วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อ่านละครแสบสลับขั้ว ตอนที่ 3 วันที่ 6 ก.ค. 55

จันทร์ทิพย์กับรัญญามาเยี่ยมปลาใหญ่ที่โรงพยาบาล เซียนซึ่งอยู่ในร่างของปลาใหญ่เบือนหน้าหันมามอง
     
       “เป็นยังไงบ้างจ๊ะ ปลาใหญ่”
       เซียนมองจันทร์ทิพย์และรัญญาสลับกันอย่างครุ่นคิด รัญญาและจันทร์ทิพย์มองท่าทีของปลาใหญ่อย่างงงๆ
       รัญญา ยกนิ้ว 2 นิ้วชูขึ้น
       “นี่กี่นิ้ว”
       “โอ๊ย! ก็เห็นๆ อยู่ว่า 2 นิ้ว”
       เซียนตวาด จันทร์ทิพย์และรัญญาตกใจด้วยปลาใหญ่ไม่เคยตวาด
       “ปลาใหญ่”
       “เห็นหน้าทีไรก็ชูแต่นิ้วให้นับ รำคาญ”
       เซียนหลับตาลง ครรชิตรีบแก้
       “ คุณปลาใหญ่ท่านคงถูกกระทบกระเทือนจากอุบัติเหตุอย่างรุนแรงน่ะครับ”
       “นั่นน่ะซิ ปกติปลาใหญ่จะไม่ค่อยแสดงอารมณ์ น้าว่าเรากลับไปรายงานคุณพ่อก่อนดีกว่าน้องรัน แล้วค่อยมาเยี่ยมอีกตอนเย็นๆ”
       “ค่ะ...พี่ไปละนะปลาใหญ่”
       ปลาใหญ่พยักหน้าทั้งๆ หลับตา
       “อาก็ไปละนะคะ แล้วเย็นจะมาพร้อมกับคุณอาก้อง” ปลาใหญ่พยักหน้าอีก “ฉันกลับก่อนนะ คุณครรชิต! ฝากดูแลปลาใหญ่ให้ดีด้วย”
       “ครับ”
       ครรชิตเดินมาเปิดประตูให้สองสาว ปลาใหญ่หรี่ตามองตาม ครรชิตปิดประตูแล้วเดินไปที่โซฟาหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาจะเปิด
       “คุณครรชิต”
       ครรชิตเบือนหน้าไปมอง
       “อ้าว ผมนึกว่า คุณปลาใหญ่นอนหลับ”
       ปลาใหญ่กระดิกนิ้วเรียกครรชิต
       “มานี่ซิ” ครรชิตเดินมา สีหน้ายังแปลกใจกับท่าทางของปลาใหญ่ “เล่าเรื่องผู้หญิง 2 คนนั่นให้ฟังหน่อย อ้อ... แล้วก็คนอื่นๆ ที่บ้านด้วย”
       “คุณปลาใหญ่”
       “จ๊ะจ๋า”
       ครรชิตมึนตึ้บกับท่าทางที่เปลี่ยนไปของปลาใหญ่
       “คืองี้ ...ผมจำคุณครรชิตได้คนเดียว ... คนอื่นๆ มันเลือนๆ ลางพิลึก”
       “ขอบคุณมากครับ คุณปลาใหญ่”
       “เรื่อง’ไร”
       “ก็... คุณปลาใหญ่อุตส่าห์จำผมได้คนเดียว”
       “อ๋อ...อ...อ้ะ งั้นเอาเป็นว่า ต่างคนต่างขอบคุณละกัน” ปลาใหญ่หล่วตาให้ ครรชิตยิ้มแห้งๆ
       “คุณปลาใหญ่ แปลกไปเยอะ”
       “เล่าให้ผมฟังได้แล้ว”
       ครรชิตเริ่มเล่า ปลาใหญ่ฟังอย่างตั้งใจ
     
