วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2555

อ่านละคร ท่านชายในสายหมอก ตอนที่ 4

  ปีเตอร์ล็อคประตูห้องบิสเนสเซ็นเตอร์ในโรงแรมก่อนจะเดินเข้าไปหา พัชรีที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ด้วยท่าทางคล่องแคล่ว พัชรีหยิบรูปมาใส่เครื่องสแกนเนอร์ สักพักรูปก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ปีเตอร์พิจารณา
       "ดูไม่ออกซักนิด" ปีเตอร์บอก
       "เดี๋ยวลองเพิ่มแสง กับความคมชัดดูนะเพคะ" พัชรีเสนอ
       ไม่ทันรอคำตอบ พัชรีก็ทำตามสัญชาติญาณนักข่าว โดยมีปีเตอร์ยืนอึ้งอยู่ใกล้ๆ
       "รูปมันมืดเกินไปจะทำอะไรก็ยาก" พัชรีบอก
       "งั้นลองดูซิว่ามีอะไรพอเป็นจุดสังเกตได้บ้าง"
       "จุดสังเกตของอะไรเหรอเพคะ"
       "เราอยากรู้ว่าผู้ชายในรูปนั้นคือใคร"
       พัชรีหันมาถามด้วยความอยากรู้ "ท่าทางเค้าจะเป็นคนสำคัญของเจ้าชายมากเลยนะเพคะ หรือว่าเจ้าชายจะเป็น เก้งกวาง!!”
       ปีเตอร์ออกท่าสาว "อ๊ายยย ตายแล้ว ความลับแตก ตะเองรู้ได้ไง จะบ้าเหรอ ฉันไม่ใช่เก้งกวาง ทำไปอย่างเดียวไม่ต้องถาม"
       พัชรีมองปีเตอร์แบบค้อนๆ ก่อนจะลองขยายรูปเพื่อดูหน้าแต่ก็เห็นไม่ชัด พัชรีขยายรูปไปเรื่อยๆ ปีเตอร์สังเกตเห็นแหวนบนมือของคนในรูป
       "เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน ไหนลองขยายซิ นั่นคืออะไร"
       พัชรีขยายรูปก่อนจะเห็นแหวนบนนิ้วมือของชายคนนั้นอย่างชัดแจ๋ว
       "แหวนนี่เพคะ ท่าทางจะไม่ใช่แหวนธรรมดาๆซะด้วย มรกตเม็ดเบ้อเริ่ม" พัชรีบอก
       พัชรีครอปภาพเฉพาะแหวนก่อนจะสั่งปริ้นออกมาให้ปีเตอร์
       "นี่เพคะ เจ้าชายรูปที่พอจะเห็นได้"
       "ดีมากพัชรี เธอนี่เก่งกว่าที่ชั้นคิดไว้มากเลย ไม่นึกเลยนะว่าแม่บ้านโรงแรมในประเทศไทยจะเก่งขนาดนี้ เห็นทีจะต้องขอยืมตัวไปประเทศนิวแลนด์บ้างแล้ว"
       พัชรีหัวเราะแหะๆก่อนจะรีบถามด้วยความอยากรู้ "แล้วเจ้าชายจะทำยังไงต่อเพคะ"
       "เราก็จะต้องหาคนที่ใส่แหวนนี้ให้เจอน่ะซิ"
       ปีเตอร์มองรูปด้วยความกังวล ส่วนพัชรีมองปีเตอร์ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
      
       รถสองแถวแล่นมาจอดหน้าตลาด ผู้คนทยอยลงจากรถรวมทั้งโซว์ที่ลงมาเป็นคนสุดท้าย โซว์มองไปรอบๆ เห็นบรรยากาศที่ไม่คุ้นเคย เขาถอนหายใจแล้วล้วงมือลงไปในกระเป๋าก็พบว่าตัวเองมีเศษเงินไม่กี่บาท โซว์จ่ายค่ารถสองแถวก่อนจะมองเงินที่เหลืออยู่น้อยนิดอย่างอ่อนใจ
       "ไม่น่าหยิ่งเลยเรา เฮ่อ เงินแค่นี้จะไปทำอะไรได้"
       โซว์เก็บเงินเข้ากระเป๋ากางเกงแล้วเดินเข้าไปในตลาดโดยไม่มีจุดหมาย
      
