างใจเย็น “คุณเมฆาคะ..เดือนเห็นว่าหนูน้อยไม่เคยเห็นทะเลมาก่อนเลยในชีวิต เดือนก็แค่อยากพาเค้าไปเที่ยว ไปเล่นน้ำทะเลก็เท่านั้นเอง”
       เมฆาไม่เชื่อ “แน่ใจนะว่าเท่านั้นเอง”
       วงเดือนบอกน้ำเสียงหนักแน่น “เดือนแน่ใจมากค่ะ แล้วเดือนก็คิดว่าคุณเมฆาน่าจะรู้ดีว่าเดือนเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น ถ้าเดือนรับปากว่าจะทำ เดือนก็จะทำอย่างดีที่สุด เพราะฉนั้นอะไรที่เดือนเคยรับปากคุณ ก็ขอให้คุณเชื่อใจเดือน....คุณไม่เชื่อใจเดือนใช่มั้ยคะ” ท้ายประโยควงเดือนย้อนถาม
       เมฆาจ๋อย เปลี่ยนท่าทีไปเลย “ไม่นะ..ผม..ผมเชื่อใจเดือน” เสียงเข้มขึ้นมาอีก “แต่คนที่ผมไม่เชื่อน่ะ...คือไอ้พี่ผา”
       วงเดือนอึ้งไปนิด “แค่เรา 2 คนเชื่อใจกันและกัน มันก็น่าจะพอแล้วไม่ใช่เหรอคะ”
       เมฆานิ่งงันไป รวบตัวเดือนมากอด มองหน้า “ผมขอโทษ...ผมรักคุณมากนะเดือน ต่อไปนี้ผมจะเชื่อใจเดือน นะ”
       วงเดือนพยักหน้า เมฆายิ้มร่ากอดวงเดือนแน่นขึ้นที
       เมฆาพูดจากใจ “ขอแค่รู้ว่าคุณรักผมคนเดียว ต่อให้ต้องตายวันนี้พรุ่งนี้ ผมก็นอนตายตาหลับแล้ว”
       วงเดือนตกใจ ผละออกทันที “คุณเมฆา ทำไมพูดแบบนี้คะ ไม่เอานะคะ ห้ามพูดแบบนี้อีกเด็ดขาด”
       เมฆายิ้ม พูดเย้า “ห้ามผมไม่ได้หรอก ผมจะพูดบ่อยๆ”
       “คุณเมฆา! ทำไมล่ะคะ” วงเดือนฉงน
       “ก็เวลาผมพูดแบบนี้ทีไร คุณจะตกใจแล้วก็เป็นห่วงผมมาก ผมอยากให้คุณเป็นห่วงผมบ่อยๆ”
       วงเดือนอ่อนอกอ่อนใจ “คุณเมฆา...”
       เมฆากอดกระชับ “ผมไม่ตายหรอก” พลางยิ้ม “ผมยังตายไม่ได้! มีเมียสวยและแสนดีอย่างนี้ จะรีบตายได้ไง จริงมั้ย”
       วงเดือนส่ายหน้า “คุณเมฆา...”
       เมฆาหอมแก้มวงเดือนฟ่อดแล้วกอดแน่น
      
       วงเดือนแอบถอนใจเฮือกใหญ่ เมฆายิ้มชื่นใจจริงๆ สบายใจแล้ว

 กลางดึกคืนนั้น เมฆานอนหลับสนิทอยู่บนโซฟาตัวเดิม จู่ๆ มีเลือดหยดลงมาที่ใบหน้า เมฆารู้สึกตัว ค่อยๆ ลืมตาตื่น เอามือแตะเลือดมาดู พอเห็นเป็นเลือดก็ตกใจ เหลือบตามองข้างๆ เห็นผีโฉมไฉไลก้มมองอยู่ น้ำตาหยดเป็นสายเลือด
      
       “เฮ่ย”
       แต่ไม่ทันที่เมฆาจะลุกหนี โฉมไฉไลก็เอามือบีบคอเมฆาแน่น ถามย้ำคำเดิม
       “ฆ่าโฉมทำไม เมฆาฆ่าโฉมทำไม”
       เมฆาร้องลั่น “ปล่อย! ปล่อยๆๆ ฉันไม่ได้ฆ่า ฉันไม่ได้ฆ่า”
       โฉมไฉไลคำราม “แกฆ่าฉัน! แกฆ่าฉัน!”
       “ออกไป๊ ฉันไม่ได้ฆ่าแก ออกไป๊”
      