       เกริกก้องมีสีหน้าใคร่ครวญครุ่นคิดกับสิ่งที่จันทร์ทิพย์กับรัญญาเล่าให้ฟัง
       “มันเหมือนคนบ้าเรอะ”
       “ค่ะ ชอบทำยักคิ้วหลิ่วตาเอะอะโวยวาย ตอนฟื้นใหม่ๆ ก็ยังไม่เท่าไหร่ แต่พอยิ่งนานก็ยิ่งเป็นมากขึ้น Oh! My God ดูไม่จืดเลยค่ะ”
       “รันว่ามันอาจจะถูกผีสิง คุณพ่อลองไปดูมันหน่อยซิคะ ตั้งแต่ปลาใหญ่ฟื้นคุณพ่อเพิ่งไปดูหนเดียวเองที่โรงพยาบาลเก่า โรงพยาบาลใหม่ยังไม่เคยไปเลย”
       “พ่อไม่อยากเห็นหน้ามัน เจ็บใจที่ทำไมมันไม่ตาย ดูจากภาพข่าวก็ไม่น่าจะรอด แต่ก็ดันรอด”
       “ถ้ามันยังเอ๋อๆ อยู่แบบนี้ ความหวังเราก็ยังมีอยู่ค่ะ มันทำงานไม่ได้ก็จะเป็นคนไร้สมรรถภาพไปโดยอัตโนมัติ”
       เกริกก้องมีสีหน้าดีขึ้น
       “นั่นซินะ”
     
       ส่วนที่โรงพยาลหลังจากครรชิตเล่าเรื่องของจันทร์ทิพย์ รัญญาและเกริกก้องจบ ครรชิตก็ถามตบท้าย
       “คุณปลาใหญ่พอจะจำได้มั้ยครับ”
       “ไม่รู้เหมือนกัน ความจำไม่ค่อยดี จบ ม.6 อายุ 25”
       ครรชิตถึงกับสะดุ้ง
       “คะ...คะ คุณ ปลาใหญ่”
       เสียงเคาะประตูดังขึ้น น้ำเพชรโผล่เข้ามาพร้อมตระกร้าจัดอาหารหวานคาวใส่กล่องมาอย่างดี ปลาใหญ่ผุดลุกขึ้นนั่ง นัยน์ตาเป็นประกาย ครรชิตช่วยรับของจากน้ำเพชรมาวาง
       “วันนี้มีอะไรบ้าง หนูน้ำ”
       “ไก่ดำตุ๋นยาจีน ผัดผัก 4 สหาย ผัดโป๊ยเซียนค่ะ ส่วนของหวานก็มีแป๊ะก๊วย”
       “แหม ...ดี อันนี้ช่วยความจำ คุณปลาใหญ่จะทานหรือยังครับ”
       “เอามาเลย คุณน้ำเพชรเกล็ดดาวพราวสวาท”
       คำพูดของปลาใหญ่ทำให้น้ำเพชรและครรชิตสะดุ้งเฮือกพร้อมกัน แต่น้ำเพชรก็จัดอาหารใส่จานชามมาวางให้ ขณะที่ครรชิตช่วยรินน้ำ ปลาใหญ่มองหน้าน้ำเพชรตาเชื่อมขณะที่น้ำเพชรกำลังเลื่อนจานชามบนโต๊ะให้ตัก สะดวก
       “คุณนายสินเธาว์เป็นยังไงบ้างครับ” น้ำเพชรสะดุ้งเฮือก เงยหน้ามองปลาใหญ่ทันที ปลาใหญ่ตีหน้าซื่อ “ทำไมล่ะ ก็แกบอกเองวันที่มาเยี่ยมผมว่าแกชื่อคุณนายสินเธาว์”
       “แกไม่รู้คำแปลค่ะ ไอ้บ้าเซียนมันเลยถือโอกาสกลั่นแกล้ง น้ำละเกลียดมันจริงๆ เลย” น้ำเพชรพูดไปแล้วนึกได้ยกมือไหว้ “ขอประทานโทษค่ะ”
       ปลาใหญ่สำลักน้ำขณะยกขึ้นดื่มตรงกับประโยค “ไอ้บ้าเซียน” ของน้ำเพชร
       “อุ๊ย ท่านประธานเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
       “น้ำติดคอ”
       “เอ้อ...วันหลัง ถ้าหม่าม้ามาเยี่ยมอีก ท่านประธานช่วยกรุณาบอกให้แกเปลี่ยนชื่อหน่อยได้มั้ยคะ หม่าม้าไม่เชื่อน้ำ”
       “จ๊ะจ๋า จ๋าจ้ะ”
       น้ำเพชรและครรชิตทำหน้าแปลกๆ ปลาใหญ่ลงมือกินอาหารไม่ยั้งและค่อนข้างออกอาการมูมมาม ครรชิตและน้ำเพชรเดินไปนั่ง ปลาใหญ่รู้สึกตัวจึงสปีคช้าลง
อีกด้านหนึ่งที่ห้องของเซียนที่วิญญาของปลาใหญ่อาศัยอยู่ เซียนสำลักข้าวผัดกระเพราไข่ดาวน้ำหูน้ำตาไหล
       คว้าน้ำมาดื่มจนหมดแก้ว
       “ทำไม เผ็ดเหรอพี่เซียน”
       สายพิณถามอย่างเป็นห่วง
       “ผมไม่ทานเผ็ด”
       “เฮ้ย พี่น่ะกินพริกขี้หนูทีละกำมือยังได้เลยนะ”
       “อย่างนั้นก็บ้าไปแล้ว” เซียนผลักจานออกไป
       “ว้า งั้นจะกินอะไรล่ะ เดี๋ยวพิณจะลงไปซื้อให้”
       “ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก”
       คำพูดที่เปลี่ยนไปของเซียนทำให้สายพิณต้องมองหน้าเซียนแล้วเกาหัว
       “ให้ตายเถอะ พิณไม่ชอบให้พี่เป็นแบบนี้เลยอยากให้บ้าๆ บอๆ แบบเดิมดีกว่า”
       “บ้าๆ บอๆ จะดีได้ยังไง ผมไม่เข้าใจ”
       สายพิณถอนใจเฮือก
     