       ที่ท่ารถสองแถว แก้วกับยอดกำลังนั่งเล่นหมากฮอสกันอยู่ รถจากกรุงเทพแล่นเข้ามาจอด ผู้โดยสารทยอยลงมาจากรถ รุ้งใส่เสื้อสีแจ๋นและสวมแว่นตาดำเดินหน้าจ๋อยๆ อายๆ ลงมาจากรถ เธอรีบลงจากรถแล้วพยายามไม่ให้ใครเห็น ยอดที่กำลังเล่นหมากฮอสอยู่หันมามอง พอเห็นเสื้อสีแสบของรุ้งก็จำได้
       "พี่แก้ว นั่นมันนังรุ้งนี่ ไหนว่ามันจะไปทำงานที่กรุงเทพแล้วไง" ยอดว่า
       "แล้วทำไมมันต้องใส่แว่นดำด้วยวะ" แก้วสงสัย
       "ถ้าอยากรู้ ก็ต้องตามไปดูแล้วลูกพี่"
       แก้วกับยอดรีบเดินไปดักหน้ารุ้งไว้ รุ้งเดินก้มหน้าก้มตาพอเห็นทั้งสองก็ตกใจรีบหันหลังจะเดินหนี แต่แก้วและยอดก็เดินอ้อมมาขวางไว้
       "จะไปไหนละจ๊ะแม่รุ้งเจ็ดสี ไปกรุงเทพแล้วไม่ได้ดีเหรอจ๊ะถึงได้รีบกลับมา" แก้วถาม
       "แล้วมันเรื่องอะไรของพวกแก หลีกไปเลย ชั้นจะกลับบ้าน"
       "แหม..ไม่ยักกะรู้ว่าที่กรุงเทพเค้ามีแฟชั่นฮิต ทาสีช้ำไว้ที่ปากแล้วก็รอบตาด้วย"
       "ไม่ใช่สีหรอกพี่ รอยอย่างนี้ชัดเลยว่า โดนตบมาแน่" ยอดบอก
       ยอดพูดเสร็จแก้วก็รีบดึงแว่นตาดำที่รุ้งใส่ออก ทำให้เห็นว่ารอบตารุ้งก็เป็นรอยช้ำ
       "จริงด้วยว่ะ นังลิเกหลงโรงไปโดนคนกรุงเทพตบมาจริงด้วยว่ะ" แก้วบอก
       "แก ไอ้ทุเรศ ไอ้ชั่ว ไอ้บ้า แกเอาแว่นชั้นคืนมานะ" รุ้งโมโห
       "เรื่องอะไรจะให้ คนเค้าจะได้เห็นว่านางเอกลิเกหลงโรงอย่างแก โดนตบมา" แก้วตะโกน "เจ้าข้าเอย มาดูเร็วนางเอกลิเกโดนตบมา ตาเขียวปูดเลย"
       แก้วร้องตะโกนก่อนจะวิ่งไปพร้อมกับแว่นของรุ้ง รุ้งรีบตามด้วยความโมโห
       "ไอ้บ้า เอาแว่นชั้นคืนมานะ ไอ้บ้า"
       แก้วกับยอดเอาแว่นรุ้งวิ่งหนี รุ้งพยายามวิ่งตามเพื่อเอาคืน
      
       แก้วและยอดวิ่งหนีพร้อมถือแว่นตาของรุ้งผ่านโซว์ที่เดินมาจากอีกทาง โซว์หันไปมองตามยอดและแก้วแล้วส่ายหน้าก่อนจะหันหน้าจะเดินกลับไปทางเดิม แล้วชนเข้าอย่างจังกับรุ้งที่วิ่งมา
       "หยุดนะ ไอ้พวก ....โอ๊ย !!!” รุ้งชนกับโซว์อย่างจังแล้วก็ล้มลงไป
       โซว์ตกใจรีบเข้าไปประคอง
       "คุณ คุณ เป็นอะไรมากรึเปล่า คุณ ....”
       รุ้งได้สติก็หันหน้ามาจะด่าโซว์
       "เดินยังไง ทำไมไม่ดูตา ...”
       พอรุ้งได้เห็นหน้าหล่อใสสไตล์อินเตอร์ของโซว์ก็ถึงกับพูดไม่ออกเนื้อตัวอ่อนระทวย
       "เป็นอะไรรึเปล่า" โซว์ถาม
       รุ้งเพ้อ "เจ้าชาย เจ้าชายของรุ้ง"
       โซว์มองหน้ารุ้งด้วยความตกใจ เขารีบปล่อยมือที่ประคองรุ้งแล้วยืนขึ้น
       "นี่เธอ ..เธอรู้ได้ยังไง" โซว์ตกใจ
       รุ้งไม่ทันระวังจึงหล่นไปก้นกระแทกกับพื้น
       "โอ๊ย !! เจ้าชายทำไมทำกับรุ้งอย่างนี้ละคะ โอ๊ย !”
       โซว์รีบเข้าไปดูรุ้ง รุ้งมองโซว์อย่างปิ๊งสุดๆ 
 โซว์กินก๋วยเตี๋ยวด้วยความหิวสุดๆ ในขณะที่รุ้งนั่งมองหน้าโซว์อย่างเคลิบเคลิ้มมีความสุข
       "เสวยเยอะๆนะเพคะเจ้าชาย จะหมี่แห้งหมี่น้อย เล็ก ตับ ยำไม่งอก สั่งได้เต็มที่งานนี้รุ้งไม่อั้น"
       โซว์มองหน้ารุ้งด้วยความสงสัย "ขอบใจนะ แต่ทำไมต้องเจ้าต้องเรียกชั้นว่าเจ้าชายด้วย หรือว่าเธอ ...”
       "แหม..ก็หล่อขนาดนี้ ไม่ให้เรียกเจ้าชายแล้วจะเรียกอะไรล่ะคะ"
       โซว์ขำ "อ๋อ ที่เรียกเจ้าชาย เพราะว่าเรา ...หล่อเหรอ"
       รุ้งขำด้วย "ไม่ใช่หล่อธรรมดาด้วยนะ หล่อมากเลย หล่อเด้งกระแทกใจรุ้งตรงๆเลย .. ว่าแต่เจ้าชายเป็นไงมาไง ถึงได้มาเดินอยู่แถวนี้ล่ะเพคะ"
       "เอ่อ คือ เรามาเที่ยว แล้วทำกระเป๋าหาย พาสปอร์ตก็หาย จะกลับบ้านก็ไม่ได้ เงินก็ไม่มี ตอนนี้กำลังหาที่พัก เธอพอจะรู้มั้ยว่าแถวนี้มีที่ไหนที่ชั้นพอจะพักได้ฟรีๆบ้าง"
       รุ้งมองโซว์ตาโต
       "เรื่องนั้นไม่ยากถามถูกคนแล้วล่ะค่ะ รุ้งมีที่ที่สบายที่สุด ติดคลอง บรรยากาศดีมากๆ แถมเจ้าของบ้านก็สวยมากๆด้วย"
       "ที่ไหนเหรอ"
       รุ้งภูมิใจนำเสนอ "บ้านรุ้งเอง"
       โซว์ได้ยินถึงกับสะดุ้งแต่ไม่ทันได้พูดอะไร รุ้งลุกขึ้นแล้ววางเงินไว้บนโต๊ะ
       "เถ้าแก่เก็บตังค์" รุ้งรีบดึงมือโซว์ไป "เรารีบไปกันเถอะ"
       "เดี๋ยว เดี๋ยว"
       "ไม่ต้องเดี๋ยว รีบไปเถอะ .....รุ้งรอไม่ได้แล้ว"
       โซว์ไม่ทันได้ตอบอะไรเขาก็ถูกรุ้งลากออกไปเสียแล้ว
      