       จังหวะนั้นวงเดือนเขย่าตัวเมฆาอยู่ “คุณเมฆาคะ คุณเมฆา”
       แรงเขย่าทำให้เมฆาตื่นขึ้น สีหน้าตกใจมาก มองทุกอย่างงงๆ ตั้งสติ
       “เดือน! ผมไม่ได้...” เกือบหลุกคำว่า “ฆ่า” แต่ชะงักก่อน
       “คุณไม่ได้..อะไรคะ” วงเดือนฉงน
       “คือ..ผม..ผมไม่ได้เป็นอะไร”
       “ไม่ได้เป็นอะไร? คุณบีบคอตัวเองแน่นแล้วก็ร้องเสียงดังจนเดือนตื่นนะคะ”
       “ผม..ผมขอโทษ..คือ..ผมหายใจไม่ค่อยออก”
       วงเดือนกังวล รู้สึกเป็นห่วง “คุณเป็นอะไรกันแน่คะเนี่ย เดือนเคยบอกแล้วว่าน่าจะไปตรวจร่างกายให้ละเอียดซะหน่อยดีกว่า”
       เมฆาตัดบท “ได้...ได้..ไว้ผมจะไป”
       “สัญญานะคะ...หลังเสร็จงานคุณพ่อแล้ว คุณต้องไปหาหมอ ถ้ายังดื้อเดือนจะพาคุณไปเอง” วงเดือนว่า
       “ได้...ได้...ผมสัญญา”
       วงเดือนมองนิ่ง เมฆาถอนใจโล่งอก ที่แท้เป็นแค่ฝัน!!
      
       ตอนเย็นวันต่อมา ทุกคนอยู่ที่งานเผาศพอนุต ในขณะที่แขกเหรื่อทยอยกลับหลังวางดอกไม้จันทน์ ครอบครัวแสนสมุทรเดินเรียงลำดับวางดอกไม้จันทน์ไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย เริ่มจากศรีดารา พฤกษ์ ภูผา หนูน้อย เมฆา วงเดือน โสภี ชอุ่ม ทุกคนล้วนอยู่ในอาการโศกเศร้า
      
       ทุกคนเดินลงมาหยุดยืนมองควันไฟ
       “ถ้าชาติหน้ามีจริง” สะอื้น “ขอให้เราได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันอีกนะคะ คุณ”
       ศรีดาราสะอื้นแล้วก็เป็นลมล้มพับ พฤกษ์รับร่างศรีดาราไว้ได้
       “โสภี ชอุ่ม ช่วยกันพาคุณแม่ไปพักก่อนเร็ว” พฤกษ์บอกเร็วๆ โสภีกับชอุ่ม ถลาเข้าไป
       วงเดือนบอก “เดี๋ยวเดือนไปดูท่านเองค่ะ”
       เสียงคุ้นหูของโฉมไฉไลแหลมเข้ามา “แกจะไปไหน...นังวงเดือน?”
      