       น้ำเพชรและครรชิตพากันออกมาคุยที่หน้าห้องพักของปลาใหญ่
       “น้ำไม่สบายใจเลยค่ะคุณลุง คุณปลาใหญ่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ”
       “ตอนที่ฟื้นใหม่ๆ ลุงก็ตกใจเหมือนกัน แต่ตอนนี้เริ่มชิน”
       “แล้วท่านจะกลับไปเหมือนเดิมมั้ยคะ”
       “ก็หวังว่าอย่างนั้นนะ” ครรชิตชะงัก “คุณก้องมา”
       น้ำเพชรหันไปมองตามเห็นเกริกก้องเดินมากับจันทร์ทิพย์
       “คุณก้องจะมาเยี่ยมหลานให้ได้ ฉันก็เลยต้องตามมาอีก” จันทร์ทิพย์บอก
       “จะต้องไปอธิบายทำไม เราจะไปจะมาเมื่อไหร่มันก็เรื่องของเรา”
       เกริกก้องบอกแล้วเปิดประตูเข้าไป จันทร์ทิพย์เดินตาม
     
       เกริกก้องและจันทร์ทิพย์เดินเข้ามา ขณะนั้นปลาใหญ่กินอิ่มแล้ว ยกมือลูบท้องเรอออกมาดังสนั่น เกริกก้องและจันทร์ทิพย์นิ่วหน้า โดยเฉพาะจันทร์ทิพย์ลอบทำท่าเหม็นและผะอืดผะอมด้วย
       “แกทำอะไรของแกน่ะ”
       “เรอครับ กินอิ่มแล้วต้องเรอเป็นการระบายลมออกข้างบน ยังมีการระบายออกทางข้างล่างอีกนะครับ”
       เกริกก้องโกรธจัดทำท่าจะเอาเรื่อง จันทร์ทิพย์เอามือแตะแขนเกริกก้องเป็นเชิงเตือน
       “ถ้าปลาใหญ่อยากจะระบายก็ระบายออกมาเถอะค่ะ คุณอาก้องกับคุณอาจันทร์สนับสนุนให้ปลาใหญ่เป็น ธรรมชาติมากที่สุด อยากเรอก็เรอ อยาก...”
       “เก๊าะแปลว่าสนับสนุนให้ผมดูทราม...ถ่อย ...ดิบน่ะซิครับ” จันทร์ทิพย์ชะงัก
       “ไอ้ปลาใหญ่ แกจงใจจะยั่วประสาทฉันใช่มั้ย”
       “คุณครรชิต”
       ปลาใหญ่เรียกครรชิตเสียงดัง ประตูเปิดออกทันที !
       “ครับ คุณปลาใหญ่”
       “ไล่แขก...เอ๊ย...ส่งแขก”
       “แก ไอ้ปลาใหญ่ บังอาจไล่ฉัน”
       เกริกก้องโกรธจัด จันทร์ทิพย์คอยเตือนเบาๆ
       “คุณก้องคะ ปลาใหญ่คงต้องพักผ่อนจริงๆ ค่ะ เรามาไม่ได้จังหวะกันเอง” ปลาใหญ่หาวเสียงดังสนั่น เกริกก้องหันซ้ายหันขวา แล้วผลุนผลันออกไปอย่างหงุดหงิด “ปลาใหญ่ไม่สมควรทำอย่างนี้กับคุณอาก้อง เพราะท่านเป็นญาติผู้ใหญ่คนเดียวของปลาใหญ่ที่เหลืออยู่”
       “อ้าว ตายกันเกลี้ยง...ง หมดแล้วหรือครับเนี่ย”
       “คุณปลาใหญ่ จะนอนก็นอนเลยครับ” ครรชิตบอก
        “จ้ะ ตายเกลี้ยง ...ง หมด”
       จันทร์ทิพย์ยิ้มนิดๆ แล้วเดินออกไป ครรชิตหันมามองปลาแล้วรีบตามออกไป
     