       ยายขมและขิงช่วยกันพับชุดลิเกและเก็บเครื่องลิเกใส่กล่องพลาสติกอยู่ที่บ้าน ขิงมองชุดด้วยความเสียดาย
       "แน่ใจแล้วนะยายว่าจะเลิกจริงๆ" ขิงถาม
       "ก็เออซิวะ คนดูก็ไม่อยากดู คนเล่นก็ไม่มีใจ แล้วจะให้ทำไปทำไมวะ" ยายขมบอก
       "ชั้นก็แค่เสียดาย"
       ยายขมมองชุดลิเกอย่างเศร้า "ฮึ ..แกมันแค่เสียดาย แต่ข้าต้องเสียทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตที่สร้างมา"
       ยายขมหยิบชุดลิเกขึ้นมามองด้วยความเศร้า ขิงมองยายขมด้วยความสงสาร ตุ๊กวิ่งเข้ามาด้วยท่าทางเหนื่อย
       "หาไม่เจอเลยแม่ ไอ้โซ่มันหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ไวชะมัด" ตุ๊กรายงาน
       "แล้วน้าไปตามที่ไหนบ้างล่ะ" ขิงถาม
       "ไปที่ตลาด ท่ารถ ร้านค้า โรงแรม เกสต์เฮ้าส์ วัด โรงเรียน ห้องน้ำ บ้านยายแช่ม ร้านเจ๊คง หอพักตี๋เล็ก"
       "เฮ้ย!! พอได้แล้ว พล่ามไปเรื่อยๆ ชั้นว่าโซ่มันคงจะให้เพื่อนคนรวยมารับไปแล้วมั้ง" ขิงบอก
       "ไม่ต้องไปสนใจมัน ถ้ามันเลือกจะไปก็ต้องไปให้รอด มันตัดสินใจจะไปของมันเอง" ยายขมพูด
       ยายขมนึกเป็นห่วงโซว์นิดๆ แต่ทำเป็นสนใจเครื่องลิเก ตุ๊กถอนหายใจด้วยความกังวลก่อนจะหันไปมองหน้าขิงที่เป็นกังวลไม่น้อยเหมือน กัน
      