       ทุกคนชะงักกึก หันมามองตามเสียง เห็นโฉมไฉไลแต่งตัวปอนๆ ไม่เหลือเค้าสาวสวยไฮโซ แทบจำไม่ได้ ยืนจังก้าอยู่
       ทุกคนตื่นตะลึงร้องออกมาพร้อมๆ กัน “โฉมไฉไล” / “คุณโฉม”
       “ยังจำฉันกันได้เรอะ”โฉมไฉไลจ้องเมฆาเขม็ง “แล้วคุณล่ะยังจำได้รึเปล่าว่าเคยทำอะไรกับฉันไว้!! ในบ้านริมทะเลนั่น”
       เหตุการณ์ตอนเมฆากรอกยาขับเลือด และทิ้งโฉมไฉไลไว้คนเดียวโผล่ขึ้นมาเป็นฉากๆ ราวสายน้ำไหล
       เมฆาปฏิเสธเสียงแข็ง “เธอพูดอะไรของเธอโฉมไฉไล ฉันไม่รู้เรื่อง”
       โฉมไฉไลสวนคำทันที “โกหก! ฉันรอโอกาสนี้มานานแล้ว วันที่พวกแสนสมุทรมารวมกันอยู่พร้อมหน้า พร้อมตา ถึงแม้ว่าพ่อพวกแกจะเพิ่งเผา แต่ก็ดี ฉันจะลากไส้ลูกชายคนดีของมันออกมาแฉให้มันรู้ซะตรงนี้แหละ และฉันก็จะฆ่าทุกคน!”
       จู่ๆ โฉมไฉไลก็ควักปืนออกมา ทุกคนสะดุ้งเฮือก “ฆ่าแก ไอ้เมฆา!! แก!! นังวงเดือน แกด้วย ไอ้ภูผา แล้วก็ฆ่าๆๆๆๆๆ ฆ่าทุกคน ฆ่าให้หมดแสนสมุทร เหมือนกับฉัน ที่ไม่เหลือใครเลย ไม่เหลือใครเลยเพราะแก เพราะแกคนเดียว..ไอ้เมฆา”
       วงเดือนพูดด้วยดีๆ “ใจเย็นๆ นะคะคุณโฉมไฉไล เราทุกคนเป็นห่วงคุณนะคะ”
       โฉมไฉไลหันขวับตวาดลั่น “หุบปาก! เลิกทำตัวเป็นนางฟ้าผู้แสนดีได้แล้วนังวงเดือน แกมันก็นังผู้หญิงหลายใจ หว่านเสน่ห์ไปทั่ว ไอ้พวกผู้ชายบ้านนี้มันก็โง่กันทั้งบ้าน ยอมให้มันปั่นหัวจนโงหัวไม่ขึ้น”
       “โฉมไฉไล..มีอะไรค่อยๆ พูดค่อยๆ จากันนะ..วางปืนลงก่อน” ภูผาอ่ยขึ้น
       “แกก็เหมือนกันไอ้ภูผา ทำไมไม่เอานังวงเดือนออกไปซะให้พ้นๆ ชีวิตฉัน แกปล่อยมันไว้ให้เป็นเสี้ยนหนามหัวใจฉันทำไม”
       “โฉมไฉไล! คุณต้องการอะไร” เมฆาถามกร้าว
       “ชีวิตแกไง! ฉันต้องการชีวิตแก แล้วก็ญาติพี่น้องแกทุกคน! ทุกคนในแสนสมุทร!”
       วงเดือนยังพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบพูดดีด้วย “คุณโฉมคะ..พวกเราไปทำอะไรให้คุณเจ็บแค้นขนาดนั้นคะ?”
       โฉมไฉไลตะคอกใส่หน้า “ก็ถามผัวแกเอาเองสินังโง่”
       วงเดือนหันขวับ เมฆาอึ้ง พูดไม่ออก
       “ไงล่ะ ไม่มีใครรู้กันล่ะสิ โง่กันทั้งบ้าน โง่ที่นึกว่าคุณหมอเมฆาเป็นผู้ชายแสนประประเสริฐเป็นความหวังเดียวของแสน สมุทร จะมีใครรู้บ้างว่าที่แท้แล้วมันเป็นยิ่งกว่าปีศาจ ยิ่งกว่าซาตานจากนรก”
       เมฆาตวาดลั่น “หุบปากได้แล้วโฉมไฉไล”
       โฉมไฉไลสวนกลับ “แกนั่นแหละหุบปาก ไอ้เมฆา ฟังไว้นะนังวงเดือน ฟังไว้ก่อนที่แกจะตาย จะได้รู้ไว้ว่าผัวแกมันเลวทรามขนาดไหน”
       เมฆาร้องเสียงหลง “ไม่”
       โฉมไฉไลบอกชัดถ้อยชัดคำ “ไอ้เมฆามันทำฉันท้อง”
       วงเดือนกับภูผาอึ้ง
       เมฆาเถียงลั่น “ไม่จริง”
       โฉมไฉไลสวนคำ “จริง! มันทำฉันท้อง แล้วมันก็วางแผนจะฆ่าฉันกับลูก”
      
         “อะไรนะ” วงเดือนตะลึงแทบช็อก!!

source: manager.co.th   

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น