       ครรชิตมีสีหน้าแปลกใจ เมื่อเห็นเกริกก้องยังคงยืนอยู่
       “ปลาใหญ่เป็นมาก”
       “หามิได้ ท่านกำลังจะหายเป็นปกติแล้วครับ”
       “ปกติกับผีอะไรล่ะ มันน่ะเพี้ยนไปแล้วอีกหน่อยก็คงเป็นบ้า”
       “ผมขอยืนยันว่า ไม่เป็นอย่างนั้นแน่นอนครับ”
       “แน่ใจเหรอคุณ”
       “ผมมั่นใจครับ” ครรชิตบอกอย่างมั่นใจ
       “ดี เพราะถ้าปลาใหญ่เพี้ยนจริงๆ บรรดาผู้ถือหุ้นคงไม่มีวันยอมให้มันเป็นประธานต่อไปแน่ ฉันจะต้องรับตำแหน่งนั้นแทนเพื่อกอบกู้สถานการณ์ของบริษัทกลับคืนมา”
       เกริกก้องบอกแล้วเดินไป
       “แล้วก็เตรียมหางานใหม่ได้เลย คุณพ่อบ้านครรชิต”
       จันทร์ทิพย์บอกแล้วยิ้มเยาะก่อนจะตามเกริกก้องไป
       “ซวยจริงๆ เลย คุณคัน”
       ครรชิตบ่นกับตัวเอง
     
       ปลาใหญ่ผุดลุกขึ้นนั่งทันทีเมื่อครรชิตกลับเข้ามา
       “ระวังครับคุณปลาใหญ่ อย่าลุกนั่งพรวดพราด” ครรชิตเตือนอย่างตกใจ
       “ผมกำลังจะถูกแย่งมรดกใช่ไหม คุณคัน”
       “ครรชิตครับ มันก็คล้ายอย่างนั้นแหละครับ”
       “ผมยอมให้ใครมาชุบมือเปิบไม่ได้ นอกจากตัวผมเอง”
       “ถึงมันจะฟังทะแม่งๆ แต่ก็ถูกครับ”
       “คุณคัน พรุ่งนี้ผมจะกลับคฤหาสน์”
       “แล้วคุณหมอ...”
       “ผมหายแล้ว หมอจะมารู้ดีกว่าตัวผมได้ยังไง ลุย” ปลาใหญ่พยักหน้ากับตัวเองอย่างแข็งขัน
     