       รถสองแถวแล่นมาจอดหน้าบ้าน รุ้งลากโซว์ลงมาจากรถ โซว์เงยหน้าไปมองพอเห็นว่าคือบ้านของยายขมเขาก็ตกใจ โซว์กำลังจะอ้าปากพูด แต่รุ้งพูดแซงขึ้นมาก่อน
       "ไงล่ะ ถึงกับอ้าปากค้างไปเลย บอกแล้วว่าบ้านของรุ้งทั้งสวย หลังก็ใหญ่ มีคลอง มีสวน โรแมนติกสุดๆ เหมาะที่เราจะฮันนีมูน"
       โซว์มองรุ้งอย่างงงๆ รุ้งยิ้มอายๆ แล้วรีบบอก
       "ไม่ใช่ พักผ่อน ...เข้ามาเร็ว ..เดี๋ยวชั้นจะพาไปดูห้องหอของเรา"
       "เดี๋ยวก่อน นี่มันบ้านของ ...”
       รุ้งรีบพูด "บ้านชั้นเอง เจ้าชายไม่ต้องห่วงหรอกน่า ชั้นอยู่กับยายสองคน ยายชั้นก็หูตาฝ้าฟาง เค้าไม่สนใจเรื่องของเราอยู่แล้ว"
       "ไม่ใช่อย่างนั้น คือว่า ...”
       "ชั้นไม่คิดค่าเช่า อยู่ฟรีไม่มีชาร์จ ขอแค่รักรุ้งน้อยๆ แต่นานๆเท่านั้นก็พอ"
       รุ้งหัวเราะชอบใจอย่างมีความสุข เธอรีบดึงโซว์เข้าไปในบ้านโดยไม่สนใจจะฟังโซว์แม้แต่น้อย
      
       รุ้งลากโซว์เข้ามาในบ้าน รุ้งมองไปรอบๆ แต่ไม่เห็นใคร โซว์พยายามดึงดันไม่ยอมจะเข้าไป
       "นี่เธอปล่อยชั้นเถอะ ชั้นมีเรื่องจะบอกเธอจริงๆ คือว่าชั้น ...”
       "แหม.ไม่ต้องรีบร้อนหรอกตัวเอง ไว้ไปบอกในห้องนอนก็ได้"
       "แต่ว่า ชั้น …" โซว์มองไปรอบๆ อย่างกลัวๆ
       รุ้งตะโกนเรียก "ยาย ..ยาย...ยาย อยู่ไหน"
       "คงไปขายขนมที่ตลาดแล้วมั้ง"
       "งั้นก็ดีน่ะซิ แสดงว่าตอนนี้" รุ้งหันไปมองโซว์ตาหวาน "เราก็อยู่กันแค่สองต่อสองน่ะซิ"
       รุ้งเดินถอยหลังก่อนจะดึงโซว์เข้ามาใกล้ เธอพาโซว์เดินไปหน้าห้องแล้วผลักประตูออกแล้วผลักโซว์เข้าไปในห้อง โซว์ไม่ทันระวังตัวก็ถึงกับล้ม รุ้งมองหน้าโซว์แบบหื่นๆ ก่อนจะทำท่านางแมวยั่วสวาทย่างเข้าไปหา
       "เจ้าชายรู้มั้ยว่ารุ้งน่ะ ฝันจะไปอยู่เมืองนอกมาตั้งนานแล้ว ถ้าเจ้าชายมาอยู่กับรุ้งแล้วนะ ต่อไปพารุ้งไปอยู่เมืองนอกด้วยได้ป่าว"
       "แล้วทำไมเธออยากไปอยู่เมืองนอกนักล่ะ" โซว์ถาม
       "ก็รุ้งดูจากหนังฝรั่ง เมืองนอกมีแต่ความสะดวกสบาย ผู้คนก็มีแต่หล่อๆสวยๆ รวยๆ ทั้งนั้นเลย"
       "มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดหมดหรอกนะ คนที่นั่นเค้าก็ต้องทำงานกันทั้งนั้น แล้วอีกอย่างถ้าเธอไม่ได้วีซ่า เธอก็ไปอยู่เมืองนอกไม่ได้หรอก"
       "ก็วีซ่าอยู่ตรงหน้ารุ้งแล้วไง รุ้งรู้นะถ้าเราได้เสียเป็นเมียผัวกัน รุ้งก็มีสิทธิจะไปอยู่เมืองนอกกับเจ้าชายด้วย มามะเรามาหลอมรวมกันเพื่อฝันของรุ้งจะกลายเป็นจริง"
       รุ้งไม่พูดพร่ำทำเพลง เธอเข้าไปกอดโซว์ก่อนยื่นปากหมายจะจูบโซว์
       โซว์ตกใจพยายามหันหน้าหนีก่อนจะผลักรุ้งออกแล้วร้องโวยวาย
       "ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยชั้นด้วย !!”  
ยายขม ตุ๊ก และขิงได้ยินเสียงโซว์ร้องโวยวายมาแต่ไกล
       "ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย ....”
       "พวกแกได้ยินเสียงอะไรมั้ย" ยายขมถามขิงกับตุ๊ก
       "เสียงสับหมู" ตุ๊กตอบ
       "หอมหมูสับ" ขิงต่อ
       ทั้งสามคนร้องออกมาพร้อมกัน "เยยยย!!”
       "เสียงเหมือนใครมาร้องขอให้ช่วย" ยายขมบอก
       "เสียงมันดังอยู่แถวๆนี้แหละแม่ แถมเสียงคุ้นๆนะแม่" ตุ๊กว่า
       ขิงและตุ๊กมองหน้ากันก่อนจะคิดได้พร้อมกัน
       "ไอ้โซ่ !”
       ขิง ตุ๊ก และยายขมรีบวิ่งออกไปตามต้นเสียงทันที
      