        ชายสี่ ป๋อง มอม ลุงป่องมาเยี่ยมเซียนด้วยท่าทางครึกครื้น และมอมก็มีเป้ใส่เสื้อผ้ามาด้วย
       “เป็นไงบ้างวะ ไอ้เซียน”
       เซียนอ้าปากจะพูดลุงป่องยกมือห้าม
       “ข้ารู้ว่าเอ็งจะพูดอะไร”
       “ผมชื่อปลาใหญ่”
       ทุกคนบอกออกมาพร้อมกัน เซียนถอนใจเฮือกหันกลับไป
       “ไอ้เซียน พวกเรารู้ว่า...”
       เซียนยังคงนอนหันหลังขณะขัดขึ้นทันที
       “พวกคุณไม่รู้อะไรเลย Nothing at all!”
       ทั้งสี่คนสบตากัน แล้วหันไปมองเซียน
       “เฮ้ย พูดฝรั่งด้วย”
       “ไม่แปลกหรอก ไอ้เซียนมันมี D.N.A ฝรั่งอยู่ครึ่งนึง ในยามที่มันทุกข์ D.N.A นั้นย่อมจะแสดงตัวออกมา” ชายสี่บอก
       “ใครบอกแก” ลุงป่อง ป๋อง มอมถามออกมาพร้อมกัน
       “ไม่มี ข้าประเมินเอาเอง”
       “พวกคุณรู้จักคุณครรชิตใช่ไหม” เซียนหันมาถาม
       “อ๋อ คนที่หน้าเป็นฝรั่งเหมือนเอ็ง”
       “นั่นแหละ ผมอยากพบเขาหน่อย”
       “เขาอยู่ที่ไหนล่ะ”
       “บริษัท อาณาจักรมหาทรัพย์ จำกัด มหาชน”
       “ชายสี่ ...แกไป” มอมบอก
       “อ้าว เฮ้ย”
       “เห็นด้วย”
       “เห็นด้วย เพราะในบรรดาผองเพื่อนทั้งหมด เอ็งดูน่าเชื่อถือที่สุด”
ทางด้านน้ำเพชร เมื่อกลับมาบ้านเธอนั่งครุ่นคิดอาการที่เปลี่ยนไปของปลาใหญ่อยู่ในห้อง
       “อานั้ง เปิกประตูให้อาหม่าม้าหน่อย” น้ำเพชรลุกเดินไปเปิดประตู กิมฮวยเดินเข้ามานั่งสีหน้ายิ้มแย้ม
       “อาทั่งปาทางเป็นไงมั่ง”
       “ก็เกือบจะเป็นปกติแล้วค่ะ”
       “ลี ลี หม่าม้ารู้นาว่าลื้อชอบอาทั่งปาทาง แล้วอีก็ชอบลื้อด้วย”
       “น้ำมาคิดๆ ดูแล้วมันแปลกค่ะ ก่อนประสบอุบัติเหตุท่านประธานไม่เคยมีท่าทีอะไรกับน้ำเลยซักนิด แต่มาตอนนี้ เฮ้อ ...”
       “ก็สมองอีได้รับความกระทกกระเทืองไง”
       “แสดงว่าถ้าสมองไม่กระทบกระเทือน ท่านประธานก็คงไม่สนน้ำใช่มั้ยล่ะคะ”
       “อันนี้คงต้องยอมรับความจริง มังเป็งโชคลีของลื้อล่วย คงรวยขะหนาดนั้งมาชอกลื้อ อาหมวย เอ๊ย อุกส่าห์ เกิดมาทั้งทีต้องหาผัวหรือว่าสามีรวยๆ มังถึงจะคุ้ม”
       “น้ำไม่ได้คิดถึงความรวยความจนหรอกนะคะ”
       “แต่อั๊วคิก ผู้ชายจงๆ อั๊วไม่เอามาเป็นลูกเขยเหล็กขาก”
       “ถ้าน้ำจะรักใครสักคน น้ำก็จะรักที่ตัวเขาไม่เคยมองสิ่งประกอบภายนอก...”
       “สิ่งปากอบภายนอกนั่งแหละสังคัง อั๊วจะบอกให้”
       “เราก็มีเงินมีทอง”
       “เงิงมังก็ต้องต่อเงิง ทองก็ต่อทอง จะล่ายลวยเป็นหลายๆ เท่า”
       น้ำเพชรนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วนึกได้
       “น้ำว่าจะบอกตั้งนานแล้ว ต่อไปนี้หม่าม้าอย่าบอกใครว่าชื่อสินเธาว์นะคะ”
       “ทังมาย อั๊วชอบออก เพราะลี”
       “สินเธาว์แปลว่าเกลือค่ะ ไอ้เซียนมันว่าหม่าม้าเค็มเหมือนเกลือ”
       “ไอ๊หยา เกลือ” กิมฮวยร้องลั่น “อีว่าหม่าม้าเค็มเหมืองเกลือ แหม! มังเลวมั่ก ชั่วช้าสามังจริงๆ เลย นี่ อานั้งเพ็ก ลื้อต้องอยู่ห่างๆ มังนะห้ามไปใกล้ชิกคุกคีตีมงกับมัง”
       “โอ๊ย น้ำไม่มีวันทำยังงั้นเด็ดขาดค่ะ น้ำเกลียดมันยังกับอะไรดี ถ้าน้ำมีเวทมนตร์น้ำจะสาปมันให้ตกนรกหมกไหม้ ให้มันปากเน่าปากหนอน ให้มันถูกรถชนอีกครั้ง แล้วก็ตายแหงแก๋ไปเลย ให้มัน...” น้ำเพชรยิ่งพูดยิ่งมัน
       “อานั้ง”
       น้ำเพชรชะงัก
       “ค่ะ”
       น้ำเพชรเดินไปส่งกิมฮวยที่ประตูแล้วเดินกลับมานั่ง
     
       กิมฮวยกลับมาที่ห้อง ขณะนั้นเติมศักดิ์นั่งดีดลูกคิดคิดเงินอยู่
       “ลื้อไปไหนมา” เติมศักดิ์ถามโดยไม่เงิยหน้ามอง
       “ไปสั่งสองอานั้งก่องนอง”
       เติมศักดิ์เงยหน้าขึ้นมา
       “ลืมเรื่องหาแฟงรวยๆ หรือเปล่า”
       “อังนั้งสังคังที่สุก”
       “ลี”
       “อั๊วเจ็บใจอาเซียง หน็อยแน่มังบังอากตั้งชื่ออั๊วว่าสิงเทา ลื้อรู้หรือเปล่าว่า สิงเทาแปลว่าเกลือ”
       “รู้” เติมศักดิ์วางลูกคิดแล้วหาว
       “หา รู้แล้วทังไมไม่บอกอั๊ว”
       “อั๊วพายายังจาบอก แต่ลื้อไม่ฟัง”
       “ลื้อก็ต้องพายายังให้อั๊วฟังซี”
       “ก็อั๊วพายายังแล้ว ...ว ...” เติมศักดิ์ลากเสียงยาวอย่างรำคาญ
       “ลื้อพายายังไม่พอ”
       “เฮ้อ...อ...อ”ล
       “ทังมายต้องถองหายใจ”
       “อั๊วง่วง”
       เติมศักดิ์เดินมานอน
       “คอยลูนะ อั๊วต้องพายายังหาชื่อใหม่ให้ล่ายเอาให้เพราะกว่า “สิงเทาอีก” ชื่ออารายดีน้า”
       กิมฮวยพยายามหาชื่อให้ตัวเอง ขณะที่เติมศักดิ์เริ่มกรน
     
       น้ำเพชรยืนอยู่ที่หน้าต่างทอดสายตามองออกไปด้านนอกก่อนจะเดินกลับ มาทรุดตัวลงนั่งบนเตียงแล้วนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่ถูกเซียนจูบ แววตาน้ำเพชรเป็นประกายขยะแขยงเกลียดชัง
       “ทำไมมันไม่ตายให้รู้แล้วรู้รอดนะ”
     
       ส่วนที่โรงพยาบาลปลาใหญ่หันมามองครรชิตที่หลับสนิท ปลาใหญ่ค่อยๆ ลุกเดินใช้ไม้เท้าค้ำยันมาที่กระจก แล้วมองตัวเองอย่างเพ่งพิศ เงาปลาใหญ่มองตอบมา
       “หล่อน้อยลงกว่าเดิมตั้งเยอะ แต่ก็มีเงินมีทองมาทดแทน”
       “ทำอะไรครับ คุณปลาใหญ่”
       เสียงครรชิตถาม ปลาใหญ่สะดุ้งนิดหนึ่ง
       “อ้าว นึกว่าคุณคันหลับซะอีก” ปลาใหญ่กระเผลกกลับมา ครรชิตลุกไปช่วยประคอง “พรุ่งนี้จะกลับบ้านก็เลยตื่นเต้นนอนไม่หลับ”
       “ความจริงผมอยากให้คุณปลาใหญ่แข็งแรงกว่านี้อีกสักหน่อย”
       “พรุ่งนี้จะซิ่งมอ’ไซค์ ให้ดูเป็นขวัญตา”
       ครรชิตอ้าปากค้าง ปลาใหญ่เอนตัวลงนอน ครรชิตเอนตัวลงนอนบ้าง
       “สงสารไอ้ปลาใหญ่เหมือนกันนะ ซวยเว่อร์เลย”
       ปลาใหญ่บ่น ครรชิตลุกนั่ง
       “อะ...อะ...ไร นะครับ”
       ปลาใหญ่รู้สึกตัวว่าเผลอพูดออกไป
       “เปล่า... อยู่ดีๆ มันก็สงสารตัวเองขึ้นมาน่ะ”
       “แล้วไป”
       ครรชิตพยักหน้าแล้วล้มตัวลงนอน ปลาใหญ่ยิ้มขบขัน
 ช่วงเวลาเดียวกันนั้นที่ห้องพักฟื้นของเซียน มอมนอนหลับสนิทอยู่ที่เตียงเฝ้าไข้ เซียนนอนลืมตามองเพดานนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่เริ่มรู้สึกตัวในห้องไอซียู
       เซียนลืมตาขึ้นช้าๆ แล้วค่อยๆ เหลือบสายตามองไปโดยรอบ แล้วมาหยุดที่เตียงช้าๆ ซึ่ง ปลาใหญ่กำลังมองอยู่ก่อนแล้ว ปลาใหญ่ในร่างของเซียนเบิกตากว้างเมื่อเห็นร่างตัวเอง เซียนซึ่งอยู่ในร่างของปลาใหญ่ยิ้มระโหยเพราะเพิ่งฟื้น
       “สวัสดี ปลาใหญ่”
       “นายเซียน นี่มันอะไรกัน”
       “ไม่มีอะไร เราแค่สลับร่างกันเท่านั้น”
       ปลาใหญ่สะดุ้ง ผุดลุกขึ้น แต่แล้วก็ต้องนอนลงไปใหม่ด้วยความเจ็บปวด
       “โอ๊ย”
       พยาบาลที่เคาน์เตอร์หันมามอง แล้วรีบเดินตรงมา
       “เป็นอะไรหรือคะ”
       ปลาใหญ่ที่อยู่ในร่างของเซียน ชี้ไปที่ร่างตัวเอง
       “มัน...มันเอาร่างผมไป”
       พยาบาลยิ้มอย่างอ่อนโยน
       “ไม่มีใครเอาร่างของคุณไปได้หรอกค่ะ นอนพักเถอะนะคะ”
       “เอาร่างของฉันคืนมา”
       “คุณคะ”
       “นายเซียนมันขโมยร่างผม มันถีบผมกระเด็น แล้วเข้าร่างผมแทน เอาร่างของฉันคืนมา เอาร่างของฉันคืนมา”
       ปลาใหญ่ในร่างของเซียนเอะอะโวยวาย พยาบาลจึงหันไปบอกพยาบาลอีกคน
       “ตามอาจารย์หมอกิจจาเร็วเข้า”
       ปลาใหญ่ในร่างของเซียนยังคงเอะอะโวยวาย จนพยาบาลต้องมาช่วยกันจับไว้
     