       ขิง ตุ๊ก และยายขมวิ่งหน้าตื่นเข้ามา พอมองเข้าไปในห้องทุกคนก็ต้องผงะและรีบเอามือปิดตา
       ยายขมอุทานออกมา "คุณพระ คุณเจ้า ผีป่าเทวดาช่วยลูกช้างด้วย !”
       ทั้งสามเห็นรุ้งพยายามจะเข้าไปกอดและจูบโซว์ แต่โซว์พยายามขัดขืนเต็มที่ ขิงกับตุ๊กปิดตาเพราะไม่กล้ามอง
       "ไอ้โซ่ ไอ้บ้า นายทำบ้าอะไรเนี่ย นายออกไปแล้วไม่ใช่เหรอ" ขิงว่า
       "อย่าเพิ่งถามอะไรเลย ช่วยผมด้วย ใครก็ได้ ช่วยเอาผู้หญิงคนนี้ออกไปที" โซว์โวยวาย
       "เอ้า ยืนบื้ออยู่ทำไมวะ เอ็งสองคนไปช่วยมันซิ" ยายขมสั่ง
       ตุ๊กและขิงรีบเข้าไปช่วยแยกรุ้งออกจากโซว์
      
       รุ้งมองขิงและตุ๊กด้วยสายตาค้อนประหลับประเหลิก แล้วเธอก็หันไปสบตาปิ๊งๆ กับโซว์อย่างออกนอกหน้า ยายขมหันมาเห็นก็โมโหหยิบไม้เกาหลังออกมาฟาดหัวรุ้งและโซว์คนละทีอย่างแรง
       "โอ๊ย !!” โซว์ร้อง
       "โอ๊ย !! ยายน่ะมาตีชั้นทำไม เจ็บนะ" รุ้งว่า
       "เจ็บซิดี แกจะได้จำว่าจะไม่ทำเรื่องอุบาทว์แบบนี้ในบ้านข้าอีก"
       "อุบาทว์อะไร ก็คนเค้ารักกันชอบกัน จะจู๋จี๋ดู๋ดี๋กันบ้างมันจะเป็นอะไรกันนักหนา"
       "รักกันชอบกัน แกไปรักกันกับมันมาแต่ชาติไหนวะนังรุ้ง" ยายขมถาม
       "ก็ตอนที่ชั้นไปกรุงเทพ ชั้นก็ไปเจอ ..." รุ้งหันไปถามโซว์ "เจ้าชายชื่ออะไรน่ะ"
       ตุ๊กตอบแทน "โซ่"
       "อ๋อ ๆๆ" รุ้งเล่าต่อ "ไปเจอ โซ่ เราสองคนก็รัก .." รุ้งนึกขึ้นได้" เย้ยยยย.... ทำไมน้าตุ๊กรู้จักชื่อเค้าล่ะ"
       "เอ้า ก็ชั้นกับไอ้ขิงเป็นเพื่อนมันน่ะซิ" ตุ๊กบอก
       "งั้นก็แสดงว่า ยาย ขิง แล้วก็น้าตุ๊ก รู้จักพระสวามีของชั้นแล้วน่ะซิ ดีเลยจะได้ไม่ต้องแนะนำตัวกันให้เสียเวลา"
       "ถวายบังคมเพคะเจ้าชายเจ้าหญิง" ตุ๊กนึกได้ "เยยย นังรุ้ง แกจะบ้าเหรอไงวะ"
       "ใช่ บ้า บ้าบอคอแตก มีแต่เอ็งคนเดียวนั่นแหละที่ไม่รู้จักพระสวามีของเอ็ง นังรุ้ง...หนอย..คิดจะไปก็ไป คิดจะกลับก็กลับ แถมกลับมายังมาทำอัปรีย์ในบ้านข้าอีก...อีนางเอกตกอับ" ยายขมว่า
       "ทำไมยายต้องมาว่ารุ้งด้วย อ๋อหรือว่ายายแอบชอบพระสวามีของรุ้ง"
       "ใช่ ข้าชอบมัน ถุย" ยายขมถุยออกม่าเต็มหน้ารุ้ง "พูดออกมาได้ บัดสี!! ข้าไม่ชอบพวกชอบกินเด็ก เปิดเนิสเซอรี่นะเว๊ย"
       "หัวใจรุ้งเป็นอิสระรุ้งอยากทำอะไรก็ได้ อยากจะรักใครก็ได้" รุ้งเข้าไปกอดโซว์ "ยายไม่มีสิทธิ์ยุ่ง"
       "เออกูไม่ยุ่งหรอก ...มึงอยากจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ ...กูไม่อยากจะยุ่งกับพวกมึงแล้ว เบื่อโว้ย"
       ยายขมเดินปึงปังออกไป ขิงเองก็มองโซว์อย่างผิดหวัง เธอลุกขึ้นเดินปึงปังตามยายขมไป โซว์มองตามด้วยความรู้สึกผิด
       "เดี๋ยวก่อนครับคุณยาย ..ขิง ..คือว่าชั้น"
       รุ้งทำตาหวาน "ทางสะดวกแล้ว เราไปทำธุระที่คั่งค้างต่อกันเถอะ" รุ้งเข้าไปจับมือโซว์
       โซว์สะบัดมือรุ้งออก "ไม่ !!! เราขอสั่งห้ามเจ้าเข้ามายุ่งกับเราเด็ดขาด !”
       โซว์โมโห เขาลุกขึ้นเดินปึงปังออกไป
       "เอ้า.." รุ้งร้องลิเกขึ้นมาทันที "เสด็จพี่จะทิ้งหม่อมชั้นไปไหนเหรอเพคะ"
       "เฮ้ยไอ้โซ่ จะไปไหน มาถึงนี่แล้วก็อยู่ที่นี่ซิ ไอ้โซ่" ตุ๊กพยายามเรียก
       "ไม่ชั้นต้องไป ..สายเลือดกษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ" โซว์ยืนยัน
       โซว์เดินมาดเข้มออกไปจากบ้าน ตุ๊กรีบตามไป รุ้งมองอย่างประทับใจสุดๆ
       "โห เสด็จพี่ของหม่อมชั้น แมนมากๆ" รุ้งร้องเป็นเพลงลิเก "รอหม่อมชั้นด้วยซิเพคะ เสด็จพี่ จะรีบจรลีไปไหนกันเล่า ...เตรง เตรง เตร่ง เตร๊งงง ...เตรง ..เตร่ง.. เตร้ง.. เตรง.. เตร่ง รอหม่อมชั้นด้วยเพคะเสด็จพี่"
       รุ้งรีบรำลิเกตามออกไปทันที
      