       ปลาใหญ่ในร่างเซียนถอนใจยาว มอมลืมตาขึ้นทันที
       “นอนไม่หลับเรอะ”
       “เป็นคุณจะนอนหลับมั้ยล่ะ”
       มอมลุกขึ้นนั่ง
       “ไอ้เซียน เมื่อไหร่เอ็งจะเลิกเรียกคุณเรียกผมซักทีวะ หน็อย! ฟื้นขึ้นมาแล้วกลายเป็นไฮโซไปเลยนะเอ็ง”
       “ผมชื่อปลาใหญ่ ไม่ได้ชื่อเซียน ทำไมไม่มีใครเชื่อผม”
       “ก็เพราะเอ็งคือไอ้เซียน ไม่ใช่ปลาใหญ่ปลาเล็กที่ไหนน่ะซิ”
       “คุณมอม เชื่อผมเถอะผมคือปลาใหญ่จริงๆ”
       มอมมองเซียนอย่างรำคาญปนง่วง
       “เออ เออ ปลาใหญ่ก็ปลาใหญ่ ข้าง่วงเต็มทีแล้วจะนอนได้หรือยัง”
       “คุณไม่เชื่อผม”
       “เอ็งจะบ้าก็บ้าไปคนเดียวเถอะ”
       มอมล้มตัวลงนอน แล้วดึงผ้าห่มคลุมโปงหันหลังให้
     
       วันรุ่งขึ้นรถตู้ใหม่เอี่ยมแล่นเข้าประตูบ้านปลาใหญ่เข้ามา เอ็กซ์หลบแอบมองจากมุมเสาด้านหนึ่ง รถแล่นช้าๆ มาจอดหน้าตัวตึก คนขับรถลงมาเปิดประตูหลังขนข้าวของลง ขณะที่ปลาใหญ่ยังนั่งตะลึงกับภาพที่เห็น
       “คุณปลาใหญ่คะ” น้ำเพชรเรียก ปลาใหญ่ยังคงนั่งอึ้ง “คุณปลาใหญ่”
       ปลาใหญ่สะดุ้งหันกลับมา
       “ปลาใหญ่ อ๋อ ใช่ ผมชื่อปลาใหญ่”
       ปลาใหญ่หันกลับไป ครรชิตและคนรถ คนสวนกำลังรออยู่ โดยคนสวนจับรถเข็นไว้ ปลาใหญ่กระแอมเล็กน้อยแล้วก้าวลงไป ทุกคนช่วยกันประคับประคองปลาใหญ่นั่งรถเข็น น้ำเพชรตามลงไป
     