       รุ้งตรงเข้าไปฉุดกระชากลากถูไม่ยอมให้โซว์ไป ในขณะที่โซว์ก็ดื้อดึงจะไปให้ได้ ตุ๊กได้แต่ยืนมองทั้งสองคนฉุดกระชากลากถูกันเพราะทำอะไรไม่ถูก
       "ไปไม่ได้นะเจ้าชาย รุ้งไม่ยอมให้ไปด้วย"
       "ปล่อยนะ ชั้นบอกให้ปล่อยไง"
       "รุ้งไม่ปล่อย กว่าจะเจอหล่อถูกใจขนาดนี้ หาได้ง่ายๆที่ไหน"
       "โอย...ตรูจะบ้า..” ตุ๊กเซ็ง
      
       แก้วกับยอดขี่มอเตอร์ไซด์กำลังจะผ่านมาทางนั้นพอดี ยอดที่ซ้อนท้ายอยู่รีบชี้ให้แก้วดู
       "พี่แก้วดูนั่น ...ไอ้ฝรั่งนั้นไม่ใช่เหรอ"
       แก้วโมโห "หนอยวันก่อนคั่วน้องขิง วันนี้จะมาคั่วยายรุ้งงั้นเหรอ ใจคอมันคิดจะรวบผู้หญิงสวยๆไปหมดคนเดียวรึไงวะ อย่างนี้มันต้องเจอเดชลูกกำนัน"
       แก้วเร่งมอเตอร์ไซด์เข้าหา
       "พี่แก้วจะทำไร" ยอดถาม
       "จับให้แน่นๆ...ตกไปไม่รับประกันนะเว้ย"
       ยอดรีบกอดตัวแก้วไว้ แก้วเร่งเครื่องมอเตอร์ไซด์เข้าไปหาโซว์เต็มแรง
      
       ตุ๊กพยายามแยกรุ้งและโซว์ออกจากกัน
       "นังรุ้ง แกจะบ้าไปแล้วเหรอ อยากมีผัวฝรั่งไม่บันยะบันยังอย่างนี้เสียชื่อผู้หญิงไทยหมด"
       "บอกให้ปล่อยไง" โซว์พยายามแกะมือรุ้งออก
       "ไม่ ชั้นไม่ปล่อย"
       รถมอเตอร์ไซด์ของแก้วพุ่งตรงเข้ามาหาโซว์ ตุ๊กหันไปเห็นก็ตกใจ
       "เฮ้ย !! ระวัง"
       โซว์และรุ้งรีบหันไปมอง รถของแก้วพุ่งตรงมาอย่างแรง รุ้งรีบปล่อยมือโซว์ออกแล้วกำลังจะผละออก แต่เป็นจังหวะที่รถพุ่งเข้าใส่โซว์พอดี โซว์กระโดดหลบทำให้ไม่โดนตรงๆ แต่รถก็ยังเฉี่ยวโดนเขาจนตัวลอยแล้วล้มลงที่พื้น ยอดที่ซ้อนหลังหันกลับมามองด้วยความสะใจ
       "โห ..ลูกพี่ ..ไอ้หัวแดงกลิ้งเป็นลูกขนุนเลย"
       แก้วหันมาดู "ไหนวะ"
       แก้วหันมามองจึงไม่ได้ดูทางข้างหน้า รถแก้วพุ่งจะชนกับต้นไม้
       "ลูกพี่ระวัง" ยอดตะโกน
       แก้วรีบหันกลับจนเห็นต้นไม้อยู่ข้างหน้าเขาจึงรีบหักหลบ รถเสียหลักร่วงลงไปในคลองข้างทาง 
 ขิงกับยายขมรีบวิ่งออกมาหน้าบ้าน ตุ๊กและรุ้งเข้าไปช่วยประคองโซว์ที่หมดสติไปแล้ว ขิงตกใจรีบเข้าไปดู
       "เกิดอะไรขึ้นวะ" ยายขมถาม
       "ไอ้โซ่ถูกรถเฉี่ยว ...” ตุ๊กบอก
       "อย่าเพิ่งตายนะเพคะ เสด็จพี่ ..” รุ้งพูด
       รุ้งพยายามเขย่าตัวโซว์แต่โซว์ไม่ฟื้น ขิงเห็นเข้าก็ตกใจรีบเข้าไปดูและพยายามเรียกสติโซว์
       "นายโซ่ ..ไอ้โซ่ นายอย่าเพิ่งมาตายนะ ไอ้โซ่...”
       โซว์ยังไม่รู้สึกตัว ขิง รุ้ง ยายขมและตุ๊กมองหน้ากันด้วยความตกใจ
      