       ครรชิตเข็นรถพาปลาใหญ่เข้าบ้าน ติดตามด้วยน้ำเพชร คนรถช่วยยกของมาวางแล้วออกไป สมทรงแล้วสมศรีคอยรับอยู่
       “แม่เจ้า” ปลาใหญ่บอกเสียงลั่น ทุกคนมองปลาใหญ่ที่กวาดตามองไปโดยรอบอย่างตื่นตาตื่นใจงงๆ “ใหญ่โตมโหฬารพิลึก”
       “คุณก้องให้จัดห้องข้างล่างให้คุณปลาใหญ่อยู่ระหว่างที่ยังขึ้นข้างบนไม่ได้ เชิญทางนี้ค่ะ”
       สมทรงบอกแล้วเดินนำไป ปลาใหญ่ใช้นิ้วกวักเรียก ครรชิตให้ก้มลงฟัง
       “ยัยนี่มันเป็นญาติฝ่ายไหน”
       “อ๋อ เปล่าครับเป็นแม่บ้าน”
       ปลาใหญ่พยักหน้าหงึกหงักรับรู้ ขณะที่ครรชิตเข็นรถไป น้ำเพชรขยับเดินตามสมทรงหยุดเดินแล้วหันมามองน้ำเพชรหัวจรดเท้า
       “เธอรออยู่ตรงนี้ ไม่ต้องตามไปทุกกระดิก”
       ปลาใหญ่มองน้ำเพชร ขณะครรชิตชะงักเพราะไม่นึกว่าสมทรงจะพูดอย่างนั้น
       “ขอประทานโทษ ฉันเป็นเลขาฯของคุณปลาใหญ่ ฉันทำตามหน้าที่”
       สมทรงเหยียดมุมปากเยาะๆ
       “อ้อ เพิ่งรู้ว่าเลขาเขามีหน้าที่ตามมาบริการเจ้านายที่บ้านด้วย”
       “สามหาว” ปลาใหญ่ตวาดลั่น น้ำเพชรและครรชิตซึ่งกำลังมองสมทรงตกใจ เปลี่ยนสายตามามองปลาใหญ่แทน “ขอโทษคุณน้ำเพชรเดี๋ยวนี้”
       “คุณปลาใหญ่”
       “ถ้าไม่ขอโทษ กู... เอ๊ย ฉันจะเฉดหัวแกออกไปจากบ้านนี้ทันที” สมทรงเม้มปาก พยายามสะกดกลั้นความโกรธและอับอาย ขณะที่ครรชิตสบตาน้ำเพชรงงๆ “ยัง...ยังอีก”
       “ขอโทษค่ะ”
       “ก็เท่านี้แหละ”
       สมทรงเดินแกมวิ่งออกไป ครรชิตมองตามด้วยสีหน้าหนักใจ สมศรีรีบมานำทางแทน
       “ทางนี้ค่ะ”
     
       ทุกคนตามไป  
ขอขอบคุณจาก manager.co.th   

อ่านละครปิ่นอนงค์ ตอน 13 วันที่ 6 ก.ค. 55

อ่านละคร ปิ่นอนงค์ ตอนที่ 12 วันที่ 4 ก.ค. 55

อ่านละครแสบสลับขั้ว ตอนที่ 3 วันที่ 6 ก.ค. 55

อ่านละคร ชิงนาง ตอนที่ 1 เต็มอิ่ม จุใจ เร็วๆ นี้

อ่านละครภูผาแพรไหม ตอน 12 วันที่ 4 ก.ค. 55

อ่านละครภูผาแพรไหม ตอน 11 วันที่ 4 ก.ค. 55

อ่านละครเกิดเป็นหงส์ ตอนที่ 16 (ต่อ) วันที่ 5 ก.ค. 55

อ่านละครเรื่องมารยาริษยา ตอน 10 วันที่ 5 ก.ค. 55

อ่านละคร ธรณีนี่นี้ใครครอง ตอนที่ 7 วันที่ 5 ก.ค. 55

อ่านละคร ธรณีนี่นี้ใครครอง 2012 ตอนที่ 6 วันที่ 4 ก.ค. 55

 อ่านละครเรื่อง มารยาริษยา ตอน 9 วันที่ 3 ก.ค. 55

อ่านละครเล่ห์ร้อยรัก ตอนที่ 5 วันที่ 4 ก.ค. 55

อ่านละคร ปิ่นอนงค์ ตอนที่ 12 วันที่ 4 ก.ค. 55

อ่านละครเรื่อง ราชินีลูกทุ่ง ตอนที่ 1 (ต่อ) วันที่ 2 ก.ค. 55

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น