       ตุ๊กและขิงช่วยกันยกร่างของโซว์เข้ามาในห้องแล้ววางไว้บนเสื่อ ขิงกุลีกุจอหาหมอนมาให้โซว์หนุนก่อนจะพยายามเรียกโซว์ที่ยังไม่ได้สติ
       “โซ่..นายโซ่ นายโซ่ ..นายตายแล้วเหรอเนี่ย”
       ตุ๊กทำท่าจะร้องไห้ “อะไรกันเพิ่งเห็นกันอยู่หลัดๆ มาด่วนตายซะแล้ว”
       ขิงตกใจ “ไม่ได้นะ นายจะตายไม่ได้ นายยังติดเงินชั้นอีกตั้งหลายบาท ตื่นนะไอ้บ้าโซ่ อย่ามาทิ้งกันอย่างนี้”
       ขิงทั้งทุบทั้งตีโซว์จนเขารู้สึกตัวสะดุ้งตื่นขึ้นมา
       “โอ๊ย..โอ๊ย โอ๊ย.. จะฆ่ากันรึไง หยุดตีได้แล้ว ชั้นเจ็บนะ โอ๊ย”
       ตุ๊กดีใจจนโผเข้าไปกอด “ไอ้โซ่ แกยังไม่ตาย”
       ขิงมองโซว์ด้วยความดีใจ “เฮ่อ...นึกว่าจะต้องชวดเงินซะแล้ว”
       “โธ่ !! คิดว่าห่วงชั้น ที่แท้ก็ห่วงเงิน”
       ยายขมและรุ้งถือขวดยาและผ้าพันแผลวิ่งหน้าตื่นเข้ามาในห้อง
       “ตกลงจะเรียกวัดหรือเรียกโรงพยาบาล” ยายขมเพิ่งสังเกตเห็น “อ้าว !! ฟื้นแล้วเหรอ”
       รุ้งรีบโยนของที่ถือมาทิ้งแล้ววิ่งไปกอดโซว์ “เป็นอะไรมากรึเปล่าจ๊ะ เจ็บตรงไหนมั้ย”
       รุ้งเข้าไปดูแลเอาใจใส่โซว์ ยายขมมองโซว์ที่ไม่เป็นอะไรแล้วด้วยความโล่งอกก่อนจะเดินออกไปจากห้องโดยไม่ พูดอะไรสักคำ ขิงเห็นเช่นนั้นจึงรีบเดินตามยายขมออกไปทันที
      
       ยายขมเดินออกมาจากห้องแล้วยืนหันหลังเพื่อครุ่นคิดบางอย่าง ขิงเดินตามออกมาแล้วเรียก
       “ยาย..”
       “เออๆ ตามใจเอ็ง จะเอายังไงก็เอา”
       ขิงงง “ดะ เดี๋ยวยาย ...ยายรู้เหรอว่าชั้นจะมาพูดเรื่องอะไร”
       ยายขมหันมาเอาไม้เกาหลังตีหัวขิงเบาๆ “เชอะ คิดว่าไม่รู้รึไง แกจะมาขอให้ไอ้หน้าวอกอยู่บ้านเราล่ะซิ ยายน่ะอาบน้ำร้อนมาก่อนแกนะ”
       รุ้งกับตุ๊กค่อยๆพยุงโซว์เดินออกมาจากห้อง ยายขมหันไปเห็นก่อนจะทำเป็นเชิ่ดใส่ ขิงมองโซว์อย่างลุ้นๆว่าจะทำยังไง โซว์ตัดสินใจเดินเข้ามาหายายขมแล้วนั่งลงและยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ตุ๊กและขิงมองหน้ากันด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าโซว์จะทำอย่างนั้น
       “คุณยายครับ ผมรู้ตัวว่าผมชอบทำให้คุณยายเดือดร้อน แต่ผมอยากจะขอแก้ตัว ผมสัญญาว่าผมจะช่วยคุณยายและทุกๆคนให้ได้”
       “ไม่ต้องมาสัญญง สัญญาอะไรทั้งนั้นไอ้หน้าวอก” ยายขมว่า
       โซว์ ขิง ตุ๊ก และรุ้งถึงกับหน้าเสีย
       “ถ้าอยากจะทำก็ต้องทำให้ได้ ไม่ต้องมาอารามภบท เยิ่นเย้อ ยืดยาด น่าเบื่อ” ยายขมบอก
       “แสดงว่ายายให้โอกาสผมใช่มั้ยครับ ..ไชโย้ !” โซว์ดีใจ
       โซว์รีบลุกทั้งๆที่ยังเจ็บอยู่ เขาตรงเข้าไปกระโดดกอดยายขมและหอมแก้มยายขมด้วยความดีใจสุดๆ
       “ขอบคุณครับยาย”
       ยายขมอายแต่ก็กลบเกลื่อนด้วยการเอาไม้เกาหลังตีกบาลโซว์แต่โซว์หลบทัน ทำให้ไม้โดนหัวตุ๊กอย่างแรง
       “โอ๊ย!!! “ ตุ๊กร้องลั่น
       ยายขมเดินออกไป ตุ๊กหันไปมองโซว์กับขิง
       “จะตายก็เพราะยายเอ็งเนี่ยแหละนังขิง” ตุ๊กบอก
       ขิงยิ้มๆ แล้วหันไปมองโซว์ ทั้งสองยิ้มให้กันด้วยความดีใจ
      
       ขิงเอายาใส่แผลให้โซว์ โซว์สะดุ้งเพราะแสบพร้อมกับร้องซี๊ด เขารีบเอามือไปจับมือขิงไว้ไม่ให้เอายามาทาแผลเขาต่อ ขิงมองโซว์ที่จับมือเธอแล้วก็รีบสะบัดมือออก ก่อนจะผลักโซว์จนล้มหงายหลัง
       “ซาดิสต์ ชั้นยิ่งเจ็บๆอยู่ ยังมาทำร้ายซ้ำอีก กลัวชั้นไม่ตายดีรึไง” โซว์ว่า
       “แค่นี้ยังน้อยไป ถ้าเป็นคนอื่นมาแต๊ะอั๋งแบบนี้ รับรองตายไม่ได้ผุดได้เกิด”
       “งั้นก็แสดงว่าชั้นเป็นคนพิเศษกว่าคนอื่นล่ะซิ”
       ขิงอึกอัก “ถ้าเกิดนายเจ็บกว่านี้ชั้นก็ต้องเสียเงินค่ารักษา แล้วถ้านายตาย ชั้นก็ชวดเงิน 50000 ที่นายติดไว้น่ะซิ”
       พูดจบ ขิงก็รีบเอายาทาให้โซว์อย่างแรงก่อนจะปิดพลาสเตอร์ให้แบบกระแทกกระทั้น โซว์มองขิงค้อนๆเพราะรู้สึกเจ็บ
       “แล้วนายคิดรึยังว่านายจะทำยังไงต่อไป” ขิงถาม
       “ยังไม่รู้เลย แต่ที่ประเทศชั้นเราเชื่อกันว่า เวลาจะให้คำตอบกับทุกอย่าง” โซว์บอก
       “หวังว่าเวลาของนายคงไม่นานจนเกินไปนะ เพราะตอนนี้บ้านชั้นก็ไม่ค่อยจะมีกิน แถมยังต้องระแวงไม่รู้จะโดนตำรวจจับเข้าตะรางวันไหน”
       ขิงมองหน้าโซว์เศร้าๆ โซว์มองขิงแล้วยิ้มปลอบใจ
       “จำที่ชั้นสัญญาไว้ไม่ได้รึไง ไม่ว่าจะยังไงเธอจะต้องไม่เดือดร้อน” โซว์พูด
       ขิงชะงักเล็กน้อย “ทำอย่างกับว่าตอนนี้ไม่เดือดร้อนงั้นนี่”
       โซว์ได้ฟังก็หน้าเศร้าไป ขิงมองเขาด้วยความสงสาร
       “นายรีบไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นขึ้นมาช่วยยายทำงานแต่เช้า เข้าใจมั้ย”
       “เข้าใจ …” โซว์ตอบ
       ขิงและโซว์ลุกขึ้น ขณะกำลังลุกโซว์ยังเจ็บแผลอยู่จึงเซจะหกล้ม ขิงเห็นเข้าก็ตกใจรีบเข้าไปคว้าตัวไว้ ทำให้ทั้งสองคนอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน ขิงและโซว์มองหน้ากันอย่างเขินๆ พอขิงได้สติก็รีบผลักโซว์ออก ก่อนจะยืนเขินเพราะทำหน้าไม่ถูก ขิงรีบเดินออกจากห้องไป โซว์มองตามยิ้มๆ 
source: manager.co.th   

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น